“อือ” หมอปั้นคำตอบรับสั้น ๆ อย่างเคย
ฉันรู้สึกถึงริมฝีปากนุ่ม ๆ ร้อน ๆ ของปั้นทาบทับลงมาบนริมฝีปากฉัน เขาเริ่มขบเม้มแรงขึ้น แรงขึ้น ลิ้นของหมอปั้นที่เริ่มรุกล้ำเข้ามาข้างในโพรงปากของฉัน แล้วค่อย ๆ ดูดดึงปลายลิ้น ดูดกลืนอย่างหิวกระหาย จูบของเขาสร้างความซ่านสยิวให้ฉันอย่างมาก จนรู้สึกว่าฉันกำลังจะขาดอากาศหายใจ
“อือ...อือ” ฉันครางออกมาไม่รู้ตัว ไม่รู้ว่าภาษาอะไรด้วยซ้ำที่ร้องคราง หูตาพร่ามัว ในหัวขาวโพลนไปหมด ปั้นกำลังจะฆ่าฉันด้วยจูบนี้ จะมีคนตายเพราะการจูบกันไหมนะ ฉันหายใจหอบแรงเมื่อปั้นถอนริมฝีปากออก
“ใจเย็นคนดี อย่าบอกนะว่าไม่เคยจูบ” สองมือหนาไล้ข้างแก้มอย่างปลอบโยน
“ปั้น...แล้วญ่าจะเคยไปจูบกับใครล่ะ” ฉันอายุยี่สิบห้าปี จูบแรกยังไม่เคยมีสักครั้ง หมอปั้นจะมาล้อเลียนทำไมเนี่ย
“ตอนนี้ก็เคยแล้วนี่ ปากญ่าเป็นของปั้นแล้ว”
ปั้นยังคงประทับริมฝีปากมาจูบฉันไม่หยุดหย่อน ร่างกายส่วนล่างก็เบียดเสียดที่ต้นขาของฉัน ฉันรู้ถึงความตึงคับของมันได้ทันที
ปั้นขบริมฝีปากล่าง แล้วดันปลายลิ้นเข้ามาเกี่ยวพันกับลิ้นฉัน ปั้นทั้งกัดทั้งดูด
'ปั้น ญ่าจะตายแล้ว' ฉันได้แต่ร้องประท้วงปั้นในใจ เพราะปั้นไม่ปล่อยให้ฉันพูดเลย มือปั้นลูบไล้แผ่นหลังฉัน ชุดนอนกระโปรงผ้าลินินแนบเนื้อ ยิ่งทำให้เหมือนมือปั้นลูบบนผิวของฉันแบบไม่มีสิ่งใดกีดขวาง
ปั้นดึงขาฉันข้างหนึ่งมาพาดบนหน้าขา กระโปรงก็ถกขึ้นมาเหนือเอว เหลือเพียงแพนตี้ตัวน้อย มือหนาคลึงและบีบเคล้นก้นงอนของฉันแรงขึ้น ยิ่งปั้นจูบแรง น้ำหนักมือที่ลงบนแก้มก้นยิ่งแรงตามไปด้วย ฉันรู้สึกร้อนไปทั้งตัว เบียดกายเข้าหาปั้นเพื่อหวังจะคลายความร้อนในตัว กลับยิ่งทำให้ร้อนหนักกว่าเดิม
“อือ...ปั้นจ๋า อือ...ปั้น” ฉันมีโอกาสได้หายใจและได้เรียกชื่อปั้น เพราะตอนนี้ปั้นกำลังดึงชุดนอนและชั้นในฉันออกจากตัว จนในตัวฉันไม่เหลือสิ่งใดปกปิดเลย นอกจากแหวนแต่งงานบนนิ้ว
“นมสวย”
“ปั้น” ตุ้บ ฉันทุบลงบนไหล่ปั้นเบา ๆ ด้วยความเขินอาย
“ถอดให้ปั้นหน่อยครับ” ทีเสื้อผ้าญ่าหมอปั้นถอดเสร็จเร็วภายในสิบวิ เสื้อตัวเองทำไมไม่ถอดเอง แต่ฉันก็ไม่ดื้อ ถอดเสื้อให้หมอปั้นแต่โดยดี ปั้นเป็นผู้ชายหุ่นเพอร์เฟกต์มาก มัดกล้ามขึ้นให้ดูพองามไม่ได้ดูใหญ่โตอะไร ผิวขาวละเอียด ใบหน้าลูกเสี้ยวที่หล่อเหลา
“ปั้น อือ” ฉันได้เรียกชื่อหมอปั้นแค่เท่านั้น หลังจากนั้นหมอปั้นก็กระหน่ำจูบฉันแบบเอาเป็นเอาตาย มือหมอปั้นที่นวดคลึงหน้าอกหน้าใจฉันยิ่งทำให้ฉันวาบหวิวไปทั่วร่าง ส่วนล่างของหมอปั้นก็เบียดที่ต้นขาของฉัน
หมอปั้นถอนจูบจากปากฉันไล่ซุกไซ้ลงมาที่ซอกคอและนั่นยิ่งสร้างความต้องการให้ฉันเพิ่มมากขึ้น ภายในกายเรียกร้องอยากให้เขาเติมเต็มมากกว่านี้
“ปั้น อือ ปั้น” ฉันว่าวันนี้เป็นวันที่ฉันเรียกชื่อหมอปั้นบ่อยที่สุดแล้ว ฉันรู้สึกเย็นและร้อนในเวลาเดียวกันเมื่อหมอปั้นดูดดึงหน้าอกฉัน ริมฝีปากและลิ้นของหมอปั้นที่ครอบครองเต้างามของฉันยิ่งทำให้ฉันเหมือนตัวลอยจากเตียงยังไงยังงั้น
“ปั้น ญ่าเสียว” ฉันไม่คิดว่าคำพูดน่าอายแบบนี้จะออกมาจากปากฉัน
“อย่าเกร็ง ปล่อยไปตามธรรมชาติ ปั้นจะทำให้ญ่ามีความสุขที่สุด” ปั้นยังคงดูดคลึงหน้าอกฉัน จากมือที่บีบก้นฉันอยู่ก่อนหน้าตอนนี้เริ่มมาลูบคลึงตรงจุดกลางกายของฉัน พร้อมขยี้ตรงปลายติ่งเสียวอย่างเอาแต่ใจและนั่นยิ่งทำให้ฉันร้องครางไม่หยุด เพราะความวาบหวิวที่ได้รับ
ไม่เคยคิดว่าความรู้สึกแบบนี้จะมีอยู่จริง ยิ่งฉันร้องครางหมอปั้นยิ่งได้ใจ บดขยี้มากกว่าเดิม
“ปั้น อือ...อือ...ปั้น”
“จ๋า”
“ญ่า เหมือนจะขาดใจ”
“ญ่าจ๋า มันเพิ่งเริ่มเองนะ” อะไรนะนี่เพิ่งเริ่มเหรอ แต่ทำไมฉันรู้สึกเหมือนว่ากำลังวิ่งขึ้นภูชี้ฟ้าเลยนะ มันเหนื่อย มันเสียว มันสยิว แล้วแบบนี้ฉันจะตายเพราะมีผัวหรือจะตายเพราะดวงซวยกันละเนี่ย
“ปั้นจ๋า ญ่า...อือ ...อือ” ฉันถูกดันให้นอนหงายและตอนนี้หน้าหมอปั้นก็อยู่ตรงส่วนอ่อนไหวที่สุดของร่างกาย ลมหายใจที่เป่ารดส่วนนั้นทำให้ฉันตื่นเต้นกว่าเดิม
หน้าตาหมอปั้นที่ฉันมองไม่เห็น แต่ก็คงไม่ต่างจากหน้าตาของฉันที่บ่งบอกถึงความหิวโหย ลิ้นสากตรงปลายติ่งเสียวสร้างแรงอัดแน่นให้กายฉัน ยิ่งเขารัวลิ้นเร็วขึ้นเท่าไหร่ ฉันก็ยิ่งร้องครางหนักขึ้นเท่านั้น
“อือ..อ้า” นี่คือเสียงร้องฉันเหรอ...หมอปั้นทำอะไรฉันเนี่ย
พรรณิภาอึ้งชะงัก เธอได้เงินมาจำนวนไม่น้อยตอนที่ออกจากบ้านหลังนั้นมา แต่ตอนนี้บริษัทของสามีเธอกำลังเดือดร้อน“แกก็แค่คุยกับเขาขอออร์เด้อมานิดหน่อยแค่นั้นเขาก็ให้แกแล้ว ถือว่าช่วยแม่นะขวัญนะ”ผู้เป็นแม่รู้ว่าตอนนี้ใช้ไม้แข็งกับลูกสาวไม่ได้จึงหันมาใช้ไม้อ่อน“หนูกับเขาไม่ได้เป็นอะไรกัน” ของขวัญตอบกลับผู้เป็นแม่ไป สบตานิ่งกับผู้เป็นแม่อยู่นาน“จะไม่เป็นได้ไงฉันเห็นแกกับเขาไปไหนต่อไหนด้วยกัน..อุ๊บ”พรรณนิภารีบเอามือปิดปากเมื่อรู้ว่าได้พูดความลับออกไป“แม่ให้คนตามขวัญเหรอ” หญิงสาวมองหน้าผู้เป็นแม่ เธอไม่เคยคิดว่าแม่เธอจะทำถึงขนาดนี้ เพียงเพราะว่าอยากให้เธอแค่ช่วยบริษัทสามีของแม่เท่านั้น ผู้เป็นแม่ไม่ได้ตอบคำถามของลูกสาว แต่กลับถามสิ่งที่เธออยากได้“จะช่วยไม่ช่วย”“ขวัญช่วยไม่ได้หรอก ขวัญกับเขาไม่ได้เป็นอะไรกัน”ใช่สถานะเธอกับเมธัชยังไม่แน่ชัด ถึงจะมีอะไรกันหลายหนแต่นั่นมันก็แค่ความสัมพันธ์ทางกายเท่านั้น แล้วเขาจะคิดยังไงถ้าเธอไปคุยเรื่องนี้เขาจะไม่คิดว่าเธอเป็นผู้หญิงเห็นแก่ตัวเหรอ แค่นี้เขาก็ไม่ได้มองเธอดีเท่าไหร่อยู่แล้ว“แกมันแล้วน้ำใจเหมือนพ่อแกไม่มีผิด ฉันไม่น่าคลอดแกมาเลย”และแล้วก็เ
ตลอดทั้งคืนทั้งสองยังคงนอนกอดกันแน่นแต่ไม่ได้ทำอะไรมากกว่าการกอดกัน นี่คงเป็นครั้งแรกที่เขากอดเธอโดนที่ไม่มีเซ็กส์ ปกติทุกครั้งที่กอดคือการมีเซ็ก แต่ครั้งนี้ต่างออกไป ความรู้สึกของเขาและเธอกำลังต่างออกไปกว่าทุกครั้ง เมธัชไม่แน่ใจว่าที่เขาเป็นอยู่นี้เพราะรักของขวัญหรือเพราะหวง หรือเพราะอยากช่วงเมญ่า ตอนแรกที่เข้าหาเธอคือความโกรธแค้น ที่เธอช่างหน้าด้านหน้าทนไม่ยอมเลิกยุ่งกับน้องเขยเขา แต่ตอนนี้เมื่อมองในมุมของ ของขวัญแล้วความรักที่เธอมีให้หมอปั้นนั้นมันก็คือความหวังดี ความรักอย่างเพื่อน หญิงสาวตื่นขึ้นมาพร้อมตาที่ปวมเพราะร้องไห้เมื่อคืน ส่วนคนตัวโตก็ยังนอนกอดเธออยู่นึกแล้วกดขำไม่ได้ เปิดแอร์ซะเย็นแล้วก็ห่มผ้าห่มหนา นิสัยเหมือนกันไม่มีผิด ขณะที่เธอกำลังจะก้าวลงจากที่นอนนั้นก็มีมือใหญ่มากอดรอบเอวบาง“จะไปไหน”“กลับห้อง”“จะรีบไปไหน” น้ำเสียงของเขาเหมือนไม่พอใจที่เธอจะกลับห้องตัวเอง“ก็ไปทำงานสิคะ” คุณหมอสาวตอบแบบเสียไม่ได้ ก็เธอไม่ได้รวยเหมือนเขานี่นา หลังจากยกเงินเก็บที่มีให้พ่อไปแล้วเธอต้องรีบเก็บเงินใหม่ งานคือเงินและเงินก็คืองาน“ขอ 10นาที”
“แสดงว่าอ่านข่าวมาแล้ว แถมหน้างอขนาดนี้หึงแน่นอน” เมธัชได้ทีทำท่ายียวนใส่หญิงสาว ถ้าเขารู้ว่าเธอจะแสดงออกแบบนี้เขาให้คนลงข่าวเขาไปนานแล้ว นี่ต้องขอบคุณสำนักข่าวที่ลงนะเนี่ย“ไม่ได้หึง แต่ฉันไม่อยากใช้ผู้ชายร่วมกับใคร”คนไม่ได้หึง เพียงแต่ไม่อยากใช้ผู้ชายร่วมกับใครเท่านั้น พูดขึ้นพร้อมกอดอกยืนขึ้น“ขวัญมันไม่มีอะไรเลย ผมไปยิมแล้วเจอน้องน้ำหวานเราก็คุยกันสองสามคำเท่านั้นเอง”“คุยกันแป๊บเดียวทำไมภาพมันออกมาแบบนั้น ถ้าคุณยุ่งกับผู้หญิงอื่นฉันจะไม่นอนกับคุณอีก”ตอนนี้เขาอยากไปเผาสำนักพิมพ์นั้นแล้ว ปล่อยข่าวมั่วแบบนี้ได้ไง ดูสิเขาเสียหายแค่ไหนแล้วคนตรงหน้าโกรธแค่ไหน“ครั้งนี้ฉันจะเชื่อคุณ แต่อย่ามีครั้งหน้า”“ครับ” พอรับคำครับเขาก็โทรหาดาราสาวทันที“สวัสดีครับ น้องน้ำหวานใช่ไหมครับ พี่เมธัชนะครับ” คำพูดสนิทสนมนั่นทำให้ของขวัญยิ่งไม่พอใจ นี่เขากล้าโทรศัพท์หาผู้หญิงอื่นต่อหน้าเธอเลยเหรอ“คืออย่างนี้แฟนพี่ หมอของขวัญน่ะ เข้าใจผิดเรื่องข่าว น้องน้ำหวานช่วยคุยกับแฟนพี่หน่อยได้ไหมครับ”“ได้สิค่ะ เรื่องแค่นี้เอง”“คุณหมอขวัญ หวานไปยิม เจอพี่ธัชก็หยุดคุยไม่กี่คำไม่คิดว่าจะเป็นข่าว ไม่มีอะไรจริงๆนะค
“คุณน้ำหวานก็อยู่ที่นี่เหรอครับ”“ค่ะ หวานเพิ่งย้ายมาอยู่ได้ไม่นาน” ดาราสาวยิ้มหวานให้ชายหนุ่มตรงหน้า ท่านประธานบริษัทผลิตยารายใหญ่ของประเทศ แถมยังส่งมีสาขา โรงงานทั่วเอเชีย ถ้าเป็นผู้หญิงคนอื่นคงอดที่จะทอดสะพานให้เขาไม่ได้ แต่สำหรับเธอ เธอไม่ได้รู้สึกอะไรทำนองนั้นรู้สึก เพราะเธอมีคนในใจอยู่แล้วแต่คนในใจของเธอกำลังตามจีบคุณหมอของขวัญ ทำให้เธอต้องมาใส่ใจชายหนุ่มตรงหน้า อ๊ะๆ..อย่าคิดว่าเธอจะแต่งเขามา นั่นมันนิสัยนางร้าย แต่นางเอกยังเธอก็ต้องให้พวกเขาสมหวัง หวังว่าหลังจากนั้นชายหนุ่มที่เธอแอบชอบคงจะหันมามองเธอบ้างนะ “วันนี้พี่ธัชมาคนเดียวเหรอคะ แล้วหมอขวัญล่ะคะ”“อ๋อ ขวัญเข้าคลินิก”“อือ...มิน่าล่ะ” ดาราสาวพึมพำมิน่าล่ะ เห็นภาคินเพิ่งลงไอจีสตอรี่ว่าไปที่คลินิกคุณหมอสาวคนสวย“วันนี้น้ำหวานมาคนเดียวเหรอครับนัดเทรนเนอร์ไว้ไหม” ชายหนุ่มเอ่ยถามหญิงสาวตรงหน้า เธอหน้าตาสะสวยสมแล้วที่เป็นนางเอกเบอร์ต้นของประเทศ สำหรับเขาแล้ว เธอก็เป็นผู้หญิงสวยจริงแหละ เมื่อก่อนเขาก็คงอยากทำความรู้จักมากกว่านี้แต่ตอนนี้เวลานี้ทำไมความรู้สึกมันหายไป ก็อดแปลกใจตัวเองไม่ได้“ค่ะ หวานมา
“ครับ ผมคงต้องมาฝากท้องที่นี่บ่อยๆนะครับ” หญิงชรายิ้มหวานให้ชายหนุ่มทำไมท่านจะไม่รู้ว่าอะไรที่ทำให้เขาอร่อยได้ขนาดนั้น ก็คงไม่พ้นหลานสาวของท่าน“ยัยขวัญอร่อยไหมลูก” เสียงถามไถ่อ่อนโยนรับรู้ได้ถึงความรักที่เธอมีต่อหลานสาวคนนี้มากมาย หลานของเธอควรจะสดใสร่างเริงกว่านี้“อร่อยค่ะย่า” เสียงหวานตอบคนเป็นย่า ย่าที่เธอรักมาก มองหน้าย่าทีไรเธอก็น้ำตารื้นขึ้นมาทันที อย่างน้อยการเป็นลูกพ่อก็ไม่ได้แย่เพราะอย่างน้อยเธอก็มีย่ากับปู่ที่รักเธอมากๆ“ปู่ไปไหนแล้วคะย่า” ของขวัญเอ่ยถามคนเป็นย่า อดเป็นห่วงปู่ไม่ได้จากเรื่องเมื่อคืน“อ๋อไปวัด วันนี้เขามีงานที่วัด”หญิงสาวยิ้มรับคำตอบนั้น ที่นั่นทำให้ปู่ได้สบายใจได้ สบายใจจากเรื่องพ่อ ปู่เหนื่อยกับพ่อมานาน หญิงสาวได้แต่ทอดถอนใจ ปู่ก็คงทำใจลำบากอย่างไรเสียพ่อก็คือลูกของปู่ และเป็นพ่อของฉัน ถามถึงความรักความผูกพันธ์ถึงมันจะเลือนลางแต่มันก็ไม่ได้หมดสิ้นจากรับประทานอาหารเช้าเสร็จทั้งสองก็นั่งดื่มกาแฟที่ริมท่าน้ำเขาและเธอเหม่อมอง ไปยังแม่น้ำกว้างใหญ่ข้างนอก ผู้คนเดินทางด้วยเรือ ยังคงมีอยู่แม้นจะบางตา ส่วนมากก็จะเป็นนักท่องเที่ยวและเรือบรรทุกสินค้าซะมากกว่า สายน
“ช่างเถอะ ค่อยเก็บใหม่” เมื่อคิดถึงเงินเก็บก้อนนั้นที่ตั้งใจว่าจะเอาไปร่ำเรียนต่อต่างประเทศหลังจากที่หญิงสาวอาบน้ำ เรียบร้อยแล้วและกำลังจะเข้านอนครืนๆ เสียงสั่นของโทรศัพท์ให้คนกำลังจะนอนยกขึ้นมาดู ก็เห็นข้อความจากชายหนุ่มข้างบ้าน ซึ่งก็เป็นคนเดียวกับหนุ่มตรงข้ามห้องเธอ“นอนรึยัง” “กำลังจะนอน” หญิงสาวตอบกลับไป ไม่นานก็มีข้อความตอบกลับมา“คิดถึง”“แหวะ น้ำเน่า” หญิงสาวแกล้งเขากลับ ใครใช้ให้มาหวานเวลานี้ ง่วงจะตายอยู่แล้ว แต่ปากยิ้มโดยไม่รู้ตัว“ถึงน้ำจะเน่า แต่ก็ยังเห็นเงาจันทร์นะครับ”“โอ๊ย ..เวอร์ นอนได้แล้วง่วง”“ฝันดี” หญิงสาวนั่งมองมือถือหลังจากที่ชายหนุ่มส่งคำว่า...ฝันดี อดคิดถึงใบหน้าหล่อเหล่าของเขาไม่ได้ คนอย่างเขาเนี่ยนะจะบอกฝันดีตอนนี้เขาจีบเธอเหรอ...คงใช่มั้ง คนอย่างเขาก็หยอดไปทั่วแหละ เจ้าชู้ขนาดนั้น เธอไม่คิดจะรักเขา ความรักสำหรับเธอมันคือความเจ็บปวด ....ความรักคือสิ่งที่มีแต่ทุกข์ ....... เธอยังจำได้ดีเมื่อห้าปีที่แล้ววันนั้นวันที่เธอเสียใจที่สุดจนไม่อยากจะอยู่บนโลกใบนี้....หลังจากที่เธอเห็นภาพก้องภพกับผู้หญิงคนนั้นอยู่บนเตียงหัวใจของเธอก็แตกสลาย มันปวดร้าวจนสุดจ