"ตัวอ่อนผีเสื้อคืออะไรวะ?"
"อะไรนะครับนาย" ตุนท์ที่ยืนรออยู่ด้านนอกเห็นว่าทรงอัปสรออกไปแล้วเลยรีบเปิดประตูเข้ามาเผื่อเจ้านายมีเรื่องจะสั่งงาน
"มึงรู้จักตัวอ่อนผีเสื้อไหมวะ"
"ตัวอ่อนผีเสื้อ..หนอนน้อยน่ะหรือครับ"
"หนอนน้อย?!"
"มีอะไรครับเจ้านาย.. อย่าบอกนะครับว่า?" ตุนท์พูดพร้อมกับมองต่ำลงไปดูช่วงกลางลำตัวของผู้เป็นเจ้านาย
"มึงมองอะไร!"
"หึหึ" มองแล้วก็อดขำไม่ได้ แค่นี้ตุนท์ก็พอจะเดาได้แล้วว่าใครเป็นคนพูดประโยคนั้น "แต่ผมว่ามันน่ารักดีนะครับ"
"น่ารักพ่อมึงสิ!" ร้ายกาจนะผู้หญิงคนนี้ กล้าดียังไงมาว่าของฉันเป็นหนอนผีเสื้อ
อีกห้องหนึ่งในเวลาเดียวกันนั้น..
"เป็นไงบ้างคะคุณหนู" ข้าวปุ้นรออยู่ในห้องก็อดเป็นห่วงคุณหนูของเธอไม่ได้
"ฉันบอกแล้วไงว่าไม่ต้องเรียกคุณหนูแล้ว ตอนนี้เธอไม่ใช่เด็กในบ้านแล้วนะ"
"ก็มันชินปากนี่คะ" ข้าวปุ้นเป็นเด็กทำงานในบ้าน ครอบครัวของทรงอัปสรส่งเรียนจนจบปริญญา ก่อนหน้าข้าวปุ้นก็เข้ามาทำงานช่วยสกายตอนที่ยังมีชีวิตอยู่ แต่ก็เรียนไปด้วยเลยไม่ได้ทำงานเต็มที่ แต่พอทรงอัปสรเข้ามาทำงานที่นี่แบบเต็มตัวเธอเลยมาเป็นผู้ช่วยให้
"เราจะช่วยอลิสยังไงดี"
"ไม่ได้เรื่องหรือคะ"
"เธอก็รู้อยู่ว่าไอ้มาเฟียนั่นมันนิสัยยังไง"
"ถ้าพิมพ์อยู่คงจะช่วยเราได้นะคะ"
"พิมพ์งั้นเหรอ เธอมีเบอร์โทรของพิมพ์ไหม"
"มีค่ะ"
ทรงอัปสรเลยให้ข้าวปุ้นต่อสายถึงพิมพ์เพราะอยากจะปรึกษาหารือเรื่องนี้
เห็นว่าเป็นเบอร์ของข้าวปุ้นโทรมาพิมพ์เลยรีบรับสาย แล้วข้าวปุ้นก็แจ้งบอกว่าคุณอัปสรอยากคุยด้วย
>>{"พิมพ์ว่างไหม"}
{"ว่างค่ะคุณอัปสรมีธุระอะไรหรือเปล่าคะ"}
>>{"ฉันอยากปรึกษาพิมพ์เรื่องของอลิสหน่อย"} ใช้เวลาคุยกันอยู่ไม่นานทรงอัปสรก็วางสายไป เธอคิดไม่ผิดจริงๆ ที่ขอความช่วยเหลือจากพิมพ์ ผู้หญิงคนนี้หัวไวมาก
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นพิมพ์อยากให้อลิสเป็นคนใช้ความสามารถของตัวเองเอา เพราะไม่มีใครช่วยใครได้ตลอดเวลา
ทรงอัปสรก็เลยเรียกอลิสเข้ามาหาในห้องทำงาน
"เธอคิดว่าจะทำได้ไหม" ก่อนที่จะไปยื่นข้อตกลงนี้กับฝ่ายตรงข้าม อัปสรต้องคุยกับเจ้าตัวให้รู้เรื่องก่อน เพราะมันต้องใช้ทักษะส่วนตัวของบุคคลนั้น เหมือนที่พิมพ์เคยทำให้เห็นมาแล้ว
"อลิสจะพยายามค่ะ" สิ่งที่ทรงอัปสรเรียกอลิสเข้ามาคุย คือจะให้โอกาสอลิสได้ใช้ฝีมือของตัวเองชิงตำแหน่งนี้กับคนใหม่ที่นเรศวรหามา
หลังจากที่คุยกันเข้าใจแล้ว ทรงอัปสรก็จะไปพูดเรื่องนี้กับคนที่เธอไม่แม้แต่อยากจะเห็นหน้า หญิงสาวหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะพ่นลมหายใจออกมา ถือสะว่าหาพรรคพวกไว้เพิ่มแล้วกัน เพราะถ้าช่วยอลิสได้นั่นหมายถึงคว้าใจของอลิสมาอยู่ฝั่งของเธอได้ด้วย
"ฉันขอคุยกับคุณนเรศหน่อย"
"เจ้านายกลับไปแล้วครับ" ภาณุก็คือคนของนเรศวรที่ให้ อยู่ประจำที่นี่ เวลาที่เขาไม่อยู่ก็ได้ภาณุนี่แหละดูงานแทน
"กลับไปแล้ว?" ทรงอัปสรยกนาฬิกาข้อมือราคาแพงของเธอขึ้นมาดูเวลา เหลืออีกตั้งหลายชั่วโมงกว่าคลับจะปิดทำไมเขาต้องรีบกลับ หรือว่าจะตามไปหาเด็กคนนั้น
เอาไงดีเธอต้องคุยกับเขาคืนนี้ให้จบด้วยสิ พรุ่งนี้ไม่รู้ว่าจะเจอหน้าเขาตอนไหน กลัวว่าคนของเขาจะเข้ามารับตำแหน่งก่อนน่ะสิ
"ช่วยต่อสายให้ฉันหน่อยได้ไหม" เธอไม่มีเบอร์โทรของหุ้นส่วนหรอก แต่ก่อนตอนซื้อขายหุ้นกันมีแค่เขาที่ติดต่อมาหาทนายของเธอ
"ได้ครับ" ภาณุล้วงเอาโทรศัพท์ออกมาแล้วก็โทรเข้าเบอร์ของตุนท์ เพราะตุนท์เป็นผู้ติดตามเจ้านายไป
หลังจากที่คุยอยู่ครู่หนึ่งคนของเขาก็วางสายไปแล้วหันมารายงาน
"เจ้านายบอกว่าถ้าคุณมีธุระก็เก็บไว้คุยกันพรุ่งนี้ครับ"
"ฉันจะคุยวันนี้"
"ถ้าคุณอยากคุยวันนี้ เจ้านายสั่งไว้ว่า.."
"ว่าอะไรก็รีบพูดมาสิ"
"ให้คุณตามไปที่คอนโดครับ"
ขุนราม [มาเฟียร้ายรัก] บทที่ 97 ตอนจบเธอไม่รู้หรอกว่าท่านให้มาบริษัททำไม แต่รินรดาก็แต่งตัวเรียบร้อยให้ดูเป็นหน้าเป็นตาของสามีตอนที่เขาพาเธอเดินเข้ามาพนักงานต่างก็ทำความเคารพกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา"เข้ามาด้วยกันสิคะ" หญิงสาวเห็นว่าพนักงานยืนรอลิฟต์กันหลายคน พอเธอกับสามีเดินเข้ามาพนักงานก็ไม่กล้าเข้ามาด้วย"เอ่อ..""เข้ามาสิ" จริงๆ ตอนที่เขาใช้ลิฟต์ไม่มีใครกล้าใช้ด้วย แต่พอท่านรองประธานอนุญาตให้เข้าพนักงานก็เข้าไปแต่ก็เข้าไม่กี่คนรินรดาขยับให้พนักงานยืนกันจนหลังเธอพิงเข้ากับร่างของขุนราม เขาเลยเอื้อมมือมาโอบเอวเธอไว้ พนักงานไม่ได้หันไปมองหรอกแต่มองผ่านผนังของลิฟต์ที่เป็นกระจก เห็นภาพนั้นแล้วต่างก็อมยิ้มไปตามๆ กันจนลิฟต์มาเปิดที่ชั้นผู้บริหาร ส่วนพนักงานออกไปก่อนหน้านั้นแล้ว"ไปห้องทำงานผมก่อน" เขาคิดว่าห้องประชุมคงยังไม่เรียบร้อย ค่อยพาเธอไปทีหลังแล้วกันแต่พอเข้ามาในห้องทำงานไม่นานเลขาก็มาตามให้เข้าห้องประชุมห้องประชุมใหญ่ของบริษัทณโยดม.."มานั่งนี่สิ" รัตติกาลที่นั่งตำแหน่งประธานบริษัทแทนสามีที่เสียไป เรียกให้ลูกชายมานั่งประจำที่ของนาง"ครับ?" ทุกครั้งที่เขาจะนั่งตรงนั้นก็ตอนท
คืนนั้นที่บ้านณโยดม..ก๊อกๆ "ที่รักครับ เปิดประตูให้ผัวหน่อย""คุณไปนอนห้องอื่นเลยค่ะฉันจะนอนกับลูก""คุณจะทำแบบนี้ไม่ได้นะ" ชายหนุ่มไม่ได้พูดเสียงดังเพราะกลัวแม่จะได้ยินว่าเธอไม่ให้เขาเข้าห้องด้วย"ถ้าคุณยังพูดอยู่แบบนี้เดี๋ยวลูกก็ตื่น" ขุนเขาเข้ามารอแม่ตั้งแต่เล่นกับคุณย่าเสร็จแล้ว จนตอนนี้แกนอนหลับรออยู่ในห้อง พี่เลี้ยงที่ดูแลก็ออกไปตอนที่เห็นคุณผู้หญิงกลับมา พอเข้ามาในห้องเธอก็จัดการล็อกห้องไม่ให้เขาตามเข้ามาได้"ไหนเราเคลียร์กันรู้เรื่องแล้วไง เปิดประตูให้ผมหน่อยนะ""รู้เรื่องแค่คุณน่ะสิคะ จำไว้ว่าอย่าทำแบบนี้อีก" ตอนที่รู้ว่าพี่ชายเปลี่ยนยาคุมกำเนิดเป็นยาบำรุงให้กับทรงอัปสรเธอก็รู้สึกโมโหมากพออยู่แล้ว พอมาเจอกับตัวยิ่งโมโหเข้าไปใหญ่ ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ดุด่าว่ากล่าวเขามากมายแต่เธอต้องดัดนิสัยเขาบ้าง จะได้ไม่มีความคิดแผลงๆ แบบนี้อีก"คุณเมียครับ พรุ่งนี้ผัวต้องไปทำงาน""ก็ไปนอนห้องอื่นสิคะ" ในใจก็แอบรู้สึกสงสาร เพราะเขาต้องรับผิดชอบบริษัทที่ใหญ่โต ผ่านไปสักพักรินรดาก็รู้สึกว่าด้านนอกเงียบไปแล้ว เธอเลยเดินมาเปิดประตูดู "อุ้ยคุณ"เธอประเมินความอดทนของเขาต่ำไป เขารู้ว่าถ้าเงียบเธอต้องม
"ดูเหมือนคุณจะตกใจจังเลยนะคะ มีอะไรหรือเปล่า""ปะเปล่าา ผมจะมีอะไรล่ะก็นั่นน้องสาวผม""ไม่มีอะไรแน่นะคะ" เธอรู้ว่าเขาเป็นคนเจ้าแผนการ แถมสายตาที่มองเพื่อนดูมีพิรุธมันต้องมีอะไรแน่"อีกสามวันก็เป็นวันเกิดหุ้นส่วนอีกคนแล้ว" นเรศวรรีบเปลี่ยนเรื่องคุย เพราะถ้าไม่งั้นเขาคงถูกจับได้แน่ว่ามีส่วนร่วมแต่มีหรือที่ทรงอัปสรจะปล่อยไป เธอคิดว่ามันต้องมีอะไรสักอย่างแน่ ฉับพลันนั้นทรงอัปสรก็คิดอะไรขึ้นมาได้ เพราะเธอยังไม่ได้จัดกระเป๋าใหม่ แสดงว่าเจ้าสิ่งนั้นมันยังคงอยู่ในกระเป๋า"อยู่ไหนนะ""คุณอัปสรหาอะไรเหรอคะ""ลิปสติกน่ะสิคะว่าจะเติมสักหน่อย" เธอแสร้งทำเป็นค้นหาของในกระเป๋าแต่ระหว่างนั้นคนในห้องก็คุยเรื่องวันเกิดของหุ้นส่วนอีกคนเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจไปเรื่องอื่น"ปีนี้มันจะจัดวันเกิดเหรอ" พวกเขาไม่ค่อยให้ความสำคัญกับวันเกิดมากนักนอกจากครอบครัวจะเป็นคนจัดให้ แต่สำหรับคนที่ไม่มีครอบครัวก็ชวนเพื่อนมาดื่มกินที่บ้านหรือไม่ก็นัดกันที่ร้านอาหาร"มันบอกว่าจะมาสังสรรค์กันที่นี่แหละ""จะปิดร้านเลี้ยงวันเกิดเหรอ""ไม่ได้ปิดแต่มันบอกว่าถ้าลูกค้าคนไหนมาใช้บริการคืนนั้นมันจะเป็นคนเลี้ยงเอง""ไอเดียเจ๋งนี่""
"ที่คุณพูดหมายความว่ายังไงคะ" หญิงสาวตามเขาขึ้นมาข้างบน แต่ยังไม่ถึงห้องทำงานเลยด้วยซ้ำเธอก็อดถามเรื่องนี้ไม่ได้"สวัสดีค่ะท่านรอง" แต่ก่อนที่เขาจะตอบเธอก็ได้ยินเสียงนี้ก่อน"?" ทั้งสองที่เดินตามกันมาหยุดแล้วก็มองคนที่กล่าวสวัสดีเมื่อครู่ ก่อนที่ขุนรามจะหันไปมองดูสายตารินรดา "คุณเป็นใคร""ชะเอมเป็นเลขาคนใหม่ที่มาแทนคุณเอวาค่ะ""เธอไปทำงานแผนกอื่น เปลี่ยนเลขาคนใหม่มา""แต่ชะเอมสอบสัมภาษณ์ผ่านแล้วนะคะ""ตกลงใครเป็นเจ้าของบริษัท""เอ่อ.."เขาไม่รอฟังคำอธิบายก็พาเธอเข้าไปในห้องทำงานก่อน"คุณยังไม่บอกฉันเลย""ผมไม่ได้หาเลขาเองเลยไม่รู้ว่าเขาส่งใครมา""ฉันไม่ได้หมายถึงผู้หญิงคนเมื่อกี้""อ้าวแล้วคุณหมายถึงอะไรล่ะ""เรื่องที่คุณบอกว่าเลขาคนเก่าอยู่โรงพักไงคะ""ไม่ใช่แค่เลขาคนเก่าหรอกที่อยู่โรงพัก ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์วันนั้นตอนนี้อยู่โรงพักทั้งหมด""อะไรนะคะ คุณส่งพวกนั้นให้กับตำรวจเหรอคะ""ข้อหาพยายามฆ่า""พยายามฆ่า?""ใช่ ผมแจ้งความจับทั้งหมดเลย ผมจะไม่ให้ใครทำร้ายคุณได้อีก""อย่าบอกนะคะว่าที่คุณรับสมัครพนักงานใหม่?""อืม" ชายหนุ่มตอบเธอไปโดยการเปล่งเสียงออกมาจากลำคอเบาๆ สายตามองดูผู้หญิ
"อื้อ" สะโพกงามเด้งรับเรียวลิ้นที่ตวัดเลียวนอยู่กึ่งกลางร่อง "อ่ะอ่ะอ่ะมะไม่ไหวแล้วค่ะ"ยิ่งได้ยินเสียงครวญครางมันก็ยิ่งทำให้เขาเร่งความเร็วที่กำลังทำอยู่ เพราะเขาต้องการเห็นเธอเสร็จก่อนโดยที่ยังไม่สอดใส่และเขาก็ทำได้สำเร็จ ชายหนุ่มค่อยๆ ชักนิ้วออกมาก่อนจะขยี้นิ้วให้เธอเห็นว่าเขาเก่งไหมที่ทำให้เธอหลั่งได้โดยที่ยังไม่เจอไม้เด็ด"ทำบ้าอะไรของคุณ""แต่ก่อนชอบแบบนี้ไม่ใช่เหรอ""ยังจำได้อยู่เหรอ นึกว่าจำแต่เรื่องผู้หญิงคนอื่นได้""ผู้หญิงคนอื่นที่ไหนไม่มีหรอก" ขณะที่เอ่ยร่างหนาก็ขยับขึ้นมา ก่อนจะคว้ามือเล็กมาโอบอุ้มความแข็งแกร่งเพื่อให้เธอวัดขนาด และในเวลาเดียวกันเขาก็จับมือเธอรูดชักขึ้นและลง"พูดเหมือนฉันจะเชื่อ"ใบหน้าหล่อคมเผลอเผยรอยยิ้มออกมา แต่ก็รีบซ่อนอาการนั้นไว้"ปล่อยนะ!" ถึงแม้จะรู้ว่าเขาคงไม่เก็บร่างกายตัวเองไว้ใช้แค่กับเธอ แต่ก็อยากได้ยินเขาพูดอะไรออกมาบ้าง แม้ว่ามันจะเป็นคำโกหก"จะจบเกมคนเดียวได้ยังไง แบบนี้ผมก็เคว้งคว้างน่ะสิ""คุณก็ไปปล่อยกับผู้หญิงพวกนั้นสิ""หึงผัวเหรอ""อึบ!" รินรดากัดฟันใช้แรงที่อุ้งมือ"ซี๊ดดดอ๊อยย ถ้ามันขาดจะมีใช้ไหม" ชายหนุ่มถึงกับสะดุ้ง"ไม่มีก็ไม่ใ
"ถึงแบบนั้นก็เถอะค่ะ ข้อหาพยายามฆ่ามันไม่รุนแรงเกินไปเหรอคะ" เอวาก็เป็นลูกของผู้มีฐานะท่านหนึ่ง ไม่ยอมเจอข้อหาอะไรแบบนี้ง่ายๆ อยู่แล้ว"รุนแรงเกินไป? เธอจะให้ฉันรอจนเมียกับลูกฉันเป็นอะไรไปงั้นเหรอ" ชายหนุ่มหันหน้ามาประชันกับผู้หญิงที่เขาไม่เคยเห็นค่าเลย"แต่ก็ไม่ได้เป็นอะไรนี่ ถึงยังไงฉันก็ไม่ยอมรับข้อหานี้" ในขณะที่พูดใบหน้าเอวาก็เชิดขึ้นแบบหยิ่งผยอง"แสดงว่าเธอยอมรับแล้วว่าเป็นตัวบงการ คุณตำรวจได้ยินหรือยังครับ""เชิญคุณเอวาไปที่โรงพักด้วยครับ""ฉันยอมรับตอนไหน! คุณแม่คะช่วยเอวาด้วยค่ะ" เอวาที่ถูกตำรวจพาออกไปตะโกนเข้ามาขอให้แม่ของเขาช่วย "ถึงยังไงเอวาก็ไม่ยอมถูกจับ""และก็เชิญพนักงานทุกท่านขึ้นรถด้วยนะครับ" ตำรวจหันมาบอกพนักงานที่อยู่ในที่นี้ทั้งหมด และรถที่ตำรวจเตรียมมาก็คันใหญ่พอที่จะขนคนพวกนี้ไปได้"พวกเราไม่ได้ทำอะไรผิดเลยนะคะ เราไม่ได้แตะตัวภรรยาของท่านรองเลยค่ะ" ในคลิปกล้องวงจรปิดก็ไม่เห็นว่าคนพวกนี้ทำอะไร แค่มีแต่คำพูดที่วิพากษ์วิจารณ์"นั่นแหละมันคือข้อหาของพวกเธอ เห็นคนถูกทำร้ายร่างกายทำไมไม่ช่วย แถมยังยืนพูดให้ร้าย" เขาไม่คิดจะปล่อยใครไปง่ายๆ แน่ ยิ่งคนยืนมุงนี่แหละสำคัญเล