หรือว่าผู้ชายที่เย่เจียเหอคบชู้อยู่ด้วยก็คือ จิ้นหนานผิง?เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ สีหน้าของลู่จิ่งโม่ก็ยิ่งดูแย่ไปกว่าเดิมมากเสียแรงที่เขาได้จมกับความรู้สึกผิดที่มีต่อเธอตั้งแต่เมื่อวานจนถึงวันนี้ และคิดว่าตัวเองปรักปรำเธอเสียแล้วแล้วเธอล่ะ?เธอไม่สนใจอะไรทั้งนั้น!เธอกำลังหวานแหววอยู่กับผู้ชายคนอื่นอยู่น่ะสิ……จิ้นหนานผิงได้พาเย่เจียเหอไปส่งที่บ้าน เธอไม่กล้าที่จะผลีผลามเชิญให้เขาเข้าไปนั่งในบ้านแต่อย่างใดเพราะเธอกลัวว่าลู่จิ่งโม่จะอยู่ที่บ้านน่ะสิและจิ้นหนายผิงก็เป็นผู้ชายที่รู้สถานการณ์ดีเช่นกันหลังจากส่งเธอถึงจุดหมายแล้ว เขาก็ขับรถออกไปทันทีเมื่อเย่เจียเหอกลับถึงบ้าน ประโยคแรกที่เธอถามก็คือ "ป้าจางคะ เขา... กลับมาหรือยังคะ?" ถ้าเขารู้ว่าตัวเองถูกใส่ร้าย เขาจะเสียใจไหม? จะสนใจเธอมากขึ้นไหม? จะรู้จักใบหน้าที่แท้จริงของวังโหรวหรือไม่?แต่น่าเสียดายที่ป้าจางพูดอย่างลำบากใจขึ้นมาว่า "คุณผู้หญิง คุณผู้ชายยังไม่ได้กลับมาเลยค่ะ งั้นดิฉันจะโทรถามเขาเอาไว้คะ?""ไม่จำเป็นแล้วล่ะค่ะ"เย่เจียเหอจับมุมริมฝีปากอย่างขมขื่น แล้วพูดว่า "เขาน่าจะไม่มีเวลากลับมาแล้วล่ะค่ะ"ยังไงเขาก
"คุณกลับมาแล้วเหรอ?"เธอวิ่งเหยาะๆ ไปหาเขา และดูเหมือนว่าจะมีหลายสิ่งหลายอย่างที่ต้องการพูดกับเขาแต่ดวงตาของลู่จิ่งโม่ถูกปกคลุมไปด้วยน้ำแข็ง และมีออร่าการห้ามเข้าใกล้แพร่กระจายออกมาเขาชำเลืองมองเธอเบาๆ แล้วเดินตรงไปข้างหน้าเย่เจียเหออดไม่ได้ที่จะจู่โจมคำถามไปที่แผ่นหลังของเขา "ลู่จิ่งโม่ คุณช่วยจัดหาทนายมาให้วังโหรวหรือเปล่า?"ชายหนุ่มหยุดฝีเท้าลง แล้วตอบอย่างเย็นชาว่า "ใช่ แล้วจะทำไม?""เพราะอะไร? คุณต้องการผลักให้เซี่ยหลิงต้องจนมุมจนตายใช่หรือเปล่า?"เย่เจียเหอกระโจนไปหาเขา ยืนอยู่ต่อหน้าเขา แล้วพูดอย่างโกรธๆว่า "ฉันตกลงที่จะหย่าแล้วนะ ฉันให้พวกคุณสมปรารถนาแล้ว ทำไมคุณยังต้องทำแบบนี้อีก?""ผมสมปรารถนา?"ลู่จิ่งโม่ยิ้มอย่างเย็นชา แล้วพูดขึ้นมาว่า "มันเป็นความปรารถนาของผม หรือของคุณกันแน่?"มีแต่การหย่ากับเขาอย่างราบรื่นเท่านั้น เธอถึงจะออกไปตามหาผู้ชายที่แอบซ่อนไว้ข้างนอกแบบนั้นได้ ไม่ใช่เหรอ?และผู้ชายคนนั้นมีความเป็นไปได้สูงว่าจะเป็น จิ้นหนานผิง!เย่เจียเหอสับสนกับคําถามกลับของเขา และพูดอย่างน้อยใจว่า "ทั้งๆ ที่เป็นคุณที่อยากจะหย่ากับฉันตั้งแต่แรก แล้วตอนนี้ทำไมโยนมาท
"คุณนายคะ คืนนี้คุณชายคงจะไม่กลับมาตามเคยนะคะ คุณนายจะเข้านอนก่อนดีไหมคะ?"เมื่อป้าจางเห็นไฟในห้องนอนยังคงสว่างอยู่ จึงเข้ามาเตือนด้วยความหวังดีประกายความผิดหวังแวบเข้ามาในดวงตาของเย่เจียเหอและในเวลานั้นเอง ก็มีเสียงของเครื่องยนต์ดังแว่วมาจากลานบ้านเย่เจียเหอจึงรีบวิ่งไปที่หน้าต่างและชะโงกมองดู โดยที่ยังไม่ทันได้สวมรองเท้าแตะเสียด้วยซ้ำตามที่คาดเอาไว้ เบนท์ลีย์สีเงินของลู่จิ่งโม่ขับเข้าไปในโรงรถเธอสูดลมหายใจเข้าลึกๆ และมองลงไปยังชุดนอนที่สุดแสนจะเซ็กซี่ของตัวเองด้วยหัวใจที่เต้นระรัวราวกับกลองตลอดระยะเวลาสองปีที่แต่งงานกันมา เขาก็นอนอยู่ในห้องรับแขกมาโดยตลอด และก็ไม่เคยแตะต้องตัวเธอแต่อย่างใดเย่เจียเหอรู้ดีว่า การแต่งงานของพวกเขาทั้งสองได้เกิดมาจากคุณปู่ลู่ ซึ่งไม่ใช่ความปรารถนาของลู่จิ่งโม่แต่อย่างใดแต่สองปีมาแล้วนะ พวกเขาจะต้องเป็นแบบนี้ต่อไปอย่างนั้นเหรอ?ลู่จิ่งโม่คิดว่าเธอเป็นแค่นักศึกษาที่ยังไม่จบการศึกษา และคิดว่าเธอไม่เข้าใจอะไรเลยใช่ไหม?หรือเป็นเพราะว่าเขารังเกียจที่เธอไม่ได้เป็นฝ่ายเสนออย่างนั้นใช่ไหม?เมื่อนึกได้ดังนี้ เย่เจียเหอก็สวมชุดกระโปรงนอนเซ็กซี่ท
ลู่จิ่งโม่สูญเสียการควบคุมไปโดยสิ้นเชิงแล้วในเวลานี้วันนี้ในวงสังสรรค์ไม่รู้ว่าอาหารหรือเหล้าเบียร์กันแน่ที่มีปัญหาเขาในตอนนี้ถูกขับเคลื่อนด้วยแรงปรารถนา และยากที่จะควบคุมอารมณ์ส่วนนั้นเอาไว้ได้เมื่อสัมผัสไปโดนความนุ่มละมุนของหญิงสาวที่อยู่บนเตียงความปรารถนานั้นของเขาก็ราวกับลูกศรที่จำเป็นต้องพุ่งทะยานออกไปอย่างหยุดเอาไว้ไม่อยู่ด้วยการตอบสนองที่เขินอายและการร้องไห้สะอึกสะอื้นอย่างน่าสงสารแบบนั้น มันยิ่งทำให้เขาแทบจะบ้าคลั่งไปแล้วผ่านไปหนึ่งชั่วโมงเต็มในที่สุดชายหนุ่มก็อิ่มหนำสำราญและผล็อยหลับไปเย่เจียเหอรู้สึกเหมือนกับผ่านการบดขยี้มา มันเจ็บปวดจนถึงกระดูกเลยทีเดียวเธอประคองร่างกายที่ปวดเมื่อย รีบสวมกระโปรง และออกไปจากห้องท่ามกลางความมืดมิดจากนั้นก็เข้าไปในลิฟต์อย่างลุกลี้ลุกลน แต่กลับชนกับหญิงสาวคนหนึ่งเข้าพอดี"ขอโทษค่ะ"เย่เจียเหอใบหน้าซีดเผือด รีบเดินเข้าไปในลิฟต์ และกดปุ่มปิดประตูทันทีวังโหรวออกจากลิฟต์ และหันกลับไปมองทันทีเธอไม่อยากจะเชื่อเลยจริงๆ จึงแอบอยู่ซอกลิฟต์และมองไปที่เย่เจียเหอนี่ใช่ภรรยาของลู่จิ่งโม่หรือเปล่า? ผู้หญิงที่แย่งตำแหน่งของเธอไปคนนั
เย่เจียเหอมองไปที่เขาอย่างประหม่า แล้วพูดอย่างสะอึกสะอื้นขึ้นมาว่า "คุณฟังฉันอธิบาย เมื่อวานฉัน...""พอได้แล้ว"ลู่จิ่งโม่พูดตัดบทเธอ และสายตาก็ตกไปที่รอยแดงบนลำคอของเธอเห็นได้ชัดว่า รอยแบบนี้จะทิ้งเอาไว้หลังจากที่ทำเรื่องแบบนั้นแล้วน้ำเสียงของเขาเย็นชาและโหดเหี้ยม "สองปีมานี้ให้คุณเดียวดายเพียงลำพัง ผมก็มีส่วนผิดอยู่ด้วย คุณทำเรื่องแบบนี้ลงไป ผมก็ไม่โทษคุณ แต่เจียเหอ ตระกูลลู่ไม่สามารถยอมรับผู้หญิงที่ไม่สะอาดแบบนี้มาเป็นแม่ใหญ่ของบ้านได้"สมองของเย่เจียเหอสับสนไปหมดแล้ว และคำอธิบายทั้งหมดในเวลานี้ มันก็ไร้ประโยชน์อย่างสิ้นเชิงใช่สิ เรื่องแบบนี้พูดไปใครจะเชื่อล่ะ?ยิ่งไปกว่านั้น ต่อให้เธอจะพิสูจน์เรื่องนี้ได้จริงๆว่าเธอถูกสองแม่ลูกเย่เป่าจูนั่นใส่ร้าย แต่เธอก็ไม่สะอาดอีกต่อไปแล้วเย่เจียเหอกระตุกมุมปากอย่างขมขื่น จากนั้นก็พูดขึ้นมาว่า "ดังนั้น ความหมายของคุณก็คือ หย่า?"ลู่จิ่งโม่พยักหน้าอย่างสงบ "ทางด้านของคุณปู่ หวังว่าคุณจะพูดอย่างชัดเจนว่า เป็นคุณเองที่จะขอหย่า ผมจะไว้หน้าคุณเป็นครั้งสุดท้าย อย่าให้คนแก่ท่านรู้ว่า คุณออกไปแอบกินของคาวมา"เย่เจียเหอรู้สึกเพียงว่าในเวลาน
เมื่อลู่จิ่งโม่กลับถึงบ้าน มันก็เป็นเวลาห้าทุ่มกว่าแล้วภายในวิลล่าเงียบสงบอย่างน่าประหลาด ในห้องรับแขกก็เปิดไฟกลางคืนไว้แค่เพียงดวงเดียวเย่เจียเหอนั่งอยู่บนโซฟา ดูเหมือนจะรอเขาอยู่ลู่จิ่งโม่ถอดเสื้อโค้ตออก คลายเนกไท และพูดด้วยน้ำเสียงที่หมดความอดทนเล็กน้อย"หย่ากัน เราตกลงกันตั้งแต่ตอนเที่ยงแล้วไม่ใช่เหรอ? ปัญหาเรื่องทรัพย์สิน ผมไม่ให้คุณขาดทุนแน่นอน เรื่องนี้ คุณวางใจได้"เขาคิดว่า เธออยากจะแบ่งทรัพย์สินให้มากหน่อยก็เท่านั้นเองเย่เจียเหอพูดด้วยน้ำเสียงที่แหบแห้งว่า "ลู่จิ่งโม่ เพราะผู้หญิงคนนั้น คุณถึงจะหย่าร้างกับฉันไม่ใช่เหรอ?"สีหน้าของลู่จิ่งโม่เปลี่ยนไปเล็กน้อย และในไม่ช้าก็กลับมาสงบอีกครั้งเขาไม่อยากจะปิดบังเธออีกต่อไป และก็ไม่จำเป็นที่จะต้องปิดบังอีกต่อไปด้วย"ใช่ ผมต้องรับผิดชอบต่อเธอ นี่เป็นสิ่งที่ผมติดค้างเธอเอาไว้"ลู่จิ่งโม่ยอมรับอย่างใจเย็นเย่เจียเหอหัวเราะเยาะตัวเอง "วันนี้ฉันเพิ่งจะพบว่า คุณเป็นคนหน้าซื่อใจคดได้ขนาดนั้น ตอนเที่ยงคุณยังทำตัวว่าเป็นเหยื่อ ทำให้ฉันรู้สึกผิด และบีบบังคับฉันให้หย่าอยู่เลย น่ากลัวว่าตอนนั้นคุณคงจะแอบดีใจอยู่ใช่ไหมล่ะ? ในที่สุ
ใครเป็นคนอนุญาตให้เธอเรียกแบบนี้ด้วย?ขณะที่เขาคิดที่จะตำหนิเธอ แต่เย่เจียเหอก็ได้วางสายไปเสียแล้วเมื่อมองเห็นสีหน้าที่ไม่ค่อยดีของวังโหรว ในที่สุดเย่เจียเหอก็ยิ้มด้วยความพึงพอใจอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน"คุณวังคะ คุณเห็นแล้วหรือยัง?" เธอแกว่งโทรศัพท์มือถือต่อให้วังโหรว "สามีของฉันจะมารับฉันแล้วนะคะ ไม่ว่าคุณจะมาก่อน หรือฉันจะมาทีหลัง คนที่สามีของฉันจะพากลับไปที่วิลล่าเก่าได้นั้น ก็มีเพียงแค่เย่เจียเหอแบบฉันเท่านั้น!"เธอยืนขึ้น และหยิบธนบัตรหนึ่งร้อยจำนวนสองใบวางไว้บนโต๊ะ"คุณวังค่อยๆดื่มนะคะ ฉันคิดเงินแล้ว"พูดจบ เย่เจียเหอก็เดินออกจากร้านกาแฟแห่งนั้นไปหัวใจที่อึดอัดมาหลายวันแบบนั้น ในที่สุดก็ได้ถูกปลดปล่อยออกมาตั้งแต่วินาทีนี้แล้ว……ในไม่ช้า รถของลู่จิ่งโม่ก็มารับเธอที่ประตูมหาวิทยาลัยไห่เฉิงเพราะท้ายที่สุด คุณปู่ลู่ก็เป็นคนที่เลี้ยงดูเขามาตั้งแต่เล็กๆ เขาคงเคารพคุณปู่ลู่เป็นอย่างมากและก็เพราะเหตุนี้ เขาถึงมารับเย่เจียเหอให้กลับไปพร้อมกัน เพื่อหลีกเลี่ยงความไม่พอใจของคุณปู่ลู่เมื่อเห็นเธอขึ้นรถ ลู่จิ่งโม่ก็พูดอย่างเย็นชาว่า "เย่เจียเหอ ต่อไป อย่าเรียกผมแบบนี้อีก"
เย่เจียเหอสามารถเข้าใจความหมายของเขาได้ และถอยไปที่มุมเตียงอย่างไม่รู้ตัววินาทีต่อมา ชายหนุ่มก็จับน่องของเธอเอาไว้อย่างง่ายดาย และลากตัวเข้าไปทันทีน้ำหนักของเขาทับไปบนตัวของเธอ และมันก็มากพอที่จะทําให้เธอขยับตัวไม่ได้เย่เจียเหอได้แต่เอื้อมมือผลักไหล่เขาออกไป แล้วถามอย่างประหม่าว่า "ลู่จิ่งโม่ คุณคิดจะทำอะไรน่ะ?""แล้วคุณคิดว่ายังไงล่ะ? ผู้ชายกับผู้หญิง ยังจะทำอะไรได้อีก?"ลมหายใจที่หนาวเย็นของชายหนุ่มปะทะเข้ามา และจูบที่โหดร้ายก็ได้ถาโถมเข้ามาที่ลำคอของเย่เจียเหอ"อย่า!"เย่เจียเหอตกใจ และพยายามดิ้นรนอย่างสุดความสามารถ "ลู่จิ่งโม่ อย่าทำแบบนี้ อย่ามาแตะต้องตัวฉันนะ!"ซึ่งมันทำให้เธอนึกถึงเหตุการณ์ในค่ำคืนนั้นขึ้นมา ซึ่งผู้ชายคนนั้นก็ทำหยาบคายแบบนี้กับเธอเช่นกันเย่เจียเหอไม่อยากหวนคิดอีกต่อไป หากลู่จิ่งโม่ขืนยังทำแบบนี้ต่อไป เธอก็คงจะพังทลายอย่างแน่นอนหญิงสาวที่อยู่ใต้ตัวของเขาร้องไห้คร่ำครวญอย่างน่าเวทนา ไม่ว่าลู่จิ่งโม่จะมีจิตใจที่โหดเหี้ยมแค่ไหน ในเวลานี้เขาก็คงลงโทษเธอด้วยวิธีนี้ไม่ได้จริงๆเพราะท้ายที่สุดแล้ว หากเรื่องแบบนี้ทำไปโดยไม่มีความรักอยู่ ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายใด