“เราควรทำหนังสือสัญญาต่อกัน” “ไม่จำเป็น หน้าที่ของคุณคือเป็นตัวแทนของลิก้า หน้าที่ของผมคือห้ามยุ่งกับลิก้า ดังนั้นคุณและผมแค่ทำหน้าของตัวเองอย่างเคร่งครัดหนังสือสัญญาก็ไม่มีความหมาย” “ถ้าฉันรู้ว่าคุณยุ่งกับพี่สาวของฉันทั้งที่ฉันยอมคุณถึงขนาดนี้ เราได้เห็นดีกันแน่” เธอข่มขู่ “ผมไม่โง่เสียคุณไปหรอกยอดรัก คุณเด็ดกว่าเธอเป็นไหนๆ” “อย่ามาหยาบคายกับฉัน ไสหัวออกไปจากห้องฉันได้แล้ว” เธอหยิบหมอนปาใส่คนปากเปราะนัยน์ตาลามกด้วยความอับอายระคนโกรธแค้น
View Moreบทที่ 1
รัฐออนแทรีโอ ประเทศแคนาดา
“ผู้หญิงพวกนี้มาจากสามครอบครัวที่พ่ออยากร่วมลงทุนทำธุรกิจด้วย แกเลือกมาสักคนก็แล้วกัน ที่เหลือพ่อจะจัดการต่อเอง” โรเบิร์ตวางภาพถ่ายหญิงสาวห้าใบลงบนโต๊ะทำงานทางฝั่งที่ลูกชายนั่งอยู่
หนุ่มหล่อวัยย่างสามสิบห้านามว่าไบรอัน ไม่เหลียวไปมองแม้เพียงหางตา แสดงเจตนารมณ์ให้บิดาให้รู้ชัดเจน ว่าเขานั้นไม่พอใจกับการกระทำของท่านมาก
ผู้เป็นบิดามองลูกชายหัวแก้วหัวแหวนแล้วสูดลมหายใจอย่างหนักอก เขาไม่ได้อยากจะบังคับจิตใจลูกชายแบบนี้ แต่ถ้าเขาไม่ทำทุกอย่างที่วางแผนไว้ก็ต้องพัง
“ไบรอัน”
“ไม่จำเป็นต้องแต่งงานเราก็ทำธุรกิจได้นี่ครับ”
“ได้แต่มันไม่ง่าย กฎหมายหลาย ๆ อย่างมันยุ่งยากสำหรับคนต่างด้าว การแต่งงานคือวิธีที่ยุ่งยากน้อยที่สุด และเอื้อประโยชน์ได้มากที่สุดไบรอัน” บิดาพยายามเอาเรื่องงานมาอ้างเพื่อชักจูงลูกชายให้ทำตาม
“แต่ผมยังไม่อยากแต่งงาน ผมอยากใช้ชีวิตเพลย์บอยต่อไปอีกสักพัก พ่อควรลืมเรื่องนี้ไปซะ”
“ถ้าพี่สาวของลูกเป็นผู้ชาย พ่อคงไม่บังคับลูกแบบนี้หรอกไบรอัน” เขารู้ว่าลูกชายหัวแก้วหัวแหวนคนนี้รักชีวิตอิสระ ไม่ชอบการผูกมัด ไม่ชอบถูกแสดงความเป็นเจ้าของมาแต่ไหนแต่ไร แต่ตอนนี้ถึงเวลาที่ต้องปักหลักจริงๆ จังๆ เสียทีเพราะอายุก็เริ่มมากขึ้น
“ถึงไบรโอนี่จะเป็นผู้ชายก็คงไม่พ้นผมอยู่ดี เพราะเธอแต่งงานไปสิบปีแล้ว” เขาพูดเตือนบิดาที่ทำเหมือนเขาไม่รู้ทันท่าน “ทำไมพ่อไม่ให้ไบรท์แต่งแทนล่ะ” และโยนภาระทั้งหมดไปที่น้องชายต่างมารดา มองท่านด้วยสายตาอ้อนวอน
“แกจะบ้าหรือไงไบรอัน ไบรท์เพิ่งจะอายุสิบหกเท่านั้น ฉันให้แกแต่งงานเพื่อธุรกิจนะ ไม่ได้แต่งเพื่อตอบแทนบุญคุณของใคร” โรเบิร์ตตำหนิลูกชายที่ไม่ต้องการแต่งงานจนขาดเหตุผล
“แต่ผมไม่อยากแต่งนี่พ่อ” เขาเริ่มเสียงดังและแสดงอารมณ์ออกมามากขึ้น
“แกต้องแต่งนี่คือคำสั่ง ถ้าแกไม่แต่งฉันจะถือว่าแกทำลายตระกูลของเรา ตระกูลที่ฉันเพียรสะสมชื่อเสียงมาด้วยสองมือนี้” บิดาแบมือออกไปข้างหน้าแล้วจ้องตาลูกชาย “ทุกอย่างที่ฉันทำก็เพื่อแกรู้เอาไว้ด้วย เพราะแกคือดวงใจของฉัน”
“ผมไม่เชื่อ!” เขาเสียงดังยิ่งกว่าเดิม
“ไบรโอนี่ไม่ใช่พี่สาวแท้ ๆ ของแก เธอเป็นลูกที่แม่แกขอมาเลี้ยง เพราะคิดว่าไม่สามารถมีลูกของตัวเองได้” เป็นครั้งแรกและครั้งเดียวที่โรเบิร์ตคิดจะพูดเรื่องนี้ เพราะไม่อยากให้ลูกสาวคนโตหรือแม้แต่ภรรยาใหม่รู้เรื่องนี้ “พ่อกับแม่แต่งงานกันมาหลายปีแต่ไม่มีลูก แม่แกจึงขอไบรโอนี่มาจากบ้านเด็กกำพร้า แต่หลังจากนั้นหกเดือนเขาก็ตั้งท้องแก หลังจากคลอดแก แม่แกก็เจ็บออด ๆ แอด ๆ มาตลอด จนแกอายุสิบสองแม่แกก็จากไป แต่ก่อนที่จะจากไปแม่แกได้ฝากฝังให้ฉันดูแลแก สร้างอนาคตที่ดีให้กับแกให้มากที่สุด เพราะเขารักและเป็นห่วงแกมาก” พูดจบก็หยิบจดหมายฉบับหนึ่งที่เก็บรักษาไว้อย่างดีในลิ้นชักยื่นให้ลูกชาย
ชายหนุ่มรับจดหมายจากบิดาแล้วเปิดอ่าน
ที่รัก
ฉันรู้ว่าสิ่งที่ฉันขอต่อไปนี้อาจจะทำให้คุณลำบากใจในอนาคต แต่ที่ฉันขอร้องคุณเรื่องนี้ ก็เพราะฉันรู้ตัวดีว่าฉันจะมีชีวิตเคียงคู่ไปกับคุณได้อีกไม่นาน ได้โปรดดูแลลูกชายของเราให้ดีที่สุด สร้างอนาคตให้เขาแทนฉันด้วยนะคะที่รัก ฉันคงตายตาไม่หลับ ถ้ารู้ว่าลูกชายของเรามีชีวิตอยู่บนความไม่มั่นคงเหมือนเรา ฝากดูแลเขาต่อจากฉันด้วยนะคะที่รัก
เอลเลน
“เมื่อก่อนพ่อทำงานอะไร” เขาพับจดหมายเก็บที่เดิมอย่างทะนุถนอม ถามด้วยน้ำเสียงสั่นเครือเล็กน้อย
“ค้าของผิดกฎหมายตามใบสั่ง เป็นสายให้ตำรวจ” บุรุษวัยหกสิบเศษยอมเปิดเผยความจริงเพราะคิดว่าลูกจำเป็นต้องรู้ “พ่อเป็นเด็กจรจัด ไม่รู้จักครอบครัวของตัวเองด้วยซ้ำ ส่วนแม่แกมาจากครอบครัวที่ดีที่ล้มละลาย เธอต้องเริ่มต้นทำงานหาเงินเพื่อส่งเสียตัวเองเรียนหลังจากนั้น และเราก็ได้เจอกันบ่อย ๆ จนกลายเป็นความรัก
เราตัดสินใจใช้ชีวิตคู่ด้วยกันทั้งที่ครอบครัวของเธอไม่เห็นด้วย เราลำบากมากตอนนั้น แต่แม่แกก็ไม่เคยตำหนิพ่อที่พาเธอมาลำบาก เธอดูแลพ่อด้วยความรักและคอยให้กำลังใจ เธอทำงานหนักกว่าพ่อโดยไม่บ่นสักคำ นั่นอาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้แม่แกสุขภาพไม่ดี แต่เธอก็ไม่เคยบอกหรือแสดงให้พ่อเห็นสักครั้ง” เขามองหน้าลูกชายอย่างสำนึกผิดพร้อมกับน้ำตาคลอเบ้า
“หลังจากนั้นพ่อก็เข้าสู่ธุรกิจมืดใช่ไหม” เขาเห็นความเจ็บปวดจากสายตาของบิดา ไม่ได้นึกโกรธที่ท่านคือต้นเหตุที่ทำให้มารดาจากไปเร็ว เพราะเข้าใจดีว่าท่านไม่ได้ต้องการให้เป็นแบบนั้น
“ใช่ แต่แม่แกไม่รู้เพราะพ่อโกหกเธอมาตลอด เราเริ่มมีเงินเก็บมากขึ้น ซื้อบ้าน ซื้อความสะดวกสบายได้ทุกอย่าง แล้วความจริงก็มาเปิดเผยตอนที่พ่อต้องเข้าไปอยู่ในคุก เพื่อเป็นสายให้ตำรวจ ตอนนั้นลูกอายุได้ห้าขวบ แม่ของลูกดิ้นรนที่จะช่วยพ่อออกมาจากคุกให้ได้ เพราะคิดว่าตำรวจจับผู้บริสุทธิ์ พ่อจึงตัดสินใจเล่าเรื่องทั้งหมดให้เธอฟัง พ่ออยู่ในคุกเกือบสองปีถึงถูกปล่อยตัวออกมา ตอนที่อยู่ในคุกพ่อเรียนรู้อะไรหลาย ๆ อย่างจากที่นั่น เมื่อออกมาแล้วพ่อจึงเริ่มมองหาอาชีพสุจริต พ่อเริ่มทำธุรกิจที่ถูกกฎหมายเป็นครั้งแรก โดยการช่วยเหลือของนายตำรวจใหญ่ท่านหนึ่ง”
“เขาก็คือพ่อของคริสติน” ชายหนุ่มเอ่ยถึงมารดาเลี้ยงผู้แสนดี ที่อายุห่างกับบิดาถึงสามสิบปี
บิดาพยักหน้ารับ “เราเจอกันครั้งแรกในงานศพแม่ของลูก หลังจากนั้นเธอก็คอยมาช่วยดูแลลูกกับพี่สาวอยู่เสมอ พ่อตัดสินใจแต่งงานกับเธอหลังจากนั้นอีกสองปี เมื่อเห็นว่าเธอรักและเอาใจใส่แกกับพี่สาวด้วยความจริงใจ หลังจากแต่งงานกับเธอแล้ว พ่อของเธอก็ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือเรื่องธุรกิจมากขึ้น จนบริษัทรีไซเคิลของเรากลายเป็นบริษัทที่ใหญ่อันดับหนึ่งของประเทศ แต่ลูกรู้อะไรไหม...”
บทที่ 5“ถ้าเหตุผลทางธุรกิจมันบังคับล่ะ” นวพลมองเพื่อนรักที่นิ่งเงียบเป็นครั้งแรกตั้งแต่พูดเรื่องนี้กัน ถึงแม้เธอจะเป็นคนดื้อรั้นและเอาแต่ใจตัวเอง แต่สิบหกปีที่เป็นเพื่อนกันมา ทำให้เขารู้ว่าเธอเป็นคนแข็งนอกแต่อ่อนใน ปากร้ายแต่ใจดี เธอมีเหตุผล มีน้ำใจและเอาใจใส่ต่อคนรอบข้างเสมอ “แกก็คิดซะว่าพี่นุ่มเขาแต่งงานแทนแกก็แล้วกันนะนิ่ม แกจะได้เลิกโกรธพี่เขา”“แต่งแทนฉันทำไม ฉันโตพอที่จะแต่งงานได้แล้วเหมือนกัน” เธอเริ่มเอะใจเมื่อได้ยินคำพูดของเพื่อน หรือว่ามันจะเป็นแบบนั้นจริง ๆ“เมื่อกี้แกยังบอกว่าไม่อยากแต่งอยู่เลยนะ”“ก็แกมาพูดให้ฉันคิดทำไมล่ะ” ท่อนขายาวแต่ไม่ค่อยเรียวยกขึ้นหมายจะยันใส่เพื่อนหนุ่ม แต่โทรศัพท์มือถือของเธอดังขึ้นเสียก่อน จึงต้องเปลี่ยนใจไปหยิบโทรศัพท์แทน “พี่กูลโทรมา” เธอปั้นหน้าเครียดเพราะสังหรณ์ใจว่าจะไม่ใช่เรื่องดี “ปิ่นรับสายแทนนิ่มหน่อยสิ บอกว่านิ่มเข้าห้องน้ำก็ได้”ปรียากรที่นั่งเงียบมาตลอดถูกยัดโทรศัพท์ใส่มือ หล่อนจึงกดรับสาย กรอกเสียงทักทายสวัสดีลงไปและพูดตามที่โชติรสบอก“ได้ค่ะ รอสักครู่นะคะ” เธอเอามือปิดลำโพงแล้วขยับปากพูดแทบไม่มีเสียง “พี่เขาบอกว่าให้ฉันเรียกแกให้หน
บทที่ 4“พี่นุ่มใจดำ พี่นุ่มใจร้าย พี่นุ่มเห็นแก่เงินจนลืมความรักความจริงใจของพี่กูล นิ่มอยากรู้นักว่าไอ้ผู้ชายคนนั้นมันเป็นใคร”“อาทิตย์หน้านิ่มได้รู้จักว่าที่พี่เขยของนิ่มแน่” อย่าว่าแต่น้องสาวเลยที่อยากเห็นชายหนุ่มคนนั้น แม้แต่เธอก็ยังไม่เคยเห็นหน้าเขาแม้แต่ในรูปถ่าย เพราะไม่อยากพบอยากเห็นนั่นเอง แต่อาทิตย์หน้าก่อนที่จะถึงวันแต่งงาน ครอบครัวของทั้งสองฝ่ายจะมีการนัดเจอกัน วันนั้นก็คงได้รู้จักกันเป็นครั้งแรก และอีกครั้งก็คือวันแต่งงานที่จะมีขึ้นหลังจากนั้นอีกสามวัน “เตรียมตัวทำความรู้จักเขาให้ดีก็แล้วกัน”“นิ่มไม่อยากรู้จักเขา และขอบอกไว้เลยว่านิ่มจะไม่ญาติดีกับเขาด้วย”“ถ้านิ่มอยากทำให้พ่อแม่และพี่เสียใจก็เชิญทำไปเลย เพราะนิ่มชอบทำอะไรตามใจตัวเองอยู่แล้วนี่” โชติกากล่าวเสียงเครือและมีน้ำตาคลอเบ้า เจ็บปวดที่ต้องพูดจารุนแรงกับน้องสาวสุดที่รักเพียงคนเดียว เธอรีบหันหน้าหนีแล้วเดินจากไปก่อนที่น้ำตาจะไหลอาบแก้ม“พี่นุ่ม” โชติรสเห็นแววเจ็บปวดในดวงตาคู่สวยของพี่สาวชัดเจน ขณะนั้นใจของเธอคิดทันทีว่าพี่สาวต้องมีความลับที่ปิดบังเอาไว้ แต่มันเรื่องอะไรกันล่ะ ที่ทำให้พี่สาวเธอถึงกับยอมแต่งงานกับค
บทที่ 3“เรื่องนั้นไม่มีปัญหา เราตกลงกับฝ่ายชายแล้วว่าจะจัดงานแต่งงานเล็ก ๆ ภายในครอบครัว และจดทะเบียนสมรสกันก่อน รอให้น้องเรียนจบแล้วค่อยจัดงานเลี้ยงฉลองอย่างยิ่งใหญ่อีกที”“แล้วน้องนิ่มว่ายังไงบ้างคะ เธอยอมเหรอคะ” พี่สาวถามถึงน้องสาวเพียงคนเดียวที่อายุห่างกันถึงแปดปี“เรื่องนั้น...” บิดาอ้ำอึ้ง รู้สึกหนักใจกับปัญหานี้มากกว่าทุกเรื่อง “พ่อยังไม่ได้คุยกับน้องเลยลูก”“น้องยังไม่ครบยี่สิบเลยนะคะคุณพ่อ”“กว่าจะถึงวันแต่งงานก็ครบยี่สิบพอดีแหละลูก” ความจริงเขาก็รู้ว่าลูกสาวคนเล็กยังเด็กเกินไป แต่เพื่ออนาคตและรากฐานที่มั่นคงของเธอ เขาจึงเห็นดีด้วยกับการแต่งงานนี้“นุ่มไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้ค่ะ น้องยังเด็กเกินไปที่จะแต่งงาน ถ้าต้องแต่งจริง ๆ นุ่ม..นุ่ม..จะแต่งแทนน้องเองค่ะ”โชติมองหน้าลูกสาวคนโตด้วยอาการตื่นตกใจ ก่อนจะเอ่ยปากถามด้วยความเป็นห่วงเป็นใย เพราะมองเห็นความรู้สึกวังเวงสิ้นหวังซ่อนอยู่ในแววตาของเธอ“เกิดอะไรขึ้นหนูนุ่ม บอกกับพ่อมาตรง ๆ สิลูก หรือว่าตระกูลเขามีคนอื่น” ท่านถามในสิ่งที่ไม่คิดว่าจะเป็นไปได้ เพราะรู้จักคนรักของลูกสาวมานานหลายปี และเขาก็เป็นคนเสมอต้นเสมอปลายมาตลอด“ทำไมค
บทที่ 2“อะไรเหรอครับ”“ยิ่งใหญ่เท่าไหร่ก็ยิ่งทำให้พ่อรู้สึกว่ามันไม่ใช่ของลูกโดยแท้จริง คุณตาของไบรท์มักจะพูดว่าบริษัทนี้คือสิ่งที่เขาทำเพื่อไบรท์ นั่นก็หมายความว่าพ่อจะให้ลูกเป็นผู้บริหารระดับสูงสุดไม่ได้ ถึงทำได้พ่อก็รู้สึกไม่สบายใจสักนิด พ่อไม่อยากให้ลูกถูกครหาไม่ว่าด้วยเหตุผลใด พ่อจึงวางแผนหาสิ่งที่ดีที่สุดให้ลูก พ่อจ้างนักวิเคราะห์ให้ทำการวิเคราะห์ตลาดทั่วโลกมาหลายปี และสรุปได้ว่าประเทศไทยกับประเทศอินเดียคือประเทศที่เหมาะแก่การลงทุนมากที่สุด”“ผมไม่แต่งงานกับผู้หญิงอินเดียนะพ่อ ให้ตายผมก็ไม่เอาเด็ดขาด ผมเกลียดประเทศที่แบ่งชนชั้นวรรณะ ผมอยู่ที่นั่นไม่ได้หรอกครับ” เขารีบปฏิเสธด้วยน้ำเสียงและสีหน้าที่เคร่งเครียด“พ่อรู้ว่าลูกต้องมีอาการแบบนี้ พ่อจึงตัดสินใจเลือกประเทศไทย และลูกก็ต้องช่วยพ่อสานฝันของแม่ลูกด้วย” บิดาชี้ไปที่รูปหญิงสาวทั้งห้าใบ “เลือกมาสักคนที่ลูกพอใจ อีกสามเดือนลูกจะต้องแต่งงานกับเธอ”“ผมไม่เลือกเพราะผมไม่อยากแต่งงาน ผมยังไม่อยากมีเมีย ผมอยากมีแค่คู่นอนในบางครั้งบางคราวเท่านั้น” ถึงแม้จะซึ้งใจอยู่บ้าง แต่เขาก็ยังไม่อยากแต่งงานอยู่ดีบิดาเริ่มโมโหในความดื้อรั้นของลูกช
บทที่ 1รัฐออนแทรีโอ ประเทศแคนาดา“ผู้หญิงพวกนี้มาจากสามครอบครัวที่พ่ออยากร่วมลงทุนทำธุรกิจด้วย แกเลือกมาสักคนก็แล้วกัน ที่เหลือพ่อจะจัดการต่อเอง” โรเบิร์ตวางภาพถ่ายหญิงสาวห้าใบลงบนโต๊ะทำงานทางฝั่งที่ลูกชายนั่งอยู่หนุ่มหล่อวัยย่างสามสิบห้านามว่าไบรอัน ไม่เหลียวไปมองแม้เพียงหางตา แสดงเจตนารมณ์ให้บิดาให้รู้ชัดเจน ว่าเขานั้นไม่พอใจกับการกระทำของท่านมากผู้เป็นบิดามองลูกชายหัวแก้วหัวแหวนแล้วสูดลมหายใจอย่างหนักอก เขาไม่ได้อยากจะบังคับจิตใจลูกชายแบบนี้ แต่ถ้าเขาไม่ทำทุกอย่างที่วางแผนไว้ก็ต้องพัง“ไบรอัน”“ไม่จำเป็นต้องแต่งงานเราก็ทำธุรกิจได้นี่ครับ”“ได้แต่มันไม่ง่าย กฎหมายหลาย ๆ อย่างมันยุ่งยากสำหรับคนต่างด้าว การแต่งงานคือวิธีที่ยุ่งยากน้อยที่สุด และเอื้อประโยชน์ได้มากที่สุดไบรอัน” บิดาพยายามเอาเรื่องงานมาอ้างเพื่อชักจูงลูกชายให้ทำตาม“แต่ผมยังไม่อยากแต่งงาน ผมอยากใช้ชีวิตเพลย์บอยต่อไปอีกสักพัก พ่อควรลืมเรื่องนี้ไปซะ”“ถ้าพี่สาวของลูกเป็นผู้ชาย พ่อคงไม่บังคับลูกแบบนี้หรอกไบรอัน” เขารู้ว่าลูกชายหัวแก้วหัวแหวนคนนี้รักชีวิตอิสระ ไม่ชอบการผูกมัด ไม่ชอบถูกแสดงความเป็นเจ้าของมาแต่ไหนแต่ไร แต่ต
Comments