“สำหรับฉันไม่เห็นความจำเป็นที่ต้องเป็นแฟนกันเด็กน้อย ถ้าอยากได้คือต้องได้ และตอนนี้เธอเป็นของฉัน ห้ามผู้ใดแตะต้องนอกจากฉันจำไว้” เขาจูบกระหม่อมที่เปียกชื้นของหล่อนพร้อมโยกไหวแอ่นเด้งยกเร่าเอวสอบขึ้นหาความคับแน่นของคนที่ยกอุ้มในตอนนี้
“อ่ะ...อ่อย คิดไปเอง อ่ะ...อูว์”
หึหึ
“มาลองดูกันว่าคิดไปเองรึเปล่า ตอนนี้เรามาต่อกันให้เสร็จเถอะเด็กน้อย อ่า...แน่นเหลือเกิน ฉันทนไม่ไหวแล้วน้อง เสียว ซี้ด...”
พั่บ! พั่บ! พั่บ!
แล้วสองร่างเปลือยใต้ฝักบัวเดียวกันก็ช่วยกันกระแทกกระทั้นโหมแรงสวาทเข้าหากัน ส่วนพุดซ้อนทำตัวอ่อนคล้อยไปตามแรงกระแทกของเอวสอบของบุรุษ ตอนนี้เธอปล่อยให้ความรู้สึกความต้องการของตัวเองเป็นไปตามธรรมชาติ เพราะห้ามหรือขัดขืนไปก็เปล่าประโยชน์
“โอว์...ทูนหัวของฉัน อ่า...เสียว แน่น อืม...”
เวลาบ่ายโมงกว่าที่นาสูรปล่อยให้พุดซ้อนได้เป็นอิสระ เขากลับมายังห้องส่วนตัวที่คฤหาสน์หลังใหญ่อึมครึมพร้อมเรียกให้พาทีเข้ามาพบตัวเองเพื่อจะถามไถ่ถึงเรื่องงานในฟาร์มเหมือนทุกวัน แม้เขาจะไม่ชอบทำตัวเหมือนมนุษย์ แต่ก็หลีกเลี่ยงไม่ได้
“วันนี้มีอะไรผิดปกติไหมพาที แล้วอาหารของฉัน นายเตรียมไว้รึยัง” เพราะก่อนหน้านี้เขาเสียพลังงานไปเยอะ เขาต้องเพิ่มพลังด้วยการกินเนื้อสัตว์สดๆ
“วันนี้ในฟาร์มเรียบร้อยดีครับท่าน ส่วนอาหารผมเตรียมเนื้อวัวไว้ให้ท่านแล้วครับ”
“ดีมาก นายไม่เคยทำให้ฉันผิดหวังเลยสักครั้งพาที แล้วนายล่ะ กินอะไรไปรึยัง”
“ผมกินหมูไปแล้วหนึ่งตัว” พาทีพูดตอบพร้อมกับยกมือขึ้นลูบริมฝีปากตัวเองไปมาเล็กน้อย
“อือ...ไปเถอะ ฉันต้องการอยู่คนเดียว อ้อ...อย่าลืมเอาประวัติของพุดซ้อนมาให้ฉันด้วยล่ะ ฉันอยากรู้ภูมิลำเนาหล่อน” เขาบอกสั่งพาทีก่อนที่อีกฝ่ายจะหายตัวไป
“ครับท่าน” พาทีรับคำแล้วก้าวถอยเลือนหายไปในอากาศทันที
นาสูรยกยิ้มมองภาพที่เลือนหายไปตรงหน้าแล้วก็หายวับไปจากตรงนี้ทันทีเพื่อไปยังห้องรับประทานอาหารส่วนตัวของตัวเอง ที่พาทีได้เตรียมมื้อเที่ยงมื้อใหญ่ไว้รอท่าตนเอง
พุดซ้อนเพลียแต่ก็ต้องหอบสังขารตัวเองมาทำงาน และก็แต่งตัวมิดชิดกว่าทุกวัน ทั้งๆ ที่อากาศร้อนอบอ้าวตับแทบแตก แต่จะทำยังไงได้ เมื่อตามตัวและลำคอที่บีบีครีมปกปิดไม่เนียนบังคับให้ใส่เสื้อคอเต่าปิดคอมาในฟาร์ม เธอเดินมาหารุ่นพี่ที่กำลังฉีดยาให้ลูกหมูน้อยที่เพิ่งเกิดใหม่
“มาแล้วเหรอครับหมอน้อง” พลชหยุดมือที่กำลังทำงานแล้วหันมาถามผู้มาใหม่ที่ถือกระเป๋าอุปกรณ์ติดมือมาด้วย
“ค่ะ พี่หมอไม้ ขอโทษนะคะที่ช้า พอดีวันนี้น้องรู้สึกปวดหัวนิดหน่อยค่ะ” เธอแสร้งทำหน้าให้ดูเหมือนป่วยทั้งๆ ที่จริงแล้วหน้าก็ซีดจริงแหละ ซีดเพราะถูกดูดพลังงานจากเจ้าของฟาร์มมากกว่า
“งั้นกลับไปนอนพักก็ได้ครับ ทางนี้พี่จัดการเอง”
“ไม่เป็นไรค่ะพี่หมอไม้ น้องไหวค่ะ อีกอย่างน้องกินยามาแล้วค่ะ” เธอโกหกเขาออกไป
“แต่พี่ว่าสีหน้าหมอน้องดูไม่ดีเลยนะ” เขาลุกขึ้นยืนเต็มความสูงแล้วเดินมาหาเธอพร้อมยกมือยื่นออกไปจะแตะอังหน้าผากเธอ แต่เธอขยับตัวถอยห่างออกไปก่อน
‘อย่าให้ใครแตะต้อง นอกจากฉันเด็กน้อง’ แล้วเสียงหนึ่งก็ดังลอยมาปะทะข้างแก้ม เธอมองไปด้านข้างมองหาเจ้าของเสียงที่จำได้ขึ้นใจก็ไร้เงาของเขา มีเพียงสายลมที่พัดผ่านเท่านั้น
‘หูแว่วเหรอเนี่ย’ เธอพึมพำในใจแล้วก็มีเสียงตอบกลับมายืนยัน
‘มองมาด้านข้างสิ แล้วเธอจะเห็นฉัน แต่คนอื่นไม่เห็นฉัน’ เขาบอกเธอแล้วเธอก็หันมาเจอร่างสูงใหญ่ในชุดเรียบร้อย เขาใส่กางเกงยีนส์ขายาวกับเสื้อยืดคอกลมสีดำ
‘คุณมาได้ยังไง คุณเป็นอะไรกันแน่คุณนาสูร’ เธอถามเขากลับในใจ
‘ยักษ์’ นาสูรตอบสั้นๆ แล้วก็หายวับไปจากตรงนี้ทันที
‘ใครจะเชื่อ ยักษ์มีแต่ในละครและหนังเท่านั้นแหละ’ เธอพึมพำตอบกลับแล้วก็มีเสียงหัวเราะดังตอบกลับมา
หึหึ
“เป็นอะไรรึเปล่าครับ” พลชเก็บมือตัวเองเมื่อคนตัวเล็กไม่ต้อนรับความห่วงใย และสงสัยทำไมเธอขมวดคิ้วตลอดเลยเหมือนมีอะไรในใจ
“อ้อ...ไม่มีอะไรค่ะพี่หมอไม้ ขอบคุณนะคะ น้องไม่เป็นอะไรแล้วจริงๆ ค่ะตอนนี้” เธอบอกเขาและขอบคุณในความห่วงใย
“งั้นก็ดีแล้วครับ ทำงานกันเถอะ วันนี้พี่ว่าจะไปกินหมูกระทะ ไปกับพวกเราไหม มีพี่และเพื่อนๆ หมอในฟาร์มเราเนี่ยแหละ” เขาเอ่ยชวน
“หมูกระทะเหรอคะ น้องนึกอยากพอดีเลย”
‘ฉันไม่ให้เธอไปน้อง’ แล้วเสียงหนึ่งก็ดังห้ามขึ้นมา ทำให้เธอมองหาเจ้าของต้นเสียงพร้อมอมยิ้มน้อยๆ แล้วก็ตอบกลับพลชทันที
“ไปค่ะ กี่โมงคะ” ห้ามไปสิ ก็อยากไปนี่
“หกโมงครับ เจอกันร้านในเมืองร้านรมย์เย็นหมูกระทะครับ”
“โอเคค่ะ งั้นรีบทำงานกันเถอะพี่หมอไม้ อยากกินหมูกระทะแล้ว” เธอบอกเขา
“ครับ งั้นทำงานกันเถอะ” แล้วทั้งสองก็แยกกันทำงานของตัวเอง
ด้านฝั่งนาสูร ตอนนี้ได้แต่นั่งกัดกรามแน่นพร้อมกับในมือมีแก้วบรั่นดีถืออยู่ด้วย เขากำแก้วในมือแน่นจนแตกคามือ
เพล้ง!
พอแก้วในมือแตกก็ปาทิ้งลงพื้น เขามองเลือดของเขาที่ไหลออกมาแล้วก็เป่าลมใส่มือเพียงหนึ่งครั้ง แผลแก้วแตกบาดมือก็หายไปทันที
“ดื้อกับฉันใช่ไหมน้อง”
เขาพึมพำกับตัวเองด้วยความเดือดดาลพร้อมกับสีตาที่ดำสนิทเปลี่ยนเป็นสีไฟลุกขึ้นมาทันที และลมฟ้าอากาศด้านนอกก็แปรปรวนจากที่มีแดดก็เป็นมืดครึ้มมีฝนตกลงมา
เปรี้ยง! ปร้าง! เปรี้ยง!
เสียงฟ้าร้องฟ้าแลบบอกถึงอารมณ์เดือดของเขาได้ดีทีเดียว และพาทีก็รีบมาหาผู้เป็นนายทันทีเมื่อรับรู้ถึงความกรุ่นโกรธของผู้เป็นนายตน
“คุณท่าน” เมื่อโผล่มาก็มองไปยังพื้นที่เต็มไปด้วยเศษแก้วและคราบเลือดที่ยังไม่แห้งดี พาทีอดกลืนน้ำลายเสียวสันหลังกับผู้ที่ทำให้นาสูรบันดาลโทสะในตอนนี้ไม่ได้เลย
“หล่อนดื้อ ไม่ฟังคำสั่งฉัน”
เขาตวัดดวงตาสีไฟลุกมามองทางคนสนิทพร้อมกับกัดกรามแน่นจนมีเสียงลอดออกมาจากริมฝีปาก
กรอด!
อึก!
พาทีกลืนน้ำลายเหนียวๆ ลงคอพร้อมมองไปยังด้านนอกหน้าต่างที่ตอนนี้ลมพายุกำลังโหมกระหน่ำรุนแรงตามไฟโทสะของผู้เป็นนาย และรู้แล้วว่านาทีนี้พุดซ้อนดื้อผิดคนเสียแล้ว
“เจ้านายโกรธเธอเรื่องอะไรครับ” พาทีถามออกไปเสียงเบาด้วยกลัวไฟโทสะจะฟาดใส่ตนเอง
“หล่อนจะไปกับผู้ชายคนอื่นที่ไม่ใช่ฉัน ทั้งๆ ที่ฉันห้ามแล้วไม่ให้ไป” เขาบอกกลับ
เปรี้ยง! ปร้าง! เปรี้ยง!
“นายหึงเธอ”
“อย่าเอาความรู้สึกมนุษย์มายัดเยียดให้ฉันพาที ที่ฉันโกรธตอนนี้เพราะหล่อนดื้อไม่เชื่อฟัง ทั้งๆ ที่หล่อนเป็นของฉัน” นาสูรปฏิเสธกลับเสียงห้วน
ส่วนพาทีก็ได้แต่กลืนน้ำลายเหนียวๆ ลงคอเมื่อนึกถึงภัยร้ายกับหญิงสาวอีกคน ลองได้ดื้อแบบนี้แล้วไม่รู้จะโดนอะไรหากกลับมาจากข้างนอก หรือบางทีอาจไม่ได้ไปไหนเลยก็ได้ เพราะพายุด้านนอกกำลังโหมซัดรุนแรงทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ไม่มีเค้าเลยสักนิดเดียว
“อย่าเอาความรู้สึกมนุษย์ต่ำต้อยมายัดเยียดให้ฉันอีกจำไว้พาที ไปซะ! ไปไหนก็ไปซะ!” คนที่กำลังเดือดดาลเอ่ยไล่คนสนิททันที
“ครับท่าน” แล้วพาทีก็หายไปจากตรงนี้ทันที
เปรี้ยง! ปร้าง! เปรี้ยง!
นาสูรมองไปด้านนอกที่ตอนนี้พายุฝนกำลังทำงานตามอารมณ์กรุ่นโกรธของตัวเอง ดวงตาเปลี่ยนสลับไปมาแดงเป็นเขียวแล้วเขี้ยวยักษ์ก็งอกออกพร้อมกับคิ้วของเขาก็เปลี่ยนไปเช่นกัน ในตอนนี้เขาควบคุมอารมณ์โกรธตัวเองไม่ได้ แม้จะพยายามกำมือแน่น สั่งตัวเองให้ทุเลาความไม่พอใจครั้งนี้ลงแล้ว
“หล่อนกล้ามากน้อง กล้ามากที่ขัดคำสั่งฉัน รู้ไหมว่าไม่เคยมีมนุษย์คนไหนกล้าขัดคำสั่งฉันมาก่อน”
แล้วเสียงพึมพำของเขาก็ส่งตามลมพายุให้คนที่อยู่ในฟาร์มได้ยิน
อือ!
พุดซ้อนรู้สึกขนลุกขึ้นมาทันทีเมื่อได้ยินน้ำเสียงห้วนดังลอยตามลมพายุ ตอนนี้เธอหลบฝนในฟาร์มไม่สามารถกลับไปที่สำนักงานหรือห้องพักได้ ส่วนพลชเองก็เหมือนกันกับเธอ และก็นึกแปลกใจทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้แดดจ้ามาก แดดแรงจนจะละลายได้ แต่ตอนนี้กลับมีลมพายุขึ้นมาและฝนก็ตกหนักมาก
“อือ...อ่า” เจณิสาหลับตาครางในความมืดพร้อมดิ้นถอยหนีหาทางเอาตัวรอดจากห้วงสวาทของตนเอง แต่ก็ถูกท่อนแขนแข็งแรงของบุรุษแปลกหน้าเหนือร่างกอดรัดแน่นรั้งไว้หึหึเสียงขำแห้งดังลอดออกมาจากริมฝีปากหนาของมังกรกัณฐ์เมื่อเขาผละเปลี่ยนมาคร่อมทับเจ้าหล่อน และกางเกงของเขาก็ถูกถอดทิ้งไปกองกับพื้นห้องของเธอเรียบร้อย ตอนนี้เจณิสาพร้อมแล้วและเขาเองก็พร้อมมาก พร้อมตั้งแต่นั่งดูหล่อนที่ห้องแล้วเอวสอบบดเบียดเสียดสีท่อนเนื้อที่แข็งของตัวเองกับหน้าท้องแบนราบเคลื่อนไหวไปมาแล้วถูไถไปยังเนินสวาทอวบอูมพร้อมฟังเสียงครางกระเส่าของสาวเจ้าใต้ร่างไปด้วย สองมือน้อยของเจณิสาที่กำเกร็งตอนนี้เปลี่ยนมาเป็นจับรั้งหัวไหล่ของเขาไว้แน่นขนาดความเป็นบุรุษกับความเป็นสาวที่อาบฉ่ำร่องสวาทของคนตัวเล็กที่แสนจะเล็กนั้นทำให้เขารู้สึกตื่นเต้นและเสียวคลั่งทั้งๆ ที่ยังไม่ได้สอดใส่ฝากฝังตัวเองในกายหญิงสาว แต่มังกรกัณฐ์ก็อดใจเต้นแรงไปกับสิ่งตรงหน้าไม่ได้ เขาเหมือนโจรที่กำลังลักหลับ ใช่...เขาลักหลับ แต่เขาไม่ใช่โจร เพราะเขาคือมังกรกัณฐ์“อะ...อื้อ” เจณิสาร้องครางกระเส่าบิดกายอ่อนระทวยเสียวซ่านเมื่ออยู่ใต้ร่างใหญ่ของชายแปลกหน้าที่กำลังกดค
นานมาแล้วมีนิทานพื้นบ้านเล่าขานกันมา และตัวร้ายในนิทานพื้นบ้านส่วนใหญ่มักเป็น ‘ยักษ์’ ที่ฆ่าคนฆ่าสัตว์กินเป็นอาหาร แต่หารู้ไม่ว่าในปัจจุบันจะมียักษ์ที่เป็นตัวร้ายในนิทานพื้นบ้านแอบแฝงอยู่กับมนุษย์ คุณไม่อาจรู้ได้เลยว่าคนที่คุณคุยด้วยและเดินสวนจะเป็นมนุษย์หรือยักษ์ หรืออาจเป็นเผ่าพันธุ์อื่นที่จำแลงแปลงกายมาใช้ชีวิตร่วมกับมนุษย์ ‘มังกรกัณฐ์’ คือชื่อของเขา ปีนี้ชายหนุ่มอายุได้ 108 ปี และไม่ใช่ยักษ์เต็มสายเลือด ในร่างกายของเขามีเลือดของมนุษย์ไหลเวียนอยู่ครึ่งหนึ่ง แม่ที่รักที่ให้กำเนิดเป็นมนุษย์ ถึงแม้แม่ของเขาจะเป็นมนุษย์ แต่ก็มีชีวิตที่เป็นอมตะ ไม่เจ็บ ไม่ป่วย หลังจากที่ท่านฟื้นจากอุบัติเหตุตอนที่ตั้งครรภ์เขา ตอนนี้พ่อและแม่ได้ย้ายไปอยู่กลางภูเขา ไปใช้ชีวิตส่วนตัวแยกตัวออกจากคนหมู่มากและทิ้งทุกอย่างไว้ให้เขาดูแลบริหารฟาร์มและโรงงานผลิตแปรรูปสัตว์ในฟาร์ม “คุณมังกรกัณฐ์ นี่คือเอกสารข้อมูลส่วนตัวของเจ้าหน้าที่กรมที่ดินที่จะเข้ามาตรวจดูที่ดินของเราครับ”พาทีส่งยื่นแฟ้มเอกสารให้นายน้อยตัวเอง เมื่อก่อนพาทีรับหน้าที่ดูแลและติดตามนาสูร พ่อของมังกรกัณฐ์ แต่ตอนนี้เขาถูกถ่ายโอ
หกปีที่รอไม่ได้เสียเปล่าเลยสักนิดสำหรับพุดซ้อน ตอนนี้นาสูรชดเชยทุกอย่างให้เธอและลูกน้องทุกอย่าง เขาทำเหมือนกับพ่อทั่วไป ตอนนี้เธอเป็นที่น่าอิจฉาของทุกคนก็ว่าได้ เมื่อความรักผลิบาน ดอกรักบานในใจ ความสุขจึงบังเกิดขึ้น ไม่ว่าจะก้าวเดินไปที่ไหน นาสูรก็แนะนำเธอกับคนงานในฟาร์มให้รู้จักในตำแหน่งนายหญิง แนะนำอย่างเป็นทางการพร้อมกับนายน้อยอย่างมังกรกัณฐ์ “ขอบคุณนะคะที่รักน้องกับลูก” “ฉันต่างหากที่ต้องขอบคุณเธอกับลูกที่อยู่รอฉัน ขอโทษที่ไม่ได้ดูแล ฉันจะชดเชยทุกอย่างให้เธอเองทูนหัว” เขาหันมาเอ่ยกับภรรยาคนสวยของตัวเองพร้อมกับตวัดแขนที่ว่างจากอุ้มลูกโอบไหล่เล็กหลวมๆ ไว้พร้อมเดินชมฟาร์มม้าและทักทายคนงานไปด้วย “พ่อก๊าบ...ผมก็รักพ่อนะก๊าบและรักแม่ด้วยนะก๊าบ” หนูน้อยอยากมีส่วนร่วมด้วยจึงเอ่ยขึ้นพร้อมหยิกแก้มสากของพ่อยืนยันคำรักของตน “อือ...พ่อรู้ครับ และพ่อก็รักคุณมังกรกัณฐ์กับแม่น้องมากนะครับ อือ...ชื่นใจ” แล้วเขาก็ยื่นจมูกไปบดเบียดแก้มนุ่มนิ่มแรงๆ ของลูกน้อย คิกๆ หนูน้อยร้องขำหลบหน้าหนีปลายจมูกโด่งของพ่อด้วยความจั๊กจี้ “น้องก็รั
พุดซ้อนโอบกอดลำคอหนาของเขาพร้อมแอ่นเด้งสองเต้าขึ้นเสียดสีหน้าอกแข็งแรงของบุรุษและเอวเล็กก็บิดเร่าทรมานเขาไปด้วยยามเขาเคลื่อนไหวโยกกระแทกตัวเข้าออกในกายตนเอง“อ่า...อืม แน่น อ่า...ซี้ด น้อง อืม...”นาสูรเผลอครางเรียกชื่อของหล่อนออกมาจากจิตใต้สำนึก เขาเองก็ไม่รู้ตัวว่าตัวเองหลุดปากอะไรออกมา แต่มันชัดเจนเหลือเกินสำหรับพุดซ้อน หัวใจสาวเต้นแรงเมื่อได้ยินเขาเรียกชื่อตัวเองออกมา หล่อนแอ่นเด้งไหวตอบสนองไม่อิดออดแม้แต่น้อย“อ่า...คุณเริ่มจำฉันได้แล้วคุณนาสูร อ่ะ...อื้อ แรงอีกค่ะ ลึกเหลือเกิน อ่า...เสียว”หล่อนยิ้มตลอดที่เขาขยับโยกเข้ากระแทกสอดกายจ้วงลึกอัดลิ้นปี่ตัวเอง“อ่า...ตอนนี้ไม่รู้ รู้แต่ว่าอยากได้ หิวกาม อ่า...เธอสวยทั้งตัวเลยน้อง อ่า...ไม่ไหวแล้ว อ่า...แน่นดีเป็นบ้า อ่า...”พั่บ! พั่บ! พั่บ!จังหวะกระแทกเนื้อหนักหน่วงพร้อมกับปากหนาดูดเร่าคลอเคลียซอกคอระหงเคลื่อนไล้มายังสองเต้าอวบอูม ตวัดปลายลิ้นลากถูไถไปมากับยอดอกสีระเรื่อพร้อมขบเม้มดูดเม้ม เอวสอบก็สาวรัวถี่หนักหน่วงไปด้วยเช่นกันในตอนนี้“อ่ะ...อื้อ ไม่ไหวแล้ว น้อง...อ่า...น้องไม่ไหวแล้วคุณนาสูร อ่า...น้องร้อนเหลือเกินค่า...”หล่อนร้อ
สุดท้ายก็ได้กลับมาอยู่ห้องพักห้องน้อยเหมือนเดิม เธอยอมรับว่าเสียใจ เจ็บปวด แต่ความจริงที่รับรู้จากพาทีเจ็บปวดยิ่งกว่า หกปีที่เขาหายไปเพราะเธอและลูก มันคงทรมานมาก โชคดีที่ฟ้าเบื้องบนยังเห็นใจและเมตตาเขาและเธอกับลูก เขาถึงได้ตื่นฟื้นคืนกลับมาหาเธอในวันนี้ “แม่ก๊าบ...” หนูน้อยที่เคยอยู่คฤหาสน์ร้องเรียกแม่เมื่อเดินดูห้องแคบๆ จนทั่วแล้วก็อดสงสัยไม่ได้ “ว่าไงครับมังกรกัณฐ์ที่รักของแม่”พุดซ้อนอ้าแขนให้ลูกเดินมาสวมกอด และหนูน้อยก็สวมกอดซุกหน้ากับอกแม่ที่นั่งกับพื้นห้องพับเสื้อผ้าอยู่ “ห้องเล็กจังก๊าบ...” “อดทนหน่อยนะลูก เดี๋ยวเราก็ได้กลับไปอยู่ห้องเดิมแล้ว” เธอลูบแผ่นหลังเล็กของลูกพร้อมกับบอกอย่างมีความ หวังว่าในเร็วๆ นี้เธอและลูกจะได้ย้ายกลับไปอยู่ที่เดิมและลูกจะได้รับความอบอุ่นและอ้อมกอดแข็งแรงของเขาปลอบโยนยามร้องไห้เสียใจ และเธอก็อยากให้เขาปลอบเหมือนกัน “ก๊าบ...แม่ไม่เสียใจนะก๊าบที่ถูกคุณลุงหน้าเข้มไล่ออกมา” หนูน้อยยังไม่รู้ว่าคนหน้าเข้มเหี้ยมโหดดุดันนั้นคือพ่อของตัวเอง เพราะแม่ยังไม่ได้บอกอะไรเกี่ยวกับพ่อ “ไม่เสียใจก๊าบ มังกร
“คุณนาสูร!” เธอเรียกชื่อเขาพร้อมวิ่งโผเข้าสวมกอดร่างสูงใหญ่ที่ยืนอยู่กลางบ้าน เธอกลับมาแวะดูลูกน้อยนอนกลางวัน และมาเจอเขาเข้าพอดีก็ดีใจจนบอกไม่ถูกและสิ่งที่ทำได้คือพาสองขาก้าววิ่งเร็วๆ ไปกอดเขา ส่วนนาสูรที่หมุนตัวหันมามองทางต้นเสียงก็ได้แต่ทอดสายตามองคนที่วิ่งมาสวมกอดตัวเองด้วยสายตาเรียบตึง “เธอเป็นใคร?” นั่นคือคำถามที่เขาถามคนที่วิ่งมาสวมกอดตัวเองพร้อมดันหล่อนออกห่าง ทั้งๆ ที่รู้มาก่อนแล้วว่าหญิงสาวหน้าตาสวยหวานคือใคร แม้พาทีจะเล่าให้ฟังมาคร่าวๆ แล้ว แต่เขาก็ยังไม่เชื่ออยู่ดีว่าเขาจะมีคนรัก? “นายหญิงครับ ตอนนี้อย่าเพิ่งซักไซ้หรือโกรธนายท่านเลยนะครับ”พาทีเอ่ยแทรกขึ้นพร้อมเดินมายืนตรงกลางระหว่างสองคน พาทีสงสารพุดซ้อนที่มาเจอคำถามจากชายที่รักแบบนี้ และยิ่งตอนนี้หญิงสาวปล่อยเสียงสะอื้นไห้ดังออกมาปานใจจะขาด อึก! ฮือๆๆ “น่ารำคาญ! ร้องไห้ให้ได้อะไรขึ้นมา ฉันไม่รู้จักเธอ ไสหัวไปให้พ้นหน้าฉัน ฉันจะพักผ่อน พาทีไล่ผู้หญิงคนนี้ออกจากบ้านฉันด้วย และลูกใช่ไหม เธอมีลูกให้เธอพาลูกของเธอไปด้วย เหม็นสาบพวกมนุษย์และพวกลูกครึ่งยักษ์”เขาสั่งความกับพาทีจบก็เดินไปยังบ