ตอนพิเศษ เดินหน้าเกี้ยวบุรุษ (ตอนปลาย) ชิงชิงขอเผือก แต่ต้องบอกว่าไม่ได้ต้องการจะเผือก นางแค่หวังดี แค่อยากช่วยให้ผู้ใหญ่ทั้งสองมีความสุข ไม่ว่าด้วยฐานะ อายุ รูปร่างหน้าตาล้วนเหมาะสม แถมทั้งคู่ยังเป็นหม้ายคู่ครองตายไปนานแล้ว ไม่มีใครในต้าซวินกล้าครหาแน่นอน! แต่กระนั้น…ก็ลองใครกล้าดูสิ! แม่จะตามไปยิงกบาลทิ้งด้วยปืนเลเซอร์! เซียวหนิงชิงเปิดใจถามไถ่ความรู้สึกขององค์หญิงที่มีต่อบิดาของนาง ลี่นาซานิ่งเงียบ หากแต่เหลือบตามองเสื้อที่ตนเย็บให้เฉินชิงเหอแทน คืนนั้นลี่นาซานอนหลับฝันถึงหยาอิน ในฝันชายหนุ่มยืนอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่แผ่กิ่งก้านสาขาให้ร่มเงา เขาระบายยิ้มกว้างเมื่อเห็นนาง ลี่นาซายิ้มอย่างดีใจวิ่งโผเข้าไปกอดเขา ทั้งคู่กอดกันแน่นอยู่ครู่ใหญ่ หยาอินคลายอ้อมกอดของตนออกอย่างนุ่มนวล สองมือใหญ่ประคองดวงพักตร์งดงามของลี่นาซาที่ปราศจากรอยแผลเป็น เขาจ้องมองนางด้วยสายตานุ่มนวลและห่วงใย เอ่ยถ้อยคำพร้อมรอยยิ้ม "นาซา ขอบใจมากนะที่ให้กำเนิดบุตรชายแก่ข้า ดูแลเขาอย่างดีจนเติบใหญ่ ลูกของเราเติบโตและปลอดภัยแล้ว ถึงเวลาที่เจ้าต้องทำเพื่อตัวเองและท่านอ๋องเสียที ขอบคุณเขาแทนข้าด้วย จงให้โอกาสตัว
ตอนพิเศษ เดินหน้าเกี้ยวบุรุษ (ตอนต้น) เมืองเฉินเฉิง เฉินอ๋องพาองค์หญิงลี่นาซาและท่านชายฮั่นจิน เดินทางกลับมาแดนเหนือ หลังงานอภิเษกสมรสของซวินเหิงเยว่และเซียวหนิงชิงได้เกือบหนึ่งเดือนแล้ว อีกราวห้าวันบุตรสาวและลูกเขยก็จะเดินทางมาถึง ในระหว่างที่รอ ลี่นาซาซึ่งชื่นชอบไร่ชาเป็นพิเศษ จึงเดินทางไปยังเขตปลูกชาอีกหลายแห่ง เพื่อศึกษาหาความรู้และติดต่อขอซื้อบางตัว ส่งกลับไปยังเผ่าฮวาล่า นางอยากทำการค้าเหมือนอย่างที่เซียวหนิงชิงแนะนำ เพื่อที่ต่อไปจะได้ช่วยสร้างอาชีพและรายได้ให้กับสตรีชาวฮวาล่าที่เป็นหม้าย หรือสตรีที่ต้องเลี้ยงดูครอบครัวด้วยตนเอง เฉินอ๋องเป็นผู้พานางไปทุกแห่งและเลือกที่จะเป็นผู้แปลภาษาให้กับนางด้วยตนเอง ทั้งที่มีล่ามติดตามมาด้วยแท้ๆ ตัวล่ามเองจึงไม่เข้าใจว่าจะให้เขามาทำไม!! หรือให้มาเป็นสหายสนทนากับท่านชายฮั่นจิน? "ชาสายพันธุ์นี้น่าจะสามารถเติบโตได้ดีบนภูเขาในเขตของฮวาล่า หากนาซาต้องการ ข้าจะช่วยเจราจาขอซื้อเมล็ดพันธุ์และต้นอ่อนให้เจ้าเอง" หลังจากฟังเจ้าของไร่ชาอธิบายถึงสายพันธุ์ของต้นชาในไร่ ซึ่งเหมาะที่จะปลูกอยู่บนพื้นที่ค่อนข้างสูง เฉินชิงเหอจึงหันไปกล่าวกับลี่นาซา ซ
บทที่ 87 เรื่องมลคลของชีวิต (ตอนปลาย) "รสช็อคโกแลตสามลูกนะพะย่ะค่ะเสด็จแม่ ลูกถึงจะหายโกรธน้อง" “…” เซียวหนิงชิง 'พ่อลูกคู่นี้เหมือนกันไม่มีผิด! ต้องกินขั้นต่ำสามลูก!' "ชะเด็ดแม่ เยว่ เยว่ ก็ขอด้วยเพคะ" "เสี่ยวเยว่ต้องถามเกอเกอ* ก่อนว่าอนุญาตหรือไม่ เพราะลูกทำผิดสัญญาเอง" ซวินเหิงเยว่รับสั่งกับธิดาอย่างอ่อนโยน ก่อนวางเจ้าตัวน้อยน่ารักลงกับพื้น ซวินชิงเยว่ ตัวอวบอ้วนในชุดสีฟ้าสดใส ดวงหน้าขาวผ่องแก้มกลมเป็นสีชมพู ทำผมทรงลูกท้อสองลูก ก้าวขาสั้นป้อมไปหาพี่ชาย มือเล็กคว้าแขนเสื้อของเขาดึงเบาๆ ดวงตากลมโตฉ่ำน้ำราวลูกกวางน้อยช้อนมองปริบๆ ส่งเสียงเล็กออดอ้อนง้องอนพี่ชายอย่างน่าเอ็นดู "เกอเกอ เยว่เยว่ ขอโต้ดเพคะ ให้เยว่เยว่กินไอฉะกรีมด้วยคนนะเพคะ" ดวงตากลมโตไร้เดียงสาของน้องสาวราวมีมนตร์สะกด พี่ชายอย่างซวินหนิงเหิงมิอาจต้านทานได้ เขาแสร้งปั้นขรึมเล็กน้อย ก่อนตอบตกลงอย่างวางมาด "ก็ได้ คราวหน้าเยว่เยว่อย่าทำอีกนะ เกิดเป็นคนต้องรักษาคำพูด จำให้ขึ้นใจล่ะ" "เยว่เยว่ไม่โกงแย้วเพคะ" รอยยิ้มกว้างน่ารักสดใส เผยให้เห็นฟันน้ำนมสีขาวซี่น้อยๆของเจ้าตัวกลม เรียกรอยยิ้มมุมปากของพี่ชายได้ในที
บทที่ 87 เรื่องมงคลของชีวิต (ตอนต้น) ครั้นได้ยินว่าสวามีอยากเสวยลูกอิงเถาเพิ่ม เซียวหนิงชิงจึงรีบสั่งให้นางกำนัลไปนำมาเพิ่ม ระหว่างรออยู่นั้น เสียงของขันทีหน้าห้องก็ดังขึ้น ประกาศการเสด็จของเต๋อเฟย "เต๋อเฟย เสด็จจจจ" ร่างระหงของพระสนมเต๋อเฟยในชุดผ้าไหมสีน้ำเงินเข้ม ปักลายเมฆมงคลด้วยดิ้นเงินฝีมือประณีต เสด็จเข้ามาในห้องบรรทมของโอรสและลูกสะใภ้ "ถวายพระพรเสด็จแม่เพคะ" เซียวหนิงชิงรีบลุกขึ้นยอบกายให้แม่สามี ก่อนย้ายไปยืนด้านข้างเพื่อให้จ้าวเยว่ซือนั่งลงแทนที่ตน พระพักตร์อ่อนหวานสง่างาม ดูสุขุมเยือกเย็นแย้มสรวลให้ลูกสะใภ้ "ขอบใจมากชิงเอ๋อร์" “ลูกถวายพระพรเสด็จแม่” ซวินเหิงเยว่ทำท่าจะลุกขึ้น แต่ถูกพระมารดาตรัสห้ามเสียก่อน “รัชทายาทไม่ต้องมากพิธี ที่แม่มาเพราะเป็นห่วงเจ้าที่นี่แหละ ได้ข่าวว่าเสวยอะไรไม่ได้มาสามวันแล้วมิใช่หรือ เสวยอะไรก็อาเจียนออกมาหมด โถ หน้าตาซีดเซียวผอมลงถนัดตาเชียว แม่เห็นแล้วปวดใจยิ่งนัก จนป่านนี้หมอหลวงยังหาสาเหตุไม่พบอีกหรือ" เต๋อเฟยตรัสกับโอรสด้วยน้ำเสียงเปี่ยมล้นไปด้วยความห่วงใย ซวินเหิงเยว่ปกติร่างกายแข็งแรงยากนักที่จะป่วยไข้ ตั้งแต่เล็กจนโตเรียกว่า
บทที่ 86 อาการป่วยของซวินเหิงเยว่ (ตอนปลาย) องค์ชายสี่ถูกแต่งตั้งให้มาเป็นอ๋องครองเมืองแทนซวินเหิงเยว่ คนรักของเขาซึ่งเป็นองครักษ์ส่วนพระองค์เดินทางติดตามมาด้วย องค์ชายสี่เป็นคนมีคุณธรรม และตั้งใจทำงานที่ได้รับมอบหมายอย่างเต็มที่ มีปัญหาอะไรก็จะปรึกษาหย่งหนานโหวเพื่อขอคำแนะนำ ทั้งคู่กลายมาเป็นสหายดีที่ต่อกัน ช่วยกันดูแลเมืองอี้เฉิงให้เจริญรุ่งเรืองมิต่างจากตอนที่ซวินเหิงเยว่ครองเมือง แม้นว่าโหวหนุ่มจะคิดถึงสหายรักจอมกวนอยู่บ่อยครั้ง หากแต่หน้าที่ต้องมาก่อน จะทำตัวติดกันเป็นปาท่องโก๋ เหมือนตั้งแต่สมัยที่ยังเยาว์จนกระทั่งก่อนซวินเหิงเยว่อภิเษกสมรสไม่ได้อีกต่อไป ตระกูลฟ่านเปิดใจยอมรับโหวหนุ่มมากขึ้น อนุญาตให้หมั้นหมายฟ่านฮุ่ยเจินไว้ก่อน แต่กำหนดแต่งงานยังมิได้ระบุ หลังผ่านพ้นหน้าหนาวในปีนั้น องค์รัชทายาทซวินเหิงเยว่และพระชายา ออกเดินทางทั่วแคว้น เพื่อศึกษาพื้นที่ และตรวจดูความเป็นอยู่ของราษฎร ตามพระราชโองการของฮ่องเต้ซวินเสวียนคง อันที่ซวินเหิงเยว่เป็นผู้บีบคั้นพระบิดา ให้ออกพระราชโองการให้เขากับพระชายา ออกเดินทางเยี่ยมราษฎร ชายหนุ่มไม่โปรดชีวิตวุ่นวายในเมือง เนื่องจากบรรดาขุนน
บทที่ 86 อาการป่วยของซวินเหิงเยว่ (ตอนต้น) แสงตะวันอบอุ่นยามเช้าในช่วงกลางฤดูใบไม้ผลิ สาดส่องผ่านช่องหน้าต่างห้องหอ ปลุกให้ซวินเหิงเยว่ที่ตื่นเช้าเป็นกิจวัตรลืมตาขึ้น ทั้งที่เจ้าตัวพึ่งล้มตัวลงนอนไปได้ไม่ถึงสองชั่วยาม! เขานอนตะแคงทอดมองชายาคนงาม ที่ยังอยู่ในห้วงนิทราด้วยแววตาลึกซึ้ง ท่อนแขนแกร่งพาดบนอยู่เอวคอดกิ่ว มือใหญ่วางทาบอยู่บนสะโพกเปลือยเปล่า และเมื่อขยับผ้าห่มเล็กน้อย ตั้งใจจะช่วยคลุมกายชายารักให้มากขึ้น เพราะกลัวว่านางจะหนาว ดวงเนตรคู่คมพลันเหลือบเห็นจ้ำสีกุหลาบกระจายอยู่เต็มผิวขาวเนียนละออ ริมฝีปากหยักกระตุกยิ้มอย่างพึงใจ นึกถึงภาพเร่าร้อนของเขาและนางที่ร่วมกระทำกันมาทั้งคืน เพียงแค่คิดความเป็นชายก็ตั้งตระหง่าน ชายหนุ่มมุดหายเข้าไปใต้ผ้าห่ม ซุกใบหน้าหล่อเหลากับบุปผางามที่ยังแดงช้ำจากร่วมหออย่างดุเดือด เซียวหนิงชิงรู้สึกถึงบางสิ่งร้อนชื้นกำลังดูดดึงส่วนบอบบางของตน ความรู้สึกรัญจวนวาบหวามพลันบังเกิด ถึงตายังหลับทว่ากลับส่งเสียงครางหวาน ขานรับการปรนเปรอจากลิ้นร้อนของสวามี ร่างแกร่งใต้ผ้าห่มยิ่งได้ใจ ขยับทั้งลิ้นและนิ้วเป็นจังหวะประสาน ส่งร่างบางถึงฝั่งฝันในเวลาต่อมา ก