Share

๑ จุดเริ่มต้นของจุดจบ

last update Huling Na-update: 2025-05-27 03:22:07

จื่อหนิงรู้สึกเหมือนสติของนางดับวูบไปเพียงชั่วครู่ก่อนจะค่อยๆ ฟื้นคืนสติขึ้นมา แต่ทันทีที่ลืมตาเสียงหวีดร้องโวยวายก็ดังแสบแก้วหูจนทำให้เธอต้องขมวดคิ้วแน่น

มิหนำยังสายตายังพร่ามัวจนต้องกระพริบตาถี่พยายามปรับโฟกัสให้ชัดขึ้น

นี่มันเกิดอะไรขึ้น!?

เธอปวดหัวไม่น้อยจนใบหน้าคนงามบิดเบี้ยวด้วยความเจ็บ พยายามเพ่งมองตรงหน้าอย่างยากลำบาก

ฟึ่บ!

“เจ้าสมควรตายไปตั้งแต่ตอนนั้นแล้วเฝิงอวี่เซี่ยน”

น้ำเสียงเย็นชาดังก้องในโสตประสาท เฝิงอวี่เซี่ยนกัดฟันกรอดด้วยความโกรธ นัยน์ตาคมกริบจ้องอีกฝ่ายอย่างแข็งกร้าว อาภรณ์ค่อยๆ เปียกชุ่มไปด้วยเลือด “เจ้าคนทรยศ!”

กลิ่นคาวเลือดลอยคละคลุ้งไปทั่วอากาศ ความเจ็บปวดแผ่ซ่านไปทั่วร่าง เมื่อปลายมีดแหลมคมแทงทะลุผ่านอาภรณ์เข้ามา เฝิงอวี่เซี่ยนแทบกระอักเลือดออกมาทันทีที่คนผู้นั้นออกแรงกดขยี้บาดแผลซ้ำลงไปอย่างไร้ปรานี

“เหอะ! สภาพเช่นนี้คิดว่าจะทำอันใดข้าได้”

ฟึ่บ!

สวบบ!!

เสียงคมดาบถูกชักออกก่อนที่เฉิงอี้หยางจะแทงกลับเข้าไปใหม่อีกครั้ง ครานี้บาดแผลลึกทะลุผ่านไปจนเกือบถึงหัวใจ มุมปากหนาโค้งเหยียดยิ้มร้าย

เฝิงอวี่เซี่ยนกระตุกเฮือก ความเจ็บปวดแผ่ซ่านไปทั้งร่าง ดวงตาที่เคยแข็งกร้าวยามนี้กลับสั่นไหว

อึก!

“อักกก!..” เฝิงอวี่เซี่ยนกระอักเลือดออกมาอีกครั้ง

บางทีนี่อาจเป็นจุดจบของชีวิตเขาแล้วก็ได้...ที่ผ่านมาเขาใช้ชีวิตอย่างเห็นแก่ตัวมานานเกินไป

ภาพร่างไร้วิญญาณของผู้คนในจวนสกุลเฝิงยังคงติดตรึงอยู่ในความทรงจำของเฝิงอวี่เซี่ยนไม่เคยเลือนหาย ทุกครั้งที่นึกถึงยังคงโทษตนเองที่กลับมีชีวิตรอดเพียงผู้เดียว

ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เขาต้องจมอยู่กับความรู้สึกผิดและไม่อาจฝืนชะตาให้มีชีวิตอยู่ต่อไปได้อีกแล้ว...

ร่างของเขาพลันอ่อนแรง ทรุดลงกับพื้น น้อมรับความตายโดยไม่ขัดขืน เฝิงอวี่เซี่ยนเหลือบสายตามองสตรีผู้หนึ่งด้วยความอ่อนโยน “เจียงชุนหลิน...นับจากนี้ข้าคงไม่อาจปกป้องเจ้าได้อีกต่อไปแล้ว”

ฟึ่บ!

สวบ!!

“อวดดี!”

คมดาบถูกดึงออกจากร่างเขา ก่อนจะกดแทงกลับเข้าไปอีกเป็นครั้งที่สามอย่างเยือกเย็น “หากไม่มีเจ้าข้าย่อมสามารถปกป้องนางได้ แม้ต้องแลกด้วยชีวิตก็ยอม!”

“อั่กกก!” ทั่วทั้งร่างของเฝิงอวี่เซี่ยนชุ่มไปด้วยเลือดสีแดง สายตาคมกริบดูว่างเปล่าจำนนต่อโชคชะตา

“อี้หยาง! พอได้แล้ว!”

“เฝิงอวี่เซี่ยน!!” น้ำเสียงหวานตวาดก้อง

แค่ได้อ่านยังรู้สึกสะเทือนใจ ไหนเลยจื่อหนิงไม่คาดคิดเลยว่าตัวเองจะได้มาเห็นเหตุการณ์นี้กับตาจริงๆ “ข้าจะฆ่าเจ้าแน่!” นางร้องตวาดก้องอย่างไร้ความเกรงกลัวก่อนที่นางจะพุ่งตรงเข้าไปอย่างรวดเร็ว

“หลี่จื่อหนิง!” เฉิงอี้หยางสบถออกมา

สตรีวุ่นวายผู้นี้อีกแล้ว!

ท่ามกลางบรรยากาศมงคล ทว่าตอนนี้กลับกลายเป็นความวุ่นวายอลหม่านเต็มไปด้วยเสียงหวีดร้องโวยวายและกลิ่นคาวเลือด เจียงชุนหลินยกชายกระโปรงแต่งงานขึ้นก่อนจะรีบวิ่งตรงไปยังร่างที่นอนแน่นิ่ง นางพลันหลั่งน้ำตา สายตามองเฝิงอวี่เซี่ยนที่กำลังกระอักเลือดด้วยความเวทนาและเจ็บปวด

นางไม่ได้ต้องการให้เป็นเช่นนี้...

น้ำเสียงหวานเอ่ยออกมาอย่างแผ่วเบา “เฝิงอวี่เซี่ยน…”

หลี่จื่อหนิงวิ่งหน้าตั้งเข้ามาโดยไร้ความเกรงกลัวก่อนจะออกแรงผลักเฉิงอี้หยาง ออกไปอย่างรุนแรงเพื่อให้เขาถอยห่าง“ออกไปให้พ้น!” น้ำเสียงหวานตวาดด้วยความโกรธ

นางจำได้ว่าก่อนหน้านี้ตนเองกำลังอ่านบทสุดท้ายของนิยาย...ฉากตอนจบของตัวร้ายที่เพียงมาแสดงความยินดีแต่กลับถูกใส่ร้ายว่าเป็นผู้คิดจะแย่งเจ้าสาวไป

แล้วเหตุใด...พระเอกถึงได้โง่งมหูเบาถึงเพียงนี้!?

“เกรงว่าวันตายของเจ้ายังคงมาไม่ถึงเฝิงอวี่เซี่ยน” น้ำเสียงทุ้มของเฉิงอี้หยางเอ่ยออกมาอย่างเยือกเย็น

เจียงชุนหลินส่ายหน้าทั้งน้ำตารั้งเฉิงอี้หยางเอาไว้ไม่ให้ลงมือไปมากกว่านี้ “พอได้แล้ว!...หยุดได้แล้วอี้หยาง!”

เฝิงอวี่เซี่ยนเงยหน้าขึ้น มุมปากหนาเหยียดยิ้มเย้ยหยัน สายตาคมกริบเพ่งมองอีกอย่าง “หากมีโอกาสแล้วสังหารข้าไม่ตายเช่นนั้นข้าจะผู้สังหารเจ้าคืน”

“เกรงว่าคงไม่มีวันนั้น” เฉิงอี้หยางกล่าว

“อวี่เซี่ยน!”

“…”

“เฝิงอวี่เซี่ยน!”

ไม่นะ!

 

เธอพึ่งทะลุมิติเข้ามาเพื่อช่วยตัวร้ายผู้นี้…แต่กลับสายไปแล้วงั้นหรือ!?

สติของเฝิงอวี่เซี่ยนเริ่มเลือนราง สายตาพร่ามัวจนแทบมองไม่เห็นสิ่งใด หัวใจเต้นแผ่วลงเรื่อยๆ ราวกับกำลังจะสิ้นใจ

เหตุใดเขาถึงมองเห็นสตรีผู้นั้นกัน…!?

หลี่จื่อหนิงรู้สึกจุกอกอย่างบอกไม่ถูก นางรีบทรุดตัวลงโอบร่างที่โชกเลือดของเขาเข้ามาแนบอก มือเล็กค่อยๆ เกลี่ยเลือดออกจากใบหน้าคมคายอย่างแผ่วเบา

น้ำเสียงหวานเอ่ยออกมาอย่างสั่นเครือ “ท่านมีชีวิตอยู่มาได้นานถึงเพียงนี้แล้วไฉนฝืนต่ออีกหน่อยไม่ได้หรือ”

พ่อตัวร้ายของนางจะมีจุดจบเช่นเดียวกันกับนิยายจริงรึ!??

“เฝิงอวี่เซี่ยน…ข้าขอโทษ” นัยน์ตาของนางสั่นระริกเอ่อคลอไปด้วยหยาดน้ำตา เจียงชุนหลินหมายจะเดินเข้าไปแต่ทว่ากับถูกเฉิงอี้หยางฉุดรั้งเอาไว้

เฉิงอี้หยางเอ่ยออกมาเสียงเรียบ “เจียงชุนหลิน…เจ้ายังคิดจะช่วยคนผู้นั้นอีกอยู่หรือ”

“เฝิงอวี่เซี่ยนทำอันใดผิด!” นางหันขวับมองเขาทั้งน้ำตาแฝงไปด้วยความขุ่นเคืองใจ “เหตุใดต้องถึงขั้นลงมือสังหารหมายจะเอาชีวิตเข้าด้วยเฉิงอี้หยาง!”

แม้นางจะมีใจให้เฉิงอี้หยางแล้วอย่างไรกัน ทว่าการกระทำเช่นนี้…เจียงชุนหลินรู้สึกว่าไม่ถูกนัก

เขาคือคนที่ส่งนางขึ้นเกี้ยวเจ้าสาว! หวังดีและปกป้องมาตลอดชีวิต! ไฉนถึงถูกกระทำเช่นนี้

เจียงชุนหลินโกรธเคืองเฉิงอี้หยางไม่น้อย นางพลันสะบัดมือออกจากอีกฝ่ายก็จะก้าวเดินไปหาร่างของเฝิงอวี่เซี่ยนแทน

“ปล่อยข้า!”

“เจียงชุนหลิน!” น้ำเสียงทุ้มของเฉิงอี้หยางเต็มไปด้วยความโกรธไม่น้อย เขาทำไปเพียงเพราะปกป้องนางแต่ไฉนนางกลับมองไม่เห็นกัน

ระยะเวลาสองสามปีผ่านมานี้เจียงชุนหลินตกอยู่ในกลลวงของเฝิงอวี่เซี่ยนมาตลอด โดยหารู้ไม่ว่าแท้จริงแล้วบุรุษผู้นั้นเพียง เสแสร้งทำดีเพื่อสร้างความไว้วางใจและหลอกใช้นาง จุดประสงค์ของเขาคือการล้างแค้นจวนสกุลเจียง…ต้นเหตุที่ทำให้เฝิงอวี่เซี่ยน ต้องโทษจำคุกตั้งแต่วัยเยาว์จากเหตุการณ์สังหารฆ่าล้างชีวิตผู้คนทั้งจวนสกุลเฝิงเมื่อหลายปีก่อน

และงานมงคลครั้งนี้…

จอกน้ำชาและกาสุราล้วนผสมยาพิษถูกเตรียมไว้เพื่อหวังสังหารทุกชีวิตในจวนให้หมดสิ้น

แผนการเช่นนี้ ไฉนเฉิงอี้หยางเลยจะไม่ล่วงรู้!

“ชุนหลิน…” สติของเฝิงอวี่เซี่ยนกำลังจะดับวูบลงแต่แล้วกลับได้ยินน้ำเสียงหวานรื่นหูดังขึ้น…สายตาคมกริบพร่ามัวมองไม่เห็นสิ่งใดนอกจากสตรีตรงหน้าผู้นี้

!!!!

“เฝิงอวี่เซี่ยน!!!”  สถานการณ์ที่เกิดขึ้นตอนนี้นางตกใจจนทำอะไรไม่ถูก

เพียงชั่วอึดใจก่อนนั้น จื่อหนิงเพิ่งรู้ว่าตัวเองทะลุมิติเข้ามาในนิยายที่กำลังอ่านอยู่แต่สิ่งที่น่าตกใจยิ่งกว่าคือ เธอได้เข้ามาอยู่ในตอนจบของเรื่องแล้ว!

ช่วงที่ตัวร้ายกำลังจะถูกฆ่าทิ้ง...!?

ในขณะเดียวกันนั้นร่างของเฝิงอวี่เซี่ยนพลันอ่อนแรงลงก่อนจะนอนแน่นิ่งไปทันที ดวงตาเมล็ดซิ่งตกใจเอาแต่ตะโกนเรียกชื่อเขาไม่หยุด “เฝิงอวี่เซี่ยน! ตื่นขึ้นมาบัดเดี๋ยวนี้ ข้าไม่อนุญาตให้ท่านตายเด็ดขาด!”

“…”

“ข้าบอกว่าอย่าตาย!” น้ำเสียงหวานสั่นเครือ

ร่างของเจียงชุนหลินหยุดชะงัก มองร่างของเฝิงอวี่เซี่ยนที่แน่นิ่งไปราวกับร่างไร้วิญญาณ “เฝิงอวี่เซี่ยน…”

“อย่าเข้ามา!” จื่อหนิงหันขวับมองตาขวางด้วยความโกรธ หากเดาไม่ผิดนั้นสตรีตรงหน้าผู้นี้คงเป็นแม่ดอกบัวขาวกระมัง

“เจ้าทำให้เขาต้องตายแล้วจะมาร้องไห้เสียใจอะไรอีก!”

 

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Pinakabagong kabanata

  • นิยายเรื่องนี้ไม่มีตัวร้าย   ๑๐ ห่างเหิน

    เรื่องบางเรื่องในใต้หล้านี้ หากพลาดไปแล้วก็พลาดไปเลย ไม่สามารถหวนคืนย้อนกลับไปแก้ไขได้…ความรู้สึกของนางเองก็เช่นกันแม้วันนั้นเฉิงอี้หยางจะเอ่ยปากขอโทษจากใจจริงแล้วทว่าอย่างไรกัน มันจะเปลี่ยนแปลงอะไรได้?เจียงชุนหลินให้อภัยได้แต่ไม่สามารถลืมลงได้ ความรู้สึกที่ฝังลึกในใจมันยากที่จะขจัดออกไป “ทำอันใดอยู่หรือ” น้ำเสียงทุ้มเอ่ยขึ้นอย่างแผ่วเบาก่อนจะสวมกอดภรรยาจากทางหลัง ใบหน้าของเฉิงอี้หยางฉายแววหมองคล้ำออกมาอย่างชัดเจน ภายในใจเต็มไปด้วยความหนักอึ้งที่ไม่สามารถระบายออกมาเป็นคำพูดได้ถึงแม้เจียงชุนหลินจะพูดคุยกับเขาเช่นเดิมแล้วอย่างไรกันแต่เฉิงอี้หยางกลับรู้สึกได้ว่าอีกฝ่ายไม่เหมือนเดิมเจียงชุนหลินตกใจสะดุ้งเล็กน้อย ก่อนปรายสายตาเหลียวไปมองก่อนน้ำเสียงหวานเอ่ยแผ่วเบา “ท่านทำอันใดหรือ”“ข้ากอดภรรยาไม่ได้งั้นหรือ”ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดนางถึงได้รู้สึกอึดอัดเช่นนี้กันนางวางผ้าที่กำลังปักลงจากนั้นจึงค่อยๆ ผละออกจากอ้อมกอดของอีกฝ่าย นัยน์ตาของนางสบเข้ากับดวงตาคมกริบของเขาอย่างเย็นชา “คราวหน้าหากทำให้ข้าตกใจแบบนี้อีก…เกรงว่าข้าคงต้องโดนเข็มทิ่มตำจนเลือดออกแน่”เฉิงอี้หยางได้ยินแล้วรู้สึกแปลกใจ

  • นิยายเรื่องนี้ไม่มีตัวร้าย   ๙ อายุยืนร้อยปี

    “อืม…ชาดี”หลี่จื่อหนิงยกจอกน้ำชาขึ้นจิบอย่างละเมียดละไม ไม่ทันได้สังเกตว่ามีสายตาคมกริบคู่หนึ่งจับจ้องมองอยู่นานครู่หนึ่ง ก่อนจะวางจอกน้ำชาลงอย่างเชื่องช้า จากนั้นจึงหยิบขนมเปี๊ยะไส้ถั่วแดงกวนขึ้นมากัดหนึ่งรสชาติหวานมันละลายในปาก จนใบหน้าคนงามระบายยิ้มกว้างออกมาจนถึงดวงตาเฝิงอวี่เซี่ยนมองดูภาพตรงหน้าด้วยแววตาลึกล้ำไม่ได้ปริปากเอ่ยอันใดออกมาแม้แต่สักครึ่งคำ ราวกับว่ากำลังสังเกตอีกฝ่าย“มีอีกหรือไม่…?” หลี่จื่อหนิงเอ่ยถาม น้ำเสียงไม่ชัดเจน ในขณะที่ยังเคี้ยวขนมเต็มปากอย่างไร้มารยาท แก้มทั้งสองตุ้ยอัดแน่นเต็มไปด้วยขนมขนมรสเลิศถึงเพียงนี้... นางอยากห่อกลับบ้านเสียจริง!เขาเอ่ยออกมาเสียงเรียบ “เจ้าต้องการอะไรกันแน่”แม้ว่าเฝิงอวี่เซี่ยนพอจะรู้จักชื่อเสียงเรียงนางของสตรีตรงหน้านี้อยู่บ้างทว่ากลับไม่เคยพูดคุยเลยแม้แต่สักครึ่งคำ น่าแปลกนักเหตุใดนางถึงรู้ว่าเขาอยู่ที่ไหนไฉนถึงได้มายุ่งข้องเกี่ยววุ่นวายกับเขา…!?ใบหน้าหล่อเหล่าของเฝิงอวี่เหว่ยขมวดคิ้วมุ่นเต็มไปด้วยความสงสัย…สตรีผู้นี้ไว้วางใจได้และไร้เดียงสาอย่างที่ตาเห็นจริงๆ งั้นหรือพอได้ยินน้ำเสียงเช่นนี้ นางพลางเคี้ยวขนมก่อนกลืนจะลงคอแล

  • นิยายเรื่องนี้ไม่มีตัวร้าย   ๘ เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด

    หานมู่เฉินพลันมองเห็นเงาร่างของคนผู้หนึ่งเดินพ้นขอบประตูเข้ามา ใบหน้าคมของเขาขมวดคิ้วแน่นท่าทางครุ่นคิด สายตาทอดมองอีกฝ่ายนิ่งๆ เหตุใดเขาถึงมองเห็นเป็นบุรุษผู้นั้นกันหรือคงตาฝาดไปเองทว่าในจังหวะนั้น…หานมู่เฉินกลับลุกพรวดขึ้นทันที เขาเร่งฝีเท้าก้าวเดินด้วยความเร่งรีบพุ่งตรงเข้าไปหาเฝิงอวี่เซี่ยนด้วยท่าทีร้อนรน“ข้านึกว่าเจ้าตายไปแล้วเสียอีก” น้ำเสียงทุ้มต่ำเอ่ยขึ้น แฝงความรู้สึกปะปนระหว่างตื่นเต้นกับโล่งอกเอาไว้หานมู่เฉินไล่สายตามองอีกฝ่ายตั้งแต่บนลงล่างคล้ายกับสำรวจอีกฝ่ายให้แน่ใจ และเมื่อเห็นว่าไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ เพิ่มเติมจึงถอนหายใจโล่งอกออกมาแม้ว่าเหตุการณ์ที่เฝิงอวี่เซี่ยนถูกเฉิงอี้หยางใช้คมดาบแทงลึกจนแทบเอาชีวิตไม่รอดในคืนวันแต่งงาน แม้จะมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นล่วงรู้และหลังจากนั้นจู่ๆ บุรุษผู้นี้ก็พลันหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยหานมู่เฉินก็ทำใจไว้แล้วว่า รออีกวันสองวันคงต้องขุดหลุมฝังโลงเปล่าไว้รอรับร่างของเฝิงอวี่เซี่ยน ว่ากันตรงแล้วมีผู้ใดบ้างไม่ต้องการหมายจะเอาชีวิตคนผู้นี้ยิ่งเขามีสภาพอ่อนแอไร้หนทางสู้ก็เสมือนกับว่าโอกาสรอดยิ่งริบหรี่แม้แต่บุรุษผู้ที่นั่งอยู่บนบัลลังก์มั

  • นิยายเรื่องนี้ไม่มีตัวร้าย   ๗ ความสัมพันธ์ใกล้ชิด

    ณ จวนสกุลเฉิงภายหลังจากวันนั้น ความสัมพันธ์ระหว่างเขาและนางกลับยิ่งห่างเหินกว่าตอนจะก่อนแต่งงานเสียอีกเจียงชุนหลินที่เอาแต่ปักผ้าตลอดทั้งวันไม่สนใจสิ่งใด ในขณะที่เฉิงอี้หยางที่เอาแต่นอนออกจากเรือนตั้งแต่ยามรุ่งสาง คล้ายกับกำลังจงใจหลบหน้านาง กว่าจะกลับจวนอีกครั้งก็พลบค่ำ นางก็เข้าเรือนนอนไปแล้วความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่เป็นเช่นนี้มาหลายวัน จนกระทั่งบ่าวรับใช้ในเรือนเริ่มรู้สึกกระอักกระอ่วนจะขยับตัวทำสิ่งใดก็รู้สึกหวาดระแวงไปเสียหมด“ข้าขอโทษ…เป็นเพราะวันนั้นข้าใช้อารมณ์มากเกินไปจึงพูดจาเช่นนั้นออกมา” น้ำเสียงทุ้มเอ่ยออกมาแผ่วเบาเต็มไปด้วยความรู้สึกผิดเขาไม่ชอบที่ต้องเห็นนางเป็นเช่นนี้วันนี้เฉิงอี้หยางจงใจรั้งอยู่ที่จวน เขาตื่นสายกว่าทุกวันเล็กน้อยเพื่อจะพูดคุยกับภรรยาทว่าเมื่อเห็นนางตื่นขึ้นมาเอาแต่ล้างหน้า บ้วนปาก และเปลี่ยนอาภรณ์ไม่ปริปากพูดอันใดออกมา จนกระทั่งมื้อเช้าเสร็จสิ้น เขากลับรู้สึกกระอักกระอ่วนจนต้องเป็นฝ่ายเอ่ยปากออกมาก่อนสายตาคมกริบเหลือบมองอีกฝ่ายอย่างเงียบๆพอได้ยินถ้อยคำนี้ เจียงชุนหลินกำลังจะตักโจ๊กเข้าปากก็ต้องหยุดชะงักไปก่อนจะถอนหายใจออกมาเล็กน้อยพลางวางช้อนลงบ

  • นิยายเรื่องนี้ไม่มีตัวร้าย   ๖ ความหวังดีที่ไร้ค่า

    หลายวันผ่านไป…ไม่ว่าเขาจะย่างกรายไปที่ใดหรือแม้แต่ทำสิ่งใดก็มักจะรู้สึกถึงสายตาคู่หนึ่งที่จับจ้องอยู่ตลอดเวลา คราแรกเขานั้นรู้สึกอึดอัดใจไม่น้อยแต่เมื่อวันเวลาผ่านไปกลับกลายเป็นความเฉยชาหากสตรีผู้นี้คิดอยากจะทำสิ่งใดก็ปล่อยให้นางทำไปเถอะ เขาหาได้ใส่ใจไม่เฝิงอวี่เซี่ยนนอนเอนกาย หลับตาลงผ่อนคลาย ก่อนที่ความคิดบางอย่างจะผุดขึ้นมา...นานเท่าใดแล้วที่เขาไม่ได้รู้สึกผ่อนคลายเช่นนี้?เกรงว่าคงเกือบสิบปีได้แล้วกระมัง นับตั้งแต่จวนสกุลเฝิงประสบเคราะห์อันน่าหวาดกลัวนับตั้งแต่นั้นมาเฝิงอวี่เซี่ยนใช้ชีวิตอยู่เพียงลำพัง ไร้พ่อแม่ให้พึ่งพิง ไร้ญาติสนิทมิตรสหายที่จริงใจ ผู้คนรอบกายล้วนถือมีดซ่อนไว้เบื้องหลังหากเขาพลาดเมื่อไหร่ก็พร้อมจะลงมือ สายตานับสิบคู่จับจ้องเขาอยู่ทุกฝีก้าวและแม้ว่าจะได้กินอิ่มแต่ไม่อาจข่มตานอนหลับได้อย่างสบายใจจนกระทั่งสองสามปีมานี้…ราวกับสวรรค์ลิขิตให้เขาได้พบเจียงชุนหลิน นางคือคนผู้เดียวที่อยู่เคียงข้างเขาโดยมิได้คาดหวังสิ่งมดทั้งสิ้น ทว่าหากสวรรค์ลิขิตให้พานพบแล้ว…ไฉนจึงมิได้ลิขิตเส้นด้ายแดงเส้นวาสนาให้แก่กันด้วยเล่าเหอะ! ท่าทางเคลิบเคลิ้มเช่นนี้ เกรงว่าบุรุษผู้นี้คง

  • นิยายเรื่องนี้ไม่มีตัวร้าย   ๕ ชีวิตเขาเป็นของนาง

    บาดแผลจากรอยแทงของเฝิงอวี่เซี่ยนนับว่าสาหัสอยู่มาก ตอนที่เชิญท่านหมอมารักษายังเอ่ยปากว่า บุรุษผู้นี้ก้าวขาข้างหนึ่งเข้าสู่ปรโลกแล้ว หากจะมีชีวิตรอดต่อไปได้ล้วนขึ้นอยู่กับโชคชะตาที่สวรรค์ลิขิตยามนี้นั้น ผ้าพันแผลสีขาวที่พันรอบเริ่มซึมไปด้วยโลหิตสีแดงฉานคาดว่าบาดแผลคงปริแตกแล้ว“เฝิงอวี่เซี่ยน!”น้ำเสียงหวานร้องด้วยความตกใจ นัยน์ตาเมล็ดซิ่งมองเลือดที่ไหลทะลักออกมาไม่หยุดนางไม่ได้ตั้งใจจะทำให้เขาเจ็บหนักกว่าเดิมแต่ผู้ใดใช้ให้เขาบีบคอนางจนแทบหมดหนทางหายใจเล่า!เฝิงอวี่เซี่ยนพลันยกมือกุมบาดแผลพลันกระอักเลือดออกมาอีกครา ใบหน้าของเขาแสดงความเจ็บปวดออกมาอย่างปิดไม่มิดก่อนจะเอ่ยออกมาอย่างเย็นชา “ออกไปให้ห่างจากข้า”หลี่จื่อหนิงยื่นมือออกไปหมายจะตรวจดูบาดแผล ทว่าจู่ๆ มือหนากลับปัดออกอย่างไม่ไยดี“ข้าขอดูหน่อย” นางกล่าวขึ้นอย่างร้อนใจเฝิงอวี่เซี่ยนเหลือบมองสตรีตรงหน้า สายตาคมกริบฉายด้วยความแข็งกร้าว มุมปากหนาโค้งยกยิ้ม “ข้าไม่ต้องการเป็นหนี้บุญคุณผู้ใดอีก”พอได้ยินประโยคนี้ นางชะงักไปครู่หนึ่งก่อนจะเงยหน้าสบตากับอีกฝ่ายทันที หลี่จื่อหนิงพลันหัวเราะออกมาเบาๆ กล่าวเสียงความหนักแน่น “ชีวิตของท่าน

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status