Share

9

last update Terakhir Diperbarui: 2025-12-19 17:48:41

-จุดเริ่มต้นความสัมพันธ์ เยว่ฉี X แม่ทัพเจี้ยนหยู่-

จัดลำดับความสำคัญของตัวละครในนิยายเรียบร้อยแล้ว ยามเซินนี้นางพยายามนึกว่าใครเป็นผู้เขียน นั่ง ๆ นอน ๆ นึกเท่าไรก็นึกไม่ออก มิหนำซ้ำดันมีเรื่องประหลาด ลายมือของนางกลายเป็นลายมือของเยว่ฉี ที่นางรู้เรื่องนี้เพราะตำราบางเล่มในโรงยามีการลงพู่กันด้วยลายมือเยว่ฉี

“ตกลงเขาคิดยังไงกับเยว่ฉีกันแน่นะ?” นางบ่นพึมพำบนม้านั่งหินในสวนด้านหลังห้องนอนของนาง หัวคิดทบทวนถึงเรื่องราวในอดีต

เยว่ฉีเรียนรู้การใช้สมุนไพรเพื่อเลิกฝิ่นผ่านการสอนงานของบิดา นางยอมเป็นเครื่องต่อรองทางการเมืองอย่างเต็มใจ มิใช่เพียงเพราะเวทนาบุรุษอสรพิษที่ถูกฮ่องเต้องค์ก่อนกักขัง นางมีนิสัยทะเยอทะยานมาตั้งแต่เล็ก ๆ นางเป็นผู้มีเมตตา แต่ก็มองการณ์ไกล

แม่ทัพเจี้ยนหยู่อาจคิดกับนางอย่างผู้มีพระคุณ เขายอมอยู่ในแผ่นดินต้าเหลียง แม้ผลัดเปลี่ยนแผ่นดินแล้วก็ตาม ก็เพื่อนาง

คุณชายจางเข้ามาพัวพันกับตระกูลหยางด้วยฝีมืออาวุโส พวกเขาอุตส่าห์ไปคัดขอคำอนุญาตอย่างเป็นทางการจากราชสำนัก ให้ท่านผู้ตรวจการมาเยี่ยมเยียนโรงปรุงยาแห่งนี้ได้ ด้วยความคาดหวังให้บุตรชายปรองดองกับเยว่ฉี

“ชาเจ้าค่ะคุณหนู ท่านผู้ตรวจการฝากทางโรงครัวมา...”

บ่าวคนสนิทเรียกนางให้ตื่นจากภวังค์ ได้ยินแว่ว ๆ ว่าท่านผู้ตรวจการมารอที่ห้องรับรอง เขาแต่งตัวดี พูดจารู้ความ ไม่เมามายเหมือนเมื่อวันก่อน

คุณหนูรองเก็บสมุดในมือ นำพู่กันใส่กล่องไม้ บ่าวสตรีอีกสองตามมาสมทบ พวกนางชื่นชมใบชาและของฝากจากท่านผู้ตรวจการเป็นใหญ่โต

“คราวนี้ใต้เท้าเดินทางไปถึงเมืองลั่วหยาง ไม่ลืมของที่คุณหนูรบกวนเป็นธุระ ใต้เท้าแจ้งว่ามีหีบเครื่องประดับ ไข่มุกที่คุณหนูอยากได้...”

“ท่านผู้ตรวจการคิดถึงคุณหนูรองสุดหัวใจ แม้ตัวห่างไกล ใจคะนึงหานางผู้เป็นที่รัก”

“ซีซวน ซิงอี พวกเจ้าชักจะน้ำเน่าเกินไปละ! เอาของส่งคืนเขา รับแค่ชาอาหาร ให้บ่าวรับใช้แบ่งกันกิน ในส่วนของข้า กินอะไรก็ได้ ไม่เรื่องมาก”

บ่าวรับใช้โดนตะคอกจนหน้าชา นอกเสียจากคุณหนูรองจะไม่ขวยเขินเอียงอาย ไม่กล่าวชมท่านผู้ตรวจการ ยังสั่งห้ามไม่ให้พูดถึงเขาอีก เว้นเสียแต่ว่าพวกนางสมองมีปัญหา คุณหนูรองนี่แหละจะผ่าสมองพวกนางออกมาใส่โหลแช่เหล้าดองสมองหมู!

ความปากร้ายของคุณหนูคนเดิมทำเอาบ่าวก้มหน้าขยาด วิ่งแจ้นไปบอกท่านผู้ตรวจการว่าคุณหนูไม่สะดวกรับแขก นางปิดประตูโรงปรุงยา นำกระดาษแผ่นใหญ่เขียนด้วยพู่กันว่าห้ามใครรบกวน ก่อนเดินหายไปในสวนด้านหลัง

“ซูหนี่ว์ เจ้าคิดว่าแม่ทัพเจี้ยนแอบชอบข้าไหม เขาคิดยังไงกับข้า?”

“คุณหนูรอง!” บ่าวตะโกนพลันสะดุ้งเฮือก มองซ้ายขวาอย่างหวาดกลัว นางก้มตัวลงนั่งยอง ๆ กับพื้นหญ้าตามคุณหนูที่เตรียมตะกร้าเก็บสมุนไพร พูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “ถามอะไรเจ้าคะ? แม่ทัพผู้นั้นเป็นปีศาจนะเจ้าคะ”

“เจ้าตอบให้ตรงคำถาม ข้าไม่ได้ถามว่าเขาเป็นอะไร ข้าถามเจ้าว่าเขา... แอบชอบข้าไหม?”

“เอ่อ... คือ...”

“อย่าอ้ำอึ้ง ข้าถามอะไรก็ตอบมา” นางนั่งยองข้างซูหนี่ว์ เอียงคอฟังอีกฝ่ายเล่าความลับ

“เมื่อนานมาแล้วมีข่าวลือเรื่องแม่ทัพเจี้ยนหยู่กับคุณหนูรอง แต่คุณหนูรองยืนกรานว่าไม่มีอะไรในกอไผ่ วัน ๆ คุณหนูอยู่แต่ในโรงยากับบิดา แม่ทัพเจี้ยนหยู่ไปตั้งทัพทำศึก เดินทางไกลไม่พบหน้าร่วมแรมปี การรักใคร่เยี่ยงหนุ่มสาวนับเป็นข่าวไร้มูล นานวันเข้าผู้คนเห็นไม่มีอะไรอย่างที่คุณหนูลั่นวาจา ท่านแม่ทัพก็พูดเช่นเดียวกันกับคุณหนูรอง”

“อ้อ... เป็นเช่นนี้เอง เลือดเย็นจริง ๆ”

ซูหนี่ว์ถามตาโต “ใครเลือดเย็นหรือเจ้าคะคุณหนู?”

“ก็ข้านี่ไง จะใครเล่า ซูหนี่ว์” นางแค่นหัวเราะ เก็บหญ้าสมุนไพรใส่ชะลอมไม้ไผ่ บ่าวรับใช้หัวเราะตาม นางเข่นเขี้ยวขู่ ในสีหน้าท่าทางข่มขวัญ “หรือเจ้าอยากรำลึกความหลังในกระท่อมมืดเงียบหลังโรงยา”

“มะ... ไม่เจ้าค่ะคุณหนู! ข้ากลัว ๆ”

“อื้ม... เช่นนั้นเจ้าเก็บใบไม้ไปอย่าพูดมาก หากเจ้าหยิบสมุนไพรผิดต้น ข้าจะตีมือเจ้า” เรียวปากอิ่มงามสีชาดขยับยิ้ม เหม่ยฉีเก็บใบฝิ่นอย่างระวังมือ ต้นไม้เหล่านี้มีไม่ถึงสิบต้น ในปริมาณเพียงพอสำหรับท่านแม่ทัพเจี้ยนหยู่และขุนนางคนสำคัญ มันเอาไว้ใช้ในยามคับขัน เมื่อพืชพรรณต้องห้ามได้รับการปลูกในราชสำนักพระราชวังของฮ่องเต้

ไม่นานนัก เสียงซอกแซกในพุ่มไม้เตี้ยพานางมอบขวับ หรี่ตามองสิ่งที่ซ่อนเร้น มันทอดนัยน์ตาสีชาดมา บ่าวสตรีโยนตะกร้าทิ้งไป ร้องเสียงหลง

“กรี๊ดดด งู!”

“อย่าขยับ!”

เหม่ยฉีตวาด พุ่งตัวไปคว้าหมับเข้ากลางลำคอที่เต็มไปด้วยเกล็ดขาวสะอาด อสรพิษร้ายแยกเขี้ยวโดยที่ยังเก็บพิษร้ายไว้ในปากไม่ให้กระเด็นออกมา พิษพวกนี้ทั้งแสบร้อน เผาไหม้ผิวหนังจนเป็นรูได้ นางก้มมองไปทางกองหญ้า เห็นเสื้อผ้าชุดหนึ่ง

“แขกไม่รับเชิญไม่ใช่อสรพิษร้ายที่ไหน มิเช่นนั้นคนกรี๊ดเสียงดังลั่นคงโดนฉกหน้าไปแล้ว” นางเกือบตะคอกสาวใช้ให้หุบปากเสียด้วย ซูหนี่ว์รู้ใจนางนัก ยกมือปิดปากตน ทำปิดหูปิดตา ย่องออกไปเงียบ ๆ

“ซูหนี่ว์ไม่เห็นอะไรทั้งสิ้น ข้ารับประกันว่านางจะไม่พูดเรื่องนี้กับใคร ท่านวางใจได้” เหม่ยฉีไม่เข้าใจตัวนางเอง เหตุใดนางมีกิริยาวาจาร้ายกาจเหมือนเยว่ฉี ทว่านางก็ยังปกป้องบ่าว นางคว้าคองูเผือกได้เร็วกว่าความคิดในหัวนาง ยกงูตัวใหญ่ในมือขึ้นประจันหน้า “ท่านมาทำลับ ๆ ล่อ ๆ ในพุ่มไม้หลังโรงยา ลักลอบมาหาข้าแต่หัววัน มีธุระอันใดเจ้าคะ? ใต้เท้าเจี้ยน”

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • นางเอกเลือดเย็นผู้หลงรักตัวประกอบ   33

    มารดาหลอกเด็กน้อยเพื่อไม่ให้พวกเขาแตกกลุ่ม เด็ก ๆ กอดกันตัวกลมในอ้อมแขนผู้เฒ่าชรา ในกระท่อมมืดแคบท่ามกลางกองฝุ่นควันอันที่จริงมนุษย์น่ากลัวกว่าปีศาจเสียอีก...เมื่อค่ำวานนี้สมรภูมิเลือดในหนานไห่ หัวหน้ากลุ่มโจรหัวรุนแรงอาวุธครบมือถูกจับกุมแล้วส่งตัวถวายต่อองค์ฮ่องเต้เพื่อรับโทษทัณฑ์ หลังจากที่แม่ทัพเจี้ยนหยู่เข้าช่วยเหลือชาวหนานไห่อย่างทันท่วงที แต่เขายังคงมีคำถามในใจ...ไยผู้เฒ่าชราแต่งนิทานหลอกเด็กน้อย ใครเป็นผู้กุเรื่องภูตผีปีศาจเป็นคนแรกน่าขันสิ้นดี! เวลาปีศาจสูบวิญญาณจากเหยื่อน่ะ เหลือเพียงหนังติดกระดูก เบ้าตากลวงโบ๋ ไม่เสียเวลาฉีกแขนขาเพื่อความบันเทิงหรอกพลทหารใต้บังคับบัญชาไม่มีผู้ใดกล้ามองครึ่งอสรพิษสูบวิญญาณจากเหยื่อ แม้แต่ทหารคนสนิทของท่านแม่ทัพตงฟาง ทหารหนุ่มอายุสามสิบห้าปี มู่หยางอายุสี่สิบกว่าปี ร่วมรบเคียงบ่าเคียงไหล่ด้วยกันมานับครั้งไม่ถ้วน พวกเขาไม่เคยเชื่อเรื่องปีศาจอสรพิษที่ฮ่องเต้องค์ก่อนกักขังเอาไว้ทำศึก กระทั่งได้พบด้วยสองตาตนในวันผลัดเปลี่ยนแผ่นดิน‘...มายืนจ้องข้ากินอาหาร จะกินอิ่มท้องหรือไม่?’เจี้ยนหยู่เคยเอ่ยไล่ทหารผู้อยากรู้อยากเห็นไปทุกเรื่อง จากนั้นทั้

  • นางเอกเลือดเย็นผู้หลงรักตัวประกอบ   32

    ณ เมืองหนานไห่ เสียงดินปืนดังสนั่นสร้างความโกลาหล ประชาชนแตกตื่นวิ่งไปคนละทิศทาง เมื่อชนเผ่าเร่ร่อนบุกปล้นสังหารกลางตลาดร้านค้าอย่างไร้ความกลัวเกรง โจรชั่วครอบครองอาวุธและกระทำการอุกอาจกลางวันแสก ๆ แม้รู้ดีกว่าเมืองหนานไห่เป็นหนึ่งในเขตการปกครองของต้าเหลียงหญิงสาวถูกลากพาตัวไปด้วยเงื้อมมืออมนุษย์ กระชากดึงผ้าโพกศีรษะมามัดมืออุดปากพวกนาง ใช้กำลังเข้าข่มเหงจนไร้หนทางสู้ในกระท่อมคับแคบอัตคัดทางการหนานไห่และต้าเหลียงสืบทราบมาว่าไม่ใช่ชนเผ่าเร่ร่อนทั่วไป เป็นกลุ่มนักโทษฉกรรจ์อาวุธครบมือทั้งปืนใหญ่และระเบิด มีส่วนเกี่ยวข้องกับสงครามกลางเมืองที่เพิ่งสิ้นสุดไปไม่นานจากแคว้นสวี ชายฉกรรจ์นับร้อยไปเข้าพรรคพวกกับกลุ่มที่เรียกตัวเองว่าเจิ้นจู้[1]โจรชั่วช้าสามานย์เจ็ดคนส่งเสียงหัวเราะ พวกมันใช้มือสกปรกกดศีรษะบุรุษร่างสูงสง่าในอาภรณ์สีครามให้คุกเข่าลงเจ้าเมืองถูกจับเป็นตัวประกัน ‘รุ่ยยี่เหยา’ ถูกปลายกระบี่พาดคอรอให้ยอมจำนน ทว่าเขากลับเสียงหัวเราะ เหลือกตามองผู้บุกรุกอย่างเคียดแค้น “มีโอกาสให้หนี ก็รีบไป พวกเจ้าเอาชีวิตมาทิ้งเปล่า ๆ”“โอ้... ใครช่างแต่งนิทานหลอกเด็ก ในกลุ่มของพวกข้า ปล้นฆ่ามานับ

  • นางเอกเลือดเย็นผู้หลงรักตัวประกอบ   31

    เดินเลาะเรือนทิศอุดรถัดจากโรงปรุงยาไปก็ถึงเรือนหลังใหญ่ร่มรื่น รายล้อมด้วยต้นไม้สูงตระหง่าน แม้เล็กกว่าเรือนท่านหมอหลวง ทว่าแบ่งแยกเป็นสัดส่วนเหม่ยฉีเดินตามเสียงชื่นชม ‘น่ารักน่าชัง’ เข้าไปถึงด้านในเรือนไม้กว้างขวาง ครอบครัวใหญ่อาศัยร่วมกัน ช่วยเหลือจุนเจือกัน เสียงทารกหัวเราะให้ความรู้สึกกระชุ่มกระชวย นางเข้าไปในห้องนอนซึ่งกลายเป็นสถานที่คลอดบุตร“น่ารักจริง ๆ ขอให้เจ้าเป็นเด็กเลี้ยงง่าย อวี้ซือ อวี้ซิน” นางเอ่ยชมทารกอวบอ้วน ผิวขาวผุดผ่องดั่งหยก หยอกล้อทารกน้อยฝาแฝด ใช้ปลายนิ้วจิ้มแก้มป่อง ๆ ของทั้งสองเล่นทีละคนสายตาเอ็นดูนับสิบคู่จ้องมองเด็กน้อย หันไปถามเยว่ฉีเมื่อไรจะมีบุตรให้บิดาอุ้ม นางตอบพวกเขา “ว่าแต่ข้าเมื่อไรจะมีบุตร ข้ายังไม่มีสามีเลยเจ้าค่ะ”ตามด้วยเสียงหัวเราะขบขันของครอบครัว พวกเขาพูดกับนางอย่างจริงจัง ไยไม่แต่งงานกับท่านผู้ตรวจการไปเสีย บุตรของนางและเขาจะต้องหน้าตาดีเหมือนบิดามารดาแน่นอน นางรีบบ่ายเบี่ยงประเด็นไป ส่งตะกร้ายาบำรุงผ่านมือบ่าวรับใช้“เยว่ฉี ข้าสามารถแนะนำผู้ดีให้เจ้า ลองออกไปเปิดหูเปิดตาในเมืองบ้าง เทพผู้เฒ่าจันทรามิอาจผูกด้ายแดงให้เจ้าได้ สามีเจ้าคงจะอยู

  • นางเอกเลือดเย็นผู้หลงรักตัวประกอบ   30

    บิดาเรียกบุตรสาวเหม่ยฉี หากมีใครถามขึ้นมา เขาเพียงแก้ตัวว่าเป็นนามใหม่ ขนาดผู้คนในเมืองยังตั้งสมญานามผู้อื่นได้ พวกเขาเรียกสกุลหยางว่า ‘หยางเย่าฟาง’ [杨药坊][1] ยกให้เป็นห้องยาแห่งต้าเหลียง บิดาจะเปลี่ยนชื่อให้บุตรสาวบ้างจะเป็นไรไป อย่างไรเสียนางก็เป็นบุตรีของเขาอยู่วันยังค่ำท่านหมอไท่ซือจิ่วย้อนถามคนรอบกายว่า เหม่ยฉี เยว่ฉี มีความหมายถึงคำว่างาม ลูกสาวของเขาก็งามดุจนางฟ้านางสวรรค์จริงไหมเล่า?“ข้ามีเรื่องจะถามท่านพ่อ...” ร่างบางในชุดขาวนั่งอยู่ข้างบิดาหน้าเตาปรุงยา นางเอาถั่วมานั่งกินหนึ่งหยิบมือ “เรื่องตำราผสานจิตใจ ท่านพอจะรู้หรือไม่? ข้าจำไม่ได้ชัดเจนนัก”“ไม่รู้”บิดาไม่บอกนางต่างหาก! เหม่ยฉีมองค้อนเสื้อขาวสะอาดผ่านแผ่นหลังกว้างไป บิดาลุกขึ้นหนีนางไปหยิบสมุนไพรตากแดดด้านหลังมาหย่อนใส่หม้อต้ม มือพัดควันพวยพุ่งขึ้นฟ้าเปิดโล่ง“เจ้าจะจับผิดอะไรข้าอีก เหม่ยฉี ข้าบอกไม่รู้ก็คือไม่รู้” เขาเอ่ยพลางชำเลืองมองบุตรสาว นางเปิดประตูเข้า ๆ ออก ๆ ชะโงกหน้ามองใบหน้าหล่อเหลาเคร่งเครียด บิดาทำเมินเฉยกับบุตรสาวราวกับว่านางไม่มีตัวตน‘คอยดูเถิด ข้าต้องรู้ความจริงให้ได้!’ นางหรี่ตาเล็กจนเป็นเส้นตรง เด

  • นางเอกเลือดเย็นผู้หลงรักตัวประกอบ   29

    สตรีผู้เดียวในต้าเหลียง สำคัญที่สุดสำหรับแม่ทัพเจี้ยนหยู่คือคุณหนูเยว่ นางเป็นจุดอ่อนของเขา การมีอยู่ของเขาในฐานะแม่ทัพก็เพื่อปกป้องนาง แต่ดูเข้าสิ... ท่านแม่ทัพจะมาจะไป นางเคยสนใจเสียที่ไหน“ตอนเล็ก ๆ ข้าเคยพูดว่าจะตามติดเขาไปทุกที่เป็นวิญญาณร้าย ถ้าหากว่าเขาหนีข้าไป ดังนั้นข้าย่อมสำคัญที่สุด แม่ทัพเจี้ยนหยู่เป็นคนของข้า ข้าก็เป็นคนของเขาน่ะสิ” คุณหนูเอ่ยเรื่องในวันวานอย่างที่นางไม่เคยเปิดเผยกับใคร นางหัวเราะเสียงดังไปถึงข้างนอก บ่าวในเรือนสะดุ้ง เว้นเพียงซูหนี่ว์ซึ่งได้รับความเอ็นดู เพราะนางประจบประแจงเก่ง“ขอบใจเจ้าที่กล้าพูดออกมา ซูหนี่ว์ เด็กดี ข้าจะไม่ทำโทษเจ้า ข้าไว้ใจเจ้าที่สุดรู้ไหม? พวกเจ้าก็เอาอย่างซูหนี่ว์ อย่าขัดใจข้านะซิงอี ซีซวน”“เจ้าค่ะ!” สาวน้อยทั้งสองตอบอย่างพร้อมเพรียง ซูหนี่ว์ขยับมาใกล้ ๆ คุณหนู“คุณหนูรองไว้ใจข้าแล้วต้องกินข้าวกินยาด้วยนะเจ้าคะ พวกข้าไม่อยากโดนท่านแม่ทัพดุ”“กินสิ...”อย่างไรนางก็ต้องกิน เพราะถ้านางไม่กินข้าวครบมื้อ ทั้งซูหนี่ว์และบ่าวรับใช้บ้านนี้คงถูกแม่ทัพคนดีตามมาเอาเรื่อง หลังจากที่เขาเสร็จธุระแน่นับตั้งแต่วันที่ออกจากบ้านเด็กกำพร้า นางก็ปา

  • นางเอกเลือดเย็นผู้หลงรักตัวประกอบ   28

    กว่าเยว่ฉีจะรู้ตัวว่าหลงกลพวกงูลิ้นสองแฉกเข้าแล้ว คมกระบี่เย็บวาบพาดลงบนลำคอ บุรุษร่างกำยำที่นั่งอยู่ใต้แสงเทียนสลัวตะคอกนาง ‘ยาอะไร!?’การสังหารเด็กไม่ใช่เรื่องยากสำหรับแม่ทัพปีศาจ หากไม่ติดว่าเขาดันนึกขึ้นได้ นางเป็นคนคนเดียวกับที่เคยพบในหอไท่หยาง เขาพอรู้ว่าเมื่อไรที่บิดาเลี้ยงเดี่ยวเข้ามาทำธุระในวังหลวง เด็กสาวตัวน้อยจะมุดช่องส่งอาหารเข้ามา นำขนมและยาสมุนไพรมาให้เขา นางเป็นบุตรีแพทย์หลวงผู้หนึ่งมีเพียงไม่กี่คนที่รู้ เหตุใดแม่ทัพเจี้ยนหยู่ยอมให้เยว่ฉีจดบันทึกอาการโดยละเอียด แถมยอมดื่มยาต้มสมุนไพรผสมฝิ่น เป็นผู้ป่วยในความดูแลของนางอย่างว่าง่าย ฮ่องเต้อำมหิตก็เช่นกัน พอรู้ว่าคุณหนูเยว่ฉี บุตรีหมอหลวงกระทำผิดมหันต์ กลับถามความสมัครใจของนางว่าจะรับหน้าที่นี้หรือไม่อาการผู้ป่วยเสพติดฝิ่นมักง่วงซึม สุขภาพร่างกายทรุดโทรม ตัวซีดเหลือง ซูบผอม ดวงตาเหม่อลอย แต่เมื่อครึ่งปีศาจเสพติดสมุนไพรให้โทษเหล่านี้ กลับกลายเป็นกระปรี้กระเปร่า มีบ้างที่เขาจะปิดตานอนเกียจคร้าน ปวดหัวปวดท้อง คลื่นไส้อาเจียน ปากซีดมือสั่น เขาอารมณ์แปรปรวนอย่างมนุษย์ กินอาหารมากขึ้น ช่วงนี้เขาก็มีอาการเช่นนั้น‘ระหว่างที่ข้

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status