เข้าสู่ระบบตอนที่ 4 พบเจออีกครั้ง
ตุบ!! ร่างขาว ๆ เล็ก ๆ ร่วงหล่นกระแทกพื้นจนเกิดเสียงดัง แต่กลับไม่มีเสียงกรีดร้องเหมือนเช่นเคย ดวงตาสีน้ำตาลทองจดจ้องสิ่งต่าง ๆ อย่างไม่วางตา แววตาบ่งบอกถึงความเด็ดเดี่ยวไม่กลัวอะไร
ช่างแตกต่างจากเมื่อตอนกลางดึกเหลือเกิน... ชุดเดิม คนเดิม แต่กลับไม่ร้องไห้ ไม่โวยวาย ถึงแม้ดวงตาจะฉายแววความเศร้าออกมาอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็แฝงไปด้วยความเด็ดเดี่ยวไม่ยินยอม เด็ดเดี่ยวเกินที่เด็กอายุเท่านี้จะมีได้... นอกเสียจากไปเจอเหตุการณ์บางอย่างมา
"สวัสดีตัวเล็ก... " ตงหยางเฝ้ารอคอยตั้งแต่กลางดึกจนถึงตอนนี้... เขาจึงเห็นทุกอย่าง และแน่นอนว่าเขาสำรวจเด็กน้อยก่อนที่จะแสดงตัว
"ไม่ต้องกลัว... จำไม่ได้เหรอ... เราเคยเจอกันแล้ว" เมื่อเห็นว่าเจ้าตัวเล็กมองมาอย่างหวาดระแวง และเตรียมหนีก็รีบเอ่ยปากชวนคุยสร้างความคุ้นเคยกันก่อน
"คุยกันหน่อยดีไหม" ตงหยางยังคงชวนคุย ทั้งที่ปกติแล้วเขาเป็นคนไม่ค่อยคุยกับใครสักเท่าไหร่ แต่กับคนนัยน์ตาสีนี้... แววตาเช่นนี้ เขาจำเป็นต้องเป็นคนเปิดปากชวนคุยก่อน
"หาพ่อเจอหรือยัง" เมื่อยังเห็นเจ้าตัวเล็กยังมองมาอย่างหวาดระแวง เขาจึงถามเรื่องพ่อ เพราะครั้งแรกเขาได้ยินเธอเรียกหาพ่อ หวังว่าคำถามนี้จะทำให้เจ้าตัวเล็กเปิดปากตอบมาได้
"ไม่เจอค่ะ เห็นพ่อของหนูไหมคะ" เล่อเล่อตอบแล้วก็ถามกลับไปทันที เพราะคนที่ถามอาจเจอพ่อของเธอแล้วก็ได้
"ไม่เจอครับ... เจอแต่ตัวเล็กนี่แหละ สองครั้งแล้ว รู้ไหมว่าตัวเองมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง" ตงหยางชวนคุยและค่อย ๆ ก้าวขาเข้าไปหาเจ้าตัวเล็กทีละนิดอย่างช้า ๆ
"ไม่รู้เหมือนกันค่ะ" เมื่อใช้สายตากวาดมองรอบ ๆ แล้วรู้ว่าไม่ใช่บ้านของตัวเอง เธอก็ไม่รู้ว่ามาได้ยังไง รู้แต่ว่าก่อนหน้านี้เธอเคยมาที่นี่แล้วครั้งหนึ่ง
"แล้ว... แต่งตัวแบบนี้จะไปไหนครับ" เพราะเห็นว่ายังอยู่ในชุดเดิม ชุดที่เปื้อนไปด้วยเลือด
"หนูจะไปหาคุณลุงตำรวจ แล้วให้พวกเขาช่วยตามหาคุณพ่อกับคุณลุงค่ะ คุณลุงตำรวจอยู่ที่ไหนเหรอคะ" เมื่อรู้แล้วว่าคนที่กำลังคุยด้วยไม่ใช่คนที่เข้าไปในบ้านของเธอ... เล่อเล่อก็ทั้งตอบคำถามและถามไปด้วย
"ตำรวจเหรอ... พอรู้ไหมว่าลุงกับพ่อหายไปจากที่ไหน เดี๋ยวจะได้ไปส่ง" เขาไม่รู้หรอกว่าตำรวจจะไว้ใจได้มากน้อยแค่ไหน และเขาไม่รู้ว่าเจ้าตัวเล็กไปเจออะไรมา หากยังไม่มีข้อมูล เขาไม่มีทางปล่อยให้เจ้าตัวเล็กวิ่งไปหาตำรวจคนเดียวอย่างแน่นอน
"บ้านหนูอยู่ตรงนี้ค่ะ" เล่อเล่อล้วงเอารูปภาพของเธอออกมา เธอถ่ายภาพนี้ที่สวนหลังบ้าน
"ขอดูได้ไหม" ตงหยางมองภาพถ่ายเด็กตัวเล็กที่นั่งเล่นที่สนามหญ้าแล้วหันมามองด้วยรอยยิ้มที่สดใส
"ซือเล่อ" เล่อเล่อยื่นรูปภาพให้พร้อมกับบอกชื่อของตัวเอง เมื่อนึกขึ้นได้ว่าพ่อเคยสอนไว้ว่าเราเป็นเด็กต้องแนะนำตัวให้ผู้ใหญ่ได้รู้จัก เธอเลยรีบทำตามที่พ่อสอนทันที
"หือ" ตงหยางไม่เข้าใจคำที่เจ้าตัวเล็กพูด ไม่แน่ใจว่าเป็นชื่อเมืองหรือชื่อสถานที่กันแน่
"เฉินซือเล่อค่ะ แซ่เฉิน ชื่อซือเล่อ หรือเรียกเล่อเล่อก็ได้ค่ะ" เล่อเล่อบอกทั้งชื่อและแซ่ รวมถึงชื่อที่ทุกคนชอบเรียกอีกด้วย
"อ้อ... ซ่งตงหยางครับ" เมื่อรู้แล้วว่าเจ้าตัวเล็กแนะนำชื่อตัวเอง เขาก็ไม่รอช้าแนะนำตัวกลับไปด้วยเช่นกัน
"รู้จักไหมคะ" เล่อเล่อยื่นหน้าไปมองภาพถ่ายด้วยเหมือนกัน
"ไม่มีตำแหน่งที่ตั้ง มีแผนที่บ้างไหม เมืองที่อยู่มีอะไรน่าสนใจ และพบเจออะไรในเมืองบ้าง" หากรู้แล้วค่อยตามหาก็ยังดีกว่าไม่ได้ข้อมูลอะไรเลย
"มีรถวิ่งเยอะมาก มีคนเยอะเหมือนกัน บ้านมีทั้งติดกันและห่างกันค่ะ แต่บ้านของหนูอยู่ห่างจากคนอื่นค่ะ" เล่อเล่อเล่าในสิ่งที่ตัวเองเห็นมา จริง ๆ แล้วเธอก็ไม่ค่อยเห็นอะไรมาก เธอจำได้แต่ในบ้านของตัวเองเท่านั้น
"อ๋อ... มีห้างสรรพสินค้าใหญ่ ๆ แล้วก็มีชิงช้าที่ขึ้นสูง ๆ มีขบวนพาเหรดของเจ้าหญิงเจ้าชายด้วยค่ะ" เมื่อนึกออกว่าตัวเองเคยเห็นอะไรมาบ้างก็รีบบอกออกไป
"จำครั้งแรกที่มาที่นี่ได้ไหม หลังจากนั้นหายไปไหนมา" จากที่ฟังแล้ว เหมือนว่าเขายังไม่เคยเจอในสิ่งที่เจ้าตัวเล็กบอกมาเลย
"หนูกลับไปที่บ้าน" จากตอนแรกหวาดระแวง ตอนนี้เริ่มขยับเข้ามาใกล้ ๆ แล้วเอานิ้วชี้ไปที่รูปภาพเพื่อยืนยันว่าเธอกลับไปที่บ้านมาจริง ๆ
"ไปอยู่บ้านนานแค่ไหน... ถึงกลับมาที่นี่" ตงหยางต้องการรู้รายละเอียดมากกว่านี้ ยิ่งมีข้อมูลมากยิ่งดี
"หนูไปอยู่ตอนกลางวัน แล้วซ่อนตัวอยู่จนหลับ ตื่นมาอีกทีก็เป็นตอนกลางคืนค่ะ" เล่อเล่อพูดไปด้วย คิดไปด้วย เกาหัวไปด้วย ไม่แน่ใจว่าตัวเองพูดถูกไหม เพราะตอนมาที่นี่ครั้งแรกเธอมาตอนมืด พอกลับไปอยู่บ้านก็เป็นเวลากลางวันแล้ว
"ได้แวะไปที่ไหนไหมครับ" หากไม่แวะ นั่นหมายถึงเวลาแตกต่างกันแน่นอน
"ไม่ค่ะ" เธอแวะที่ไหนได้ด้วยเหรอ เธอยังไม่รู้เลยว่ามาที่นี่ได้อย่างไร
"เล่อเล่อครับ... เชื่อใจเอ่อ... พี่ไหมครับ" ตงหยางไม่รู้จะแทนตัวว่าอย่างไรดี จะให้เรียกลุงก็มากไป จะให้เรียกน้าก็ไม่น่าจะใช่ แทนว่าพี่นี่แหละน่าจะดีกว่า
"ไม่ค่ะ" เล่อเล่อบอกไปตามตรง เธอยังไม่เชื่อใจ แต่เพราะเธอไม่รู้จะขอความช่วยเหลือจากใคร ตอนนี้มีเพียงเขาคนเดียวเท่านั้นที่คุยกับเธอ และน่าจะบอกได้ว่าตำรวจอยู่ที่ไหน
"อ้าว... คุยมาตั้งนานยังไม่เชื่อใจเหรอครับ ต้องทำยังไงครับถึงจะเชื่อใจกัน" ตงหยางที่เจอเจ้าตัวเล็กเพียงไม่นาน แต่เขาต้องพูดเพื่อหว่านล้อม ทั้งที่เขาเป็นคนที่ไม่ชอบพูดคุยกับใครมากนัก เจ้าตัวเล็กนี่คือข้อยกเว้นสำหรับเขา
จ๊อก~~~ เพราะไม่มีอาหารตกถึงท้องมานานจึงทำให้ท้องน้อย ๆ ร้อง บ่งบอกว่าถึงเวลาที่ต้องทานอาหารแล้ว
"หิวเหรอครับ" ตงหยางได้ยินเสียงชัดเจน คงต้องพยายามหว่านล้อมให้เจ้าตัวเล็กกินข้าวอาบน้ำให้เรียบร้อยเสียก่อน ค่อยสอบถามทีหลังน่าจะดีกว่า
เล่อเล่อพยักหน้า เธอหิวจริง ๆ ทุกทีจะต้องกินข้าวเป็นเวลา ตอนนี้ไม่รู้เวลาไหนเป็นเวลาไหน... รู้แต่ว่าหิวมากจริง ๆ
"เอาแบบนี้ดีไหม... เราไปกินอาหารให้อิ่ม อาบน้ำให้สบายตัวแล้วค่อยคุยกันอีกที" ตงหยางนั่งลงจับเจ้าตัวเล็กให้หันมาจ้องตา เขาไม่รู้ว่าสิ่งที่เขากำลังสื่อออกไปนั้น จะทำให้เล่อเล่อตัวน้อยไว้ใจและเชื่อใจได้บ้างไหม
"ค่ะ" เธอไม่รู้ว่าเขาจะดีหรือร้าย แต่เธอต้องกินก่อน นอกจากนั้นตัวเธอมีแต่เลือดของพ่อเต็มไปหมด พอก้มมองดูตัวเองแล้ว ชุดนอนของเธอก็มีแต่สีแดงเปื้อนเต็มไปหมด พอรู้ว่าเป็นเลือดของพ่อ น้ำตาที่หยุดไหลไปก่อนหน้านี้... ก็เริ่มไหลออกมาอีกครั้ง
"มาครับ" เมื่อเห็นเจ้าตัวเล็กร้องไห้ ตงหยางก็เข้าไปอุ้มเจ้าตัวเล็กไว้แนบอก เจ้าตัวน้อยก็ซบหน้าร้องไห้กับไหล่ของเขา
เสียงสะอื้นไห้ของเล่อเล่อตัวน้อยเหมือนคมมีดที่กรีดเฉือนเนื้อของเขาจนปวดร้าวไปหมด มันทำให้เขาต้องข่มความรู้สึกทั้งหมดที่กำลังจะปะทุออกมา สิ่งสำคัญตอนนี้คือ ต้องทำให้เจ้าตัวเล็กยอมเปิดใจ เชื่อใจ เล่าเรื่องที่ผ่านมาให้เขาได้รับรู้เสียก่อน...
“ใครทำเล่อเล่อเจ็บ พี่ชายคนนี้จะเป็นคนทำให้มันเจ็บมากกว่า... ดีไหมครับ" เขาลูบหัวเจ้าตัวเล็กเพื่อปลอบโยน พร้อมกับบอกให้เจ้าตัวเล็กได้รับรู้ในสิ่งที่เขาคิดจะทำด้วยเช่นกัน
"กินข้าวก่อนเนอะ" ตงหยางกระชับอ้อมกอดร่างเล็กที่เนื้อตัวมีแต่เลือดเปรอะเปื้อน ก่อนจะพาออกจากห้องด้วยหัวใจที่หนักอึ้งอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน...
ตอนที่ 11 กลับมาเพื่อลาจากถิงถิงยืนมองพื้นที่โล่งแจ้งที่เหลือเพียงตอตะโกด้วยสีหน้าไม่สู้ดีนัก เกิดเป็นภูตมีอายุหลายร้อยปี ไม่เคยเจออะไรแบบนี้ อย่างน้อยก็พอจะรู้ชะตาของคนอื่นบ้าง แต่ของนายหญิงกลับเป็นข้อยกเว้น!! ไม่เคยรับรู้ ไม่เข้าใจ เพราะเหตุใดถึงรับรู้อะไรไม่ได้เลยหากรู้สักนิด... เธออาจจะช่วยนายหญิงได้ตลอดชีวิตถิงถิงเสียใจอยู่ไม่กี่ครั้ง ครั้งแรกตอนที่ต้องจากนายหญิง แต่เธอรู้ดีว่าเมื่อถึงเวลาเราจะกลับมาพบกันอีก แต่ครั้งนี้เธอเสียใจ เธอเป็นห่วง ไม่สามารถสัมผัสได้ว่านายหญิงอยู่ที่ไหน ที่น่ากังวลมากกว่าสิ่งอื่นใดคือ นายหญิงเหมือนเด็กมนุษย์คนหนึ่งเพียงเท่านั้น"ป้า ๆ คนในบ้านหลังนั้นไปอยู่ที่ไหนเหรอ" ถิงถิงหันมาถามคนที่ยืนอยู่ใกล้ ๆ"ไม่รู้เหมือนกัน เจ้าหน้าที่บอกว่าไม่มีคนอยู่ใ
ตอนที่ 10 เกลือเป็นหนอนเฟยเทียนลืมตาตื่นขึ้นมา แขนขาของเธอถูกมัดติดกับเก้าอี้ เธอพยายามดึงตัวเองให้หลุดพ้นจากพันธนาการ สายตากวาดมองสิ่งต่าง ๆ ที่อยู่รอบตัว การที่มีคนรู้ที่ซ่อนได้นั้นไม่ต้องเดาให้ยากเลย ต้องมีเกลือเป็นหนอนแน่ ๆ คนนอกไม่มีทางเข้ามาถึงที่หลบภัยได้ง่าย ๆเธอไม่ได้มาอยู่ที่นี่คนเดียว ยังมีคนในทีมที่คอยดูต้นทาง มีทั้งเวรยาม กว่าจะเข้ามาถึงตัวพวกเธอต้องใช้เวลา และแน่นอนว่าคนของเธอต้องรายงานให้เธอระวังตัว แต่นี่กลับไม่มีใครรายงานเลยสักคน"พวกเขามัดเราไว้ค่ะ" เล่อเล่อบอกพี่สาวให้รู้ตัวเธอถูกจับเข้ามาอยู่ในห้องนี้พร้อมกับพี่สาว เธอตื่นมาได้สักพักแล้ว แต่ยังนั่งนิ่ง ๆ ไม่กระดุกกระดิก เธอเห็นหลายคนเดินเข้ามาในห้องนี้ ส่วนมากเป็นคนที่มากับพี่สาว ไม่มีใครไว้ใจได้อย่างที่พี่ชายหยางบอกไว้ ตำรวจเลว!!"ซือเล่อเป็
ตอนที่ 9 ไม่เหลืออะไรแล้วระหว่างเดินทางมาที่หลบภัย เฟยเทียนพยายามพูดให้เจ้าตัวเล็กเข้าใจถึงอันตรายต่าง ๆ จึงไม่สามารถกลับไปอยู่ที่บ้านได้ ซึ่งกว่าจะยอมก็ต้องหาเหตุผลต่าง ๆ มาหว่านล้อม พูดคุยด้วยเหตุและผล เธอถึงบอกว่าเด็กคนนี้ฉลาดแต่ยังไร้เดียงสา เลยทำให้เธอค่อนข้างเป็นห่วง จนต้องมาดูแลด้วยตัวเองเมื่อมาถึงที่หลบภัย เฟยเทียนพาเจ้าตัวเล็กสำรวจดูที่พัก ก่อนจะสั่งงานลูกทีม มอบหมายงานให้บางคนไปสืบข่าว บางคนให้อยู่รอบ ๆ ที่พัก เพื่อดูต้นทางและตรวจสอบความปลอดภัยพอสั่งงานเรียบร้อยแล้ว เธอก็หยิบประวัติของครอบครัวเฉินมาอ่านคร่าวๆ ซึ่งมันน่าแปลกที่สองพ่อลูกไม่มีญาติที่ไหน มีกันเพียงสองคนเท่านั้น ซึ่งธุรกิจที่ครอบครัวเฉินทำนั้นขาวสะอาด แต่กลับคบคนที่ไม่ขาวสะอาดอย่างเช่น คุณเกาหานคนที่ได้ชื่อว่าเป็นเจ้าพ่อที่มีอิทธิพลที่สุดในแถบนี้เลยก็ว่าได้
ตอนที่ 8 ไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆเมื่อเล่อเล่อมาถึงสถานีตำรวจก็ทำตัวไม่ถูกเพราะมีผู้คนมากมายเดินไปมา บางคนก็พูดจาเสียงดัง บางคนก็ทะเลาะกันเสียงดัง เธอจึงเริ่มมองหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ก็ไม่ค่อยมีตำรวจเลย ทุกคนต่างแต่งตัวธรรมดา เธอไม่สามารถแยกได้ว่าคนไหนคือเจ้าหน้าที่ คนไหนคือผู้ร้องทุกข์"หนูคะ... มาหาใครเหรอคะ" หญิงสาวเดินเข้ามาหาเจ้าตัวเล็กพร้อมกับเอ่ยถามอย่างเป็นมิตร"มาหาคุณตำรวจค่ะ" เล่อเล่อตอบกลับไปอย่างเร็ว พี่สาวคนสวยอาจช่วยเธอได้"ตำรวจคนไหน หรือว่าตำรวจคนไหนก็ได้" เพราะสถานีตำรวจมีเจ้าหน้าที่มากมาย บางทีต้องระบุว่าจะไปหาใคร"หนูจะมาให้ตำรวจช่วยตามหาพ่อกับคนในบ้านค่ะ" ในตอนแรกตั้งใจจะบอกให้ช่วยตามหาคุณลุงด้วย แต่เธอไม่มีข้อมูลของคุณลุงเลย ไม่เคยเจอ ไม่เคยเห็น มีเพียงรูปถ่ายที่ไม่ค่อยชั
ตอนที่ 7 ออกตามหาด้วยตัวเองเล่อเล่อลืมตาตื่นขึ้นมาพร้อมกับความประหลาดใจ...กลับมาแล้ว!! เมื่อรู้ว่าตัวเองอยู่ที่ไหนก็ยิ้มออกมาด้วยความดีใจ ในที่สุดก็ได้กลับมาเมื่อคืนเธอนอนหลับอยู่ในบ้านของพี่ชายหยาง แต่พอตื่นกลับมาอยู่ที่บ้านของตัวเองเล่อเล่อไม่ตกใจในเรื่องที่เกิดขึ้นกับตัวเอง เธอแค่ไม่รู้ว่าตัวเองกลับมาได้ยังไง เล่อเล่อค่อย ๆ ขยับตัวให้เงียบเชียบที่สุดเท่าที่จะทำได้ เธอรู้ว่าที่นี่ไม่ปลอดภัยเหมือนแต่ก่อน ดีที่ว่าเธอกลับมานอนบริเวณใต้เตียงนอนของตัวเอง ซึ่งเธอชอบมุดเข้ามาเล่นเป็นประจำอยู่แล้ว"อาจเพราะความกลัวถึงทำให้ตัวเล็กมาที่นี่ได้"เมื่อนึกถึงคำพูดของพี่ชายหยางจึงทำให้เธอคิดทบทวน หากเธอจำไม่ผิด เมื่อคืนเธอฝันร้าย!! หรือฝันร้ายสามารถพาเธอกลับมาได้!! หากเป็นแบบนั้นจริงๆความกลัวสามารถพาเธอไปที่ไหนก็ได้แน่ ๆ
ตอนที่ 6 ยอมเชื่อใจเล่อเล่อบอกเล่าเรื่องราวที่ตัวเองเจอมาให้ฟังจนหมด บอกด้วยว่า คนที่ทำร้ายพ่อคือคุณลุงเกา เพื่อนของพ่อ เขาถามอะไรเธอก็ตอบ เธอยอมเชื่อใจพี่ชายคนนี้ เพื่อให้เขาช่วยตามหาพ่อกับลุงของเธอไม่ใช่แค่เล่าให้ฟังเพียงเท่านั้น เธอยังเอาสิ่งของบางอย่างให้ดูอีกด้วย แต่ไม่ได้ให้ดูทั้งหมด ถึงจะยอมเชื่อใจให้พี่ชายช่วยเหลือ แต่ก็ไม่ได้บอกทุกอย่าง"ชิวหาน ตามหาคนที่ชื่อนี้แซ่นี้ และก็สืบประวัติเกี่ยวกับคนแซ่นี้ด้วย ขอเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้" ตงหยางสั่งคนที่เชี่ยวชาญด้านนี้โดยเฉพาะ หากเป็นตระกูลใหญ่จะหาเจอได้ง่าย ๆ ถึงจะมั่นใจว่าเล่อเล่อมาจากที่อื่น แต่หาข่าวไว้ก็ไม่เสียหาย"หาพ่อที่โรงพยาบาลด้วยค่ะ เดี๋ยว ๆ ขอหนูไปหาพ่อด้วยได้ไหมคะ" พ่อเธอบาดเจ็บ ต้องอยู่โรงพยาบาลแน่ ๆ







