“ทำแผลให้พี่เขาหน่อย”
“คุณแม่คะ” พรรณดาราอยากจะปฏิเสธ ทว่าสายตาดุที่ท่านมองมาก็ทำให้เธอจำใจหิ้วกล่องยาไปนั่งลงบนโซฟาตัวเดียวกันกับเขา
กวียิ้มน้อยยิ้มใหญ่ เมื่อคุณพยาบาลจำเป็นมานั่งลงตรงหน้า แม้เธอจะมือหนักไปบ้างอย่างจงใจ แต่เขาก็อดทนได้
“แม่ต้องขอโทษแทนเพลิงด้วยนะ รายนั้นใจร้อนไปหน่อย ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ใช้กำลังไว้ก่อนอยู่เรื่อย”
“ครับ ไม่เป็นไรครับแม่พราว” กวีพูดกับแม่พราว ทว่านัยน์ตาวิบวับจับจ้องดวงหน้าลูกสาวท่านตลอดเวลา
“แล้วนี่พ่อวีมีธุระอะไรหรือถึงได้มาแต่เช้าเชียว”
“เอ่อ...พอดีว่าคุณแม่อยากทานแก้วมังกรครับ ผมเลยแวะมาซื้อ”
“แก้วมังกร?” แม่พราวทำหน้างง
“ครับ คุณแม่ท่านบอกว่าแก้วมังกรที่ไหนก็ไม่อร่อยเท่าของไร่ภูอิงฟ้า”
“อ้อ! แต่แก้วมังกรที่บ้านไม่มีนะจ๊ะ ถ้าพ่อวีอยากได้ คงต้องไปซื้อที่อาคารแสดงสินค้าตรงปากทางเข้าไร่โน่น” แม่พราวว่าอย่างรู้ทัน กวียิ้มแหยๆให้ผู้สูงวัย พอดีกับคุณพยาบาลจำเป็นใส่ยาให้เขาเสร็จแล้ว หญิงสาวก็เลยย้ายไปนั่งข้างมารดา
“เอ่อ...ครับ ถ้างั้นผมขอตัวก่อนนะครับแม่พราว ขอบคุณมากนะครับหนูพรรณที่ทำแ
“หนูพรรณ”พรรณดาราลุกขึ้นจากโซฟาเมื่อคนที่เธอมาหาเดินเข้ามาในห้องรับรองแขก“งานหนัก หรือเปลี่ยนไปจีบสาวบ้านอื่นแล้วคะ ทำไมถึงไม่ไปที่ไร่เลย” กวีไม่รู้ว่าจะขำหรือดีใจดี นี่เธอคิดถึงเขาใช่ไหม และก็กำลังงอนเขานิดๆใช่ไหม“อยากไปใจจะขาด แต่ช่วงนี้งานเข้า พี่ปลีกตัวไปไม่ได้เลย”“แล้วทำไมไม่โทรบอก” พรรณดาราถามแล้วก็ต้องกัดริมฝีปากตัวเอง เธอเป็นคนห้ามไม่ให้เขาโทรหาเองนี่นา“งั้นต่อไปนี้ให้พี่โทรหาได้แล้วใช่ไหมครับ ถ้าหนูพรรณอนุญาตให้พี่โทรหาได้ พี่จะโทรรายงานความประพฤติทุกชั่วโมงเลยก็ได้”“ก็ดีค่ะ แล้วต่อไปอย่าหายไปแบบนี้อีกนะคะ”กวียิ้มพอใจ แบบนี้คือเธอยอมเปิดใจให้เขาแล้วใช่ไหม ร่างสูงเดินเข้าไปยืนตรงหน้าหญิงสาว“เราเป็นแฟนกันแล้วใช่ไหม”“ก็ดูๆไปก่อนค่ะ” พรรณดาราไม่ใช่หญิงสาวเรียบร้อยเหมือนผ้าพับไว้ เธอเป็นคนตรงๆ ไม่ชอบก็คือไม่ชอบ ถ้าใช่เธอก็ยอมรับว่าใช่ ความตรงๆกับหัวใจนี้เธอได้มาจากแม่พราว ที่เธอมาหาเขาถึงนี่ ก็เพราะแม่พราวเป็นคนแนะนำนั่นแหละ“ถ้าหนูรู้สึกว่าพี่เขาใช่ ก็ทำตามที่หัวใจต้องการ” แม่พราวเนี่ยไอดอลต
“ไง! เมียยังไม่ยอมคุยด้วยอีกเหรอ” ลุงเพชรมานั่งลงตบบ่าเขาเบาๆ สายตาของลุงเพชรเหมือนเยาะเย้ยมากกว่าจะเห็นใจ“ก็มีแต่คนกีดกัน ผมเลยไม่ได้คุยกับน้ำฝนสักที”“แล้วมันน่ากีดกันไหมล่ะ ชอบทำอะไรให้น้องงอนอยู่เรื่อย”“ถ้าไม่เข้าข้าง ก็อย่ามาซ้ำเติมผมเลย” เพลิงตะวันว่า เขาขยับออกห่างลุงเพชรอีกนิด นี่ก็ไม่ช่วย ไม่พาไป ทั้งที่บ้านหลังนั้นเป็นบ้านลูกเขยตัวเองแท้ๆ ถ้าลุงเพชรพาไป ใครหน้าไหนจะกล้าขัดขวาง“เฮ้ย! ทำผิดเองก็หาทางแก้เองสิวะ มันต้องนักเลงหน่อย”เพลิงตะวันปรายตามองลุงเพชร ก็รู้อยู่แก่ใจว่ามันไม่ใช่เรื่องง่าย บ้านพี่เมียมีระบบรักษาความปลอดภัยแน่นหนา ทั้งคนของพี่เมียก็ยั้วเยี้ยเต็มหน้าบ้านไปหมด อย่างกับตั้งใจจัดมาเพื่อขัดขวางเขาโดยเฉพาะ“เป็นไงตาเพลิง ได้คุยกับน้ำฝนหรือยัง” น้ากระแตของตาเพลิงเดินมานั่งลงข้างหลานชาย ถามไถ่ด้วยความเป็นห่วง เพลิงตะวันขยับไปหา กอดท่านไว้เต็มอ้อมแขน ออดอ้อนน่าสงสาร“น้ำฝนไม่ยอมคุยกับผมครับน้ากระแต คนแถวนี้ก็ใจร้ายไม่ยอมช่วย”คนถูกกล่าวหาว่าใจร้ายสะดุ้ง มองคนที่กอดเมียตัวเองด้วยสายตาหมั่นไส้ อ้อนได้อยู่คนเด
“กลับมากันแล้วเหรอ เป็นไงเพลิง ได้เจอน้ำฝนไหม แคกๆ” เพลิงตะวันมองคนที่เอนกายนั่งพิงพนักโซฟาแสร้งทำสีหน้าอิดโรยด้วยสายตาไม่พอใจ อย่ามาทำเป็นแสดงละครเลยลุงเพชร ทำไมเขาจะดูไม่ออกว่านี่คืออาการแกล้งทำ“ไม่ได้เจอครับ ผมขอตัวก่อนนะครับ” เพลิงตะวันถอนหายใจแล้วเดินหนีขึ้นห้องไป ลุงเพชรไม่ช่วยอะไรเขาสักนิด แล้วยังจะมาแกล้งเขาอีก เออ...เขามันคนเคยไม่ดี ใครๆก็ไม่รัก ไม่อยากช่วยเหลือ ไม่สงสารคนที่ไม่ได้เจอหน้าลูกเมียมาหลายวันแล้วกันบ้างเลย“น้ำฝน พี่ขอคุยด้วยได้ไหมครับ” วาโยเคาะประตูห้อง แล้วเรียกน้องสาวที่หลบมาพักที่บ้านกับเขา ซึ่งเขาก็ยินดีที่จะให้เธอพักอยู่ได้นานเท่าที่เธอต้องการ“ค่ะ พี่โย” หยาดพิรุณเปิดประตูให้พี่ชาย แล้วเดินกลับไปนั่งบนเตียง มองดูลูกชายที่เพิ่งนอนหลับปุ๋ยไปได้ไม่นานวาโยเดินเข้ามานั่งอีกฝั่งของเตียง เขาแตะแก้มหลายชายเบาๆอย่างเอ็นดู“หลับไม่รู้เรื่องเลยน้ำพุเอ๊ย!” วาโยแซวหลานแล้วเงยหน้าขึ้นมองน้องสาว เห็นเธอถอนหายใจเบาๆแล้วก็เห็นใจ หยาดพิรุณใจแข็งกับสามีได้ไม่นานหรอก แค่นี้ก็หงอยจนน่าเป็นห่วงแล้ว“ว่า
“ลุงเพชร! ลุงเพชร! ลุงเพชรอยู่ไหนครับ” เพลิงตะวันเรียกหาลุงราวกับเด็กเสียขวัญ เมื่อผู้เป็นลุงไม่ขานรับ เขาก็เรียกหาน้ากระแต“น้ากระแต! น้ากระแตครับ” เหมือนทั้งบ้านจะเงียบไปหมด แล้วเมียเขาล่ะ เมียเขามาที่นี่หรือยัง หรือมาแล้วและก็กลับไปแล้ว แล้วทำไมไม่มีใครปลุกเขา“ลุงเพชร!” เพลิงตะวันตะโกนเรียกสุดเสียง จนเด็กรับใช้ต้องวิ่งหน้าตื่นเข้ามาหา“ลุงเพชรกับน้ากระแตไปไหน”“เอ่อ...คุณๆอยู่สวนหลังบ้านค่ะ”“ขอบใจ” เพลิงตะวันรีบเดินไปทางประตูหลังบ้าน เมื่อเปิดประตูออก สายตาคมก็มองไปทางศาลาแปดเหลี่ยมสีขาวหลังใหญ่กลางสวน เขาเห็นลุงเพชร น้ากระแต คุณวาทิต วาโย กระเต็น แต่ไม่เห็นเมียตัวเอง ขายาวก้าวเข้าไปหาอย่างเร่งรีบ เมื่อยกมือไหว้ทักทายพ่อตากับพี่เมียแล้วเขาก็ถามหาเมียทันที“น้ำฝนล่ะครับ” ทุกคนพากันเงียบกริบ เหมือนต่างเกี่ยงกันที่จะตอบคำถามของเขา“น้ำฝนไม่ได้อยู่ที่นี่” พอได้ยินคำตอบจากปากลุงเพชรคนอยากเจอหน้าเมียใจจะขาดก็พานแข้งขาอ่อน“ก็ไหนลุงเพชรบอกน้ำฝนจะมากับพี่โยด้วยไงครับ”“ก็มา แต่...”“แต่ลุงเพชรพาเมียผมไปซ่อนอีกแล้วใช่
“คุณพ่อขา คุณแม่ขา ช่วยติ๊บด้วยค่า” เจ้าของเสียงสดใสวิ่งเร็วเข้ามาในห้องโถงของบ้าน พอเห็นบิดามารดานั่งคุยกันอยู่ก็รีบเข้าไปนั่งแทรกกลาง โอบกอดบิดาไว้แน่นแล้วซุกหน้ากับอกท่านอย่างต้องการที่พึ่งพาและปกป้อง“กระติ๊บ!” เสียงเข้มของพี่ชายที่ไล่หลังมาทำให้คนเป็นน้องสะดุ้งโหยงเพชรนิลเดินตามน้องสาวเข้ามาด้วยใบหน้าเคร่งขรึม เมื่อเห็นยายตัวเล็กซุกตัวอยู่กับอกบิดาก็ถอนหายใจแรง ส่ายหน้าระอาใจ“ก็เป็นซะอย่างนี้ แล้วเมื่อไรจะโต จะรู้จักรับผิดชอบหน้าที่ของตัวเองสักที” เพชรนิลว่าพลางเดินไปนั่งลงที่เก้าอี้ใกล้กัน ทว่าสายตาดุยังจับจ้องมองน้องสาวที่อยู่ในอ้อมอกบิดาตลอด“มีอะไรหรือต่าย น้องทำอะไรผิดหรือลูก ทำไมทำหน้าดุแบบนั้น” แม่กระแตถามบุตรชายคนโต แต่สายตาเอ็นดูกลับมองไปยังบุตรสาวคนเล็กที่ซุกอยู่
“ไม่เอาค่ะ อยู่ใกล้กันแค่นี้ เขาไม่เรียกว่าไปหาประสบการณ์ชีวิตหรอก” พลอยชมพูส่ายหน้ากับอกมารดา สูดน้ำมูกเบาๆ“งั้นก็ไปช่วยงานพี่เพลิงที่ไร่ภูอิงฟ้า”แม่กระแตเสนออีกหนึ่งทางเลือกให้ แม้ไร่ภูอิงฟ้าจะอยู่ไกล แต่ที่นั่นท่านมั่นใจล้านเปอร์เซ็นต์เลยว่า จะไม่มีอันตรายใดๆมาแผ้วพานลูกสาวท่านได้แน่นอน“ที่นั่นยิ่งแล้วใหญ่ ใครๆก็คงไม่ให้ติ๊บหยิบจับอะไรหรอกค่ะ”พลอยชมพูว่าอย่างรู้ทัน ไร่ภูอิงฟ้าเรียกว่าเป็นสถานที่รวมญาติของเธอเลยก็ว่าได้ ทั้งอาพราวผู้เป็นน้องสาวแท้ๆของพ่อ ลุงนนท์สามีอาพราวซึ่งเป็นผู้อุปการะแม่กระแตมาตั้งแต่เล็กก่อนจะมาแต่งงานกับพ่อเพชร แล้วไหนจะพี่เพลิงลูกชายอาพราวกับลุงนนท์ผู้ที่ขึ้นชื่อเรื่องหวงน้อง กับยายน้ำฝนภรรยาพี่เพลิงที่เป็นน้องสาวบุญธรรมของเธออีก รายสุดท้ายนี่ปกติตอนอยู่บ้านด้วยกันก็ชอบแย่งงานเธอทำทุกอย่าง แทบจะไม่ให้เธอหยิบจับอะไร น้ำฝนทำอย่างกับเธอเป็นน้องสาวคนเล็กสุดของบ้านด้วยซ้ำ แล้วจะให้เธอไปอยู่ทำงานที่นั
เจ้าของรีสอร์ตบ้านไร่รักละมุนเป็นเพื่อนของกวีซึ่งเป็นหลานเขย เขาเป็นชายหนุ่มอายุสี่สิบปี นิสัยใจคอก็ได้รับการการันตีจากหลานเขยและหลานสาวว่าเป็นคนดี ไว้ใจได้ อีกทั้งวาโยซึ่งมีฐานะเป็นพี่เขยของพลอยชมพูก็ได้ให้คนสืบประวัติเบื้องหน้าเบื้องหลังของชายหนุ่มมาแล้ว ไม่พบประวัติเสียใดๆ ดังนั้นทุกคนจึงวางใจที่จะให้พลอยชมพูไปทำงานที่นั่น“ค่ะคุณแม่” พลอยชมพูรับคำหนักแน่น เธอคิดไว้แล้วว่าจะตั้งใจทำงาน เรียนรู้ทุกอย่าง จะไม่ทำให้ใครมาตราหน้าว่าเป็นลูกคุณหนู เหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อหรอก หญิงสาวกอดร่ำลาพ่อเพชรกับแม่กระแตอีกครู่หนึ่ง เมื่อรถแท็กซี่ที่โทรเรียกไว้แล่นเข้ามาจอดเทียบประตูหน้าบ้าน เธอจึงประนมมือไหว้ลาบุพการีแล้วหยิบกระเป๋าเป้ใบโตไปขึ้นรถพ่อเพชรกับแม่กระแตมองตามท้ายรถแท็กซี่ที่แล่นพ้นประตูรั้วบ้านไปด้วยความเป็นห่วง ทั้งสองถอนหายใจออกมาพร้อมกัน“เราไปเยี่ยมลูกทุกสัปดาห์ได้ไหมคะคุณเพชร” แม่กระแตถามเสียงเศร้า พอลูกไปจริงๆแล้วก็รู้สึกใจหาย เพราะไม่เคยต้องห่างกันนานขนาดนี้เลย พ่อเพชรหัวเราะในลำคอ โอบกอดบ่าบอบบางมาแนบชิด“แค่หกเดือนเอง เดี๋ยวลูกก็กลับมาอยู่กับเราเหมือนเดิ
“คุณพบคะติ๊บสงสัยว่าติ๊บน่าจะนั่งรถสองแถวเลยป้ายค่ะ”คิ้วเข้มเลิกขึ้นเล็กน้อยเมื่อได้ยินสิ่งที่เธอบอก“คุณขับรถหลงทางหรือ” เพราะไม่คิดว่าลูกคุณหนูอย่างเธอจะนั่งรถประจำทางมา เขาคิดว่าเธอคงพูดผิด“ไม่ใช่ค่ะ ติ๊บนั่งรถทัวร์มาลงที่บขส.แล้วต่อรถสองแถว แต่เอ่อ...ระหว่างทางติ๊บเผลอหลับไปแป๊บนึง พอตื่นขึ้นมารถสองแถวก็เลยมาจนสุดสายแล้วค่ะ แล้วทีนี้คนขับรถบอกว่าเที่ยวรถหมดแล้วค่ะ ติ๊บว่าจะเหมารถคันที่นั่งมาให้กลับไปส่งที่รีสอร์ต แต่คุณลุงคนขับรถบอกว่าวันนี้แกมีนัดกับแฟน แกเลยไม่รับงานแล้วค่ะ”พลอยชมพูใจเต้นตุ๊มๆต่อมๆ หญิงสาวรู้ว่าตัวเองผิดที่ดันเผลอหลับจนนั่งรถเลยป้าย ก็คนมันง่วงนี่นา นั่งรถมาตั้งไกล ร่างกายเลยโหยหาการพักผ่อน มันชัตดาวน์ตัวเองโดยไม่ปรึกษาเธอสักคำ“แล้วไง” พบรักพ่นลมหายใจออกมาไม่เบานัก เขาเจตนาให้ปลายสายได้ยินพลอยชมพูหดคอทำหน้าเหยเกคล้ายจะร้องไห้“เอ่อ...คุณพบช่วยส่งคนมารับติ๊บได้ไหมคะ” เสียงบอกไม่มั่นใจเอาเสียเลย มาวันแรกเธอก็ก่อเรื่องให้เขาต้องยุ่งยากแล้ว“ธุระของผมเหรอ”พลอยชมพูแทบจะปล่อยโฮออกมาเมื่
“เดือนนี้ไม่หักแล้ว จะให้เพิ่มด้วย” พบรักบอกยิ้มๆ“ให้เพิ่มทำไม ติ๊บไม่ได้ทำงานอะไรเพิ่มสักหน่อย” คนไม่อยากเอาเปรียบนายจ้างปฏิเสธไม่รับเงินค่าจ้างเพิ่มโดยที่เธอไม่ได้ทำอะไรเพิ่มพบรักถอนหายใจบางเบา เขาลุกขึ้นเดินอ้อมโต๊ะไปนั่งเก้าอี้ข้างหญิงสาว ดูเหมือนเธอจะหลีกเลี่ยงที่จะพูดถึงเหตุการณ์เร่าร้อนที่เขาและเธอเพิ่งทำกันไปเมื่อครู่ใหญ่“กระติ๊บ” พบรักจับมือบางทั้งสองข้างมากุมไว้ เขามองหน้าหญิงสาวด้วยสายตาดุ ไม่พอใจที่เธอไม่เรียกร้องอะไรจากเขาเลย ทั้งๆที่เขาอยากให้เธอเรียกร้องเอาทุกอย่างจากเขา เอาไปให้หมดเลยก็ได้ ทั้งตัว หัวใจ เงินทอง ทรัพย์สมบัติต่างๆ เขาพร้อมจะยกให้เธอทั้งหมด“อะ...อะไรคะ” พลอยชมพูเอนตัวหลบคนที่อยู่ดีๆก็เดินมาจับมือถือแขนเธอ ที่จริงเธอก็ไม่ควรตกใจอะไรหรอก เพราะมากกว่ามือเขาก็จับมาแล้ว แต่บอกตรงๆว่าเธอยังไม่ชิน ถึงจะไม่ได้รังเกียจเขา แต่ก็ใช่ว่าเธอจะชอบที่เขาเข้ามาใกล้ชิดแบบนี้ เพราะมันทำให้หัวใจเธอสั่น“คุณไม่คิดจะเรียกร้องอะไรจากผมหน่อยหรือ”พลอยชมพูมองหน้าเขานิ่งอยู่ชั่วอึดใจ ก่อนระบายยิ้มหวานสดใสให้เขา“แล้วคุณพบอยากใ
พลอยชมพูหลับตา แหงนเงยหน้าเชิดสูง พร้อมกับกรีดร้องออกมาด้วยความซ่านเสียวสะใจ เธอต้องบ้าไปแล้วแน่ๆที่รู้สึกไปกับเขามากมายขนาดนี้ และเมื่อเขาเริ่มโยกกายถอดถอนสลับเติมเต็มในจังหวะเชื่องช้า หญิงสาวก็ครางเบาๆอย่างกับลูกแมวน้อย มันเสียวสะท้านก็จริง ทว่าเธอคิดว่ามันอ่อนโยนเกินไป หญิงสาวจึงโยกสะโพกกลับไปด้านหลัง ในจังหวะที่เขาสอดเสยเข้าหาเธอพอดี เสียงเนื้อสะโพกหนั่นแน่นปะทะกับหน้าขาจึงดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง ต่างคนต่างใส่แรงเข้าหากันไม่มีใครยอมใคร แต่คนแรงน้อยกว่าสูญเสียอธิปไตยในน่านน้ำตัวเองไปหลายครั้ง กว่าเธอจะรีดรัดคนแข็งแกร่งห้าวหาญจนเขายอมพ่ายแพ้ก็ใช้เวลาร่วมชั่วโมง “ไปเดินอีท่าไหนให้หกล้มหัวเข่าถลอกแบบนี้คะ” ลำดวนถามคนที่ตนกำลังทำแผลให้ หญิงสาวนั่งอยู่บนโซฟาในบ้านพักของเจ้าของรีสอร์ตพลอยชมพูตวัดสายตาดุขึ้นมองตัวต้นเหตุที่ทำให้เธอต้องหัวเข่าถลอก เขายืนกอดอกตีหน้านิ่งอยู่ใกล้ๆ แต่เมื่อสบสายตากับเธอ เขาก็ยิ้มบางบนใบหน้า แถมยังยักคิ้วข้างหนึ่งใส่เธอด้วย คนเจ็บตัวเพราะความหื่นปรอทแตกของเขาจึงสะบัดค้อนให้จนคอแทบเคล็ด
ใบหน้าที่หลับตาพริ้ม อ้าปากเผยอครางเสียงหวานดังผะแผ่ว ทำให้พบรักเร่งมือเพื่อส่งเธอไปสุดปลายทางล่วงหน้าก่อน เขาสอดนิ้วกลางเข้าสู่ร่องสาวคับแน่น ชักเข้าออกกระทุ้งแรง รับรู้ได้ถึงกล้ามเนื้ออ่อนที่บีบรัดรอบจากปลายสุดโคนนิ้ว ชายหนุ่มสูดลมหายใจยาว เขาแข็งขึงทรมาน อยากจะพาสัดส่วนที่ขยายใหญ่โตสอดลึกในตัวเธอแล้ว ทว่าก็ได้แต่ยับยั้งใจไว้ก่อน ความสดใหม่ของเธอทำให้เขาต้องรีดเค้นน้ำหวานออกมาให้ได้มากที่สุด เพื่อไม่ให้เธอต้องเจ็บตัวมากเหมือนครั้งแรก“คุณพบ!” พลอยชมพูหลับตาแน่น เงยหน้าขึ้นครวญครางเรียกชื่อคนที่กำลังปรนเปรอเธอด้วยนิ้วมืออย่างดุดัน เมื่อไม่อาจต้านทานบทเพลงกามาที่บรรเลงโดยนิ้วเรียวยาวที่พร่างพรมลงใจกลางความเป็นหญิง สะโพกสวยก็ขยับเร็วเพื่อจะไปให้ถึงบทสุดท้ายของเพลงรัก เผลอให้ความร่วมมือไปโดยไม่รู้ตัว“กระติ๊บ...” พบรักจับจ้องมองใบหน้าน่ารักไม่วางตา เขากระซิบเรียกเธอซ้ำๆ จูบปลายคางเล็ก แล้วอ้าปากงับเบาๆ เร่งขยับซอยนิ้วมือกระทั่งส่งเธอข้ามพ้นขอบเขตความอดกลั้น หญิงสาวระเบิดตัวเองหยาดน้ำใสฉีดล้นซอกขาเปรอะเปื้อนเต็มหน้าตักเขาพลอยชมพูหอบหายใจแฮกๆ หญิงสาวเอนกายซวนซบอกกว
“อุ๊ย!” พลอยชมพูมัวแต่โมโหคนที่ไม่ยอมปล่อยเธอสักที หญิงสาวเลยมองเมินไปยังพื้นที่สีเขียวโล่งกว้างตรงหน้า โดยไม่ทันระวังตัว พบรักก็รวบเอวคอดดึงตัวเธอขึ้นไปนั่งบนตักเขา แล้วกักกอดไว้แน่น แผ่นหลังนุ่มแนบไปกับอกกว้างกำยำ“คุณพบ! จะทำอะไรคะ ปล่อยนะ” พลอยชมพูหันหน้าไปต่อว่าเขา ใบหน้าสาวบูดบึ้งไม่พอใจอย่างที่สุด“นั่งพักสักหน่อย เดี๋ยวค่อยกลับ”“จะนั่งก็นั่งดีๆสิคะ ทำไมต้องมากอดคนอื่นแบบนี้”“คนอื่นที่ไหน เมียทั้งคน”ดวงตาคู่สวยเบิกกว้าง มองหน้าคนที่เรียกตัวเองว่าเมียด้วยสายตาแตกตื่น พบรักมองสีหน้าตกใจของเธอแล้วยิ้มขำ พอเห็นคนที่เอาแต่ตกตะลึงตาค้างกับตำแหน่งใหม่ที่เขามอบให้ แถมริมฝีปากอิ่มที่เผยอน้อยๆนั่นก็ยั่วใจเขาเหลือเกิน ชายหนุ่มจึงอดใจไม่ไหว เขาโน้มใบหน้าลงไปใกล้อีกนิด หวังจะชิมความหวานจากปากนุ่ม แต่ดูเหมือนคนกำลังจะถูกเขารังแกจะรู้ตัวเสียก่อน มือบางสองข้างจึงถูกยกขึ้นมาปิดกั้นปากเขาไว้แล้วดันออกสุดแรงจนหน้าแทบหัน“จะทำอะไรคะ” พลอยชมพูถามเสียงขุ่น หญิงสาวดึงมือกลับมาเช็ดๆถูๆกับกางเกง มองค้อนคนจ้องจะเอาเปรียบเธอปากเขานุ่มชะมัด บ้าจริ
“ไอ้หมอนั่นใคร”เสียงเข้มไม่พอใจที่ดังขึ้นข้างหลังทำให้พลอยชมพูสะดุ้ง หญิงสาวถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนหมุนตัวกลับไปยืนประจันหน้ากับเจ้าของรีสอร์ตนิสัยเสียที่กล้าเรียกลูกค้าว่าไอ้หมอนั่น“ลูกค้าค่ะ”“รู้แล้วว่ามันเป็นลูกค้า มันรู้จักกระติ๊บด้วยเหรอ”“เป็นเพื่อนกันสมัยเรียนปอโทค่ะ”“เมื่อกี้มันขอเบอร์ด้วย”“ค่ะ” พลอยชมพูตอบแล้วหันไปคว้าถาดมาถือ เดินหนีคนช่างซัก“จะไปไหน” พบรักเดินตามติดต้อยๆ“เอาถาดไปเก็บค่ะ”“ผมช่วย” พบรักแย่งถาดจากมือบาง แต่ลูกจ้างสาวไม่ยอม พลอยชมพูดึงเอาไว้แน่น“ไม่ต้องค่ะ”“ต้อง” พบรักใช้แรงที่มีมากกว่าดึงถาดมาจากมือเธอจนได้ พลอยชมพูมองหน้าเขาด้วยความไม่พอใจ คนบ้าอะไรเนี่ย คนจะทำงาน เขาจะมาวุ่นวายวอแวอะไรกับเธอนักหนา“งั้นก็ฝากไปเก็บด้วยนะคะ ติ๊บจะไปช่วยพี่น้ำตาลค่ะ” พลอยชมพูสะบัดหน้าเดินหนีเอาดื้อๆ พบรักมองตามเธอ แล้วก้มมองถาดในมือ เรื่องอะไรจะเอาไปเก็บ เธอไม่ไป เขาก็ไม่ไป ชายหนุ่มพยักหน้าเรียกพนักงานที่ยืนอยู่ไม่ไกลให้มารับถาดไปเก็บ แล้วเดินตามไปยังเคาน์เตอร์ที่พลอยชมพูยืนอยู่กับกลุ่
“ผมก็เป็นเพื่อนร่วมงานคนหนึ่งเหมือนกัน” คนไม่อยากให้สาวทำงานลำบากรีบเอ่ยอ้างพลอยชมพูเงยหน้าขึ้นสูดลมหายใจลึก นี่เธอกำลังคุยกับผู้ใหญ่อายุสี่สิบหรือเด็กอายุสิบขวบกันแน่นะ“ติ๊บจะไปช่วยงานคนอื่นแล้ว ห้ามตามมานะคะ ไม่อย่างงั้นติ๊บจะหนีกลับบ้านจริงๆด้วย” พลอยชมพูหันหลังเดินออกจากห้องไปทันทีที่พูดจบ คนที่ถูกเธอขู่ไม่กล้าลุกเดินตามไป พบรักทำได้เพียงถอนหายใจมองตามตาละห้อย เขากลัวเธอหนีกลับบ้าน กลัวเธอไม่อยู่ให้เขารับผิดชอบเมื่อเดินออกมาจากห้องทำงานเจ้าของรีสอร์ตได้แล้ว พลอยชมพูถึงกับถอนหายใจอย่างโล่งอก บางทีเธอก็ไม่เข้าใจว่า การที่เธอเอาเรื่องนี้มาขู่เขานี่ถูกต้องแล้วใช่ไหม คือเธออดสงสัยไม่ได้ว่าตรรกะการได้เสียระหว่างเธอกับเขามันดูเพี้ยนๆ เขาต้องการรับผิดชอบ ในขณะที่เธอยังไม่แน่ใจอะไรทั้งนั้น และยังไม่อยากตัดสินใจอะไรตอนนี้ ไม่ใช่ว่าไม่เสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น เธอเสียใจ แต่ที่มากกว่าความเสียใจคือ เธอกลัวครอบครัวรู้ กลัวพวกท่านจะผิดหวังในตัวเธอ แต่จะให้ร้องไห้คร่ำครวญจมอยู่ในห้วงทุกข์ตลอดเวลาก็ดูจะไม่ใช่ ไม่น่าทำ เธอโตมาในครอบครัวที่อบอุ่น มีภูมิคุ้มกันภาวะจิตใจและอาร
“ยังไม่หิวค่ะ” พลอยชมพูบอกเสียงเบา หญิงสาวไม่รู้จะทำตัวเช่นไร จึงได้แต่ยืนขัดเขินทั้งกังวลอยู่กลางห้อง รอให้เขาเริ่มพูดเรื่องนั้นขึ้นก่อน“กระติ๊บ”“คะ” คนถูกเรียกสะดุ้ง หันไปมองเจ้าของห้องที่นั่งอยู่ปลายเตียงของเขา“มานั่งตรงนี้ เราต้องคุยกัน” พบรักตบมือลงข้างๆที่ตัวเองนั่งอยู่“คุณพบพูดมาเลยค่ะ ยืนอยู่ตรงนี้ ติ๊บก็ได้ยิน”“ถ้าไม่มานั่งดีๆ ผมจะเดินไปอุ้ม”คำขู่ด้วยน้ำเสียงราบเรียบทำให้ใบหน้างามงอง้ำ พลอยชมพูพ่นลมหายใจออกมาพรืดใหญ่ ก่อนจะยอมเดินไปนั่งข้างเขา ซึ่งหญิงสาวทิ้งระยะห่างพองาม พบรักเองก็ไม่ได้คะยั้นคะยอให้เธอมานั่งชิดตัวติดกัน“กระติ๊บอยากให้ผมรับผิดชอบสิ่งที่เกิดขึ้นยังไง” พบรักเอ่ยถามตรงๆไม่อ้อมค้อม คนที่ต้องตอบคำถามอึ้งไปไม่เป็น รับผิดชอบอย่างไรงั้นหรือ แต่งงานคงไม่ใช่คำตอบที่ดีเท่าไรนัก เพราะหากชีวิตคู่ของเธอเริ่มต้นจากการเสียตัวเพราะความเมา มันก็คงจบไม่สวยเท่าไรหรอกมั้ง เธอกับเขายังรู้จักกันไม่ดีพอ ยังไม่มากพอที่จะใช้ชีวิตร่วมกัน“อย่าเพิ่งปฏิเสธความรับผิดชอบจากผม เราค่อยๆเรียนรู้กันไปก่อนได้ไหม”พลอยชมพูเ
เพลิงตะวันจับตามองน้องสาวตั้งแต่เธอเดินออกจากประตูบ้านมา กระทั่งเดินมานั่งที่เก้าอี้ซึ่งอยู่ในซุ้มไม้ที่เขากับภรรยานั่งอยู่ก่อนแล้ว“ช้า!” คนใจร้อนและหัวร้อนง่ายว่าน้อง แล้วมองอย่างจับพิรุธ“ติ๊บเป็นผู้หญิงนะพี่เพลิง จะให้วิ่งผ่านน้ำหรือไงเล่า มันก็ต้องให้เวลากันหน่อยสิคะ” พลอยชมพูว่าแล้วทำปากยื่นให้พี่ชาย“น้ำฝนไม่เห็นอาบนานเหมือนติ๊บเลย” คนข้องใจยังคงหาเรื่องจับผิดน้องต่อ“ที่อาบไม่นานเพราะพี่เพลิงเข้าไปอาบด้วยหรือเปล่าคะ อาบไม่นาน เพราะทำอย่างอื่นด้วย” ถึงเธอจะเพิ่งเสียพรหมจรรย์มาเมื่อคืนนี้เอง แต่ก็ใช่ว่าจะไม่รู้อะไรเลย เรื่องแบบนี้ถึงไม่อยากรู้แต่ก็ได้รู้ เพราะทั้งเพื่อนฝูงคุยกัน ทั้งหนังทั้งละครมีฉากแบบนี้ออกเยอะแยะ และพลอยชมพูก็ฉลาดพอที่จะดึงน้องสาวเข้ามาจัดการพี่เพลิง“พี่ติ๊บ!” หยาดพิรุณอุทานเรียกพี่สาวด้วยน้ำเสียงตกใจ แล้วหันไปมองสามีด้วยสายตาดุ เพราะเขานั่นแหละไปจุกจิกวุ่นวายถามจับผิดพี่สาวเธออยู่ได้ พี่ติ๊บเลยสวนหมัดกลับมา แต่แทนที่หมัดนี้จะโดนเขา กลับมาฮุกเข้าใต้ลิ้นปี่เธอเสียนี่“ตื่นสายโด่งขนาดนี้ พี่พบเขายังจ
หยาดพิรุณมองตามหลังสามีแล้วได้แต่ส่ายหน้า หญิงสาวหันมายิ้มให้พี่สาว แล้วเดินเข้าไปสวมกอดด้วยความคิดถึง “ขอโทษแทนพี่เพลิงด้วยนะคะพี่ติ๊บ พี่เพลิงเนี่ยไม่ค่อยเข้าใจคำว่าเกรงใจใครหรอกค่ะ นี่มันห้องส่วนตัวของพี่ติ๊บ ก็ยังดื้อรั้นจะเข้าไปอีก เดี๋ยวกลับถึงไร่ น้ำฝนจะจัดการให้นะคะ” “ขอบใจมากนะน้ำฝน ถ้าไม่ได้น้ำฝนพี่คงแย่” หยาดพิรุณคลายอ้อมกอด ผละออกมาจ้องมองหน้าพี่สาวอย่างแปลกใจ คิ้วเรียวขมวดมุ่นด้วยความสงสัย อดไม่ได้ที่จะชะเง้อคอมองเข้าไปในห้อง แย่อะไร...พี่ติ๊บมีอะไรซ่อนไว้ในห้อง คนที่เพิ่งรู้ตัวว่าเผลอพูดประโยคชวนสงสัยออกไปรีบขยับตัวบังสายตาน้อง “เอ่อ...น้ำฝนไปรอพี่ข้างล่างก่อนนะ พี่ขอเวลาอาบน้ำแต่งตัวแป๊บเดียว เดี๋ยวพี่ตามลงไปคุยด้วย” “ค่ะ” แม้จะสงสัยเพียงใด แต่หยาดพิรุณก็เคารพความเป็นส่วนตัวของพี่ เมื่อน้องสาวเดินลงบันไดไปแล้ว พลอยชมพูจึงรีบปิดประตู ลงกลอนแน่นหนา หญิงสาวพิงหลังกับบานประตู ถอนหายใจเฮือกใหญ่ ดวงตาที่มีแววกังวลม