Share

บทที่ 3

บทที่ 3

'เจ็บแค้นเคืองโกรธโทษฉันไย'

.

.

“ตอนนี้ข้าไม่อยากแต่งกับท่านพี่หมิงซัวแล้ว” นางพูดหยั่งเชิงออกไปก่อนจะยกพัดด้ามจิ๋วขึ้นโบกเบา ๆ ด้วยรอยยิ้มหวานฉ่ำ

“แน่สิ เจ้าจะแต่งกับจางหมิงซัวได้อย่างไร ในเมื่อเจ้าไปทำร้ายเสี่ยวเยว่เสียแขนหัก”

‘นั่นปะไร ตรงตามนิยายเป๊ะ งั้นเรื่องหลังจากนี้ก็ต่อจากเหตุการณ์นี้สินะ’

“คนชั่วเช่นเจ้าไยถึงได้มีบุญบารมีได้เป็นถึงท่านหญิงกันนะ ถ้าเจ้าไม่มีบรรดาศักดิ์ท่านหญิง ไม่มีอำนาจเก่าก่อนที่บิดาและพี่ชายสร้างเอาไว้ ป่านนี้คงโดนลากคอไปลงอาญาแล้ว วัน ๆ หนึ่งของเจ้าสมองคงคิดแต่เรื่องชั่ว ทำร้ายผู้คนไปทั่วจิตใจช่างโหดเหี้ยมยิ่งนักไม่สมควรเกิดมาในสกุลสูงส่งเช่นนี้เลย”

เย่ซูชางที่ได้ฟังก็อึ้งจนพูดไม่ออกจนนึกสงสัยว่านี่คนหรือเครื่องด่าเคลื่อนที่ เหมือนเขาเปิดระบบด่าเลยพ่นคำออกมาเป็นชุดได้ขนาดนี้เล่นเอานางสำนึกผิดไม่ทันเลย คนเลวมันคือเย่ซูชางแท้ ๆ แต่ทำไมคนที่ต้องมายืนรับฟังคำด่าคำสาปแช่งชิงชังมันต้องเป็นนางด้วยนะ

‘เจ็บแค้นเคืองโกรธโทษฉันไย ฉันทำอะไรให้เธอเคืองขุ่น~’

“ขะ… ข้าเองก็เสียใจ”

“คนอย่างเจ้าหรือจะเสียใจ”

“โอ๊ย!”

เขาผลักนางจนล้มก้นจ้ำเบ้า แต่พอเย่ซูชางเงยหน้าจะอ้าปากด่าเขาที่มาผลักผู้หญิงบอบบางร่างน้อยแบบนี้ก็ต้องกลืนทุกสิ่งทุกอย่างลงคอเมื่อเห็นสีหน้าโกรธเคืองของเขา สีหน้าที่ดูจะชิงชังนางยิ่งนักเหมือนไปด่าพ่อล้อแม่เขา

แต่ถ้าพูดกันตามความจริงเขาจะโกรธนางก็ไม่แปลก ในฐานะพระรองที่หลงรักนางเอกมันก็เป็นธรรมดาที่จะโกรธนางร้ายที่มาทำร้ายนางเอกจนบาดเจ็บ ตามนิยายที่อ่านมามันก็เป็นแบบนั้นอยู่แล้ว หยวนฉินไม่ชอบหน้าเย่ซูชาง เย่ซูชางก็ไม่ชอบหยวนฉินเพราะมองว่าเขาชอบสอดแข้งสอดขาเข้ามาแทรกเวลานางจะทำร้ายนางเอก

‘แต่ตอนนี้อีปลายฟ้าต่างหากที่อยู่ในร่างนี้ บางทีก็เหมือนเป็นสนามอารมณ์ของทุกคนยังไงก็ไม่รู้ เพราะนางไม่ใช่คนทำผิดไง อยู่ดี ๆ ก็ปุ๊บปั๊บรับโชคมาอยู่ในร่างนางร้ายผู้มีจิตใจอำมหิตเฉยเลย และทุกคนก็รุมด่ารุมสาปแช่งนางทั้งที่นางก็เป็นผู้ถูกกระทำนะ เกิดเป็นนางร้ายก็เหนื่อยเหมือนกัน'

“ช่างเถิด ข้าพูดอะไรไปก็ไร้ค่า” นางตัดสินใจลุกขึ้นยืนแล้วปัดเศษฝุ่นออกจากอาภรณ์ผ้าไหมสูงศักดิ์ของตน

“นั่นก็เพราะตัวเจ้ามันไร้ค่า”

คำพูดของหยวนฉินมันทำให้เย่ซูชางชะงักลงเล็กน้อย นางขบกัดฟันแน่นพยายามสงบสติอารมณ์ของตนเองแล้วหันมายิ้มให้รองเจ้ากรมพิธีการรูปงาม นิ้วเรียวยกขึ้นเกลี่ยคางอย่างหยอกล้อจนเขาต้องเอียงใบหน้าหลบ

“ระวังจะมาตกหลุมรักคนไร้ค่าแล้วกัน”

“ไม่มีวันนั้นหรอก ข้าฉลาดพอที่จะเลือก”

“แต่ข้าอยากได้เจ้า” นางเขย่งปลายเท้าขึ้นเล็กน้อยก่อนจะจรดริมฝีปากที่ใบหูหนา “และเจ้าก็รู้ว่าถ้าข้าอยากได้สิ่งใดก็ต้องได้”

“ออกไปให้ห่างตัวข้า” เขาผลักนางอีกรอบแต่ครั้งนี้ไม่แรงนัก

เย่ซูชางยกยิ้มออกมาเล็กน้อยยามได้เห็นท่าทางหงุดหงิดของเขา ได้กวนประสาทคนแบบนี้มันสะใจจะตาย ยิ่งเขาต่อต้านนางก็ยิ่งอยากได้อยากเอาชนะมากกว่าเดิม

“ข้าไปทูลขอฮ่องเต้ใหม่ดีกว่า ว่าบัดนี้ไม่อยากสมรสกับจางหมิงซัวแล้วแต่จะขอเปลี่ยนไปสมรสกับเจ้าแทน จางหมิงซัวเป็นแม่ทัพมีกองกำลังมีประโยชน์กับแผ่นดิน ฮ่องเต้จึงไม่อยากบังคับขู่เข็ญเขานักจึงไม่ยอมทำตามที่ข้าร้องขอ แต่ถ้าเป็นเจ้ามันคนละอย่างกันเลย รองเจ้ากรมพิธีการผู้ใดก็ขึ้นมาเป็นแทนได้ไม่ต้องอาศัยการฝึกฝนลำบากตรากตรำอะไรมากมาย ถ้าข้าขอสมรสพระราชทานกับเจ้าแทนเชื่อข้าเถิดว่าฮ่องเต้จะต้องตอบรับคำขอนี้ของข้าแน่นอน”

“สมองของเจ้ามันคิดได้แต่เรื่องชั่วจริง ๆ”

“และเจ้ากำลังจะได้สตรีชั่วผู้นี้เป็นฮูหยิน”

“ข้าไม่มีวันแต่งให้เจ้า”

“งั้นก็คงจะมีแค่ความตายที่ทำให้ท่านรอดพ้น”

นางว่าจบก็สะบัดชายอาภรณ์เดินหนีออกมาด้วยความหงุดหงิด เมื่อพ้นสายตาของหยวนฉินจึงหยุดฝีเท้าลงก่อนจะยกมือขึ้นตบปากตนเองเบา ๆ เพื่อลงโทษและเรียกสติเพราะเมื่อครู่นางสติแตกแบบฟีลขาดไปหน่อยเลยพูดและกระทำออกไปแบบนั้น

แต่ก็น่าแปลกเหมือนกันทั้งที่นางเดิมทีไม่ใช่คนนิสัยใจร้อนมือไวปากไวสักนิดเดียวแต่พอมาอยู่ในร่างของเย่ซูชางกลับรู้สึกว่าบางทีตัวเองก็ไม่สามารถควบคุมความรู้สึก คำพูดคำจาและการกระทำของตนเองได้ หรือเพราะอยู่ในร่างเย่ซูชางกันนะ คาแรคเตอร์นางร้ายจึงมีอิทธิพลเหนือตัวนางไปบางครั้งบางคราว

“แล้วพูดออกไปแบบนั้น พ่อพระรองเขาไม่ยิ่งเกลียดแกมากกว่าเดิมเหรอนังปลายฟ้า”

……….

.

“พี่หญิงรองท่านจะไปจริง ๆ หรือเจ้าคะ?”

เย่ซูเจินถามเสียงแผ่วด้วยความไม่มั่นใจนักเพราะวันนี้พี่หญิงของนางดันไม่รู้ว่าผีเข้าหรือผีออกถึงได้ชวนนางเอาของขวัญของกำนัลไปเยี่ยมถังซีเยว่เพื่อขอโทษเรื่องที่เกิดขึ้น มันแปลกมากเพราะปกติพี่หญิงของนางจะชวนไปเที่ยวเพื่อฉลองอย่างสำราญใจมากกว่าที่ได้ทำให้ถังซีเยว่เจ็บตัวได้

“ข้าทำนางแขนหักก็ควรขอโทษ” เย่ซูเจินกล่าวเสียงเรียบพลางเลือกผลไม้ไปด้วย

“ท่านน่ะหรือ?”

“ทำไม ข้ามันทำไม?” นางหันมามองหน้าน้องสาวในนิยาย อีกฝ่ายก็รีบก้มหน้าหลบสายตาด้วยท่าทางหวาดกลัวทันที

“ถ้าข้าไม่ไปขอโทษถังซีเยว่ก็จะถูกท่านพี่หมิงซัวโกรธเอา ข้าจึงต้องจำใจขอโทษนางก็เท่านั้น”

“อ๋อ เป็นเช่นนี้เอง แต่ข้าคิดว่าท่านทำถูกแล้ว ตอนนี้ท่านพี่หมิงซัวโกรธท่านมาก ถ้าไปขอโทษถังซีเยว่ก็อาจจะทุเลาความโกรธของท่านพี่หมิงซัวลง คลายความตึงเครียดของทั้งสองฝ่ายด้วย”

“ข้าก็คิดเช่นเจ้าถึงได้ทำแบบนี้ อย่ามัวแต่เสียเวลาพูดคุยรีบไปเยี่ยมถังซีเยว่กันเถิด”

นางกล่าวด้วยรอยยิ้มอย่างโล่งใจที่สามารถแก้ตัวได้ ปกติคนแบบเย่ซีชางคงไม่ยอมขอโทษถังซีเยว่หรอกต่อให้ต้องตายก็ตาม แต่นางไม่ใช่เย่ซูชางไง นางก็มีความคิดในแบบของนางในเมื่อทำผิดก็ต้องยอมรับผิดไปขอโทษและสำนึกผิดเสีย อย่างน้อยก็ได้แสดงความจริงใจออกไป

ทั้งสองคนมายังจวนสกุลจางเพราะถังซีเยว่อาศัยอยู่ที่นี่ เพราะเดิมทีนางเอกของเรื่องนี้เป็นสตรีจากบ้านนอกที่เข้ามาทำงานในเมืองหลวงแต่ดันถูกหลอกไปขายหอนางโลมแต่พระเอกช่วยเอาไว้เลยชักชวนให้ไปทำงานที่จวนเลยกลายเป็นความใกล้ชิดที่ก่อเกิดเป็นความรักแน่นแฟ้น

แต่มันก็เป็นเหตุผลที่ทำให้เย่ซูชางเกลียดชังถังซีเยว่เพราะรูปโฉมและรูปทรัพย์ รวมถึงบรรดาศักดิ์ของเย่ซูชางสูงส่งและโดดเด่นกว่าถังซีเยว่มาก แต่จางหมิงซัวกลับไม่เลือกนางดันไปเลือกสตรีไร้หัวนอนปลายเท้าจากบ้านนอกจนนางรู้สึกเสียหน้าเพราะชาวบ้านต่างนินทาว่าเย่ซูชางสู้สตรีจากหอนางโลมไม่ได้จนถูกผู้ชายทิ้งอย่างไม่ไยดี ไม่แปลกนักหรอกที่นางจะคิดริษยาถังซีเยว่มากขนาดนี้

“พวกเจ้ามาทำไม?” แต่ยังไม่ทันจะได้ไปถึงเรือนของถังซีเยว่ก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นเสียก่อน

เย่ซูชางหันไปมองพลันหัวใจก็เต้นแรงขึ้นมาทันทีเพราะบุรุษตรงหน้าหล่อมากอย่างกับดาราไอดอล เทพสวรรค์มาจุติของแท้และคนหล่อมากขนาดนี้คงหนีไม่พ้น จางหมิงซัว พระเอกของนิยายเรื่องนี้เพราะนี่มันจวนเขาไง ย่อมต้องเป็นเขามิใช่ผู้ใดหรอก

“คารวะพี่หมิงซัวเจ้าค่ะ” เย่ซูเจินประสานมือโค้งหัวลงเล็กน้อย

“คารวะเจ้าค่ะ”

เย่ซูชางเห็นน้องสาวคารวะจางหมิงซัวก็ทำตามบ้างจนทั้งสองคนตกใจสีหน้าเหวอออกมาอย่างชัดเจนมันทำให้นางนึกออก ถ้าตามนิยายนิสัยของเย่ซูชางเป็นคนที่ไม่ยอมก้มหัวให้ผู้ใดโดยง่ายหรอกและอีกอย่างนางก็มีบรรดาศักดิ์สูงเป็นถึงท่านหญิงเป็นรองแค่องค์หญิงเท่านั้น

เพราะฉะนั้นตามหลักแล้วต้องเป็นจางหมิงซัวที่ควรก้มหัวเคารพนางเพราะเขาเป็นแค่แม่ทัพเท่านั้นการที่นางก้มหัวให้เขาจึงเป็นเรื่องที่ไม่สมควรและผิดแปลกไปจากนิสัยเดิมของเย่ซูชางอย่างมากจึงควรรีบตัดบทเสียด้วยการยื่นตะกร้าผลไม้สดให้

“ข้านำผลไม้มาเยี่ยมถังซีเยว่เพื่อเป็นการขอโทษนาง”

จางหมิงซัวยอมรับตะกร้าผลไม้ไปแต่โดยดี แต่แทนที่เขาจะขอบคุณดันทำสิ่งที่เกินความคาดหมายของเย่ซูชางไปไกลมากด้วยการปาตะกร้าลงบนพื้นจนผลไม้กระจัดกระจายออกมาบางลูกก็ตกกระแทกพื้นจนแตกเสียหาย ท่ามกลางความตกใจของพี่น้องทั้งสองคน

“ท่านพี่หมิงซัว ท่านทำเช่นนี้ทำไมเจ้าคะ?” เย่ซูเจินรีบก้มลงไปเก็บผลไม้ที่พอยังใช้ได้ใส่ตะกร้าตามเดิม

“คนชั่วแบบเจ้าหรือ ที่สำนึกผิดแล้วมาขอโทษเยว่เอ๋อร์ เจ้าทำนางแขนหัก ตั้งใจทุบตีนางอย่างไร้ความปรานี น้ำหน้าชั่ว ๆ อย่างเจ้าไม่มีทางมาขอโทษเยว่เอ๋อร์จากใจหรอก”

จางหมิงซัวกระทืบเท้าลงบนผลไม้จนมันแตกไม่พอเขายังเหยียบย้ำบดขยี้มันซ้ำ ๆ ให้เละคาเท้าอีกด้วย เป็นการเหยียดหยามเย่ซูชางเป็นอย่างมากเพราะตรงนี้ไม่ได้มีแค่พวกเขาแต่ยังมีบ่าวไพร่เดินไปเดินมาตลอดเวลาและตอนนี้พวกคนเหล่านั้นก็กำลังหัวเราะคิกคักอย่างชอบใจที่นางร้ายของนิยายกำลังโดนพระเอกเหยียดหยามเกียรติให้อับอาย

แต่ก็เข้าใจว่าเขาโกรธแค้นที่นางไปทำร้ายคนรัก มันไม่ใช่ครั้งแรกแต่ถ้าอิงตามนิยายคือทำมาหลายครั้งแล้ว ทั้งส่งคนไปรุมกระทืบ ทั้งพยายามผลักให้ตกน้ำตาย ทั้งวางยาพิษ จนมาถึงตีจนแขนหัก จะแค้นก็ไม่แปลกหรอกถ้าใครมาทำคนรักของนางขนาดนี้นางก็อยากฆ่าให้ตายเหมือนกัน

“ข้าตั้งใจมาขอโทษถังซีเยว่จริง ๆ ไม่ได้มีจุดประสงค์อื่นแฝง ข้าเพียงทำผิดแล้วสำนึกผิดก็เท่านั้น เจ้าไม่คิดจะให้อภัยและให้โอกาสข้าบ้างเลยหรือ?”

“งั้นให้ข้าตีเจ้าให้แขนหักบ้างไหมเล่า?”

สีหน้าของจางหมิงซัวนั้นจริงจังบ่งบอกว่าเขาอาจจะอยากฟาดนางจริง ๆ แต่คนแบบปลายฟ้าในร่างเย่ซูชางคนนี้ก็ไม่ใช่คนอ่อนแอให้ใครมาหยามเหมือนกัน

นางเลือกจะยื่นแขนไปด้านหน้าจนทุกคนตกใจโดยเฉพาะจางหมิงซัว “ถ้าการตีข้าให้แขนหักแล้วมันจะทำให้เจ้าสบายใจก็เอาเลย”

“จะ… เจ้าเสียสติไปแล้วจริง ๆ ด้วย” จางหมิงซัวประหลาดใจและตกใจไม่น้อยเลยเพราะปกติเย่ซูชางรักตัวกลัวตายจะตายไปไม่มีทางหรอกที่จะยอมให้เขาตีจนแขนหัก

“ชักช้าอยู่ไยเล่าท่านแม่ทัพ อยากตีข้าไม่ใช่หรือ เอาสิหยิบไม้มาสักท่อนแล้วฟาดมันลงบนแขนของข้าให้มันจบเรื่องไป ถ้าทำให้เจ้าสบายใจขึ้นก็จงทำเสีย”

ผลไม้ลูกหนึ่งกลิ้งมาตกตรงเท้าของจางหมิงซัว เขาเลยนึกบางอย่างออกหยิบส้มลูกนั้นขึ้นมาแล้วยกยิ้มมุมปากเล็กน้อย

“ข้ามีวิธีชำระบาปของเจ้าที่ดีกว่านี้ท่านหญิงเย่ผู้สูงส่ง”

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • นางร้ายเหนื่อยแล้ว   บทที่ 45

    บทที่ 20‘ตอนจบของนิยาย’..เย่ซูชางเปิดกล่องเครื่องประดับออกก่อนจะหยิบเอาปิ่นปักผมสีทองอร่ามออกมาทาบลงบนผมเพื่อดูว่าปิ่นอันไหนเหมาะสมกับตนเอง ของเหล่านี้ล้วนเป็นเครื่องประดับที่หยวนฉินซื้อให้นางซะเป็นส่วนใหญ่ไม่ค่อยได้ซื้อเองนักหรอก เวลาเขาเห็นเครื่องประดับสวย ๆ งาม ๆ ก็มักจะซื้อมาฝากนางเสมอ ยิ่งต

  • นางร้ายเหนื่อยแล้ว   บทที่ 44

    บทที่ 20‘ตอนจบของนิยาย’..เย่ซูชางดึงผ้าห่มขึ้นมาห่มให้เจ้าแฝดที่ตอนนี้นอนหลับปุ๋ยไปแล้วเพราะวันทั้งวันเอาแต่วิ่งเล่นตกกลางคืนเลยอ่อนเพลียหลับง่ายเป็นธรรมดา นางหันตัวเดินออกมานอกห้องก่อนจะปิดประตูแผ่วเบาเพื่อไม่ให้รบกวนลูกทั้งสองสายตามองไปยังห้องตำราก็เห็นมีแสงสว่างอยู่ แปลว่าหยวนฉินยังไม่กลับเร

  • นางร้ายเหนื่อยแล้ว   บทที่ 43

    บทที่ 19'พระกระโดดกำแพง'..“หมายความเช่นไรเจ้าคะ?”“เจ้าไม่รู้อะไร การมีฝูอ๋องอยู่ในเมืองหลวงคอยช่วยงานฮ่องเต้ นอกจากจะคอยค้านอำนาจฝ่ายองค์รัชทายาทแล้ว ยังช่วยขับเคลื่อนองค์รัชทายาทให้เอางานเอาการสนใจงานบ้านเมืองด้วย เพราะถ้าไม่สร้างผลงานไม่ทำให้ฮ่องเต้พอใจก็อาจจะถูกแย่งตำแหน่งองค์รัชทายาทไปก็ได้

  • นางร้ายเหนื่อยแล้ว   บทที่ 42

    บทที่ 19'พระกระโดดกำแพง'..เสียงมีดหั่นลงบนเขียงดังก้องภายในโรงครัวที่มีควันลอยฟุ้งจากเตาถ่านที่ถูกจุดเอาไว้ บนเตามีหม้อที่กำลังตุ๋นเนื้อหมูสามชั้นให้นุ่มจนเข้าเนื้อ เย่ซูชางหันไปหยิบปลิงทะเลและหอยเป่าฮื้อมาหันเป็นชิ้นพอดีคำ“พี่หญิงรองทำสิ่งใดอยู่เจ้าคะ?” เย่ซูเจินเดินเข้ามาภายในครัวเมื่อได้กลิ่

  • นางร้ายเหนื่อยแล้ว   บทที่ 41

    บทที่ 18'ฉีฉีชิงชิง'..“เจ้านี่ยังปากร้ายเสมอต้นเสมอปลาย”หยวนฉินโน้มลงไปจูบริมฝีปากเอิบอิ่มด้วยความมันเขี้ยวจนเย่ซูชางตกใจจะดันเขาออกแต่ก็ถูกมือใหญ่รวบแขนเอาไว้จนไร้ทางขัดขืนได้แต่จ้องหน้าเขาด้วยสีหน้าถมึงทึง“เจ้าทำบ้าอะไร สติเพี้ยนไปแล้วหรือ ถึงกล้าทำเรื่องบัดสีเช่นนี้”“เรื่องบัดสีอะไรกัน ข้า

  • นางร้ายเหนื่อยแล้ว   บทที่ 40

    บทที่ 18'ฉีฉีชิงชิง'..ห้าปีต่อมาเมืองหนานตูเสียงเด็ก ๆ วิ่งกันเจื้อยแจ้วไปตามถนนของเมืองที่ครึกครื้นไปด้วยผู้คนมากมายที่แวะเวียนมาค้าขายตามประสาของเมืองท่าติดทะเลที่มีเรือขนส่งมากมายมาจอดเทียบท่า ผู้คนล้วนมีความสุขกับการใช้ชีวิตภายใต้เมืองที่เงียบสงบไร้เหตุร้ายเพราะทุกคนล้วนมีงานทำมีเงินใช้จึง

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status