เขาก้าวขึ้นบันไดไปยังห้องของเธอ ไม่ได้รีบร้อนแต่ก็ไม่ได้ช้าเกินไป ยิ่งเข้าใกล้ประตูห้องมากเท่าไหร่ หัวใจกลับเต้นแรงขึ้นโดยไม่มีเหตุผล
ชายหนุ่มหยุดยืนอยู่หน้าประตู สูดหายใจเข้าลึกหนึ่งครั้งก่อนจะเคาะประตูสองสามที “ข้าวหอม ลงไปกินข้าวได้แล้ว…”
เงียบ... ไม่มีเสียงตอบรับจากข้างใน
ธีร์ขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนจะเคาะซ้ำอีกครั้ง แต่ก็ยังคงไร้เสียงตอบกลับ สุดท้ายเขาถอนหายใจออกมาเบาๆ ก่อนจะเอื้อมมือไปบิดลูกบิดประตูอย่างช้าๆ
ล็อกไว้หรือเปล่า?
ไม่... ประตูไม่ได้ล็อก
เขาตัดสินใจเปิดมันออกโดยไม่ลังเลนัก ความเคยชินที่มีมานานทำให้เขาไม่ได้คิดว่ามันเป็นเรื่องแปลก ทั้งเขาและข้าวหอมต่างก็เคยเข้าออกห้องของกันและกันตั้งแต่เด็ก พวกเขาเคยนั่งเล่นเกมด้วยกัน เคยนั่งทำการบ้านข้างกัน บางครั้งข้าวหอมก็มานอนเล่นบนเตียงของเขา ขณะที่เขาเองก็เคยทิ้งตัวลงนอนบนเตียงของเธออย่างสนิทใจ
แต่พอโตขึ้น ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป...
ต่างคนต่างเริ่มมีพื้นที่ส่วนตัวของตัวเอง จะเข้าไปในห้องของกันและกันเหมือนเมื่อก่อนไม่ใช่เรื่องง่ายอีกต่อไป
แต่วันนี้ เขากลับเดินเข้ามาในห้องของเธออีกครั้ง
ภายในห้องยังคงอบอวลไปด้วยกลิ่นหอมอ่อนๆ ของเจ้าของห้อง แสงไฟจากโคมเล็กๆ ข้างเตียงส่องกระทบเงาของใครบางคนที่นอนซุกตัวอยู่บนที่นอน
ข้าวหอมกำลังหลับ
ธีร์หยุดยืนอยู่ตรงปลายเตียง มองภาพเด็กสาวที่ขดตัวอยู่ใต้ผ้าห่มบาง ดวงหน้าหวานซุกเข้ากับหมอนขณะที่ลมหายใจเข้าออกเป็นจังหวะสม่ำเสมอ
เขาอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา...
ให้ตายสิ ทำไมเธอถึงน่ารักแบบนี้?
เขาย่อตัวลงข้างเตียง มองใบหน้าที่แสนคุ้นเคยอยู่ใกล้ๆ เปลือกตาบางปิดสนิท ขนตายาวเป็นแพรับกับแสงไฟ จมูกเล็กๆ ที่มีรอยแดงจางๆ คงเป็นเพราะเธอซุกกับหมอนนานเกินไป และริมฝีปากนุ่มที่เผยออกเล็กน้อย ราวกับกำลังฝันดี
ธีร์เผลอยกมือขึ้น ปลายนิ้วของเขาแตะปรอยผมที่ปรกหน้าของเธอออกอย่างแผ่วเบา เขาอยากเห็นใบหน้าของเธอชัดๆ
หัวใจของเขากระตุกวูบ...
ข้าวหอมอยู่ตรงหน้าเขา แค่นี้เอง... ใกล้แค่เอื้อมมือ
แต่เขาแตะต้องเธอไม่ได้...
ไม่สิ... ต้องพูดว่า ‘ไม่ควร’ แตะต้องเธอถึงจะถูก
ธีร์รู้สึกได้ถึงความอึดอัดในอก ทุกวันที่ผ่านมาเขาเอาแต่บอกตัวเองว่าเธอเป็นน้องสาว เป็นเด็กที่พ่อแม่ฝากให้ดูแล เป็นคนที่เขาควรปกป้อง ไม่ใช่ครอบครอง
แต่ทำไม... ทำไมความรู้สึกที่มีมันถึงไม่เป็นไปตามที่คิด?
สายตาของเขาเลื่อนต่ำลงไปมองริมฝีปากของเธอ...
ธีร์กำมือแน่น พยายามห้ามความคิดบ้าๆ ในหัว แต่สุดท้ายเขาก็แพ้ให้กับตัวเอง ปลายนิ้วของเขาเคลื่อนไปแตะที่ริมฝีปากของเธออย่างแผ่วเบา ด้านหลังของนิ้วสัมผัสกับผิวเนื้อนุ่มนั่นเพียงชั่วครู่
แค่เพียงระยะเวลาสั้นๆ ... แต่กลับทำให้หัวใจของเขาสั่นไหวจนแทบตั้งตัวไม่ติด
เขารีบผละมือออก ก่อนจะกำมันแน่นจนรู้สึกถึงเล็บที่กดลงบนฝ่ามือตัวเอง
บ้าจริง...
ธีร์กดปลายนิ้วลงบนขมับตัวเอง พยายามบังคับให้ถอยออกไปก่อนที่เขาจะทำอะไรที่ไม่ควรลงไปมากกว่านี้
“ข้าวหอม...” เขาเรียกเธอเสียงแผ่ว แทบไม่ต่างจากเสียงกระซิบ
เด็กสาวขยับตัวเล็กน้อย แต่ยังคงไม่ลืมตาขึ้นมา
ธีร์กัดฟันแน่น หายใจเข้าออกช้าๆ เพื่อสงบจิตใจที่กำลังเตลิด แล้วโน้มตัวไปใกล้เธออีกนิด
“ตัวเล็ก... ตื่นได้แล้ว”
น้ำเสียงของเขานุ่มนวลกว่าที่ตั้งใจจะใช้เสียอีก...
เปลือกตาของข้าวหอมกระพริบขึ้นช้าๆ ดวงตากลมโตกะพริบปริบๆ อย่างงุนงง เธอยกมือเล็กขึ้นขยี้ตาขอฃตัวเองเบาๆ รู้สึกเบลอไปหมดก่อนจะมองเห็นใบหน้าของธีร์ที่อยู่ใกล้
"พี่ธีร์?" เสียงของเธองัวเงีย "เข้ามาได้ไงอะ?"
ธีร์ยิ้มขำกับท่าทางสะลึมสะลือของเธอ ก่อนจะยกมือขึ้นขยี้หัวของข้าวหอมเบาๆ อย่างแกล้งๆ ทำให้เส้นผมที่ยุ่งอยู่แล้วยิ่งยุ่งไปกันใหญ่
"แม่เธอให้มาตามลงไปกินข้าว" เขาตอบ น้ำเสียงกลับมาขี้เล่นตามเดิม "แต่ดูท่าจะปลุกยากแฮะ ขนาดเรียกตั้งนานแล้วยังไม่รู้เรื่องเลย"
ข้าวหอมเบะปากพลางปัดมือเขาออก ก่อนจะขยับตัวลุกขึ้นนั่งบิดขี้เกียจไปมา "ก็เหนื่อยนี่นา" เธอบ่นพึมพำก่อนจะลุกจากเตียงอย่างเกียจคร้าน แล้วเดินตามเขาออกจากห้องไป
ระหว่างเดินลงบันได ธีร์ปรายตามองข้าวหอมที่เดินอยู่ข้างๆ ดวงตาของเขาสะท้อนภาพเธอที่ดูหมดแรงจนแทบลากตัวเองลงมาทีละขั้น ก่อนจะอดไม่ได้ที่จะเอ่ยแซวขึ้นมา
"วันแรกของมหา’ ลัยเล่นใหญ่ขนาดนั้นเลยเหรอ ถึงได้หมดสภาพแบบนี้?"
ข้าวหอมถอนหายใจออกมาแรงๆ ก่อนจะเอ่ย "ก็ใช้พลังงานเยอะไปหน่อยอ่ะสิ เจอเพื่อนใหม่เยอะมาก ต้องทำความรู้จักคนนั้นคนนี้ตลอดทั้งวันเลย"
คำพูดของเธอทำให้ธีร์ชะงักไปเล็กน้อย คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันโดยไม่รู้ตัว แต่เขาก็รีบปรับสีหน้าให้เป็นปกติ ไม่อยากให้เธอจับได้ว่าเขาไม่ค่อยชอบใจนักที่เธอทำตัวเป็นกันเองกับคนอื่นไปทั่ว โดยเฉพาะกับพวกผู้ชายที่เขาไม่รู้จัก
"เพื่อนมหา’ ลัยไม่ต้องเยอะขนาดนั้นก็ได้" เขาเอ่ยขึ้นมา รักษาน้ำเสียงให้ฟังดูสบายๆ เหมือนพูดแหย่กันเล่นมากกว่าจะจริงจัง "คุยกันผิวเผินก็พอ ไม่ต้องไปสนิทกับใครให้มาก เดี๋ยวพี่แนะนำให้ก็ได้ รุ่นพี่ของพี่ดีๆ ทั้งนั้น"
ข้าวหอมหันมามองเขาด้วยหางตา ก่อนจะเบ้ปากเล็กๆ "ดีจริงเหรอ?"
"แน่นอน" ธีร์ยิ้มที่มุมปาก "อย่างน้อยก็ดีกว่าให้เธอไปสุ่มคุยกับใครก็ไม่รู้"
ข้าวหอมกลอกตาใส่เขา ก่อนจะเอียงคอจ้องเขาเหมือนจับผิด "แล้วทีพี่ธีร์ล่ะ ทำไมรู้จักคนเยอะขนาดนั้น โดยเฉพาะสาวๆ น่ะ…"
ธีร์กระแอมออกมาเล็กน้อย ทำเป็นไม่ใส่ใจคำเหน็บแนมนั้น "ก็พี่เป็นคนดังไง"
"หืม?" ข้าวหอมแกล้งลากเสียงยาว น้ำเสียงเต็มไปด้วยความประชดประชัน "ดัง? หรือเจ้าชู้กันแน่?"
ธีร์หัวเราะออกมาก่อนจะยกมือขึ้นบีบจมูกเล็กๆ ของเธออย่างจงใจแกล้ง "ปากดีแบบนี้ เดี๋ยวจะไม่ช่วยแนะนำเพื่อนดีๆ ให้ซะเลย"
ข้าวหอมหัวเราะคิก รีบปัดมือเขาออก "ไม่ต้องหรอก พี่ธีร์แนะนำใครมา ข้าวกลัวจะได้แต่เพื่อนเจ้าชู้แบบพี่อะสิ"
ธีร์หัวเราะอย่างระอา ส่ายหัวให้กับความปากเก่งของเธอ
แม้จะพยายามทำตัวเป็นพี่ชายขี้แกล้ง แต่ลึกๆ ในใจเขากลับรู้ดีว่า... เขาหวงเธอแค่ไหน
ร่างสูงชะงักไปชั่วขณะราวกับลมหายใจติดขัดอยู่ในลำคอ ก่อนที่ความร้อนแรงจะปะทุขึ้นในอกอย่างไม่อาจสกัดกั้นดวงตาคมเข้มฉายแววหิวกระหาย บางอย่างในแววตานั้นทำให้ข้าวหอมรู้สึกเหมือนกำลังจะถูกกลืนทั้งตัว“ข้าวหอม...”เขาเรียกชื่อเธอเสียงต่ำ ลึก แหบกระซิบเหมือนกำลังสะกดกลั้นความต้องการสุดขีดแล้วริมฝีปากก็ทาบลงมา...ริมฝีปากของธีร์กดลงมาอย่างเอาแต่ใจ จูบคราวนี้ไม่มีความนุ่มนวลอีกต่อไปข้าวหอมสะดุ้งเฮือก ก่อนจะปล่อยให้สัญชาตญาณพาเธอล่องลอยไปกับสัมผัสที่ลึกซึ้งนั้นลิ้นของเขาสอดแทรกเข้ามาอย่างชำนาญ รุกล้ำในจังหวะรุนแรงแต่ไม่เร่งรีบปลายลิ้นเกี่ยวกระหวัดลิ้นของเธออย่างเป็นจังหวะ รุกเร้าและดูดดึงจนแทบไม่มีช่องว่างให้หายใจข้าวหอมหลับตาแน่น ร่างกายเหมือนถูกดูดกลืนไปในโลกที่มีแค่เขา สัมผัสจากธีร์ทำให้เธอลืมวิธีจะหายใจ ลืมแม้กระทั่งการควบคุมสติริมฝีปากของเขาทั้งดูด กลืน ไล้เลียทุกซอกมุมของริมฝีปากเธอ แล้วเกี่ยวลิ้นของเธอไว้อีกครั้งแรงกดจากปลายลิ้น รสชาติจากความลึกของการจูบ… มันทำให้เธออ่อนระทวยจนเกือบหลุดเสียงครางในลำคอน้ำลายหวานปนร้อนไหลซึมออกมาจากมุมปากของเธอธีร์เห็นสีหน้าเคลิ้มจูบแบบนั้นก็ยิ่งบ
ความรู้สึกกังวลเริ่มก่อตัวขึ้น เขาตัดสินใจเปิดประตูรถ ก้าวลงมาเดินตรงไปที่บ้านของฟ้าใสพอเปิดประตูเข้าไป กลิ่นแอลกอฮอล์ตีขึ้นจมูกทันที บรรยากาศภายในบ้านพักเต็มไปด้วยความวุ่นวาย บ้างเมาหลับแน่นิ่งอยู่บนพื้น บ้างโวยวายร้องเพลงเสียงแปร่ง บ้างหัวเราะกันอย่างสุดเหวี่ยง ไม่ต่างจากสนามรบที่เต็มไปด้วยเด็กปีหนึ่งที่สติหลุดเขาก้าวเข้ามาเพียงไม่กี่ก้าว ทุกอย่างกลับหยุดชะงักราวกับกดปุ่มปิดเสียง ดวงตาหลายคู่หันมาจับจ้องเขาแทบจะพร้อมกัน สีหน้าของแต่ละคนเต็มไปด้วยความตกตะลึง บางคนถึงกับชะงักมือที่กำลังยกแก้วขึ้นดื่มเฮ้ย! นั่นมันพี่ธีร์!เสียงกระซิบดังขึ้นจากหลายมุม บางคนถึงกับถลึงตาใส่เพื่อน กระซิบกระซาบกันว่า “พี่เขามาได้ไงอ่ะ!?” บ้างก็สะกิดกันด้วยความตื่นเต้นแบบคุมไม่อยู่ไม่แปลก… ใครจะคิดว่าอยู่ๆจะมีพี่วิศวะสุดฮ็อต เดือนคณะปีสี่ที่สาวๆทั้งมอรู้จักในฐานะหนุ่มหล่อเนื้อหอมโผล่มาที่นี่ เพราะข้าวหอมไม่ได้บอกเพื่อนๆว่าพี่ธีร์มาส่งเธอแถมในชุดเสื้อยืดสีเข้มกับกางเกงขาสั้นลุยๆยิ่งทำให้ภาพลักษณ์ของเขาดูแตกต่างจากปกติจนทำให้หลายคนมองกันตาค้างแต่เขาไม่สนใจ กวาดสายตาหาคนที่เขาตามหา และแล้วสายตาก็ไปหยุดที่ร
"ใช่ค่ะ เป็นเตียงเดี่ยวสวีทริมทะเลนะคะ เหมาะกับคู่รักมากเลยค่ะ วิวสวยมากค่ะ" พนักงานสาวยิ้มหวานขณะอธิบายข้าวหอมชะงัก หันไปมองพี่ธีร์ที่ยืนล้วงกระเป๋ากางเกงอยู่ข้างๆ สีหน้าของเขาดูเรียบนิ่งเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นแต่ข้างในของธีร์กลับ โคตรไม่ปกติเขาไม่คิดว่าเรื่องจะออกมาเป็นแบบนี้ ไม่คิดว่าเขาจะต้องแชร์เตียงเดียวกับเธอจริงๆเวรเอ๊ย… แค่คิดหัวใจก็เต้นแรงเหมือนระเบิดออกมาแล้วถึงภายนอกจะดูนิ่ง แต่ความจริงข้างในเขาปั่นป่วนสุดๆ ธีร์ต้องใช้แรงทั้งหมดที่มีกดความรู้สึกของตัวเองลงไปให้ลึกที่สุด ไม่ให้แสดงพิรุธออกมาแม้แต่น้อย"เอ่อ…" ข้าวหอมอ้าปากจะพูดอะไรสักอย่าง แต่กลับกลืนคำลงคอ"ทำไมเหรอ? หรือว่าตัวเล็กกลัวพี่?" ธีร์พูดเสียงเรียบ พยายามทำตัวให้ดูปกติที่สุด ทั้งที่ใจอยากเผ่นไปสงบสติอารมณ์ข้างนอกสักสิบนาที"พี่ไม่มีปัญหาอะไรนะ" โกหกชัดๆปัญหามีแน่! ให้นอนเตียงเดียวกับคนที่ตัวเองพยายามหักห้ามใจมาตลอด มันจะไม่เป็นปัญหาได้ยังไง!ข้าวหอมเม้มปากแน่น ดูเหมือนกำลังชั่งใจอะไรบางอย่าง"ม..ไม่ได้กลัวนะ!!…แต่มันเป็นเตียงเดียวนะพี่ธีร์" เธอพูดจากตะกุกตะกักเลิ่กลั่กอย่างเห็นได้ชัด"ก็ใช่" เขาตอบเรียบๆ"แ
ข้าวหอมเบิกตากว้าง หัวใจเต้นแรงจนแทบทะลุออกมานอกอก พอรู้ตัวว่าเผลอจ้องนานเกินไป เธอก็รีบสะบัดหน้าหนีแทบไม่ทันแต่ไม่ทันแล้ว ธีร์เห็นหมดแล้วริมฝีปากเขายกขึ้นน้อยๆอย่างนึกสนุก“จ้องขนาดนี้พี่ต้องเก็บค่าเข้าชมแล้วมั้ง” เสียงทุ้มๆที่มีแววกลั้วขำดังขึ้นข้างหูข้าวหอมสะดุ้ง ก่อนจะหันไปแหวใส่ทั้งที่หน้ายังร้อนฉ่า “ใครจ้องกันเล่า!?”“อ๋อเหรอ?” ธีร์เลิกคิ้วสูง เท้าแขนกับขอบประตูอย่างสบายๆ เหมือนไม่รู้ตัวเลยว่าสภาพตัวเองตอนนี้มันชวนให้คนมองขนาดไหนข้าวหอมรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจะลุกเป็นไฟ เธอเลยรีบหมุนตัวหันหลังให้ ก่อนจะโบกมือไล่เขาอย่างลุกลี้ลุกลน “ไปใส่เสื้อผ้าก่อนเลยพี่ธีร์! ข้าวมีเรื่องจะคุยด้วย”เสียงหัวเราะขำดังขึ้นจากด้านหลัง“ก็ได้ๆ”เธอได้ยินเสียงฝีเท้าเขาเดินกลับเข้าไปในห้อง ก่อนที่ประตูจะถูกปิดลงอีกครั้งข้าวหอมเม้มริมฝีปากแน่น พยายามสลัดภาพเมื่อครู่ให้ออกไปจากหัว แต่มันก็ยากเหลือเกินภาพหยดน้ำที่เกาะอยู่ตามแผ่นอกแกร่ง ภาพกล้ามท้องแน่นๆที่ดูแข็งแรง และสำคัญที่สุด ภาพรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของเขาตอนที่แซวเธอเมื่อกี้!นี่มันบ้าอะไรกันเนี่ย!?เธอไม่ควรจะมาหวั่นไหวกับพี่ธีร์แบบนี้สิ!แต่พอคิด
“พี่ธีร์! จะพาข้าวหอมไปไหนอ่ะ!?”ข้าวหอมพยายามจะดึงมือออก ถึงแม้จะรู้ว่ามันไม่เป็นผลก็ตาม “พี่ธีร์! ทำอะไรของพี่เนี่ย!”เขาไม่ได้ตอบในทันที แต่หัวเราะและยิ้มให้เธอ“ก็แค่… ไม่อยากให้ตัวเล็กเสียเวลาคุยกับคนที่เธอไม่สนใจ”ข้าวหอมชะงักไปครู่หนึ่ง หัวใจเธอเต้นแรงขึ้นมาโดยไม่ทันตั้งตัว คำพูดของธีร์…หมายความว่ายังไงกันแน่? เขารู้ได้ยังไงว่าเธอไม่สนใจ? หรือเขากำลังแค่พูดไปเรื่อยเปื่อยกันแน่?เธอเม้มปากแน่นก่อนจะตัดสินใจลองเชิงอีกฝ่าย “พี่ธีร์จะรู้ได้ไงว่าข้าวหอมสนใจหรือไม่สนใจใคร?”ธีร์มองเธอนิ่งๆก่อนจะกระตุกยิ้มเล็กน้อย แล้วจูงมือเธอออกจากโรงอาหารไปโดยไม่พูดอะไรข้าวหอมเริ่มหงุดหงิดจริงๆแล้ว ทำไมถึงเอาแต่ทำแบบนี้นะ? ถามอะไรก็ไม่ตอบ!“พี่ธีร์ เดี๋ยวสิ จะพาข้าวหอมไปไหน?”“ไปหาอะไรกิน” เขาตอบเรียบๆในขณะที่จูงมือเธอก้าวเดินต่อไปโดยไม่สนใจเสียงท้วงของเธอ“แต่ข้าวหอมยังไม่ได้ตกลงเลยนะ!”เธอดึงมือออกอีกครั้ง แต่ธีร์ไม่ยอมปล่อย มิหนำซ้ำเขายังจับแน่นขึ้นไปอีก“ทำไม? ตัวเล็กกลัวมีข่าวลือกับพี่แล้วไม่มีคนมาจีบหรือไง?” น้ำเสียงเขาเจือแววเย้าแหย่ข้าวหอมถึงกับตาโตก่อนจะรีบเถียงกลับ “เปล่าสักหน่อย!”"แต่
เขายังคงไม่ขยับตัว ข้าวหอมเลยเอียงคอน้อยๆ ก่อนจะทำเสียงอ้อน “นะ~ นิดเดียวเอง ข้าวหอมอยากให้พี่ธีร์กินของอร่อยด้วยกัน”เสียงใสๆของเธอแผ่วลงคล้ายอ้อนวอน ตากลมกะพริบมองเขาเหมือนลูกแมวที่อยากให้เจ้าของสนใจธีร์ถอนหายใจออกมาอย่างช่วยไม่ได้ ก่อนจะโน้มตัวไปงับขนมจากช้อนเธอ ท่ามกลางรอยยิ้มพอใจของข้าวหอม“เป็นไง อร่อยไหม?”เขาเคี้ยวไปช้าๆแล้วกลืนลงคอแล้วพยักหน้ารับ ข้าวหอมยิ้มกว้างอย่างภูมิใจอารมณ์ของธีร์ค่อยๆคลายลงทีละนิด จนสุดท้ายเขาก็เลิกตีหน้านิ่ง ข้าวหอมเองก็รู้สึกได้ เธอจึงวางช้อนลงแล้วเอามือเท้าคาง มองเขาด้วยสายตาจริงจัง“พี่ธีร์... อย่าเป็นแบบนี้เลยนะ ข้าวหอมไม่ชอบเลย” เธอเอ่ยเสียงอ่อน แต่แฝงไปด้วยความรู้สึกที่จริงใจ “ข้าวหอมไม่ได้ตั้งใจพูดแบบนั้นจริงๆนะ พี่ธีร์อย่าโกรธข้าวเลย”ธีร์มองเธออยู่นาน ก่อนจะยกมือขึ้นลูบหัวเธออย่างแผ่วเบา“พี่ไม่ได้โกรธ” เขาพูดช้าๆ สายตายังคงอ่อนโยน “แล้วก็ขอโทษที่วุ่นวายกับเรามากเกินไป ถ้าข้าวหอมไม่ชอบ... พี่จะไม่วุ่นวายอีก”ข้าวหอมชะงัก ใจเธอโหวงแปลกๆอย่างบอกไม่ถูกไม่วุ่นวายอีกเหรอ... หมายถึง จะไม่มายุ่งกับเธอเท่าเดิมแล้วใช่ไหม?เธอเม้มปากแน่น ก่อนจะรีบพู