บทที่ 7
เมื่อส่งตระกูลเข้าไปปรับความเข้าใจกับพี่สาวสำเร็จ เธอก็รีบกลับไปที่ห้องของตัวเองเพื่อเจรจากับเจ้าบ่าวของพี่สาวบ้าง แต่ก็เจอกับมารดาระหว่างทางเสียก่อน
“คุณพ่อบอกว่าหนูกลับมาแล้วแม่ก็เลยขึ้นมาหา”
“คุณแม่มีอะไรหรือเปล่าคะ” เธอจะให้มารดาอยู่ข้างบนนี้ไม่ได้เด็ดขาด “เราลงไปคุยกันข้างล่างดีกว่าค่ะ”
“แม่ไม่สะดวกคุยข้างล่างหรอกลูก เรื่องนี้แม่ร้อนใจอยากบอกให้ลูกรู้ อยากให้ลูกเข้าไปคุยกับพี่นุ่มสักหน่อย”
“เรื่องอะไรเหรอคะคุณแม่”
“แม่แอบเห็นพี่นุ่มของลูกร้องไห้ แม่คิดว่าพี่เขายังรักตระกูลอยู่นะ” มารดาเล่าให้ลูกสาวคนเล็กฟังตามที่เห็น
“จริงเหรอคะคุณแม่” คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันด้วยความเคร่งเครียด เมื่อได้ยินเรื่องที่มารดาเล่า
“จริงจ้ะลูก แม่ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมนุ่มเขาถึงอยากแต่งงานกับไบรอัน เขามีปัญหากับตระกูลหรือเปล่าแม่อยากรู้ ลูกลองไปคุยกับพี่เขาดูนะ ตอนนี้พวกเขายังไม่ได้จดทะเบียน ถ้าพี่เขาอยากเปลี่ยนใจแม่จะช่วยเต็มที่” สุริสามอบหมายหน้าที่ให้ลูกสาวคนเล็กเป็นคนจัดการ เพราะคิดว่าพี่กับน้องคู่นี้รักกันมาก เปิดใจคุยกันจะง่ายกว่า
“ได้ค่ะคุณแม่ ปล่อยเรื่องนี้ให้เป็นหน้าที่ของหนูนิ่มเถอะค่ะ ส่วนคุณแม่ลงไปรอข้างล่างก่อนนะคะ เรื่องนี้เราคงต้องใช้เวลาคุยกันนาน ถ้าได้คำตอบแล้วหนูนิ่มจะรีบลงไปบอกคุณแม่ทันทีเลยค่ะ” เธอหลอกล่อมารดาให้พ้นไปจากชั้นสองเพราะกลัวท่านจะจับได้ เดินไปส่งท่านถึงบันไดทางลง มองจนท่านเดินลงไปถึงชั้นล่าง แล้วจึงกลับไปที่ห้องนอนของตัวเอง
ภายในห้องนอน
เธอลากเก้าอี้มานั่งตรงข้ามกับชายหนุ่มที่นอนอยู่บนเตียงของเธอ พยายามมองข้ามความรู้สึกไม่พอใจนั้นไป
“ฉันมีเรื่องอยากขอร้องคุณ”
ไบรอันขยับตัวนอนตะแคงข้างโดยเอามือค้ำศีรษะเอาไว้ “เรื่องอะไรว่ามา” ถามหญิงสาวที่เอาแต่มองหน้าตนอย่างไม่พอใจ
“พี่สาวฉันมีคนรักอยู่แล้ว พวกเขาสองคนรักกันมาก แต่ความรักของพวกเขาก็ต้องมาพังไม่เป็นท่าเพราะคุณ”
“เพราะผมเนี่ยนะ ผมไปทำอะไรให้พวกเขาเหรอ ความรักเขาถึงได้พังเพราะผม” เขารู้แล้วว่าเธอจะพูดเรื่องอะไร แต่ก็ถามไปเพราะอยากรู้ว่าเธอจะทำยังไงต่อ
“ก็เพราะคุณมาแต่งงานกับพี่สาวของฉัน พวกเขาถึงต้องเป็นแบบนี้”
“คุณได้ยินผมขอร้องให้พี่สาวของคุณมาแต่งกับผมหรือเปล่า คุณถึงได้พูดจาโยนความผิดให้ผมแบบนี้”
“เปล่า!” เธอตะคอกเสียงต่ำ ถลึงตามองเขา “ฉันรู้ว่าคุณก็ไม่อยากแต่งงานกับพี่สาวฉันเหมือนกัน” เธอได้ยินมารดาพูดให้ฟังว่าวันที่นัดพบกันของสองครอบครัวเขาก็ไม่ได้มาร่วมงาน เพราะเกิดอุบัติเหตุรถชนระหว่างเดินทางไปสนามบิน ทำให้ต้องเสียเวลารอประกันจึงไปขึ้นเครื่องไม่ทัน ซึ่งเธอคิดว่ามันเป็นแค่ข้ออ้างมากกว่า
“แล้วไง” ถึงไม่อยากแต่ง แต่ตอนนี้เขากลับรู้สึกว่าตัวเองโชคดีที่ได้แต่งงานกับพี่สาวของเธอ
“คนไม่ได้รักกันแต่งงานกันมันปรับตัวเข้าหากันยากนะคุณ ที่สำคัญคุณอาจจะมีคนรักอยู่แล้วใช่ไหม”
“ใช่ ตอนนี้ผมมีผู้หญิงที่ผมรู้สึกว่าผมรักเธอมากอยู่คนหนึ่ง” เขามองเธอด้วยสายตาลึกซึ้ง เห็นเธอคลี่ยิ้มกว้างแสดงความดีใจก็ไม่ได้รู้สึกปลื้มปริ่มใด ๆ เพราะเธอคงดีใจกับคำพูดของเขาในทางอื่น มากกว่าจะรู้ตัวว่าเขาหมายถึงเธอ
สาวน้อยในชุดนักศึกษาหุบยิ้มเมื่อเห็นแววตานุ่มลึกของอีกฝ่าย “ในเมื่อคุณก็มีคนที่รักอยู่แล้ว คุณก็ไม่ควรจะแต่งงานกับพี่สาวของฉัน”
“ก็มันแต่งไปแล้วจะให้ทำยังไงล่ะ อีกไม่กี่ชั่วโมงผมกับลิก้าก็จะกลายเป็นสามีภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายทุกประการ ทุกอย่างมันแก้ไขไม่ได้แล้วโรส” เขาเร่งเร้าเดินหน้าเพราะอยากรู้ว่าเธอจะทำอย่างไรต่อไป
“แล้วแฟนคุณล่ะ คุณไม่สงสารเธอบ้างเหรอ”
“ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะเลือกในสิ่งที่ดีที่สุด ผมคิดว่าผมทำถูกต้องแล้วโรส”
“บ้าที่สุด!” เธอลุกขึ้นยืนแล้วเท้าเอว มองชายหนุ่มอย่างไม่พอใจ ความรู้สึกที่ดีกับเขาขึ้นมาบ้างในตอนแรกหายไปหมดสิ้น “เรามาตกลงกันดีกว่า ฉันไม่อยากอ้อมค้อมแล้ว”
“ก็พูดมาสิ” เขาก็อยากรู้เหมือนกันนั่นแหละ
“ห้ามจดทะเบียนกับพี่สาวฉัน ห้ามยุ่งกับเธอ”
“ห้ามยุ่งนี่...” เขาทำหน้านิ่วคิ้วขมวด มองเธอด้วยสายตาเป็นคำถาม
“ห้ามนอนห้องเดียวกับพี่สาวฉัน ห้ามทำให้เธอเสียหาย คุณไม่มีสิทธิ์แตะต้องเธอ”
คนที่นอนเอกเขนกอยู่บนเตียงสีชมพูหวานแหววหัวเราะดังลั่น กำลังจะขยับตัวลุกขึ้น แต่ถูกร่างบางอวบอัดก้าวขึ้นมาบนเตียง ผลักเขาหงายหลังและยกมือปิดปากไว้แน่น เธอถลึงตาและสั่งห้ามไม่ให้เสียงดัง แล้วจึงปล่อยมือแยกตัวหนีห่างออกไป
ในช่วงเวลาสั้น ๆ ที่เธอรุกเข้ามาประชิด เขาได้กลิ่นหอมกรุ่นอ่อน ๆ จากตัวเธอ มันปลุกกระตุ้นความปรารถนาของเขาให้ลุกโชน จนเขาต้องขยับตัวขึ้นนั่งขัดสมาธิเพื่อปกปิด.. แล้วความคิดเจ้าเล่ห์บางอย่างก็ผุดขึ้นมาในสมองเขาตอนนี้เอง
“คงไม่ได้หรอกโรส ตอนแรกผมไม่อยากแต่งงานก็จริง แต่เมื่อผมได้เจอลิก้า ผมก็คิดว่าเราสองคนปรับตัวเข้าหากันได้ไม่ยากแน่ ๆ ตอนนี้ผมได้แต่รอเวลาจดทะเบียนสมรส เพื่อที่จะได้เป็นสามีภรรยากันอย่างถูกต้อง และผมก็อยากให้ถึงค่ำคืนนี้เร็ว ๆ เพื่อที่ผม...” เขาหยุดพูดให้เธอคิดต่อ
“ไม่ได้นะ คุณทำแบบนั้นกับพี่สาวฉันไม่ได้เด็ดขาด เธอไม่ได้รักคุณ”
“ผมไม่สนว่าเธอจะรักใคร เพราะถึงอย่างไรผมก็มีสิทธิ์ในตัวเธออย่างถูกต้องตามกฎหมายทุกประการ”
“แต่พี่สาวฉันมีคนรักอยู่แล้ว”
“คนรักกับสามีที่ถูกต้องตามกฎหมาย ใครมีสิทธิ์ในตัวเธอมากกว่ากันล่ะโรส”
“คุณมันใจแคบ ใจดำ เห็นแก่ตัวที่สุด!”
“คุณต่างหากที่ใจแคบ ใจดำและเห็นแก่ตัวสุด ๆ ผมแต่งงานผมก็ต้องมีสิทธิ์ในตัวภรรยาของผม ผมจะจูบเธอ กอดเธอ นอนกับเธอตอนไหนก็ได้ เพราะเธอเป็นภรรยาของผม แต่คนรักของเธอคือคนอื่นไปแล้วในตอนนี้ ถ้าผมจับได้ว่าพวกเขาไปมาหาสู่กันผมสามารถเอาผิดเขาได้ในฐานะชายชู้ และครอบครัวคุณก็คงต้องชดใช้ด้วยสัญญาทางธุรกิจ” เขาขู่เธอเพื่อให้เธอกระโจนลงหลุมที่ตั้งใจขุดล่อ “คุณเห็นใจในความรักของพี่สาวคุณ แล้วคุณเห็นใจผมบ้างไหมล่ะ ถ้ามีก็เสนอมาสิ เผื่อผมจะเห็นด้วยและเปิดทางให้พวกเขา”
“จริงเหรอ” เธอถามอย่างไม่แน่ใจ แต่เมื่อเห็นเขาพยักหน้าก็รู้สึกใจชื้นขึ้นมาบ้าง “คุณต้องการอะไรบอกมาได้เลย ถ้าฉันให้ได้ฉันก็จะให้” เธอบอกอย่างใจป้ำ
“ของฟรีไม่มีในโลก คุณควรรู้เอาไว้” เขาตอบกลับอย่างใจเย็น
“ฉันรู้ดี โดยเฉพาะกับนักธุรกิจหน้าเลือดแบบคุณ บอกมาเลยว่าต้องการอะไรแลกเปลี่ยน” ไม่วายแดกดันด้วยความหมั่นไส้
บทที่ 12‘ถ้าฉันรู้ว่าคุณไม่รักษาสัญญา ฉันจะตัดอนาคอนด้าของคุณทิ้งชักโครกด้วยมือของฉันเอง’‘ผมเก็บอนาคอนด้าไว้ใช้กับคุณไปนาน ๆ ดีกว่า’ เขาตอบกลับมาอย่างรวดเร็ว บ่งบอกว่าเขาจะรักษาสัญญาแน่นอน‘พรุ่งนี้ฉันจะลากนายออกไปหาคอนโดให้ได้’ เธอตั้งปณิธานอย่างแรงกล้าแล้วกดส่งข้อความไม่นานเกินรอก็มีข้อความตอบกลับจากเขา ‘ถ้าคุณอยากมีที่พลอดรักส่วนตัวผมยินดีทำตามทุกอย่าง เราคงส่งเสียงครางกันได้เต็มที่กว่าวันนี้ ผมต้องการคุณเหลือเกินที่รัก’“ไอ้บ้า! ไปตายซะไป!!!” หญิงสาวตะโกนใส่โทรศัพท์อย่างกราดเกรี้ยวหลังจากได้อ่านข้อความ อยากจะเดินไปลากอีกฝ่ายมากระหน่ำตบให้หายเจ็บใจ “เป็นไงเป็นกัน!” จากความคิดกลายเป็นกระทำ เธอหยิบเสื้อคลุมสวมทับชุดนอนที่เป็นเสื้อยืดสายเดี่ยวกับกางเกงยืดแนบเนื้อขาสั้น แล้วเดินออกจากห้องก๊อก ๆ ๆหญิงสาววัยใสเคาะประตูห้องหอของคู่บ่าวสาวป้ายแดง เตรียมปรับสีหน
บทที่ 11“คุณอยู่กับใครในห้อง ผมคิดว่าผมได้ยินเสียงคุยกัน” ไบรอันตั้งคำถามทันทีที่เจ้าสาวของเขาเปิดประตูโชติกาไม่คาดว่าจะถูกตั้งคำถามอย่างจับผิดทันทีที่เปิดประตู แต่ก็พยายามไม่แสดงความตื่นตระหนกออกไป“ฉัน..คุยโทรศัพท์อยู่ คุยกับน้องสาวของฉัน” เธอพูดปดและไม่ยอมสู้สายตา“แต่ผมมั่นใจว่าไม่ใช่การคุยโทรศัพท์” เขาแนบหูกับประตูเพื่อฟังให้แน่ใจอยู่สักพักก่อนเคาะเรียก ถึงแม้จะได้ยินไม่ชัดเจน แต่ก็มั่นใจว่าเป็นการสนทนาของคนสองคน เมื่อปะติดปะต่อกับท่าทางแปลก ๆ ของน้องสาวเธอ ที่กลายเป็นเมียของเขาไปแล้วก็ยิ่งทำให้เขามั่นใจมากขึ้นอีกเท่าตัว“ฉันคุยโทรศัพท์กับน้องสาวจริง ๆ ค่ะ คุณมีอะไรกับฉันหรือเปล่าคะ” เธอยืนยันด้วยท่าทางที่จริงจัง แล้วรีบเปลี่ยนเรื่องเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ ภาวนาในใจว่าให้เขาคล้อยตามคำถามของเธอด้วย“น้องสาวคุณไม่ได้อยู่ที่นี่เหรอ คุณถึงได้โทรคุยกับเธอ”“ค่ะ วันนี้เธอมีสอบก็เลยไ
บทที่ 10โชติรสรีบพลิกตัวหันหลังให้ชายหนุ่มทันทีที่เขาผละจากเธอไปยืนอยู่ข้างเตียง ควานมือไปด้านหลังเพื่อหาผ้าห่มมาคลุมร่างที่เปลือยเปล่าของตน ให้พ้นจากสายตาร้อนแรงของเขา แต่..ผ้าห่มมันหายไปไหนนะ บ้าจริง!ชายหนุ่มยืนกอดผ้าห่มไว้กับอก มองทรวดทรงอวบอัดที่มีส่วนเว้าส่วนโค้งอย่างชัดเจน เธอคือผู้หญิงที่สมบูรณ์แบบไร้ที่ติในสายตาของเขาจริง ๆ คิดไปคิดมาความต้องการที่เพิ่งสงบลงไปก็เริ่มตื่นตัวอีกครั้ง เขารีบคลี่ผ้าห่มคลุมร่างให้เธอแล้วแต่งตัว เพราะกลัวอดใจไม่ไหว กลัวจะทำให้เธอเจ็บปวดทรมานจนเข็ดขยาด“ผมไปก่อนนะยอดรัก” เขาเกี่ยวร่างที่ตะแคงข้างหันหลังให้ด้วยมือข้างเดียว แล้วโน้มหน้าไปกระหน่ำจูบที่เรียวปากอิ่มนั้นอย่างเสน่หา ก่อนจะออกไปจากห้อง เขายังหยิบโทรศัพท์ของเธอมากดเข้าหาเบอร์ตัวเอง และอดไม่ได้ที่จะรั้งร่างบางมากอดแนบอก ดูดดื่มความหวานของเรียวปากบางอย่างอาลัยอาวรณ์อีกครั้งก่อนลา“อย่าลืมสัญญาของเราล่ะ” เธอเน้นย้ำเมื่อเขาจะจากไปเขามองร่างที่กอดกระชับผ้
บทที่ 9ไบรอันอาศัยจังหวะที่สาวน้อยของเขากำลังเคลิบเคลิ้ม ปลดเปลื้องชุดนักศึกษาและชั้นในตัวจิ๋วของเธออย่างรวดเร็ว ดวงตาสีน้ำตาลเฮเซล มองหน้าอกหน้าใจที่สมบูรณ์แบบไปด้วยขนาดและความเต่งตึงอย่างหลงใหลได้ปลื้ม ใบหน้าคมเข้มสุดเซ็กซี่ก้มลงไปซุกไซ้ ดอมดมอย่างหลงใหล แล้วกระหวัดปลายลิ้นชิมรสที่ยอดอ่อนสีชมพูข้างขวา ใช้ฝ่ามือใหญ่แต่ไม่หยาบกร้านเพราะไม่เคยผ่านงานหนัก คลึงเคล้นที่เต้าข้างซ้ายพร้อมกับเขี่ยเบา ๆ ที่ยอดอ่อนไปด้วยโชติรสรู้สึกสยิวไปทั่วทั้งเรือนร่าง โดยเฉพาะบริเวณทรวงอกอวบอิ่ม เหมือนอกจะแตกตายเสียให้ได้ เมื่อถูกเขากระทำในสิ่งที่ไม่เคยได้สัมผัสมาก่อนในชีวิต ได้แต่หอบหายใจสะท้าน ส่งเสียงครวญครางแผ่ว ๆ ผ่านลำคอ มันเป็นความทรมานที่ไม่อยากให้หยุดอยู่เพียงแค่นี้ อยากรู้ว่าต่อไปจะซาบซ่านได้อีกแค่ไหน มือบางลูบไล้ไปทั่วเรือนร่างถึกที่บึกบึนไปด้วยมัดกล้าม ที่เคยบอกว่าเกลียด เพราะไม่สามารถอยู่นิ่งได้ และเผลอเปล่งเสียงออกมาอย่างไม่อาย เมื่อถูกปลายลิ้นอุ่นลากไปทั่วหน้าท้อง เธอถึงกับถีบตัวหนีเพราะทนความเสียวสะท้านไม
บทที่ 8เขายักคิ้วพร้อมกับไหวไหล่อย่างน่าหมั่นไส้ใส่เธอ ใบหน้ายังดูสุขุมนุ่มลึกไม่แสดงความรู้สึกที่แท้จริง“คุณต้องการอะไรจากผมบ้างล่ะ”“ห้ามนอนห้องเดียวกับพี่สาวฉัน ห้ามแตะต้องเธอ ฉันขอคุณแค่นี้แหละ”“สิ่งที่คุณขอมันมากเกินไปสำหรับคนที่แต่งงานกันแล้ว แต่ผมอาจจะหาทางออกได้ถ้ามีข้อแลกเปลี่ยนดี ๆ คุณลองเสนอมาสิสาวน้อย” เขารบเร้าเอาคำตอบโชติรสแสลงหูกับคำว่าสาวน้อยของเขายิ่งนัก แต่ก็ต้องทนข่มอารมณ์เอาไว้เพราะการเจรจายังไม่ยุติ.. ข้อแลกเปลี่ยนที่สมน้ำสมเนื้อ เหมาะกับลูกเศรษฐีแบบเขามันมีอะไรบ้างล่ะ“ยกเว้นพี่สาวฉัน คุณชอบผู้หญิงไทยไหม” เธอลองถามหยั่งเชิง“ผมไม่ได้ชอบพี่สาวคุณเลยนะสาวน้อย เธอไม่ใช่สเป็กของผมสักนิดเดียว เราก็แค่เป็นคู่ที่เหมาะสมกัน เอื้อประโยชน์ทางธุรกิจต่อกันเท่านั้น ซึ่งผมก็พอรับได้” เขาชี้แจงให้เธอเข้าใจให้ถูกต้อง กระตุ้นให้เธอยิ่งรู้สึกไม่อยากให้เขาได้ร่วมห้องกับพี่สาวของเธอ “แต่ถ้าถามว่าเจอสาวไทยที่ถูกใจบ้างไหม ก็มีนะ”
บทที่ 7เมื่อส่งตระกูลเข้าไปปรับความเข้าใจกับพี่สาวสำเร็จ เธอก็รีบกลับไปที่ห้องของตัวเองเพื่อเจรจากับเจ้าบ่าวของพี่สาวบ้าง แต่ก็เจอกับมารดาระหว่างทางเสียก่อน“คุณพ่อบอกว่าหนูกลับมาแล้วแม่ก็เลยขึ้นมาหา”“คุณแม่มีอะไรหรือเปล่าคะ” เธอจะให้มารดาอยู่ข้างบนนี้ไม่ได้เด็ดขาด “เราลงไปคุยกันข้างล่างดีกว่าค่ะ”“แม่ไม่สะดวกคุยข้างล่างหรอกลูก เรื่องนี้แม่ร้อนใจอยากบอกให้ลูกรู้ อยากให้ลูกเข้าไปคุยกับพี่นุ่มสักหน่อย”“เรื่องอะไรเหรอคะคุณแม่”“แม่แอบเห็นพี่นุ่มของลูกร้องไห้ แม่คิดว่าพี่เขายังรักตระกูลอยู่นะ” มารดาเล่าให้ลูกสาวคนเล็กฟังตามที่เห็น“จริงเหรอคะคุณแม่” คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันด้วยความเคร่งเครียด เมื่อได้ยินเรื่องที่มารดาเล่า“จริงจ้ะลูก แม่ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมนุ่มเขาถึงอยากแต่งงานกับไบรอัน เขามีปัญหากับตระกูลหรือเปล่าแม่อยากรู้ ลูกลองไปคุยกับพี่เขาดูนะ ตอนนี้พวกเขายังไม่ได้จดทะเบียน ถ้าพี่เขาอยากเปลี่ยนใจแม่จะช่วยเต็มที่” สุริสามอบหมายหน้าที่ให้ลูกสาวคนเล็กเป็นคนจัดการ เพราะคิดว่าพี่กับน้องคู่นี้รักกันมาก เปิดใจคุยกันจะง่ายกว่า“ได้ค่ะคุณแม่ ปล่อยเรื่องนี้ให้เป็นหน้าที่ของหนูนิ่มเถอะค่ะ ส่วนค