Share

บทที่ 0005

ใครเป็นคนอนุญาตให้เธอเรียกแบบนี้ด้วย?

ขณะที่เขาคิดที่จะตำหนิเธอ แต่เย่เจียเหอก็ได้วางสายไปเสียแล้ว

เมื่อมองเห็นสีหน้าที่ไม่ค่อยดีของวังโหรว ในที่สุดเย่เจียเหอก็ยิ้มด้วยความพึงพอใจอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน

"คุณวังคะ คุณเห็นแล้วหรือยัง?" เธอแกว่งโทรศัพท์มือถือต่อให้วังโหรว "สามีของฉันจะมารับฉันแล้วนะคะ ไม่ว่าคุณจะมาก่อน หรือฉันจะมาทีหลัง คนที่สามีของฉันจะพากลับไปที่วิลล่าเก่าได้นั้น ก็มีเพียงแค่เย่เจียเหอแบบฉันเท่านั้น!"

เธอยืนขึ้น และหยิบธนบัตรหนึ่งร้อยจำนวนสองใบวางไว้บนโต๊ะ

"คุณวังค่อยๆดื่มนะคะ ฉันคิดเงินแล้ว"

พูดจบ เย่เจียเหอก็เดินออกจากร้านกาแฟแห่งนั้นไป

หัวใจที่อึดอัดมาหลายวันแบบนั้น ในที่สุดก็ได้ถูกปลดปล่อยออกมาตั้งแต่วินาทีนี้แล้ว

……

ในไม่ช้า รถของลู่จิ่งโม่ก็มารับเธอที่ประตูมหาวิทยาลัยไห่เฉิง

เพราะท้ายที่สุด คุณปู่ลู่ก็เป็นคนที่เลี้ยงดูเขามาตั้งแต่เล็กๆ เขาคงเคารพคุณปู่ลู่เป็นอย่างมาก

และก็เพราะเหตุนี้ เขาถึงมารับเย่เจียเหอให้กลับไปพร้อมกัน เพื่อหลีกเลี่ยงความไม่พอใจของคุณปู่ลู่

เมื่อเห็นเธอขึ้นรถ ลู่จิ่งโม่ก็พูดอย่างเย็นชาว่า "เย่เจียเหอ ต่อไป อย่าเรียกผมแบบนี้อีก"

"รู้แล้วค่ะ"

เย่เจียเหอตอบตกลงอย่างว่าง่าย

เธอไม่ได้เล่าเรื่องที่วังโหรวมาหาเธอ เพราะความลำเอียงของผู้ชายคนนี้ มันจะทำให้เขาเห็นผิดเป็นถูกได้

ซึ่งไม่แน่ว่า เขาอาจจะพูดว่าเธอได้รังแกยอดดวงใจของเขาก็เป็นไปได้!

เมื่อเห็นว่าเธอไม่ได้โต้ตอบแต่อย่างใด เขาก็ไม่ถือสาสองคำนั่นจนไม่ปล่อยอีกต่อไป จากนั้นก็ขับรถมุ่งหน้าไปยังวิลล่าเก่าตระกูลลู่ทันที

วิลล่าเก่าของตระกูลลู่ตั้งอยู่ทางใต้ของเมืองไห่เฉิงที่ล้อมรอบด้วยภูเขาและแม่น้ำ

ในเวลานั้นเศรษฐีต่างประเทศคนหนึ่งชอบวิลล่าหลังนี้มาก และเสนอเงินสี่หมื่นล้านให้กับเขา แต่มันก็แลกกับรอยยิ้มที่ดูถูกเหยียดหยามของคุณปู่ลู่เท่านั้น

ทุกวันที่สิบห้าของเดือน ตระกูลลู่จะมีการจัดงานเลี้ยงรวมญาติขึ้นมา

พ่อและแม่เลี้ยงของลู่จิ่งโม่ก็จะมาร่วมงานด้วย

ในเวลานี้ยวี๋หลานจือแม่เลี้ยงของลู่จิ่งโม่ก็กําลังหัวเราะและพูดคุยอยู่กับคุณปู่ลู่ว่า "พ่อคะ จิ่งฉีได้ยินว่าช่วงนี้คุณพ่อมีสุขภาพที่ไม่ดี โรคหอบหืดมักจะกำเริบขึ้นบ่อยๆ เขาจึงตั้งใจไปต่างประเทศเพื่อติดต่อผู้เชี่ยวชาญ เลยกลับมาไม่ทันงานเลี้ยงอาหารค่ำนี้ของคุณพ่อนะคะ เขาก็เลยฝากมาขอโทษคุณพ่อด้วยนะคะ"

คุณปู่ลู่ประหลาดใจเล็กน้อย และพูดว่า "จิ่งฉีรู้ประสาขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?"

มีความผิดปกติแวบขึ้นมาบนใบหน้าของยวี๋หลานจือ จากนั้นเธอก็รีบพูดอธิบายขึ้นมาว่า "จิ่งฉีกตัญญูมาโดยตลอดนะคะ ก่อนหน้านี้ยังบอกว่าตัวเองก็เรียนจบมานานขนาดนี้แล้ว ควรที่จะไปช่วยพี่ชายของเขาสักหน่อยแล้ว และก็อยากจะแบ่งเบาภาระของจิ่งโม่ด้วยนะคะ!"

เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ สีหน้าของลู่จิ่งโม่ก็จนลงไปเรื่อยๆ

เงื่อนไขที่เขาตอบรับการแต่งงานกับเย่เจียเหอในตอนนั้นก็คือว่า ต้องการให้คุณปู่ลู่ยอมตอบตกลงที่จะมอบอำนาจทั้งหมดของลู่ซื่อให้กับเขา โดยไม่ยอมให้ลู่จิ่งฉีเข้ามาในลู่ซื่อแต่อย่างใด

หรือว่า คุณปู่ลู่จะยังไม่ได้พูดให้ยวี๋หลานจือและคนอื่นๆอย่างชัดเจน?

และลู่เจิ้นเผิงพ่อที่อยู่ข้างก็พูดสมทบขึ้นมาว่า "คุณพ่อครับ คุณพ่อว่า เราจะจัดตำแหน่งให้จิ่งฉีอยู่ในลู่ซื่อเมื่อไหร่ดีครับ แม้ว่าจิ่งโม่จะจัดการทุกอย่างในบริษัทได้ดี แต่ลู่ซื่อใหญ่ออกขนาดนั้น เขาคนเดียวคงทำไม่ไหวหรอกนะครับ"

ตั้งแต่ที่เขาได้ทำการหย่าร้างกับภรรยาคนก่อน และแต่งยวี๋หลานจือเข้ามาในบ้านนั้น คุณปู่ลู่ก็ได้ปลดเขาออกจากตำแหน่งทุกอย่างในลู่ซื่อ และก็ตั้งให้จิ่งโม่ขึ้นมาดูแลลู่ซื่อโดยตรงแต่เพียงผู้เดียว

ลู่เจิ้นเผิงและยวี๋หลานจือกลัวว่าลูกชายคนเล็กจะถูกดีดออกไป จึงพยายามอย่างยิ่งที่จะพูดแทนลู่จิ่งฉี

คุณปู่ลู่กระแอมไอ และพูดแบบขอไปทีว่า "จิ่งฉีอายุยังน้อย ต้องฝึกฝนให้มากๆ ลู่ซื่อในตอนนี้ ยังไม่มีตำแหน่งที่เหมาะสมกับเขาน่ะ"

สีหน้าของยวี๋หลานจือทรุดลงทันที

แต่เธอก็รู้ดีว่า ขอแค่ลู่จิ่งโม่ยังอยู่ ลูกชายของเธอจะไม่มีวันได้รับความสนใจจากคุณปู่ลู่ขึ้นมาได้

เย่เจียเหออยู่ข้างลู่จิ่งโม่ตลอด และก้มหน้าก้มตากินข้าวไปอย่างเงียบๆ

แต่คําพูดของพวกเขา เธอได้ยินอย่างชัดเจน

ในเวลานี้คุณปู่ลู่หันความสนใจไปที่เธอ และใบหน้าที่เคร่งขรึมก็นุ่มนวลขึ้น

"เจียเหอ หนูดูผอมไปอีกแล้วนะ กินให้เยอะๆหน่อยนะ"

คุณปู่ลู่ยิ้มๆ แล้วพูดว่า "จิ่งโม่ยังโอเคหรือเปล่า? ไม่ได้รังแกหนูหรอกใช่ไหม?"

เย่เจียเหอมองลู่จิ่งโม่แล้วฝืนยิ้ม "คุณปู่วางใจได้นะคะ จิ่งโม่ดีกับหนูมากค่ะ"

ทันทีที่เธอพูดจบ เสียงหัวเราะเบาๆ ของยวี๋หลานจือก็ดังขึ้นมา "ไม่ใช่หรอกมั้ง? ฉันได้ยินมาว่า เดือนหนึ่งจิ่งโม่จะกลับมาบ้านเพียงไม่กี่ครั้ง แล้วก็กลับออกมาอย่างรวดเร็วด้วย นั่นก็หมายความว่าพวกเธอกำลังแยกกันอยู่!"

"อะไรนะ? แยกกันอยู่?"

สีหน้าของคุณปู่ลู่จมลงทันที "เกิดอะไรขึ้น?"

ลู่จิ่งโม่เม้มริมฝีปากบางๆเอาไว้แน่น สายตาที่สงสัยก็ตกลงมาที่เย่เจียเหอ

เขาได้คัดเลือกคนรับใช้ที่ทำงานในวิลล่ามาเป็นอย่างดี ซึ่งจะไม่พูดพล่ามออกไปอย่างแน่นอน แล้วยวี๋หลานจือรู้เรื่องนี้ได้อย่างไรกัน?

ด้วยความกลัวว่าคุณปู่ลู่จะไม่เชื่อ ยวี๋หลานจือยังพูดอีกด้วยว่า "พ่อคะ เจียเหอแต่งเข้ามาถึงสองปีแล้ว แต่ทำไมยังไม่มีวี่แววว่าจะท้องขึ้นมาเลยล่ะคะ คุณพ่อว่าคนหนุ่มสาวอย่างจิ่งโม่และเจียเหอแบบนั้น ความจริงแล้วน่าจะตั้งท้องตั้งนานแล้วนะคะ"

ดูเหมือนคุณปู่ลู่จะคิดอะไรขึ้นมาได้ เขายืนขึ้นและพูดว่า "จิ่งโม่ นายมาที่ห้องหนังสือกับฉันหน่อยสิ"

เย่เจียเหอมองตามหลังพวกเขาอย่างกังวล โดยที่ในใจสับสนอยู่เล็กน้อย

แม้จะพูดว่าลู่จิ่งโม่ถูกคุณปู่ลู่ตำหนิ มันก็เป็นการสมควรแล้ว! แต่ไม่รู้ว่าทำไม เธอยังรู้สึกเป็นห่วงเขาเสียเหลือเกิน

……

ในห้องหนังสือ สองปู่หลานได้เผชิญหน้าต่อกันอย่างเงียบๆ

ผ่านไปเนิ่นนาน คุณปู่ลู่ก็ได้เอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงที่ทุ้มลึกว่า "จิ่งโม่ ฉันให้เจียเหอแต่งงานกับนาย ไม่ได้ให้เธอต้องมารองรับความน้อยเนื้อต่ำใจของตระกูลลู่เรานะ ชีวิตของฉัน เป็นสิ่งที่แม่ของเจียเหอเป็นคนให้มา!"

"การแต่งงานกับเธอ เป็นการประนีประนอมมากที่สุดแล้ว ส่วนที่เหลือ ผมทำไม่ได้"

เสียงของลู่จิ่งโม่ไม่มีความอบอุ่นเลยแม้แต่น้อย

คุณปู่ลู่ตะคอกอย่างเย็นชาออกมา แล้วพูดว่า "คำพูดของยวี๋หลานจือเมื่อครู่นี้ นายก็ได้ยินแล้ว หากนายขืนยังทำแบบนี้กับเจียเหอ งั้นฉันก็คงต้องยุติธรรมสักหน่อยแล้วล่ะ เรื่องทายาทรับช่วงต่อคงต้องพิจารณาเสียใหม่ เพราะยังไงเสีย จิ่งฉีก็เป็นหลานชายแท้ๆของฉันเหมือนกัน"

ลู่จิ่งโม่พยายามอดทนเอาไว้ สุดท้ายก็ไม่ได้เล่าเรื่องการหย่าร้างออกมา

ในตอนนั้น เขายอมเสียสละ และแต่งเจียเหอเข้ามา

ตอนนี้ จะทำให้เรื่องนี้ล้มเหลวไม่ได้อย่างเด็ดขาด

เมื่อเขาอายุหกขวบ ลู่เจิ้นเผิงได้บีบให้แม่ของเขาต้องออกไป และแต่งยวี๋หลานจือเข้ามาแทน

เขาได้ออกตามหานานขนาดนี้แล้ว แต่ก็ยังไม่พบแม่ของเขาแต่อย่างใด

จนถึงตอนนี้ เขาก็ไม่รู้ว่าแม่แท้ๆของตัวเองจะเป็นตายร้ายดีอย่างไร?

ความเกลียดชังแบบนี้ เขาจะหยุดแค่นี้ได้อย่างไร?

"ผมรู้แล้วครับ คุณปู่ครับ ผมรู้ว่าจะต้องทำอย่างไร"

ท้ายที่สุด เขาก็ตอบรับ

ตราบใดที่มีเขาอยู่ เขาจะไม่มีวันปล่อยให้ลู่เจิ้นเผิงและยวี๋หลานจือมีชีวิตที่ดีอย่างแน่นอน

แต่คุณปู่ลู่จะเชื่อเขาง่ายๆ ได้อย่างไร?

"ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป นายและเจียเหอจะต้องย้ายมาอยู่ที่ตระกูลลู่" คุณปู่ลู่ออกคำสั่งอย่างเย็นชา "เมื่อไหร่มีเหลนให้ฉันได้ ฉันก็ค่อยยกหุ้นและอำนาจของลู่ชื่อทั้งหมดให้กับนาย"

……

ด้วยวิธีนี้ ลู่จิ่งโม่และเย่เจียเหอก็ย้ายกลับไปที่วิลล่าเก่าของตระกูลลู่ในคืนนั้น

แน่นอนว่าคุณปู่ลู่ได้จัดห้องให้พวกเขาอยู่ด้วยกัน

ตอนนี้เย่เจียเหอกําลังมองลู่จิ่งโม่ที่มีสีหน้ามืดมนอย่างประหม่า และหัวใจของเธอก็เต้นไปถึงลิ้นปี่แล้ว

ชายหนุ่มยื่นมือออกมาบีบคางของเธอเอาไว้ บังคับให้เธอเงยหน้ามาสบตากับเขา

"ยวี๋หลานจือรู้เรื่องระหว่างเราได้อย่างไร? คุณกับเธอ ดูเหมือนจะสนิทกันมากเลยนะ?"

เย่เจียเหอสามารถมองออกความสงสัยของเขาได้ และรีบอธิบายขึ้นมาทันทีว่า "คุณเกลียดผู้หญิงคนนั้น และฉันก็ไม่ชอบเธอ แล้วฉันจะไปเกี่ยวข้องกับเธอได้อย่างไรกัน?"

แต่คําพูดของเธอ กลับไม่น่าเชื่อถือเลยแม้แต่น้อย

ลู่จิ่งโม่กระตุกมุมปากขึ้น และยิ้มอย่างดูแคลน "อยากจะร่วมหอกับผมมากนักเหรอ? งั้นวันนี้ ผมก็จะทำให้คุณหนำใจ!"

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status