สุดท้ายหมูกระทะก็ไม่ได้กิน เพราะฝนไม่ยอมหยุดเลยจนต้องได้วิ่งตากฝนและลมกลับมายังห้องพัก ตอนนี้สภาพของพุดซ้อนเปียกปอนดูแทบไม่ได้ พอเข้ามาในห้องปิดล็อกประตูก็รีบจัดการถอดเสื้อผ้าที่เปียกโยนทิ้งในตะกร้าผ้าที่วางตั้งไว้หน้าห้องน้ำทันที เธอมัวแต่สนใจตัวเองจนไม่ได้สังเกตว่าตอนนี้มีใครบางคนนั่งพิงหัวเตียงตัวเองอยู่ พอจัดการเปลื้องผ้าเสร็จถึงได้มองเห็นผู้บุกรุก
ว้าย!
“คุณเข้ามาในห้องฉันได้ยังไงคุณนาสูร”
เธอกอดตัวเองพร้อมกับคว้าหยิบผ้าที่เปียกขึ้นมากอดห่มตัวเองไว้ให้พ้นสายตาเกรี้ยวโกรธของอีกฝ่าย เธอกลัวสายตาของเขาในตอนนี้ มันดูมีพลังอำนาจลี้ลับ และยิ่งไปกว่านั้นสันกรามที่ปูดโปนของเขาอีกบ่งบอกได้ชัดว่าเขากำลังโกรธอยู่ แล้วโกรธอะไรล่ะ โกรธใครกัน
เปรี้ยง! ปร้าง! เปรี้ยง!
เสียงลมพายุฝนฟ้ายังคงดังให้ได้ยินตลอดตั้งแต่บ่ายจนตอนนี้ห้าโมงเย็นแล้วก็ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดได้เลย และยิ่งได้มองหน้าราวรูปปั้นหลุดมาจากเทพนิยายของนาสูร ร่างน้อยเปลือยเปล่าที่กอดตัวเองกับเสื้อผ้าเปียกหนาวสั่น ตอนนี้ได้แต่ถอยตัวเองหายไปในห้องน้ำเพื่อจะหลบสายตาดุดันที่จ้องมองมาทางตัวเอง แล้วก็ต้องร้องกรี๊ดตกใจอีกครั้ง เมื่อเขาเคลื่อนตัวราวกับลมกรดมาหยุดนิ่งตรงหน้าตัวเองพร้อมกระชากเสื้อผ้าที่กอดอยู่โยนทิ้งกลับไปในตะกร้า
ว้าย!
“คุณเป็นตัวอะไรกันแน่คุณนาสูร”
เธอเริ่มหวาดกลัวแล้วในตอนนี้ ก่อนหน้านี้คิดว่าตัวเองคิดไปเอง แต่เมื่อนึกย้อนไปเรื่องราวตอนกลางวันที่เกิดขึ้นกับตัวเองแล้วมันไม่ใช่แล้ว เขาไม่ใช่มนุษย์แล้วแบบนี้
“แล้วอยากให้ฉันเป็นอะไรเด็กน้อย”
น้ำเสียงแหบพร่าทุ้มต่ำเอ่ยรดใบหน้างามที่เขาเชยคางมนให้แหงนเงยหน้าขึ้นสบตาในตอนนี้ นาสูรรู้และอ่านความคิดของเจ้าหล่อนออกว่าตอนนี้กำลังหวาดกลัวและสงสัยในตัวของเขา และตัวเขาเองก็อยากให้เธอรู้ตัวตนที่แท้จริง อยากให้ยอมรับและรู้ว่ามันคือความจริงไม่ใช่เทพนิยายที่หล่อนนึกมโน
“ฉันไม่รู้ แต่ที่แน่ๆ คุณไม่ใช่คนธรรมดาแน่นอนคุณนาสูร”
เท้าเล็กก้าวถอยไปหนึ่งก้าว แต่เขาก็ก้าวตามพร้อมตวัดแขนโอบเอวเล็กแล้วกอดรั้งเข้ามาปะทะอกของเขา สองมือน้อยดันหน้าอกเขาไว้เพื่อไม่ให้สองเต้าอวบอูมตัวเองเบียดสีไปกับหน้าอกของบุรุษแข็งแรง
“ฉันบอกไปแล้วว่าฉันเป็นยักษ์”
น้ำเสียงหนักแน่นพร้อมสายตาที่เธอจ้องสบนั้นหาได้มีแววตลกหรือแกล้งแน่นอน เขาจริงจัง เธอมองสำรวจใบหน้าหล่อราวรูปปั้นของนาสูร เลื่อนมองมายังริมฝีปากหนาที่จูบคลึงปากเธอ และมันคือจูบแรกของเธอ แล้วเลื่อนต่ำมายังลูกกระเดือกที่กำลังเคลื่อนไหวตามเจ้าของร่างยามหายใจและกลืนน้ำลาย
“อย่ามาล้อฉันเล่นแบบนี้คุณนาสูร ฉันไม่ตลกด้วยนะ”
เธอบอกเขาพร้อมเบือนหน้าหนีไปด้านข้างเมื่อรู้สึกว่าสายตาของเขาช่างมีมนต์ขลังเหลือเกิน มองแล้วหลงระทวยและอยากโอบกอด อยากให้เขากอดแนบแน่นเหมือนค่ำคืนที่เร่าร้อนกับตอนเช้าที่เร่าร้อนในห้องน้ำเล็กๆ ของห้องนี้
หึหึ
นาสูรรู้ว่าหล่อนเป็นคนฉลาด และคนฉลาดหัวไวอย่างพุดซ้อนมีหรือจะไม่คิดตามและประกอบกับที่เขาทำกับเธอตั้งแต่รู้จักกัน มือใหญ่เคลื่อนผละจากเอวลูบไล้มากอบกุมก้นกลมกลึงของเธอพร้อมบีบเคล้นหนักหน่วง
“อ่ะ...อื้อ ยะ...อย่าเพิ่งทำแบบนี้ถ้ายังไม่พูดกันให้รู้เรื่อง คุณไม่ใช่คนได้ยังไง ไม่ใช่หรอก ไม่ใช่ยักษ์ที่กินคนหรอก คุณเล่นของใช่ไหมคุณนาสูร? ใช่...ต้องใช่แน่ๆ คุณต้องเป็นคนเล่นของแน่นอนถึงทำเรื่องประหลาดได้มากมายแบบนี้”
เปรี้ยง! ปร้าง! เปรี้ยง!
พุดซ้อนถามเองตอบเอง ก็ตอนนี้ในหัวเธอมันวุ่นวายไปหมด สับสนไปหมดว่าอันไหนจริงอันไหนฝัน อันไหนภาพที่มโนของเธอที่วาดขึ้นมาเอง แต่ที่แน่ๆ ตอนนี้เขายืนอยู่ตรงหน้าคือของจริง
“งั้นมองฉัน มองตาฉันและมองหน้าฉันเด็กน้อย”
มือใหญ่ผละจากก้นกลมกลึงมาจับคางเล็กพร้อมบังคับให้หันมามองสบตาตัวเอง ส่วนพุดซ้อนก็ทำตามแม้จะไม่อยากสบตามีพลังงานของเขาก็ตาม เธอรับรู้ได้ถึงความขลังของดวงตาของเขาแล้วก็ต้องเบิกตาโตกว้างเมื่อเห็นการเปลี่ยนแปลงของใบหน้าราวเทพบุตรของนาสูรที่มันเปลี่ยนไป มันมีคิ้วแบบยักษ์ในนิทานพื้นบ้าน มีเขี้ยวยักษ์ และที่สำคัญดวงตาของเขาเปลี่ยนเป็นสีไฟลุกสลับกับสีเขียวมรกต
“กรี๊ด! ผียักษ์!” หล่อนร้องกรี๊ดออกมาสุดเสียงพร้อมกับสติที่ดับวูบไป โชคดีที่นาสูรโอบประคองไว้อยู่จึงไม่ร่วงหล่นไปกองกับพื้น
“สุดท้ายเธอก็กลัวฉันน้อง เธอกลัวฉัน”
นาสูรพึมพำกับตัวเองพร้อมอุ้มร่างเปลือยของเธอไปยังเตียงแล้วก็จัดการจัดท่านอนและห่มผ้าให้เธอ ก่อนจะหายวับไปจากตรงนี้
เปรี้ยง! ปร้าง! เปรี้ยง!
เพล้ง!
เสียงลมพายุยังคงดังอยู่ด้านนอก และอารมณ์ของเจ้าของคฤหาสน์ก็เช่นกันเหมือนลมพายุ พอกลับมาห้องก็จัดการปัดข้าวของทุกอย่างที่ตกแต่งในห้องทิ้งจนระเนระนาดเต็มห้องไปหมด ทำให้พาทีที่โผล่มาหลังจากรับรู้ได้ถึงอารมณ์คุกรุ่นของนาย
“นายครับ ใจเย็นๆ ก่อนครับ ทำลายข้าวของไปก็ไม่มีอะไรดีขึ้น”
พาทีเอ่ยแทรกขึ้นแล้วนายก็ตวัดสายตาเอาเรื่องมาทางมันทันทีพร้อมกับพุ่งตัวเข้าหาผลักมันกระเด็นกระแทกกับผนังห้องจนผนังห้องร้าว
ตุ้บ!
โอ๊ย!
พาทีขยับตัวลุกขึ้นจากพื้นพร้อมจับหน้าตัวเองและคอตัวเองที่เหมือนจะเคล็ดให้เข้าที่พร้อมกับเดินเข้าไปหานายอีกครั้ง ด้วยรู้ดีว่าตอนนี้นายโกรธอยู่ แต่แล้วโกรธเรื่องอะไรล่ะ หรือเรื่องเกี่ยวกับสัตวแพทย์คนนั้นอีกแล้ว
โอ๊ย!
ตุ้บ!
พาทีโดนหมัดหนักๆ ของนายตนเองกระแทกใส่หน้าจนเลือดกบปากเลยตอนนี้ มันเจ็บแต่มันต้องทน เพราะมันคือลูกน้องและไม่มีสิทธิ์บ่นแม้จะเจ็บมากแค่ไหนตอนนี้
“อ่า...นายครับ ผมว่า...”
“มึงอย่าพูดพาที ผู้หญิงคนนั้นรู้แล้วว่ากูคือยักษ์ รู้แล้วว่ากูไม่ใช่มนุษย์เหมือนหล่อน” เขาพูดพร้อมกำหมัดแน่นแล้วเดินสาวเท้ายาวๆ ตรงไปกระชากคอเสื้อเชิ้ตของพาทียกขึ้นจนร่างใหญ่ของพาทีลอยเหนือพื้น และตัวของนาสูรเองก็เปลี่ยนจากที่ใหญ่อยู่แล้วยืดตัวขยายใหญ่กว่าที่เป็นอยู่จนหัวแตะเพดานห้องนอน
“แค่กๆ ผะ...ผมหายใจไม่ออกครับท่าน แค่กๆ” พาทีจับมือที่บีบคอตัวเองให้ปล่อยคลายออก แต่เหมือนยิ่งพยายามนายยิ่งบีบแรงขึ้น
“แม่งเอ้ย! ตุ้บ!” แล้วร่างของพาทีก็ถูกเหวี่ยงไปกระแทกผนังห้องที่แตกร้าวอีกครั้งและครั้งนี้ทะลุไปจนไปอยู่อีกห้อง
เจ้าตัวเล็กอายุในครรภ์ได้หกเดือน แต่พ่อคนประหลาดของเธอก็ไม่เคยให้เธอได้พักกิจกรรมบนเตียงเลยสักคืน เขาก็อ้างแต่เติมน้ำเชื้อให้ลูก ลูกจะได้แข็งแรง แข็งแรงน่ะคือเขา ส่วนเธอน่ะอ่อนเพลียจนจะซีดตอนนี้ ก็เล่นให้เธออดหลับอดนอนทุกคืน “ไม่เอาแล้วนะคะคุณมังกรกัณฐ์”เธอผลักหน้าสามีออกห่าง เธอกับเขาอยู่กันแบบสามีภรรยาโดยไร้ทะเบียนสมรส ด้วยสามีของเธอเป็นคนเหนือคนจึงไม่ได้ไปจดทะเบียนสมรส แม้ว่าเขาอยากจะจดทะเบียนสมรสให้เธอก็ตาม แต่เธอก็ไม่อยากให้เขาเดือดร้อน เพราะอายุของเขากับหน้าตาของเขามันสวนทางกัน “ไม่เอาอะไรฮึ” เขารั้งร่างอวบอิ่มของเจณิสาเข้ามากอด “ก็เชื้อยักษ์ของคุณมังกรกัณฐ์ยังไงคะ” เธอบอกเขาเขินๆ “แต่ลูกของเราอยากได้น้ำเชื้อของฉันนี่เจณิสา” มังกรกัณฐ์เอ่ยพร้อมกับกัดงับหูของภรรยาหยอกเล่น “อือ...คุณมังกรกัณฐ์มากกว่าอยากปล่อยน้ำเชื้อยักษ์แล้วเอาลูกมาอ้างณิสา” เธอดันหน้าของเขาออกจากซอกคอของตัวเอง “แต่ฉันถอดเสื้อผ้าและเธอก็ถอดเสื้อผ้าแล้วนะเจณิสา” เขาบอกเธอ “ขี้โกง ณิสาบอกแล้วไงคะ เวลาอยู่ด้วยกันอย่าเล่นใช้พลังแบบนี้” “ก็ไม่ทันใจ นะ...เ
พอเดินออกมาจากห้องรับแขก สรวงก็หยุดเดินแล้วมองลูกสาวกับหน้าภรรยาสลับกัน “ลูกแน่ใจแล้วใช่ไหมณิสา” สรวงถามลูกสาว “นั่นสิลูกแม่” “พ่อสรวง แม่ทิพย์ ณิสาแน่ใจแล้วค่ะ ไม่มีอะไรแน่ใจกว่านี้แล้ว ณิสารักคุณมังกรกัณฐ์” เธอบอกพ่อกับแม่เต็มน้ำเสียงและแววตาที่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่นหนักแน่น และนั่นทำให้สรวงกับทิพย์หันมาสบตากันแล้วเอ่ยตอบลูกสาว “ถ้าลูกเลือกแล้ว พ่อกับแม่ก็พร้อมจะสนับสนุน” “แม่กับพ่อพร้อมสนับสนุนลูกเสมอ แต่ที่แม่กับพ่อเรียกมาคุยเพราะอยากถามลูกให้แน่ใจว่าคิดดีแล้วใช่ไหมกับเรื่องนี้ ถึงแม่กับพ่ออยากมีหลาน แต่ก็ไม่คิดว่าจะรวดเร็วปานนี้ ลูกแม่ไม่เคยเล่าถึงเรื่องแฟนสักครั้ง แต่มาวันนี้พาแฟนมาบ้านพร้อมกับพาผู้ใหญ่ฝั่งนั้นมาสู่ขอ” ทิพย์พูดกับลูกสาว “คิดดีแล้วค่ะแม่ พ่อ และตอนนี้ณิสาก็กำลังท้องด้วยค่ะ” เธอบอกท่านทั้งสอง “หนูไม่ได้แต่งงานเพราะท้องใช่ไหมลูก” สรวงถามและไม่อยากเชื่อว่าลูกสาวที่แสนดี ใสซื่อของตัวเองจะตั้งครรภ์ ทิพย์เดินมาโอบกอดลูกสาวให้กำลังใจ “ไม่ค่ะ หนูรักคุณมังกรกัณฐ์ และหนูอยากบอกพ่อกับแม่ว่าไม่ต้องเป็นห่วงหนูนะคะ หนูรั
ในคืนนี้พระจันทร์เต็มดวงและดาวเต็มฟ้า พาทีแหงนเงยหน้ามองบนฟ้าและมองดาวประจำตัวเองที่ส่องแสงกว่าทุกค่ำคืนแล้วถอนหายใจออกมา เขาอยากจะหนี แต่ก็คงหนีไม่พ้นแล้ว เมื่อคนที่โชคชะตากำหนดได้ปรากฏตัวขึ้นแล้ว เขานึกถึงคำพูดของนายท่านตัวเองแล้วก็ถอนหายใจออกมา เฮ้อ! “อะไรทำให้นายหนักใจจนต้องถอนหายใจแล้วถอนหายใจเล่าพาที” เสียงทุ้มเข้มดังขึ้นพร้อมกับร่างใหญ่ปรากฏตัวอยู่ข้างๆ เขา “คุณท่าน” พาทีหันมาหาเจ้าของต้นเสียงพร้อมก้าวถอยไปยืนอยู่ด้านหลังจากที่ยืนเสมอเคียงข้างกัน “กลับมายืนที่เดิม นายไม่ใช่ทาสรับใช้ฉัน นายเป็นน้องชายของฉันพาที” เขาบอกอีกฝ่ายพร้อมตบมือกับไหล่หนาของคนที่ขยับเดินกลับมายืนที่เดิม “คุณท่าน” “ว่ามา อะไรทำให้นายหนักใจจนมายืนแหงนมองพระจันทร์ที่ระเบียงฮึ” นาสูรรู้อยู่เต็มอกว่าพาทีหนักใจเรื่องอะไร แต่ก็อยากได้ยินจากปากของอีกฝ่าย “เด็กคนนั้นเกิดแล้ว” เขาบอกตอบ “แล้วยังไง แล้วนายจะหนักใจอะไร” “ผม...” แล้วเขาก็เงียบไปพร้อมกับยกมือขึ้น แล้วแก้วน้ำสีอำพันก็ปรากฏขึ้นในมือของเขาแล้วยกขึ้นจิบดื่ม “หึหึ...นายจะคิดมากกับเ
“แต่บางทีก็เกินไปนะคะแม่น้อง” ได้ทีเธอก็ถือโอกาสฟ้องท่านซะเลยว่าลูกชายท่านน่ะร้ายกาจแค่ไหน “ยังไงหนูณิสา เกินไปยังไงลูก” นางถามซักอย่างอยากรู้ “ก็...” แล้วเธอก็ก้มหน้าซ่อนความอาย แต่ใบหน้าของเจณิสาก็เป็นปื้นแดงขึ้นจนลามถึงหูและโคนหู “หน้าแดงเชียว ไม่เล่าให้แม่ฟังก็ได้จ้ะ” เธอบอกหญิงสาว “ณิสาเล่าได้ค่ะแม่น้อง คือว่า...คุณมังกรกัณฐ์เขานิสัยเหมือนเด็ก เอาแต่ใจ คิดอยากอุ้มณิสามาบ้านก็ไปอุ้มและชอบโผล่ไปโผล่มา ไม่ไปหาแบบคนปกติธรรมดาทั่วไปเลยค่ะ บางครั้งณิสาก็ตกใจและนึกกลัว” “แม่เข้าใจ เพราะเมื่อก่อนสมัยแม่กับคุณนาสูร เขาก็ทำแบบนี้กับแม่เหมือนกัน พอคิดย้อนถึงอดีตแล้วมันก็เป็นสิ่งที่น่าจดจำและสวยงามนะหนูณิสา และรู้อะไรไหม เมื่อก่อนแม่กับคุณมังกรกัณฐ์เกือบตายไปแล้ว ตอนนั้นเขาอยู่ในท้องแม่ แต่แม่ประสบอุบัติเหตุสาหัส แต่คุณนาสูรช่วยเราสองคนแม่ลูกไว้ และตั้งแต่นั้นมาชีวิตแม่ก็เปลี่ยนไป แม่เป็นมนุษย์ธรรมดา แต่ชีวิตของแม่ก็เปลี่ยนเป็นอมตะ พอแม่กับคุณมังกรกัณฐ์ปลอดภัย คุณนาสูรก็หายไปนานถึงหกปี แม่ต้องเลี้ยงคุณมังกรกัณฐ์ลำพัง แต่โชคดีมีคุณพาทีช่วยดูแล และแม่ก็เชื่
เจณิสาไม่อยากเชื่อว่ากลางภูเขาลึกในป่าดงดิบจะมีคฤหาสน์หลังใหญ่ซ่อนอยู่ เธอเดินเข้ามาในบ้านหลังใหญ่ที่มังกรกัณฐ์พามาแบบที่มนุษย์ธรรมดามาไม่ได้ หากมนุษย์อย่างเธอจะมาต้องใช้เวลาเดินเท้ามาหลายวัน แต่มังกรกัณฐ์พามาเพียงแค่กะพริบตาก็ว่าได้ “พ่อกับแม่คุณอยู่ที่นี่เหรอคะ?” เจณิสาหันมาถามบุรุษที่เดินตามหลังตัวเองเข้ามาในบ้าน “ใช่ พ่อกับแม่ฉันอยู่ที่นี่” เขาตอบแล้วก็คว้ามือเล็กแล้วพาเดินไปยังห้องรับแขกของบ้านที่แม่และพ่อของเขารออยู่ “ไม่ต้องกลัวหรอกนะ พ่อของฉันไม่กินมนุษย์” เขาบอกเธอเมื่อเห็นสีหน้าที่กังวลและความคิดวุ่นวายในใจของเธอ “ณิสา...” แล้วเธอก็หยุดพูดเมื่อมือใหญ่บีบมือเธอให้คลายความกังวลพร้อมกับเดินเข้ามาในห้องนั่งเล่น เธอมองไปในห้องนั่งเล่นเห็นพ่อกับแม่ของเขามองมาทางตัวเองพร้อมกับรอยยิ้มที่เป็นมิตรและมันทำให้เธอลดความกังวลหวาดกลัวในใจขึ้น “เอ๊ะ! คนที่ตลาดนี่คะคุณมังกรกัณฐ์” เธอมองหน้าของผู้หญิงที่ดูละอ่อนที่เคยเห็นที่ตลาดสดก็ตกใจ “นั่นน่ะแม่ฉันเอง ไม่ต้องตกใจหรอก เดี๋ยวเธอก็จะรู้ทุกอย่างเองเจณิสา” แล้วเขาก็พาเธอเดินไปหยุดยืนต่อหน้าพ่อกับ
ค่ำคืนหวามที่ผ่านมาทำให้มังกรกัณฐ์คลายความเดือดดาลที่มี เขานอนตระกองกอดร่างเปลือยเปล่าของเจณิสาที่หลับสนิทอ่อนเพลียจากการบรรเลงกามกันมาตลอดทั้งคืนจนสาย มือใหญ่สากกร้านลูบไล้ไปมากับนวลแก้มขาวผ่องพร้อมกับหยิกหยอกเล่น อือ! เจณิสาที่หลับสนิทยกมือขึ้นปัดป้องหน้าตัวเองอย่างรำคาญสิ่งรบกวนและนั่นทำให้มังกรกัณฐ์เอ็นดูจนต้องหอมแก้มนุ่มนิ่มแรงๆ “เธอทำให้ฉันมีชีวิตชีวารู้ไหมเจณิสา” เขาจูบหน้าผากมนของเธอแล้วก็ผละลุกขึ้นจากเตียง ปล่อยให้เธอนอนหลับสบาย พาทีมองหน้านายน้อยของตัวเองแล้วก็อมยิ้ม ถึงอีกฝ่ายไม่บอกไม่พูดอะไร พาทีก็พอจะรู้ว่าวันนี้อารมณ์ดีเพราะเรื่องอะไร “ลุงพาที” “ครับ คุณมังกรกัณฐ์” “ผมกำลังจะเป็นพ่อคน” เขาบอกพาทีและหน้าตาของเขาก็แสดงถึงความดีใจจนพาทียิ้มตาม “ยินดีด้วยครับ” “ขอบคุณครับลุงพาที ผมไม่อยากจะเชื่อว่าผมจะได้เป็นพ่อคน ผมไม่อยากเชื่อว่าร้อยแปดปีที่ผ่านมาชีวิตผมมันว่างเปล่ามาก แต่พอผมเจอเจณิสาและรู้ว่าตัวเองกำลังจะเป็นพ่อคน ทำให้ผมมีเป้าหมายในชีวิตขึ้นมา” เขาบอกพาที “ผมดีใจด้วยครับ แต่ก็อย่าลืมเซ็นเอกสารบ