หลี่ชิงเหยาเห็นท่าทางและการกระทำของแม่และย่า ก็อดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้ ก่อนจะพูดขึ้นมาอีกด้วยอาการคล้ายกับ
แง่งอนเล็ก ๆ“แม่กับย่าเป็นอะไรไปคะ ฉันไม่ได้ป่วยสักหน่อย
ฉันเปลี่ยนไปในทางที่ดี ไม่ชอบหรือยังไงกัน”พูดจบก็ทำแก้มป่องอย่างน่ารักน่าเอ็นดู
“ย่าก็ไม่ได้คิดว่าหลานป่วย แค่แปลกใจเฉย ๆ เพราะเมื่อก่อนนั้นอย่าว่าแต่เรื่องแบ่งปันคนอื่นเลย แม้แต่คิดจะช่วยเหลือคนอื่นหลานก็ยังไม่เคยทำ แต่นี่ถึงขั้นไปหาปลาแล้วแบ่งให้คนบ้านหยางเนี่ยนะ มันทำให้ย่ากับแม่ของเราประหลาดใจมากรู้ไหม” ย่าหลี่พูดทุกอย่างออกมาตามจริง ๆ
แม้ว่าการกระทำของหลานสาวเป็นสิ่งที่ถูกใจนางมาก แต่ย่าหลี่ยังคงแปลกใจกับการเปลี่ยนไปอย่างกะทันหันของหลานสาวอยู่ดี
แต่เมื่อคิดในทางที่ดี ก็เข้าใจได้ว่าคนเราเมื่อผ่านความตายมาแล้ว ย่อมต้องเปลี่ยนไปทางที่ดีขึ้น นางก็เคยพบเรื่องแบบนี้มาเหมือนกัน เมื่อหลายสิบปีก่อนลูกสาวบ้านจิงไม่ต้องการแต่งงานกับคนที่พ่อแม่หาให้ เธอเลยไปกระโดดน้ำตายแต่มีคนช่วยไว้ทัน เมื่อฟื้นขึ้นมาก็เปลี่ยนแปลงตัวเองไปในทางที่ดีเหมือนกัน
ฉะนั้นการที่หลี่ชิงเหยาเปลี่ยนไปหลังผ่านความตายมาแล้ว ย่าหลี่เลยไม่คิดมาก แต่อดแปลกใจไม่ได้เท่านั้นเอง
“ต่อจากนี้ไปฉันจะเปลี่ยนแปลงตัวเองไปในทางที่ดีขึ้น
ย่ากับแม่ไม่ต้องกังวลนะคะ ฉันไม่กลับมาโง่ให้คนอื่นหลอกอีกแล้ว และสัญญาว่าจะไม่ทำผิด หรือเอาของกินดี ๆ ไปบ้านอี้อีก นอกจากนี้ฉันจะให้ทุกคนในบ้านหลี่ของเราอยู่ดีกินดีเอง”หญิงสาวจับมือของย่าและแม่ไว้แล้วพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่นจริงจัง
“ตกลง ย่าจะเชื่อหลาน ว่าแต่วันนี้ชิงเหยาหลานย่าจะทำอาหารเองใช่ไหม ถ้าอย่างนั้นเราไปหลังบ้านเพื่อทำปลากันก่อนดีกว่า”
ย่าหลี่พูดขึ้นมาอย่างเชื่อมั่นในตัวหลานสาว ไม่พูดเปล่า นางยังควงแขนหลานสาวเดินมาหลังบ้าน โดยไม่สนใจว่าตอนนี้
สีหน้าของหลานชายจะเป็นอย่างไร“ผมคงเกิดมาผิดที่จริง ๆ นะครับแม่” ไม่วายที่ชายหนุ่มจะหันมาพูดกับแม่ตัวเองเบา ๆ เมื่อรู้สึกว่าตัวเองเป็นหมาหัวเน่าแล้วจริง ๆ
“นั่นสิ ว่าแต่ลูกจะกลับเข้าท้องแม่ไหมล่ะ เผื่อจะได้เกิดเป็นลูกสาวบ้าง” ฟางเหนี่ยงพูดหยอกล้อลูกชายกลับไป ก่อนจะใช้มือเคาะหน้าผากเขาแล้วพูดขึ้นอีกครั้งว่า
“อย่าเพ้อเจ้อให้มากนัก รีบถือปลาเดินตามมาด้วย วันนี้ก็ทนกินฝีมือชิงเหยาก็แล้วกัน อย่างมากก็ท้องเสียทั้งบ้าน เดี๋ยวแม่จะเตรียมยาเอาไว้ให้” ฟางเหนียงพูดอย่างขำ ๆ แล้วเดินเข้ามาหลังบ้านอีกคน
“แม่!! ผมจะกลับเข้าที่เดิมได้ยังไง ผมโตป่านนี้แล้วนะ แล้วผมก็ไม่อยากเป็นผู้หญิงด้วย” ชายหนุ่มตะโกนโหวกเหวกอยู่คนเดียว แต่ก็ยอมเดินตามทุกคนเข้ามาที่หลังบ้านแต่โดยดี
เด็กสาวคนหนึ่งวิ่งเข้ามาอย่างเหนื่อยหอบ เธอคือลูกสาวจากบ้านอี้ เธอเป็นน้องของอี้หยางตง ที่เพิ่งกลับมาแล้วได้ยินว่า
หลี่ชิงเหยาหาปลามาได้ตัวใหญ่มาก จึงรีบกลับมาบอกพี่ชายตัวเองด้วยความดีใจเพราะคิดว่าอย่างไรวันนี้บ้านอี้ก็ต้องได้กินปลาพวกนั้น“พี่ใหญ่ ชาวบ้านพูดกันให้ทั่วเลยว่า หลี่ชิงเหยาหาปลาตัวใหญ่มาได้ตั้งหลายตัว แถมยังแบ่งให้บ้านหยางตั้งสามตัวแน่ะ”
เธอรับบอกกับพี่ชายถึงข่าวที่รับรู้มาทันที“อะไรนะ!! หลี่ชิงเหยาไม่ชอบบ้านหยางนี่น่า แล้วทำไมถึงแบ่งปลาให้ล่ะ ไม่ได้การแล้ว หยางตงลูกแม่ ลูกต้องไปเอาปลาจากนังนั่นมาให้หมดเลยนะ วันนี้บ้านเราจะได้กินปลาให้อิ่มไปเลย” กุ้ยหมิ่นที่เป็นแม่ของอี้หยางตงพูดขึ้นมาพร้อมกับเลียปากเล็กน้อยเมื่อคิดว่าวันนี้บ้านเธอจะได้กินปลา
“จะไปตามทำไมล่ะแม่ เดี๋ยวชิงเหยาก็เอามาให้ที่บ้านเราเองแหละ ที่ผ่านมาเธอก็เอามาให้ตลอดนี่ แม่ไม่ต้องห่วงไปหรอก”
อี้หยางตงพูดขึ้นมาอย่างทะนงตน เขาเชื่อว่าหากมีของกินดี ๆ หลี่ชิงเหยาจะต้องเอามาให้เขาเอง เพราะเธอต้องการให้เขามีอาหารดี ๆ กินเพื่อบำรุงร่างกาย จะได้มีแรงในการอ่านหนังสือสอบอย่างไรล่ะ
“แล้วถ้าเธอไม่มาล่ะพี่ใหญ่ ตอนกลับมาฉันได้ยินชาวบ้านพูดกันว่า หลี่ชิงเหยาประกาศว่าเธอไม่ชอบพี่แล้วนะ” อี้ชิงชิงกลัวว่าจะไม่ได้กินปลา เลยพยายามบอกเรื่องที่ได้ยินมาให้พี่ชายรับรู้
แม้ว่าปลาจะมีอยู่ในลำธาร แต่บ้านอี้ไม่มีใครหาปลาเป็นเลยสักคน หากจะซื้อก็ราคาหลายเหมาต่อตัว บ้านอี้ไม่ได้มีเงินมากขนาดนั้น ถ้าไม่ไปเอาจากหลี่ชิงเหยา ก็คงยากที่บ้านอี้จะได้กินอาหารดี ๆ
“ไม่มีทางหรอก ชิงเหยาหลงฉันจะตาย เธอจะเลิกชอบฉันได้ยังไง เสื้อผ้าที่เธอใส่อยู่ ชิงเหยาก็ให้มาไม่ใช่เหรอ” ชายหนุ่มยังคงพูดเข้าข้างตัวเอง เขามั่นใจว่าหลี่ชิงเหยาไม่สามารถเลิกรักเขาได้หรอก
“อย่ามั่นใจไปหน่อยเลยพี่หยางตง หลี่ชิงเหยาพูดกับฉันเองว่าเธอไม่รักพี่แล้ว” โจวเม่ยเม่ยเดินเข้ามาได้ยินพอดี จึงพูดเรื่องที่ได้ยินมาให้ชายหนุ่มฟัง
“เม่ยเม่ย เธอได้ยินมาอย่างนั้นจริงเหรอ ไม่ใช่เพราะเธอไปบอกชิงเหยาหรอกนะว่าเราสองคนแอบคบกัน จนทำให้ชิงเหยาประกาศว่าเลิกรักฉันน่ะ” คราวนี้อี้หยางตงเริ่มนั่งไม่ติดแล้ว เมื่อรู้เรื่องที่เกิดขึ้นจากปากโจวเม่ยเม่ย เขาจึงถามขึ้นมาด้วยน้ำเสียงไม่ค่อยพอใจเท่าไรนัก
“ฉันจะโกหกพี่ทำไมกัน ฉันเองยังแปลกใจอยู่เลย ปกติฉันพูดอะไรเธอจะเชื่อฉันตลอด แต่หลังจากฟื้นขึ้นมาจากการจมน้ำ หลี่ชิงเหยาก็มีท่าทีเปลี่ยนไป เธอดูคล้ายจะไม่สนใจฉันสักเท่าไร แถมยังบอกอีกว่าไม่ชอบพี่แล้ว” หญิงสาวพูดออกมาอย่างแปลกใจเหมือนกัน
เรื่องนี้ติดอยู่ในใจของโจวเม่ยเม่ยไม่น้อย แต่ยังหาคำตอบไม่ได้ ยิ่งได้ยินชาวบ้านพูดเรื่องที่หลี่ชิงเหยาไปหาปลากับคนบ้าน
หยาง เธอก็ยิ่งแปลกใจ เธอคิดว่าหลี่ชิงเหยาคงเอาปลามาให้บ้านอี้เลยตามมาดู แต่เมื่อไม่พบ เลยคิดว่าเรื่องที่อีกฝ่ายบอกก่อนหน้านี้น่าจะเป็นเรื่องจริง!“ไม่ได้การแล้วลูกแม่ แม่ว่าลูกไปหาหลี่ชิงเหยาเถอะ ไม่อย่างนั้นลูกจะไม่มีอาหารดี ๆ กิน แล้วยังมีหนังสือและอุปกรณ์การเรียนของลูกอีกนะที่จะต้องใช้ ถ้าไม่มีเธอ ลูกจะต้องลำบากแน่ ๆ ลูกรีบไปหาเธอเถอะ”
กุ้ยหมิ่นไม่ต้องการเสียผลประโยชน์ที่เคยได้รับจาก
หลี่ชิงเหยา เพราะหากเป็นอย่างนั้นแล้วคงไม่ดีต่อครอบครัวเธอแน่นอน เธอจึงพูดกระตุ้นลูกชายให้รีบไปหาหญิงสาว ก่อนจะปรายตามองโจวเม่ยเม่ยด้วยความไม่พอใจ เนื่องจากเข้าใจว่าเธอทำให้หลี่ชิงเหยาเลิกรักลูกชายตนเองอี้หยางตงคิดตามสิ่งที่แม่พูดมา พร้อมกับส่งสายตาไม่พอใจให้โจวเม่ยเม่ย เขาเองก็คิดว่าเธอคงไปบอกอะไรหลี่ชิงเหยา จนทำให้อีกฝ่ายประกาศว่าไม่รักเขาแล้ว
เขานั่งคิดไม่นานก็ลุกพรวดออกจากบ้าน แล้วตรงดิ่งไปที่บ้านหลี่ทันที
ส่วนทางด้านหยางเฟยหลง
หลังจากที่ชายหนุ่มแยกกับสองพี่น้องจากบ้านหลี่แล้ว เขาก็รีบกลับบ้านทันทีเหมือนกัน เมื่อมาถึงพบกับแม่ที่กำลังเดินเข้าบ้านพอดี จึงรีบเข้ามาช่วยถือของ
“วันนี้แม่ขึ้นเขาไปหาอาหารอีกแล้วเหรอครับ” ชายหนุ่มถามออกไปอย่างใส่ใจ
“ใช่แล้วลูก วันนี้ลูกรู้ไหมว่าแม่เจอกับหลี่ชิงเหยาด้วยนะ เธอมีน้ำใจช่วยแม่หาผัก แถมยังจับปลาเก่งอีกต่างหากนะ นี่ไง
เธอแบ่งให้แม่มาตั้งสามตัว เดี๋ยวแม่จะทำน้ำแกงปลาให้กิน ลูกอยากกินอะไรเพิ่มไหมล่ะ เดี๋ยวแม่จะทำให้” เธอพูดจาอย่างยิ้มแย้มและชี้ไปที่ปลาสามตัวที่ลูกชายถืออยู่“รู้แล้วครับแม่ ก่อนกลับผมกับอาเหวินเจอเธอระหว่างทาง เธอบอกผมแล้วครับ” ชายหนุ่มตอบกลับไปพร้อมกับยิ้มออกมา เมื่อนึกถึงหน้าสวยหวานของเจ้าของปลา
“ตอนนี้ดูเหมือนเธอเปลี่ยนไปแล้วนะ ลูกไม่ลองจีบเธอดูล่ะ ลูกชอบเธอไม่ใช่เหรอ” หลิวเฟยถามออกมา เพราะรู้ดีว่าลูกชายนั้นชอบหลี่ชิงเหยามานานแล้ว แต่ก็รู้อีกนั่นแหละว่าหยางเฟยหลงนั้นเจียมตัวแค่ไหน เขาได้แต่แอบชอบอยู่ห่าง ๆ
“ผมไม่กล้าหรอกครับแม่ ต่อให้เธอเปลี่ยนไป แต่ก็ใช่ว่าเธอจะชอบผมนี่ครับ อีกอย่างผมอายุมากกว่าเธอสิบกว่าปี ไม่มีทางที่เธอจะมองชายอย่างผมหรอก ชีวิตนี้ผมมีแม่แค่คนเดียวก็พอแล้ว”
ชายหนุ่มตอบกลับไปอย่างเจียมตัว เขาไม่คิดที่จะเอื้อมมือไปหาเธอ และขออยู่แบบนี้เพื่อดูแลแม่ไปตลอดดีกว่า การจะหาหญิงสาวมาตบแต่งด้วยสักคนไม่ใช่เรื่องง่าย หากหามาแล้วเข้ากับแม่ไม่ได้ เขาก็ไม่คิดที่จะแต่งเข้ามาให้ปวดหัว
“แล้วลูกคิดจะอยู่เป็นโสดแบบนี้ไปตลอดเหรอ แม่เป็นภาระของลูกหรือเปล่า” หลิวเฟยถามกลับไปด้วยน้ำเสียงไม่รู้ดีนักหากไม่เป็นเพราะเธอป่วยบ่อย ๆ ลูกชายคงเก็บเงินได้เยอะจนสามารถแต่งงานได้แล้ว ก่อนหน้านี้ก็หมดไปกับการรักษาสามีของเธอก็ไม่น้อยเลย ตอนนี้ยังต้องมารักษาเธออีก
“แม่ไม่ใช่ภาระเลยครับ ผมอยู่แบบนี้ก็สบายดีครับแม่
แม่ไม่ต้องห่วงนะ แต่ตอนนี้ลูกชายของแม่หิวจนไส้กิ่วแล้ว ผมอยากกินน้ำแกงปลาแล้วครับแม่” หยางเฟยหลงเห็นแม่มีสีหน้าเศร้าสร้อยก็รีบเบี่ยงประเด็นไปพูดเรื่องอื่นแทน เพราะไม่ต้องการให้แม่คิดมากแต่จริงๆ ในใจของเขานั้นมีคำตอบอยู่แล้วว่า หากไม่ใช่
หลี่ชิงเหยา เขาก็ไม่อยากแต่งงานกับใครเหมือนกัน และคิดว่าชาตินี้เขาคงต้องอยู่กับแม่ไปตลอดชีวิต!บทส่งท้าย ฉันไม่ใช่นางร้ายที่โง่เขลาอีกแล้วหนึ่งเดือนต่อมา...วันนี้คือฤกษ์ดีของบ้านหลี่และบ้านหยาง แม้ว่าการย้ายเข้าบ้านใหม่นั้นจะเอาฤกษ์ที่สะดวก แต่สำหรับการเปิดร้านค้าทั้งสองร้านนั้น ย่าหลี่บอกว่าต้องดูวันที่ฤกษ์ดี ๆ เสียหน่อยเพื่อความเจริญรุ่งเรือง เลยทำให้วันนี้เป็นวันเปิดร้านทั้งสองของพวกเขาวันนี้นายท่านเจียงถูกเชิญมาเป็นแขกผู้มีเกียรติ“ยินดีด้วยนะเฟยฟลง ขอให้กิจการเจริญรุ่งเรือง หากมีเรื่องอะไรให้ฉันช่วยเหลือก็ไปบอกได้เลย ฉันถือนายเป็นน้องชายคนหนึ่ง หากใครคิดจะมีเรื่องกับนาย ก็เท่ากับมีเรื่องกับฉันด้วย”นายท่านเจียงพูดอวยพรเสียงดัง จากนั้นก็ส่งของขวัญให้หลี่ชิงเหยา“ขอบคุณครับพี่เจียง” หยางเฟยหลงพูดขอบคุณและเรียกอีกฝ่ายอย่างเป็นกันเองนั่นทำให้เหล่าบรรดาพ่อค้าที่พอจะมีอิทธิพลและเส้นสาย ที่ตั้งใจจะกลั่นแกล้งร้านที่เปิดใหม่กลับต้องหน้าเสีย เพราะไม่คิดว่าเจ้าของร้านเปิดใหม่แห่งนี้ จะรู้จักกับนายท่านเจียงด้วยหลังจากนั้นไม่นานนายท่านเจียงก็เดินทางกลับไปทันที เพราะคนอย่างเขาไม่ปรากฏตัวอยู่ข้างนอกนานเกินความจำเป็นหลังจากนายท่านเจียงกลับไปไม่นาน ก็มีเจ้าหน้าที่ระดับสูงเดินเข้ามาแส
บทที่ 33 ในที่สุดพระเอกก็มีจุดจบหน้าหมู่บ้าน อี้หยางตงรีบมาที่จุดนัด ตอนนี้เขาแค้นใจมากเพราะรู้ข่าวว่าหลี่ชิงเหยาได้จดทะเบียนสมรสกับหยางเฟยหลงแล้ว“หึ แอบไปจดทะเบียนกันโดยไม่สนใจฉัน ต่อไปก็ไม่จำเป็นที่จะต้องการรักษาน้ำใจเธออีกแล้วนะชิงเหยา เป็นแบบนี้ฉันก็ไม่ต้องปิดบังแล้วเหมือนกันว่าที่ฉันอยากได้เธอมาก็เพราะเงินของเธอ และหากว่าเธอตกเป็นของฉันแล้ว ฉันจะบังคับให้เธอหย่าแล้วมาแต่งกับฉัน แล้วฉันรีดไถเงินมาใช้ให้หมดเลย”อี้หยางตงพูดออกมาอย่างแค้นใจ เขาตั้งใจว่าเมื่อแผนการทุกอย่างจบสิ้นลง เขาจะให้หลี่ชิงเหยาหย่าขาดจากหยางเฟยหลงแล้วมาแต่งงานกับเขาแทน “ว่ายังไง พวกนั้นมาหรือยัง” ตงหมิ่งถามอี้หยางตงเมื่อเห็นเขามาถึงจุดนัดพบแล้ว“พวกมันออกมาจากหมู่บ้านกันแล้ว ว่าแต่พวกนายรู้ได้อย่างไรว่าพวกมันจะมาย้ายออกจากหมู่บ้านวันนี้” อี้หยางตงตอบกลับไป และขมวดคิ้วอย่างสงสัยจนอดที่จะถามไม่ได้ว่าคนพวกนี้รู้ได้อย่างไรว่าบ้านหลี่และบ้านหยางจะย้ายบ้านวันนี้“การสืบข่าวเรื่องแค่นี้ไม่ยากสำหรับฉัน หากฝีมือพวกฉันไม่มีดี จะกล้ารับค่าจ้างแพง ๆ ได้อย่างไรกันล่ะ” ตงหมิ่งพูดขึ้นมาอย่างโอ้อวด เขาพยายามพูดเบี่ยงเบนไป
บทที่ 32 ชี้เป้าหมายหลี่ชิงเหยามองหนังสือรับรองการจดทะเบียนด้วยตาเป็นประกาย เธอไม่คิดว่าชาตินี้จะมีโอกาสแต่งงานจดทะเบียนเหมือนคนอื่น ก่อนจะเงยหน้ามองสามีหมาด ๆ ด้วยรอยยิ้มที่อบอุ่น“เราแต่งงานกันแล้วนะคะสามี” หญิงสาวพูดออกไปอย่างหยอกเย้าพอได้ยินอย่างนั้น หยางเฟยหลงยิ้มเขินเล็กน้อย พร้อมกับใบหูที่แดงเถือก ก่อนจะพูดออกไปอย่างอบอุ่นไม่ต่างกัน“ครับภรรยา พี่รักชิงเหยานะครับ”“ฉันก็รักพี่ค่ะ” หลี่ชิงเหยายิ้มหวานให้สามีพร้อมกับคำบอกรักทั้งสองต่างสบตาให้กันอย่างมีความหมาย แม้ว่าตอนนี้ทั้งสองจะไม่มีงานแต่งงานก็ตาม“พี่ไม่คิดเลยว่าจะมีวันนี้ วันที่พี่ได้ครองรักกับชิงเหยา พี่จะทำทุกอย่างให้ดีที่สุด และขอบคุณภรรยาที่รักและยอมให้ชายคนนี้ดูแล ทั้งที่พี่ไม่มีอะไรเลย” เขาบอกเธออย่างอบอุ่นส่วนหลี่ชิงเหยาเองก็คิดในใจว่า‘ฉันก็ไม่คิดเหมือนกันว่าจะได้แต่งงานกับตัวประกอบของนิยายเรื่องนี้ที่อ่านไม่จบ หวังว่าสุดท้ายแล้วต่อจากนี้ ชีวิตของฉันและเขา รวมถึงครอบครัวจะไม่มีอะไรเกิดขึ้น หรือไม่มีอะไรมากวนใจอีกแล้วนะ’แต่เธอตอบคนรักกลับไปอย่างอ่อนโยนว่า“ฉันไม่ได้มองคนที่เงินทองหรือว่าฐานะ และต้องขอโทษด้วยที่ก
บทที่ 31 วางแผนคิดร้าย“นี่ค่ะเงิน ลองนับดูนะคะว่าครบหรือเปล่า” เธอบอกด้วยใบหน้าที่เปื้อนรอยยิ้ม พอพนักงานรับเงินมานับ แล้วเห็นว่าเงินเกินมาหนึ่งร้อยหยวนจึงคืนให้อย่างซื่อสัตย์ พร้อมกับพูดว่า “คุณจ่ายเงินเกินมาหนึ่งร้อยหยวนค่ะคุณลูกค้า นี่คะ ฉันคืนให้นะคะ”หลี่ชิงเหยาเห็นแบบนี้ก็ยิ้มออกมาอย่างพึงพอใจ เพราะรู้ว่าคนคนนี้เป็นคนที่ใช้ได้คนหนึ่ง มีทั้งความจริงใจและความซื่อสัตย์“ไม่เป็นไรค่ะ เงินส่วนนี้ฉันให้กับคุณเป็นพิเศษค่ะ”หลี่ชิงเหยาตอบกลับไปด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม“แต่มันมากเกินไปนะคะ เงินตั้งหนึ่งร้อยหยวน อีกอย่างฉันก็ได้ค่านายหน้าจากการขายครั้งนี้มากทีเดียว” เว่ยเจียงจื่อพูดออกมาอย่างเกรงใจ เธอไม่ติดว่าลูกค้าจะซื้อแบบไม่ต่อรองราคาแบบนี้ ความจริงราคานี้สามารถลดจากค่านายหน้าของเธอได้อีกนิดหน่อย“ไม่มากเกินไปหรอกค่ะ รับไปเถอะ ขอบคุณมากที่ต้อนรับเราสามคนอย่างดี โดยไม่สนใจว่าพวกเราจะใส่เสื้อผ้าแบบไหน คุณเป็นคนดีจริง ๆ ที่ไม่ตัดสินคนที่รูปลักษณ์ภายนอก สมควรที่จะได้เงินหนึ่งร้อยหยวนนี้เป็นการตอบแทนแล้วค่ะ”หลี่ชิงเหยาตอบกลับเสียงดัง ก่อนจะปรายตามองพนักงานคนแรกเล็กน้อย“ขอบคุณนะคะ พวกคุณรอ
บทที่ 30 ซื้อบ้านและร้านค้าหลี่เหวินและหยางเฟยหลงเห็นท่าทางและสายตาแบบนั้นก็เตรียมจะพูดให้ชัดเจน แต่กลับถูกหลี่ชิงเหยายกมือห้ามไว้ก่อน จากนั้นเธอจึงไม่คิดเกรงใจพนักงานคนนี้อีก จึงพูดออกไปด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง“ซื้อได้หรือไม่นั้น คุณให้พวกเราดูบ้านก่อนสิ ยังไม่ทันรู้ราคาเลย แล้วบอกว่าเราไม่มีปัญญาซื้อได้อย่างไร”“จะดูทำไมให้เสียเวลา ใส่เสื้อผ้าแบบนี้หรือจะมีปัญญาซื้อบ้าน!” พนักงานสาวคนนี้ยังคงพูดจาดูถูกและเหยียดหยามทั้งสามคนไม่หยุด แถมยังแสยะยิ้มออกมาอย่างน่าเกลียดอีกด้วยคราวนี้หลี่ชิงเหยาไม่สนใจอะไรอีกแล้ว เธอนำเงินมาซื้อบ้าน แต่ไม่คิดว่าพนักงานสาวคนนี้จะมาทำกิริยาแบบนี้ใส่ จึงทำท่าจะสวนกลับไปอย่างเจ็บแสบแต่ยังไม่ทันที่จะพูดสวนอะไรออกไป พนักงานอีกคนที่เคยขายโกดังให้กับหลี่เหวินก็เดินเข้ามาพอดี“อ้าว สวัสดีค่ะคุณหลี่ คุณหยาง”” พนักงานสาวคนนี้ทักทายชายหนุ่มทั้งสองออกไปด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มเป็นกันเอง“สวัสดีครับคุณเว่ย” หลี่เหวินเห็นว่าเป็นพนักงานสาวที่เคยขายโกดังให้ตนเอง ก็ทักทายกลับไปอย่างเป็นกันเอง โดยที่หยางเฟยหลงก็พยักหน้ารับการทักทายเท่านั้น“รู้จักกันเหรอ ถ้าอย่างนั้นเธอก็จัดก
บทที่ 29 พูดจาเรื่องแต่งงาน“ในเมื่อทุกคนตกลงในเรื่องนี้แล้ว ฉันกับพี่เฟยหลงมีอีกเรื่องจะพูดกับทุกคน” คราวนี้หลี่ชิงเหยาพูดขึ้นมาอย่างเขินอายเล็กน้อย พูดจบก็หันมาสบสายตากับคนรัก ก่อนที่ทั้งสองจะจับมือกันแน่น แล้วหยางเฟยหลงจึงได้พูดบางอย่างออกมาด้วยน้ำเสียงหนักแน่นจริงจังว่า“ผมกับชิงเหยาตั้งใจว่าจะแต่งงานกันให้เร็วที่สุด ผมอาจจะไม่มีเงินมาสู่ขอเธอเหมือนคนอื่น แต่ผมคิดว่าความรักที่ผมมีให้เธอนั้นมากมายกว่าเงินทอง และผมสัญญาว่าจะไม่ทำให้ชิงเหยาต้องเสียน้ำตาเพราะผมเด็ดขาด ย่าหลี่ พ่อ แม่ ได้โปรดอนุญาตให้เราแต่งงานกันด้วยนะครับ” ชายหนุ่มพูดยืนยันหนักแน่น พร้อมกับมองทุกคนอย่างขอความเห็นใจ“ในเมื่อตัดสินใจกันแล้ว พ่อก็ไม่ว่าอะไรหรอกนะ ดีเสียอีกจะได้มาอยู่ด้วยกัน มาเป็นครอบครัวเดียวกัน แล้วตั้งใจว่าจะแต่งงานกันวันไหนล่ะ”หลี่หยวนได้ยินและได้เห็นท่าทางจริงจังนั้นก็พยักหน้ายอมรับ การที่หยางเฟยหลงกล้ามาพูดจาเรื่องสู่ขอนั้น เขาเชื่อว่าลูกสาวได้พูดคุยกับอีกฝ่ายมาแล้ว ในเมื่อลูกสาวยินยอม เขาก็พร้อมจะสนับสนุน“ความตั้งใจของฉันคืออยากจดทะเบียนสมรสก่อนเลยค่ะ ฉันยังไม่อยากมีงานแต่ง ขอแค่กินเลี้ยงภายในค