LOGINเมื่อก้าวเข้ามาอยู่ในกรงเสือ ทางรอดมีเพียง ‘ขย้ำเสือ’ ก่อนที่จะถูก ‘เสือขย้ำ’!!
View More“เธอจะไปไหนนาเดีย”
ร่างเล็กที่เพิ่งก้าวออกจากห้องถูกขวางหน้าเอาไว้ทันที สีหน้าท่าทางและน้ำเสียงคนถามดุดันอย่างเห็นได้ชัด ขณะที่หญิงสาวพยายามวางสีหน้านิ่งเฉยขณะมองตอบ
“ไปห้องน้ำค่ะ”
“แค่ไปห้องน้ำจริงๆ ใช่ไหม”
ชายหนุ่มร่างสันทัดซึ่งทำหน้าที่เป็นผู้จัดการวงให้กับเธอถามย้ำอย่างสงสัย
“ใช่สิคะ”
เธอตอบไปโดยไม่มีแววหวาดหวั่นหรือวอกแวก โดยที่ผู้จัดการมองด้วยสายตาจับผิดครู่หนึ่งก่อนจะยอมพยักหน้าปล่อยให้เธอไป
สาวร่างเล็กหันหลังให้ก่อนจะก้าวอย่างมั่นคงไปบริเวณห้องน้ำ เมื่อเข้าไปในห้องที่เป็นพื้นที่ส่วนตัวก็หลับตาลงถอนหายใจยาวอย่างโล่งอก แล้วรีบเอามือถือมากดพิมพ์ในสิ่งที่เธอเห็นในทันที
‘ชั้น 2 โซน VIP มีการ์ด 2 คน’
ระหว่างพิมพ์มือบางสั่นนิดๆ เมื่อครบก็กดส่งข้อความไปยังปลายทาง
‘Standby’
ฝ่ายตรงข้ามตอบกลับมาทำเอาหัวใจเธอเต้นแรงขึ้น หวังว่าทุกอย่างจะเป็นความจริงและเธอตัดสินใจได้ถูกต้อง
นาเดียใช้เวลาทำธุระส่วนตัวไม่นานจากนั้นก็ออกมาด้านนอก เธอยื่นส่วนบนของมือถือออกไปส่องทางเดินดูจากกล้องเพื่อเช็กว่ามีผู้จัดการหรือใครอยู่ใกล้ๆ แถวนี้หรือไม่ เมื่อไม่เห็นใครก็ค่อยย่องไปทางด้านหลังที่เธอเคยใช้หนีซึ่งเป็นทางออกฉุกเฉิน
หญิงสาวมองซ้ายขวาหน้าหลังตลอดทาง รู้สึกร้อนจนเหงื่อท่วมตัว กระทั่งถึงประตูแล้วตั้งใจจะเปิด ทว่ามันกลับล็อก ไม่สามารถเปิดได้เลยเหมือนครั้งนั้น
นาเดียใจหาย อาจเป็นเพราะเธอเคยหนีไปโดยใช้ทางนี้ พวกเขาจึงระมัดระวังและล็อกเอาไว้เพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาดซ้ำอีก
“ทำยังไงดีล่ะ”
เธอพึมพำกับตัวเอง
เวลานี้คนด้านนอกคงสแตนด์บายรอที่จะเข้ามาแล้ว หากฝ่ายนั้นไม่ได้หลอกเธอ หญิงสาวเริ่มตระหนกเมื่อไม่สามารถทำอย่างที่ตกลงกับผู้ชายคนนั้นเอาไว้ได้
เธอหันไปมองด้านหลังเพราะรู้สึกเหมือนได้ยินเสียงคนแว่วมาทางนี้ มือบางกำแน่นยกขึ้นแล้วกลั้นใจเคาะประตูเบาๆ
“มีคนอยู่ข้างนอกไหม”
ไม่รู้ว่ากระซิบไปแล้วคนด้านนอกจะได้ยินหรือไม่ แต่ก็จำต้องทำอะไรสักอย่างก่อนที่จะมีคนมาเห็นเธอ
นาเดียพยายามมองหาทางหนีทีไล่ให้ตัวเอง หากด้านนอกไม่มีปฏิกิริยาใดๆ เธอก็จำต้องหลบไปจากตรงนี้
ก๊อกๆๆ
เสียงเคาะกลับทำให้นาเดียชะงักไป ก่อนจะรีบจับที่จับขยับขึ้นลงให้รู้ว่าเธอไม่สามารถเปิดมันได้ หญิงสาวทำแบบนั้นครู่หนึ่งแล้วโทรศัพท์ในมือก็สั่น ทำให้นึกขึ้นได้ว่าเธอสามารถพิมพ์บอกผู้ชายคนนั้นได้ เมื่อก้มลงดูก็เห็นข้อความของอีกฝ่าย
‘มีปัญหาอะไร’
‘ประตูล็อก’
เธอรีบพิมพ์ตอบกลับไป เสียงเดินเริ่มใกล้เข้ามาแล้วนาเดียยิ่งร้อนใจ เหงื่อเต็มมือไปหมด
‘โอเค คุณถอยออกไปหาที่ซ่อนซะ สายของผมอยู่ในนั้นแล้วเหมือนกัน เดี๋ยวเราจัดการต่อเอง’
ห้องน้ำแวบเข้ามาในหัวทันใด นาเดียเคาะกลับเป็นสัญญาณอีกครั้งแล้วพิมพ์ตอบกลับ
‘งั้นฉันไปซ่อนก่อนนะ’
จากนั้นร่างเล็กก็ผลุนผลันกลับไปยังทางเดินอีกครั้ง แต่ก็ไม่ลืมดูว่ามีใครอยู่ระหว่างทางเชื่อมที่จะเดินกลับไปยังห้องน้ำหรือไม่ หลังจากมั่นใจว่าไม่มีใครนาเดียก็รีบตรงไปทางห้องน้ำ แต่แล้วก็ต้องสะดุ้งเมื่อเห็นผู้ชายคนหนึ่งก้าวออกมาจากห้องน้ำชาย หญิงสาวชะงักกึก อีกฝ่ายมองหน้าเธอนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง เธอจึงยิ้มบางให้เพื่อไม่ให้เสียมารยาทเพราะคาดว่าเขาน่าจะเป็นแขกของที่นี่ ก่อนจะก้าวหลบเขาทว่าชายหนุ่มเอ่ยขึ้น
“คุณเดินมาจากข้างหลังเหรอครับ”
เขาถามขณะที่นาเดียกำโทรศัพท์ในมือแน่น ไม่เข้าใจว่าเขามายุ่งกับเธอทำไม แต่ก็พยายามใช้น้ำเสียงให้ดูไม่รำคาญ
“ฉัน...มึนหัว เลยออกไปสูดอากาศข้างนอกมาน่ะค่ะ”
เมื่อตอบไปแล้วก็ขยับตัวเลี่ยงร่างสูงกำยำของอีกฝ่ายเพื่อจะไปยังห้องน้ำหญิง แต่กลับถูกคว้าแขนเอาไว้ นาเดียสะบัดออกอย่างแรงด้วยตกใจ
“จะทำอะไร”
“คุณไปที่ประตูฉุกเฉินมา?”
“ฉันจะไปไหนมันก็ไม่เกี่ยวกับคุณนี่”
พอจะเดินต่ออีกฝ่ายก็ขยับมาขวาง
“ผมมาช่วยคุณ”
ผู้ชายตรงหน้าบอกเสียงเบา
นาเดียหันมองเขาด้วยความตกใจระคนคาดไม่ถึง กวาดตามองอีกฝ่ายอย่างพิจารณามากขึ้น เขาเป็นชาวเอเชียแน่นอนแต่ไม่ใช่คนเกาหลี นั่นทำให้เธออดระแวงไม่ได้ ในเมื่อผู้ชายที่คุยกับเธอไม่ใช่คนเอเชีย พวกของเขาที่เขาบอกว่าจะเข้ามาจะเป็นคนเอเชียได้อย่างไร?
=====
เช้าวันต่อมานาเดียอ่านข้อความตอบกลับจากซูจิน แล้วก็พิมพ์ตอบอีกครู่ใหญ่ก่อนจะเข้าไปอาบน้ำซูจินบอกว่าสำนักข่าวให้ความสนใจในการตีแผ่ข่าวบริษัทของพวกเธอ และช่วยเหลือในการหาสำนักกฎหมายให้ด้วย บรรดาแฟนคลับต่างก็รวมตัวกันแท็กข้อความให้กำลังใจพวกเธอและบอกว่าจะอยู่เคียงข้างเสมอ ในขณะเดียวกันพวกเขาก็ได้รับรู้ว่าเธอบาดเจ็บจากการพยายามช่วยเพื่อนร่วมวง จึงยังไม่สามารถเดินทางกลับเกาหลีได้ในตอนนี้ และต่างก็แท็กขอให้เธอหายเร็วๆ ด้วยเช่นกัน แม้ยังมีแฟนคลับไม่มากนักแต่สิ่งที่เห็นก็ทำให้รู้สึกดีและอุ่นใจไม่น้อยจนถึงกับน้ำตาซึมหลังจากนาเดียเข้าไปอ่านแท็กนั้นมีค่ายติดต่อเข้ามาสองสามค่ายเกี่ยวกับการเซ็นสัญญาแต่ซูจินกับพี่ๆ ในวงอยากคุยกันในตอนที่เธออยู่ด้วย จึงขอเวลาจัดการเรื่องการฟ้องร้องให้เรียบร้อยเสียก่อนสาวร่างเล็กลงไปข้างล่างก็พบกับคนที่เพิ่งวิ่งออกกำลังกายจนเหงื่อท่วมกำลังจะกลับเข้าห้องของเขา“วันนี้เราจะไปที่ทำงานของผม”ชายหนุ่มบอกทันทีที่เห็นเธอ แต่แม้นาเดียจะทำหน้าแปลกใจเขาก็ไม่ได้อธิบายอะไรนอกจากเอ่ยสั่ง“กินอาหารเช้าให้เรียบร้อยเสีย”พูดจบเจ้าของร่างสูงใหญ่ที่อยู่ในชุดเสื้อยืดแขนตัดสีดำเปียกจ
คลินตันกลับมาอีกครั้งในลุคที่นาเดียต้องนึกอ่อนใจกับตัวเอง เพียงแค่ชายหนุ่มใส่เสื้อยืดสีขาวกับกางเกงวอร์มตัวเดิมเธอก็คิดว่าอีกฝ่ายดูเซ็กซี่อย่างไม่น่าให้อภัยแล้ว หญิงสาวเหลือบมองร่างสูงใหญ่เพียงนิดแล้วปอกมันฝรั่งในมือต่อ ไม่ต้องการให้ชายหนุ่มรู้สึกได้ว่าจิตใจเธอไม่ได้อยู่กับเนื้อกับตัวเลยแม้แต่น้อยคงเพราะได้เห็นกล้ามแน่นๆ ของอีกฝ่าย โดยไม่เคยได้เห็นของจริงเต็มๆ มาก่อนนั่นแหละ เธอจึงสติฟุ้งซ่านแบบนี้ไม่แฟร์เลยสักนิด ทั้งที่เขาไม่ให้เธอใส่เสื้อกล้ามกับกางเกงขาสั้นออกนอกห้อง แต่ตัวเองกลับถอดเสื้อเดินไปเดินมาเสียอย่างนั้นหญิงสาวคิดขณะมองชายหนุ่มล้างชิ้นปลาที่แพ็คมา และราวกับรู้ว่าเธอมองคลินตันเองก็หันมาทางเธอเช่นกัน เขาเหลือบมองมันฝรั่งก่อนจะพูดขึ้น“หั่นเสร็จแล้วก็เตรียมจานเตรียมซอส ผมทอดเอง”“มีซอสเหรอคะ”“ใช่ ผมซื้อสำเร็จรูปมาแล้ว อยู่ในตู้เย็นนั่นแหละ”เธอพยักหน้าเข้าใจ“งั้นฉันทำสลัดเพิ่มด้วยดีกว่า”“เยี่ยม”คลินตันยกนิ้วให้นาเดียจึงยิ้มตอบกลับอย่างเป็นธรรมชาตินาเดียหั่นมันฝรั่งในขนาดที่คิดว่าพอดี แล้วก็เอาผักในตู้เย็นที่พอทำสลัดได้มาล้างหั่นเสร็จก็โรยเกลือ พริกไทย และน้ำมันมะกอก
มาถึงบ้านคลินตันก็หันกลับมาถอดหมวกกันน็อกให้เธอทันทีที่ร่างเล็กก้าวลงจากสองล้อคันโตโดยที่หญิงสาวยังไม่ทันจะจับหมวกด้วยซ้ำ จากนั้นก็ล้วงบางอย่างส่งให้เธอ“คุณเข้าไปก่อน รีบทำตัวให้แห้งแล้วก็อุ่นขึ้นซะ”นาเดียมองสิ่งที่อยู่ในมือตัวเองอย่างอึ้งๆ เพราะมันคือกระเป๋าสตางค์ที่มีคีย์การ์ดเกี่ยวเอาไว้ ขณะที่เขาสั่งซ้ำเสียงเข้ม“รีบไปได้แล้ว”คนถูกดุกะพริบตาถี่ๆ มองคนที่เพิ่งถอดหมวกของตน เสยผมลวกๆ พร้อมหัวใจดวงน้อยกระตุก ในหัวเธอบอกว่าท่าทางของคนตรงหน้าเมื่อครู่ดูเท่ทำเอาใจละลายแทบไหลไปกองกับพื้นเลยทีเดียว“นาเดีย”ชายหนุ่มเรียกเธอซ้ำเสียงเข้มขึ้นอีกทำให้หญิงสาวรู้ตัวแล้วก็ยิ้มแหย รีบพยักหน้ารับแล้วไปที่ด้านหน้าประตูบ้านทันที ไม่อยากให้เขาจับได้ว่าเธอกำลังมีอาการแปลกๆ เพราะการกระทำที่ดูแลใส่ใจของเขานาเดียจัดการกับตัวเองเรียบร้อยแล้วใส่เสื้อผ้าใหม่อย่างอบอุ่นก่อนจะกลับลงมาข้างล่างพร้อมกระเป๋าของชายหนุ่มกับเสื้อของเขา ในคราแรกเธออยากจะคืนกระเป๋าก่อนแต่ก็คิดว่าไม่ควรวางไว้ที่ใดที่หนึ่ง จึงเอาขึ้นห้องไปด้วยหญิงสาวไม่เห็นคลินตันที่ห้องรับแขกจึงคิดว่าเขาคงยังไม่ออกมาจากห้อง ก็เลยตั้งใจไปยังห้องครัว
นาเดียกับคลินตันอยู่ที่บ้านของธิติและอลิซจนบ่ายแก่จึงกลับเพราะรู้สึกว่าท้องฟ้าค่อนข้างครึ้ม และเมื่อรถมาถึงครึ่งทางฝนก็ตกลงมาหนาเม็ดและหนักขึ้นเรื่อยๆ จนสุดท้ายคลินตันก็จำเป็นต้องหาที่จอดหลบฝนชายหนุ่มให้เธอลงไปหลบฝนที่ด้านหน้าร้านกาแฟขนาดย่อมแห่งหนึ่งส่วนตนเองวนไปจอดรถ หญิงสาวพยายามยืนหลบในมุมที่ฝนมาถึงน้อยที่สุด ไม่นานร่างสูงใหญ่ก็ตามเข้ามา“คุณเข้าไปข้างในดีกว่าไหม ผมขอเขาให้”คลินตันเสนอ เพราะทั้งคู่เปียกโชกไปทั้งตัวจึงเกรงใจที่จะเข้าไปในร้าน“ไม่เป็นไร ฉันอยู่ข้างนอกได้”“มันหนาวนะ”ใบหน้าคมก้มลงมองเธอ แววตาของเขาดูจริงจัง จนนาเดียอดไม่ได้ที่จะยิ้มบางส่งให้พร้อมกับส่ายหน้าเล็กน้อยยืนยัน ชายหนุ่มดูไม่ถูกใจเท่าไรนัก ทว่าเขาไม่พูดอะไร เธอเองก็พยายามเลี่ยงมองสายฝนด้านนอกแทน แต่อากาศเย็นจัดจนเธอห้ามมือตัวเองไม่ได้ สุดท้ายก็ต้องยกขึ้นมากอดตัวเองชั่วอึดใจใหญ่ร่างเล็กของหญิงสาวก็รู้สึกถึงความอบอุ่นหนาหนักที่โอบล้อมตนเองนาเดียมองเสื้อหนังสีดำที่คลุมทับมาให้พร้อมมือหนา ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองคนใกล้ตัวและเห็นใบหน้าคมมองเธออยู่ก่อนแล้ว“แล้วคุณ?”ตาคู่กลมโตฉายแววกังวลขณะถามสั้นๆ เพราะตอนนี้ชา
“พี่ดีใจที่เธอมานาเดีย”อลิซก้าวมากอดเธอทันทีที่ประตูบ้านเปิดออกรับพวกเธอ นาเดียยังรู้สึกหวิวและยืนไม่ค่อยมั่นคงนักหลังจากลงจากมอเตอร์ไซค์ แต่ก็ยิ้มและกอดตอบสาวสวยรูปร่างสูงเพรียวที่เธอนับถือเหมือนพี่สาว“เข้ามากันเถอะ”สาวหุ่นนางแบบบอกหลังผละออกจากเธอแล้วโอบไหล่ให้เดินไปพร้อมกัน โดยมีร่างสูงใหญ่ของคลินตันตามเข้ามาในแบบที่เจ้าของบ้านไม่ค่อยสนใจนัก“มาสักที ฉันหิวจะแย่อยู่แล้ว”เสียงเข้มดังขึ้นจากฟากหนึ่งของตัวบ้าน นาเดียหันมองตามก็เห็นธิติพี่ชายของคลินตันยืนกอดอกพิงขอบประตูอยู่“เสียมารยาทจัง”อลิซบ่นสามี ทว่าเขากลับยักไหล่“ผมบ่นคลินต่างหาก”“แต่คุณก็ไม่ควรพูดต่อหน้านาเดียนะคะ เธอจะเข้าใจผิดได้”“โอเคครับ โอเค”ชายหนุ่มตอบรับอย่างไพเราะอลิซยิ้มหวานแล้วพาเธอไปยังห้องอาหารด้านในทันที ส่วนคลินตันก็ยังก้าวตามมาเงียบๆ เหมือนเดิม“กินเต็มที่เลยนะจ๊ะ พี่ช่วยแทนทำทุกอย่างเลย ตั้งใจต้อนรับเธอออกจากโรงพยาบาล”คนฟังขมวดคิ้วกับคำบอกของอีกฝ่าย และเหมือนคลินตันจะมองอยู่เขาจึงพูดขึ้น“ไม่ต้องแปลกใจหรอก ยายนี่ทำอะไรเป็นซะที่ไหน ต้องพึ่งแทนทั้งนั้นแหละถึงไม่อดอยาก”“หยาบคาย ถึงไม่เก่งฉันก็พอทำได้ย่ะ
“ฉันอยากไปหาพี่อลิซ”นาเดียเอ่ยขึ้นในเช้าวันใหม่ เธอลงมาด้านล่างค่อนข้างสายและชายหนุ่มเองก็ไม่ได้ขึ้นมาตาม หญิงสาวเห็นเขาวิ่งอยู่บนลู่วิ่งตรงห้องกระจกข้างระเบียง ทั้งคู่สบตากันเพียงเล็กน้อย เธอไม่อยากรบกวนเขา ทั้งยังรู้สึกไม่กล้าที่จะมองอีกฝ่ายนานนักเพราะสถานการณ์กระอักกระอ่วนใจเมื่อวานทำให้เดินเลี่ยงไปยังห้องครัวในนั้นมีจานใส่แซนด์วิช ใกล้ๆ มีกากาแฟอยู่ด้วย และเห็นโน้ตแปะบนโต๊ะอาหาร‘อาหารเช้าของคุณ มีนมกับน้ำส้มในตู้เย็น’หญิงสาวนึกทึ่งกับเรื่องอาหารของอีกฝ่ายไม่น้อยตั้งแต่เมื่อวานที่ผ่านมา หน้าโหดอย่างเขาไม่น่าเชื่อว่าจะทำอาหารได้รสชาติดีขนาดนั้นทว่านาเดียก็ไม่เสียเวลาคิดเรื่องชายหนุ่มนาน เพราะเธอค่อนข้างหิวจึงลงมือกินแซนด์วิชและเอานมมาใส่กับกาแฟที่ชงไว้เรียบร้อยแล้ว ดื่มทั้งกาแฟและน้ำส้มเพราะได้รสชาติหวานอมเปรี้ยวเพื่มความสดชื่นขณะเดียวกันก็คิดว่าเธอคงรู้สึกอึดอัดแน่ๆ หากต้องอยู่ร่วมบ้านกับคลินตันตามลำพัง ถ้าต้องอยู่แค่ในห้องเธอก็เบื่อเพราะอยู่โรงพยาบาลมานาน แล้วก็นึกถึงอลิซขึ้นมา เมื่อเสร็จมื้ออาหารเช้าของตน นาเดียจึงเอ่ยขึ้นขณะที่ออกจากห้องครัวมาแล้วพบเข้ากับร่างสูงใหญ่ที่มีเ






Comments