Share

นางรำอย่างข้าคงเป็นได้แค่เครื่องบรรณาการของท่านแม่ทัพ
นางรำอย่างข้าคงเป็นได้แค่เครื่องบรรณาการของท่านแม่ทัพ
Penulis: พริมริน

ภาคเปิดตัว

last update Terakhir Diperbarui: 2024-11-01 15:25:39

ภาคเปิดตัว

“อ้าว ๆ อย่าชักช้า เร็วดิโว้ย!”

เสียงตะโกนจากผู้กำกับวัยดึกเอะอะมะเทิ่งโวยวายแต่เช้ามืดของกองถ่ายละครพีเรียด แผดเสียงดังจนเป็นที่ชินชาของเด็ก ๆ ในกอง ตะวันไม่ทันพ้นขอบฟ้าหากเวลาไม่รอช้า เร่งรีบให้ทันลำแสงแรกเพื่อให้ได้ภาพออกมางดงามที่สุด

“ยี่หวา”

“คะ ผู้กำกับ”

“วันนี้มึงต้องเอาให้สมจริงนะโว้ย”

“แหม มือระดับพระกาฬอย่างยี่หวา ไม่พลาดหรอก”

“เออจะไว้ใจอะไรได้ ยิ่งไอ้ชุดพวกนี้รุ่มร่ามเกะกะตัว มึงมัดให้ดี”

ยี่หวาก้มมองร่างของตัวเองในชุดจีนโบราณสมัยใดเธอเองไม่แน่ใจ ก่อนเงยหน้าขึ้นยิ้มให้ผู้กำกับเมื่อเขาตบบ่าเธอสองครั้ง

“มึงไปเตรียมตัวแล้วกัน แล้วไอ้พวกนั้นไปไหนหมด”

“กำลังมาถึงแล้วผู้กำกับ”

หยาดพิรุณ จินดา หรือ ยี่หวา ยิ้มอ่อนให้ผู้กำกับอีกครั้ง หันกายกลับไปยังลานกว้างเพื่อเริ่มออกกำลังกายเบา ๆ อุ่นเครื่อง

เธอกวาดตามองกองถ่ายทำในต่างจังหวัดไม่ไกลจากกรุงเทพมากนัก บรรยากาศชนบทตรงหน้าคือบึงน้ำขนาดเล็ก ยอมรับในใจว่าวันนี้รู้สึกวูบโหวงแปลก ๆ ทั้งที่ทำงานเป็นสแตนอินบทยาก ๆ ให้นักแสดงมานานเกือบสิบปี

มือเรียวเล็กแต่แข็งแรงสะบัดผ้าชุดจีนโบราณตรงสะโพกขึ้นโบก ซีรีส์ตลกร้ายเรื่องนี้ให้นางเอกดันย้อนยุคไปจีนโบราณ ทั้งที่เป็นคนไทย ฉากสำคัญเช้านี้เป็นฉากนางเอกถูกใส่ตะกร้าจับถ่วงน้ำ - - เฮ้อ...พวกสมัยก่อนนี่โหดร้ายใช่ย่อย

“ยี่หวา”

“เฮ้ย! มากันแล้ว เร็ว เปลี่ยนเสื้อผ้า”

ยี่หวาหันตามเสียงเรียกจนพบใบหน้าคุ้นเคย เพทาย เป็นทั้งเพื่อน เป็นทั้งพี่ชาย และครูสอนวิชาต่อสู้ ก็นักแสดงแทนอย่างเธอมักถูกใช้ในช่วงจังหวะที่ดาราตัวจริงต้องเสี่ยง เลยโยนความเสี่ยงมาให้อาชีพนี้แทน แต่อย่างไรเสียค่าตอบแทนมันคุ้มค่า

“วันนี้ลงน้ำ ระวังล่ะ ไอ้ชุดนี่มัน...ดูไม่ไหวเลย”

“คนออกเยอะ เซฟตี้พร้อม ไม่เป็นไรหรอกอย่ากังวล ไปเถอะเตรียมตัว ผู้กำกับโวยวายอีกแล้ว” พูดเสียงอ่อนให้กำลังตัวเองไปในตัว แล้วสะบัดร่างโบกชายผ้าสีสดใสในชุดจีนโบราณเดินนำเพทายไปก่อนด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม กระทั่งมองเห็นตะกร้าที่ต้องเข้าไปอยู่ จึงค่อยเปลี่ยนสีหน้า

“ตอนซ้อมไม่เล็กขนาดนี้นี่ผู้กำกับ”

“กูลองดูฟุตเทจแล้ว มันไม่สวย ไม่สะใจ ต้องเล็กหน่อยคนดูจะได้ลุ้น”

“ถ้างั้นยี่หวาขอลองซ้อมอีกรอบ”

“ไม่ทันแล้ว แสงกำลังได้ มึงเข้าไปอยู่ในตะกร้าเลย ไอ้เพทาย มึงคอยดูน้องมึงด้วย”

เพทายไม่ตอบ ดวงตาคมกล้ามีแววกังวลใจ จับจ้องตะกร้าไม้สานอันเล็กกว่าเดิม

“ไหวไหมยี่หวา”

“ไม่ไหวยังไง มาถึงหน้างานขนาดนี้แล้ว พี่คอยระวังให้หน่อยแล้วกัน”

“พี่ทำแบบนั้นเสมอ ยี่หวาไม่ต้องกลัว ลงไปเถอะ”

เธอมองตะกร้าไม้ไผ่สีหน้าไม่ค่อยดีนักแล้วก้าวลงไปนั่ง ให้เพทายรัดฝาตะกร้าด้วยเชือก

“อย่าแน่นนะ”

“รู้แล้ว”

ตะกร้าที่มีเธอนั่งอยู่ข้างในถูกยกสูงด้วยผู้ชายสองคน จากนั้นขึ้นไปยืนริมฝั่งบึงน้ำที่มีกล้องถ่ายใต้น้ำรออยู่

“อ้าว เตรียมตัวนะ”

ผู้กำกับตะโกนใส่โทรโข่งแล้วหันไปหาคนตีสเลทแล้วพยักหน้าให้เริ่มได้

“ซีนน้ำหนึ่งร้อยหนึ่ง คัทสาม ตอนที่สิบแปด เทคหนึ่ง”

ตึก! ตุบ!

สิ้นเสียงคนตีสเลท ฉากเล็กสีดำถูกสับ ตะกร้าสานถูกโยนลงน้ำจมดิ่งลงก้นบึงทันทีเช่นกัน

ยี่หวาลืมตาในน้ำด้วยความชำนาญ เธอดิ้นรนอยู่ภายในตะกร้าด้วยท่าทีของหญิงโดนทำร้าย พยายามตั้งสติว่าตนเองกลั้นลมหายใจได้นานเท่าใดกันนะ - - สามนาที หรือจะห้า

ดวงตาหยีเล็กอย่างคนไทยเชื้อสายจีนเริ่มเบิกกว้างเมื่อเวลาถอยหลังเหลือน้อยลงทุกขณะ น้ำในบึงเย็นเยียบจากอากาศรุ่งเช้า เธอเห็นแสงลอดลงมาจากเหนือผิวน้ำ มองอย่างมีความหวังว่าผู้กำกับคงกำลังสั่งคัท

ร่างกายที่ทนทานกว่าคนปกติทั่วไปเริ่มไม่อาจทานไหว แรงอัดของน้ำทำให้ทรวงอกเธอเริ่มแสบร้อน - - เธอต้องหายใจ

ยี่หวาดิ้นขลุกขลักเป็นพักกระทั่งหมดแรงต้านทาน ปล่อยให้กระแสน้ำเอื่อยใต้บัวบึงทะลักเข้าร่างกาย เธอสำลักทันที ดิ้นรนทรวงอกร้อนแทบระเบิด แสงยามรุ่งลอดผ่านน้ำด้านบนคือสิ่งสุดท้ายที่เธอมองเห็น จากนั้นทุกสิ่งก็ดำมืดลง

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • นางรำอย่างข้าคงเป็นได้แค่เครื่องบรรณาการของท่านแม่ทัพ   30 บทส่งท้าย จบบริบูรณ์

    30 บทส่งท้ายใบกระจับล้อคลื่นในบัวลู่ลมเรือน้อยชมจงกลกลางนทีพบชายนางก้มยิ้มกลั้นวจีนารีทำปิ่นหยกตกลงน้ำ[1]หลี่เหว่ยยกมือป้องแดดยามบ่ายคล้อยกลางฤดูร้อนที่ยังแผดเผา อีกมือค้ำถ่อเรือลำน้อยลอยละล่องเหนือบึงบัวดอกหลากสี คลี่ยิ้มยามเห็นฮูหยิน ภรรยายอดดวงใจเอนกายพิงกาบเรือแกว่งมือกวักน้ำ บ้างแตะหยอกดอกบัวเอียงดวงหน้างดงามส่งรอยยิ้มอ่อนหวาน“เจ้าร้อนหรือไม่”ยี่หวาส่ายหน้าแทนคำตอบ แล้วค่อยคลานเข่าไปยังแม่ทัพใหญ่หยิบเซาปิ่งแบ่งชิ้นส่งเข้าปากหนาก่อนปัดเศษขนมปังข้างแก้มให้“ปีนี้ร้อนยิ่ง ทว่าข้ามาบึงบัวแห่งนี้คราไร กลับรู้สึกเย็น”ยี่หวาขยับร่างกลับไปที่เดิม ลูบปอยผมออกจากดวงหน้ายามลมโชยพัดจนปลิวไสว เท้าข้อศอกบนกาบเรือเกยคางบนหลังมือ“ข้ามีเรื่องยังไม่ได้บอกเจ้ายี่หวา”น้ำเสียงจริงจังทั้งหลบสายตาทำให้ยี่หวาคิ้วขมวดนิ่ง“อีกไม่กี่วันข้าอาจต้องไปลั่วหยาง”ร่างอ้อนแอ้นที่เอนกายอยู่พลันเหยียดตึงนั่ง

  • นางรำอย่างข้าคงเป็นได้แค่เครื่องบรรณาการของท่านแม่ทัพ   29 NC

    29 NC “ทะ ท่าแม่ทัพ นั่น อะ อะไรน่ะ”ยี่หวากอบผ้าขึ้นปิดทรวงอกกระเถิบถอยหนีเมื่อเห็นท่านแม่ทัพใหญ่จู่ ๆ ก็ลุกขึ้นจากเตียงขณะโรมรันกอดรัดฟัดเหวี่ยงกำลังได้ที่ใกล้สอดใส่ เดินกลับมาอีกครั้งพร้อมผ้าสีแดงเส้นเล็กพันมือทั้งสองข้างแล้วกระตุกขึงจนตึงมือพรึบ ๆ ..“เชือกผ้าไหม”“ทะ ท่านเอาสิ่งนี้มาทำอะไร” น้ำเสียงกระท่อนกระแท่นเหลือบมองเชือกแล้วตวัดสายตาขึ้นมองสีหน้าท่านแม่ทัพดูคล้ายพึงพอใจสุดขีดด้วยรอยยิ้มมารร้าย“ตำราปกขาวเขียนไว้ว่า หากต้องการมัดใจภรรยาให้อยู่หมัด ไม่ให้ปั่นใจหนีหายไปที่อื่น จงมัด...” พึมพำในลำคอไม่เต็มเสียง กลัวภรรยารักถอยหนี แต่ยี่หวายังได้ยินอยู่ดี“มัด!!!”ตึก ... คุกเข่าลงเตียง“ตามตำราบอกว่าสตรีทุกนางล้วนชื่นชอบยิ่งนัก ซ้ำร้องครางลั่นราวขึ้นสวรรค์ชั้นฟ้า”“...”ยี่หวาอ้าปากเหวอ ‘ตำรา’ นี่ท่านแม่ทัพของนางถึงขั้นอ่านตำรากามสูตรเพื่อมาทำสิ่งนี้กับนาง“ข้า ข้า ไร้ซึ่งคำพูด ท่านแม่ทัพ”“เจ้าไม่ต้อง

  • นางรำอย่างข้าคงเป็นได้แค่เครื่องบรรณาการของท่านแม่ทัพ   28 ดื่มเหล้ามงคล

    28 ดื่มเหล้ามงคล“เจ้าคิดสิ่งใดยี่หวา ต้องไม่ใช่เรื่องดี” หลี่เหว่ยใช้นิ้วดีดเบากลางหน้าผากเอ่ยเสียงนุ่มอ่อนโยนก่อนนั่งลงบนเตียงด้านหลัง ชะโงกหน้าผ่านซอกไหล่ก้มมองบุตรชายนอนนิ่งไม่ส่งเสียงร้องดั่งเด็กทั่วไป“ท่านขยับออกห่างหน่อยไม่ได้หรือไร ข้าร้อน แล้วไยไม่ไปทำงาน”“ข้าลางานแล้ว”“ลางาน?”“ข้าต้องอยู่เดือน”“...”ยี่หวาคิ้วกระตุก อยู่เดือนมิใช่หน้าที่ของสามี แต่นี่มันคือข้ออ้างชัด ๆ“ท่านแม่ทัพเพียงต้องการเป่าประกาศว่าเป็นชายมีน้ำยาใช่หรือไม่” แค่นลมเมื่อพูดจบจนอกแกร่งด้านหลังกระเพื่อม“รู้ดีเยี่ยงนี้ต้องรีบยกน้ำชา”“ข้าไม่ได้รับปาก ท่านอย่าซี้ซั้วพูดเองฝ่ายเดียว ข้ายอมมาอยู่จวนท่านเพราะเห็นแต่เจ้าก้อนแป้งต่างหาก”หลี่เหว่ยไม่นำพาปล่อยให้ยี่หวาพูดไปเรื่อยส่วนมือเริ่มเลื้อยอ้อมมาด้านหน้ารัดเอวนางไว้ผ่าง...ไม่ทันได้ลวนลามมากไปกว่านั้นประตูเปิดกว้างออกอย่างแรงพร้อมใบหน้าของหญิงวัยกลางคนพรวดพราดเดินเข้ามา“หลานข้า หลี่จง” น้ำเสียงโหยหวนสักเล็กน้อย

  • นางรำอย่างข้าคงเป็นได้แค่เครื่องบรรณาการของท่านแม่ทัพ   28 คลอดแล้วจ้า

    28 คลอดแล้วจ้า“อุแว้ แง ........ แง......”ยี่หวาทิ้งตัวอ่อนแรงทันใดยามลูกน้อยคลอดออกมาอย่างปลอดภัย มือห้อยลงขอบเตียงหอบหายใจ ได้ยินเสียงยินดี เสียงท่านหมอ เสียงหมอตำแยวุ่นวายผสมปนเปจนมั่วเละเทะ“ยินดีด้วย ยินดีด้วยท่านแม่ทัพ บุตรชายเจ้าค่ะ”แว่วเสียงหมอตำแยร้องบอกยินดี ยี่หวาหลับตาถอนหายใจ ในที่สุดบุรุษหน้าหนาก็มาเสียทีหลังจากที่ปล่อยให้ทหารมาเฝ้านางเสียหลายเดือนบัดนี้นางผู้คลอดลูกนอนหมดแรงไม่ทันได้เห็นหน้าบุตรชาย กลายเป็นชายหน้าด้านได้โอบอุ้มเห็นหน้าก่อนข้าเสียอีก - - ข้าต้องโกรธให้นานเสียหน่อยยี่หวาพลิกตัวตะแคงหันหนีทันที ไม่ต้องการเห็นหน้าคนหลอกลวง“ฮูหยินเจ้าคะ บุตรชายเจ้าค่ะ”ในที่สุดคงถึงคราวข้าได้ยลโฉมบุตรชายตนเองเสียที เอียงหน้ากลับไปพลันพบสบสายตาที่ยืนนิ่งข้างเตียง ในอ้อมแขนใหญ่โอบอุ้มบุตรชายตัวน้อยที่ยังร้องจ้า“หลี่จงต้องการดื่มนม”คิ้วเรียวสวยกระตุกยามได้ยินชื่อบุตรชาย ‘หลี่จง’ เจ้าหน้าตายบังอาจตั้งชื่อลูกข้า“เออ..เจ้าลุกไหวห

  • นางรำอย่างข้าคงเป็นได้แค่เครื่องบรรณาการของท่านแม่ทัพ   27 ตามหมอ หมอหลวงงงงงง

    27 ตามหมอ หมอหลวงงงงงง“นางใกล้คลอดหรือยัง”มู่เฉินยืนนิ่งด้านข้างเก้าอี้ในห้องทำงาน เบื้องหน้าคือหมอหลวงที่ท่านแม่ทัพให้แฝงตัวเข้าไปดูแลครรภ์แม่นางยี่หวาในหอซีหยางโหลว ทั้งส่งคนเฝ้าห่าง ๆ ตลอดระยะเวลาหลายเดือนที่ผ่านมา“ใกล้แล้วท่านแม่ทัพ คงอีกไม่กี่วัน”“ถึงวันให้ส่งคนมาแจ้ง ข้าจะไปดูด้วยตนเอง”กล่าวจบหลี่เหว่ยยกมือโบกไล่แล้วกลับไปอ่านเอกสารราชการตรงหน้าต่อ มือยังถือพู่กัน ดวงหน้านิ่งเฉย มู่เฉินรินน้ำชาเพิ่มช่วยลดความตึงเครียด“น้ำชาท่านแม่ทัพ”“กำชับคนให้ดูแลหอซีหยางโหลวอย่างดี อย่าแสดงตัวให้นางเห็น แล้วเมียเจ้า เยี่ยนฟางเป็นเยี่ยงไรบ้าง”“ใกล้คลอดเช่นกันท่านแม่ทัพ คงไล่เลี่ยห่างกันไม่กี่วัน”“ดี”มู่เฉินนิ่งเงียบเมื่อท่านแม่ทัพหมดคำถาม“อากาศเริ่มร้อนแล้ว เจ้าส่งน้ำแข็ง ไม่สิ ไม่ได้ ไม่ดีต่อสุขภาพ เจ้าให้คนนำพัดอันใหม่ไปให้นางหรือยัง”“ขอรับท่านแม่ทัพ ฝากฮุ่ยซิ่งไปเช่นเดิม แม่นางยี่หวาไม่มีทางรู้ว่าส่งมาจากท่านขอรับ”“อืม...กว่าจะเคี

  • นางรำอย่างข้าคงเป็นได้แค่เครื่องบรรณาการของท่านแม่ทัพ   26 ลำแสงแรกพระอาทิตย์

    26 ลำแสงแรกพระอาทิตย์ตึก ตึก ตึกเสียงวิ่งบนพื้นหิมะทำให้ทั้งสองหันตัวกลับไปมองต้นเสียง เห็นจินเยว่วิ่งหน้าตั้งสีหน้าเบิกบานยิ้มกว้างจนถึงใบหู หน้าแดงฝ่าลมหนาวเหน็บแล้วหยุดหอบหายใจตรงบันไดขึ้นเรือนเล็ก“อันใดกันจินเยว่ วิ่งราวกับวิ่งหนีใครมา”“แฮก ๆ ข้า เดี๋ยวก่อน ขอพัก”จินเยว่ยังหอบหายใจมือกุมท้องขณะก้าวขึ้นเรือนแล้วนั่งลงข้างยี่หวา“สงสัยเรื่องดี ดูจินเยว่สิ ยิ้มกว้างขนาดนี้” ยี่หวาเอ่ยเย้าขณะส่งมือดึงแก้มแม่นางน้อย“อุ๊ย..เจ็บพี่ยี่หวา มีม้าเร็วมา แจ้งว่าท่านแม่ทัพกำลังเข้าเขตเมืองฉางอานแล้ว อีกไม่กี่วันจะถึงจวน”สิ้นเสียงจินเยว่ ดวงหน้าของยี่หวาพลันสดชื่นขึ้นทันตา นางเผยรอยยิ้มสดใสเป็นครั้งแรกไม่แสแสร้งในรอบหลายเดือน รวมไปถึงแววตาพราวเปล่งประกาย“เพิ่งพูดถึงก็มาเสียแล้วกองทัพเสือดำ” ฮุ่ยซิ่งพูดเย้ายี่หวาที่บัดนี้พวงแก้มแดงระเรื่อยิ้มน้อยยิ้มใหญ่“เจ้าจะรอก่อนไหมฮุ่ยซิ่ง”“ไม่ ข้าตั้งใจแล้วไม่เคยเปลี่ยนใจ”“รออะไร พี่ฮุ่ยซิ่งจะไปไหน”“ข้าต้องจากจวนห

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status