Share

บทที่ 3

พวกเขาไปที่ห้องอาบน้ำ ในขณะนั้นฝักบัวกำลังเปิดอยู่ ราวกับฝนตกโปรยปราย

เมื่อถูกเหวินเหยียนโจวกดลง โหลวฉางเยว่ก็เกิดสำลักโดยไม่ทันระวัง ทำให้เธอเกิดนึกถึงตอนที่พวกเขาเจอกันครั้งแรกเมื่อสามปีก่อน

วันนั้นเองก็เป็นวันฝนตก

เดิมทีครอบครัวของเธอเปิดร้านขายของชำ ไม่ถือว่าร่ำรวยแต่ก็ไม่ขัดสน สมาชิกห้าคนของครอบครัวก็อยู่กันอย่างสงบสุข

แต่ใครจะคาดคิดว่าพ่อของเธอจะถูกหลอก เขาถูกหลอกเป็นจำนวนเงินมากถึงยี่สิบห้าล้านบาท พวกเขาขายร้านขายของชำทิ้ง ขายบ้าน ขายทุกอย่างที่สามารถขายได้ในบ้าน แต่ยังขาดอีกสิบห้าล้านบาท

ในตอนที่จนตรอกนั้นเอง คนที่วางแผนหลอกทำให้เหตุการณ์มาถึงสุดขอบเหว จะใช้เธอขัดดอก

และพ่อกับแม่ของเธอก็ตกลง

เธอหนีออกมาในคืนวันฝนตก เสียงมอเตอร์ไซค์ที่ขับตามมาด้านหลังดังมาก ราวกับอสูรที่กำลังหยอกล้อเหยื่อที่อ่อนแอ เธอวิ่งจนรองเท้าหายวิ่งจนผมเผ้ากระเซิง เบื้องหน้ามีแต่ความมืดมิด มองไม่เห็นแสงแม้แต่น้อย

เธอล้มลงบนพื้น มอเตอร์ไซค์หลายคันขับมาล้อมเธอเอาไว้ และในตอนที่เธอคิดว่าชีวิตของเธอจะจบลงแบบนั้น รถยนต์คันหนึ่งก็มาจอดตรงหน้าเธอ

เธอเงยหน้าขึ้นมองเห็นประตูรถเปิดออก รองเท้าหนังที่ขัดจนเงาเหยียบอยู่บนแอ่งน้ำตื้น ๆ ขากางเกงชุดสูทของชายหนุ่มทั้งเรียบร้อยและเรียบกริบ ในมือของเขาถือร่มสีดำคันหนึ่ง ก่อนจะให้เธอเข้าไปอยู่ใต้ร่มของเขาด้วยท่าทางเย็นชาสง่างาม

เขาพูดว่า นี่เป็นคนของผม ใครกล้าแตะ?

การเจอกันครั้งแรกนั้นช่างน่าทึ่ง จนเธอตอกย้ำภาพฉากนั้นอยู่เสมอในความฝันหลังจากนั้น ทำให้มันงดงามขึ้น จนมันฝังลึกลงในใจ ไม่อาจปล่อยวางมันได้อีก

เวลานานกว่าครึ่งชั่วโมงหลังจากนั้น โหลวฉางเยว่ออกจากห้องอาบน้ำ ร่างกายเปียกปอน เธอหาลูกอมเม็ดหนึ่งอมไว้ก่อน ถึงไปหาเสื้อผ้าสะอาดเพื่อเปลี่ยน ส่วนเหวินเหยียนโจวยังอยู่ในห้องอาบน้ำ

เธอกำลังคิดว่าจะบอกเหวินเหยียนโจวเรื่องที่เธอตั้งครรภ์แล้วแท้งบุตรดีหรือไม่?

คิดอยู่ราวสามนาที เธอก็เลือกที่จะไม่บอก

สามปีก่อนเขาช่วยเหลือเธอ ขอให้เธออยู่ ตอนที่ปกป้องเธอก็บอกกับเธอว่าอย่าทำเรื่องที่เพิ่มความลำบากให้เขา

เธอเป็นเครื่องมือของเขา เครื่องมือบนเตียง เครื่องมือในชีวิต เครื่องมือในการทำงาน และเครื่องมือก็ควรมีจิตสำนึกแบบของเครื่องมือเอง

ยิ่งไปกว่านั้น เขาสนใจผู้หญิงอีกคนแล้วตอนนี้ เขาก็จะยิ่งไม่สนใจเธอขึ้นไปอีก พูดไปก็คงไม่มีประโยชน์

วันรุ่งขึ้น โหลวฉางเยว่ไปทำงานตามปกติ

ภายในห้องเลขาท่านประธานมีเลขาทั้งหมดสามคน แต่ละคนแบ่งกันรับผิดชอบแต่ละเครื่องของเหวินเหยียนโจว

ที่จริงเธอไม่ได้โดดงาน เธอส่งใบลาให้แผนกบุคคลแล้วตั้งแต่ที่ถูกหามไปโรงพยาบาล เหวินเหยียนโจวไม่เคยถามเธอเลยสักนิด แต่เขาก็คิดไปเองแล้วว่าเธอโดดงาน

ลางานไปหลายวันขนาดนี้ เอกสารด่วนเธอก็จัดการตั้งแต่อยู่ที่โรงพยาบาล แต่งานที่เป็นกิจวัตรประจำวันยังมีค้างอยู่ เธอมีงานยุ่งตลอดทั้งเช้า จนไม่มีเวลากินข้าวกลางวัน

เวลาบ่ายสอง ผู้จัดการแผนกการเงินมาหาเธอ เพื่อบอกว่าเอกสารมีข้อผิดพลาด จุดทศนิยมผิด

โหลวฉางเยว่ขมวดคิ้ว ก่อนจะรับเอกสารไปและอ่านเอกสารแบบคร่าว ๆ “เอกสารนี้เหมือนจะไม่ใช่ฉันทำนะคะ”

“ไป๋โหยวผู้ช่วยที่เพิ่งมาใหม่เป็นคนทำค่ะ”

โหลวฉางเยว่นิ่งไปพัก ก่อนจะพูดกับผู้จัดการแผนกการเงิน “ฉันรู้จักกับพวกเขามาก่อน ข้อผิดพลาดนี้ให้ฉันจัดการเถอะค่ะ”

ผู้จัดการแผนกการเงินตอบเสียงเข้ม “ต่อให้แก้ไขได้ แต่ความผิดหนักแบบนี้ ก็ต้องมีคนรับผิดชอบนะ”

โหลวฉางเยว่พูดด้วยสีหน้านิ่งเรียบ “ใครทำผิดคนนั้นก็รับผิดชอบค่ะ”

ตามกฎของบริษัท เข้าทำงานไม่ถึงหนึ่งเดือน ถ้าเกิดข้อผิดพลาดในการทำงานร้ายแรง จะถูกไล่ออกทันที

ไม่นานหลังจากนั้น แผนกบุคคลก็ส่งประกาศไปให้ไป๋โหยว

โหลวฉางเยว่แอบมองประกาศ ไป๋โหยวร้องไห้สะอึกสะอื้นพร้อมกับเก็บของ การเคลื่อนไหวของเธอช้ามาก ห้องทำงานของเลขายุ่งมากทุกวันจนไม่มีใครมีเวลาสนใจผู้ช่วยที่ดูว่างงานหรอก

ไป๋โหยวอุ้มกล่องออกจากห้องเลขา ก่อนจะเจอเข้ากับเหวินเหยียนโจวพอดี

หลังจากนั้นสิบนาที โหลวฉางเยว่ก็ได้รับโทรศัพท์ภายในจากห้องทำงานท่านประธานให้เธอเข้าไป

เธอเดินกอดเอกสารเข้าไปในห้องท่านประธาน และก็เห็นไป๋โหยวที่ยืนอยู่ด้านข้างทันที

เหวินเหยียนโจวนั่งอยู่บนเก้าอี้ทำงานพร้อมกับหมุนปากกาไปมา สายตาของเขาเย็นชา “อธิบายมา”

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status