“ก็เพราะเป็นเพื่อนไง ยัยแคทมันถึงได้กล้าพูดตรงๆ แกก็จะได้เลิกคิดมากสักที เอาน่าแบบนี้น่ะดีแล้ว เขาเรียกผู้หญิงซ่อนรูปไง ลูบทั้งคืนก็หาไม่เจอ ฮ่าๆๆ ล้อเล่นๆ อย่าคิดมากสิ คิดในแง่ดีการที่หน้าอกแกเล็กแบบนี้มันก็เป็นเรื่องดีอยู่นะ อย่างน้อยมันก็ทำให้แกอยู่รอดปลอดภัย ไม่มีอะไรบุบสลายไปซะก่อน เพราะมันคงไม่บุบไปมากกว่านี้แล้วแหละ” ท้ายประโยคจัสมินแอบเหน็บเบาๆ ไม่วายที่คนหูดีจะได้ยินจนหันขวับมามองตาขวาง “ฮ่าๆๆ เอาล่ะๆ ฉันว่าเราเลิกพูดเรื่องนี้แล้วก็แยกย้ายกันกลับไปจัดการตัวเองให้สวยก่อนดีกว่าไหม จำไม่ได้รึไงว่าวันนี้ยัยเทเรซ่าชวนพวกเราไปปาร์ตี้วันเกิดที่ไนต์คลับ งานนี้ไม่มีใครยอมใครแน่ โดยเฉพาะยัยลิลลี่คู่ปรับตลอดกาลของแกนะชมพู่ ยัยนั่นต้องพาโทบี้ไปเย้ยแกด้วยแน่ๆ เพราะฉะนั้นแกจะต้องสวยที่สุดในคืนนี้ เอาให้หมอนั่นเสียดายจนอยากจะกลับมาขอแกคืนดีไปเลยสิ” ได้ยินที่แคทเทอรีนพูดมา ชมพูแพรถึงกับตาวาว อดจินตนาการไปก่อนล่วงหน้าไม่ได้ ว่าถ้าหากเป็นอย่างที่เพื่อนว่าจริงๆ จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง
“หึๆๆ ฮ่าๆๆ แกเสร็จฉันแน่ยัยลิลลี่” ชมพูแพรหัวเราะและพึมพำอยู่คนเดียว ทำเอาเพื่อนทั้งสองมองหน้าอย่างรู้กัน
“คิดเองเออเองอีกแล้วใช่ไหมเนี่ย เมื่อไหร่แกจะเลิกมโนสักทีวะพู่ เฮ้อ! ไปๆๆ แยกย้าย ห้องใครห้องมัน ไว้เจอกันที่ไนต์คลับตอนสามทุ่มละกัน ไปล่ะ” ว่าแล้วจัสมินก็เดินออกไปก่อน ทำเอาสองสาวรีบจ้ำตามไป
เมื่อถึงเวลานัด ชมพูแพรก็เป็นคนที่สายอีกตามเคย เพราะต้องใช้เวลาจัดการกับหน้าอกเจ้าปัญหาที่ทำให้เธอเสียความมั่นใจอยู่นาน อีกทั้งยังพยายามแต่งองค์ทรงเครื่องให้สวยเซ็กส์ซี่กว่าที่เคย ด้วยไม่อยากให้คู่ปรับเก่าอย่างลิลลี่ดูถูกได้อีก แต่ให้ตายเถอะ ความสวยของเธอมันดูไม่มั่นคงเอาซะเลย ก็แม่คุณดันงกไม่เข้าท่า ทำอะไรพิเรนๆ มีอย่างที่ไหนใช้ลูกโป่งอัพไซส์ให้ตัวเอง แทนที่จะเป็นซิลิโคนบลาอย่างที่ควรจะเป็น แต่ก็นะถึงมันจะทุลักทุเลไปบ้าง ผลที่ออกมามันกลับใช้ได้เลยทีเดียว
“โอย! ตายๆๆ สายจนได้ สองคนนั้นเอาแกตายแน่ชมพู่เอ๊ย” ชมพูแพรมาในชุดสายเดี่ยวสีน้ำเงินยาวกรอมเท้าเน้นสัดส่วนและขับผิวขาวๆ ของเธอให้โดดเด่นมากขึ้น แน่นอนว่าชุดแบบนี้จะต้องสวมคู่กับรองเท้าส้นสูง ซึ่งเธอก็ไม่พลาด แต่ไอ้ที่พลาดเห็นจะเป็นเรื่องความซุ่มซ่ามของเธอละมั้ง
ความรีบร้อนบวกกับความไม่เคยชินกับรองเท้าส้นสูงปรี๊ดคู่นี้ ทำให้เธอเสียหลักล้มเซไปด้านหน้า แต่โชคยังดีที่เธอสามารถยึดก้นของผู้ชายคนหนึ่งไว้ได้ ไม่อย่างนั้นเธอคงล้มลงไปกองกับพื้นให้ต้องอายอีกแน่ๆ
‘แต่เอ๊ะ! เดี๋ยวนะ ก้นเหรอ ฉันยึดก้นเป็นที่พึ่งอย่างนั้นเหรอ’ เหมือนเธอจะเพิ่งคิดได้ว่าบางอย่างที่เธอจับอยู่ตอนนี้ มันคือก้นของผู้ชายคนหนึ่งที่เดินอยู่ด้านหน้า และเพิ่งมีโอกาสได้สังเกตชัดๆ ว่าทั้งสองมือตะปบอยู่ที่ก้นของผู้ชายคนนั้นเต็มๆ เรียกว่าเต็มไม้เต็มมือกันเลยทีเดียว
“กรี๊ด! เต็มมือเลย ฮือ...! มือฉันโดนเปิดซิงไปแล้ว ด้วยก้นของผู้ชายแปลกหน้า ฮือ...!” เธอกัดฟันกรีดร้องออกมาเบาๆ ด้วยไม่อยากให้ตัวเองตกเป็นเป้าสายตาไปมากกว่านี้
“จะแต๊ะอั๋งกันอีกนานไหม จับนานขนาดนี้เอากลับไปนอนกอดที่บ้านด้วยเลยไหมล่ะ ผู้หญิงสมัยนี้นี่หากินกันง่ายนะ ถามจริงเถอะเธอคิดจะจับผู้ชายง่ายๆ ด้วยการไล่จับก้นแบบนี้จริงๆ น่ะเหรอ” ริคาโด้ค่อยๆ หันกลับมามองเธอในขณะที่มือของเธอยังไม่เลื่อนไปไหน คงมีแต่เขาเท่านั้นที่เลื่อน เลื่อนจากด้านหลังเป็นด้านหน้า จากก้นก่อนหน้าจึงเปลี่ยนเป็นหน้าขาล่ำๆ แทน ซ้ำร้ายไปกว่านั้นหน้าของเธอก็ดันอยู่ห่างจากความล่ำที่ว่านั่นไม่ถึงคืบ
“เฮือก! กรี๊ด...!” ด้วยความตกใจเธอจึงกรีดร้องออกมาพร้อมกับรีบขยับถอยโดยไม่ทันระวัง ยังผลให้เธอหงายเงิบลงไป ยังดีที่ได้เขาคนเดิมช่วยเอาไว้อีกครั้ง แต่แล้วการช่วยของเขากลับสร้างความเดือดร้อนให้เธออีก
“โป๊ะ!” เสียงลูกโป่งที่หน้าอกของเธอแตก จากน้ำมือและน้ำใจของเขาที่รีบคว้าเธอเอาไว้ไม่ให้ล้มคะมำหน้าคว่ำลงกับพื้น แต่ให้ตายเถอะ คว้าตรงไหนไม่คว้า ดันคว้าหน้าอกของเธอซะนี่ ก็บอกแล้วว่ามันไม่มั่นคง ยังดีนะที่แตกไปแค่ข้างเดียวยังเหลืออีกข้างนึง เอ๊ะ! หรือว่าไม่ดี เพราะถ้าแตกข้างเดียว นั่นก็หมายความว่า...นมไม่เท่ากันน่ะสิ
“ฉิ..หาย นมแตก” ริคาโด้เผลออุทานออกมา และเสียงของเขาก็ทำให้สติสัมปชัญญะของเธอกลับมา
“กรี๊ด...! ไอ้โรคจิต ไอ้บ้ากาม แกจับนมฉัน” ทันทีที่ได้สติ ชมพูแพรก็กรีดร้องออกมาเสียงดัง ทำให้เขารีบปล่อยมือออกจากหน้าอกทั้งสองข้างและหันมาปิดปากเธอแทน
“นี่ จะแหกปากเสียงดังทำไมเล่า เดี๋ยวชาวบ้านชาวช่องก็ได้แห่กันมาหมดหรอก” เขาพยายามปิดปากเธอไว้ แต่เธอก็ดิ้นหลุดมาจนได้
“มาสิดี คนเขาจะได้รู้ไงว่าคุณมันเป็นพวกโรคจิต บ้ากาม ลามก ทุเรศที่สุด” ชมพูแพรโกรธจนตัวสั่น เดือดดาลจนอยากจะเข้าไปตบหน้าคนฉวยโอกาสแรงๆ ติดที่อีกฝ่ายตัวใหญ่เกินไป และเธอก็ไม่ใช่คนสู้คน ไม่อย่างนั้นเธอคงตายไปตั้งแต่อนุบาลสามแล้วล่ะ
“ก็เอาสิ คนเขาจะได้แห่มาดูของแปลกกัน คนอะไรเกิดมาหน้าอกไม่เท่ากัน” คำพูดของเขาทำให้เธอต้องก้มมองตัวเองอีกครั้ง
“กรี๊ด...! หน้าอกฉัน” เธอกรีดร้องออกมาอีกครั้งอย่างแสนเสียดาย เพราะกว่าที่เธอจะทำหน้าอกได้แบบนี้ เธอต้องเสียเวลาไปมาก แต่เขากลับใช้เวลาเพียงนิดเดียวในการทำลาย แบบนี้มันไม่แฟร์เลย
“เอาเลยแหกปากให้ดังๆ เลย อยากให้คนอื่นออกมาเห็นคุณในสภาพนี้ก็เชิญร้องให้ดังๆ เอาให้แห่กันมาหมดทั้งร้านเลยยิ่งดี” ริคาโด้ใช้วิธีท้าทาย ซึ่งดูเหมือนมันจะได้ผลเพราะมันทำให้เธอยอมหุบปากแต่โดยดี แต่ที่ไม่ดีคือตรงนี้ไม่ได้มีแค่พวกเขาสองคนอีกแล้วน่ะสิ
“เอ่อ! นายครับ มีอะไรให้พวกผมช่วยไหมครับ” หลังจากที่ยืนดูเหตุการณ์อยู่ห่างๆ อย่างห่วงๆ อยู่นานสองนาน เคนและโคดี้บอดีการ์ดคนสนิทของริคาโด้ก็เข้ามาถาม
“ไม่ต้อง ฉันจัดการเอง” ได้ยินเจ้านายว่ามาอย่างนั้น บอดีการ์ดทั้งสองจึงได้แต่ถอยห่างออกไป แต่ก็ยังอดมองมาด้วยความเป็นห่วงไม่ได้
“เอาล่ะทีนี้มาคุยเรื่องหน้าอกของเรา เอ๊ย! ของคุณ เอ้อ! ผมหมายถึงเรื่องลูกโป่ง เอ้อ! เรื่องนม โว้ย! เอาเป็นว่าเรามาคุยกันเรื่องความไม่เท่าเทียมกันที่หน้าอกของคุณซึ่งมาจากการกระทำของผม แต่ทั้งหมดมันเป็นอุบัติเหตุที่เกิดมาจากความซุ่มซ่ามของคุณเองให้จบๆ ไปสักที” ริคาโด้พยายามสรรหาคำพูดเพื่อให้ฟังดูดี แต่เมื่อรู้สึกว่ายิ่งพยายามก็ยิ่งแย่ จึงต้องพูดออกมาตรงๆ
“แกช่วยทำหน้าให้มันมีอารมณ์ร่วมหน่อยได้ไหมวะโคดี้” ริคาโด้ทำหน้าเซ็งๆ กับสีหน้าลูกน้องตอนนี้ “ไม่ได้ครับ ผมไม่เคยคิดอะไรกับนาย ผมมีอารมณ์ไม่ได้ หรือนายอยากให้ผมคิด” โคดี้ย้อนถามกลับไปซะงั้น ทำเอาเจ้านายถึงกับผวาถอยหลังไปหลายก้าว “ก็ลองคิดดูสิ มึงไม่ตายดีแน่ ไอ้เวรทำกูขนลุกหมด มึงกำลังลิดรอนเสรีภาพความเป็นลูกผู้ชายของกู เอาจริงๆ นะ นี่มึงพูดจริงหรือกำลังกวนตีนกูอยู่กันแน่วะ” เพราะหน้านิ่งๆ ของโคดี้มันทำให้เดาอะไรไม่ได้เลย เขาก็เลยต้องถามให้แน่ใจ แต่... “เออๆๆ ช่างเถอะ ถามไปก็เท่านั้น ฉันว่าแกมาช่วยฉันดีกว่า ว่าแต่แกจำหน้าผู้หญิงคนนั้นได้รึเปล่าวะ”ริคาโด้ทำหน้ายุ่งขณะดูไฟล์เอกสารที่เคนเปิดค้างเอาไว้ด้วยความหวังว่าโคดี้ช่วยได้ “คนไหนครับ” แต่คำตอบของโคดี้กลับทำให้เขาต้องถอนหายใจแรงๆ “กูมีพวกมึงสองคนไว้เพื่อ....” ริคาโด้ขยี้หัวตัวเองแรงๆ ด้วยความขัดใจ เมื่อสุดท้ายแล้วเขาต้องมาทำอะไรแบบนี้ ก๊อก ก๊อก ก๊อก ในขณะที่เขากำลังไม่สบอารมณ์ จู่ๆ ก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้นทำให้ต้องอารมณ์เสียขึ้นอีก
“ฉันไปห้องน้ำเดี๋ยวนะ ง่วงๆ ยังไงก็ไม่รู้ ขอไปล้างหน้าล้างตาสักนิด” เธอขยี้ตาเบาๆ ในขณะที่เขาเพียงพยักหน้าให้ ก่อนจะหันมาสั่งเครื่องดื่มให้ตัวเองและไม่ลืมที่จะสั่งเผื่อเธอด้วย “เฮ้ย! ทำไมไปนานจัง หรือว่าหลับคาห้องน้ำซะแล้ว” เขาบ่นพึมพำอยู่คนเดียว เมื่อคนที่บอกว่าจะไปห้องน้ำ นี่ก็ผ่านมาสักพักแล้วแต่ก็ยังไม่กลับมา ตู๊ด....ตู๊ด.....ตู๊ด..... เสียงเรียกเข้าจากโทรศัพท์ทำให้เขาต้องละจากความคิดเรื่องนั้น และหันมารับโทรศัพท์แทน “ว่าไง ถ้าไม่สำคัญแกคงรู้นะว่าจะโดนอะไร” ทันทีที่เห็นว่าเป็นเคนคนของตัวเองโทรมา เขาก็ขู่เสียงเขียวกลับไป “ใจร้าย เค้าแค่จะบอกว่าเขาเจอลูกโป่ง” พูดยังไม่ทันขาดคำ เจ้านายใจร้ายก็ตะโกนเสียงดังแทรกขึ้นมา “ไอ้เคน” “เฮ้ๆๆ ไม่ใช่ลูกโป่งสำหรับเด็กอย่างที่นายคิดนะครับ มันเป็นลูกโป่งสำหรับผู้ใหญ่ ที่สำคัญลูกโป่งลูกนี้ก็เคยจับก้นนายมาแล้วด้วย” เคนรีบอธิบาย ด้วยกลัวว่าระเบิดจะลงที่ตัวเองอีก “กูรู้แล้ว” “เอ้า! แล้วจะโวยวายทำไมล่ะครับ ทำคนเขาตกใจรู้ไหมเนี่ย ยิ่งขวั
“คุณนั่นแหละ กินเข้าไปได้ยังไง มันไม่ใช่น้อยๆ เลยนะ เป็นผู้หญิงประสาอะไรเนี่ย ไม่กลัวอ้วนรึไง ถามจริงเหอะกินแล้วเอาไปไว้ไหนหมดเนี่ย” เขามองตัวเล็กๆ ของเธอแล้วก็ทำหน้าเหลือเชื่อ “ก็พยาธิในท้องฉันเยอะ ถ้าฉันไม่กิน พวกมันก็อดตายน่ะสิ” เธอตอบเล่นๆ ติดตลก แต่เห็นทีคนฟังคงไม่ตลกด้วย “คุณเป็นพยาธิ! ให้ตายสิ! ทำไมไม่รีบรักษา ปล่อยมันไว้แบบนี้ได้ยังไง สุขอนามัยน่ะรู้จักไหม ไม่ใช่ปล่อยให้มันขยายพันธุ์อยู่แบบนี้ เป็นมานานรึยัง” เขาทำหน้าจริงจังมาก จริงจังจนเธอยังต้องจินตนาการตาม “เฮ้ๆๆ เดี๋ยวนะ คุณคิดว่าในท้องฉันมีพยาธิอยู่จริงๆ?” “ก็คุณบอกอย่างนั้น” เขาทำหน้างง “อี๋...! คุณทำให้ฉันอยากจะอ๊วก” แค่นึกภาพตามเธอก็ทำท่าผะอืดผะอมราวกับอยากจะขย้อนออกมาจริงๆ ถ้าไม่ติดว่าเสียดายของแพงๆ ที่เพิ่งกินเข้าไป “ก็ถ้าคุณยังไม่รีบรักษา คุณเป็นมากกว่าอ๊วกแน่ ผมรับรอง” เขายังทำหน้าจริงจังเช่นเดิม ในขณะที่เธอรีบโบกไม้โบกมือห้ามไม่ให้เขาพูดอีก ด้วยกลัวว่าตัวเองจะอ๊วกออกมาจริงๆ “เอาล่ะ ฉันว่าเราพักเรื่องพยาธิกันก
“ไม่เคยมีความคิดแบบนั้นเลยสักที” เธอรีบปฏิเสธทันทีอย่างต้องการเอาใจ “คุณพูดเองนะว่าไม่คิดจะแยกจากผม เพราะฉะนั้นผมจะถือว่านี่เป็นคำสัญญาจากคุณ แล้วถ้าคุณผิดสัญญา คุณจะต้องโดนลงโทษ” เขาฉวยโอกาสนี้ เอาคำพูดของเธอมาผูกมัดเธอไว้ในคราวเดียวกัน แต่ใครจะสนล่ะ ในเมื่อเธอกับเขาจะเจอกันแค่ครั้งนี้ครั้งเดียวเท่านั้น ‘ชิ! ต่อให้คุณอยากลงโทษฉันแค่ไหน ก็ทำไม่ได้หรอกย่ะ เพราะเราจะไม่เจอกันอีก หึๆๆ แล้วคุณจะคิดถึงฉันอีกนานเชียวล่ะ’ “ได้เลย เอาไงก็เอากันอยู่แล้ว ว่าแต่ไหนล่ะสวรรค์บนดินที่เขาว่าหรูนักหนาน่ะ” เธออดถามไม่ได้ เมื่อเข้ามาด้านในแล้ว กลับรู้สึกว่าที่นี่ไม่เหมือนกับภาพที่เธอจินตนาการไว้ “ก็นี่ไง ที่นี่แหละที่ที่คุณอยากเข้ามานักหนาล่ะ ไหนบอกว่าเคยมาแล้วไง” เขาแสร้งจับผิด แต่ทำเอาเธอถึงกับสะอึก “ก็ได้! ฉันยังไม่เคยเข้ามา พอใจรึยังล่ะ ความจริงคุณรู้ตั้งแต่ตอนที่คุณแสกนลายนิ้วมือแล้วใช่ไหมล่ะ แต่ก็ยังทำแกล้งไม่รู้ ชิ! สะใจล่ะสิที่ล้อฉันได้แบบนี้” เธอเบ้หน้าให้ แค่คิดว่าตัวเองเป็นตัวตลกในสายตาเขาก็ยิ่งเจ็บใจ “เปล่าเลย เรื่อง
“ก็ใช่น่ะสิ ก็เรารู้จักกันแล้ว เมื่อกี้นี้ไง เราแนะนำตัวกันแล้ว คุณจำไม่ได้เหรอ” ริคาโด้กลั้นยิ้มเอาไว้แทบแย่กับการแถไปน้ำขุ่นๆ ของคุณเธอ ‘ทีก่อนหน้าทำมาเป็นว่าอย่างนั้นอย่างนี้ พอเห็นเรามีประโยชน์เข้าหน่อย ก็เปลี่ยนไปหน้าตาเฉย ยัยผู้หญิงเจ้าเล่ห์’ “เอ้าเหรอ นี่เรารู้จักกันแล้วเหรอ ว่าแต่เรารู้จักกันในฐานะอะไรล่ะ” ชมพูแพรถึงกับกัดฟันกรอด รู้ว่าอีกฝ่ายกำลังเล่นลิ้นแกล้งยั่ว รู้หรอกว่าเล่นตัวกับเขาไว้เยอะ แต่เธอเป็นผู้หญิงนะ เรื่องเล่นตัวมันก็ต้องมีบ้างสิ “เออ! ไม่รู้จักก็ได้ คุณอยากไปไหนก็ไปเลย ฉันไม่ยุ่งด้วยแล้ว” เธอสะบัดหน้าอย่างงอนๆ “โอเค งั้นผมไปนะ” เขาว่าแล้วก็หันหลังเดินออกไปอีก “โอ๊ยนี่! ไม่คิดจะง้อกันบ้างเลยรึไงเล่า ฉันเป็นผู้หญิงนะ” เธอแหวให้อีก เมื่อเขาดันไม่ง้อเธออย่างที่คิด “แล้วทำไมผมต้องง้อ ในเมื่อเราไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อย แล้วคุณก็ขึ้นไปเองได้ บางทีเราอาจจะเจอกันในนั้นก็ได้ นอกซะจากว่า...คุณเข้าไปไม่ได้” เขาแสร้งมองเธออย่างจับผิด ทั้งที่ก็รู้ดีอยู่แล้ว “ดะได้สิ ทำไมจะไม่ได้ล่ะ แต
“ฉันจะมาทำไม มันก็เรื่องของฉัน ไม่เกี่ยวกับคุณ” อันนี้เธอก็ไม่ได้ผิดคำพูด เพราะเธอตอบคำถามเขาแล้วจริง แต่เป็นการตอบที่ไม่ได้คำตอบเท่านั้นเอง เอ๊ะ! ยังไง “โอเค งั้นผมถามใหม่ คุณมากับใคร หรือว่านัดใครไว้” ชมพูแพรทำท่าใช้ความคิด ว่าควรตอบเขายังไงดี จากนั้นก็ต้องยิ้มออกมา “มากับแฟน จบไหม” เธอยิ้ม เมื่อคิดว่าเขาต้องเลิกยุ่งกับเธอแล้วแน่ๆ “คุณโกหก” เขาเองก็ยิ้มตอบกลับไป “เอ๊ะ! อยู่ๆ มาหาว่าฉันโกหก คุณเอาอะไรมาวัดไม่ทราบว่าฉันโกหก” เธอพยายามปรับสีหน้าให้เป็นปกติ เมื่อถูกเขาจับได้ แต่ถ้าเธอไม่รับซะอย่าง เขาก็ทำอะไรเธอไม่ได้ จริงไหม “ก็หน้าคุณมันฟ้อง” เขายิ้มมุมปาก เรื่องต้อนผู้หญิงให้จนมุม เขาถนัดนักล่ะ “เอ๊ะ! นี่คุณหาว่าน้ำหน้าอย่างฉัน ไม่มีปัญญาหาแฟนสินะ” ชมพูแพรท้าวสะเอวรู้สึกโมโหขึ้นเป็นสองเท่าที่เขาพูดจี้จุดเจ็บเธอแบบนี้ “คุณดูถูกฉัน ทำไมผู้หญิงอย่างฉันมันแย่ถึงขนาดไม่มีผู้ชายคนไหนอยากได้เป็นแฟนเลยรึไง ฉันไม่สวย ไม่เซ็กส์ซี่ ไม่เร้าใจเหมือนผู้หญิงคนอื่นรึไง” ‘เอ้า! ดราม่าซะงั้น’ ริคาโ