Home / รักโบราณ / นิยายเรื่องนี้ข้ามีสามีถึง 7 คน / บทที่ 10 จังหวะหัวใจที่เริ่มเปลี่ยน โดยไม่มีใครพูดคำว่า "รัก"

Share

บทที่ 10 จังหวะหัวใจที่เริ่มเปลี่ยน โดยไม่มีใครพูดคำว่า "รัก"

ค่ำคืนนั้น พระราชวังว่างเปล่า แสงเทียนในโถงหอวินิจฉัยดับไปทีละเล่มแต่ภายในห้องประชุมลับใต้ตำหนักตะวันตกไฟ ยังสว่าง เขายืนเงียบอยู่หัวโต๊ะเสื้อคลุมถูกถอด เหลือเพียงเสื้อบางที่เปื้อนคราบหมึกกับเลือดใบหน้าเขานิ่งสนิท บนโต๊ะไม้ดำกลางห้องแผนที่แคว้นถูกกางออกเต็มผืน หมุดทอง หมุดแดงปักไว้ตามจุดยุทธศาสตร์ จุดสำคัญใต้จุดหนึ่งมีชื่อคนตาย… ชื่อที่ถูกพบเป็นศพถูกเชือดลิ้นทิ้งไว้ใต้ประตูเมือง

ทว่าที่ใต้จุดหนึ่ง...มีชื่อของ “ผู้ตาย” ถูกเขียนด้วยหมึกดำแห้งกรัง ชายผู้นั้นถูกพบเป็นศพใต้ประตูเมือง ลิ้นถูกเชือด ดวงตาถูกควัก และข้างศพมีเพียงเศษกระดาษเขียนคำว่า “ห้ามสอดรู้”

ดวงตาของเขา...สงบนิ่งเหมือนหินแกะในวัดร้าง แต่นัยน์ตาคู่นั้นเยือกเย็นพอจะฆ่าคนให้ตายทั้งยืน

“สำนักสายลับหอชิงหลี่ที่ตายไปเป็นคนของข้า” เสียงเขากระทบผนังหินแข็งราวกับคำพิพากษาก่อนตาย พวกมันเข้าแฝงตัวในราชสำนัก แต่คนของเราจัดการมันก่อนจะส่งข่าวสำคัญ”

ขุนนางเงาด้านข้างทั้งสาม ต่างสะดุ้ง ลมหายใจสะท้อนพร้อมกัน ใต้ผ้าคลุมสีดำต่างหันมามองกันอย่างลังเลก่อนจะมีเสียงหนึ่งกระซิบ...เบา แต่คม

“ใต้เท้า...นั่นหมายถึง ‘องค์ชายเฉิง’ ใช่หรือไม่?”

เขายังไม่ตอบ แต่สายตาของเขา เลื่อนไปยังหมุดทอง ที่ปักตรงเขตวังองค์ชายมือเขาแตะหมุดนั้นเบาๆ ก่อนจะเอ่ยเรียบเย็น

“เขา...คือผู้อยู่เบื้องหลัง” เป็นผู้ให้ที่พักพิงกับเหล่าเสนา ผู้ไม่พอใจอำนาจขององค์จักรพรรดิ”

เขาหยิบจอกสุราขึ้นมา แต่แทนที่จะดื่ม เขากลับเทลงบนแผนที่ตรงจุดของศัตรู สุรารดลงแผ่นกระดาษ…ตามด้วยหมึกดำ ที่เขาป้าย แผนที่เปื้อนเละ… “เละเหมือนความศรัทธาที่ถูกทรยศ”

เขาแสยะยิ้มอย่างเยียบเย็น “ข้าจะให้พวกมันรู้...ว่าข้าเห็นทุกการเคลื่อนไหว” “และข้าไม่รอให้มันโค่นบัลลังก์ก่อนหรอก… ข้าจะชิงลงดาบก่อน”

ทันใดนั้น เขาเดินไปยังผนังหินด้านหนึ่ง มือกดกระเบื้องแผ่นลับ เสียงกลไก ขยับกำแพงเปิดออก เผยห้องลับอีกชั้นหนึ่ง เต็มไปด้วยม้วนบันทึก รายชื่อขุนนาง บ่าว พ่อค้าและ…ชื่อของพวกที่คิดหักหลังราชวงศ์

เขาหยิบม้วนรายชื่อขึ้นมากวาดตามองราวกับตัดสินความผิดด้วยแววตาเพียงครั้งเดียวนิ้วเขาหยุดที่ชื่อหนึ่ง “ไป๋หลิน”

เสียงรายงานแผ่วเบา แต่ทุกถ้อยคำคล้ายคมเข็มแทงผ่านกระแสอากาศในห้องโถง ไม่มีใครในราชสำนักรู้ว่านางคือหลานสาวเพียงคนเดียวของแม่ทัพแคว้นเหนือ ความเงียบพลันปกคลุมทุกหัวใจ แววลังเลวูบผ่านดวงตาเขาเพียงเสี้ยววินาทีเดียว ก่อนจะถูกกลบด้วยเพลิงแห่งความแข็งกร้าวและความเงียบงันที่อัดแน่น

หญิงผู้นั้น...อยู่ในจวนของเขา บุตรสาวของอัครเสนาบดีฝ่ายซ้ายภรรยาที่เขาถูกบังคับให้แต่งด้วยเหตุผลทางการเมือง แต่ในห้วงเวลาที่ไม่อาจอธิบายได้ หัวใจของเขากลับเริ่มตกหลุมรักนางโดยไม่รู้ตัว...

แต่หยางเซวียนไม่เคยปล่อยให้ความรู้สึกมาบดบังแผนการ “ฆ่าพวกปลายแถวก่อน...ดึงสายหายใจของพวกมันออกทีละเส้น” เสียงชักดาบดังสะท้อนในห้องลับปลายดาบเย็นจัดจน ไอน้ำขึ้นข้างใบมีด...และแววตาเขาเต็มไปด้วยเพลิงของคน ที่พร้อม ‘ลงมือก่อนถูกหักหลัง’

แสงเช้าอบอุ่นรอดม่านบางเข้ามาแม้เรือนของเขา จะกว้างขวาง แข็งเรียบด้วยเสาหินและพื้นไม้แต่ห้องพักของเธอ… กลับมีเพียงกลิ่นดอกไม้กับแจกันใบเล็กที่เธอจัดเองในทุกเช้า

ไป๋หลินนั่งอยู่ข้างหน้าต่างผ้าคลุมบางคลุมไหล่ ผมถูกรวบหลวมเธอจิบชาช้า ๆ ขณะทอดสายตาลงสู่แปลงดินที่เธอปลูกไว้ริมลานซุ้มองุ่นเริ่มมีเถาอ่อนสีเขียว ต้นดอกไม้ที่ไม่รู้จักชื่อเริ่มออกกลีบบาง ๆ

มันเป็นเช้าที่เงียบ…แต่ไม่เหงา

ในมือของเธอคือจดหมายสั้นฉบับหนึ่งจากเขาเมื่อคืน หมึกจางเลือนเล็กน้อยตามเวลา แต่ลายมือของเขายังคงเรียบตรง สงบนิ่งดั่งจิตที่ฝึกฝน กระนั้น...จังหวะปลายอักษรกลับสั่นไหวเล็กน้อย ราวกับรีบร้อน ราวกับคนที่ห่วงใยใครบางคน มากกว่า ที่ห่วงคมดาบในมือของตนเอง

"เจ้าควรพัก ไม่ต้องรอ"

เขียนแค่นั้นแต่ไป๋หลินกลับอ่านข้อความสั้นๆ นี้หลายรอบ และเธอรู้สึกว่า มีบางอย่างในอกเธอ "เปลี่ยน"

เมื่อเขากลับมา… ยามสายเสียงฝีเท้าของเขายัง คงหนักแน่นทุกย่างก้าว ทว่าเดินช้าลงอย่างผิดสังเกต ใบหน้าของหยางเซวียนซีดจางเล็กน้อยจากการไม่ได้นอนตลอดคืนใต้ตาคล้ำบาง ๆ อย่างไม่อาจปิดบังได้ แม้จะแสร้งทำเป็นสงบนิ่งมือที่เคยจับดาบไม่เคยปล่อย วันนี้กลับแนบแน่นอยู่กับถุงสมุนไพรจากหอโอสถหอม กลิ่นจาง ๆ ของซานจา เฉินผี และเปลือกหวงเหลียน ลอยแทรกอยู่ในอากาศ เขาเดินผ่านเรือนโดยไม่พูดตรงเข้าห้องเธอเปิดประตูช้า ๆ แล้วพบเธอกำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้ยาวข้างกายมีชาสมุนไพรอุ่น ๆ “เจ้าตื่นแล้ว…” เขาพูดเสียงเบาเธอหันมาเล็กน้อย ยิ้มมุมปากอย่างขี้เกียจ

“ข้ารอท่านอยู่ตั้งแต่พระอาทิตย์ยังไม่ขึ้น”

เขาวางถุงสมุนไพรลงบนโต๊ะหยิบขึ้นมาห่อหนึ่ง แล้วนั่งลงตรงข้ามเธอ

“ดื่มชานี่แทน มันช่วยเรื่องกระเพาะเจ้า”

เธอเลิกคิ้ว หยิบซองสมุนไพรขึ้นดู

"ท่านไปสืบคดี ทรมานคน… แล้วยังมีเวลาคิดเรื่องกระเพาะของข้า?"

เขาเงยหน้าขึ้น ดวงตายังเย็น แต่มีบางอย่างสั่นอยู่ในนั้น

“…เจ้าจะต้องอยู่ในเรือนนี้อีกนาน ข้าไม่อยากให้เจ้าทรมาน”

“แม้ฟังดูเป็นคำสั่ง... แต่น้ำเสียงนั้นเต็มไปด้วยความห่วงใยแบบเงียบงัน ความรู้สึกของคนที่ไม่เก่งคำพูด จึงเลือกใช้ความแข็งกร้าวแทนความอ่อนโยน”

เธอหัวเราะเบา ๆ แล้วลุกขึ้น เดินไปหยุดตรงหน้าเขา

เขาเงยหน้าขึ้นอีกครั้งแต่ไม่ทันจะพูดอะไร เธอกลับยื่นมือออกมา ขอมือเจ้ามา "ข้าเห็นรอยเลือดตรงข้อนิ้ว" เขาชะงักเล็กน้อย ก่อนจะยอมยื่นมือออกไป นิ้วเรียวยาวของเธอรับมือเขาไว้เบา ๆ อย่างไม่เร่งเร้า น้ำชาที่อุ่นกำลังดี… 

จากนั้นผ้าเช็ดหน้า ถูกหยิบขึ้นมาซับเบา ๆ ถูรอยแผลอย่างประณีตบาดแผลไม่ลึก ไม่มีเลือด ไม่มีความเจ็บให้ต้องกัดฟัน แต่เขากลับนิ่งเงียบ ไม่ใช่เพราะเจ็บหากเพราะไม่คุ้นกับสัมผัสแบบนี้ สัมผัสที่อ่อนโยน เงียบไม่มีไฟ ไม่เร่งเร้าแต่กลับอบอุ่น…อบอุ่นกว่า ทุกอย่างที่เขาเคยจับต้อง เขาเอ่ยเสียงเบาราวกับกลัวจะทำลายความเงียบที่สวยงามเกินจะหาคำมาแทน

“…คืนนี้ ข้าจะไม่ประชุม”

“อืม?” เธอเงยหน้าขึ้น

“…ข้าจะอยู่ในจวน กินข้าวกับเจ้า”

คำพูดนั้นทำให้เธอยิ้มบาง ๆ หัวใจเธอเต้นแปลก ๆ โดยไม่มีเหตุผล ทั้งคู่ไม่เคยเอ่ยคำว่า “รัก” ไม่จับมือแน่น ไม่ได้จุมพิต แต่ในความเงียบของแสงรุ่งเช้า พวกเขาต่างเริ่มตกหลุมรักกันในแบบของตัวเอง โดยไม่รู้ตัว และไม่อาจหยุดยั้งหัวใจได้

กลิ่นอาหารยามสาย… และหญิงสาวที่เริ่มดูแลชายคนหนึ่งด้วยใจ ไม่ใช่หน้าที่….

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • นิยายเรื่องนี้ข้ามีสามีถึง 7 คน   บทที่ 56 ฝันสุดท้ายของหัวใจ (THE END)

    เมื่อชีวิตจริงเริ่มต้น… และหัวใจยังคงจำเขาได้แม้ไม่มีเวทมนตร์หรือคำสาปใดหลงเหลืออยู่เสียงเครื่องวัดชีพจรดังติ๊ก… ติ๊ก… สม่ำเสมอ กลิ่นยาแผ่วจางในอากาศม่านสีฟ้าอ่อนข้างเตียงไหวเบาสายลมจากหน้าต่างบานเล็กพัดเข้ามา พร้อมเสียงใบไม้ไหวไกลๆหลี่เหยาลืมตาขึ้นอย่างช้าๆ เปลือกตาหนักอึ้ง แขนเธอ มีสายน้ำเกลือ ข้างเตียงวางมือถือของเธอที่ยังเปิดหน้าจอนิยายที่ขึ้นว่า THE ENDเธอกะพริบตาหลายครั้ง หอบลมหายใจ เหมือนตื่นจากฝันที่ยาวนานจนนับเวลาไม่ได้“เธอน็อคเพราะทำงานหนักเกินไปค่ะ หมอวินิจฉัยว่าอ่อนเพลียขั้นรุนแรง และร่างกายพักผ่อนผิดสมดุล” โชคดีที่เพื่อนของเธอส่งเธอมาโรงพยาบาลทันเสียงพยาบาลพูดกับใครบางคนหน้าห้อง เธอฟังอย่างเลื่อนลอยก่อนจะมีเสียงฝีเท้าใกล้เข้ามา และทันทีที่เขาเปิดม่านเตียงออก… เธอก็แทบลืมหายใจชายหนุ่มในชุดเสื้อกาวน์สีขา

  • นิยายเรื่องนี้ข้ามีสามีถึง 7 คน   บทที่ 55 เสียงพิณสุดท้ายใต้เงาดอกเหมย

    ดวงตาเธอกระตุก มือที่เคยแน่น กำแน่นขึ้นอีกครั้ง เสียงพิณหยุด กลีบโบตั๋นที่ปลิวในฝันค้างกลางอากาศ และเสียงสุดท้าย แผ่วลงเหนือข้างหูเธอ ราวกับกล่าวจากใจถึงใจ“เจ้าชนะคำสาปแล้ว ลี่เหยา ได้เวลาตื่นจากนิยายเสียที”เปลือกตาเธอเปิดช้าช้า หินใต้แผ่นหลังเย็นเยียบ อากาศรอบตัวหนักแน่นจนเหมือนจะร้องไห้ออกมาได้เองเบื้องหน้าคือชายชุดนักพรต ผ้าคลุมสีหมอก เปื้อนโลหิตจาง มือเขายื่นมารองท้ายทอยเธอเบา ๆ“…โม่อวี้…” เสียงเธอแผ่ว “เจ้าจำชื่อลี่เหยาได้อย่างไร…”เขามองเธอ นิ่ง และตอบด้วยเสียงที่เต็มไปด้วยความจริง“ข้าจำเจ้า… ไม่ใช่เพราะเจ้าชื่ออะไร แต่เพราะ… ไม่ว่าเจ้าจะใช้ชื่อไหนเจ้าคือ ‘หญิงเดียว’ ที่ข้าเฝ้ามองจากโลกทุกใบ”แสงแห่งคำสาปจางลงเหมือนม่านหมอกเช้าตรู่ กลิ่นเลือด กลิ่นกลีบบุปผา และเสียงสายพิณที่เงียบลงไปแล้ว คงอยู่เพียงในห้วงใจไป๋หลินทรุดลงบนเข่าข้างหนึ่ง

  • นิยายเรื่องนี้ข้ามีสามีถึง 7 คน   บทที่ 54 บทที่ไม่เคยถูกเขียน และเสียงพิณ… ที่ไม่เคยเงียบ

    ทุกอย่างคือความเงียบขาว ขาวจนเจ็บตาขาวจนเหมือนกลืนเธอเข้าไปทั้งร่าง ขาวจนไม่มีแม้คำว่า “ฉัน” หรือ “เธอ” หลงเหลือไป๋หลิน ไม่รู้ว่าตัวเองอยู่ที่ไหนไม่รู้ว่าตัวเองหลับหรือตื่นร่างเธอล่องลอยอยู่กลางความนิ่ง เหมือนถูกปลดปล่อย…แต่หัวใจกลับยังแน่น แน่นจนเจ็บเธอพยายามขยับ แต่แขนไม่มี ขาไม่มีมีเพียง “ความรู้สึก” ว่าเธอขาดบางสิ่งที่สำคัญมากและในความว่างนั้น เธอเริ่มร้องไห้ ไม่มีเสียง ไม่มีน้ำตา แค่ความเจ็บที่ปริแตกจากกลางอกกระจายช้า ๆ เหมือนลมหนาว“ข้า… อยู่คนเดียวหรือ?”เสียงเธอไม่ดังแม้ในใจตนเอง และเมื่อคำถามนั้นดังขึ้น ลมหายใจรอบกายเปลี่ยนไปเหมือนอากาศสูดกลับเหมือนโลกจำเธอได้อีกครั้งแสงแดดยามบ่ายส่องลอดม่านไม้ไผ่ในเรือนชา กลิ่นขนมงาปิ้งอุ่นลอยมาจากเตา ต้นโบตั๋นริมหน้าต่างเพิ่งผลิบาน...แต่เสียงพิณที่ดังอยู่ใต้ต้นไม้นั้น กลับขับกล่อมอะไรบางอย่าง ที่บาดลึกกว่ากลีบดอกไม้ เสียงสายดีดช้า เนิบนุ่ม แล้วจบลงอย่างเงียบงันหญิงสาวที่นั่งเงียบอยู่ใต้ศาลาริมน้ำ ยกชาขึ้นจิบช้า

  • นิยายเรื่องนี้ข้ามีสามีถึง 7 คน   บทที่ 53 ข้าขอโทษ…แต่ข้าอดไม่ได้อีกแล้ว…

    เขาถอนกายออกอย่างรวดเร็ว ปลายลำยังแข็งโด่ เต้นตุบ ๆ เหมือนปีศาจที่หิวไม่หยุด เขารวบสะโพกเธอไว้ กระชากร่างเธอขึ้นจากพื้นแล้วพลิกให้นอนคว่ำ หน้ากดลงกับพรมเธอครางแผ่ว “มะ…ไม่ไหวแล้ว…ได้โปรด…ข้า…”“ไม่ต้องขอ ข้าจะ เอาเจ้าให้ขาด” เสียงเขาแหบพร่าเต็มไปด้วยปราณแตกซ่าน มือเขาจับสะโพกกลมกลึงไว้แน่น แล้ว อัดแก่นกายเข้าด้านหลัง อย่างแรงไม่มีหยั่ง!ตั่กกก!!“อ๊าาาาาาาาาาาาา!!”ร่างเธอกระตุกเหมือนถูกไฟฟ้าช็อต หัวจิกพื้น ผ้าห่มขาดติดเล็บ แขนสั่นเทา น้ำตาไหลพราก แต่ปากยังครางซ้ำไม่หยุดปั่ก! ปั่ก! ปั่ก!เสียงเอวเขากระแทกกับสะโพกเธอดังจนเทียนล้มไปอีกเล่ม เนื้อในเธอ ตอดรัดหนักจนแก่นเขาสั่น ฮั่นซูกัดฟันกรอด ปลายมือสั่นแทบหลุดสติ เขาตบก้นเธอเต็มแรงซ้ายขวา“ข้า…จะ…แตกแล้ว…”เขาโน้มตัวลง คร่อมบนแผ่นหลังเธอ ลมหายใจร้อนกรุ่นบนต้นคอ มือข้างหนึ่งยกขาเธอขึ้นสูงกว่าเดิมจนเปิดทางให้เขาเสียบลึกขึ้

  • นิยายเรื่องนี้ข้ามีสามีถึง 7 คน   บทที่ 52 หลังพิธี…ที่ควรจบลง แต่เขาไม่ยอมให้จบ

    หลังพิธี…ที่ควรจบลง แต่เขาไม่ยอมให้จบ สามีคนที่ 6 ของนางเอก…และราตรีที่ลมหายใจยังไม่ทันจางร่างของเธอยังคร่อมอยู่บนตักเขาเรียวขาเกร็งเบา ๆ ต้นขาแนบชิดสะโพกเขาอย่างลืมตัว ลมหายใจยังถี่ เหงื่อยังซึมหลัง แผ่นอกยังแนบอกเขาแน่นจนได้ยินเสียงหัวใจซ้อนกันเมื่อครู่…หัวใจเธอล่องอยู่ในอดีต เสียงกระซิบครางพร่าในฝัน เสียงที่บอกชื่อเขา"ฮั่นซู" ยังลอยในหู มือที่เคยแตะเธอในความมืด สะโพกที่เคยกระแทกเธอทุกค่ำคืน กลิ่นกายของเขา ลมหายใจของเขา…ทุกอย่างกลับมาทั้งหมด…และเมื่อเธอลืมตาขึ้นอีกครั้ง เขาก็ยังอยู่ตรงนี้ฮั่นซูยังนั่งอยู่ใต้เธอ มือใหญ่ประคองเอวเธอไว้ ลำกายเขายังอยู่ในตัวเธอ แข็ง ร้อน จนรู้สึกชัดทุกการเต้น และสายตาเขา…ไม่ได้เปลี่ยนไปเลย"เจ้า…" เขากระซิบพร่า "ยังแน่นเหมือนทุกคืนที่ผ่านมา…หลัน"มือเล็กกำไหล่เขาแน่นกว่าเดิม กายยังสั่น…แต่ไม่ใช่เพราะความกลัวเธอรู้แล้ว นี่ไม่ใช่ความฝันอีกต่อไป และราตรีนี้…ยังไม่จบเลยด้วยซ้ำเธอยังคร่อมตักเขาอย

  • นิยายเรื่องนี้ข้ามีสามีถึง 7 คน   บทที่ 51 ข้าจะให้เจ้าจำร่างกายข้าได้…แม้แต่ในฝัน

    ในฝัน เขารวบขานางขึ้นพาดเอวแล้วกระแทกเข้ามาแรงขึ้น ตับ! ตับ! เสียงเขาดังชิดข้างหู“ข้าจะให้เจ้าจำร่างกายข้าได้…แม้แต่ในฝัน”เขาขยับเอวแรง ความร้อนพุ่งขึ้นสันหลัง มือเธอจิกบ่าเขาไว้เขากระซิบ เสียงแหบต่ำ ริมฝีปากกดลงข้างหูเรียกชื่อข้า “…ฮั่นซู…” เธอหอบ มือสั่นเขากดสะโพกเข้ามา ช้า ลึก แน่น เธอร้องออกมา เสียงดังกว่าทุกครั้ง ไม่ใช่เพราะเจ็บ แต่เพราะครั้งนี้—เธอ รู้ว่าใครกำลังครอบครองเธอสะโพกเขาขยับ แต่ไม่รีบร้อน เขาจูบนางทุกแห่ง หน้าอก ข้อมือ เอว แผ่นท้อง กลางอกมือเขาทาบหน้าเธอขณะกระแทกเข้า ดวงตาเธอจ้องเขาแน่น ไม่มีฝัน ไม่มีคาถามีแค่ นางกับเขา กับความจริงที่ทุกสัมผัสย้ำซ้ำให้ตลอดหกคืนร่างเปลือยเปล่าของเธอสั่นระริก ร่องรอย การครอบครองยังอ่อนแดงบนต้นขาแต่ภายใน...ยังคงมี บางสิ่งที่กัดกินอยู่ฮั่นซูนั่งลงข้างนาง ลมหายใจเขาเริ่มเร่ง แต่ไม่ใช่เพราะราคะอีกต่อไป คือแรงปราณที่กำลังลุกวาบจากจุดชีพจรทั้งเจ็ดมือข้างหนึ่งของเขายกขึ้น นิ้วแตะกลางอกเธออีกมือแนบหน้าท้องแ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status