LOGINสายตาคมราวเหยี่ยวจับจ้องไปยังร่างเล็กที่จำต้องกลับไปกับผู้ชายคนนั้นและผู้หญิงที่ออกมาหาเธอ
เขาเห็นร่างเล็กยืนลับๆ ล่อๆ กระวนกระวายในมุมมืดข้างตัวตึกฝั่งตรงข้ามอยู่เป็นนานขณะที่ซุ่มอยู่อีกด้านหนึ่งของฝั่งถนนในสวน เจ้าของร่างสูงใหญ่ในชุดดำสนิททั้งตัวแอบแฝงในมุมมืดของต้นไม้ใหญ่และสุมทุมพุ่มไม้ทำให้ไม่ค่อยมีใครสังเกตนัก และเขาก็เห็นความเป็นไปของหญิงสาวตลอด กระทั่งเธอกับผู้หญิงอีกคนข้ามมาฝั่งนี้
ในคราแรกเขาไม่ได้ใส่ใจสองสาวนักเมื่อได้รู้ว่าผู้หญิงคนนั้นมารอเพื่อนของเธอ ทว่าผู้ชายร่างสันทัดออกมาจากโรงแรมแล้วมองตามสองสาว ซึ่งก่อนหน้านี้เขาตามชายคนนี้มาจากคลับหรูจึงอยู่สังเกตการณ์ต่อเพราะอีกฝ่ายเป็นคนของเอเยนซี่จัดหาคนจากแถบเอเชีย เมื่ออีกฝ่ายตรงมายังสวนสาธารณะ เขาจึงเคลื่อนตัวมาทางด้านนี้เช่นกันหากก็เพียงจับตาดูห่างๆ ไม่ได้คิดเข้าใกล้เพราะจุดที่สองสาวนั่งมีแสงไฟอยู่
ทว่าเมื่อเห็นคนตัวเล็กพยายามหนีมาทางเขา ชายหนุ่มยังไม่ทันคิดอะไรเขาก็ยื่นมือไปจับมือเธอดึงมาหาตัวเองเสียแล้ว
แม้ไม่ได้คิดช่วยเธอตั้งแต่แรก ทว่ามาคิดดูแล้ว หากเธอคนนั้นต้องการหนีจากคนพวกนั้นจริง เธออาจมีประโยชน์กับเขา
นาเดียนอนไม่หลับเลยแม้แต่น้อย เธอพักห้องเดียวกันกับซูจินเพื่อนสนิท อีกฝ่ายเล่าให้ฟังว่า ช่วงที่เธอแอบหนีไป ผู้จัดการแจ้งกับผู้ใหญ่ไปว่าเธอป่วยอาจเข้าร่วมงานแฟนมีตไม่ได้ แต่งานของพวกเธอไม่ได้มีแค่แฟนมีต การที่นาเดียหาจังหวะหนีออกไปข้างนอกก็เพราะพวกเธอถูกจัดการพาไปเอนเตอร์เทนแขกระดับวีไอพีที่รู้จักกับซีอีโอของบริษัท นั่นทำให้นาเดียรับไม่ได้อย่างที่สุด
คืนนั้นเธอปิดเครื่องไม่ยอมให้ใครติดต่อได้ หากก็ยอมเปิดเครื่องและรับสายซูจินในเย็นวันต่อมาเพราะเป็นห่วงอีกฝ่ายไม่น้อย พอถามเพื่อนเธอก็บอกว่าไม่มีอะไรแค่ต้องพยายามดื่มและเอาใจพวกเขา มีโดนลวนลามบ้างแต่ซูจินก็ยอมกัดฟันทน แต่หากเป็นเธอไม่มีวันทนได้แน่นอน
‘หนีกันเถอะนะซูจิน อย่าอยู่เป็นเครื่องมือของพวกเขาอีกเลย วันนี้รอดวันต่อไปจะรอดไหมก็ไม่รู้’
ซูจินพยายามบอกให้เธอใจเย็น ในขณะที่นาเดียก็ไม่อยากหนีโดยทิ้งเพื่อนสนิทเอาไว้ข้างหลัง
“น่าขำนะ พวกเขาตั้งชื่อวงเราว่าสโนว์ แองเจิล แต่ที่นี่มันนรกดีๆ นี่เอง”
นาเดียพึมพำ รู้ว่าซูจินเองก็ยังไม่หลับ
“พวกเขาหากินกับความฝันของเด็กผู้หญิง ชั่วช้าที่สุด”
เธอกัดฟันเข่นเขี้ยว
หลังถูกบังคับให้กลับมาที่โรงแรมเธอก็ถูกสั่งให้อยู่ในห้องห้ามออกไปไหน แต่ไม่ถูกทำร้ายตบตีแต่อย่างใด
‘อย่าพยายามหนีอีก ถ้าเธอไม่อยากให้เพื่อนๆ ในวงเดือดร้อน’
ผู้จัดการของพวกเธอขู่ แน่นอนว่าเขาไม่กล้าทำลงไม้ลงมือ นาเดียรู้เหมือนกับที่เพื่อนในวงเองก็รู้ ในเมื่อจะมีมีตติ้งพบปะแฟนคลับในวันพรุ่งนี้ พวกเขาย่อมไม่ทำอะไรให้ร่างกายของเธอมีร่องรอยเป็นที่น่าสงสัย ใบหน้าแขนขาของพวกเธอต้องสวยนวลเนียนเสมอ หากล้มหรือฟกช้ำก็ต้องเมกอัปปกปิดเอาไว้ ยังดีที่ตอนหนีออกจากพุ่มไม้เธอใส่เสื้อแขนยาวและกางเกงขายาวจึงไม่มีรอยแผล
ที่สำคัญในเมื่อตั้งใจพาพวกเธอมาดูแลแขกวีไอพี มีหรือจะกล้าทำให้เนื้อตัวพวกเธอระคายเคือง
“เราหนีไปหลังงานมีตดีไหมซูจิน”
เธอกระซิบกับเพื่อนอีกครั้ง
“เธอก็รู้ว่ามันยาก ต่อไปนี้ผู้จัดการคงสั่งให้สตาฟคนอื่นรวมทั้งพี่ๆ โคดี้ [1] จับตาดูเราตลอด”
ซูจินยังดูไม่เห็นด้วยกับการพยายามหนีของเธอ นาเดียไม่เข้าใจเพื่อนของตนเลยแม้แต่น้อย
“เธอไม่กลัวเหรอซูจิน”
หญิงสาวไม่ได้พูดออกไปว่า ‘กลัว’ อะไร เพราะมันเป็นเรื่องที่ไม่อยากคิดถึง
“กลัวสิ แต่จะทำอะไรได้ เราหนี ไม่ทำงาน ก็ผิดสัญญา แถมตอนนี้ก็อยู่เมืองนอก ไม่ใช่เกาหลี ไม่มีสื่อ ไม่มีใครพร้อมยื่นมือช่วยเป็นกระบอกเสียงให้เรา ต่อให้ไปหาตำรวจของที่นี่พวกเขาอาจจะไม่เชื่อเราด้วยซ้ำ”
ซูจินเอ่ยเสียงเครียด
พวกเธอนอนนิ่งอยู่ในความมืดมิด คุยกันด้วยเสียงที่เบาที่สุดเท่าที่จะเบาได้
“เรามีกันอยู่ห้าคน ฉันว่ารอปรึกษากันหลังกลับไปเกาหลี จะได้ช่วยกันหาทางออกไม่ดีกว่าเหรอ อยู่ที่นี่ถ้าจับกลุ่มคุยกันมันจะผิดสังเกต”
อีกฝ่ายพยายามบอกให้เธอรอเวลา แต่ในความรู้สึกของนาเดียกลับไม่อยากรออีกต่อไปแล้ว
“หลังงานมีตก็อีกตั้งเป็นอาทิตย์กว่าเราจะกลับ ตอนนั้นพวกเขาจะพาเราไปรับรองใครอีกหรือเปล่าก็ไม่รู้ ฉันไม่อยากรอ”
นอกจากมาจัดงานมีตติ้งที่จัดเป็นคอนเสิร์ตย่อมๆ พร้อมกับพูดคุยเล่นเกม แจกลายเซ็นให้แฟนคลับแล้ว พวกเธอยังมาถ่ายมิวสิกวิดีโอสำหรับอัลบัมใหม่ที่แพลนจะปล่อยในช่วงปลายเดือนหน้าด้วย
“แต่ตอนนี้เธอก็กลับมาแล้ว คิดจะหนีอีกคงไม่ง่ายอีกแล้วล่ะ”
เสียงเพื่อนสาวดังมาในความมืด คนฟังกำมือแน่น บอกตัวเองว่าเธอจะไม่ยอมเป็นสินค้าอย่างเด็ดขาด
[1] โคดี้ มาจาก Coodinator เป็นคำเรียกผู้ประสานงานดูแลภาพลักษณ์ของศิลปิน รวมทั้งจัดการเรื่องเสื้อผ้า หน้า ผม
=====
“ฉันเป็นส่วนเกินค่ะ”คำพูดของหญิงสาวทำเอาเขาถอนหายใจยาว“คุณมีคุณค่านาเดีย”“แต่จะดีกว่า ถ้าไม่กลับไป”เสียงหวานไม่ได้เครือทว่าก็เบาอย่างเหลือเกินจนเขาต้องกระชับร่างเล็กเข้าหาตัวเองมากขึ้น“แม่ต้องพยายามประคับประคองครอบครัวของแม่ ต้องทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ฉันรู้ว่าแม่อาจจะสงสัยพ่อเลี้ยง แต่ก็ต้องทำเหมือนไม่ระแคะระคายอะไร แม่คงเหนื่อยมาก ต้องเก็บทุกอย่างเอาไว้คนเดียว เพราะแม่ใช้ชีวิตคู่กับเขาแล้ว มีลูกด้วย ฉันรู้ว่าแม่อยากมีครอบครัวที่สมบูรณ์พร้อม และฉันเป็นรอยด่างในชีวิตของแม่”“ลูกสาวทุกคนคือนางฟ้าตัวน้อยของแม่”คลินตันไม่อยากให้หญิงสาวลดทอนคุณค่าในตัวเองลง“ก็จริงนะคะ แต่ฉันไม่คิดว่าตัวเองเป็นนางฟ้าของแม่หรอก แต่ถึงอย่างนั้น ฉันก็รู้ว่าแม่รักฉัน เพราะตอนที่มีกันแค่สองคนท่านพยายามเลี้ยงดูฉันอย่างดี ฉันชอบเรียนเต้นท่านก็ยังให้เรียน ทั้งที่ค่าเรียนไม่ธรรมดาเลย แม่ทำเพื่อฉันมามากค่ะ”“คุณก็เลยทำเพื่อท่านด้วยการจากมา”นาเดียพยักหน้าเบาๆ“ผมอยากให้คุณมีความสุขในทุกๆ อย่าง รวมทั้งเรื่องแม่”ชายหนุ่มบอกสิ่งที่เขาคิด แต่เขาจะไม่บังคับให้เธอทำ ทุกอย่างต้องเป็นการตัดสินใจของนาเดียเอง“ฉันม
เสียงเพลงบรรเลงขึ้น ทุกคนภายในงานยืนขึ้น ขณะที่ร่างเล็กในชุดสีขาวยาวก้าวเดินตามทางที่เด็กตัวเล็กสองคนโปรยดอกไม้ มือคล้องแขนชายมีอายุใบหน้าบ่งบอกว่าเป็นชาวเอเชีย ดวงหน้างดงามมีผ้าลูกไม้สีขาวปิดบัง ปลายทางมีร่างสูงใหญ่ของชายหนุ่มในชุดสูทดูดีรออยู่พร้อมกับบาทหลวงเมื่อหญิงสาวก้าวไปถึงชายหนุ่มก็เป็นคนมารับเธอแทน ใบหน้าคมเข้มไร้หนวดเคราดูหล่อเหลาสะดุดตา ยิ่งเมื่อแย้มยิ้มบางก็ยิ่งน่ามองดวงหน้าสวยน่ารักภายใต้ผ้าลูกไม้ถูกเปิดโดยชายหนุ่ม ทั้งคู่กล่าวคำสาบานและสวมแหวน จุมพิตบางเบา บรรดาแขกลุกขึ้นปรบมือแสดงความยินดีแม้จะมีญาติใกล้ชิดและเพื่อนสนิทไม่กี่คนหากบรรยากาศก็อบอุ่น นาเดียกวาดมองทุกคนที่เธอรู้จักพร้อมกับน้ำตาไหลอาบแก้ม แม้ตรงนี้จะไม่มีแม่ของเธอ แต่ทุกคนที่นี่ก็รักและจริงใจกับเธอ ซูจินกับพี่ๆ ในวงอลิซเซียและครอบครัวของคลินตัน รวมถึงแอรอน ไมลี่ แม้แต่เจมมี่ด้วยเพราะอีกฝ่ายหมั้นกับไมลี่แล้ว จึงถือเป็นคนสนิทของคลินตันเช่นกัน แม้ทั้งคู่จะยังดูไม่ค่อยลงรอยกันนักก็ตามนาเดียไม่เคยคิดว่าเธอจะมีงานแต่ง สำหรับเธอแค่ได้ใช้ชีวิตกับคลินตันก็เพียงพอแล้ว ทว่านาตาชามารดาของชายหนุ่มจัดการให้ และผู้ที
“รู้ว่าคุณไม่ไหวแล้ว”คลินตันบอกพร้อมลูบผมชื้นเหงื่อ เท่านี้ก็ดีที่สุดแล้ว เซ็กส์ระหว่างเธอกับเขาให้ความรู้สึกเร้าใจทุกครั้ง ได้สัมผัสเท่าไรยิ่งต้องการกันและกันมากขึ้น สิ่งที่นาเดียทำกับเขานั้นไม่ใช่ความเก่งกาจเด็ดดวง ทว่าเป็นความกล้า กล้าที่จะทำตามความต้องการของตน นั่นทำให้เขาตื่นตัวตามไปด้วย“เซ็กส์ของเรามันสุดยอดทุกครั้งเพราะคุณ”นาเดียอดตาโตไม่ได้ ในขณะเดียวกันก็หน้าร้อนผ่าวยิ่งขึ้น เพราะอารมณ์ยังไม่คงที่ ทำไมอยู่ๆ เขามาพูดเรื่องนี้ล่ะ“ฉันเนี่ยนะ”“คุณกระตือรือร้น กล้าเรียนรู้ กล้าทำตามใจตัวเองทั้งที่ไม่รู้อะไรเลย เหมือนเดินไปข้างหน้าในความมืด แต่มันก็ชวนให้ตื่นเต้นเร้าใจ ท้าทายดี”“คุณนี่มันคนเถื่อนจริงๆ”คนฟังตีสีหน้าไม่ถูก ทั้งขัดเขินทั้งอับอายจึงต่อว่าชายหนุ่มแทน หากเขาก็เพียงยกยิ้มมุมปากก่อนจะจูบหน้าผากเธอ“คนเถื่อนก็เหมาะกับเด็กใจแตก จริงไหม”“จริงค่ะ”นาเดียไม่ปฏิเสธในข้อนี้ เธอรู้ดีว่าสำหรับเธอแล้ว มีเพียงคลินตันเท่านั้นที่เธออยากมีเซ็กส์ด้วย“คุณมาที่นี่เพื่อรับฉันไปอยู่ด้วย หรือว่าจะมาอยู่กับฉัน”เมื่ออาการวาบหวิวคลายลง หญิงสาวก็ถามในสิ่งที่เธออยากรู้หลังจากคุยกับซูจินแ
ไม่มีเวลาพักหายใจด้วยซ้ำชายหนุ่มก็พาให้เธอนอนหงาย ปลดสายเสื้อชั้นในออกจากแขน ก่อนจะฝังใบหน้าคมเข้มลงแนบบนทรวงขาวสล้าง คลอเคลียฟอนเฟ้นด้วยปากได้รูป พอใจกับความชูชันล่อตาจากปลายยอดสีหวานจนต้องครอบครองเข้ามาภายในปากอุ่นแผ่นหลังบางแอ่นขึ้นตามการดูดดื่มจากปากชายหนุ่ม คลินตันดื่มกินหนักหน่วง แถมความกร้าวร้อนยังเบียดไล้กลางร่างเธอจนหญิงสาวต้องขยับตามเขา ต่างฝ่ายต่างบดเบียดทำให้ความเร่าร้อนทะยานสูงขึ้น คลินตันจับขาเรียวสองข้างเกาะสะโพกตนเอง แล้วขยับขึ้นจับเอวเล็กไว้ด้วยสองมือ เลื่อนไล้ตนเองอย่างพึงพอใจกับสัมผัสหวามเสียงทุ้มในลำคอหนาบ่งบอกอารมณ์ของชายหนุ่มได้เป็นอย่างดี นาเดียมองร่างสูงใหญ่ด้วยตาปรือปรอยหากก็ปลื้มใจที่เขากำลังแสดงออกถึงความถูกใจ ทว่าครู่หนึ่งชายหนุ่มก็หยุดขบกรามแน่น ตาคมกล้ามองเธอก่อนจะโน้มตัวลงมากอดรัดแน่น“ที่รัก ช่วยผม”เขาบอกก่อนจะย้ายตัวเองไปนอนด้านล่างแล้วจับเอวเธอให้ขยับบนตัวเขาแทน ทำให้เรือนร่างงามไล้บนตัวเขาตามไปด้วย ดวงหน้าเล็กเหนือดวงหน้าเขาซุกลงแนบข้างแก้มที่เต็มไปด้วยไรเครา อกอวบขาวบดเบียดเกยบนอกเขาจนแทบขยับมาอยู่บนหน้า หากคลินตันมองด้วยสายตาล้ำลึกวาบหวิว กระทั
“ขอไว้เรื่องหนึ่งแล้วกัน”“นี่คุณกำลังขอฉันแต่งงานใช่ไหม”นาเดียสนใจประโยคแรกที่ชายหนุ่มพูดมากกว่า ตาคู่กลมโตวาวระยับจนคนเห็นอดยิ้มออกมาไม่ได้“แล้วคุณพร้อมหรือยังสาวน้อย”แขนเรียวเล็กสอดขึ้นมากอดคอเขา ก่อนที่หญิงสาวจะขยับดวงหน้าเล็กขึ้นมาหาแล้วแนบปากอิ่มเล็กกับปากเขา“จุ๊บ”เธอจูบเขาเร็วๆ แล้วผละออกมายิ้มกว้าง“แต่งหรือไม่แต่ง ฉันก็พร้อมจะอยู่กับคุณค่ะ”“เด็กใจแตก”คลินตันหรี่ตาลงพร้อมตำหนิ หากก็มองอีกฝ่ายด้วยสายตาพึงพอใจ จากนั้นก็จูบหน้าผากเล็กหนักๆ แล้วเปลี่ยนมายังปลายจมูกเล็ก แก้มนวลเนียนมีสีเลือดฝาด ก่อนจะประทับแนบแน่นลงบนปากน่ารักสีชมพูระเรื่อ เคล้าคลึงแผ่วผิวแล้วค่อยเพิ่มแรงบดเบียดลงไป หญิงสาวเริ่มขยับตอบกลับเขา ชายหนุ่มจึงเม้มกลีบปากอิ่มดึงเบาๆ อย่างยั่วเย้านาเดียเผยอปากส่งลิ้นไปแตะไล้อีกฝ่ายก่อน ชายหนุ่มก็สอดรับทันที ทั้งคู่ต่างแลกเปลี่ยนลมหายใจกันและกันอย่างเร่าร้อนตามแรงคิดถึง เมื่อเขาผละออกร่างเล็กก็ถึงกับหอบรัวแรง ขณะที่อีกฝ่ายจูบแก้มนุ่มซุกไซ้ลงหาคอขาวผ่อง รู้สึกถึงความอุ่นชื้นไล้เลียบนคอตนเองแล้วก็ต้องปล่อยเสียงครวญบางเบาเพราะอาการซ่านสยิวเล่นงาน“คลินตัน ฉันคิดถึงคุ
“ฉันต้องโทรหาซูจินก่อน”นาเดียพูดขึ้นหลังจากทั้งคู่กินอาหารเย็นที่เธอซื้อมาพร้อมกับสั่งรูมเซอร์วิสมาเพิ่ม“เธอรู้อยู่แล้วล่ะ”“ว่าไงนะ”คลินตันยื่นชาแก้วใหม่มาตรงหน้าให้เธอจิบอีกครั้ง“คุณคิดว่าผมมาหาคุณถูกได้ยังไงล่ะ”“ซูจิน? เป็นไปได้ยังไง คุณไม่รู้จักเธอนี่”หญิงสาวถามอย่างแปลกใจ“คุณเป็นคนกดติดตามแอ็กเคานต์ของผมกับคุณไม่ใช่เหรอ”ชายหนุ่มพูดพร้อมยิ้มมุมปาก แต่ทำเอานาเดียหน้างอปากยื่น“นี่หมายความว่าคุณเข้ามาส่องไอจีฉันแต่ไม่เคยคอมเมนต์ กดถูกใจหรือส่งข้อความหาฉันเลยเนี่ยนะ”“อย่าเพิ่งงอนน่า”เขายื่นมือมาโยกหัวเธอเบาๆ“ผมเพิ่งเข้ามาดูหลังจากคิดได้ว่าควรตามคุณมานี่เอง แล้วก็เห็นคุณแท็กเธอบ่อยๆ ดูชื่อก็เลยรู้ว่าเป็นเพื่อนสนิทคุณ”เขาตั้งใจไม่บอกเรื่องที่ตัวเองเจ็บหนักกับนาเดีย“คุณก็เลยแอบติดต่อเธอ”ชายหนุ่มพยักหน้ารับเบาๆ ทว่านาเดียขมวดคิ้ว“ซูจินเชื่อคุณได้ยังไงเนี่ย”เพื่อนสาวของเธอน่าจะระวังการคุยกับคนอื่นผ่านโซเชียล“ก็ต้องตอบคำถามเยอะอยู่เหมือนกันกว่าเธอจะเชื่อว่าผมเป็นคนที่ดูแลคุณช่วงที่คุณต้องพักฟื้นที่ลอนดอน”เขาบอกพร้อมกับปล่อยมือจากอีกฝ่ายแล้วยักไหล่“ดื่มชาให้หมด ร่างกายจะไ







