แชร์

ตอนที่14 ข่าวลือ

ผู้เขียน: คุณแม่แฝดสาม
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-09-23 13:50:04

 จางเจียอีพอกลับมาถึงจวน ก็รีบตรงไปหาฮูหยินจางทันที นางต้องพยายามข่มเก็บอาการเคืองขุ่นและน้อยใจรัชทายาทเอาไว้ ไม่ให้แสดงออกมา เขาปกป้องสตรีนางนั้นอย่างออกหน้า แม้เขาและนางจะยังไม่ได้หมั้นหมายแต่ แต่ก็ได้มีการพูดคุยถึงว่าจะให้หมั้นหมายกัน ตั้งแต่ตระกูลจางรับรู้ข่าวนั้น ก็ได้ให้นางเตรียมตัวฝึกฝนกิริยามารยาท เพราะหากหมั้นและแต่งกับรัชทายาท นั้นก็หมายถึงตำแหน่งฮองเฮาในวันข้างหน้า

 เพราะฉะนั้นนางจึงต้องฝึกฝนอย่างเข้มงวด แต่ว่าวันเวลาผ่านไปรัชทายาท ก็ไม่เคยมีปฏิสัมพันธ์กับตระกูลจาง เจอกันในงานก็เพียงทักทาย ยามนี้ยังมาแสดงท่าทีแบบนี้ ใจของนางเหมือนแหลกสลาย พอมาถึงเรือนมารดา จางเจียอีก็โผเข้ากอดนางแน่นพร้อมกับร้องไห้อย่างอัดอั้น จากนั้นก็เล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ฮูหยินจางฟัง

 ฮูหยินจางได้ฟังก็นึกขุ่นเคืองรัชทายาท และพาลโกรธไปถึงท่านหญิง เป็นท่านหญิงแล้วอย่างไร คิดจะแย่งบุรุษที่มีคู่หมายแล้วได้อย่างงั้นรึ แต่ว่าวันนี้บุตรสาวนางบอกมีเหว่ยอ๋อง องค์ชายซีห่าว และองค์รัชทายาท ฮึเรื่องนี้นางจะปล่อยไว้ไม่ได้ ต้องเรียกอีกสามตระกูลมาคุยกัน

 “ท่านแม่ข้าไม่ยอม ข้าเตรียมตัวมาตั้งหลายปี หากข้าไม่ได้แต่งกับรัชทายาท ข้าก็ไม่รู้ว่าจะเอาหน้าไปไว้ที่ใด ข้าขอตายเสียดีกว่า”

 “ใจเย็นๆ ลูกรัก แม่ไม่มีทางปล่อยโอกาสนี้ให้หลุดลอยไปง่ายๆ แม่จะต้องปรึกษากับท่านพ่อของเจ้า และเรียกอีกสามตระกูลมาคุยกัน แต่เจ้าว่าพวกเขาอยู่ที่ตลาดวันนี้ ก็แสดงว่ามีผู้คนพบเห็นมากมาย”

 “ใช่เจ้าค่ะ” จางเจียอีขมวดคิ้วไม่เข้าใจว่ามารดาจะถามย้ำเรื่องนี้ไปด้วยเหตุใด ยิ่งถามนางก็ยิ่งเจ็บใจ

 “ก็ถ้าคนเห็นเยอะก็ยิ่งดี ชื่อเสียงของท่านหญิงก็จะดูไม่ดีตามไปด้วย สตรีเพียงคนเดียวไปไหนมาไหนกับบุรุษถึงสามคน มีสตรีดีๆ ที่ไหนเขาทำกัน ยิ่งเป็นท่านหญิงยิ่งไม่เหมาะสม” จางเจียอีพอได้ฟังก็เริ่มเข้าใจ ท่านแม่ช่างฉลาดนัก ฮึข้าจะคอยดูว่าเจ้าจะแบกรับคำครหานี้ได้หรือไม่

 “เดี๋ยวแม่จะให้คนไปแจ้งอีกสองตระกูล ให้มาพูดคุยกันพรุ่งนี้ และแม่ก็จะไปคุยกับท่านพ่อเจ้าด้วย เรื่องนี้จะปล่อยให้ยืดเยื้อต่อไปไม่ได้ ทางเราต้องเร่งจัดการงานหมั้นให้เกิดขึ้นโดยเร็ว”

 วันต่อมาอีกสองตระกูลก็เดินทางตามคำเชิญด้วยความร้อนใจ เพราะซูโม่หลันกลับถึงจวนก็เล่าเรื่องราวให้เสนาซูและฮูหยินซูฟัง แม้ทางตระกูลซูจะยังไม่อะไรกับเหว่ยอ๋อง แต่เพราะซูโม่หลันได้บอกกับเสนาซูว่า คนที่อยู่ภายในใจนางคือเหว่ยอ๋อง ตระกูลซูจึงพร้อมจะสนับสนุน ที่จะให้บุตรสาวออกเรือนกับเขา

 ส่วนตระกูลกู้หลังรับรู้เรื่องราวจากปากของกู้ผิงอัน เสนากู้ก็ถึงกับกัดฟันกรอด! บุตรสาวเขาหมายปององค์ชายซีห่าวมานาน แม้เขาจะเสนอให้นางแต่งกับรัชทายาท แต่นางก็ยืนยันว่าจะแต่งกับองค์ชายซีห่าวเท่านั้น เขาเองก็ไม่กล้าขัดใจบุตรสาว มาวันนี้ได้ยินว่า ท่านหญิงโลภมากหวังจับปลาสามมือ แบบนี้เขาจะไม่ทน!

 “ได้ตำแหน่งท่านหญิงข้าก็ว่าไม่เหมาะอยู่แล้ว แต่ฝ่าบาทบอกว่านางเป็นคนช่วยชีวิต ข้าก็พูดอะไรไม่ได้ แต่เรื่องจับปลาสามมือเช่นนี้ แคว้นเราจะเอาหน้าไปไว้ที่ใด” เสนากู้เอ่ยขึ้นอย่างกราดเกรี้ยว

 “อีกสองวันก็จะเป็นวันงาน เลี้ยงฉลองการแต่งตั้งท่านหญิง หากข่าวด้านนอกวิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสมของท่านหญิง ผู้คนต้องรวมตัวกัน คัดค้านตำแหน่งของนางแน่ เรื่องนี้มีผู้คนในท้องตลาดเป็นพยาน” ฮูหยินจางกล่าวเสริมขึ้น

 “ข้าก็เห็นด้วยกับฮูหยินจาง หากท่านหญิงจะใช้ตำแหน่งของนางมาแย่งบุรุษของผู้อื่นเช่นนี้ คนธรรมดาเช่นเราจะทำอย่างไรได้” ฮูหยินซูเริ่มสุ่มไฟทันที

 “ถ้าเช่นนั้นก็สร้างข่าวให้มันเกินจริงไปเลย อย่างน้อยมันก็มีมูลความจริงที่ว่าพวกเขาอยู่ด้วยกัน” กู้ฮูหยินเริ่มเสนอแนะ และสองฮูหยินก็พยักหน้าเห็นด้วย อีกสามเสนาบดีนั่งจิบชาฟังสตรีปรึกษาแล้ว ก็ยกยิ้มด้วยความพอใจ บางครั้งเรื่องของสตรี ก็ให้สตรีจัดการจะง่ายกว่า ก่อนจะบุรษจะแยกออกไปปรึกษางานกันอีกห้องหนึ่ง

 “แผนการท่านไปถึงไหนแล้วเสนาซู?” กู้ฟู่อันเอ่ยถามขึ้นเมื่อมาอยู่ในห้องหนังสือ

 ซูโม่เฉิงแสยะยิ้มออกมาอย่างมาดร้าย “อีกไม่นานก็จะเริ่มแล้วรออีกสักหน่อยเถิดท่านเสนา ใกล้จะถึงวันปีใหม่อีกไม่กี่วัน ผู้คนจะหลั่งไหลไปกราบไหว้ขอพรตามวัดต่างๆ และผู้คนมักเชื่อเรื่องคำทำนายทายทัก ข้าจะเริ่มสร้างสถานการณ์ในวันนั้น ว่าแต่แผนของท่านไปถึงไหน?”

 “กำลังเตรียมการอยู่ อีกไม่นานท่านก็จะได้เห็น” กู้ฟู่อันเอ่ยขึ้นก่อนจะยกจอกสุราขึ้นกระดก ก่อนเขาจะหันไปถามเสนาจางที่นั่งครุ่นคิดอะไรบางอย่าง” เสนาจางแล้วแผนท่านละ?” จางเจียโยวสะดุ้งตื่นจากภวังค์ความคิด ก่อนจะหันมาตอบอย่างเฉื่อยชา

 “แผนข้าก็อีกไม่นานกำลังเตรียมการอยู่ พวกท่านสบายใจได้” ก่อนที่ทั้งสามจะหัวเราะออกมาพร้อมกัน ดั่งคำที่ว่าผีย่อมเห็นผี 

 

 “คุณหนูข้ามีข่าวมารายงาน ตอนนี้ท่านดังมากเลยเจ้าค่ะ ไปทางไหนมีแต่คนพูดถึงแต่ท่าน” ปิงปิงรีบลอยมาเกาะตรงขอบหน้าต่างแล้วรายงาน

 “ข่าวว่าอย่างไร?” ชงอีเอ่ยถามแต่ตาก็ยังจ้องแผ่นกระดาษสีแดงที่นางเขียนอย่างตั้งใจ นางเขียนยันต์ป้องกันภูตผีปีศาจเอาไว้ เพื่อว่าอาจได้ใช้ในวันข้างหน้า

 “ข่าวว่าท่านชอบจับปลาสามมือ”

 “ดะ..เดี๋ยวข้าเคยแต่ได้ยินจับปลาสองมือ แล้วสามมือมายังไง?” ปิงปิงเท้าสะเอวมองชิงอีอย่างขัดใจ

 “ท่านก็ฟังข้าให้จบก่อนสิเจ้าคะ ที่มาของสามมือคือ เหว่ยอ๋อง องค์ชายซีห่าว และองค์รัชทายาทเจ้าค่ะ” ชิงอีได้ฟังก็หมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจ กับคำอธิบายของนาง

 “ก็วันก่อนท่านก็ไปกินบะหมี่กับสามคนนั้น และวันต่อมาท่านก็ไปกินบะหมี่กับสามคนนั้นอีก ผู้คนที่ตลาดเขาบอกว่าเขาเห็นพวกท่านอยู่ด้วยกันจริงๆ และข่าวยังพูดอีกว่า ท่านใช้ตำแหน่งท่านหญิงดึงบุรุษมาเป็นของตน เพราะคนธรรมดามิอาจทำได้ ข่าวยังบอกอีกว่าพฤติกรรมของท่านไม่เหมาะกับท่านหญิง เพราะสตรีที่ดีไม่สมควรไปไหนมาไหนกับบุรุษ ที่ไม่ใช่คู่หมายของตน เฮ้อ!พูดเยอะเหนื่อย อยากกินน้ำแดง” น้องกุมารปิงปิงรายยาวจนเหนื่อย ชิงอียกยิ้มด้วยความเอ็นดู

 “เดี๋ยวข้าจะลองทำน้ำแดง น้ำเขียว ให้เจ้า แต่ว่าอาจจะไม่เหมือนซะทีเดียวแต่ก็พอทดแทนกันได้” พอได้ยินว่านางจะทำของโปรดให้ ปิงปิงก็กระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจ

 “แล้วสามคนนี้ท่านชอบคนไหน?” จู่ๆ ปิงปิงก็ถามขึ้น 

 “ไม่ชอบใครสักคน เพิ่งจะรู้จักจะให้ชอบแล้วเหรอ อีกอย่างเรามาอยู่ในยุคจีนโบราณ ข้าต้องการให้พวกเขาช่วยเหลือ”

 “หมายถึงคบเพื่อผลประโยชน์” ปิงปิงแย้งขึ้น

 “มันก็ไม่ถึงขนานนั้น เจ้าก็เห็นวิญญาณเหล่านั้นมาขอให้ข้าช่วย หากมีพวกเขาทุกอย่างมันก็ง่ายขึ้น”

 “แต่ว่าท่านก็ได้กินบะหมี่ฟรีทุกวัน” ชิงอีได้ยินปิงปิงดักนางทุกทาง ก็เริ่มโมโหเจ้าตัวน้อนที่ฉลาดเกินไป

 “ข้าเปลี่ยนใจไม่ทำละน้ำแดงน้ำเขียว พูดมากดีนัก”

 “ท่านก็น้อยใจไปได้ คำว่าคบเพื่อผลประโยชน์ กับคบเพื่อพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน มันมีเส้นบางๆ กันเอาไว้ อยู่ที่ว่าเราจะเลือกใช้คำแบบไหน ในสถานการณ์ใด”

 “ปิงปิงเด็กน้อยเจ้าพูดได้ดีมาก เช่นนั้นข้าจะทำน้ำแดงและน้ำเขียวให้เจ้า” ปิงปิงยกยิ้ม

 “ขอบพระทัยเพคะท่านหญิง” ปิงปิงโค้งขอบคุณชิงอีด้วยความทะเล้น ชิงอีก็หัวเราะออกมากับท่าทางของนาง

 “ท่านไม่กังวลกับข่าวนี้หรือ?”

 “ปิงปิงเรามาจากยุคไหน ข้าไม่ใส่ใจหรอก แต่ว่าหากถึงที่สุดฝ่าบาทต้องปลดตำแหน่งของข้า ข้าก็ไม่เดือดร้อนอะไร ตำแหน่งนี้เป็นฝ่าบาทที่มอบให้ข้าเอง ข้าไม่ได้ไปเรียกร้องอยากได้เสียเมื่อไหร่ ข้าสรุปให้เจ้าฟังง่ายๆ พวกเขาต้องการทำลายชื่อเสียง และปลดตำแหน่งของข้า”

 

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • นางร้ายกลายเป็นแม่หมอปราบผี   ตอนที่17 ทดสอบสติปัญญาและความสามารถ

    เหล่าบรรดาขุนนางพากันปาดเหงื่อกับปริศนาคำทายของท่านหญิง เหล่าคุณหนูและฮูหยิน ต่างพากันขบคิดกับปริศนาคำทายกันอย่างขะมักเขม้น แม้แต่เหว่ยอ๋อง เจินซีห่าว และรัชทายาท ก็พากันขบคิดว่าปริศนาคำทายนี้หมายถึงสิ่งใด นางบอกเริ่มที่ง่ายๆ ก่อน อันนี้ง่ายสุดแล้วใช่หรือไม่ ฮ่องเต้แอบดูคำตอบที่นางให้มาก็แอบยิ้มด้วยความสะใจ คำตอบที่ส่งมาให้ฮ่องเต้ตรวจคำตอบยังไม่มีใครที่ตอบถูกเลยสักคน การสั่งสอนคนบางทีก็ไม่จำเป็นต้องใช้กำลังเสมอไป ธูปที่จุดบอกเวลาไหม้ลงเรื่อยๆ สร้างความกดดันให้กับเหล่าขุนนางเป็นอย่างมาก ก่อนขันทีจะประกาศหมดเวลา ทำเอาเหล่าขุนนางตกใจหน้าซีด เหตุใดเวลาถึงได้เดินเร็วนักเล่า “ทูลฝ่าบาทขอเวลาอีกสักครึ่งชั่วยามได้หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?” ฮ่องเต้หันไปมองว่านชิงอี ว่าจะเอาอย่างไร นางก็พยักหน้าให้โอกาสอีกครึ่งชั่วยาม “ได้เราจะให้เวลาอีกครึ่งชั่วยาม หากยังไม่ได้คำตอบก็ถือว่าไม่มีใครหาคำตอบได้ เราจะเก็บของรางวัล500ตำลึงเข้ากองคลัง” ไม่นานครึ่งชั่วยามก็มาถึงอีกครั้ง เหล่าขุนนางเหงื่อตก เพราะไม่สามารถคิดหาคำตอบได้ทันเวลา “เอาละหมดเวลาแล้ว วันนี้ท่านหญิงได้ทำให้เราได้เปิดหูเปิดตาไม่น้อย ขุนนางของเ

  • นางร้ายกลายเป็นแม่หมอปราบผี   ตอนที่16 ปริศนาคำนาย

    หลังจากเรื่องราวคลี่คลาย ทุกอย่างก็กลับมาปกติอีกครั้ง วันนี้เป็นงานเลี้ยงฉลอง การแต่งตั้งท่านหญิงจวินจู่ ซึ่งฝ่าบาทจัดงานนี้เพื่อนางโดยเฉพาะ ตระกูลต่างๆ มาพร้อมฮูหยินและคนในครอบครัว แม้จะไม่ยินดีที่จะมาร่วมงาน แต่ก็ไม่อาจขัดพระประสงค์ของฝ่าบาทได้ พองานใกล้เริ่มทุกคนก็พากันไปนั่งประจำที่ ที่ทางวังหลวงจัดเอาไว้ตามตำแหน่งของแต่ละคน วันนี้ท่านหญิงจวินจู่มาในชุดอาภรณ์สีขาวขลิบสีชมพูอ่อน ประดับด้วยปิ่นหยกสีขาวเข้าชุด นางไม่ได้ประโคมแต่งมากจนเกินไป ตั้งใจให้ดูเรียบๆ แต่ดูดี ถึงจะเป็นเจ้าของงาน แต่ก็ไม่อยากโดดเด่นจนเกินไป พอนางมาถึงบริเวณจัดงาน ก็เห็นวิญญาณของพระสนมกุ้ยเฟยยืนรออยู่ นางส่งยิ้มให้อย่างอ่อนโยน “วันนี้เจ้าดูงดงามมาก” “ขอบพระทัยเพคะ” ว่านชิงอียิ้มหวานให้พระสนม และก้าวเดินเข้างานไปพร้อมกับนาง ก่อนจะไปยอบกายถวายความเคารพฮ่องเต้ต่อหน้าพระที่นั่ง “ท่านหญิงวันนี้ท่านดูงดงามมากจริงๆ เอาละไปนั่งที่ของท่านเถิดงานจะเริ่มแล้ว” ฮ่องเต้เจินเฉินหลงกล่าวอย่างยิ้มแย้มอารมณ์ดี พอนางนั่งลงดนตรีก็เริ่มบรรเลง เหล่านางกำนัลก็เริ่มทำหน้าที่ ยกอาหารและสุรามาวาง ว่านชิงอีมองอาหารอย่างสนใจ อาหารในว

  • นางร้ายกลายเป็นแม่หมอปราบผี   ตอนที่15 พระราชโองการ

    “ท่านอ๋องยามนี้ผู้คนร่ำลือถึงข่าวท่านหญิง ว่าคบบุรุษทีเดียวสามคน ซึ่งในข่าวลือมีท่านร่วมอยู่ด้วย” อู่ถงหลังจากออกไปทำธุระกลับมา ได้ยินข่าวลือเรื่องท่านหญิงจึงรีบมารายงาน “เล่ามาให้ละเอียด” อู่ถงจึงเริ่มเล่าเรื่องที่ได้ยินมาอย่างละเอียดให้เขาฟัง ยิ่งฟังเขาก็ยิ่งไม่พอใจ ใครกันนะที่สร้างข่าวพวกนี้ขึ้น แล้วนางจะทนคำพูดเหล่านี้ได้หรือไม่? ช่วงนี้เขาต้องห่างจากนางออกมาหรือว่าเขาต้องทำตัวปกติดีนะ แต่ความคิดเขาก็ต้องหยุดชะงัก เมื่อองครักษ์เข้ามารายงานว่า องค์ชายซีห่าวและรัชทายาทมาขอเข้าพบ เหว่ยอ๋องถอนใจ ดีเหมือนกันพวกเขามา จะได้ช่วยกันคิดว่าจะทำอย่างไรดี เขารู้สึกเป็นห่วงความรู้สึกของนางจริงๆ “เสด็จพี่ท่านได้ข่าวหรือยัง?” องค์ชายซีห่าวร้อนใจร้องถามตั้งแต่ยังเดินมาไม่ถึง “เหว่ยอ๋องเราจะทำอย่างไรกันดี นางต้องทุกข์ใจมากเป็นแน่ เรื่องนี้ข้าต้องหาต้นตอคนปล่อยข่าวให้ได้” รัชทายาทเอ่ยน้ำเสียงเจ็บแค้น กับคนสร้างข่าวลือที่ไม่เป็นจริง “เราจะโทษคนปล่อยข่าวก็ไม่ถูก พวกเราออกไปข้างนอกกับนางจริงมีคนเห็นมากมาย เราควรคิดหาวิธีดีกว่า ว่าต่อไปพวกเราจะไปมาหาสู่นางได้อย่างไร เพราะนางเหมือนจะอยากให้พวกเราช่

  • นางร้ายกลายเป็นแม่หมอปราบผี   ตอนที่14 ข่าวลือ

    จางเจียอีพอกลับมาถึงจวน ก็รีบตรงไปหาฮูหยินจางทันที นางต้องพยายามข่มเก็บอาการเคืองขุ่นและน้อยใจรัชทายาทเอาไว้ ไม่ให้แสดงออกมา เขาปกป้องสตรีนางนั้นอย่างออกหน้า แม้เขาและนางจะยังไม่ได้หมั้นหมายแต่ แต่ก็ได้มีการพูดคุยถึงว่าจะให้หมั้นหมายกัน ตั้งแต่ตระกูลจางรับรู้ข่าวนั้น ก็ได้ให้นางเตรียมตัวฝึกฝนกิริยามารยาท เพราะหากหมั้นและแต่งกับรัชทายาท นั้นก็หมายถึงตำแหน่งฮองเฮาในวันข้างหน้า เพราะฉะนั้นนางจึงต้องฝึกฝนอย่างเข้มงวด แต่ว่าวันเวลาผ่านไปรัชทายาท ก็ไม่เคยมีปฏิสัมพันธ์กับตระกูลจาง เจอกันในงานก็เพียงทักทาย ยามนี้ยังมาแสดงท่าทีแบบนี้ ใจของนางเหมือนแหลกสลาย พอมาถึงเรือนมารดา จางเจียอีก็โผเข้ากอดนางแน่นพร้อมกับร้องไห้อย่างอัดอั้น จากนั้นก็เล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ฮูหยินจางฟัง ฮูหยินจางได้ฟังก็นึกขุ่นเคืองรัชทายาท และพาลโกรธไปถึงท่านหญิง เป็นท่านหญิงแล้วอย่างไร คิดจะแย่งบุรุษที่มีคู่หมายแล้วได้อย่างงั้นรึ แต่ว่าวันนี้บุตรสาวนางบอกมีเหว่ยอ๋อง องค์ชายซีห่าว และองค์รัชทายาท ฮึเรื่องนี้นางจะปล่อยไว้ไม่ได้ ต้องเรียกอีกสามตระกูลมาคุยกัน “ท่านแม่ข้าไม่ยอม ข้าเตรียมตัวมาตั้งหลายปี หากข้าไม่ได้แต่งกับรั

  • นางร้ายกลายเป็นแม่หมอปราบผี   ตอนที่13 วิญญาณอยากเป็นผู้ช่วย

    “ถวายบังคมรัชทายาท ท่านอ๋อง องค์ชาย สตรีสามนางยอบกายถวายความเคารพอย่างงดงาม ตามแบบฉบับคุณหนูที่เพียบพร้อม แต่ก็ต้องชะงักเมื่อรัชทายาทเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ “เหตุใดไม่ทำความเคารพท่านหญิง หรือว่านี่คือสิ่งที่เรียกว่าสตรีที่เพียบพร้อมเขาปฎิบัติกับคนที่สูงกว่าหรือ?” สตรีสามนางหน้าซีดเผือด ไม่คิดว่าพวกนางจะพลาดในสิ่งที่ไม่ควรพลาดเช่นนี้ “ถวายบังคมท่านหญิงจวินจู่ ขอประทานอภัยที่หม่อมฉันมีตาหามีแววไม่ ได้โปรดท่านหญิงอย่าถือสา” จางเจียอีเอ่ยออกมาอย่างอ่อนหวาน แม้ภายนอกจะแสดงออกมาว่ารู้สึกผิด แต่ภายในใจนั้นกลับสุ่มไปด้วยเพลิงโทสะจางเจียอีจิกเล็บลงไปบนฝ่ามือจนรู้สึกเจ็บ เพื่อระงับอารมณ์และความรู้สึกภายในใจ เหว่ยอ๋องยืนอยู่ด้านหลังของว่านชิงอี มีองค์ชายซีห่าวและรัชทายาทยืนประกบซ้ายขวาคล้ายดั่งองครักษ์ ยิ่งทำให้สตรีสามนางแทบอยากกรีดร้องออกมา จึงได้แต่ขอตัวและจากไปด้วยความแค้นเคือง หลังจากพวกนางไปแล้วว่านชิงอีก็หมุนกายเดินเข้าไปในร้านบะหมี่ ก่อนจะสั่งอย่างละเอียดว่าชามไหนใส่อะไรไม่ใส่อะไร ทำเอาสามบุรุษหนุ่มยกยิ้มด้วยความพอใจที่นางให้ความใส่ใจกับพวกเขา พอชามบะหมี่ถูกยกมาวางบนโต๊ะ ว่านชิงอี

  • นางร้ายกลายเป็นแม่หมอปราบผี   ตอนที่12 บุรุษที่หมายตา

    จวนสกุลว่าน เสนาบดีว่านพอกลับมาถึงจวนก็รีบตรงดิ่งไปหามารดา วันนี้เขารู้สึกมีความสุขอย่างยากจะบรรยาย เขารอแทบไม่ไหวที่จะเล่าเรื่องราวที่รับรู้ในท้องพระโรงให้ผู้เป็นมารดาฟัง แต่ก็ต้องแปลกใจที่ไม่เห็นมารดาอยู่ที่เรือน พอสอบถามบ่าวรับใช้ก็ได้ความว่านางไปที่เรือนใหญ่ได้สักพักแล้ว เขาจึงเปลี่ยนเส้นทางไปที่เรือนใหญ่ทันที พอมาถึงก็เห็นทุกคนนั่งกันอยู่อย่างพร้อมหน้าพร้อมตา เขาจึงคิดว่าเป็นการดีที่จะได้เล่าทีเดียว แต่พอเขาเล่าจบทุกคนกลับนั่งนิ่งไม่มีอาการดีใจเลยสักนิด เขารู้สึกผิดหวังที่ทุกคนไม่ให้ความสำคัญกับข่าวนี้ “เหตุใดไม่มีใครดีใจกับข่าวนี้เลย” ? “จื่อหยวนข่าวเจ้านะพวกข้ารู้ตั้งนานแล้ว” ฮูหยินผู้เฒ่าเอ่ยยิ้มๆ นึกขำบุตรชายที่รีบรุดมาแจ้งข่าว แต่ที่ไหนได้ข่าวนี้กระจายออกมาก่อนหน้านี้แล้ว ไม่รู้ว่าเป็นผู้ใดที่ออกมากระพือข่าวนอกวัง “พวกข้าดีใจก่อนเจ้าจะมาแล้ว แต่ว่ามีข่าวใหม่ที่เจ้ายังไม่รู้อีกนะ” ฮูหยินผู้เฒ่าเอ่ยขึ้นแล้วยกชาขึ้นจิบอย่างช้าๆ ไม่รีบร้อนที่จะเล่าออกไป ทำให้เสนาว่านร้อนใจอยากรู้มากขึ้น “ท่านแม่ท่านรีบเล่ามาเถิดข้ารอไม่ไหวแล้ว” ฮูหยินผู้เฒ่ายื่นกระดาษปกแข็งมาให้เขาตรงหน้า

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status