“นี่คุณหาว่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นเป็นความผิดของฉัน ทั้งๆ ที่ฉันเป็นฝ่ายเสียนม เอ๊ย! เสียหายแบบนี้เนี่ยนะ” ชมพูแพรขึ้นเสียงท้าวสะเอวอย่างไม่ยอมแพ้
“อืม! เอาเป็นว่าก่อนที่เราจะคุยกันเรื่องนม เอ๊ย! หน้าอกกันต่อ ผมว่าคุณช่วยจัดการข้างที่เหลือให้มันเท่าเทียมกันก่อนเหอะ เห็นแล้วมันทุเรศลูกตา” เขาเตือนอย่างเสียไม่ได้ ยิ่งเธอยืนท้าวสะเอวแบบนี้ ก็ยิ่งเน้นสัดส่วนที่มันหายไปให้เด่นชัดขึ้น เขาทนมองไม่ไหวจริงๆ ให้ตายเถอะ! ผ่านผู้หญิงมาก็มาก แต่ก็ไม่เห็นใครจะทำแบบนี้เลยสักที
“แล้วจะให้ทำยังไงเล่า ก็คุณทำมันแตกไปแล้ว จะให้ไปหาซื้อใหม่ตอนนี้ก็ไม่ได้ รู้งี้เอาสำรองมาด้วยก็ดีหรอก” ชมพูแพรบ่นกระปอดกระแปด เพราะขืนเธอเข้าไปข้างในทั้งสภาพแบบนี้ เธอได้กลายเป็นตัวประหลาดอย่างที่เขาว่าจริงๆ แน่
“ง่ายนิดเดียว ถ้าทำให้มันตู้มขึ้นมาไม่ได้ ก็ทำให้มันแฟบเท่ากันซะก็สิ้นเรื่อง มา! เดี๋ยวผมช่วย” เขาเสนอตัวอย่างหวังดี แต่เธอกลับถอยกรูดพร้อมกับยกมือขึ้นปกป้องหน้าอกข้างที่เหลือของตัวเอง ด้วยกลัวว่าเขาจะใช้วิธีเดิมทำให้มันแตกอีก
“นี่! ผมก็แค่จะยอมยกหน้าอกตัวเองเป็นที่กำบังชั่วคราวให้ ระหว่างนั้นคุณก็จัดการกับหน้าอกข้างที่เหลือไปสิ โว้! คิดอะไรของคุณเนี่ย ใครจะขยำ เอ้ยจับ เอ๊ยบีบ โธ่เว้ย! เอออะไรก็ช่าง สรุปว่าผมไม่คิดจับหน้าอกของคุณอีกก็แล้วกัน (ถ้าไม่จำเป็น)” ท้ายประโยคเขาแอบพึมพำเบาๆ
“ก็ได้ งั้นหันไปสิ” ในที่สุดเธอก็ยอมทำตามอย่างที่เขาว่าอย่างไม่มีทางเลือก ยังดีที่หน้าร้านที่พวกเขายืนอยู่มีเสาต้นใหญ่ให้พวกเขาใช้อำพรางได้ จึงไม่ประเจิดประเจ้อมากนัก อีกทั้งยังมีผู้ชายตัวโตๆ อย่างเขากำบังให้อีก เธอจึงสบายใจได้
“หืม!” เขาทำแสร้งไม่เข้าใจสิ่งที่เธอบอก
“หันไปสิ คุณมองอยู่แบบนี้ แล้วฉันจะทำยังไงเล่า” เธอแหวเสียงเขียว ก็พ่อคุณเล่นจ้องมาตาไม่กระพริบแบบนั้น จะให้เธอควัก เธอล้วงต่อหน้าเขาแบบไม่อายก็ใช่ที่
“เอ้า! ก็ผมบอกจะยกหน้าอกให้คุณ คุณให้ผมหันไปก็เท่ากับผมต้องยกแผ่นหลังให้คุณแทนน่ะสิ แบบนี้ผมก็ผิดคำพูดน่ะสิ” ก็ไม่รู้อะไรดลใจให้เขานึกสนุกอยากแหย่เธอเล่นแบบนี้
“นี่” แล้วเธอก็เป็นพวกแหย่ขึ้นซะด้วยสิ แค่เขาพูดแบบนี้ก็ทำให้เธอปรี๊ดได้ไม่ยาก
“โอเคๆ หันก็หัน” เขายกมือยอมแพ้ด้วยใบหน้ายิ้มกริ่ม พร้อมกับหันไปตามคำสั่งของเธอ แต่ก็ยังไม่วายแกล้งเธออีก
“เสร็จยัง ผมจะหันไปล่ะนะ” ชมพูแพรถึงกับมือไม้สั่นด้วยความกลัวว่าเขาจะหันมาจริงๆ
“นี่ อย่าหันมานะ” เธอแหวออกไปอีก
“หันแล้วนะ” เขายังยั่วด้วยใบหน้ายิ้มกริ่มราวกับมีความสุขนักหนา
“นี่” เธอรีบจนมือไม้พันกันไปหมด ในขณะเดียวกันก็ต้องคอยระวังว่าเขาจะหันมามองรึเปล่า ส่วนเขาก็กำลังสนุกที่ได้แกล้งเธอแบบนี้
“ถ้าขืนคุณยังช้าอีก อย่าหาว่าผมแอบมองก็แล้วกันนะ” เขาแสร้งว่าอย่างนั้น แต่ก็ไม่หันไปสักที จนกระทั่งเธอเสร็จแล้วและเดินมายืนตรงหน้าเขาซะแทนนั่นแหละ เขาถึงได้ยอมหยุด
“เอ้า! เสร็จแล้วเหรอ เฮ้ย! นี่จริงๆ แล้วคุณเป็นผู้ชายแปลงเพศมาใช่ไหมเนี่ย” เขามองเธออย่างสำรวจ หลังจากที่เธอจัดการหน้าอกทั้งสองข้างจนเท่ากันแล้ว
“นี่ปากเหรอนั่นน่ะ” เธอแหวเขาด้วยความโมโหอีก ก็เรื่องนี้น่ะมันเป็นเรื่องใหญ่สำหรับเธอเลยนี่นา เขาพูดแบบนี้ ความมั่นใจของเธอก็ยิ่งลดน้อยถอยลงอีกน่ะสิ
“ฮ่าๆๆ ผมล้อเล่นน่ะ แต่ความจริงมันก็เหมือนผู้ชายจริงๆ นั่นแหละ” เขายังแกล้งแหย่หลังรู้จุดอ่อน ดูไม่ยากหรอก ถ้าถึงขั้นใช้ลูกโป่งอัพไซส์ให้ตัวเองขนาดนี้ เป็นอะไรไปไม่ได้นอกจากมีปมเรื่องขนาดหน้าอก
“นี่” ดูเหมือนเธอจะพูดได้แค่คำนี้ หลังจากไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาต่อกรกับเขาดี
“เอาล่ะๆ ทีนี้มาว่ากันด้วยเรื่องของเราดีกว่า” เขาเลิกแหย่และหันมาทำหน้าจริงจัง จนเธอถึงกับงงกับท่าทีที่เปลี่ยนไป
“เรื่องของเรา เรื่องอะไร ฉันจำได้ว่าคุณกับฉันเราไม่เคยรู้จักกัน เพราะฉะนั้นฉันไม่จำเป็นต้องคุยกับคุณ” ด้วยยังเคืองอีกฝ่ายไม่หายจนไม่อยากเสวนาด้วย เธอจึงตัดบทไปดื้อ แต่ยังไม่ทันจะพ้นไปจากตรงนั้น เท้าทั้งคู่ก็ต้องมาชะงักเพราะคำพูดของเขาอีก
“จะโก่งราคาว่างั้น เอาเถอะ! ลงทุนจัดฉากมาขนาดนี้ เอาเป็นว่าผมให้ผ่าน ไม่ต้องอ้อมค้อมให้เสียเวลาอยากได้เท่าไหร่ก็ว่ามา” ชมพูแพรหันกลับมาด้วยสีหน้าเกรี้ยวกราดพร้อมกำหมัดแน่นด้วยความโกรธ
“เก็บเงินโสโครกไว้ทำศพหมาในปากคุณเถอะ ฉัน...ไม่...อยาก...ได้” เธอย้ำชัดๆ ก่อนจะหันกลับไปทางเดิม พลันก็ต้องหันกลับมาเพราะคำพูดของเขาอีก
“ถ้าคิดจะเล่นตัวเพื่อโก่งราคาล่ะก็ ไม่ต้องทำให้เสียเวลาหรอก เพราะยังไงผมก็ให้ตามที่คุณขอ ลูกค้าใจสปอร์ตอย่างผมหาไม่ได้ง่ายๆ นะ อีกอย่างถ้าคุณเข้าไปทั้งสภาพแฟบๆ แบบนี้ ใครที่ไหนเขาจะให้ราคาตามที่คุณต้องการ จริงไหม” เขายักไหล่อย่างคนเป็นต่อกว่า ซึ่งเธอเองก็ดูเหมือนจะเห็นตามด้วย
“มันก็จริง งั้นถอดเสื้อมา” เธอยื่นมือไปข้างหน้า ในขณะที่เขาก็ยื่นเสื้อสูทที่เธอขอให้แต่โดยดี
“หึๆ ตกลงรับข้อเสนอผมแล้วสินะ” เขาเหยียดยิ้มมุมปาก เมื่อทุกอย่างไม่ผิดไปจากที่คิด ‘ผู้หญิงทุกคนซื้อได้ด้วยเงิน’
“ใครบอก! ฉันอยากได้แค่เสื้อไม่ได้อยากได้คุณ ขอบคุณนะสำหรับเสื้อตัวนี้” พูดจบเธอก็เดินจากไปสวยๆ พร้อมกับเสื้อสูทราคาแพงที่คลุมอยู่บนไหล่
“นี่! กลับมาคุยกันให้รู้เรื่องก่อน ปล้นเสื้อผมไปแบบนี้แล้วคิดว่าผมจะยอมปล่อยให้คุณลอยนวลไปได้ง่ายๆ ล่ะก็ คุณคิดผิด” เขาคว้าแขนพร้อมกับกระชากเบาๆ ให้เธอหันกลับมาประจันหน้ากัน
“ใครปล้น? คุณก็ได้ยินว่าฉันขอ แล้วคุณก็ยอมให้ฉันเองด้วย ถือว่าเป็นการชดใช้ที่คุณจับหน้าอกฉันก็แล้วกัน” เธอดึงแขนกลับพร้อมต่อกรอย่างไม่เกรงกลัว
“เดี๋ยวนะ เข้าใจอะไรผิดรึเปล่า ผมแน่ใจว่าไอ้ที่ผมจับเมื่อกี้มันไม่ใช่หน้าอก แต่เป็น...ลูกโป่ง” เขาจี้ใจดำให้เธอได้อาย ทำเอาคนถูกจี้ปมถึงกับหันขวับมามองอย่างเอาเรื่อง
“ถึงอย่างนั้นก็เถอะ แต่คุณก็ทำลูกโป่งของฉันแตกอยู่ดี เพราะฉะนั้นคุณต้องชดใช้” เธอเถียงไปข้างๆ คูๆ
“คุณเอาลูกโป่งราคาไม่กี่บาทมาเทียบกับเสื้อราคาแพงลิบของผมเนี่ยนะ ” เขาทำหน้าเหลือเชื่อกับตรรกะความคิดของเธอ
“เสื้อของคุณก็เทียบไม่ได้กับความมั่นใจที่ฉันเสียไปเหมือนกัน ไม่รู้ล่ะ ยังไงฉันก็เป็นฝ่ายเสียหายกว่า ดีเท่าไหร่แล้วที่ฉันไม่เอาเรื่องคุณ เอาเป็นว่าให้มันจบๆ ไปแล้วกัน ฉันจะไม่เอาเรื่องคุณ ส่วนคุณก็ชดใช้เสื้อให้ฉัน ถือว่าเราหายกัน แล้วก็ต่างคนต่างอยู่ ต่างคนต่างไป จบนะ!” ไม่ต้องแปลกใจที่เห็นเธอมุ่งมั่นขขาดนี้ กับแค่เสื้อเพียงตัวเดียว เพราะเสื้อตัวนี้มันจะพรางหน้าอกที่มันเคยตู้มเมื่อหลายนาทีก่อนให้เธอได้ เพราะเธอไม่ยอมให้ใครเห็นสภาพแฟบๆ ของเธอตอนนี้แน่
“โอเค! จะเล่นไม้นี้ใช่ไหม ได้! ถ้าอย่างนั้นที่คุณแอบจับก้นผมล่ะ คุณจะชดใช้ยังไง จะให้ผมเรียกค่าเสียหายเป็นอะไรดี ในเมื่อการจับลูกโป่งเอ๊ย! หน้าอก คุณยังเรียกค่าเสียหายเป็นเสื้อตัวนี้ของผม แล้วที่คุณจับก้นผม ไม่สิไม่ใช่แค่จับ คุณทั้งจับทั้งขยำ จำได้ว่ามีลูบด้วย แล้วแบบนี้ผมควรเรียกค่าเสียหายเป็นอะไรดี” ชมพูแพรถึงกับอ้าปากค้าง ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะมาไม้นี้ แต่ในขณะที่เธอกำลังจนมุม ไม่สามารถหาเหตุผลมาโต้แย้งเขาได้ จู่ๆ คู่อริและอดีตแฟนคนล่าสุดของเธอก็โผล่มาจากไหนอีกไม่รู้ แบบนี้ใช่ไหมที่เขาเรียกว่าเคราะห์ซ้ำกรรมซัด
“แกช่วยทำหน้าให้มันมีอารมณ์ร่วมหน่อยได้ไหมวะโคดี้” ริคาโด้ทำหน้าเซ็งๆ กับสีหน้าลูกน้องตอนนี้ “ไม่ได้ครับ ผมไม่เคยคิดอะไรกับนาย ผมมีอารมณ์ไม่ได้ หรือนายอยากให้ผมคิด” โคดี้ย้อนถามกลับไปซะงั้น ทำเอาเจ้านายถึงกับผวาถอยหลังไปหลายก้าว “ก็ลองคิดดูสิ มึงไม่ตายดีแน่ ไอ้เวรทำกูขนลุกหมด มึงกำลังลิดรอนเสรีภาพความเป็นลูกผู้ชายของกู เอาจริงๆ นะ นี่มึงพูดจริงหรือกำลังกวนตีนกูอยู่กันแน่วะ” เพราะหน้านิ่งๆ ของโคดี้มันทำให้เดาอะไรไม่ได้เลย เขาก็เลยต้องถามให้แน่ใจ แต่... “เออๆๆ ช่างเถอะ ถามไปก็เท่านั้น ฉันว่าแกมาช่วยฉันดีกว่า ว่าแต่แกจำหน้าผู้หญิงคนนั้นได้รึเปล่าวะ”ริคาโด้ทำหน้ายุ่งขณะดูไฟล์เอกสารที่เคนเปิดค้างเอาไว้ด้วยความหวังว่าโคดี้ช่วยได้ “คนไหนครับ” แต่คำตอบของโคดี้กลับทำให้เขาต้องถอนหายใจแรงๆ “กูมีพวกมึงสองคนไว้เพื่อ....” ริคาโด้ขยี้หัวตัวเองแรงๆ ด้วยความขัดใจ เมื่อสุดท้ายแล้วเขาต้องมาทำอะไรแบบนี้ ก๊อก ก๊อก ก๊อก ในขณะที่เขากำลังไม่สบอารมณ์ จู่ๆ ก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้นทำให้ต้องอารมณ์เสียขึ้นอีก
“ฉันไปห้องน้ำเดี๋ยวนะ ง่วงๆ ยังไงก็ไม่รู้ ขอไปล้างหน้าล้างตาสักนิด” เธอขยี้ตาเบาๆ ในขณะที่เขาเพียงพยักหน้าให้ ก่อนจะหันมาสั่งเครื่องดื่มให้ตัวเองและไม่ลืมที่จะสั่งเผื่อเธอด้วย “เฮ้ย! ทำไมไปนานจัง หรือว่าหลับคาห้องน้ำซะแล้ว” เขาบ่นพึมพำอยู่คนเดียว เมื่อคนที่บอกว่าจะไปห้องน้ำ นี่ก็ผ่านมาสักพักแล้วแต่ก็ยังไม่กลับมา ตู๊ด....ตู๊ด.....ตู๊ด..... เสียงเรียกเข้าจากโทรศัพท์ทำให้เขาต้องละจากความคิดเรื่องนั้น และหันมารับโทรศัพท์แทน “ว่าไง ถ้าไม่สำคัญแกคงรู้นะว่าจะโดนอะไร” ทันทีที่เห็นว่าเป็นเคนคนของตัวเองโทรมา เขาก็ขู่เสียงเขียวกลับไป “ใจร้าย เค้าแค่จะบอกว่าเขาเจอลูกโป่ง” พูดยังไม่ทันขาดคำ เจ้านายใจร้ายก็ตะโกนเสียงดังแทรกขึ้นมา “ไอ้เคน” “เฮ้ๆๆ ไม่ใช่ลูกโป่งสำหรับเด็กอย่างที่นายคิดนะครับ มันเป็นลูกโป่งสำหรับผู้ใหญ่ ที่สำคัญลูกโป่งลูกนี้ก็เคยจับก้นนายมาแล้วด้วย” เคนรีบอธิบาย ด้วยกลัวว่าระเบิดจะลงที่ตัวเองอีก “กูรู้แล้ว” “เอ้า! แล้วจะโวยวายทำไมล่ะครับ ทำคนเขาตกใจรู้ไหมเนี่ย ยิ่งขวั
“คุณนั่นแหละ กินเข้าไปได้ยังไง มันไม่ใช่น้อยๆ เลยนะ เป็นผู้หญิงประสาอะไรเนี่ย ไม่กลัวอ้วนรึไง ถามจริงเหอะกินแล้วเอาไปไว้ไหนหมดเนี่ย” เขามองตัวเล็กๆ ของเธอแล้วก็ทำหน้าเหลือเชื่อ “ก็พยาธิในท้องฉันเยอะ ถ้าฉันไม่กิน พวกมันก็อดตายน่ะสิ” เธอตอบเล่นๆ ติดตลก แต่เห็นทีคนฟังคงไม่ตลกด้วย “คุณเป็นพยาธิ! ให้ตายสิ! ทำไมไม่รีบรักษา ปล่อยมันไว้แบบนี้ได้ยังไง สุขอนามัยน่ะรู้จักไหม ไม่ใช่ปล่อยให้มันขยายพันธุ์อยู่แบบนี้ เป็นมานานรึยัง” เขาทำหน้าจริงจังมาก จริงจังจนเธอยังต้องจินตนาการตาม “เฮ้ๆๆ เดี๋ยวนะ คุณคิดว่าในท้องฉันมีพยาธิอยู่จริงๆ?” “ก็คุณบอกอย่างนั้น” เขาทำหน้างง “อี๋...! คุณทำให้ฉันอยากจะอ๊วก” แค่นึกภาพตามเธอก็ทำท่าผะอืดผะอมราวกับอยากจะขย้อนออกมาจริงๆ ถ้าไม่ติดว่าเสียดายของแพงๆ ที่เพิ่งกินเข้าไป “ก็ถ้าคุณยังไม่รีบรักษา คุณเป็นมากกว่าอ๊วกแน่ ผมรับรอง” เขายังทำหน้าจริงจังเช่นเดิม ในขณะที่เธอรีบโบกไม้โบกมือห้ามไม่ให้เขาพูดอีก ด้วยกลัวว่าตัวเองจะอ๊วกออกมาจริงๆ “เอาล่ะ ฉันว่าเราพักเรื่องพยาธิกันก
“ไม่เคยมีความคิดแบบนั้นเลยสักที” เธอรีบปฏิเสธทันทีอย่างต้องการเอาใจ “คุณพูดเองนะว่าไม่คิดจะแยกจากผม เพราะฉะนั้นผมจะถือว่านี่เป็นคำสัญญาจากคุณ แล้วถ้าคุณผิดสัญญา คุณจะต้องโดนลงโทษ” เขาฉวยโอกาสนี้ เอาคำพูดของเธอมาผูกมัดเธอไว้ในคราวเดียวกัน แต่ใครจะสนล่ะ ในเมื่อเธอกับเขาจะเจอกันแค่ครั้งนี้ครั้งเดียวเท่านั้น ‘ชิ! ต่อให้คุณอยากลงโทษฉันแค่ไหน ก็ทำไม่ได้หรอกย่ะ เพราะเราจะไม่เจอกันอีก หึๆๆ แล้วคุณจะคิดถึงฉันอีกนานเชียวล่ะ’ “ได้เลย เอาไงก็เอากันอยู่แล้ว ว่าแต่ไหนล่ะสวรรค์บนดินที่เขาว่าหรูนักหนาน่ะ” เธออดถามไม่ได้ เมื่อเข้ามาด้านในแล้ว กลับรู้สึกว่าที่นี่ไม่เหมือนกับภาพที่เธอจินตนาการไว้ “ก็นี่ไง ที่นี่แหละที่ที่คุณอยากเข้ามานักหนาล่ะ ไหนบอกว่าเคยมาแล้วไง” เขาแสร้งจับผิด แต่ทำเอาเธอถึงกับสะอึก “ก็ได้! ฉันยังไม่เคยเข้ามา พอใจรึยังล่ะ ความจริงคุณรู้ตั้งแต่ตอนที่คุณแสกนลายนิ้วมือแล้วใช่ไหมล่ะ แต่ก็ยังทำแกล้งไม่รู้ ชิ! สะใจล่ะสิที่ล้อฉันได้แบบนี้” เธอเบ้หน้าให้ แค่คิดว่าตัวเองเป็นตัวตลกในสายตาเขาก็ยิ่งเจ็บใจ “เปล่าเลย เรื่อง
“ก็ใช่น่ะสิ ก็เรารู้จักกันแล้ว เมื่อกี้นี้ไง เราแนะนำตัวกันแล้ว คุณจำไม่ได้เหรอ” ริคาโด้กลั้นยิ้มเอาไว้แทบแย่กับการแถไปน้ำขุ่นๆ ของคุณเธอ ‘ทีก่อนหน้าทำมาเป็นว่าอย่างนั้นอย่างนี้ พอเห็นเรามีประโยชน์เข้าหน่อย ก็เปลี่ยนไปหน้าตาเฉย ยัยผู้หญิงเจ้าเล่ห์’ “เอ้าเหรอ นี่เรารู้จักกันแล้วเหรอ ว่าแต่เรารู้จักกันในฐานะอะไรล่ะ” ชมพูแพรถึงกับกัดฟันกรอด รู้ว่าอีกฝ่ายกำลังเล่นลิ้นแกล้งยั่ว รู้หรอกว่าเล่นตัวกับเขาไว้เยอะ แต่เธอเป็นผู้หญิงนะ เรื่องเล่นตัวมันก็ต้องมีบ้างสิ “เออ! ไม่รู้จักก็ได้ คุณอยากไปไหนก็ไปเลย ฉันไม่ยุ่งด้วยแล้ว” เธอสะบัดหน้าอย่างงอนๆ “โอเค งั้นผมไปนะ” เขาว่าแล้วก็หันหลังเดินออกไปอีก “โอ๊ยนี่! ไม่คิดจะง้อกันบ้างเลยรึไงเล่า ฉันเป็นผู้หญิงนะ” เธอแหวให้อีก เมื่อเขาดันไม่ง้อเธออย่างที่คิด “แล้วทำไมผมต้องง้อ ในเมื่อเราไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อย แล้วคุณก็ขึ้นไปเองได้ บางทีเราอาจจะเจอกันในนั้นก็ได้ นอกซะจากว่า...คุณเข้าไปไม่ได้” เขาแสร้งมองเธออย่างจับผิด ทั้งที่ก็รู้ดีอยู่แล้ว “ดะได้สิ ทำไมจะไม่ได้ล่ะ แต
“ฉันจะมาทำไม มันก็เรื่องของฉัน ไม่เกี่ยวกับคุณ” อันนี้เธอก็ไม่ได้ผิดคำพูด เพราะเธอตอบคำถามเขาแล้วจริง แต่เป็นการตอบที่ไม่ได้คำตอบเท่านั้นเอง เอ๊ะ! ยังไง “โอเค งั้นผมถามใหม่ คุณมากับใคร หรือว่านัดใครไว้” ชมพูแพรทำท่าใช้ความคิด ว่าควรตอบเขายังไงดี จากนั้นก็ต้องยิ้มออกมา “มากับแฟน จบไหม” เธอยิ้ม เมื่อคิดว่าเขาต้องเลิกยุ่งกับเธอแล้วแน่ๆ “คุณโกหก” เขาเองก็ยิ้มตอบกลับไป “เอ๊ะ! อยู่ๆ มาหาว่าฉันโกหก คุณเอาอะไรมาวัดไม่ทราบว่าฉันโกหก” เธอพยายามปรับสีหน้าให้เป็นปกติ เมื่อถูกเขาจับได้ แต่ถ้าเธอไม่รับซะอย่าง เขาก็ทำอะไรเธอไม่ได้ จริงไหม “ก็หน้าคุณมันฟ้อง” เขายิ้มมุมปาก เรื่องต้อนผู้หญิงให้จนมุม เขาถนัดนักล่ะ “เอ๊ะ! นี่คุณหาว่าน้ำหน้าอย่างฉัน ไม่มีปัญญาหาแฟนสินะ” ชมพูแพรท้าวสะเอวรู้สึกโมโหขึ้นเป็นสองเท่าที่เขาพูดจี้จุดเจ็บเธอแบบนี้ “คุณดูถูกฉัน ทำไมผู้หญิงอย่างฉันมันแย่ถึงขนาดไม่มีผู้ชายคนไหนอยากได้เป็นแฟนเลยรึไง ฉันไม่สวย ไม่เซ็กส์ซี่ ไม่เร้าใจเหมือนผู้หญิงคนอื่นรึไง” ‘เอ้า! ดราม่าซะงั้น’ ริคาโ