วิลลาหรูตกแต่งพิถีพิถันที่ซ่อนตัวอยู่กลางทัศนียภาพน่าทึ่งบนพื้นที่กว่าสิบไร่ของสวนมะพร้าวทางภาคใต้ของประเทศไทยที่อยู่ภายใต้ร่มเงาหน้าผาหินปูนสูงตระหง่าน และมีหาดทรายละเอียดโอบล้อมทะเลสีมรกตแห่งอันดามันไว้อย่างงดงามเป็นสมบัติที่ เดวิด ริคาร์โด บิดาของคีแรน ริคาร์โด เจมส์ หรือ คาร์ล ซื้อให้กับภรรยาใหม่ชาวไทย
คีแรนกับบิดาขาดการติดต่อกันนานกว่าครึ่งปีเพราะอาชีพช่างภาพกับการทำงานใหญ่ระดับโลกของคีแรนทำให้เขาเพิ่งทราบว่าเดวิดแต่งงานใหม่กับม่ายสาวชาวไทยมากว่าสามเดือนแล้วจากโจแอนนา อดีตพี่เลี้ยงสมัยเยาว์วัยซึ่งปัจจุบันทำหน้าที่เป็นหัวหน้าแม่บ้านคอยดูแลวิลลาเก่าแก่ของครอบครัวริคาร์โดในแคว้นทัคคานี
คีแรนไม่ได้สนใจเรื่องการแต่งงานใหม่ของบิดามากนักแต่เขาสนใจวิลลาหรูกลางทัศนียภาพงดงามแห่งทะเลอันดามันทางตอนใต้ของประเทศไทยมากกว่า เสียงร่ำลือถึงความงามไม่เป็นสองรองที่ใดในโลกของท้องทะเลอันดามันจากคำบอกเล่าของราฟาเอลโล่ ญาติผู้พี่ทำให้คีแรนใคร่อยากไปเห็นด้วยตาตัวเอง
เขาอยากรู้ว่าเมืองไทยและผู้หญิงไทยมีเสน่ห์อย่างไรจึงสามารถครองใจญาติผู้พี่ที่เคยลั่นวาจาว่าไม่มีวันสนใจผู้หญิงไทยอย่างแน่นอนทำให้ เขาสงสัยว่าสาวไทยมีดีอะไรถึงทำให้อสูรร้ายแห่งอัลแบร์โตผิดสัจจะที่เคยลั่นวาจาไว้ เช่นเดียวกับเดวิด บิดาของเขาไม่เคยคิดที่จะมีภรรยาใหม่ กระทั่งได้พบกับม่ายสาวชาวไทยที่จับใจเดวิดได้อยู่มือ คีแรนจึงตกลงใจจะใช้วิลลาหลังงามเป็นที่ทำงานโปรเจ็กต์ชิ้นใหม่ เขาเลือกทำงานพิเศษชิ้นนี้ในประเทศไทย เพราะอยากมาสัมผัสความมีเสน่ห์ของผู้คนที่ประเทศนี้ด้วยตัวเองสักครั้ง
คีแรนทำงานต่อเนื่องมานานหลายชั่วโมง ตั้งแต่พระอาทิตย์เพิ่งโผล่พ้นขอบฟ้ากระทั่งเคลื่อนมาอยู่ตรงศีรษะเผง เขากดชัตเตอร์เก็บภาพนางแบบสายเลือดชิชิลีอยู่ท่ามกลางทีมงานนับสิบที่ยืนกระจายกันทำตามหน้าที่ของตนอยู่ด้วยกันกว่าครึ่งวัน ไอร้อนจากแสงอาทิตย์ทำให้ใบหน้าทุกคนชื้นไปด้วยเม็ดเหงื่อ เนื้อตัวที่ชุ่มโชกหยดเหงื่อไม่ใช่อุปสรรคในการทำงานของทุกคน
แสงอาทิตย์กับไอร้อนจากเปลวแดดที่แผดจ้าทำให้อารมณ์ของนางแบบสาวไม่ผ่องแผ้วนัก ความอ่อนล้าผสมผสานความหงุดหงิดส่งผ่านออกมาทางสายตากับกิริยาท่าทางของเธอ ใบหน้าของเธอบึ้งตึง อารมณ์ที่ไม่ปกติทำให้หญิงสาวเผลอเหวี่ยงวีนทีมงานอยู่เนือง ๆ จนแอนโทนี่สัมผัสได้ถึงความไม่พอใจเป็นริ้ว ๆ บนสีหน้าของคีแรน เขาจึงรีบขยับเข้ามากระซิบแก้ต่างแทนนางแบบสาว
“คาร์ล ผมว่าเราควรพักได้แล้วนะ แล้วพรุ่งนี้เราค่อยเริ่มทำงานกันใหม่ดีไหม นี่ก็เลยเวลาอาหารเที่ยงมานานแล้ว โมนิกาน่าจะหิวเอามาก ๆ เลยทีเดียว” แอนโทนี่เอ่ยเตือนนายจ้างพลางเหลืบตาชำเลืองมองใบหน้าแสดงอารมณ์ของนางแบบสาวอย่างเหนื่อยหน่าย
“โอเค...เราจะพัก แต่นายไปบอกสเตล่าให้จองตั๋วเครื่องบินกลับอิตาลีให้โมนิกได้เลย พอเขาหายเหนื่อยก็ให้ใครช่วยไปส่งเขาที่สนามบินด้วย ส่วนนายมีหน้าที่หานางแบบคนใหม่ที่มีความอดทนมากกว่านี้มาให้ฉันให้ได้ภายในวันพรุ่งนี้” คีแรนเอ่ยอย่างมึนตึงขณะจัดเก็บอุปกรณ์ของตน
“ดิโอ! คุณจะให้ผมส่งโมนิกกลับและหานางแบบใหม่ที่ไหนมาให้คุณได้ทันในวันพรุ่งนี้ฮะคาร์ล ผมว่าคุณให้เธอพักสักชั่วโมงสองชั่วโมง แล้วผมจะตักเตือนไม่ให้เธอทำให้คุณระคายใจอีก ให้โอกาสเธอแก้ตัวสักครั้งจะได้ไหม”
แอนโทนี่รู้ดีว่าคีแรนไม่พอใจที่โมนิกาไม่รู้จักควบคุมอารมณ์ แต่เขาค่อนข้างเห็นใจนางแบบสาวที่ต้องอดทนอยู่กลางอากาศร้อนอบอ้าวติดต่อกันเป็นเวลานานกว่าครึ่งวันโดยไม่ได้หยุดพักเช่นนี้
“นายทำงานกับฉันมานานแค่ไหนแล้วโทนี่ นายน่าจะรู้ว่าฉันเป็นคนยังไง” คีแรนเอ่ยอย่างไม่ยินดียินร้ายขณะที่ยังไม่หยุดมือจากการทำงานในส่วนของตน
“ผมรู้คาร์ล แต่ที่มีมันเมืองไทย คุณจะให้ผมส่งโมนิกกลับมันไม่ใช่ เรื่องยาก แต่จะให้หานางแบบคนใหม่ให้คุณภายในวันพรุ่งนี้นี่สิ”
แอนโทนี่ถอนใจพรืด เขารู้สึกยุ่งยากใจจนต้องร้องเรียกหาพระเจ้าเลยทีเดียว
“ดิโอ!...มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะ”
“เอเจนซี่ในเมืองไทยเยอะแยะ ฉันไม่เชื่อว่านายจะหานางแบบที่มีลักษณะตามที่ฉันต้องการมาไม่ได้...ฉันเชื่อมือนายโทนี่”
“ใช่คาร์ล เอเจนซี่ในไทยมีเยอะ แต่ว่านางแบบลักษณะอย่างที่คุณต้องการไม่ใช่ว่าจะหากันได้ง่าย ๆ แค่ข้ามคืนนะคาร์ล คุณกำลังทำให้ผมรู้สึก ยุ่งยากใจมากรู้ไหมท่านเคาท์” แอนโทนี่เสยผมที่ตกลงมาปรกหน้าเพราะแรงลมพลางบ่นกระปอดกระแปด แดกดันคนที่เป็นทั้งเพื่อนและนายจ้างในท้ายประโยค
คีแรนรู้ว่าถูกเพื่อนประชด เขาเงยหน้ามองตาแอนโทนี่แล้วเอ่ยสรุปอย่างที่อีกฝ่ายไม่สามารถปฏิเสธได้อีก “ตกลง...ฉันจะยอมหยุดงานนี้ไว้ 2 สัปดาห์ ให้นายหานางแบบคนใหม่ หวังว่านายจะไม่ทำให้ฉันผิดหวัง สองสัปดาห์ข้างหน้าฉันต้องได้นางแบบคนใหม่มาแทนโมนิกา”
แอนโทนี่ถอนใจยาวพลางโค้งกายรับคำสั่งด้วยท่าทางประชดประชัน “ในเมื่อคุณตัดสินใจแล้ว คำสั่งของคุณก็ศักดิ์สิทธิ์เสมอท่านเคาท์ ผมไม่ทำตามจะได้เหรอคาร์ล”
“นายเข้าใจก็ดีแล้ว”
คีแรนไหวไหล่และหันไปคว้าอุปกรณ์ส่วนตัว เตรียมจะเดินกลับวิลลา แต่นึกได้ว่าลืมบอกแอนโทนี่อีกเรื่องจึงหันกลับมาสั่งด้วยน้ำเสียงเรียบเรื่อย
“ถ้าทุกคนเก็บข้าวของเสร็จ นายพาพวกเขาไปพักที่ในเมืองได้เลย เคลียร์งานที่ค้างอยู่ให้เรียบร้อย แล้วอย่าลืมติดต่อการ์โน บอกเขาด้วยว่าฉันขอเลื่อนกำหนดส่งงานไปอีกสองสัปดาห์ ระหว่างนี้ถ้าไม่มีธุระด่วน จริง ๆ ไม่ต้องมารบกวนฉัน”
“ขอรับใต้ท้าว” แอนโทนี่โค้งตัวน้อมรับคำสั่งนายจ้างอย่างประชดประชัน
พินอินเงยหน้า กระพริบตาปริบ ๆ ใส่สามีแล้วถามขึ้นอย่างประหลาดใจ ขณะที่คนถูกถามรีบส่ายหน้าเป็นการปฏิเสธว่าตนเองก็ไม่รู้เรื่องนี้เช่นเดียวกัน ความสงสัยใคร่รู้ของพินอินทำให้คีแรนเดือดร้อนอย่างหนัก เพราะคำสั่งของภรรยาสาวที่สั่งให้เขาเข้าไปเรียบเคียงสืบข่าวมาจากพิมพ์พรโดยข่มขู่เขาว่าหากทำไม่สำเร็จ นำข่าวมาบอกเธอไม่ได้ คืนนี้เธอจะไม่ยอมให้เขาแตะต้องตัวเธออย่างเด็ดขาดเจ้าบ่าวทำหน้าเซ็งนิด ๆ ที่ถูกเจ้าสาวแก้แค้นเอาคืน ใช้เขาเข้าไปสอดแนมเรื่องของเพลงพิณ เหมือนอย่างที่เขาเคยใช้เงินหว่านล้อมจ้างให้เธอทำแบบเดียวกันกับสองแม่ลูกพินอินกวาดตามองรอบบ้านที่เต็มไปด้วยภาพความทรงจำแสนอบอุ่นอย่างตื้นตัน รู้สึกปลาบปลื้มที่เธอสามารถรักษาสมบัตินี้ไว้ได้ เธอมองกรอบรูปของแม่ที่แขวนอยู่ต่ำกว่ากรอบรูปของคุณตาซึ่งติดอยู่เหนือหิ้งสำหรับวางโกฐกระดูก กระถางธูป แจกันดอกไม้บนผนังตามอย่างที่พุทธศาสนิกชนชาวไทยส่วนใหญ่ถือปฏิบัติกันถ้าแม่กับคุณตายังอยู่กับหนูที่นี่ แม่กับคุณตาก็ไม่ต้องห่วงหนูกับคุณยายอีกแล้วนะคะ วันนี้หนูมีความสุขมาก คีแรนเขาสัญญาว่าจะดูแลหนูกับคุณยายแทนคุณตากับแม่เอง เรามีลูกชายด้วยกันคนหนึ่งแล้วนะคะ พว
“ดีเลียนโตอีกหน่อย ยายแก้วเขาคงจะอุ้มไปอวดทั่วเมืองแน่ ๆ” คุณยายจิตเอ่ยกลั้วหัวเราะชอบใจ“แค่ตอนนี้ดิฉันยังอยากจะอุ้มไปอวดคุณพลเธอเสียเลยค่ะป้าจิต” หญิงกลางคนเอ่ย“ไม่ต้องค่ะ” พินอินเผลอห้ามป้าแก้วเสียงแข็ง หน้าตาบึ้งตึงทันทีที่ได้ยินชื่อบุตรชายอาจารย์นิพนธ์เสียงขึงขังกับสีหน้าบึ้งตึงของพินอินทำให้ทุกคนหันมองเธออย่างสนใจ คีแรนสัมผัสได้ถึงความไม่พอใจในน้ำเสียงของพินอิน เขาจึงตั้งใจจะเก็บไว้ถามเธอเมื่ออยู่ด้วยกันลำพังว่าป้าแก้วพูดอะไรให้เธอขัดเคืองใจ“ขอโทษค่ะป้าแก้ว พินหวงลูกมากไปหน่อย พินคิดว่าตาหนูยังเล็กเลยยังไม่อยากจะพาแกไปไหนค่ะ”หญิงกลางคนยิ้มเจื่อนและรีบส่งทารกน้อยคืนให้กับพินอินที่ยื่นมือออกมาขอตัวลูกของเธอคืน ราวกับกลัวว่าคนสูงวัยจะพาลูกชายของเธอไปไหน“ป้าก็พูดไปอย่างนั้นเองแหละค่ะ”“พินขอตัวพาลูกไปนอนก่อนนะคะ”เธอกล่าวก่อนจะอุ้มลูกชายเดินตรงไปที่ห้องนอนของตน โดยมีคีแรนเดินตามไม่ห่างท่ามกลางสายตางงงันของป้าแก้วกับคุณยายจิต และทันทีที่วางลูกชายลงบนที่นอนเรียบร้อย คีแรนก็ถามเธอทันที“ป้าแก้วพูดอะไรให้เธอไม่พอใจอย่างนั้นรึ” เขาไม่เข้าใจบทสนทนาภาษาไทยระหว่างเธอกับป้าแก้วแต่จับน้
“ฉันอยากเห็นหน้าผู้หญิงคนนั้นเหลือเกินคาร์ล อยากรู้ว่าส่วนไหนของเธอที่ทำให้คุณคลั่งไคล้ได้ยาวนานขนาดนี้ แล้วคุณไม่เคยพบกับเธออีกเลยเหรอคะ” พินอินรอฟังคำตอบจากเขาอย่างจดจ่อ“เธอได้เห็นเด็กผู้หญิงคนนั้นอยู่ทุกวันอยู่แล้วคารา” เขากุมหน้าของเธอไว้พลางเอ่ยเฉลยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน“หื้ม...” เธอกระพริบตาเบา ๆ อย่างไม่เข้าใจ“เธอจำวันนั้นไม่ได้สินะ วันที่เธอช่วยเหลือเด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ คนหนึ่งกลางหิมะ เด็กผู้หญิงที่กำลังหิวโซแต่กลับไม่ได้รับการเหลียวแลจากใครนอกจากเธอพินอิน”ความทรงจำในอดีตหมุนวนตีกลับขึ้นเป็นภาพที่แสนพร่าเลือนอยู่ในหัวของพินอิน ขนอ่อนทั่วร่างกายของเธอลุกชันด้วยความตื่นกระจ่าง ดวงตากลมวาวเบิกโพลงขึ้นอย่างตื่นตะลึงทันทีที่ระลึกขึ้นได้ เด็กสาวที่เขาพูดถึงแท้จริงก็คือตัวเธอเองอย่างนั้นรึ...“โอ้...คาร์ล มันเป็นไปได้ยังไง”“มันคือพรหมลิขิต สวรรค์กำหนดให้เธอเกิดมาเพื่อเป็นของฉันคารา ฉันแทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง ตอนที่เห็นเธอหลับอยู่บนเตียงของฉันวันที่เราได้พบกันที่เมืองไทยเป็นวันแรก” เขายิ้มให้เธออย่างอ่อนโยน ไล้แก้มนุ่มด้วยปลายนิ้วและอดใจไม่ให้จูบเธอไม่ไหวจูบของคีแรนแผ่วเบาดุจขนนก พ
การเป็นช่างภาพฟรีแลนซ์ทำให้เขานึกอยากจะหยุดงานก็หยุดเฉยๆ เพื่อมาคอยเฝ้าอารักขาเธอยิ่งกว่าเป็นเทวดาประจำตัว ไม่ว่าพินอินจะขยับตัวไปทางไหนคีแรนต้องปรี่เข้าไปประคอง เธอจะหยิบจับทำอะไร เขาก็กุลีกุจอเข้ามาทำแทนราวกับกลัวเธอจะเป็นลมล้มพับกลางอากาศไปอีก เพราะตั้งแต่คราวนั้น คีแรนก็ไม่ยอมให้เธอทำขนมอีก เขาดูแลเธอยิ่งกว่าไข่ในหินด้วยเกรงว่าหากเธอหมดสติคราวนี้คงไม่โชคดีเหมือนคราวก่อนและอาจทำให้เกิดอันตรายกับตัวเธอเองและลูกในท้องได้ ดังนั้นแค่เธอเดินสะดุด คีแรนก็รีบเดินเข้ามาอุ้มเธอแล้วคุณยายของเธอกับแม่กาบก็พลอยเห็นดีเห็นงามให้คีแรนดูแลเธออย่างใกล้ชิด ทั้งสองเป็นคนแก่ที่ค่อนข้างหัวสมัยใหม่จึงไม่ตะขิดตะขวงใจกับการที่คีแรนย้ายตัวเองเข้ามานอนในห้องของพินอิน ทำตัวประหนึ่งเป็นคู่สามีภรรยา ทั้งที่เขากับเธอยังไม่ได้จัดการทำทุกอย่างให้ถูกต้องตามกฎหมายและประเพณี“เราไปจดทะเบียนสมรสกันที่สถานทูตก่อนดีไหมคารา ส่วนพิธีแต่งงานรอให้คุณคลอดลูกของเราเสียก่อนค่อยจัดที่โบสถ์ดีไหม” เขาปรึกษาเธอด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนขณะลูบไล้หน้าท้องแข็งนูนของเธอ หยอกเย้ากับลูกน้อยในครรภ์ของเธอเล่นอยู่อย่างเพลิดเพลิน“คุณจะแต่งงานกั
“คุณอยากแต่งงานกับฉันจริง ๆ หรือเพราะยากได้ลูกของฉันกันแน่คะคาร์ล” คนอ่อนไหวยังหวาดระแวง“ฉันต้องการลูกแต่ฉันก็ต้องการเธอด้วยพินอิน” เขาพูดเบา ๆ ขณะมองเธออย่างลึกซึ้ง “ฉันรู้แล้วว่าวันเวลาที่ไม่มีเธอมันอ้างว้างและหม่นหมองแค่ไหน ฉันรักเธอพินอิน”เธอกุมใบหน้าเขาด้วยฝ่ามือทั้งสองข้าง มองลึกลงไปในดวงตาของเขาอย่างค้นคว้า “พิสูจน์สิคะคาร์ล ว่าคุณรักฉันมากแค่ไหน” เขาวางมือทับฝ่ามือของเธอและกุมมือเธอไว้ “ด้วยร่างกายและวิญญาณของฉันคารา ฉันจะพิสูจน์ให้เห็นว่าฉันรักและภักดีต่อเธอคนเดียวพินอิน”คีแรนจูบเธออย่างดูดดื่มและเคลื่อนไหวสำรวจความเปลี่ยนแปลงทุกส่วนของเธอด้วยมือ ปากและลิ้น มือกว้างเอื้อมปลดบราเซียของเธอโยนลงข้างเตียงขณะคลอเคลียริมฝีปากดื่มด่ำอยู่กับทรวงอกเต็มตึงที่ปรารถนา ทุกความเคลื่อนไหวเป็นไปอย่างกลมกลืนและอ่อนโยน พินอินครางเบา ๆ เมื่อเขาเคลื่อนตัวลงต่ำ จูบผ่านหน้าท้องกลมนูนเหมือนดังจะแวะทักทายชีวิตน้อย ๆ ที่ขยับตัวอย่างเกียจคร้านตอบสนองสัมผัสของเขามาจากข้างในท้องเธอ พอเขาทักทายลูกจนหนำใจแล้วก็เคลื่อนย้ายริมฝีปากลงต่ำแล้วหยุดเพื่อเปลื้องเสื้อผ้าของเขาเองก่อนจะเริ่มใหม่อีกรอบเขาลูบไล
คีแรนทนดูพินอินกับยายของเธอช่วยกันทำขนมไปฝากขายที่ร้านอาหารของแม่กาบอย่างไม่ชอบใจนัก เขาไม่อยากเห็นทั้งสองคนลำบากจึงพยายามหว่านล้อมพินอินขอเป็นคนดูแลเรื่องค่าใช้จ่ายทั้งหมดของเธอกับ คุณยาย แต่ไม่ว่าคีแรนจะพยายามอย่างไร พินอินก็ไม่ยอมรับเงินของเขา ถึงจะอ้างว่าเป็นหน้าที่ที่ต้องดูแลลูกในครรภ์เธอ พินอินก็ไม่ยอมแตะเงินเขาแม้แต่สตางค์แดงเดียวพินอินทำให้คีแรนหัวเสียกับความดื้อรั้นของเธอ แต่เขาก็ยอมรับว่าความดื้อรั้นและเด็ดเดี่ยวของพินอินเป็นอีกหนึ่งความมีเสน่ห์ของเธอที่ผูกมัดหัวใจของเขาไว้ที่เธอคีแรนหอบข้าวของออกจากหลังรถพะรุงพะรัง เมื่อพินอินปฏิเสธไม่ยอมรับเงินของเขา คีแรนเลยเปลี่ยนวิธีมาเป็นคนจัดการดูแลซื้อข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็นในชีวิตประจำวันของเธอกับคุณยายให้แทน เขากำลังใช้หลังดันประตูบ้านเพราะมือทั้งสองข้างเต็มไปด้วยข้าวของเครื่องใช้ที่ขนซื้อมาเมื่อได้ยินเสียงแก้วกระทบพื้นดังออกมาจากในห้องครัวเขารู้ว่าพินอินอยู่บ้านตามลำพัง พอได้ยินเสียงแก้วแตกเขาจึงตกใจและคิดไปล่วงหน้าแล้วว่าอาจจะเกิดอุบัติเหตุขึ้นกับหญิงสาว เขาทิ้งข้าวของในมือเกลื่อนกระจัดกระจายเพราะเป็นห่วงพินอินและรีบวิ่งเข้