แชร์

6 จินเยว่

ผู้เขียน: พริมริน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-11-02 10:10:14

6 จินเยว่

“ท่านแม่”

“เข้ามา”

หลี่เหว่ยก้าวข้ามธรณีประตูตรงไปยังห้องทานข้าวเย็นของเรือน มองเห็นหญิงสาวคนเดิมตรงกลางโถงยืนด้านข้าง ก้มหน้านิ่ง ตวัดตาเหลือบเพียงครู่จึงค่อยส่งรอยยิ้มพร้อมทำความเคารพให้มารดา

“ลูกมาทำความเคารพช้า ขอท่านแม่โปรดให้อภัย”

ท่านแม่ทัพใหญ่โค้งคำนับงดงามมือประสานให้มารดาบังเกิดเกล้า

“ลูกเหว่ย”

ฮูหยินหลี่ปรี่ตรงเข้าหาลูกชายยิ้มทั้งน้ำตาประคองร่างลูกชายเพียงคนเดียวให้นั่งลง

“ไม่เป็นไร เจ้าเหน็ดเหนื่อยตรากตรำลำบากมาสองปี ย่อมต้องการพักผ่อน เป็นแม่เองที่ผิด รู้ทั้งรู้ว่าเจ้าจะมายังนัดคุณหนูสามจวนกั๋วกงจางมา”

“ท่านแม่ ข้าโทษตัวเอง ย่อมเป็นข้าที่ผิด”

“มา ๆ ทานข้าว ค่ำนี้แม่ให้พ่อครัวทำแพะตุ๋นบำรุงร่างกาย”

หลี่เหว่ยกำลังหยิบตะเกียบพลันแม่นางน้อยด้านข้างเคลื่อนร่างเข้าใกล้ตักน้ำแกงใส่ถ้วยยื่นมาวางตรงหน้า ก่อนถอยหลังกลับไปอย่างรู้งาน

“อ๋อ เกือบลืมไปเสียสนิท นี่หลานสาวลุงไห่ เจ้าจำได้หรือไม่ ตอนเล็ก ๆ ข้าเคยพาไปกวางโจวครั้งหนึ่ง”

“ลุงไห่ ข้าจำได้”

“มา ๆ เยว่เอ่อร์ มาใกล้ ๆ พี่”

“ท่านพี่ ข้าจินเยว่”

คิ้วกระบี่ถึงกับกระตุกเบายามสาวงามย่อกายด้านข้างเอ่ยเสียงแผ่วเบาด้วยถ้อยคำสนิทสนม

หลี่ฉือถึงกับหน้าม้านเมื่อบุตรชายนิ่งเงียบคีบกับข้าวใส่ถ้วยพุ้ยข้าวต่อหาได้ใส่ใจแม่นางน้อยที่นางสู้อุตส่าห์เรียกมาจากกวางโจว หวังให้บุตรชื่นชอบ นางไม่หวังให้หลี่เหว่ยตกแต่งเป็นฮูหยิน อย่างจินเยว่เป็นได้เพียงอนุเท่านั้น

“ลูกเหว่ย ไม่ทักทายน้องเสียหน่อยหรือ”

หลี่เหว่ยยังนั่งเงียบมือพุ้ยข่าวหาได้ใส่ใจจนหลี่ฮูหยินหน้าแดงซ่านอับอายหลานสาว กำลังเอ่ยซ้ำบุตรชายพลันวางตะเกียบ

“ข้าอิ่มแล้ว ต้องออกไปข้างนอก”

“ลูกเหว่ย อาเหว่ย!”

หลี่ฮูหยินร้องเรียกตามหลังบุตรชายยามหลี่เหว่ยผลุนผลันออกจากห้องทานอาหารเรือนซิ่วอิง นางถอนหายใจยาวเบือนหน้ามองหลานสาวหน้าตาหาได้ขี้ริ้วขี้เหร่ เหตุไฉนบุตรชายจึงมิชำเลืองมอง หรือว่า ... ข่าวลือจะเป็นจริง

“เร่เข้ามา เร่เข้ามา เชิญคุณชาย เชิญคุณชาย ค่ำนี้หอเยว่โหลวมีประมูลสาวงาม เร่เข้ามา”

“หาวววววว”

ยี่หวาปิดปากหาวนั่งชะโงกลงมองเจ้าไห่เทาคนเดิมยังร้องเรียกไม่หยุด

“เจ้าไห่เทานี่สมควรได้เงินเพิ่มสักเล็กน้อย”

มือสะบัดพัดกระพือใส่หน้า เพ่งมองไปยังถนนเบื้องล่างในยามชวี[1] ยังมากคนที่มักออกหาของกินตามภัตรคารเหลาหรูหราริมฝั่งน้ำ อย่างเช่นหอเยว่โหลวของนายแม่ คืนนี้ผู้คนหลั่งไหลดั่งสายน้ำเพียงได้ข่าวประมูลสาวงามเป็นเครื่องบรรณาการของแม่ทัพใหญ่

“อาเจี่ย ท่านยังมิเตรียมตัวอีกหรือ”

“เตรียมตัว?”

“อ้าว ท่านยังไม่รู้หรือ ค่ำนี้นายแม่ให้ท่านเป็นคนขึ้นไป ... อะไรนะ ท่านเคยพูดให้ข้าฟังหลายครั้งแล้วแต่ข้าจำไม่ได้สักที” เยี่ยนฟางยกมือขยี้ขมับซ้ายพยายามนึกคำแสนยากคำนั้น

“เชียร์แขกใช่หรือไม่”

“อ๋า ใช่แล้ว เชียร์แขก นายแม่สั่งมาให้ท่านขึ้นเวที”

“คราแรกปกปิดเป็นความลับ กลัวข้าทำเสียเรื่อง แต่พอจวนตัว..ฮึ คงเห็นว่าข้านั่นพูดจาเรียกเงินลูกค้าได้ เลยหวังรีดเงินจากกระเป๋าเถ้าแก่หน้าหม้อทั้งหลายักย้ายมาเข้ากระเป๋าตัวเอง” รวบพัดในมือแล้วเคาะใช้ความคิด “เจ้ารู้กติกาหรือไม่ คืนนี้งานประมูลเป็นแบบใด”

เยี่ยนฟางพลิ้วกายในชุดสีแดงเพลิง เสื้อคลุมผ้าเนื้อบางอวดนิ้วนวลราวหยก แต้มฮวาเตี้ยนดอกเหมยกลางหน้าผาก ปากเล็กจิ้มลิ้มสีแดงสด ยกพัดโค้งสีแดงเข้าชุดปิดปากยิ้มยั่ว

“เหล่าคุณชายจะเป็นผู้ประมูลแข่งขันกัน สาวใดได้ราคาสูงสุดคนนั้นเป็นฝ่ายชนะ”

“ข้าไม่เข้าใจ เจ้าช่วยขยายความทีเยี่ยนฟาง”

“ปัดโธ่! อาเจี่ย ง่าย ๆ บรรดาสาวงามในหอเราเลือกเฉพาะหญิงคณิกาขายความรู้ความสามารถ ไม่ขายตัว หรือพูดให้ง่ายเข้า ประมูลเฉพาะหญิงบริสุทธิ์ หญิงใดได้ราคาสูงสุด หญิงผู้นั้นจะได้เข้าไปอยู่ในจวนท่านแม่ทัพ”

“นี่แล่ะที่ข้ามึนงง ในเมื่อเหล่าคุณชายเป็นผู้ประมูล แล้วเหตุใดจึงยกของที่ประมูลส่งเข้าจวน ไม่เก็บไว้เอง”

“คิก คิก เจี่ยเจีย งานนี้ทางการเป็นผู้จัดขึ้นเพื่อความสนุกสนาน ให้ราษฎรได้ครื้นเครงร่วมยินดีที่ท่านแม่ทัพผู้กล้ารบชนะ ส่วนใครจ่ายเท่าไรให้นำตั๋วแลกเงินไปขึ้นเงินกับทางการ ทางวังจ่ายคืนให้สองเท่าตัว”

ยี่หวาตาเบิกกว้างรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ผุดเหนือริมฝีปากสะบัดคลี่พัดเจ๋อซาน (พัดพับได้) ลวดลายอักษรจีนและภาพวาดของจิตรกรชื่อดังแห่งยุค

“ข้าว่าไม่ดีแน่ อาเจี่ยยิ้มแบบนี้ข้าชักเสียวสันหลัง”

เยี่ยนฟางหน้านิ่วก้มมองหญิงงามคณิกานั่งกิริยาไม่เป็นกุลสตรี ชันเข่าหนึ่งข้าง มือโบกพัดปิดเสียงหัวเราะ ดูราวปีศาจผมขาวชั่วร้าย

“เจ้า เยี่ยนฟาง” ยี่หวาตบพัดในมือแล้วชี้ไปยังน้องสาวร่วมหอ “ไปตามอากุยมาให้ข้า เราจะได้เป็นเศรษฐีกันก็คราวนี้แล้ว ฮ่า ฮ่า ฮ่า”

[1] 19.00-20.59

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • นางรำอย่างข้าคงเป็นได้แค่เครื่องบรรณาการของท่านแม่ทัพ   30 บทส่งท้าย จบบริบูรณ์

    30 บทส่งท้ายใบกระจับล้อคลื่นในบัวลู่ลมเรือน้อยชมจงกลกลางนทีพบชายนางก้มยิ้มกลั้นวจีนารีทำปิ่นหยกตกลงน้ำ[1]หลี่เหว่ยยกมือป้องแดดยามบ่ายคล้อยกลางฤดูร้อนที่ยังแผดเผา อีกมือค้ำถ่อเรือลำน้อยลอยละล่องเหนือบึงบัวดอกหลากสี คลี่ยิ้มยามเห็นฮูหยิน ภรรยายอดดวงใจเอนกายพิงกาบเรือแกว่งมือกวักน้ำ บ้างแตะหยอกดอกบัวเอียงดวงหน้างดงามส่งรอยยิ้มอ่อนหวาน“เจ้าร้อนหรือไม่”ยี่หวาส่ายหน้าแทนคำตอบ แล้วค่อยคลานเข่าไปยังแม่ทัพใหญ่หยิบเซาปิ่งแบ่งชิ้นส่งเข้าปากหนาก่อนปัดเศษขนมปังข้างแก้มให้“ปีนี้ร้อนยิ่ง ทว่าข้ามาบึงบัวแห่งนี้คราไร กลับรู้สึกเย็น”ยี่หวาขยับร่างกลับไปที่เดิม ลูบปอยผมออกจากดวงหน้ายามลมโชยพัดจนปลิวไสว เท้าข้อศอกบนกาบเรือเกยคางบนหลังมือ“ข้ามีเรื่องยังไม่ได้บอกเจ้ายี่หวา”น้ำเสียงจริงจังทั้งหลบสายตาทำให้ยี่หวาคิ้วขมวดนิ่ง“อีกไม่กี่วันข้าอาจต้องไปลั่วหยาง”ร่างอ้อนแอ้นที่เอนกายอยู่พลันเหยียดตึงนั่ง

  • นางรำอย่างข้าคงเป็นได้แค่เครื่องบรรณาการของท่านแม่ทัพ   29 NC

    29 NC “ทะ ท่าแม่ทัพ นั่น อะ อะไรน่ะ”ยี่หวากอบผ้าขึ้นปิดทรวงอกกระเถิบถอยหนีเมื่อเห็นท่านแม่ทัพใหญ่จู่ ๆ ก็ลุกขึ้นจากเตียงขณะโรมรันกอดรัดฟัดเหวี่ยงกำลังได้ที่ใกล้สอดใส่ เดินกลับมาอีกครั้งพร้อมผ้าสีแดงเส้นเล็กพันมือทั้งสองข้างแล้วกระตุกขึงจนตึงมือพรึบ ๆ ..“เชือกผ้าไหม”“ทะ ท่านเอาสิ่งนี้มาทำอะไร” น้ำเสียงกระท่อนกระแท่นเหลือบมองเชือกแล้วตวัดสายตาขึ้นมองสีหน้าท่านแม่ทัพดูคล้ายพึงพอใจสุดขีดด้วยรอยยิ้มมารร้าย“ตำราปกขาวเขียนไว้ว่า หากต้องการมัดใจภรรยาให้อยู่หมัด ไม่ให้ปั่นใจหนีหายไปที่อื่น จงมัด...” พึมพำในลำคอไม่เต็มเสียง กลัวภรรยารักถอยหนี แต่ยี่หวายังได้ยินอยู่ดี“มัด!!!”ตึก ... คุกเข่าลงเตียง“ตามตำราบอกว่าสตรีทุกนางล้วนชื่นชอบยิ่งนัก ซ้ำร้องครางลั่นราวขึ้นสวรรค์ชั้นฟ้า”“...”ยี่หวาอ้าปากเหวอ ‘ตำรา’ นี่ท่านแม่ทัพของนางถึงขั้นอ่านตำรากามสูตรเพื่อมาทำสิ่งนี้กับนาง“ข้า ข้า ไร้ซึ่งคำพูด ท่านแม่ทัพ”“เจ้าไม่ต้อง

  • นางรำอย่างข้าคงเป็นได้แค่เครื่องบรรณาการของท่านแม่ทัพ   28 ดื่มเหล้ามงคล

    28 ดื่มเหล้ามงคล“เจ้าคิดสิ่งใดยี่หวา ต้องไม่ใช่เรื่องดี” หลี่เหว่ยใช้นิ้วดีดเบากลางหน้าผากเอ่ยเสียงนุ่มอ่อนโยนก่อนนั่งลงบนเตียงด้านหลัง ชะโงกหน้าผ่านซอกไหล่ก้มมองบุตรชายนอนนิ่งไม่ส่งเสียงร้องดั่งเด็กทั่วไป“ท่านขยับออกห่างหน่อยไม่ได้หรือไร ข้าร้อน แล้วไยไม่ไปทำงาน”“ข้าลางานแล้ว”“ลางาน?”“ข้าต้องอยู่เดือน”“...”ยี่หวาคิ้วกระตุก อยู่เดือนมิใช่หน้าที่ของสามี แต่นี่มันคือข้ออ้างชัด ๆ“ท่านแม่ทัพเพียงต้องการเป่าประกาศว่าเป็นชายมีน้ำยาใช่หรือไม่” แค่นลมเมื่อพูดจบจนอกแกร่งด้านหลังกระเพื่อม“รู้ดีเยี่ยงนี้ต้องรีบยกน้ำชา”“ข้าไม่ได้รับปาก ท่านอย่าซี้ซั้วพูดเองฝ่ายเดียว ข้ายอมมาอยู่จวนท่านเพราะเห็นแต่เจ้าก้อนแป้งต่างหาก”หลี่เหว่ยไม่นำพาปล่อยให้ยี่หวาพูดไปเรื่อยส่วนมือเริ่มเลื้อยอ้อมมาด้านหน้ารัดเอวนางไว้ผ่าง...ไม่ทันได้ลวนลามมากไปกว่านั้นประตูเปิดกว้างออกอย่างแรงพร้อมใบหน้าของหญิงวัยกลางคนพรวดพราดเดินเข้ามา“หลานข้า หลี่จง” น้ำเสียงโหยหวนสักเล็กน้อย

  • นางรำอย่างข้าคงเป็นได้แค่เครื่องบรรณาการของท่านแม่ทัพ   28 คลอดแล้วจ้า

    28 คลอดแล้วจ้า“อุแว้ แง ........ แง......”ยี่หวาทิ้งตัวอ่อนแรงทันใดยามลูกน้อยคลอดออกมาอย่างปลอดภัย มือห้อยลงขอบเตียงหอบหายใจ ได้ยินเสียงยินดี เสียงท่านหมอ เสียงหมอตำแยวุ่นวายผสมปนเปจนมั่วเละเทะ“ยินดีด้วย ยินดีด้วยท่านแม่ทัพ บุตรชายเจ้าค่ะ”แว่วเสียงหมอตำแยร้องบอกยินดี ยี่หวาหลับตาถอนหายใจ ในที่สุดบุรุษหน้าหนาก็มาเสียทีหลังจากที่ปล่อยให้ทหารมาเฝ้านางเสียหลายเดือนบัดนี้นางผู้คลอดลูกนอนหมดแรงไม่ทันได้เห็นหน้าบุตรชาย กลายเป็นชายหน้าด้านได้โอบอุ้มเห็นหน้าก่อนข้าเสียอีก - - ข้าต้องโกรธให้นานเสียหน่อยยี่หวาพลิกตัวตะแคงหันหนีทันที ไม่ต้องการเห็นหน้าคนหลอกลวง“ฮูหยินเจ้าคะ บุตรชายเจ้าค่ะ”ในที่สุดคงถึงคราวข้าได้ยลโฉมบุตรชายตนเองเสียที เอียงหน้ากลับไปพลันพบสบสายตาที่ยืนนิ่งข้างเตียง ในอ้อมแขนใหญ่โอบอุ้มบุตรชายตัวน้อยที่ยังร้องจ้า“หลี่จงต้องการดื่มนม”คิ้วเรียวสวยกระตุกยามได้ยินชื่อบุตรชาย ‘หลี่จง’ เจ้าหน้าตายบังอาจตั้งชื่อลูกข้า“เออ..เจ้าลุกไหวห

  • นางรำอย่างข้าคงเป็นได้แค่เครื่องบรรณาการของท่านแม่ทัพ   27 ตามหมอ หมอหลวงงงงงง

    27 ตามหมอ หมอหลวงงงงงง“นางใกล้คลอดหรือยัง”มู่เฉินยืนนิ่งด้านข้างเก้าอี้ในห้องทำงาน เบื้องหน้าคือหมอหลวงที่ท่านแม่ทัพให้แฝงตัวเข้าไปดูแลครรภ์แม่นางยี่หวาในหอซีหยางโหลว ทั้งส่งคนเฝ้าห่าง ๆ ตลอดระยะเวลาหลายเดือนที่ผ่านมา“ใกล้แล้วท่านแม่ทัพ คงอีกไม่กี่วัน”“ถึงวันให้ส่งคนมาแจ้ง ข้าจะไปดูด้วยตนเอง”กล่าวจบหลี่เหว่ยยกมือโบกไล่แล้วกลับไปอ่านเอกสารราชการตรงหน้าต่อ มือยังถือพู่กัน ดวงหน้านิ่งเฉย มู่เฉินรินน้ำชาเพิ่มช่วยลดความตึงเครียด“น้ำชาท่านแม่ทัพ”“กำชับคนให้ดูแลหอซีหยางโหลวอย่างดี อย่าแสดงตัวให้นางเห็น แล้วเมียเจ้า เยี่ยนฟางเป็นเยี่ยงไรบ้าง”“ใกล้คลอดเช่นกันท่านแม่ทัพ คงไล่เลี่ยห่างกันไม่กี่วัน”“ดี”มู่เฉินนิ่งเงียบเมื่อท่านแม่ทัพหมดคำถาม“อากาศเริ่มร้อนแล้ว เจ้าส่งน้ำแข็ง ไม่สิ ไม่ได้ ไม่ดีต่อสุขภาพ เจ้าให้คนนำพัดอันใหม่ไปให้นางหรือยัง”“ขอรับท่านแม่ทัพ ฝากฮุ่ยซิ่งไปเช่นเดิม แม่นางยี่หวาไม่มีทางรู้ว่าส่งมาจากท่านขอรับ”“อืม...กว่าจะเคี

  • นางรำอย่างข้าคงเป็นได้แค่เครื่องบรรณาการของท่านแม่ทัพ   26 ลำแสงแรกพระอาทิตย์

    26 ลำแสงแรกพระอาทิตย์ตึก ตึก ตึกเสียงวิ่งบนพื้นหิมะทำให้ทั้งสองหันตัวกลับไปมองต้นเสียง เห็นจินเยว่วิ่งหน้าตั้งสีหน้าเบิกบานยิ้มกว้างจนถึงใบหู หน้าแดงฝ่าลมหนาวเหน็บแล้วหยุดหอบหายใจตรงบันไดขึ้นเรือนเล็ก“อันใดกันจินเยว่ วิ่งราวกับวิ่งหนีใครมา”“แฮก ๆ ข้า เดี๋ยวก่อน ขอพัก”จินเยว่ยังหอบหายใจมือกุมท้องขณะก้าวขึ้นเรือนแล้วนั่งลงข้างยี่หวา“สงสัยเรื่องดี ดูจินเยว่สิ ยิ้มกว้างขนาดนี้” ยี่หวาเอ่ยเย้าขณะส่งมือดึงแก้มแม่นางน้อย“อุ๊ย..เจ็บพี่ยี่หวา มีม้าเร็วมา แจ้งว่าท่านแม่ทัพกำลังเข้าเขตเมืองฉางอานแล้ว อีกไม่กี่วันจะถึงจวน”สิ้นเสียงจินเยว่ ดวงหน้าของยี่หวาพลันสดชื่นขึ้นทันตา นางเผยรอยยิ้มสดใสเป็นครั้งแรกไม่แสแสร้งในรอบหลายเดือน รวมไปถึงแววตาพราวเปล่งประกาย“เพิ่งพูดถึงก็มาเสียแล้วกองทัพเสือดำ” ฮุ่ยซิ่งพูดเย้ายี่หวาที่บัดนี้พวงแก้มแดงระเรื่อยิ้มน้อยยิ้มใหญ่“เจ้าจะรอก่อนไหมฮุ่ยซิ่ง”“ไม่ ข้าตั้งใจแล้วไม่เคยเปลี่ยนใจ”“รออะไร พี่ฮุ่ยซิ่งจะไปไหน”“ข้าต้องจากจวนห

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status