แชร์

ตอนที่15 พระราชโองการ

ผู้เขียน: คุณแม่แฝดสาม
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-09-23 13:52:40

 “ท่านอ๋องยามนี้ผู้คนร่ำลือถึงข่าวท่านหญิง ว่าคบบุรุษทีเดียวสามคน ซึ่งในข่าวลือมีท่านร่วมอยู่ด้วย” อู่ถงหลังจากออกไปทำธุระกลับมา ได้ยินข่าวลือเรื่องท่านหญิงจึงรีบมารายงาน 

 “เล่ามาให้ละเอียด” อู่ถงจึงเริ่มเล่าเรื่องที่ได้ยินมาอย่างละเอียดให้เขาฟัง ยิ่งฟังเขาก็ยิ่งไม่พอใจ ใครกันนะที่สร้างข่าวพวกนี้ขึ้น แล้วนางจะทนคำพูดเหล่านี้ได้หรือไม่? ช่วงนี้เขาต้องห่างจากนางออกมาหรือว่าเขาต้องทำตัวปกติดีนะ แต่ความคิดเขาก็ต้องหยุดชะงัก เมื่อองครักษ์เข้ามารายงานว่า องค์ชายซีห่าวและรัชทายาทมาขอเข้าพบ เหว่ยอ๋องถอนใจ ดีเหมือนกันพวกเขามา จะได้ช่วยกันคิดว่าจะทำอย่างไรดี เขารู้สึกเป็นห่วงความรู้สึกของนางจริงๆ

 “เสด็จพี่ท่านได้ข่าวหรือยัง?” องค์ชายซีห่าวร้อนใจร้องถามตั้งแต่ยังเดินมาไม่ถึง

 “เหว่ยอ๋องเราจะทำอย่างไรกันดี นางต้องทุกข์ใจมากเป็นแน่ เรื่องนี้ข้าต้องหาต้นตอคนปล่อยข่าวให้ได้” รัชทายาทเอ่ยน้ำเสียงเจ็บแค้น กับคนสร้างข่าวลือที่ไม่เป็นจริง

 “เราจะโทษคนปล่อยข่าวก็ไม่ถูก พวกเราออกไปข้างนอกกับนางจริงมีคนเห็นมากมาย เราควรคิดหาวิธีดีกว่า ว่าต่อไปพวกเราจะไปมาหาสู่นางได้อย่างไร เพราะนางเหมือนจะอยากให้พวกเราช่วย เรื่องวิญญาณพวกนั่นที่มาขอให้นางช่วย ที่จริงก็ไม่ใช่ปัญหาของนางที่ต้องมาช่วย แต่เพราะวิญญาณสามารถติดต่อนางได้เพียงผู้เดียว ราษฎรเดือดร้อนต้องการความช่วยเหลือ หากมีนางพวกเราสามารถกำจัดคนชั่วได้มากมาย พวกเราต้องไปหาเสด็จพ่อ” เหว่ยอ๋องกล่าวประโยคยาวๆ เป็นครั้งแรก เขาเองก็นึกแปลกใจ

 “เสด็จพี่มีแผนแล้วหรือ?” องค์ชายซีห่าวเอ่ยถามเพราะหากไปพบเสด็จพ่อนั้นคือมีแผน เพียงแต่ให้เสด็จพ่อออกหน้า

 “อืมไปกันเถอะ”

 จวนสกุลว่าน ยามนี้เรือนใหญ่กำลังกังวลกับข่าวของท่านหญิง ท่านผู้เฒ่าถึงกับเป็นลม ส่วนเสนาว่านเดินไปเดินมา จนทำให้ทุกคนเวียนหัว ฮูหยินว่านซูอวี้ ชิงหลิน ชิงหลาน ก็พากันนั่งหน้าเครียด โดยที่ทุกคนไม่รู้ว่าเจ้าตัวอย่างว่านชิงอี นางไม่กังวลกับข่าวนี้เลยสักนิด ยามนี้นางกำลังทำน้ำแดงที่ทำจากน้ำแตงโม และน้ำเขียวที่ทำจากน้ำใบเตย นางเคี่ยวน้ำตาลผสมน้ำใบเตย ตอนนี้ส่งกลิ่นหอมคละคลุ้งไปทั่วบริเวณ ปิงปิงที่ยืนมองนางทำก็ยิ้มหน้าบาน

 “เดี๋ยวเราต้องตักไปให้พวกเขาชิมด้วย”

 “เสร็จแล้วหรือเจ้าค่ะ”

 “น้ำแตงโมเจ้าดื่มได้เลย แต่น้ำใบเตยต้องรอให้เย็นเสียก่อน เจ้านั่งดื่มอยู่ตรงนี้ เดี๋ยวข้าจะยกไปให้พวกเขา”

 ชิงอียกเหยือกน้ำใบเตยเดินไปที่เรือนใหญ่ แต่ก็ต้องชะงักที่เห็นท่าทางและอาการของทุกคน ที่ดูตึงเครียดและวิตกกังวลอย่างเห็นได้ชัด นางรีบวางเหยือกน้ำใบเตยลงบนโต๊ะ ก่อนจะเทน้ำใบเตยใส่ถ้วยชา เพื่อให้คลายความร้อนลง 

 “วันนี้ข้าทำน้ำใบเตยที่มีกลิ่นหอมเพื่อเป็นนิมิตรหมายอันดี ว่าข้าว่านชิงอีจะมีแต่ข่าวดีๆ ข่าวเน่าๆ เสียๆ เหม็นๆ ไม่มีทางเกิดขึ้น” นางกล่าวจบ ขันทีจากวังหลวงก็เดินเข้ามา

 “ประกาศราชโองการ แต่งตั้งท่านหญิงจวินจู่ ให้เป็นผู้บังคับบัญชาฝ่ายสืบสวนคดี ทำงานควบคู่กับ เหว่ยอ๋อง องค์ชายซีห่าว และองค์รัชทายาท จบราชโองการ”

 ท่านผู้เฒ่าจากท่าทีอ่อนแรง ยามนี้เรี่ยวแรงกลับมาอย่างกระทันหัน เสนาว่านคราวนี้นั่งลงได้เสียที หลังจากเดินไปเดินมาทั้งวัน ส่วนฮูหยินซูอวี้และบุตรสาวอีกสองคน รีบไปหยิบน้ำใบเตยมานั่งเป่าอย่างผ่อนคลายและสบายใจ ว่านชิงอีถือราชโองการอย่างเหม่อลอย แบบนี้ก็ดีภารกิจช่วยเหลือผู้คนและวิญญาณจะได้ง่ายขึ้น 

 ทั่วเมืองหลวงยามนี้มีแผ่นกระดาษติดป้ายประกาศจากวังหลวง

 “ประกาศราชโองการแต่งตั้งท่านหญิงจวินจู่ เป็นผู้บังคับบัญชาฝ่ายสืบสวนคดี ทำงานร่วมกับ เหว่ยอ๋อง รัชทายาทเฟยเทียน องค์ชายเจินซีห่าว หากยังมีข่าวลือเรื่องความไม่เหมาะสม จะถือว่าขัดราชโองการ มีโทษประหารชีวิต”

 ผู้คนมาต่างห้อมล้อมเข้ามาอ่านกันอย่างเนืองแน่น พออ่านเสร็จก็พากันทำหน้างงกับข่าวลือก่อนหน้า แล้วข่าวที่ว่าพวกเขาไปไหนมาไหนด้วยกัน เหตุเพราะต้องทำงานสืบสวนร่วมกันสินะ หลายคนอ่านเสร็จก็นึกโทษตัวเองที่เชื่อข่าวลือง่ายเกินไป เกือบจะโดนประหารชีวิตไปแล้ว

 ตามจุดติดประกาศยังมีทหารยืนอธิบายอีกด้วยว่า คราแรกที่ฝ่าบาทยังไม่ประกาศ เป็นเพราะอยากให้ท่านหญิงทดลองงานดูก่อน ยามนี้รู้แล้วว่าท่านหญิงมีความสามารถ ยากจะหาใครเทียบได้ ฝ่าบาทจึงได้ประกาศแต่งตั้งออกมา

 ยามนี้ลมเปลี่ยนทิศทาง ผู้คนเปลี่ยนมาชื่นชมท่านหญิง ที่ถึงแม้จะเป็นสตรีวัยเยาว์ แต่ก็มีความสามารถ และยังทำงานเยี่ยงบุรุษ สมควรเอาเป็นตัวอย่าง

 จวนตระกูลซูยามนี้เสนาซูโม่เฉิงกราดเกรี้ยวอย่างถึงที่สุด” เพล้ง!เสียงถ้วยชาแตกกระทบพื้น นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน! พวกเขาลงทุนลงแรงเปลืองสมอง สุดท้ายนางได้มาอีกตำแหน่ง เสียงของตกแตกดังออกมาอย่างต่อเนื่อง ฮูหยินซูและซูโม่หลันก็ไม่กล้าเข้าใกล้

 จวนตระกูลกู้ เสนากู้ฟู่อันกราดเกรี้ยวไม่แพ้เสนาซูโม่เฉิง ห้องหนังสือยามนี้เละเทะไม่เป็นท่า ฮูหยินกู้และกู้ผิงอันไม่กล้าสู้หน้า เพราะแผนการนี้จะว่าไปนางก็ช่วยฮูหยินจางคิด แต่ทุกอย่างกลับพลิกผัน ท่านหญิงไม่เสียหายแต่กลับได้รับคำเยินยอ แถมได้มาอีกตำแหน่ง เสนากู้ไม่โมโหสิแปลก เหมือนลงทุนเปลืองสมองเเต่ไม่ได้อะไรกลับมา 

 จวนตระกูลจาง เพี๊ยะ!เสนาจางเจียโหวระงับความโกรธไม่ไหว ฟาดฝ่ามือลงบนใบหน้าฮูหยินจางเสียงดังสนั่น

 “ความคิดนี้เป็นความคิดของเจ้าใช่หรือไม่ เป็นอย่างไรละคราวนี้ นางได้ไปอีกตำแหน่งแล้ว แผนของเจ้ามันไม่ได้เรื่อง ต่อไปเจ้าอยู่เฉยๆ ไม่ต้องคิดแผนอะไรอีก”

 

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • นางร้ายกลายเป็นแม่หมอปราบผี   ตอนที่17 ทดสอบสติปัญญาและความสามารถ

    เหล่าบรรดาขุนนางพากันปาดเหงื่อกับปริศนาคำทายของท่านหญิง เหล่าคุณหนูและฮูหยิน ต่างพากันขบคิดกับปริศนาคำทายกันอย่างขะมักเขม้น แม้แต่เหว่ยอ๋อง เจินซีห่าว และรัชทายาท ก็พากันขบคิดว่าปริศนาคำทายนี้หมายถึงสิ่งใด นางบอกเริ่มที่ง่ายๆ ก่อน อันนี้ง่ายสุดแล้วใช่หรือไม่ ฮ่องเต้แอบดูคำตอบที่นางให้มาก็แอบยิ้มด้วยความสะใจ คำตอบที่ส่งมาให้ฮ่องเต้ตรวจคำตอบยังไม่มีใครที่ตอบถูกเลยสักคน การสั่งสอนคนบางทีก็ไม่จำเป็นต้องใช้กำลังเสมอไป ธูปที่จุดบอกเวลาไหม้ลงเรื่อยๆ สร้างความกดดันให้กับเหล่าขุนนางเป็นอย่างมาก ก่อนขันทีจะประกาศหมดเวลา ทำเอาเหล่าขุนนางตกใจหน้าซีด เหตุใดเวลาถึงได้เดินเร็วนักเล่า “ทูลฝ่าบาทขอเวลาอีกสักครึ่งชั่วยามได้หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?” ฮ่องเต้หันไปมองว่านชิงอี ว่าจะเอาอย่างไร นางก็พยักหน้าให้โอกาสอีกครึ่งชั่วยาม “ได้เราจะให้เวลาอีกครึ่งชั่วยาม หากยังไม่ได้คำตอบก็ถือว่าไม่มีใครหาคำตอบได้ เราจะเก็บของรางวัล500ตำลึงเข้ากองคลัง” ไม่นานครึ่งชั่วยามก็มาถึงอีกครั้ง เหล่าขุนนางเหงื่อตก เพราะไม่สามารถคิดหาคำตอบได้ทันเวลา “เอาละหมดเวลาแล้ว วันนี้ท่านหญิงได้ทำให้เราได้เปิดหูเปิดตาไม่น้อย ขุนนางของเ

  • นางร้ายกลายเป็นแม่หมอปราบผี   ตอนที่16 ปริศนาคำนาย

    หลังจากเรื่องราวคลี่คลาย ทุกอย่างก็กลับมาปกติอีกครั้ง วันนี้เป็นงานเลี้ยงฉลอง การแต่งตั้งท่านหญิงจวินจู่ ซึ่งฝ่าบาทจัดงานนี้เพื่อนางโดยเฉพาะ ตระกูลต่างๆ มาพร้อมฮูหยินและคนในครอบครัว แม้จะไม่ยินดีที่จะมาร่วมงาน แต่ก็ไม่อาจขัดพระประสงค์ของฝ่าบาทได้ พองานใกล้เริ่มทุกคนก็พากันไปนั่งประจำที่ ที่ทางวังหลวงจัดเอาไว้ตามตำแหน่งของแต่ละคน วันนี้ท่านหญิงจวินจู่มาในชุดอาภรณ์สีขาวขลิบสีชมพูอ่อน ประดับด้วยปิ่นหยกสีขาวเข้าชุด นางไม่ได้ประโคมแต่งมากจนเกินไป ตั้งใจให้ดูเรียบๆ แต่ดูดี ถึงจะเป็นเจ้าของงาน แต่ก็ไม่อยากโดดเด่นจนเกินไป พอนางมาถึงบริเวณจัดงาน ก็เห็นวิญญาณของพระสนมกุ้ยเฟยยืนรออยู่ นางส่งยิ้มให้อย่างอ่อนโยน “วันนี้เจ้าดูงดงามมาก” “ขอบพระทัยเพคะ” ว่านชิงอียิ้มหวานให้พระสนม และก้าวเดินเข้างานไปพร้อมกับนาง ก่อนจะไปยอบกายถวายความเคารพฮ่องเต้ต่อหน้าพระที่นั่ง “ท่านหญิงวันนี้ท่านดูงดงามมากจริงๆ เอาละไปนั่งที่ของท่านเถิดงานจะเริ่มแล้ว” ฮ่องเต้เจินเฉินหลงกล่าวอย่างยิ้มแย้มอารมณ์ดี พอนางนั่งลงดนตรีก็เริ่มบรรเลง เหล่านางกำนัลก็เริ่มทำหน้าที่ ยกอาหารและสุรามาวาง ว่านชิงอีมองอาหารอย่างสนใจ อาหารในว

  • นางร้ายกลายเป็นแม่หมอปราบผี   ตอนที่15 พระราชโองการ

    “ท่านอ๋องยามนี้ผู้คนร่ำลือถึงข่าวท่านหญิง ว่าคบบุรุษทีเดียวสามคน ซึ่งในข่าวลือมีท่านร่วมอยู่ด้วย” อู่ถงหลังจากออกไปทำธุระกลับมา ได้ยินข่าวลือเรื่องท่านหญิงจึงรีบมารายงาน “เล่ามาให้ละเอียด” อู่ถงจึงเริ่มเล่าเรื่องที่ได้ยินมาอย่างละเอียดให้เขาฟัง ยิ่งฟังเขาก็ยิ่งไม่พอใจ ใครกันนะที่สร้างข่าวพวกนี้ขึ้น แล้วนางจะทนคำพูดเหล่านี้ได้หรือไม่? ช่วงนี้เขาต้องห่างจากนางออกมาหรือว่าเขาต้องทำตัวปกติดีนะ แต่ความคิดเขาก็ต้องหยุดชะงัก เมื่อองครักษ์เข้ามารายงานว่า องค์ชายซีห่าวและรัชทายาทมาขอเข้าพบ เหว่ยอ๋องถอนใจ ดีเหมือนกันพวกเขามา จะได้ช่วยกันคิดว่าจะทำอย่างไรดี เขารู้สึกเป็นห่วงความรู้สึกของนางจริงๆ “เสด็จพี่ท่านได้ข่าวหรือยัง?” องค์ชายซีห่าวร้อนใจร้องถามตั้งแต่ยังเดินมาไม่ถึง “เหว่ยอ๋องเราจะทำอย่างไรกันดี นางต้องทุกข์ใจมากเป็นแน่ เรื่องนี้ข้าต้องหาต้นตอคนปล่อยข่าวให้ได้” รัชทายาทเอ่ยน้ำเสียงเจ็บแค้น กับคนสร้างข่าวลือที่ไม่เป็นจริง “เราจะโทษคนปล่อยข่าวก็ไม่ถูก พวกเราออกไปข้างนอกกับนางจริงมีคนเห็นมากมาย เราควรคิดหาวิธีดีกว่า ว่าต่อไปพวกเราจะไปมาหาสู่นางได้อย่างไร เพราะนางเหมือนจะอยากให้พวกเราช่

  • นางร้ายกลายเป็นแม่หมอปราบผี   ตอนที่14 ข่าวลือ

    จางเจียอีพอกลับมาถึงจวน ก็รีบตรงไปหาฮูหยินจางทันที นางต้องพยายามข่มเก็บอาการเคืองขุ่นและน้อยใจรัชทายาทเอาไว้ ไม่ให้แสดงออกมา เขาปกป้องสตรีนางนั้นอย่างออกหน้า แม้เขาและนางจะยังไม่ได้หมั้นหมายแต่ แต่ก็ได้มีการพูดคุยถึงว่าจะให้หมั้นหมายกัน ตั้งแต่ตระกูลจางรับรู้ข่าวนั้น ก็ได้ให้นางเตรียมตัวฝึกฝนกิริยามารยาท เพราะหากหมั้นและแต่งกับรัชทายาท นั้นก็หมายถึงตำแหน่งฮองเฮาในวันข้างหน้า เพราะฉะนั้นนางจึงต้องฝึกฝนอย่างเข้มงวด แต่ว่าวันเวลาผ่านไปรัชทายาท ก็ไม่เคยมีปฏิสัมพันธ์กับตระกูลจาง เจอกันในงานก็เพียงทักทาย ยามนี้ยังมาแสดงท่าทีแบบนี้ ใจของนางเหมือนแหลกสลาย พอมาถึงเรือนมารดา จางเจียอีก็โผเข้ากอดนางแน่นพร้อมกับร้องไห้อย่างอัดอั้น จากนั้นก็เล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ฮูหยินจางฟัง ฮูหยินจางได้ฟังก็นึกขุ่นเคืองรัชทายาท และพาลโกรธไปถึงท่านหญิง เป็นท่านหญิงแล้วอย่างไร คิดจะแย่งบุรุษที่มีคู่หมายแล้วได้อย่างงั้นรึ แต่ว่าวันนี้บุตรสาวนางบอกมีเหว่ยอ๋อง องค์ชายซีห่าว และองค์รัชทายาท ฮึเรื่องนี้นางจะปล่อยไว้ไม่ได้ ต้องเรียกอีกสามตระกูลมาคุยกัน “ท่านแม่ข้าไม่ยอม ข้าเตรียมตัวมาตั้งหลายปี หากข้าไม่ได้แต่งกับรั

  • นางร้ายกลายเป็นแม่หมอปราบผี   ตอนที่13 วิญญาณอยากเป็นผู้ช่วย

    “ถวายบังคมรัชทายาท ท่านอ๋อง องค์ชาย สตรีสามนางยอบกายถวายความเคารพอย่างงดงาม ตามแบบฉบับคุณหนูที่เพียบพร้อม แต่ก็ต้องชะงักเมื่อรัชทายาทเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ “เหตุใดไม่ทำความเคารพท่านหญิง หรือว่านี่คือสิ่งที่เรียกว่าสตรีที่เพียบพร้อมเขาปฎิบัติกับคนที่สูงกว่าหรือ?” สตรีสามนางหน้าซีดเผือด ไม่คิดว่าพวกนางจะพลาดในสิ่งที่ไม่ควรพลาดเช่นนี้ “ถวายบังคมท่านหญิงจวินจู่ ขอประทานอภัยที่หม่อมฉันมีตาหามีแววไม่ ได้โปรดท่านหญิงอย่าถือสา” จางเจียอีเอ่ยออกมาอย่างอ่อนหวาน แม้ภายนอกจะแสดงออกมาว่ารู้สึกผิด แต่ภายในใจนั้นกลับสุ่มไปด้วยเพลิงโทสะจางเจียอีจิกเล็บลงไปบนฝ่ามือจนรู้สึกเจ็บ เพื่อระงับอารมณ์และความรู้สึกภายในใจ เหว่ยอ๋องยืนอยู่ด้านหลังของว่านชิงอี มีองค์ชายซีห่าวและรัชทายาทยืนประกบซ้ายขวาคล้ายดั่งองครักษ์ ยิ่งทำให้สตรีสามนางแทบอยากกรีดร้องออกมา จึงได้แต่ขอตัวและจากไปด้วยความแค้นเคือง หลังจากพวกนางไปแล้วว่านชิงอีก็หมุนกายเดินเข้าไปในร้านบะหมี่ ก่อนจะสั่งอย่างละเอียดว่าชามไหนใส่อะไรไม่ใส่อะไร ทำเอาสามบุรุษหนุ่มยกยิ้มด้วยความพอใจที่นางให้ความใส่ใจกับพวกเขา พอชามบะหมี่ถูกยกมาวางบนโต๊ะ ว่านชิงอี

  • นางร้ายกลายเป็นแม่หมอปราบผี   ตอนที่12 บุรุษที่หมายตา

    จวนสกุลว่าน เสนาบดีว่านพอกลับมาถึงจวนก็รีบตรงดิ่งไปหามารดา วันนี้เขารู้สึกมีความสุขอย่างยากจะบรรยาย เขารอแทบไม่ไหวที่จะเล่าเรื่องราวที่รับรู้ในท้องพระโรงให้ผู้เป็นมารดาฟัง แต่ก็ต้องแปลกใจที่ไม่เห็นมารดาอยู่ที่เรือน พอสอบถามบ่าวรับใช้ก็ได้ความว่านางไปที่เรือนใหญ่ได้สักพักแล้ว เขาจึงเปลี่ยนเส้นทางไปที่เรือนใหญ่ทันที พอมาถึงก็เห็นทุกคนนั่งกันอยู่อย่างพร้อมหน้าพร้อมตา เขาจึงคิดว่าเป็นการดีที่จะได้เล่าทีเดียว แต่พอเขาเล่าจบทุกคนกลับนั่งนิ่งไม่มีอาการดีใจเลยสักนิด เขารู้สึกผิดหวังที่ทุกคนไม่ให้ความสำคัญกับข่าวนี้ “เหตุใดไม่มีใครดีใจกับข่าวนี้เลย” ? “จื่อหยวนข่าวเจ้านะพวกข้ารู้ตั้งนานแล้ว” ฮูหยินผู้เฒ่าเอ่ยยิ้มๆ นึกขำบุตรชายที่รีบรุดมาแจ้งข่าว แต่ที่ไหนได้ข่าวนี้กระจายออกมาก่อนหน้านี้แล้ว ไม่รู้ว่าเป็นผู้ใดที่ออกมากระพือข่าวนอกวัง “พวกข้าดีใจก่อนเจ้าจะมาแล้ว แต่ว่ามีข่าวใหม่ที่เจ้ายังไม่รู้อีกนะ” ฮูหยินผู้เฒ่าเอ่ยขึ้นแล้วยกชาขึ้นจิบอย่างช้าๆ ไม่รีบร้อนที่จะเล่าออกไป ทำให้เสนาว่านร้อนใจอยากรู้มากขึ้น “ท่านแม่ท่านรีบเล่ามาเถิดข้ารอไม่ไหวแล้ว” ฮูหยินผู้เฒ่ายื่นกระดาษปกแข็งมาให้เขาตรงหน้า

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status