หน้าหลัก / รักโบราณ / นางโจรขโมยใจองค์ไท่จื่อ / ตอนที่ 7 บุรุษลึกลับกับศิษย์พี่

แชร์

ตอนที่ 7 บุรุษลึกลับกับศิษย์พี่

ผู้เขียน: ชาไทยเย็น
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-02-20 03:26:51

 

เมื่อเดินออกมาจนพ้นโรงน้ำชาแล้ว ซินเหยาจึงค่อยๆ ดึงมือกลับ ทำเอาลู่จื่อหยางมองกลับไปหานาง ก่อนที่เขาจะถามอย่างใคร่รู้ว่านางไปมีเรื่องอะไรกับคนกลุ่มนั้น

“เจ้ามีเรื่องอะไรกับพวกเขางั้นหรือ”

“ไม่มีอะไรหรอก ก็แค่พวกชอบหาเรื่อง”

“ข้ามีเวลาพร้อมจะฟัง แล้วอีกอย่าง งานพรุ่งนี้ หากพวกเขาเข้าร่วมจริง ๆ ข้าก็ต้องหาวิธีป้องกันมิให้เกิดเรื่องวุ่นวายขึ้น เพราะฉะนั้น ซินเหยา เจ้าเล่ามาให้ข้าฟังเสียดีๆ”

นางมองหน้าเขาที่ใช้เหตุผลที่สวยหรูมาบังคับให้นางเล่า ทั้ง ๆ ที่เรื่องนี้ นางไม่อยากจำ และลืมไปนานแล้วตั้งแต่ลงจากเขาเซียนซี

“ข้าเคยเรียนที่สำนักเพ่ยเฉิง ที่เขาเซียนซีมา แต่ด้วยวิชาบางอย่างที่ข้าฝึกมันไม่เหมือนวิชาที่พวกเขาเรียนรู้ ฟางหรูนางจึงหาเรื่องข้า ให้ข้าแสดงวิชาที่เรียนจากที่อื่นออกมาและใส่ร้ายหาว่าข้าฝึกวิชานอกรีต และฟ้องอาจารย์ให้ขับไล่ข้าออกจากสำนัก”

“แต่นางมีสิทธิ์อะไรมาไล่เจ้า แล้ววิชาที่เจ้าฝึก คือวิชาใดกันล่ะ”

“สุดท้ายอาจารย์ก็มิได้ไล่ข้าเจ้าค่ะ แต่นางอาศัยความเป็นศิษย์พี่เหมือนกับศิษย์พี่จินเย่ นางเลยยุให้ศิษย์ร่วมสำนักมารังแกข้าหลายครั้ง อาจารย์จึงเรียกข้าไปสอนด้วยตัวเอง เมื่อข้าเรียนจบแล้ว ข้าจึงขอลงจากเขาเอง แต่ฟางหรูนางไม่รู้เรื่องนี้เลยเที่ยวปล่อยข่าวลือออกไปว่าข้าถูกไล่ออกจากสำนักเจ้าค่ะ”

“สำนักเพ่ยเฉิง โด่งดังเรื่องวิชาตัวเบาสายขาว วิชาวิหคภูษานั่น ใช่กระบวนท่าที่เจ้าจัดการกับฮูหยินรองกับคุณหนูรองที่จวนอ๋องหรือไม่”

“ใช่เจ้าค่ะ ที่จริงไม่ได้อยากทำร้ายคนเท่าไหร่ แต่ใครใช้ให้พวกนางยั่วโมโหข้ากันล่ะ ช่วยไม่ได้”

“เจ้านี่ร้ายกาจไม่เบาเลยนะ ว่าแต่วิชานอกรีตที่บอก มันคือวิชาใดกัน”

“ท่านอยากรู้หรือ”

“เจ้าพูดมาเสียขนาดนี้ ข้าก็ย่อมอยากเห็นเป็นธรรมดา บอกข้าได้หรือไม่”

“ท่านตามข้ามาสิ”

“อ้าว เดี๋ยวก่อนรอด้วยซินเหยา”

เขาวิ่งตามนางมาจนถึงเนินเขาที่ชานเมืองไม่ไกลจากตลาดมากนัก แต่หากว่าที่นี่ เงียบสงบ มีเพียงต้นไม้ใหญ่เพียงต้นเดียว ก่อนที่เขาจะมองไปรอบ ๆ และรู้สึกคุ้นเคย

“เดี๋ยวนะ ทางแคบ ๆ นี่มัน….”

เขาหันไปที่ซินเหยา ที่กำลังยกขลุ่ยที่นางเก็บไว้ในเสื้อ ออกมาและเริ่มเป่า เขาลอบมองนางอย่างลืมตัว ภาพสตรีตรงหน้า ที่ยืนเป่าขลุ่ยนั้น ช่างดูงดงามราวภาพวาด ทำให้เขาไม่สามารถละสายตาไปจากนางได้ จนกระทั่งเขาเริ่มได้ยินเสียงบางอย่างที่บินเข้ามาใกล้ ทำให้เขาตกใจ

“เดี๋ยว นั่นมัน…”

และความทรงจำของเขาก็เริ่มกลับมา

“เป็นเจ้า ที่เรียกพวกมันมา วันก่อนก็เป็นเจ้าที่ช่วยข้าไว้ที่ช่องเขานั่น”

เขาเดินไปถอยหลังไป ซึ่งเขาไม่รู้ว่านางจะควบคุมฝูงต่อนั้นได้แค่ไหน

“ท่านไม่ต้องกลัว มันไม่ทำร้ายท่านหรอก”

“เจ้ารู้ได้อย่างไร”

“ก็ข้ายังมิได้สั่ง”

“ข้าเห็นแล้ว แต่ตอนนี้ เจ้าให้พวกมันกลับไปก่อนได้หรือไม่”

“ก็ได้”

นางเริ่มเป่าขลุ่ยอีกครั้ง ก่อนที่ฝูงต่อฝูงใหญ่จะเริ่มเคลื่อนตัวและจากไปราวกับสั่งได้ ก่อนที่เขาจะค่อยๆ มองพวกมันบินจากไป และหันมาคุยกับนาง

“วันก่อน เจ้าไม่ได้เป่าทำนองนี้”

“ท่านนี่ความจำแม่นใช้ได้ ถูกต้อง วันนั้นข้าสั่งให้มันโจมตี เฉพาะคนชุดดำที่เข้าทำร้ายพวกเจ้า”

“เจ้าสั่งการมันโดยใช้เสียงและทำนองที่แตกต่าง แบบนี้นี่เอง น่าสนใจจริง ๆ”

“เหตุใดจึงบอกว่าวิชานี้เป็นวิชานอกรีตกันล่ะ”

“ก็แค่ผู้ที่สอนข้าไม่ยอมสอนให้นาง เรื่องนี้ทำให้นางไม่พอใจเลยใส่ร้ายข้าว่าฝึกวิชานอกรีต”

“ผู้ใดเป็นคนสอนเจ้ากัน”

แววตานางมีความภูมิใจและรอยยิ้มที่เผยออกมาอย่างไม่ปิดบังราวกับกำลังพูดถึงคนรัก เขารู้สึกอึดอัดใจแปลก และเริ่มหงุดหงิดขึ้นมาเล็กน้อยกับท่าทีของนางตอนนี้

“เป็นผู้มีความรู้ท่านหนึ่ง อยู่บนเขาเซียนซีเหนือ เลยสำนักข้าไป”

“เจ้ากราบเขาเป็นอาจารย์”

“ไม่ เขาไม่รับศิษย์ เพียงแค่เขาพอใจจะสอนผู้ใดก็จะสอนเลย”

“ดูจากท่าทางเจ้าแล้ว คงจะเลื่อมใสเขาไม่น้อยสินะ”

“ใช่ เขาน่าเลื่อมใสมากจริง ๆ”

“เขาเป็นบุรุษ??”

ซินเหยาหันมามองหน้าเขา แก้มแดงระเรื่อของนาง บอกให้เขาได้รับรู้ว่าผู้สอนวิชานี้ให้นาง คงได้ขโมยหัวใจของสตรีตรงหน้าเขาไปด้วยเรียบร้อยแล้ว ก่อนที่นางจะตอบเขา

“ใช่ เป็นบุรุษที่น่าเลื่อมใสจริง ๆ ข้ายังไม่เคยเห็นบุรุษคนใดที่เป็นอย่างเขา องอาจ สง่างาม เรียบง่าย พูดน้อย เก่งกาจ”

เขาไม่รู้ว่าควรรู้สึกเช่นไรดีกับคำพูดที่ชื่นชมบุรุษอื่นต่อหน้าเขา หรือน้ำเสียงที่ฟังแล้วดูชื่นชมจนออกนอกหน้า ทำให้ผู้ที่ได้ฟังรู้สึกหงุดหงิดมากขึ้นเรื่อย ๆ

“เราออกมานานแล้ว คงต้องกลับเสียที”

ซินเหยาหันไปมองเขาที่มองมาที่นางอย่างนึกแปลกใจ

“ว่าแต่ท่านเถอะเจ้าค่ะ ท่านถามข้าว่าข้าไปทำอะไรที่หอหงอี้ แล้วท่านล่ะเจ้าคะ ไปที่นั่นเพราะเหตุใดกัน”

“นี่ใช่เรื่องที่เจ้าควรถามงั้นหรือ”

“อ้อ ข้ารู้แล้ว ท่านเป็นบุรุษก็ย่อมต้องไป…”

“ข้าว่าเจ้าอย่าคาดเดาดีกว่า”

“ท่านกลัวว่าข้าจะเดาถูกสินะเจ้าคะ”

“รีบกลับเถิด ใกล้ค่ำแล้ว”

นางเดินตามเขาลงเขา มุ่งหน้าไปที่บ้านของนาง ก่อนที่พวกเขาจะพบว่ามีคนที่ยืนรอนางอยู่ที่หน้าประตูใหญ่ทางเข้าบ้านของนาง ทำให้ลู่จื่อหยางรู้สึกหงุดหงิดเพิ่มโดยมิทราบสาเหตุ

“ศิษย์พี่จินเย่ ท่านมาทำอะไรที่นี่เจ้าคะ”

“ซินเหยา ข้าแวะมาหาเจ้า แต่ไม่แน่ใจว่าที่ไหน เลยยืนอยู่ว่าจะลองสอบถามดู เจ้าก็มาพอดีเลย คุณชายลู่”

“หลังนี้แหละเจ้าค่ะ ท่านเข้ามาก่อนสิเจ้าคะ คุณชายลู่ ข้าไม่ส่งท่านนะเจ้าคะ เจอกันพรุ่งนี้เจ้าค่ะ ศิษย์พี่ เชิญเข้าบ้านก่อนสิเจ้าคะ”

ลู่จื่อหยางไม่ทันจะพูดสิ่งใด นางก็พาศิษย์พี่ของนางเดินเข้าบ้าน ทิ้งให้เขายืนมองอยู่หน้าจวน เขารู้สึกโมโหไม่น้อยที่ถูกทิ้งเอาไว้แบบนี้ แม้ว่านางไม่จำเป็นจะต้องเอ่ยลา หรือเชิญเขาเข้าไปในบ้านก็ตาม

“เสี่ยวหลุน”

เขาเรียกองครักษ์ของเขา ก่อนที่ผู้ที่เรียกจะปรากฏกายที่ด้านหลังเขาทันทีที่เขาเรียก

“เจ้าลองไปสืบเรื่องสำนักเพ่ยเฉิงกับเรื่องของไป๋ซินเหยาให้ข้าที ด่วน”

“รับทราบขอรับ”

ลู่จื่อหยางเดินกลับไปที่โรงเตี๊ยมด้วยความเบื่อหน่าย เขาจะรอข่าวของเสี่ยวหลุนก่อน หรือบางทีอาจจะได้ข้อมูลใหม่ เมื่อเขามองไปเห็นสตรีกลุ่มเดิมที่เขาเจอที่โรงน้ำชาเมื่อตอนบ่าย และนางก็เห็นเขา

“คารวะคุณชาย”

“แม่นาง อย่าได้มากพิธี พวกท่านพักที่นี่เหมือนกันหรือ”

“ใช่เจ้าค่ะบังเอิญจริงที่พักที่เดียวกันกับคุณชาย”

“ข้าขออภัยที่ตอนบ่ายเสียมารยาทกับพวกท่าน”

“มิกล้าเจ้าค่ะ ข้าน้อยเจินฟางหรูมิได้โกรธเคืองท่านแต่อย่างใดเจ้าค่ะ”

“เรียนเชิญไม่บังเอิญพบ ถ้าอย่างไร ให้เกียรติข้าเลี้ยงข้าวแม่นางสักมื้อได้หรือไม่”

“คุณชาย ควรเป็นข้าที่รู้สึกว่าได้รับเกียรตินี้เจ้าค่ะ”

“แม่นางเจิน เชิญทางนี้”

เขาพานางเดินออกไปยังโต๊ะในห้องส่วนตัวก่อนที่จะสั่งอาหารและค่อยๆ ลองถามเรื่องราวของไป๋ซินเหยาจากปากของเจินฟางหรู ที่รู้สึกว่านางไม่รักสำนัก และเริ่มเรียนวิชานอกรีต และให้ความสนใจมากกว่าสำนัก ทั้งๆ ที่นางเป็นศิษย์คนโปรดของอาจารย์ ขยันและเรียนรู้ไว

“ในตอนแรก ศิษย์น้องข้าคนนี้ก็ขยันดีเจ้าค่ะ แต่พอนางลุ่มหลงบุรุษผู้นั้นที่สอนวิชามารนอกรีตให้นาง ซินเหยาก็แทบจะไม่อยู่ที่สำนักอีกเลย เอาแต่ไปอยู่บนเขาเซียนซีเหนือ อาจารย์เคยเรียกนางไปว่ากล่าว แต่นางก็หาฟังไม่”

“นางไม่กลับมาที่สำนัก เจ้าหมายความว่า…”

“ใครจะทราบเรื่องความสัมพันธ์นั้นกันล่ะเจ้าคะ นางมิเคยบอกผู้ใด แต่การที่ไปค้างแรมที่อื่นก็เท่ากับผิดกฎของสำนักแล้ว ด้วยเหตุนี้ คงจะเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้นางถูกไล่ออกจากสำนัก เพราะเรื่องคาวๆ ของนางกับบุรุษลึกลับผู้นั้น”

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • นางโจรขโมยใจองค์ไท่จื่อ   ตอนพิเศษที่ 4

    ใบหน้าของเขาตกใจระคนดีใจเมื่อมองไปที่ใบหน้าอันงดงามของพระชายาที่บอกเขาเรื่องนี้ มิน่าเล่านางจึงไม่ยอมให้เขาทำ เพราะต้องการบอกข่าวดีนี้ก่อนที่จะเข้าหอ“จริงหรือ เหยาเหยา เจ้าจะบอกว่า ในท้องเจ้าตอนนี้…มีลูกของเราอยู่เช่นนั้นหรือ”“เพคะ เพราะฉะนั้น พระองค์จะทำอะไร…ก็ จะหักโหมเช่นเดิมมิได้นะเพคะ”“ข้าดีใจยิ่งนัก ข้าดีใจที่สุดเลย เหยาเหยา นี่มันเรื่องดีมากจริงๆ เหตุใดเจ้าไม่บอกข้าก่อนหน้านี้ พิธีการทั้งหลายนั่น ข้าจะได้สั่งลดเพื่อไม่ให้เจ้าและลูกต้องเหนื่อยมากขนาดนี้”“ข้าปรึกษาแม่นมแล้วเพคะ แม่นมก็จัดการทุกอย่างให้รวบรัดแล้ว ก่อนหน้านี้หม่อมฉันมีอาการแพ้ท้องหนัก ทั้งจวนเลยวุ่นวายเกรงว่าข้าจะทนไม่ไหว ทั้งเครื่องประดับและชุดหนักๆ นี่ก็ถูกถอดออกไปหลายชิ้นเหลือเพียงสิ่งที่สำคัญๆ ไว้เท่านั้นเพคะ”“นี่ขนาดเจ้าเอาออกไปบ้างแล้ว แต่เหตุใดมันยังดูเยอะและหนักอยู่เล่า ตอนนี้เจ้ารู้สึกเช่นไรบ้าง อยากกินอะไรหรือไม่ เจ้ายังไม่ได้กินอะไรเลยตั้งแต่เช้านี่นา ข้าจะไปสั่งให้คนยกอาหารมาให้นะ”ว่าแล้วเขาก็รีบเดินไปเปิดประตู แม่สื่อถึงกับตกใจที่เจ้าบ่าวจู่ ๆ ก็เปิดประตูออกมา แต่เขาเพียงสั่งอาหารเพื่อให้เจ้าสาวเ

  • นางโจรขโมยใจองค์ไท่จื่อ   ตอนพิเศษที่ 3

    พระราชพิธีผ่านไปด้วยความราบรื่นและโล่งอกของทั้งแม่นมหวงและพระชายาหลิวอ๋องที่มีความกังวลเกี่ยวกับอาการแพ้ท้องของเจ้าสาวซึ่งไม่ต้องการแจ้งข่าวนี้ให้กับผู้อื่นทราบเจ้าบ่าวเองก็แทบจะไม่อยากรับแขกอีกต่อไป เขาอยากจะเร่งให้จบงานเลี้ยงที่ท้องพระโรงเร็วๆ เสียเหลือเกินเพราะคิดถึงเจ้าสาวที่เฝ้ารอมาหลายสิบวันเต็มที่แล้วตำหนักบูรพา ห้องส่งตัวเจ้าสาว“พระชายา อีกประเดี๋ยวเมื่อองค์ไท่จื่อเข้ามา จะเปิดหน้าเจ้าสาวก่อน และดื่มสุรามงคล คืนนี้จะมีแม่สื่อเฝ้าอยู่หน้าห้องจนกว่าไฟในห้องจะดับลงเพื่อส่งตัวพวกท่านเข้าหอ พิธีเข้าหอ ห้ามมิให้คู่บ่าวสาวออกจากห้องหอจนกว่าจะรุ่งสาง”“ข้าเข้าใจแล้วเจ้าค่ะแม่นม”“เอาล่ะ ตอนนี้ข้าจะออกไปแล้วนะเพคะ องค์ไท่จื่อน่าจะกำลังมาแล้ว”“ขอบคุณแม่นมเจ้าค่ะ”เป็นดังคาด องค์ไท่จื่อ เว่ยจื่อหยางเสด็จมาถึงห้องส่งตัวก่อนเวลาถึงสองเค่อ เขาไม่อาจรอได้อีกต่อไปแล้ว เขาทิ้งให้องค์ชายห้า เจ้าบ่าวอีกคนทำหน้าที่รับแขกแทนเขา แล้วเขาก็มาที่ห้องส่งตัวก่อน องค์ชายห้าเข้าใจความรู้สึกของจื่อหยางดี เขาจึงรับหน้าที่ดูแลแขกในงานแทนน้องชายประตูห้องส่งตัวถูกเปิดออก เว่ยจื่อหยางเดินเข้ามา ตอนแรกเขารี

  • นางโจรขโมยใจองค์ไท่จื่อ   ตอนพิเศษที่ 2

    ท่านหมอวิ่งเข้าไปยังห้องที่ซินเหยานอนพักอยู่ ตอนนี้นางหยุดอาเจียนแล้ว เขาเริ่มจับชีพจรของนางก่อนและก็หันมามองที่แม่นมหวงและพระชายาที่มองไปที่คนป่วยอย่างนึกเป็นห่วง ท่านหมอลุกขึ้นมาพร้อมกับความตกใจของทั้งคู่“ท่านหมอ เหตุใดตรวจเพียงนิดเดียว นางเป็นหนักถึงเพียงนี้ ท่านจะรีบลุกไปไหนกัน”“ยินดีกับพระชายาด้วย คุณหนูตั้งครรภ์แล้วขอรับ”ทั้งสองที่รอฟังเบิกตากว้างด้วยความตกใจระคนดีใจ พร้อมกับแม่นมที่คอยตบแขนพระชายาหลิวอ๋อง“พระชายา ท่านได้ยินหรือไม่ ข่าวดีเช่นนี้ พระชายา”“มีครรภ์ เหยาเหยามีครรภ์ แม่นม ข้ามิได้ฟังผิดไป”“ไม่ผิดเจ้าค่ะ เร็วเข้า พวกเจ้ารีบไปหาผ้าชุบน้ำมาเช็ดหน้าให้คุณหนู ท่านน่ะ รีบไปเตรียมอาหารบำรุง ข้าจะรีบจดให้ว่าต้องซื้อสิ่งใดบ้าง พระชายา ท่านอยู่เป็นเพื่อนคุณหนูก่อน ข้าจะรีบไปช่วยท่านป้าฝูเตรียมของบำรุง”“ท่านหมอ แล้วช่วงนี้ต้องระวังสิ่งใดบ้างเจ้าคะ”“พวกท่านไม่ต้องเป็นห่วงไป ไม่มีอะไรหนัก ช่วงนี้ให้นางพักผ่อนมาก ๆ อย่ายกของหนัก ห้ามวิ่ง ระวังเรื่องอาหารรสจัด ส่วนเรื่องอื่น ไม่น่าต้องเป็นห่วง ช่วงครรภ์อ่อนๆ การพักผ่อนเป็นเรื่องสำคัญ”“ขอบคุณท่านหมอเจ้าค่ะ”“ยินดีด้วยๆ พระช

  • นางโจรขโมยใจองค์ไท่จื่อ   ตอนพิเศษที่ 1

    พระราชพิธีแต่งตั้งองค์ไท่จื่ออย่างเป็นทางการได้ผ่านไปสองวันแล้ว เหลืออีกเพียงสิบวันก็จะถึงวันพระราชพิธีสมรสและแต่งตั้งพระชายาองค์ไท่จื่อจวนสกุลหลิวต่างเร่งตกแต่งจวนและส่วนหนึ่งก็รีบจัดเตรียมสถานที่เพื่อรอรับงานใหญ่ ไม่คิดว่าการกลับมาเมืองหลวงในครั้งนี้จะเกิดเรื่องมากมายถึงเพียงนี้“พวกเขามากันแล้ว อาจารย์ ศิษย์จะไปต้อนรับพวกเขาเอง”“ไปเถอะๆ แล้วพาพวกเขาไปห้องพักด้วย”“ขอรับอาจารย์”เซียวจุนวิ่งออกไปหน้าจวน รถม้าสองคันที่จอดต่อกันอยู่เพื่อมาร่วมงานสำคัญที่จะเกิดขึ้นในอีกสิบวันข้างหน้า เซียวจุนวิ่งออกมารอรับพวกเขา ประตูรถม้าคันแรกเปิดออกมาแล้ว สิงอี้หานเดินนำหน้าออกมาพร้อมกับพยุงอันถงถงลงมาจากรถม้า ก่อนจะลงมาทักทายเซียวจุนที่รออยู่หน้าจวน“คุณชายสิง แม่นางอัน ยินดีต้อนรับ การเดินทางเป็นอย่างไรบ้าง”""คุณชายเซียว""พวกเขาเอ่ยทักขึ้นพร้อมกัน ไป๋ซินเหยาเล่าเรื่องเซียวจุนในจดหมายให้พวกเขาฟังแล้วก่อนเดินทางมาที่นี่ พวกเขาพบเซียวจุนอีกครั้ง แต่ดูเหมือนว่าครั้งนี้ เซียวจุนจะดูเป็นมิตรมากกว่าที่เจอตอนอยู่เขาเซียนซี“พี่เซียว พวกข้าปลอดภัยดี ระยะทางค่อนข้างไกลแต่เดินทางสะดวก ได้ข่าวว่าท่านบาดเจ

  • นางโจรขโมยใจองค์ไท่จื่อ   ตอนที่ 82 รักเดียวในดวงใจ (ตอนจบ)

    จื่อหยางรีบลุกขึ้นจากตักของซินเหยาที่เขากำลังนอนหนุนอย่างสบาย และหันมากอดนางแทน“ข้าก็ไม่ได้อยากโกหกเจ้านะ เพียงแต่เหตุการณ์บางอย่างทำให้ข้าบอกเจ้าไม่ได้ หากบอกเจ้าไป เรื่องบางเรื่องอาจจะไม่เป็นเช่นนี้ ไหนเจ้าบอกว่าไม่โกรธข้าแล้วอย่างไรเล่า”“ข้าก็ไม่ได้พูดอะไรสักคำ เป็นท่านที่ร้อนตัวออกมาเอง”“ก็ได้ๆ ข้าผิดเองๆ ทุกเรื่องเลย ข้าผิดแต่เพียงผู้เดียว”“แล้วหลังจากนั้นเล่าเพคะ”“จากนั้น เซว่านชิงก็เอาขวดยานั่นมาให้ข้ากับเสด็จพี่ตรวจดู พบว่ามันเป็นยาพิษ พวกเราเลยสลับขวดใหม่และซ้อนแผนนาง ทำให้เซว่านชิงทำเหมือนทำตามแผนของนาง ข้ารู้ว่านางกำนัลนั่นเป็นคนของหยุนเซียน นางต้องฟ้องแน่ และก็อย่างที่เจ้าเห็นนั่นแหละ”“มีเพียงข้าคนเดียวที่ไม่รู้เรื่องแผนการนี้”“นั่นเพราะพวกเราไม่มีเวลาบอกกับเจ้า เซว่านชิงเองก็บอกเจ้าไม่ได้เพราะนางกำนัลสองคนนั้นจับตาดูพวกเจ้าอยู่ นางจึงทำได้เพียงทำตามแผนเท่านั้น”“ท่านไม่เชื่อว่าข้าจะเป็นคนทำตั้งแต่แรก”“ข้าไม่มีทางเชื่ออยู่แล้ว เจ้าไม่ใช่คนแบบนั้น และคงไม่โง่ขนาดที่จะวางยาพิษอย่างโจ่งแจ้งแบบนั้น ดูก็รู้ว่าเรื่องนี้ต้องมีคนใส่ร้ายเจ้าแน่ ๆ”“ขอเพียงพระองค์เชื่อ หม่อม

  • นางโจรขโมยใจองค์ไท่จื่อ   ตอนที่ 81 นางโจรขโมยใจ

    “ข้ากลัวว่าเจ้าจะปฏิเสธข้า ไม่ยอมรับข้า เจ้าเป็นคนรักอิสระดั่งนกที่โบยบินอยู่บนท้องนภาที่ยิ่งใหญ่ แต่ตัวข้าคือพญาอินทรีที่ต้องคอยเฝ้ามองสรรพสิ่ง คอยจัดการกับสิ่งที่ไม่ถูกต้องและกำจัดเหยื่อที่มารุกราน ข้ากลัวว่าหากเจ้าไม่รักข้าก่อน ข้าจะไม่สามารถกุมหัวใจเจ้าได้ เจ้าจะโบยบินจากข้าไป นั่นคงทำให้ข้าไม่มีแรงที่จะมีชีวิตอยู่ได้อีกต่อไป”“แต่อย่างไรพระองค์ก็ต้องเลือก และสิ่งที่เลือกก็ช่างยิ่งใหญ่ แม้จะไม่มีหม่อมฉัน พระองค์ก็ยืนหยัดเพื่อราษฎรได้นะเพคะ”“เมื่อก่อนได้ แต่ตอนนี้ข้าไม่แน่ใจ เหยาเหยา เจ้าเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตข้า ตั้งแต่เมื่อใดก็ไม่รู้ที่หัวใจข้าถูกเจ้าขโมยมันไปจนหมดสิ้น ข้าไม่เป็นตัวของตัวเอง ข้าผู้ไม่เคยเกรงกลัวสิ่งใด กลับกลัวว่าเจ้าจะไม่พอใจ อารมณ์เจ้าขึ้นๆ ลงๆ ก็ทำให้ข้ากลัวจนทำอะไรน่าอับอายมากมาย ข้ามักจะทำตัวไม่ถูกเวลาที่อยู่ต่อหน้าเจ้า นึกๆ ไปแล้ว พอเป็นเรื่องของเจ้า ข้ารู้สึกว่าข้าเป็นเพียงแค่ลูกนกหัดบินเท่านั้น และไม่รู้ตัวว่าเมื่อไหร่ ที่ขาดเจ้าไม่ได้ รู้แต่ว่าตอนนี้ อีกครึ่งชีวิตที่เหลือของข้า อยากจะอยู่กับเจ้าตลอดไป”“พระองค์พูดเช่นนี้ ต้องการให้หม่อมฉันยกโทษให้งั

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status