ตอนที่1 ยอมแลก
“ว้าย..กรี๊ด..ตู้ม!!” เสียงกรีดร้องตกใจตามมาด้วยเสียงบางอย่างที่ตกลงไปในสระน้ำขนาดใหญ่ที่ใช้เป็นสถานที่เลี้ยงฉลอง After party ริมสระงานแต่งงานของเจ้าของบ้าน
“ช่วยด้วย ช่วยฉันด้วยฉันว่ายน้ำไม่เป็น” เสียงร้องขอความช่วยเหลือจากคนที่อยู่ในสระ ทุกคนที่กำลังนั่งดื่มและเต้นกันอย่างสนุกสนานไม่มีใครได้ยินเสียงกรีดร้องนั้น บอดี้การ์ดหนุ่มที่นั่งดื่มไวน์เงียบ ๆ อยู่มุมมืดคนเดียวทอดสายตามองหญิงสาวที่กำลังตะเกียกตะกายโบกมือขอความช่วยเหลือ
“กระโดดลงไปเองได้ก็ต้องขึ้นมาเองได้” เสียงเรียบบอกออกไปไม่มีอาการห่วงใยหรือตกใจกับท่าทีที่อีกฝ่ายกำลังจะจมน้ำเลย
“คุณช่วยฉันด้วย ฉันว่ายน้ำไม่เป็น” หญิงสาวยังร้องขอความช่วยเหลือเพราะตอนนี้เธอใกล้จมลงก้นสระเต็มที ถึงจะพอว่ายน้ำเป็นอยู่บ้างแต่ชุดที่เธอใส่อยู่นั้นเป็นอุปสรรคในการลอยคออยู่เหนือน้ำและว่ายกลับเข้าขอบสระ
“ว่ายน้ำไม่เป็นแล้วกระโดดลงไปทำไม” น้ำเสียงเยือกเย็นและสายตาเรียบนิ่งยังคงยืนมองไร้ความสงสาร
“ฉันไม่ได้ตั้งใจ ฉันลื่นล้มลงมาเอง”
“หึ..ลื่นลงไปเอง ต้องกระโดดไปไกลถึงขนาดนั้นเลยหรือไง”
“คุณฉันไม่ไหวแล้ว ช่วยฉะ..ฉันด้วย อึก! ชะ..ช่วยด้วย” คนหมดแรงพยายามร้องขอความช่วยเหลือครั้งสุดท้ายก่อนที่จะค่อย ๆ จมลงก้นสระ
ตู้ม!!
บอดี้การ์ดหนุ่มเห็นท่าไม่ดีรีบถอดเสื้อสูททิ้งลงพื้นโดยไม่สนใจราคาของมัน ร่างสูงกระโดดลงสระตรงตำแหน่งที่หญิงสาวจมลงไป ไม่นานธาราก็อุ้มร่างบางในชุดราตรีขึ้นจากสระในสภาพเปียกโซก บอดี้การ์ดหนุ่มค่อย ๆ วางคนหมดสติลงกับพื้นเพื่อปฐมพยาบาลเบื้องต้น
แค๊ก! แค๊ก! แค๊ก!
หญิงสาวสำลักน้ำที่กลืนเข้าไปก่อนหน้าพร้อมกับน้ำตาที่ไหลออกมาใบหน้าแดงก่ำ
ตึก ตึก ตึก
เสียงฝีเท้าวิ่งมาจากด้านในบ้านตรงมายังสระน้ำที่ใช้จัด After party พร้อมกับบอดี้การ์ดคนอื่น ๆ วิ่งตามหลังมา หลังจากที่บอดี้การ์ดในห้องควบคุมรายงานบอดี้การ์ดที่อยู่ด้านนอกว่าตรงจัดปาร์ตี้มีคนกำลังจมน้ำ พลอยใสอยู่บริเวณนั้นพอดีจึงรีบวิ่งมาดู
“มุกดาเธอเป็นยังไงบ้าง” พลอยใสวิ่งหน้าตื่นมาหยุดตรงหน้านั่งคุกเข่าลงกับพื้นเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง
“ฉันไม่เป็นอะไรแล้ว” เสียงแหบปนเหนื่อยของคนพึ่งได้สติตอบกลับเพื่อนกลับไป
“เธอว่ายน้ำเป็นอยู่ไม่ใช่เหรอทำไมถึงจมน้ำได้”
“ชุดมันพันขาฉัน ฉันเลยจมลงไป” เป็นคำตอบเดียวกับที่เธอบอกธาราก่อนหน้า
“พี่ธาราช่วยพามุกดาเข้าไปในบ้านก่อนนะคะ” พลอยใสเงยหน้าบอกบอดี้การ์ดหนุ่มที่อยู่ในสภาพเปียกโซกไม่ต่างกัน
“ครับ”
“มีสมองทีหลังก็หัดคิดให้มากกว่านี้หน่อยนะ ตายมาจริง ๆ พ่อแม่เธอจะบอกกับญาติยังไง บอกว่าลูกสาวกระโดดลงสระน้ำทั้งที่ใส่ชุดราตรียาว 5 เมตรแล้วชุดพันขาเลยจมน้ำตายอย่างนั้นเหรอ” เสียงเรียบดุออกไประหว่างทางอุ้มเธอเข้าบ้าน
“นี่คุณ เลิกดุฉันสักทีได้ไหมคะ ฉันก็บอกอยู่ว่าลื่นเลยพลัดตกลงไป” คนที่พึ่งผ่านความเป็นความตายมาหมาด ๆ บอกออกไปน้ำเสียงสั่นเครือ
“พามุกดาไปห้องรับรองแขกเลยค่ะ ในนั้นจะมีเสื้อผ้าให้เปลี่ยนด้วยหนูให้แม่บ้านทำความสะอาดเตรียมไว้แล้วค่ะ” พลอยใสที่เดินตามหลังมาเอ่ยบอกกับบอดี้การ์ดหนุ่ม
“คุณอย่าพึ่งไปนะคะ ฉันรู้สึกเหมือนจะวูบยังไงก็ไม่รู้ อยู่เป็นเพื่อนฉันก่อนได้ไหมคะ” เท้ายาวหยุดชะงักขณะกำลังก้าวเท้าพ้นขอบประตูห้อง ธาราลังเลอยู่สักพักก่อนจะตอบกลับเสียงเรียบ
“ผมจะเรียกลุคค์มาตรวจดูให้”
“ไม่ต้องเรียกมาหรอกค่ะ ฉันขออาบน้ำแล้วนอนพักสักหน่อยแต่ตอนนี้คุณช่วยอยู่เป็นเพื่อนฉันสักครู่ฉันกลัวจะล้มในห้องน้ำ”
หญิงสาวหายเข้าไปในห้องน้ำประมาณสิบนาทีเสียงน้ำจากฝักบัวก็เงียบลง มุกดาเดินออกมาจากห้องน้ำโดยมีผ้าเช็ดตัวสีขาวพันรอบกายโชว์เรียวขาสวย
“ทำไมไม่แต่งตัวให้เรียบร้อยค่อยเดินออกมา กลับเข้าไปแต่งตัวให้เรียบร้อยซะ” เสียงเรียบบอกออกไปขณะที่เบือนหน้าหนีมองไปทางอื่น ร่างอรชรโชว์เรียวขาสวยและเนินอกที่ล้นผ้าเช็ดตัวเย้ายวนอยู่ตรงหน้าไม่ได้เรียกให้สายตาคมมองแม้แต่น้อย
“ฉันไม่สวยเหรอคะ ทำไมคุณถึงทำท่ารังเกียจฉันขนาดนั้น” มุกดาเอ่ยถามขณะที่เท้าเล็กเดินเข้าหาชายหนุ่ม
“ท้องได้สามสัปดาห์แล้ว พรุ่งนี้ก่อนแปดโมงเช้าตัวอย่างเลือดต้องถึงโรงพยาบาลที่สิงคโปร์แล้วมึงก็ต้องเป็นคนไปจัดการด้วยตัวเอง” ธาราพูดจบก็ลุกจากโซฟาเดินขึ้นห้องทันที“อะไรของเขาวะ แค่อยากรู้เพศลูกถึงขั้นต้องเอาเครื่องบินส่วนตัวบินไปส่งเองเลยหรือไง ทาโรงพยาบาลก็จัดการเรื่องนี้ได้ไม่ใช่หรือไง”“แจ้งสถาปนิกมาพบฉันด้วยพรุ่งนี้เช้า” ใบหน้าคมเข้มหันกลับมาสั่งอีกครั้งก่อนจะเดินขึ้นบันไดไป“มึงจะเรียกสถาปนิกมาทำไม” ไม่เพียงลุคค์ที่กำลังงงชาร์วีเองก็งงไม่แพ้กัน“ทำห้องไว้สำหรับลูก”เช้าวันต่อมา“พี่ลุคค์ไปไหนแต่เช้าคะ” พลอยใสถามขึ้นเมื่อมื้อเช้าขาดสมาชิกร่วมโต๊ะไปหนึ่งคน“ไปสิงคโปร์ตั้งแต่เช้ามืดแล้ว” ชาร์วีเป็นคนตอบคำถาม“ไปทำไมคะ มีงานด่วนที่นั่นเหรอคะ” พลอยใสถามกลับอีกครั้งเพราะฮาร์เปอร์ไม่ได้มีธุรกิจที่นั่น“งานด่วนไอ้ธารา”“งานด่วนพี่ธารา?”“มุกดาท้องได้สามสัปดาห์แล้ว ลุคค์กำลังนำตัวอย่างเลือดไปตรวจที่สิงคโปร์ว่าได้ผู้ชายหรือผู้หญิง”“จริงเหรอคะ ดีใจด้วยนะคะ ดีใจด้วยนะมุกดาในที่สุดลอนดอนก็มีน้องแล้ว” มือเล็กยื่นไปกุมมือว่าที่คุณแม่มือใหม่ บนโต๊ะอาหารมีแต่รอยยิ้มแห่งความสุข บ้านฮาร์เปอร์เริ่ม
“เอ่อ..ใจเย็น ๆ ก่อนนะคะ หมอว่าเราไปนั่งคุยกันตรงโต๊ะทำงานหมอดีกว่าค่ะ”“จากผลอัลตร้าซาวด์เด็กจะคลอดประมาณเดือนมกราคมปีหน้าค่ะ ส่วนเรื่องเพศนั้นหมอยังตอบไม่ได้ต้องส่งตัวอย่างเลือดไปตรวจที่สิงคโปร์ถึงจะสามารถรู้เพศเด็กได้ หรือไม่ก็ต้องรออายุครรภ์ประมาณห้าเดือนถึงจะอัลตร้าซาวด์ดูเพศได้ค่ะ”“เร็วกว่านั้นได้ไหมครับ” ธาราถามขึ้นท่าทางร้อนใจ“ไม่ได้ค่ะ เราต้องส่งตัวอย่างเลือดไปทางเครื่องบินต้องรอส่งตามรอบค่ะ แต่หมอจะติดตามผลให้เร็วที่สุดแล้วจะแจ้งผลให้ทราบค่ะ”“ทางเราสามารถส่งตัวอย่างเลือดไปเองได้ไหมครับ” อยู่ ๆ ความคิดบางอย่างก็ผุดขึ้นมาในหัว“ส่งเอง แต่ตัวอย่างเลือดต้องเก็บในอุณหภูมิที่เหมาะสมนะคะ คุณจะถือขึ้นเครื่องไปแบบธรรมดาไม่ได้ค่ะ”“ผมจะให้แพทย์เป็นคนนำตัวอย่างเลือดไปส่งที่โรงพยาบาลโดยไม่ให้ตัวอย่างเลือดเสียหายโดยเครื่องบินส่วนตัวของเรา ตัวอย่างเลือดจะถึงสิงคโปร์ไม่เกินแปดโมงเช้าวันพรุ่งนี้ รบกวนคุณหมอติดต่อโรงพยาบาลปลายทางแล้วแจ้งรายละเอียดให้ทางเราทราบโดยด่วนด้วยนะครับ” เสียงเรียบบอกรายละเอียดทั้งหมดออกไป มุกดาได้แต่นั่งอึ้งไม่คิดว่าคนเป็นสามีจะตื่นเต้นแล้วทำให้เป็นเรื่องใหญ่ขนาดน
หลังจากเสร็จกิจกรรมตอนเช้าและกว่าจะอาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็ปาเข้าไปเกือบเที่ยง มุกดาสีหน้าอ่อนแรงผลพวงจากกิจกรรมรักเมื่อคืนที่ผ่านมาและต่ออีกครั้งในตอนเช้า“ค่อยไปวันหลังไม่ได้เหรอคะ ฉันเหนื่อยมากเลยขอนอนพักก่อนได้ไหม” มุกดาพยายามต่อรองธาราอยู่หลายครั้งแต่ชายหนุ่มก็ยังยืนยันคำเดิมว่าเขานั้นได้นัดหมอสูตินรีแพทย์ที่เก่งที่สุดไว้แล้ว“ไม่ได้ผมนัดหมอไว้แล้ว แล้วอีกอย่างคุณจำเป็นต้องรีบตรวจร่างกายโดยเร็ว มีอะไรจะได้รีบแก้ไขทัน”“ร่างกายคนนะคะ ไม่ใช่เครื่องจักรที่พอเจอปัญหาแล้วสามารถเปลี่ยนอะไหล่แล้วแก้ไขได้”“แต่งตัวเสร็จแล้วใช่ไหม ผมนัดหมอไว้ตอนบ่ายโมงพอดี” ไม่เพียงจะไม่ตอบคำถามแต่เขาทำเมินเฉยต่อคำขอร้องของเธอ“ฉันไม่ไปค่ะ ฉันเหนื่อยจนไม่มีแรงจะเดินแล้ว เมื่อเช้าฉันบอกว่าไม่ให้ทำคุณก็ยังจะทำอยู่นั่นแหละ” หย่อนสะโพกนั่งลงกับเตียงใบหน้าง้ำงอ“ไม่ได้มุกดา ผมนัดหมอไว้”“อ้ะ!” วงแขนแกร่งช้อนร่างอรชรขึ้นจากเตียงในท่าเจ้าสาวเปิดประตูห้องพาเธอเดินลงไปด้านล่าง โดยไม่ลืมหยิบกระเป๋าสะพายใบเล็กของหญิงสาวไปด้วย“นี่คุณปล่อยฉันลงนะ ฉันเดินเองได้” สายตาดุมองหน้าชายหนุ่มบอกออกไปน้ำเสียงไม่พอใจ“เมื่อกี้บอกเห
“เซ็กซีฉิบ ต่อไปอย่าหวังจะเอานมไปโชว์ใครอีก”“อึก..อย่าบีบ” ฝ่ามือหนาบีบเคล้นอกอวบที่กระเพื่อมขึ้นลงตามจังหวะโยกของช่วงล่างปั่ก! ปั่ก! ปั่ก!“อือ..อ่าส์ คุณฉัน..ฉันไม่ไหว อื้อ..อ่าส์” เสียงร้องระงมดังไปทั่วห้องเมื่อสะโพกสอบเด้งกระแทกสวนขึ้นมาจนปลายชนเข้ากับท้องน้อย ความเสียวปนจุกจนมุกดาร้องครวญครางออกมาเพื่อระบาย“แรง ๆ มุกดาผมใกล้แล้ว” สะโพกสอบกระแทกสวนขณะที่มือหนาสองข้างจับอยู่ที่เอวคอดช่วยประคองจังหวะขึ้นลงตามที่ตัวเองต้องการ“อึก! คุณมันเสียว ฉันไม่ไหว”“อดทนอีกหน่อย”“อือ..อ่าส์” ปากสวยอ้าค้างสั่นระริกเมื่อปลายแก่นกายไซซ์เกินมาตรฐานกระแทกชนปากมดลูกด้านในจนจุก บวกกับความเสียวแปร๊บตรงท้องน้อย“อ่าส์..” ใบหน้าหล่อเหลาแสดงความร้ายกาจออกมาผ่านสายตา ธาราช้อนขาพับจับหญิงสาวพลิกลงด้านล่างเปลี่ยนตัวเองขึ้นมาเป็นคนคุมเกมรักร้อนแรงนี้ต่อปั่ก! ปั่ก! ปั่ก!“อ้ะ! อ้า..ไม่ไหวแล้ว” หัวใจคนร้องเต้นโครมครามอย่างบ้าคลั่งแข่งกับเสียงเนื้อกระทบเนื้อ เสียงครางของธาราบ่งบอกถึงอารมณ์เร่าร้อนเป็นอย่างดีเพียะ!“อร๊าย..กรี๊ด..” เสียงร้องตามมาด้วยเสียงกรี๊ดทันทีที่ธาราฟาดมือหนักลงแก้มก้นระคนมันเขี้ยว เม็
“ถ้าคุณเผลอครางออกมาแสดงว่าฉันทำให้คุณพอใจ ตกลงตามนี้นะคะ” ใบหน้าเรียวเล็กผละออกจากอกแกร่ง เงยหน้าขึ้นจ้องดวงตาคมเข้ม“ตกลง”“คุณเตรียมบอกฝันดีฉันได้เลยค่ะ” มือเรียวเล็กคว้าแท่งเนื้อที่ตั้งโด่ขึ้นมารูดขึ้นรูดลง ปลายดอกเห็ดสีแดงก่ำตอนนี้มีน้ำสีใสไหลซึมออกมา เส้นเลือดปูดด้านข้างลำแท่งชัดขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อโดนสัมผัสจากมือนุ่ม“อ่าส์..มุกดา” ธาราเผลอร้องครางออกมาเมื่อปากอุ่นนุ่มกลืนกินแท่งเนื้อของเขาเข้าไปจนสุดความยาวในคราเดียว จากนั้นใช้ปลายลิ้นตวัดเลียส่วนปลายที่บานเป็นดอกเห็ดสลับกับเส้นเอ็นตรงปลายด้านข้าง“ไม่ชอบเหรอคะ จ๊วบ!” เสียงหวานเอ่ยถามสลับกับดูดเลียและกลืนกิน รสชาติแปลกใหม่ที่เธอได้สัมผัสสร้างความตื่นเต้นให้เธอไม่น้อยจ๊วบ ~ จ๊วบ ~ จ๊วบ ~“อ่าส์..อย่ากัด” เสียงแหบพร่าบอกออกไปเมื่อฟันคมโดนเนื้อขณะที่รูดเข้ารูดออกเพราะขนาดที่ใหญ่เกินมาตรฐานที่ปากเล็กจะกลืนกินเข้าไปได้มาก รู้สึกเจ็บแปลบ ทว่าก็ชวนรู้สึกตื่นเต้นตลอดเวลา ดวงตาคมเข้มก้มมองหน้าหญิงสาวที่กำลังปรนเปรอ ฝ่ามือหนากดศีรษะเล็กแช่ไว้บางครั้งขณะที่ปากเล็กกลืนแท่งเนื้อเข้าไปจนสุดจนเขารู้สึกเสียวซ่านจนแทบทนไม่ไหว“อ่าส์..ปากนุ่มเป็
ร่างบางอ่อนปวกเปียกราวคนหมดแรงถูกอุ้มในท่าเจ้าสาวพาไปยังห้องนอน ก่อนจะค่อย ๆ วางลงบนฟูกหนาอย่างเบามือ ก่อนจะคว้าผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่มาเช็ดเหงื่อพอลวก ๆ แล้วล้มตัวลงนอนข้าง ๆ หญิงสาว“ดูคุณมั่นใจจังนะว่าเขาจะมาเกิดคืนนี้” นานนับนาทีหลังจากพักหายใจเมื่อภารกิจสำคัญเสร็จสิ้นลง มุกดาหันไปถามคนเป็นสามี“ทำเองกับมือ” คำตอบสั้น ๆ บวกกับสีหน้าท่าทางที่มั่นใจ มุกดาเห็นจึงอดหมั่นไส้ไม่ได้“น้ำเชื้อคุณ มันจะใช้ได้จริง ๆ หรือคะ ไม่ใช่เสื่อมสภาพไปหมดแล้ว” ปากอวบอิ่มเบ้เล็กน้อย“คุณเตรียมตั้งชื่อลูกของเราว่ามังกรได้เลย เพราะเขาจะต้องเกิดราศีมังกรเท่านั้น” ไม่พูดเปล่าฝ่ามือยื่นมาลูบไล้หน้าท้องแบนราบอย่างเบามือราวกับว่าข้างในนั้นมีสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าลูกอาศัยอยู่“แต่งานวิจัยเขาบอกว่าคนที่ทำงานหนักและพักผ่อนน้อย น้ำเชื้อจะไม่ค่อยแข็งแรง เพราะฉะนั้นฉันคิดว่าอีกนานกว่าลูกของคุณจะมาเกิด” มุกดาว่ากลับอีกครั้งด้วยความหมั่นไส้ท่าทีของชายหนุ่มแต่อิงความเป็นจริงอยู่ไม่น้อย“ผมตรวจแล้วน้ำเชื้อผมแข็งแรงดี ปล่อยเข้าร่องของคุณแล้วลูกของเราวิ่งเข้าไปในมดลูกคุณ รับรองลูกของเรามาเกิดวันนี้แน่”“คุณไปตรวจตอนไหนคะ” ร่า