LOGINไป๋หลินยังนั่งคร่อมอยู่บนตักเขา กลีบกลางที่เปียกชุ่มจนหยดไหลซึมลงมาตามโคนเอ็นร้อน กลืนเขาเข้าไปจนหมด ไม่มีเหลือแม้ปลาย ลึกพอให้ท้องน้อยของเธอตึงอัด ทุกครั้งที่ขยับ เสียงน้ำก็แตกดัง แจะะ… แจะะ… ราวกับร่างเธอกำลังขยี้กับน้ำเชื่อมหนืด
เขากัดฟันจนกรามขึ้นสัน มือใหญ่จับสะโพกเธอทั้งสองข้าง บังคับให้บดลงมาแรงและลึกยิ่งขึ้น
ทุกครั้งที่เขายกสะโพกรับจากด้านล่าง พรวด เข้าสุดลำ กลีบในของเธอก็ตอดรัดแน่นเหมือนจะกลืนและรีดเอาเลือดข้างในเขาออกให้หมดเธอเมาหนัก ดวงตาพร่าเยิ้มแต่ยังคงสติพอจะทรมานเขา ปล่อยให้เขาเกือบหลุดจากร่องเพียงครึ่ง แล้วกดสะโพกลงครอบใหม่ทั้งดุ้น
“อื๊อออ… มันเต็ม…แน่นเกินไป…เซวียนน..”เธอครางพร่าแต่แฝงรอยยิ้มที่รู้ว่ากำลังขยี้เส้นสติของเขาให้ขาด
แรงเสียดสีทำให้เสียงน้ำยิ่งดัง แจะะ แจะะ ปั่ก สลับกับเสียงหอบแรงจากเขา ความร้อนภายในเธอโอบรัดทุกส่วนของเขาจนรู้สึกได้ว่ากำลังดูดกลืนและบีบคั้นอย่างต่อเนื่อง ผนังร่องนุ่มลื่นตอดรัดรุนแรงยามที่เขาซอยสั้นถี่ รวดเหมือนคมดาบฟันลึกซ้ำแล้วซ้ำเล่า
เขาก้มลงขบยอดอกเธอ ดูดแรงจนเกิดเสียง จ๊วบ ลากลิ้นวนรอบหัวนมสีชมพูที่แข็งชูชัน แล้วกัดเบา ๆ ก่อนผละขึ้นมาจูบปาก ดูดกลืนเสียงครางทุกคำไม่ให้เล็ดลอดออกไปนอกตัวรถ
“ตอดข้าแรงอีก…ใช่…แบบนั้น”
เสียงเขาแหบต่ำแทบขาดหาย สะโพกเขากระแทกขึ้นจากเบาะ ปั่ก! ปั่ก! ปั่ก! จนตัวเธอกระเด้งและน้ำในตัวเธอสาดกระจายชุ่มต้นขาเขา
เธอเอนหัวไปด้านหลัง ปากอ้ารับแรงเสียวที่แล่นขึ้นสมอง ร่างเกร็งกระตุกแต่ก็ยังคร่อมและโอบเขาไว้แน่น กลีบในตอดรัดยาวเหมือนจะไม่ปล่อยเขาออกไปอีกเขากระชากเอวเธอลงมารับแรงดันสุดท้ายจนโคนเอ็นกระแทกกับเนินนุ่มด้านนอกของเธอ เสียงน้ำแตกดังลั่นในรถม้าปิดทึบ กลืนเขาจนมิด…แล้วตอดรัดถี่แรงขณะเธอปลดปล่อยแบบไร้การควบคุม
“อ๊าาาาาาาา…!” เสียงเธอหลุดสั่นสะท้าน
ขาของเธอสั่นจนแทบรับน้ำหนักตัวเองไม่ไหว เขายังซอยต่อแม้เธอจะเสร็จแล้ว น้ำไหลชุ่มลงมาจนไหลเป็นทางบนเบาะหยางเซวียนกระซิบข้างหูเธอ เสียงพร่าเหมือนจะกลืนวิญญาณ
เธอเอนตัวไปข้างหลังเล็กน้อย ปากครางพร่าพร้อมจังหวะร่างที่สั่นสะท้าน
“อือออ… ข้า…เสียว…เต็มไปหมด…” กลีบในตอดรัดรุนแรงขึ้นเหมือนกำลังเรียกร้องให้เขาปล่อยลึก ๆ เข้าไปเขาหอบแรง จังหวะซอยเริ่มถี่ขึ้น ปั่ก ปั่ก ปั่ก ปั่ก! มืออีกข้างเลื่อนขึ้นบีบอกเธอเต็มกำ ขณะสายตาแดงวาวมองใบหน้าหวานที่เมาไวน์จนปรือเยิ้ม
เขาก้มลงกระซิบเสียงพร่า
“อีกนิดเดียว…ข้าจะปล่อยให้เจ้ารับมันทั้งหมด”
เขายังคงกดสะโพกเธอไว้กับตัก ความร้อนในตัวเธอโอบรัดเขาจนทุกเส้นประสาทเหมือนกำลังถูกเผา
ไป๋หลินยกยิ้มเล็กที่มุมปาก รอยยิ้มของคนที่รู้ว่ากำลังคุมเกมอยู่ เธอเริ่มขยับเอวช้า ๆ แค่ให้ส่วนในนุ่มลื่นนั้นถูไปตามความยาวของเขาแบบเน้น ๆ แจะะ… แจะะ… เสียงน้ำชื้นดังทุกครั้งที่เธอเลื่อนขึ้น แล้วกดลงจนมิดอีกครั้ง
เขาหลับตากัดฟัน หายใจถี่ขึ้น หัวเข่าเกร็งจนเบาะม้าสั่น
“เจ้ารู้ตัวไหมว่ากำลังทำอะไร…” เขาพูดต่ำ แต่เสียงสั่นพร่าเต็มไปด้วยแรงอัดอั้น
เธอไม่ตอบ เพียงโน้มตัวมาขบเบา ๆ ที่ริมฝีปากเขา ก่อนยกสะโพกขึ้นครึ่งลำแล้วปล่อยลงสุดแรง ปั่ก! ผนังร้อนด้านในตอดรัดรุนแรงกว่าเดิม ราวกับกำลังบีบรีดให้เขาปล่อยในทันที
“อื๊อออ…แน่นจัง…”
เธอกระซิบพร้อมบดเอวเป็นวงช้า ๆ จนหัวเขาหมุน สายตาพร่าไปหมด ทุกแรงบดเหมือนกำลังรูดและบีบเขาจากด้านในอย่างตั้งใจ
เขาเริ่มหมดความอดทน มือที่กดสะโพกเธอแน่นเปลี่ยนเป็นยกบังคับให้เธอกระแทกลงเร็วขึ้น
ปั่ก! ปั่ก! ปั่ก! เสียงกระแทกกับเสียงน้ำชื้นฉ่ำดังสะท้อนทั่วห้องม้าปิดทึบ
ร่างเธอสั่นตามแรงดัน เขาเองก็รู้สึกถึงคลื่นร้อนที่กำลังไล่ขึ้นจากก้นสู่เอวอย่างรวดเร็ว
กลีบเธอตอดรัดรัวถี่ขึ้นเหมือนรู้ว่าเขาใกล้เต็มที เธอก้มลงเลียข้างคอเขาแล้วกระซิบเสียงพร่า
“ปล่อย…ข้ารับได้”
เขาเงยหน้าขึ้น ดวงตาแดงจัด ฟาดแรงสุดท้าย ปั่ก! จนร่างเธอแทบปลิวในอ้อมแขน
เสียงน้ำแตกดัง แจะะะ! พร้อมกับเขาใกล้จะปลดปล่อยลึกเข้าไปในท้องเธอ....แต่ทันใดนั้น
ตึก! ตึก! ตึก! เสียงฝีเท้าทหารดังชัดข้างรถม้า
“ใต้เท้าขอรับ! ขออภัยที่ต้องรบกวน! มีข่าวด่วน พบศพที่หน้าประตูเมืองทิศใต้! องค์รัชทายาทเสด็จ รอใต้เท้าเข้าไปสมทบ!”
แรงกระแทกหยุดกะทันหัน เขาจับสะโพกเธอค้างไว้ กลีบในยังตอดรัดเอ็นร้อนอยู่ถี่ยิบ เหงื่อเขาไหลซึมเต็มแผ่นหลัง ความปวดตึงจากความใกล้เสร็จยังคงเต้นเร่าในกาย
ไป๋หลินหอบแรง หน้าแดงจัดจากทั้งสุราและความเสียวที่ค้างอยู่กลางทาง ริมฝีปากยังสั่นเหมือนจะเอ่ยคำขอ แต่ไม่ทันได้พูด เขาก็ก้มแตะหน้าผากเธอ กระซิบต่ำอย่างที่มีเพียงเธอได้ยิน
“…คืนนี้เจ้าจะไม่รอดแน่ กลับไปที่เรือน รอข้า ข้าจะกลับไปจัดการเจ้าให้จบ”
เขาถอนออกช้า ๆ เสียงน้ำจากร่องเธอดัง แจะะ ตามลำ เธอกัดปากแน่น กะพริบตาช้าก่อนจะนั่งลงเบาะ ส่งยิ้มบาง เขากลืนน้ำลายอีกครั้ง ก่อนเปิดประตู กระโจนลงจากรถม้าทิ้งไว้เพียงเธอ… ทิ้งเธอไว้ทั้งที่ความชื้นฉ่ำยังร้อนวาบอยู่ระหว่างขา และกลีบในยังเต้นตอดเพราะสิ่งที่เกือบได้รับจนสุดเพราะฤทธิ์สุรา
ด้านนอกเขาเปลี่ยนสีหน้าในพริบตามือ พร้อมเรียกทหารลับสามนายดวงตาเขานิ่งสนิทอีกครั้ง พร้อมหายไปในเงามืด
เมื่อชีวิตจริงเริ่มต้น… และหัวใจยังคงจำเขาได้แม้ไม่มีเวทมนตร์หรือคำสาปใดหลงเหลืออยู่เสียงเครื่องวัดชีพจรดังติ๊ก… ติ๊ก… สม่ำเสมอ กลิ่นยาแผ่วจางในอากาศม่านสีฟ้าอ่อนข้างเตียงไหวเบาสายลมจากหน้าต่างบานเล็กพัดเข้ามา พร้อมเสียงใบไม้ไหวไกลๆหลี่เหยาลืมตาขึ้นอย่างช้าๆ เปลือกตาหนักอึ้ง แขนเธอ มีสายน้ำเกลือ ข้างเตียงวางมือถือของเธอที่ยังเปิดหน้าจอนิยายที่ขึ้นว่า THE ENDเธอกะพริบตาหลายครั้ง หอบลมหายใจ เหมือนตื่นจากฝันที่ยาวนานจนนับเวลาไม่ได้“เธอน็อคเพราะทำงานหนักเกินไปค่ะ หมอวินิจฉัยว่าอ่อนเพลียขั้นรุนแรง และร่างกายพักผ่อนผิดสมดุล” โชคดีที่เพื่อนของเธอส่งเธอมาโรงพยาบาลทันเสียงพยาบาลพูดกับใครบางคนหน้าห้อง เธอฟังอย่างเลื่อนลอยก่อนจะมีเสียงฝีเท้าใกล้เข้ามา และทันทีที่เขาเปิดม่านเตียงออก… เธอก็แทบลืมหายใจชายหนุ่มในชุดเสื้อกาวน์สีขา
ดวงตาเธอกระตุก มือที่เคยแน่น กำแน่นขึ้นอีกครั้ง เสียงพิณหยุด กลีบโบตั๋นที่ปลิวในฝันค้างกลางอากาศ และเสียงสุดท้าย แผ่วลงเหนือข้างหูเธอ ราวกับกล่าวจากใจถึงใจ“เจ้าชนะคำสาปแล้ว ลี่เหยา ได้เวลาตื่นจากนิยายเสียที”เปลือกตาเธอเปิดช้าช้า หินใต้แผ่นหลังเย็นเยียบ อากาศรอบตัวหนักแน่นจนเหมือนจะร้องไห้ออกมาได้เองเบื้องหน้าคือชายชุดนักพรต ผ้าคลุมสีหมอก เปื้อนโลหิตจาง มือเขายื่นมารองท้ายทอยเธอเบา ๆ“…โม่อวี้…” เสียงเธอแผ่ว “เจ้าจำชื่อลี่เหยาได้อย่างไร…”เขามองเธอ นิ่ง และตอบด้วยเสียงที่เต็มไปด้วยความจริง“ข้าจำเจ้า… ไม่ใช่เพราะเจ้าชื่ออะไร แต่เพราะ… ไม่ว่าเจ้าจะใช้ชื่อไหนเจ้าคือ ‘หญิงเดียว’ ที่ข้าเฝ้ามองจากโลกทุกใบ”แสงแห่งคำสาปจางลงเหมือนม่านหมอกเช้าตรู่ กลิ่นเลือด กลิ่นกลีบบุปผา และเสียงสายพิณที่เงียบลงไปแล้ว คงอยู่เพียงในห้วงใจไป๋หลินทรุดลงบนเข่าข้างหนึ่ง
ทุกอย่างคือความเงียบขาว ขาวจนเจ็บตาขาวจนเหมือนกลืนเธอเข้าไปทั้งร่าง ขาวจนไม่มีแม้คำว่า “ฉัน” หรือ “เธอ” หลงเหลือไป๋หลิน ไม่รู้ว่าตัวเองอยู่ที่ไหนไม่รู้ว่าตัวเองหลับหรือตื่นร่างเธอล่องลอยอยู่กลางความนิ่ง เหมือนถูกปลดปล่อย…แต่หัวใจกลับยังแน่น แน่นจนเจ็บเธอพยายามขยับ แต่แขนไม่มี ขาไม่มีมีเพียง “ความรู้สึก” ว่าเธอขาดบางสิ่งที่สำคัญมากและในความว่างนั้น เธอเริ่มร้องไห้ ไม่มีเสียง ไม่มีน้ำตา แค่ความเจ็บที่ปริแตกจากกลางอกกระจายช้า ๆ เหมือนลมหนาว“ข้า… อยู่คนเดียวหรือ?”เสียงเธอไม่ดังแม้ในใจตนเอง และเมื่อคำถามนั้นดังขึ้น ลมหายใจรอบกายเปลี่ยนไปเหมือนอากาศสูดกลับเหมือนโลกจำเธอได้อีกครั้งแสงแดดยามบ่ายส่องลอดม่านไม้ไผ่ในเรือนชา กลิ่นขนมงาปิ้งอุ่นลอยมาจากเตา ต้นโบตั๋นริมหน้าต่างเพิ่งผลิบาน...แต่เสียงพิณที่ดังอยู่ใต้ต้นไม้นั้น กลับขับกล่อมอะไรบางอย่าง ที่บาดลึกกว่ากลีบดอกไม้ เสียงสายดีดช้า เนิบนุ่ม แล้วจบลงอย่างเงียบงันหญิงสาวที่นั่งเงียบอยู่ใต้ศาลาริมน้ำ ยกชาขึ้นจิบช้า
เขาถอนกายออกอย่างรวดเร็ว ปลายลำยังแข็งโด่ เต้นตุบ ๆ เหมือนปีศาจที่หิวไม่หยุด เขารวบสะโพกเธอไว้ กระชากร่างเธอขึ้นจากพื้นแล้วพลิกให้นอนคว่ำ หน้ากดลงกับพรมเธอครางแผ่ว “มะ…ไม่ไหวแล้ว…ได้โปรด…ข้า…”“ไม่ต้องขอ ข้าจะ เอาเจ้าให้ขาด” เสียงเขาแหบพร่าเต็มไปด้วยปราณแตกซ่าน มือเขาจับสะโพกกลมกลึงไว้แน่น แล้ว อัดแก่นกายเข้าด้านหลัง อย่างแรงไม่มีหยั่ง!ตั่กกก!!“อ๊าาาาาาาาาาาาา!!”ร่างเธอกระตุกเหมือนถูกไฟฟ้าช็อต หัวจิกพื้น ผ้าห่มขาดติดเล็บ แขนสั่นเทา น้ำตาไหลพราก แต่ปากยังครางซ้ำไม่หยุดปั่ก! ปั่ก! ปั่ก!เสียงเอวเขากระแทกกับสะโพกเธอดังจนเทียนล้มไปอีกเล่ม เนื้อในเธอ ตอดรัดหนักจนแก่นเขาสั่น ฮั่นซูกัดฟันกรอด ปลายมือสั่นแทบหลุดสติ เขาตบก้นเธอเต็มแรงซ้ายขวา“ข้า…จะ…แตกแล้ว…”เขาโน้มตัวลง คร่อมบนแผ่นหลังเธอ ลมหายใจร้อนกรุ่นบนต้นคอ มือข้างหนึ่งยกขาเธอขึ้นสูงกว่าเดิมจนเปิดทางให้เขาเสียบลึกขึ้
หลังพิธี…ที่ควรจบลง แต่เขาไม่ยอมให้จบ สามีคนที่ 6 ของนางเอก…และราตรีที่ลมหายใจยังไม่ทันจางร่างของเธอยังคร่อมอยู่บนตักเขาเรียวขาเกร็งเบา ๆ ต้นขาแนบชิดสะโพกเขาอย่างลืมตัว ลมหายใจยังถี่ เหงื่อยังซึมหลัง แผ่นอกยังแนบอกเขาแน่นจนได้ยินเสียงหัวใจซ้อนกันเมื่อครู่…หัวใจเธอล่องอยู่ในอดีต เสียงกระซิบครางพร่าในฝัน เสียงที่บอกชื่อเขา"ฮั่นซู" ยังลอยในหู มือที่เคยแตะเธอในความมืด สะโพกที่เคยกระแทกเธอทุกค่ำคืน กลิ่นกายของเขา ลมหายใจของเขา…ทุกอย่างกลับมาทั้งหมด…และเมื่อเธอลืมตาขึ้นอีกครั้ง เขาก็ยังอยู่ตรงนี้ฮั่นซูยังนั่งอยู่ใต้เธอ มือใหญ่ประคองเอวเธอไว้ ลำกายเขายังอยู่ในตัวเธอ แข็ง ร้อน จนรู้สึกชัดทุกการเต้น และสายตาเขา…ไม่ได้เปลี่ยนไปเลย"เจ้า…" เขากระซิบพร่า "ยังแน่นเหมือนทุกคืนที่ผ่านมา…หลัน"มือเล็กกำไหล่เขาแน่นกว่าเดิม กายยังสั่น…แต่ไม่ใช่เพราะความกลัวเธอรู้แล้ว นี่ไม่ใช่ความฝันอีกต่อไป และราตรีนี้…ยังไม่จบเลยด้วยซ้ำเธอยังคร่อมตักเขาอย
ในฝัน เขารวบขานางขึ้นพาดเอวแล้วกระแทกเข้ามาแรงขึ้น ตับ! ตับ! เสียงเขาดังชิดข้างหู“ข้าจะให้เจ้าจำร่างกายข้าได้…แม้แต่ในฝัน”เขาขยับเอวแรง ความร้อนพุ่งขึ้นสันหลัง มือเธอจิกบ่าเขาไว้เขากระซิบ เสียงแหบต่ำ ริมฝีปากกดลงข้างหูเรียกชื่อข้า “…ฮั่นซู…” เธอหอบ มือสั่นเขากดสะโพกเข้ามา ช้า ลึก แน่น เธอร้องออกมา เสียงดังกว่าทุกครั้ง ไม่ใช่เพราะเจ็บ แต่เพราะครั้งนี้—เธอ รู้ว่าใครกำลังครอบครองเธอสะโพกเขาขยับ แต่ไม่รีบร้อน เขาจูบนางทุกแห่ง หน้าอก ข้อมือ เอว แผ่นท้อง กลางอกมือเขาทาบหน้าเธอขณะกระแทกเข้า ดวงตาเธอจ้องเขาแน่น ไม่มีฝัน ไม่มีคาถามีแค่ นางกับเขา กับความจริงที่ทุกสัมผัสย้ำซ้ำให้ตลอดหกคืนร่างเปลือยเปล่าของเธอสั่นระริก ร่องรอย การครอบครองยังอ่อนแดงบนต้นขาแต่ภายใน...ยังคงมี บางสิ่งที่กัดกินอยู่ฮั่นซูนั่งลงข้างนาง ลมหายใจเขาเริ่มเร่ง แต่ไม่ใช่เพราะราคะอีกต่อไป คือแรงปราณที่กำลังลุกวาบจากจุดชีพจรทั้งเจ็ดมือข้างหนึ่งของเขายกขึ้น นิ้วแตะกลางอกเธออีกมือแนบหน้าท้องแ







