Share

ตอนที่9 ท่านหญิงจวินจู่

last update Last Updated: 2025-09-21 17:11:06

 เช้าวันต่อมา ฮ่องเต้ได้ส่งของรางวัลมาให้ว่านชิงอีที่จวน ซึ่งปกติคนที่นำมาจะเป็นหวังกงกง ขันทีคนสนิทของฮ่องเต้ แต่ว่าหวังกงกงถูกจับขังคุก ยังหาขันทีมารับตำแหน่งไม่ได้ ฮ่องเต้จึงให้ราชเลขามาส่งแทน

 “คุณหนูว่านชิงอีรับราชโองการ เนื่องจากคุณหนูว่านชิงอี มีความรู้ความสามารถ อีกทั้งกิริยามารยาทงดงาม จึงขอแต่งตั้งให้เป็นท่านหญิงจวินจู่ พระราชทานทองคำ10หีบผ้าไหม100พับ ตั๋วเงินหนึ่งหมื่นตำลึง จบราชโองการ” ฮูหยินผู้เฒ่ารีบให้คนหยิบถุงเงินให้กับราชเลขาเพื่อเป็นการขอบคุณ

 ราชเลขากลับไปนานแล้วแต่คนสกุลจ้าวยังคงคุกเข่าตกในภวังค์ของตน ทุกอย่างคล้ายดั่งความฝัน เสมือนเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องจริง ว่านชิงอีให้เสี่ยวหมานประคองไปนั่ง แล้วนางก็นั่งมองพวกเขาอย่างเบื่อหน่ายและเอือมระอา พวกเขามีอาการแบบนี้มาตั้งแต่เมื่อวานแล้ว พอมาวันนี้อาการยิ่งหนักกว่าเดิม แต่พอนางจะเรียกให้พวกเขาลุกขึ้น คนจากจวนอ๋องก็เข้ามา 

 “ทูลท่านหญิงจวินจู่ ท่านอ๋องให้ส่งตั๋วเงินมาขอบคุณหนึ่งหมื่นตำลึงพ่ะย่ะค่ะ” ว่านชิงอีแทบไม่อยากเชื่อหูตัวเอง นางขอเขาห้าพันตำลึงเขาให้มาหนึ่งหมื่น ให้ประชดนางหรือเปล่านะ พอนางหันกลับมามองพวกเขาที่นั่งคุกเข่าอยู่ ก็ต้องกลอกตามองบน อาการหนักว่าก่อนหน้านี้อีก นางจึงรีบให้เสี่ยวหมานประคองพานางกลับเรือน ปล่อยให้พวกเขาหลุดออกมาจากความฝันและได้สติได้เองแล้วกัน

 สามวันถัดมาข่าวพระราชทานบรรดาศักดิ์แต่งตั้งคุณหนูสามว่านชิงอี เป็นท่านหญิงจวินจู่ แพร่กระจายออกไปอย่างรวดเร็ว ผู้คนต่างพูดคุยวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างหนาหู ในความไม่เหมาะสมกับตำแหน่งท่านหญิงจวินจู่ เพราะก่อนหน้านี้ไม่มีใครไม่รู้ว่า คุณหนูสามสามมีนิสัยเช่นไร ผู้คนยังคงติดภาพจำของว่านชิงอีคนเดิม เพราะไม่รู้ว่านางได้เปลี่ยนไปแล้ว

 บนโรงน้ำชาจินไฉ่ชั้นสองห้องพิเศษ สำหรับเชื้อพระวงศ์และคุณหนูคุณชาย ที่มักให้คนมาจองเวลาออกมาข้างนอกเพื่อแวะดื่มชาและกินอาหาร เหว่ยอ๋อง เจินซีห่าว องค์รัชายาทเจินเฟยเทียน นั่งอยู่ห้องริมระเบียงที่มองเห็นด้านล่างได้อย่างชัดเจน ฟังผู้คนวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสมของคุณหนูสามถึงตำแหน่งที่ได้รับ องค์รัชทายาทนั่งฟังอยู่นานก็เอ่ย

 “ข้าไม่เข้าใจเหตุใดเสด็จพ่อถึงแต่งตั้งนาง ในเมื่อชื่อเสียงของนางแย่ขนานนี้” แต่เหว่ยอ๋องและองค์ชายเจินซีห่าวกลับนั่งเงียบ ไม่ออกความคิดเห็นใดๆ สร้างความแปลกใจให้กับเขาเป็นอย่างมาก

 “พวกเจ้าไม่แสดงความคิดเห็นหน่อยหรือ?”

 “ก็ข้าไม่มีความคิดเห็น” เหว่ยอ๋องเอ่ยขึ้นอย่างไม่ใส่ใจ ก่อนจะยกชาขึ้นจิบอย่างเฉื่อยชา 

 “ข้าก็ไม่มีเหมือนกัน” องค์ชายเจินซีห่าวเอ่ยขึ้นมาบ้าง ทำเอารัชทายาทยิ่งแปลกใจ สตรีนางนั้นชื่อเสียงไม่ดีผู้คนต่างไม่เห็นด้วย แต่เขาสองคนกลับไม่มีความคิดเห็น แปลกเกินไป เขาเริ่มมองอย่างจับผิด มีอะไรที่เขาพลาดไปหรือไม่ เขาต้องหาทางสืบหาข้อมูล เพราะพวกเขามีท่าทีน่าสงสัย

 เหว่ยอ๋องนั่งจิบชามองผู้คนเดินไปมา ก่อนสายตาจะไปสะดุดกับ สตรีเยาว์วัยใบหน้าแสนงดงามที่แสนจะคุ้นตา ก่อนเขาจะสะกิดเจินซีห่าวให้ดู เจินซีห่าวพอเห็นก็จำได้ทันที วันนี้นางดูสวยแปลกตาไปจากวันนั้น หรือเพราะการแต่งกายที่เปลี่ยนไป เขาคิดว่าอีกไม่นานนางจะเติบโตงดงามบานสะพรั่ง ในแคว้นนี้คงหาใครเทียบได้ เหว่ยอ๋องให้อู่ถงลงไปแจ้งนางว่าเขาเชิญ อู่ถงที่วิ่งลงไปด่านล่างเห็นท่านหญิงจวินจู่ กำลังจะเข้าไปนั่งในร้านริมถนน จึงรีบเข้าไปแจ้งต่อนางทันที ว่านชิงอีหันมองบนชั้นสองก็เห็นเหว่ยอ๋องนั่งอยู่ก็ถอนใจ นางอยากออกมานั่งกินอะไรแบบง่ายๆ สบายๆ นางไม่อยากไปกินบนนั้น แต่ก็ขัดไม่ได้

 พอขึ้นมาถึงชั้นสองอู่ถงก็พาไปยังห้องริมระเบียง ซึ่งมีสามบุรุษนั่งอยู่ ว่านชิงอียอบกายทำความเคารพก่อนอู่ถงจะยกเก้าอี้มาให้นางนั่ง พอนั่งลงนางก็เอ่ยปากทันที

 “ท่านอ๋องมีอะไรหรือเพคะ หม่อมฉันอยากกินบะหมี่ร้านนั้น ไม่ได้อยากกินอาหารที่นี่” นางเอ่ยความต้องการของนางออกไปทันที เพราะไม่อยากอยู่สนทนากับเขานาน รัชทายาทที่ยามนี้อยากรู้เหลือเกินว่าสตรีนางน้อยนี้คือใคร พยายามเงี่ยหูฟังอย่างเต็มที่

 “ข้อเท้าเจ้าหายดีแล้ว?” เขาเลิกคิ้วถามอย่างตำหนิเพราะเพิ่งผ่านไปสามวัน ข้อเท้านางไม่มีทางหายดี

 “ท่านหญิงข้อเท้าท่านเป็นอะไร?” เจินซีห่าวเอ่ยถามอย่างเป็นห่วง องค์รัชทายาทพอรู้ว่านางคือว่านชิงอีที่ถูกแต่งตั้งเป็นท่านหญิง ก็รู้สึกไม่พอใจเพราะได้ฟังชื่อเสียงด้านแย่ๆ ของนางมาทั้งวัน

 “ท่านหญิง!” ว่านชิงอีหันไปตามเสียงเรียกทันที องค์รัชทายาทเจินเฟยเทียน พอสบตากับนางตรงๆ ถึงกับชะงักเสียอาการ นางช่างงดงามเหมือนตุ๊กตากระเบื้องชั้นดี ผิวพรรณขาวอมชมพูดั่งผลลูกท้อ แม้จะดูเยาว์วัยแต่อีกหน่อยคงงามหาใครเทียบ ว่านชิงอีมองเขาอย่างไม่เข้าใจ เรียกแต่ไม่พูดเอาแต่มอง คนบ้าอะไรเนี้ยะ

 เหว่ยอ๋องคิ้วกระตุกเมื่อเห็นอาการของรัชทายาท ส่วนเจินซีห่าวเริ่มหงุดหงิดที่รัชทายาทให้ความสนใจท่านหญิง ส่วนท่านหญิงไม่รู้เรื่องราวใดๆ ที่บุรุษคิดเลยสักนิด ก่อนนางจะดึงแขนเสื้อเหว่ยอ๋องเบาๆ

 “ท่านอ๋องหม่อมฉันหายดีแล้วเพคะ ถ้าอย่างไรหม่อมฉันขอตัวไปกินบะหมี่ร้านนั้น”

 “หากท่านอยากกิน ข้าจะไปด้วย” เหว่ยอ๋องเอ่ยขึ้น ว่านชิงอีได้ยินเช่นนั้น จากอารมณ์ไม่ดีกลายเป็นยินดีโดยทันที มีคนจ่ายค่าบะหมี่แล้ว ก่อนนางจะลุกแล้วดึงแขนเขาลุกด้วย

 “ไปกันเพคะวันนี้ท่านอ๋องจ่าย องค์ชายไปกันเพคะ” ท่านหญิงจวินจู่ยามนี้แสนรื่นเริงเพราะอยู่ๆ ก็มีเจ้ามือ เหว่ยอ๋องส่ายหัวกับความเจ้าเล่ห์ของนาง ส่วนรัชทายาทรีบตามพวกเขาไป เพราะเขาจะไม่ยอมพลาดอะไรอีกแล้ว

 พอหาที่นั่งได้เรียบร้อยว่านชิงอีก็ให้บ่าวที่ติดตามนางมาและเสี่ยวหมานไปนั่งอีกโต๊ะ และให้พวกเขาสั่งบะหมี่มากินนางทิ้งเงินไว้กับเสี่ยวหมานไว้จ่ายค่าบะหมี่ เพราะหากให้เหว่ยอ๋องมาจ่ายทั้งหมดก็ดูยังไงอยู่ ส่วนนางคนเดียวเขาคงไม่ว่าอะไร บะหมี่สี่ชามถูกนำมาวางบนโต๊ะ ว่านชิงอีสูดดมกลิ่นของน้ำซุปอย่างพอใจและมีความสุข ก่อนจะหันไปเห็นพวกเขานั่งมองชามบะหมี่และไม่ยอมลงมือ 

 “เป็นอะไรเพคะไม่หิวเหรอ?”

 “ข้าไม่ชอบต้นหอม/ข้าไม่ชอบกระเทียมเจียว/ข้าไม่ชอบผักชี/” ว่านชิงอีกลอกตามองบน ภาระชัดๆ ไม่น่าเลยว่านชิงอี

 “ไม่ชอบก็คีบออกสิเพคะ” พวกเขาก็ยังนั่งเฉยอยู่ทำเอานางปวดหัวขึ้นมาทันที ก่อนจะเลื่อนชามบะหมี่มาคีบสิ่งที่พวกเขาไม่ชอบใส่ถ้วยของนาง คิดอยากจะกินฟรีเป็นไงละ เสร็จแล้วก็เลื่อนชามไปให้พวกเขา และจะเริ่มกินบะหมี่ในถ้วยของตน แต่แล้วจู่ๆ ก็มีร่างของสตรีนางหนึ่งร่างกายชุ่มไปด้วยเลือดมายืนอยู่ข้างๆ ว่านชิงอีไม่ใช่คนกลัวผี แต่วิญญาณตนนี้แผลเหวอะหวะและเลือดเต็มตัว ทำให้นางตกใจกระโดดไปนั่งตักเหว่ยอ๋อง และคว้าลำคอเขาไว้แน่น เขาเองก็คว้าเอวนางไว้ทันทีเพราะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น รัชทายาทและเจินซีห่าวมองนางอย่างตกใจว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ที่พวกเขาตกใจมากกว่าคือนางและเหว่ยอ๋องไปสนิทสนมกันตั้งแต่เมื่อใด

 “ท่านอ๋องมีวิญญาณมายืนอยู่ข้างๆ หม่อมฉัน” นางกระซิบบอกเขาเบาๆ เพราะกลัวคนอื่นจะตกใจ ก่อนนางจะรีบลงจากตักเขา แล้วส่งจิตคุยกับปิงปิง” ปิงปิงเจ้าลองไปคุยกับนางได้เรื่องอย่างไร มาเล่าให้ข้าฟัง” ปิงปิงจึงเข้ามาจูงมือวิญญาญนางนั้นออกไป หลังจากวิญญาณตนนั้นไปแล้วนางก็กินอาหารไม่ลง ได้แต่หมุนบะหมี่ในชามไปมา วิญญาณตนนั้นร่างกายเต็มไปด้วยเลือด ก่อนเสียชีวิตต้องทรมานมากแน่

 

สนุกไม่สนุกเม้นท์มาคุยกันได้นาาาาา

Continue to read this book for free
Scan code to download App
Comments (2)
goodnovel comment avatar
พัชรา ไชยสอน
555ต่อไปนางเอกคงลำบากจะกินจะน นก็ขะมีวิญญาฯตอยมาปรากฑตัวใก้เห็นคงผอมแน่ๆ
goodnovel comment avatar
Saowanit Pedersen
ชอบจร้าาา สนุกนางเอกพระเอกน่ารัก
VIEW ALL COMMENTS

Latest chapter

  • นางร้ายกลายเป็นแม่หมอปราบผี   ตอนที่ 51 วันแต่งงาน

    แล้ววันที่เหว่ยอ๋องรอคอยก็มาถึง วันนี้เขาแต่งอาภรณ์สีแดงได้อย่างหล่อเหล่าและสง่างาม ตามมาด้วยเกี้ยวแปดคนหามเพื่อมารับเจ้าสาว และขบวนสินสอดที่ยาวเป็นทาง ผู้คนมายืนรอชมกันอย่างเนืองแน่นพอมาถึงจวนสกุลว่าน เสนาว่านจื่อหยวนและฮูหยินว่านซูอวี้ ก็ช่วยประคองว่านชิงอีออกมาส่งที่หน้าประตูจวน เหว่ยอ๋องกระโดดลงจากหลังม้า เพื่อมารับนางให้ขึ้นเกี้ยว เสนาว่านจับมือของว่านชิงอี วางลงบนมือของเหว่ยอ๋อง ด้วยใจที่ปลาบปลื้มปิติยินดีจนน้ำตาไหล ว่านชิงอีก้าวขึ้นเกี้ยวด้วยความตื่นเต้นยินดี สุดท้ายเขากับนางก็ได้แต่งงานกัน บุรุษที่นางจะฝากชีวิตไว้ด้วยตลอดชีวิตสินเจ้าสาวที่แต่งออกก็มากมายไม่ต่างกับสินเจ้าบ่าว ผู้คนต่างกล่าวชื่นชมถึงความเหมาะสม บางคนก็ยังกล่าวอย่างมีอคติว่า ตำแหน่งชายาอ๋องนั้นไม่คู่ควรกับนาง ว่านชิงอีนั่งฟังในเกี้ยวอย่างไม่ใส่ใจ พวกเขาจะพูดอย่างไรก็ช่าง อย่างไรนางก็ได้แต่งกับเขาอยู่ดี บุรุษผู้นี้เป็นของข้าผู้เดียว ว่านชิงอีระบายยิ้มอย่างมีความสุขเมื่อมาถึงจวนของเหว่ยอ๋อง เขาก็เดินมายื่นมือให้นางจับเพื่อเดินเข้าไปในจวน เพื่อเริ่มพิธีการตามประเพณี วันนี้ฮ่องเต้มาร่วมงานด้วยตัวเอง และองค์รัชทายา

  • นางร้ายกลายเป็นแม่หมอปราบผี   ตอนที่50 ประกาศความผิด

    ว่านชิงอีและเหว่ยอ๋องรีบเร่งมาที่เหมืองหลวงอย่างเร่งรีบ แต่ก็ต้องชะงักกับภาพตรงหน้า เมื่อมีทหารหลายพันนายยืนรออยู่หน้าประตูเมือง แต่ที่ทำให้ว่านชิงอีใจกระตุกจนใจเจ็บ เมื่อร่างที่ถูกจับมัดห้อยไว้บนกำแพงเมืองนั้น คือคนในครอบครัวของนาง ว่านจื่อหยวน ว่านซูอวี้ ว่านชิงหลิน ว่านชิงหลาน เหนือขึ้นไปมีบนกำแพงเมือง มีร่างของฮ่องเต้ถูกจับมัดไว้เช่นกัน เหว่ยอ๋องโกรธจนดวงตาแดงก่ำ สองมือกำแน่นกับอารมณ์ที่ปะทุภายในใจ ฮองเฮาและรัชทายาทก้าวออกมา ปรายตาลงมองด้านล่าง ที่มีเหว่ยอ๋องและว่านชิงอี นั่งอยู่บนหลังม้า สายตาที่มองมานั้นเย็นชาและเย้ยหยัน รัชทายาทเฟยหยาง ภายในใจเจ็บปวดไม่แพ้กัน กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เมื่อก่อนเขาเคยมีความคิดอยากขึ้นครองบัลลังก์ แต่หลังจากได้รู้จักว่านชิงอี ได้ทำงานร่วมกันกับ เหว่ยอ๋องและองค์ชายซีห่าว ความคิดของเขาก็เปลี่ยนไป แต่ว่าทุกอย่างมันไม่ง่าย เมื่อขึ้นบนหลังเสือก็ยากที่จะลง มารดาของเขานั้นก็คือฮองเฮา วางแผนร่วมมือกับตระกูลโจวมาตั้งแต่ต้น อีกทั้งดึงสามตระกูลขุนนางมาร่วมด้วย แลกกับผลประโยชน์มากมาย เมื่อเขาขึ้นครองราชย์ อำนาจทุกอย่างก็จะตกเป็นของฮองเฮาและตระกูลโจว และอ

  • นางร้ายกลายเป็นแม่หมอปราบผี   ตอนที่49 จัดการขั้นเด็ดขาด

    ทางด้านองค์ชายซีห่าว ยามนี้กำลังต่อสู้กับคนร้ายอย่างดุเดือด เขาไม่คาดคิดว่าจะมีคนร้าย มาดักรอเพื่อฆ่าเขามากขนาดนี้ องครักษ์ที่เขาพามาด้วยสิบคน ก็พยายามต่อสู้และปกป้องเขาอย่างสุดความสามารถ แต่นักฆ่าที่มาดักรอก็มีจำนวนไม่น้อย ทำให้ฝ่ายขององค์ชายซีห่าวเสียเปรียบพลาดท่าเสียที ได้รับบาดเจ็บกันอย่างสาหัส เรี่ยวแรงก็เริ่มถดถอย เพราะต่อสู้กันมาได้สักพัก องครักษ์ทั้งสิบยามนี้ เลือดอาบไปทั่วทั้งร่างแต่ก็สู้ไม่ถอย เพื่อปกป้องชีวิตขององค์ชาย องค์ชายซีห่าวเองก็ถูกดาบฟันที่แขนเลือดอาบเช่นกัน แต่เขาก็คิดว่าแผลเพียงเล็กน้อยเท่านั้น หากเทียบกับพวกเขาที่ีมีแผลเต็มตัว องค์ชายซีห่าวมององครักษ์ด้วยความซาบซึ้งใจ พวกเขายอมต่อสู้แลกชีวิตเพื่อปกป้องเขา บุญคุณครั้งนี้เขาไม่มีทางลืมได้อย่างแน่นอน แต่เขาจะไม่ยอมหลบอยู่ข้างหลังแบบนี้ ยามนี้พวกเขาเริ่มอ่อนแรง เขาจะต้องปกป้องชีวิตพวกเขา “พระองค์จะทำอะไรพ่ะย่ะค่ะ?” หนึ่งในองครักษ์เดาความคิดของเขาได้เป็นอย่างดี จึงรีบเอ่ยทักเขาเอาไว้ “อย่าแม้แต่จะคิดพ่ะย่ะค่ะ ถึงพวกกระหม่อมจะตาย ก็ต้องปกป้องชีวิตองค์ชายให้ได้พ่ะย่ะค่ะ” เจินซีห่าวได้ฟังก็ถึงกับพูดไม่ออก ในความจงร

  • นางร้ายกลายเป็นแม่หมอปราบผี   ตอนที่48 ความสุขมาไวไปไว

    ว่านชิงอีมองเหว่ยอ๋องกับองครักษ์ ที่พากันไปหาฟืนแล้วแบกกลับมาอย่างเอ็นดู ไม่อยากเชื่อว่าจะเห็นมุมนี้ของเขา เมื่อก่อนเขาดูเงียบขรึมและเย็นชา แต่ทว่าเดี๋ยวนี้เขากลับดูอ่อนโยน และเริ่มเป็นกันเองกับคนใต้บังคับบัญชามากขึ้น ที่จริงก็ใช้ว่าคนเราจะเปลี่ยนแปลงตนเองไม่ได้ หากมีแรงจูงใจที่มากพอและคิดอยากจะเปลี่ยนแปลงมัน นางคิดว่าความรักก็มีส่วนทำให้คนอ่อนโยนลงได้ เพราะหากเรารักใครสักคน เราก็พร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเอง เพื่อคนที่เรารัก ว่านชิงอีและฮุ่ยเจียงช่วยกันทำอาหาร อย่างสนุกสนาน ว่านชิงอีเริ่มสังเกตว่าองครักษ์สาวข้างกาย ช่วงนี้เริ่มทำตัวเหมือนสตรีขึ้นมาบ้าง อย่างเช่นเรื่องการแต่งกาย เมื่อก่อนนางทำตัวคล้ายกับบุรุษทุกอย่าง ยามนี้เสื้อผ้าอาภรณ์เปลี่ยนเป็นสวมใส่ดั่งสตรีทั่วไป ว่านชิงอีหรี่ตามองฮุ่ยเจียงอย่างจับผิด หรือว่านางจะมีความรัก ใครกันนะ? หรือว่า? “ฮุ่ยเจียงเจ้าดูสิ อู่ถงแบกฟืนกองใหญ่ขนาดนั้น เดี๋ยวก็ปวดหลังเอาได้หรอก สงสัยจะทำอวดสาว ๆ แถวนี้” ว่านชิงอีแกล้งพูดออกไปแต่ว่าก็ได้ผล แก้มของฮุ่ยเจียงขึ้นสีแดงระเรื่อขึ้นมาทันที ว่านชิงอียกยิ้มหากทั้งสองชอบพอกัน นางก็พร้อมสนับสนุน ความรักเป็น

  • นางร้ายกลายเป็นแม่หมอปราบผี   ตอนที่47 วิญญาณผีพราย

    วันรุ่งขึ้นเหว่ยอ๋องก็มารับว่านชิงอีที่จวน การไปในครั้งนี้นางและเหว่ยอ๋อง ไปในฐานะพ่อค้าที่ต้องเดินทางไปทั่วแคว้น การแต่งกายจึงต้องเหมือนคนธรรมดาทั่วไปคือเรียบ ๆ ไร้สีสันใด ๆ องครักษ์ที่นำไปด้วยก็แต่งกายเหมือนบ่าวรับใช้ บนเกวียนว่านชิงนำสิ่งของเครื่องใช้ใส่ไปมากพอสมควร เพราะนางไม่รู้ว่าจะไปกี่วัน นางจึงบอกให้องครักษ์เตรียมผ้าห่ม และผ้าสำหรับกางกระโจม หากว่าต้องได้นอนตามป่าเขาจะได้ไม่ยุ่งยาก ว่านชิงอีรู้สึกตื่นเต้นและดีใจมากกับการเดินทางครั้งนี้ เพราะเหมือนกับว่านางจะได้ไปท่องเที่ยวเดินป่า และนอนตามป่าเขา ซึ่งในยุคก่อนเป็นสิ่งที่นางใฝ่ฝันและอยากจะทำสักครั้ง ไม่อยากเชื่อว่าพอได้ทำขึ้นมาจริง ๆ กลับเป็นคนละยุคกัน ภูเขาตงซานหากเดินทางจริง ๆ จะใช้เวลาหนึ่งวันเต็ม ๆ แต่ว่าว่านชิงอีอยากใช้เวลาท่องเที่ยวไปด้วย ซึ่งเหว่ยอ๋องก็เห็นด้วย ดีเหมือนกันเขากับนางจะได้ใช้เวลาร่วมกันบ้าง เพราะส่วนใหญ่เจอกันที่สำนักงาน ก็มีคุยกันบ้างแต่ส่วนใหญ่จะเกี่ยวกับเรื่องงานเสียมากกว่า พอรถม้าพ้นเขตเมืองหลวง ก็เป็นไร่นาเรือกสวนของชาวบ้าน ต้นไม้ปกคลุมเขียวขจีไปทั่วบริเวณ ว่านชิงอีเปิดม่านหน้าต่างรถม้า มองธรรมชา

  • นางร้ายกลายเป็นแม่หมอปราบผี   ตอนที่46 สอบสวนต่อหน้าทุกคน

    เหว่ยอ๋องก้าวเดินลงไปหาชายนักบวชที่ถูกผูกติดไว้กับเสา จากนั้นเขาก็เดินเลือกว่าจะใช้อุปกรณ์สอบสวนอันใดเป็นสิ่งแรก ผู้คนมองตามทุกอิริยาบถของเหว่ยอ๋องอย่างลุ้นระทึก และหวาดหวั่นกับท่าทางเย็นชาของเขา ก่อนที่เขาจะหยิบตะขอ ที่มีปลายแหลมคมขึ้นมา จากนั้นก็ให้ทหารมาจับเขาอ้าปาก เขาปรายตามองกลุ่มคนที่เป็นนักพรตก็แสยะยิ้ม ก่อนจะเอ่ยถามชายนักบวชตรงหน้า แต่ว่าก็มีเอ่ยถามขึ้นมาก่อนด้วยความสงสัย “ทูลท่านอ๋องเหตุใดต้องสอบปากคำเขาด้วยละพ่ะย่ะค่ะ ในเมื่อคำทำนายของเขา กล่าวได้ดี และคล้ายกับท่านโหรหลวงทำนายทุกอย่าง และไม่มีคำกล่าวร้ายต่อท่านหญิงเลยพ่ะย่ะค่ะ?” เหว่ยอ๋องยกยิ้ม “เจ้าพูดถูกทหารไปจับท่านนักพรตมามัดอีกคน ข้าจะไต่สวนพร้อมกัน” คราวนี้ทุกคนยิ่งไม่เข้าใจ กับการกระทำของเหว่ยอ๋อง ในเมื่อชายที่เป็นนักบวช ทำนายออกมาได้ดี แล้วเหตุใดยังคงต้องสอบสวน เขาจะไร้เหตุผลเกินไปหรือไม่ เหว่ยอ๋องเหลือบตามองทหารที่จับนักพรตมามัดไว้กับเสา คู่กันกับชายนักบวช ก่อนจะวางตะขอในมือลง แล้วหยิบกระบี่ยาวเฟื้อยขึ้นมา ก่อนจะจับกระบี่ลากไปกับพื้นอย่างช้า ๆ พร้อมกับเอ่ยถามนักบวชที่ถูกมัดอยู่กับเสา “ท่านนักบวชคำทำนายของท่านไม

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status