บทที่ 66 งานถนัดของชิงชิง(ตอนปลาย) เมื่อกลับถึงจวนแม่ทัพอุดร เซียวหนิงชิงมอบจดหมายที่เฉินชิงเหอเขียนถึงบิดาบุญธรรม เฉาหย่งจิงรับมาอ่านด้วยมือสั่นเทา น้ำตาของชายชราไหลรินจากความรู้สึกหลากหลายท่วมท้นใจ ทว่าบนใบหน้ากลับประดับด้วยรอยยิ้มเปี่ยมสุข "ดีจริงๆ ดีมากเหลือเกินที่เขายังมีชีวิตอยู่และปลอดภัย เช่นนี้ข้าจะได้ตายตาหลับ และกล้าไปสู้หน้าสหายรักในปรโลก ไม่ต้องกลัวว่าจะโดนท่านอ๋องผู้เฒ่าตำหนิอีกแล้ว" แต่ละคนนั่งน้ำตาซึมไปกับเฉาหย่งจิง ยกเว้นพ่อหนุ่มอ่อนไหวทั้งสองที่กำลังซับน้ำตาให้กัน "…" เซียวหนิงชิงและลูกน้องที่เหลือ จะอ่อนไหวเกินไปหรือเปล่าพ่อหนุ่มสองชิว! เฉาหย่งจิงเล่าให้หลานสาวฟังว่า ระหว่างที่นางไม่อยู่ เขาใช้แผนล่อเสือออกจากถ้ำโดยใช้เหลิ่งซื่อเป็นเหยื่อ เวลานี้คนของว่านไทเฮาทุกคนในเมืองเฉินเฉิง ล้วนถูกควบคุมตัวอยู่ในคุกของค่ายทหาร เขาจัดการตัดเส้นเอ็นพวกมันทุกคนไม่ให้มีโอกาสหลบหนีได้ และมีหลายคนกลายเป็นใบ้ไปแล้ว เหลือเพียงเหลิ่งซื่อและผู้นำกลุ่มอีกสองคนที่ยังพูดได้อยู่ เขารอให้หลานสาวกลับมาจัดการพวกมันด้วยตนเอง วันรุ่งขึ้นเซียวหนิงชิงและผู้ติดตาม ก็พากันยกขบวนไปยังค่าย
บทที่ 66 งานถนัดของชิงชิง (ตอนต้น) รายชื่อขุนนางฉ้อฉลในมือของเฉินชิงเหอ มีจำนวนถึงสามส่วนในราชสำนัก เขานั่งมองลี่นาซาสะบัดแส้ใส่ฮุยฟาเค่อด้วยสายตาล้ำลึก ไพล่คิดว่าหากองค์หญิงนำรายชื่อเหล่านี้ขึ้นทูลถวายท่านขาน ชายผู้นั้นจะยอมเชื่อในตัวพระธิดาของตน หรือว่าต้องมีหลักฐานมาใช้พิสูจน์คำกล่าวร่วมด้วย "หากต้องการเอาผิดขุนนางกังฉินกลุ่มนี้จริง คงต้องมีหลักฐานมาพิสูจน์ด้วยสินะ" เสียงพึมพำกับตัวเองของเฉินชิงเหอ ลอยเข้าหูเซียวหนิงชิงที่นั่งอยู่ข้างๆ "ท่านพ่อต้องการหลักฐานความผิดหรือเจ้าคะ หากต้องการลูกจะไปนำมาให้" เรื่องจารกรรมข้อมูลหรือวัตถุสิ่งของ ขอให้บอกชิงชิง เพราะนี่คืออาชีพเก่า "พ่อไม่ยอมให้ลูกไปเสี่ยงอันตรายเด็ดขาดชิงชิง" "ท่านพ่อเจ้าคะ ลูกรู้ว่าท่านเป็นห่วงลูก แต่ถ้าพรุ่งนี้ขุนนางเหล่านั้น ทราบเรื่องการหายตัวไปของเสนาบดีกลาโหม ไม่แน่ว่าอาจเกิดความหวาดระแวงจนแอบทำลายหลักฐาน ซึ่งสามารถใช้ยืนยันความผิดของพวกเขาก็เป็นได้นะเจ้าคะ ทางที่ดีพวกเราควรรีบชิงลงมือ อย่าคนเหล่านั้นไหวตัวทัน ป้องกันปลาหลุดรอดออกจากแหอย่างไรเจ้าคะ” เซียวหนิงชิงคันไม้คันมือ อยากออกไปจารกรรมข้อมูลจนเนื้อเต้
บทที่ 65 ภารกิจลักพาตัว (ตอนปลาย) เสนาบดีกลาโหมฮุยฟาเค่อในวัยหกสิบ รูปร่างสันทัดนอนกกกอดอนุ อายุคราวหลานอย่าหลงใหล ผ้าผ่อนของทั้งสองหลุดรุ่ย ซุกกายอยู่ใต้ผ้าห่มผืนหนา "โห รุ่นนี้แล้วยังมีแรงทำเรื่องอย่างว่าอยู่อีกหรือเนี่ย ชิ ไม่กลัวหัวใจวายแล้วได้ตายคาอกเข้าสักวันหรือไงนะ" เซียวหนิงชิงส่ายหน้าให้กับความบ้าตัณหาของตาแก่บนเตียง อนุคนนี้ดูอย่างไรอายุไม่น่าถึงสิบแปด พรากผู้เยาว์ชัดๆ!! มือเรียวยื่นกระบอกควันยาสลบให้หลี่โหยว สิบลมหายใจต่อมาร่างชราของฮุยฟาเค่อ ก็ถูกเหลยเย่หัวหน้าองครักษ์แบกพาดบ่าออกมาจากห้องนอนของอนุ องครักษ์ชาวฮวาล่ารอบเรือนอนุต่างสลบไสลไม่สติ จากฝีมือลูกน้องกิตติมศักดิ์อย่างชิวเยี่ยและชิวยวี่ ครั้นจะไม่พาพ่อหนุ่มสองชิวมาด้วย ทั้งคู่ก็ทำหน้าหมาหงอยให้เห็น เซียวหนิงชิงเลยต้องพกพวกเขามาแทนองครักษ์อีกสองคนที่วางตัวไว้ทีแรก ตำหนักองค์หญิงลี่นาซา หน้าห้องใต้ดิน ลี่นาซาเดินกระวนกระวายไปมา จนเฉินชิงเหอต้องดึงมานั่งจิบสุราอุ่นเพื่อสงบสติอารมณ์ หนึ่งเค่อต่อมาเวลาแห่งการรอคอยก็สิ้นสุดลง เงาดำห้าเงาก็มาปรากฏตรงหน้าคนทั้งสอง "องค์หญิง ท่านพ่อ ข้าพาคนมาให้พวกท่านแล้วเจ้าค
บทที่ 65 ภารกิจลักพาตัว (ตอนต้น) ผู้ติดตามของเซียวหนิงชิง ถูกตามตัวให้มาพบยังห้องที่ลี่นาซาและนายหญิงของพวกเขาหารือกันอยู่ แผนการลักพาตัวเสนาบดีกลาโหมนาม ฮุยฟาเค่อ เริ่มต้นขึ้น เซียวหนิงชิงขอรายละเอียดที่ตั้งของจวนเสนาบดีกลาโหม รวมถึงอายุรูปพรรณสัณฐานของฮุยฟาเค่อมาจากลี่นาซา หญิงสาวบอก ว่าที่แม่บุญธรรมคนใหม่ว่า คืนนี้ตนและลูกน้องจะพาตาแก่นั่นมาให้นางลงทัณฑ์ "คืนนี้? ชิงชิงเจ้าจะลงมือคืนนี้เลยหรือ!" ลี่นาซาร้องถามเสียงสูง คาดไม่ถึงว่าหญิงสาวจะใจร้อนเรื่องล้างแค้นเพื่อนางมากถึงเพียงนี้ "เพคะ หม่อมฉันต้องรีบเดินทางกลับต้าซวิน มีธุระอีกหลายอย่างที่ต้องกลับไปจัดการ จะมัวชักช้าไม่ได้ พระองค์รอมานานพอแล้ว ถึงเวลาสะสางบัญชีแค้นเสียที ทรงมอบธุระนี้ให้พวกหม่อมฉันจัดการเถิดเพคะ จะได้ไม่มีใครสงสัยตำหนักองค์หญิง" เซียวหนิงชิงอธิบายถึงเหตุผลอย่างรวบรัด เสร็จจากงานนี้นางต้องรีบกลับไปจัดการอสรพิษตัวแม่ทั้งสองตัวที่ต้าซวิน!! ก่อนถึงเวลากลับโรงเตี๊ยมเซียวหนิงชิงเข้าไปสนทนากับบิดา และขอให้เขารออยู่ที่ฮวาล่าชั่วคราวไปก่อน หมดฤดูหนาวเมื่อใดค่อยตามนางกลับต้าซวิน มีเรื่องสำคัญบางเรื่องที่นางต้องกล
บทที่ 64 หวนคืน (ตอนปลาย) ฮั่นเหอเอื้อมมาจับมือของนางและตบเบาๆลงบนหลังมือ เขาพยักหน้ารับ เอ่ยตอบข้อสงสัยของลี่นาซาด้วยความซาบซึ้งในน้ำเสียง "ข้าจำได้หมดแล้ว ขอบใจมากนะนาซาที่เจ้ากับหยาอิน เสี่ยงชีวิตช่วยเหลือข้า เฉินชิงเหอผู้นี้โดยไม่ลังเล ขอบใจมากจริงๆ" ลี่นาซายิ้มทั้งน้ำตาขณะรับสั่งตอบร่างสูงเป็นนัยคล้ายกำลังสารภาพผิด "ท่านพี่เหอ ข้าขอโทษที่ปิดบังท่านมาหลายปี ข้า…" "เจ้ากับหยาอินทำเพราะหวังดีกับข้า อย่าได้คิดว่าตนทำผิดกับข้าเลย" "ขอบคุณเจ้าค่ะที่ท่านเข้าใจข้าและหยาอิน ว่าแต่ทำไมจู่ๆท่านถึงจดจำเรื่องราวในอดีตขึ้นมาได้เจ้าคะ" "นั่นซิเจ้าคะท่านพ่อ” ถึงเซียวหนิงชิงจะพอทราบถึงเหตุผลอยู่บ้าง แต่การที่คนคนหนึ่งความจำเสื่อม ลืมเลือนเรื่องราวของตนในอดีตมาสิบกว่าปี จู่ๆกลับจำได้ทั้งหมดในระยะเวลาอันสั้น ฟังดูแล้วราวกับมีปาฏิหาริย์ก็ไม่ปาน "มาเถิดข้าเล่าจะให้ฟัง" เฉินชิงเหอจูงมือหญิงสาวที่มีความสำคัญต่อเขาทั้งสองมานั่งที่ตั่งด้วยกัน ส่วนตนเองไปยกเก้าอี้อีกตัวมานั่งตรงข้ามพวกนาง เขาชี้ไปที่หยกเหอเถียนสีแดง ตราประจำตระกูลบนตัวของเซียวหนิงชิง "คงเป็นเพราะหยกประจำตระกูลชิ้นนี้ ที่
บทที่ 64 หวนคืน (ตอนต้น) ฟังจากน้ำเสียงของมามา ลี่นาซารู้แจ้งได้ทันทีว่ามีเรื่องไม่ปกติเกิดขึ้นกับฮั่นเหอ นางหันมาพยักหน้าให้เซียวหนิงชิง "มาเถอะ การที่ฮั่นเหอถามหาเจ้าเช่นนี้ ไม่แน่ว่าอาจมีสิ่งไม่คาดคิดเกิดขึ้นก็เป็นได้" ภายในห้องบรรทมขององค์หญิงลี่นาซา ร่างสูงของฮั่นเหอนั่งพิงหัวเตียง เรียวคิ้วเข้มขมวดเข้าหากันจนเป็นปม หลังจากที่เขาได้เห็นหยกสีแดงห้อยคอของหญิงสาวผู้นั้น ก็เกิดอาการปวดศีรษะอย่างรุนแรงพร้อมกับภาพต่างปรากฏในขึ้นหัว ระหว่างที่หมดสติ เขาฝันเห็นหญิงสาวรูปงามพิลาสราวนางเซียน ยืนอยู่ท่ามกลางเมฆหมอกสีขาว นางคลี่ยิ้มงดงามให้เขาก่อนจะเดินเข้ามาหา ยกมือขึ้นมาสัมผัสใบหน้าของเขา กล่าววาจาด้วยน้ำเสียงไพเราะอ่อนหวาน ทว่าแววตากลับเศร้าสร้อยเหลือคณา "ท่านอ๋อง ถึงเวลาที่ทรงต้องรำลึกถึงเรื่องราวในอดีตแล้วเพคะ…ชีวิตใหม่บังเกิดอีกครั้ง หลังผ่านพายุเคราะห์กรรมแห่งชีวิต ฟ้าหลังฝนงดงามเสมอ คนคำนวณหรือจะสู้ชะตาฟ้าลิขิต ที่คิดว่าลาลับแล้วกลับยังอยู่ ตื่นเถิดเฉินอ๋อง เฉินชิงเหอ สวามีของข้า" สิ้นถ้อยคำของหญิงสาวในความฝัน ภาพทรงจำต่างๆ ปรากฏให้เห็น ชายหนุ่มนอนหลับดูกระสับกระส่าย พล