บทที่ 32โตขึ้นข้าจะแต่งกับนาง (ตอนปลาย) จ้าวเต๋อเฟยทอดถอนใจให้กับเรื่องราวในวังหลวง ทุกวี่วันมีแต่การแก่งแย่งแข่งขัน ถึงไม่ไปหาเรื่องใคร แต่ก็อย่าคิดว่าเรื่องจะไม่มาหา พระนางเตือนโอรสไม่ให้ทำตัวโดดเด่นเกินไปนัก เยว่เอ๋อร์ของนางก็ปฏิบัติตาม แต่พอผลการเรียนของเขาด้อยลง ฝ่าบาทกลับมาตำหนินาง เรื่องไม่กวดขันเข้มงวดกับพระโอรสจนผลการเรียนแย่ลง ใครจะรู้บ้างว่านางอัดอั้นตันใจอยู่ทุกวันจนแทบอยากหนีไปบวชชีให้มันรู้แล้วรู้รอด!!! ถ้าไม่ติดว่าโอรสยังเล็ก นางคงขอปลดตัวเองออกจากตำแหน่งนี้นานแล้ว นางเหนื่อย… สวีเล่อจวนเอื้อมมาตบหลังมือของจ้าวเต๋อเฟยเบาๆอย่างเห็นใจ ชิวมามาเดินมาบอกว่าองค์ชายเก้าเสด็จกลับมาแล้ว องค์ชายเก้าซวินเหิงเยว่ในชุดผ้าแพรสีท้องฟ้า ย่างเท้าเข้ามาในโถงรับรอง องค์ชายน้อยกิริยามารยาทสง่างาม ดวงพักตร์หล่อเหลาตั้งแต่เด็ก ทว่าสายพระเนตรกลับเย็นชา ละม้ายคล้ายผู้เป็นพระบิดาอยู่หลายส่วน "ลูกถวายพระพรเสด็จแม่" มือเล็กยกประสานค้อมเอวเต็มพิธีการ ก่อนหันไปทำความเคารพสวีเล่อจวน "คาราวะท่านน้า สบายดีนะพะย่ะค่ะ" "องค์ชายเก้าไม่ต้องทำความเคารพหม่อมฉันหรอกเพคะ" สวีเล่อจวนมององค์ชายน
บทที่ 32 โตขึ้นข้าจะแต่งกับนาง (ตอนต้น) เพียงแค่ได้เห็นจี้หยกของเซียวหนิงชิง ซวินเหิงเยว่แทบไม่เชื่อสายตาตนเอง!! หยกเหอเถียนสีแดงโลหิตรูปดอกโบตั๋นเช่นนี้ บนแผ่นดินมีอยู่แค่ชิ้นเดียว ตราประจำตระกูลอ๋องต่างแซ่ แม่ทัพแห่งแดนเหนือผู้สาบสูญ เฉินอ๋อง เฉินชิงเหอ เขาตามหาบุตรสาวของเฉินอ๋องจนแทบพลิกแผ่นดินมาหลายปี ทว่าหลายปีที่ผ่านมากลับคว้าน้ำเหลว พระมารดาของเขาเกือบปลงใจแล้ว คิดว่าธิดาของสหายรัก ตกตายอยู่ในกองเพลิงพร้อมมารดาตามคำบอกเล่า หากหยกตรงหน้าคือหยกชิ้นเดียวกัน นั่นก็หมายความว่า เซียวหนิงชิงคือคนที่เขาตามหามาตลอดใช่หรือไม่! "ชะ ชิงเอ๋อร์ หยกชิ้นนี้เป็นของเจ้าหรือ" "ใช่แล้วเจ้าค่ะ ท่านแม่บอกให้ข้าเก็บรักษาให้ดี ถ้าเป็นไปได้อย่าใครเห็น และที่สำคัญห้ามทำหายหรือเอาไปขายเด็ดขาด ให้รักษาไว้ยิ่งชีพเลยนะเจ้าคะ" ซูซื่อบอกกับนางอย่างนั้นจริงๆ "ขอ…ขอข้าดูหน่อยได้หรือไม่" "มีอะไรหรือเปล่าเจ้าคะ" เรียวคิ้วของเซียวหนิงชิงมุ่นเข้าหากัน เริ่มสงสัยว่ามีอะไรแปลกๆ สีหน้าของซวินเหิงเยว่เปลี่ยนไปตั้งแต่เห็นหยกชิ้นนี้ของนาง "ชิงเอ๋อร์เชื่อใจข้าหรือไม่ ข้าขอสาบานด้วยชีวิต ว่าไม่มีทางคิดร้า
บทที่ 31 ความในใจ (ตอนปลาย) ซวินเหิงเยว่วางจอกชาในมือลง เอื้อมมากุมมือเล็กไว้ ดวงเนตรคู่คมจริงจังแน่วแน่ โอกาสที่เขากำลังรอคอยมาถึงในที่สุด "ชิงเอ๋อร์ หากเปิ่นหวางบอกเจ้าว่า เปิ่นหวางอยากทำให้เจ้าเสียนิสัยแล้วมีความสุขแบบนี้ทุกวัน ชิงเอ๋อร์จะเชื่อหรือไม่ และที่เปิ่นหวางทำไปก็เพราะ…" จังหวะหัวใจของทั้งสองกำลังเต้นกระหน่ำอย่างบ้าคลั่ง คนรอฟังถ้อยคำถัดไปจากปากของชายหนุ่มนั่งจิกนิ้วเท้าจนเกือบตะคริวกิน! "เพราะอะไรเพคะ" เสียงของเซียวหนิงชิงฟังดูเลื่อนลอยยามเอ่ยถาม ซวินเหิงเยว่สูดหายใจลึก จ้องเข้าไปในดวงตาของหญิงสาวมาดหมาย คำพูดสำคัญหลุดออกจากริมฝีปากหยักได้รูปในที่สุด "เพราะข้าชอบเจ้า ชิงเอ๋อร์ ชอบมากด้วย" ชายหนุ่มแทนตนเองด้วยคำสามัญ เขาอยากให้การสารภาพความในใจครั้งแรกกับสตรีที่ชอบ มีความใกล้ชิดแบบชายหญิงปกติ มิใช่เชื้อพระวงศ์สารภาพกับหญิงสาวที่ตนพึงใจ มือของซวินเหิงเยว่ชุ่มไปด้วยเหงื่อจากความประหม่า เขาลืมไปว่าตนกอบกุมมือเล็กอยู่ ครั้นเห็นใบหน้างามของหญิงสาวแดงก่ำ ทว่าแย้มยิ้มงดงามแฝงความซุกซนให้เขา ชายหนุ่มเลิกคิ้วขึ้นเป็นเชิงถามว่ามีสิ่งใดน่าขันหรือ "หม่อมฉันคิดว่าตัวเอง
บทที่ 31 ความในใจ (ตอนต้น) แทนที่จะปล่อยหญิงสาวลงจากอ้อมแขนตามคำขอ คนเจ้าเล่ห์กลับแสร้งไม่สนใจ ยังคงตีมึนอุ้มร่างนุ่มนิ่มเดินไปถึงเก๋งเรือหน้าตาเฉย หลุบตามองเจ้าของใบหน้างามที่กำลังดิ้นยุกยิก เพื่อให้หลุดพ้นจากอ้อมแขนของเขาด้วยแววตาขบขัน (0;0) ชิวยวี่และชิวเยี่ย 'ท่านอ๋องทรงเจ้าเล่ห์จริงๆพะย่ะค่ะ วางแผนกินเต้าหู้แม่นางเซียวได้หน้านิ่งมาก' "ท่านอ๋องทรงปล่อยหม่อมฉันลงเถิดเพคะ" เซียวหนิงชิงส่งเสียงอ้อนวอน นางเขินสายตาองครักษ์ทั้งสองของรุ่ยอ๋องจะแย่อยู่แล้ว "ชิงเอ๋อร์อยู่เฉยๆ อย่าดิ้น! เดี๋ยวตก" แม้นว่าสุ้มเสียงที่รับสั่งออกมาฟังคล้ายว่ากำลังดุเด็กดื้อกลายๆ ทว่าสีหน้ากลับเผยถึงความพึงใจไม่คิดปิดบัง คนถูกดุใบหน้าง้ำงอ อมลมแก้มป่องปล่อยให้คนตัวโตทำตามใจ เมื่อก้าวมาถึงด้านในของเก๋งเรือ ซวินเหิงเยว่จึงยอมปล่อยเซียวหนิงชิงให้เป็นอิสระ ชายหนุ่มยิ้มกริ่มสีหน้าชื่นมื่นจนหญิงสาวชักเกิดอาการหมั่นไส้ "ทรงแกล้งหม่อมฉันอีกแล้วนะเพคะ ไหนทรงสัญญาว่าจะเลิกแกล้งหม่อมฉันแล้ว" แอบกินเต้าหู้นางแล้วยังจะมายิ้มหน้าระรื่นทำไม่รู้ไม่ชี้ ช่างน่าตีเสียจริง "เปิ่นหวางไม่ได้แกล้งชิงเอ๋อร์เสียหน่อย
บทที่ 30 ชิงเอ๋อร์ไปออกเดท (ตอนปลาย) มือใหญ่รีบยกขึ้นกอบกุมมือเล็ก พาขนมเข้าปากตนเอง ริมฝีปากหยักแอบสัมผัสปลายนิ้วของหญิงสาว รอยยิ้มทรงเสน่ห์ผุดขึ้นบนดวงพักตร์ขณะกำลังเคี้ยวขนม จ้องมองคนตัวเล็กที่รีบชักมือกลับ ก้มหน้างุดยกมือปิดหน้าด้วยความเขินอาย "อื้มมม ขนมที่ชิงเอ๋อร์ป้อน อร่อยมากจริงๆด้วย" หลังจากกลืนขนมลงท้อง ยกชาขึ้นจิบอึกหนึ่ง ก่อนรับสั่งหยอกเย้าโฉมงามด้วยสายตากรุ้มกริ่ม "ชิงเอ๋อร์เป็นอะไรหรือ ไยหน้าแดงหูแดงแบบนั้นเล่า ไม่สบายหรือเปล่า" "ทรงแกล้งหม่อมฉันอีกแล้วนะเพคะ" เสียงอู้อี้ตอบกลับมาผ่านฝ่ามือเล็ก ซวินเหิงเยว่อมยิ้ม เอื้อมมาแกะมือเล็กออกจากดวงหน้างาม ประคองมากอบกุมไว้ในมือของตนอย่างทะนุถนอม ดวงเนตรคู่คม สบเข้ากับเข้าดวงตาเมล็ดซิ่งฉ่ำน้ำราวลูกกวางน้อยของเซียวหนิงชิง “เปิ่นหวางไม่ได้แกล้งชิงเอ๋อร์เสียหน่อย แค่อยากให้ชิงเอ๋อร์เอาใจเปิ่นหวางบ้างผิดด้วยหรือ” ปลายนิ้วแกร่งเกลี่ยหลังมือเล็กนวลเนียนแผ่วเบา น้ำเสียงออดอ้อนออเซาะจนคนฟังใจละลาย บรรยากาศในรถม้ากลายเป็นสีชมพู กลิ่นหอมจรุงใจของขนมกุ้ย ชาหลงจิ่งชั้นดี และกลิ่นอายของไอรักลอยอบอวลอยู่ในอากาศ ละมุมละไมหวานล้ำจนซวินเ
บทที่ 30 ชิงเอ๋อร์ไปออกเดท (ตอนต้น) แผนยกก๊วนไปกินติ่มซำยังคงดำเนินต่อไปโดยปราศจากเซียวหนิงชิง รถม้าของไฉ่ฝูหลงไปจอดที่ข้างหอโอสถเสียนเย่า แทนที่จะเป็นร้านไฉ่ฝูหลงตามปกติ รถม้าคันใหญ่อีกคันมาจอดเทียบข้างกัน ซวินเหิงเยว่เปิดผ้าม่านหน้าต่างเรียกให้หญิงสาวเปลี่ยนมาขึ้นรถม้าของตน "ชิงเอ๋อร์ขึ้นมาสิ เปิ่นหวางจะพาไปดูสถานที่แห่งหนึ่ง" วันนี้เขาอุตส่าห์โดดงานช่วงเช้า ตั้งใจว่าจะพาโฉมงามไปเที่ยวเล่นแก้เบื่อ เห็นตั้งหน้าตั้งตาทำแต่งาน เลยอดสงสารไม่ได้ อายุแค่นี้ตัวก็เล็กเพียงแค่นี้ ทว่าความรับผิดชอบมากมายเหลือเกิน เซียวหนิงชิงระบายยิ้มกว้างจนตาโค้ง ทำไมนางต้องดีใจที่กำลังจะได้ไปเที่ยวกับรุ่ยอ๋องด้วยก็ไม่รู้! ร่างบางก้าวเข้าไปในรถม้า พลันได้กลิ่นหอมของดอกกุ้ยลอยกรุ่นอยู่ในอากาศ ซวินเหิงเยว่ยกยิ้มทรงเสน่ห์ต้อนรับนางดวงใจ รีบขยับหมอนอิงฝั่งตรงข้ามให้นางนั่งได้ถนัดๆ "ขอบพระทัยเพคะ จะทรงพาหม่อมฉันไปไหนหรือ" นางตื่นเต้นมากอยากรู้เต็มแก่ แบบนี้เรียกว่าออกเดทได้รึยังนะ! "ไปถึงก็รู้เอง" เขาอยากทำให้นางประหลาดใจเลยอุบเรื่องของสถานที่ไว้ก่อน หลังจากรถม้าออกวิ่งมาได้ครู่หนึ่ง "ชิงเอ๋อร