ทันทีที่ไป๋เจิ้นถังอ่านจดหมายจบ สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป!เช่นเดียวกับไป๋เฟยเฟย!หากอู๋หลิงพ่ายแพ้แล้ว!นั่นไม่ได้เป็นเพราะกองกำลังนับพันคนของเซิ่งตงฉยงแน่นอน!ไพร่พลที่กล้าหาญของพวกเขามีอย่างน้อยหนึ่งหมื่นคน!อีกทั้ง....ยังมีทหารชั้นยอดอีกหนึ่งหมื่นนายด้วย!หากรวมกันคงถึงสามหมื่นนาย!เมื่อรวมกับกองทหารรักษาการณ์สามหมื่นนายในแคว้นกู่ก็เท่ากับหกหมื่นนาย!โจมตีจากทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ต่อให้ฝ่ายพวกเขาเองจะมีกองกำลังถึงเจ็ดหมื่นนายก็คงไม่อาจประมือได้!ไป๋เจิ้นถังคิดเช่นนี้ก็ตกตะลึงทันที ดวงตาของเขาก็เต็มไปด้วยหวาดกลัวและความไม่เชื่อ!“ตระกูลเซิ่งมีความแข็งแกร่งมากถึงเพียงนี้ได้อย่างไร นี่มัน... นี่มันเป็นไปไม่ได้!”ไป๋เจิ้นถังพูดด้วยความประหลาดใจอย่างยิ่ง!แต่ในขณะนี้มีทหารอีกคนเข้ามารายงาน!“ท่านหัวหน้าตระกูล แย่แล้วขอรับ... ประตูเมืองแคว้นกู่เปิดออก และกองกำลังของตระกูลเซิ่งก็รีบออกไปแล้ว!”เมื่อไป๋เจิ้นถังได้ฟังเช่นนี้ หัวใจของเขาก็เต้นรัว!“ท่าไม่ดีแล้ว!”“ต้องเป็นเซิ่งตงฉยงพร้อมกับไพ่เด็ดของเขายกทัพมาสมทบแล้วเป็นแน่!”“ถอยทัพด่วน!”ตอนนี้ไป๋เจิ้นถังรู้สึกตัวแล้วจ
ไม่มีทางป้องกันได้เลย!มันระเบิดต่อหน้าอย่างกะทันหัน เมื่อเห็นอีกฝ่ายขว้างมาตกอยู่ตรงหน้าก็สายเกินไปแล้ว!“อะไรนะ!”เซิ่งฟางสี่ตกตะลึงทันที หากลูกชายของเขาไม่เล่าเช่นนี้ เขาคงไม่มีทางเชื่ออย่างแน่นอน!นี่ฟังดูเหมือนเป็นเพียงเรื่องเหลวไหล!แต่เมื่อเห็นลูกชายเป็นเช่นนี้ ก็ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ได้โกหก!“อาวุธที่ซ่อนอยู่นั้น ใช้เพียงครั้งเดียวก็สามารถฆ่าคนได้อย่างน้อยหลายสิบคน อีกฝ่ายมีคนร้อยคนยืนเรียงแถวปามันใส่ฝ่ายเรา!”“ท่านพ่อ หวังหยวนผู้นี้เก่งกาจเหลือเกิน ข้าจึงสั่งให้หงหยิ่งไปสังหารเขาแล้วขอรับ!”ใบหน้าของเซิ่งฟางสี่เคร่งเครียดมากเมื่อเขาได้ฟังเช่นนี้ แต่ก็ยังพยักหน้า“ใช่ ถ้าหวังหยวนคนนี้ไม่ถูกกำจัด เขาจะกลายเป็นศัตรูที่น่าเกรงขามของเราอย่างแน่นอน!”เซิ่งฟางสี่มีสีหน้าโหดเหี้ยม มีทหารเพียงร้อยคนเท่านั้น แต่กลับทำลายกองทัพจำนวนสามหมื่นคนได้ นี่มันแนวคิดแบบไหนกัน!ยากเกินกว่าจะจินตนาการได้!หากยังปล่อยให้เขาทำเช่นนี้ต่อไปได้ แล้วใครจะเป็นคู่ต่อสู้ของเขาได้?แต่เซิ่งฟางสี่ยังคงเป็นกังวลเล็กน้อย แม้ว่าหงหยิ่งจะเป็นจอมยุทธ์ยอดฝีมือ แต่หวังหยวนผู้นี้ก็น่ากลัวจริง ๆ!เขากังวลว
หลังจากที่อู๋หลิงพูดจบ ความกังวลก็ฉายแววอยู่ในดวงตานางนั่นเป็นเรื่องจริงที่ไป๋เหยียนเฟยต้องเผชิญ!“เช่นนี้จะทำอย่างไร! เราไม่มีกองกำลังมากถึงเพียงนั้นอีกต่อไปแล้ว! ถ้าพวกเขามา เราจะต้านทานได้อย่างไร!”ไป๋เหยียนเฟยกังวลมากขณะพูด หลังจากอู๋หลิงได้ฟังเช่นนี้ก็สูดหายใจเข้าลึก ๆ แล้วพูดทันที “เรายังมีทหารอีกนับหมื่นน่าจะยังคงยึดเมืองหลวงไว้ได้ ฮองเฮา ท่านทำได้เพียงขอให้ตระกูลไป๋รีบเข้ามาสนับสนุนโดยเร็วที่สุด ไม่อย่างนั้นก็เกรงว่าต้าเย่... คงถึงคราวตกอยู่ในอันตรายร้ายแรง!”เวลานี้ทำได้แค่อยู่เมืองหลวงและรอให้ตระกูลไป๋มาช่วย!ไม่มีทางเลือกอื่นอีกแล้ว!แต่ไป๋เหยียนเฟยไม่ใช่คนโง่ นางคิดอย่างรวดเร็ว และอดไม่ได้ที่จะมองอู๋หลิง“แต่ว่า... ถ้าตระกูลไป๋... ไม่มาช่วย หรือ... มาช่วยไม่ทันเวลาล่ะ?”หลังจากที่ไป๋เหยียนเฟยพูดจบ อู๋หลิงก็สูดหายใจเข้าอีกครั้ง เขาเองก็คิดเรื่องนี้เช่นกัน!หากตระกูลไป๋เลือกที่จะไม่เคลื่อนไหว แล้วรอจนกว่าพวกเขาจะต่อสู้กับตระกูลเซิ่ง และทั้งสองฝ่ายต้องทนทุกข์ทรมาน ท้ายที่สุดตระกูลไป๋จะเป็นผู้ชนะ!ความจริงแล้วในสายตาของอู๋หลิงและไป๋เหยียนเฟย ตระกูลไป๋มีแนวโน้มว่าจะทำ
หาเลือกทางนี้จะสามารถขึ้นครองแผ่นดิน และสยบกองกำลังของทุกฝ่ายได้!วิธีนี้ง่ายดายและมีประสิทธิภาพมากกว่าวิธีแรก!นกปากซ่อมกับหอยกาบทะเลาะกัน คนตกปลาย่อมได้ประโยชน์!“ท่านพ่อ หากมองในมุมมองของตระกูลไป๋ย่อมต้องเลือกเคลื่อนไหวภายหลัง เฝ้ารอจนกว่าตระกูลเซิ่งและต้าเย่จะเริ่มทำสงครามกันก่อนค่อยดำเนินการ!”“แต่ว่า... ในมุมมองของท่านอาคงต่างออกไป ข้าก็หวังว่าจะสามารถรีบไปช่วยนางได้ ในกรณีนี้ ท่านอาอาจจะไม่ตกอยู่ในอันตรายถึงชีวิตเจ้าค่ะ!”ไป๋เฟยเฟยก็ไม่รู้จะเลือกทางใดเช่นกันอย่างไรเสีย นั่นก็คืออาของนาง!ไป๋เจิ้นถังจะไม่เข้าใจได้อย่างไร!“เฟยเอ๋อร์ เรื่องนี้... เป็นเรื่องใหญ่ พ่อเองก็ยังตัดสินใจไม่ได้มาสักระยะแล้ว ดังนั้นเราจึงควรไปที่ห้องโถงบรรพบุรุษ เพื่อให้บรรพบุรุษช่วยตัดสินใจกันเถิด!”“ไม่ว่าบรรพบุรุษจะบอกให้เราเลือกทางใด เราก็จะไม่มีวันหันหลังกลับ ตกลงหรือไม่?”ไป๋เจิ้นถังก็ตัดสินใจไม่ได้เช่นกัน เช่นเดียวกับที่ไป๋เฟยเฟยคิด ในมุมมองของตระกูลไป๋ย่อมหวังอย่างยิ่งว่านกปากซ่อมกับหอยกาบทะเลาะกัน คนตกปลาย่อมได้ประโยชน์!แต่จากมุมมองของน้องสาวจะต่างออกไป เขาไม่อยากให้เกิดอะไรขึ้นกับนาง
เมื่อไป๋เจิ้นถังและไป๋เฟยเฟยเห็นแท่งไม้ไผ่ดังกล่าวก็เปลี่ยนสีหน้าทันทีแต่ว่า...นี่คือทางเลือกของบรรพบุรุษ!“เฟยเอ๋อร์ ถึงอย่างนั้น... เราต้องเตรียมตัวให้พร้อม”ไป๋เจิ้นถังพูดจบแล้วหันหลังเดินจากไป...ในขณะนี้เซิ่งฟางสี่มุ่งหน้าไปยังเมืองหลวงตอนบนพร้อมด้วยกองกำลังทั้งหมดหกหมื่นนาย!ครั้งนี้เขาจะต้องยึดต้าเย่ให้ได้แน่นอน!เซิ่งฟางสี่และเซิ่งตงฉยงที่อยู่ด้านขบวนมีสายตาแน่วแน่แต่เซิ่งตงฉยงยังคงพูดว่า “ท่านพ่อ ตอนนี้กองทหารของเรากำลังจะจัดการกับต้าเย่แล้ว ตระกูลไป๋... จะคิดว่านี่เป็นโอกาสหรือไม่ขอรับ?”หลังจากได้ฟังเช่นนั้นเซิ่งฟางสี่ก็ยกยิ้มตระกูลไป๋ย่อมคิดเช่นนั้น ต่อให้เป็นคนอื่นก็คงฉวยโอกาสนี้คิดลงมือเช่นกัน!“แน่นอนว่าต้องคิด ไม่ว่าใครก็คงคิดว่านี่เป็นโอกาสดีทั้งนั้น!”“แต่ว่า... เราแค่ต้องปราบปรามพวกเขาเพียงไม่กี่วันเท่านั้นก็พอแล้ว!”เซิ่งฟางสี่แสยะยิ้มก่อนกล่าวเช่นนั้น เซิ่งตงฉยงก็พยักหน้า ทั้งสองนำกองกำลังหกหมื่นนายตรงไปยังบริเวณชายแดนเมืองหลวงแล้วตั้งค่าย!“ไม่มีทหารในเมืองรอบเมืองหลวงเลย ดูเหมือนว่าพวกเขาจะตอบสนองอย่างรวดเร็ว จึงรีบถอยกลับไปเฝ้าเมืองหลวง!”เม
อู๋หลิงตะคอกอย่างเย็นชาเซิ่งตงฉยงได้ฟังเช่นนี้ก็หัวเราะเยาะ“ต่อสู้จนเหลือทหารคนสุดท้ายหรือ? เจ้าคิดว่ามันจะมีประโยชน์หรือ?”“อู๋หลิง ต้าเย่ถึงกาลล่มสลายแล้ว หากเจ้าละทิ้งด้านมืดเข้าสู่ด้านสว่าง ตระกูลเซิ่งของข้าจะให้อนาคตที่ดีแก่เจ้า!”เซิ่งตงฉยงพูดตามจริง แต่อู๋หลิงทรยศได้อย่างไร?ตระกูลนักรบของเขามีความจงรักภักดีมาหลายชั่วอายุคน ไม่เคยมีคนคิดคดทรยศมาก่อน!ดังนั้น...ไม่ว่าอย่างไรวันนี้เขาจะอยู่และตายไปพร้อมกับเมืองหลวง!“เซิ่งตงฉยง ตระกูลเซิ่งของพวกเจ้ามีความสามารถในการโจมตีต้าเย่ แต่พวกเจ้าไม่กลัวตระกูลไป๋หรือ?”“พวกเขาวางแผนมาหลายปีแล้ว ย่อมไม่มีวันปล่อยต้าเย่ให้กับพวกเจ้าแน่นอน ดังนั้นเมื่อสงครามสงบลง พวกเขาต้องมาบุกเป็นแน่!”“พวกเจ้าอยากตัดชุดแต่งงานให้ตระกูลไป๋จริงหรือ?”หลังจากที่อู๋หลิงพูดจบ เซิ่งตงฉยงและเซิ่งฟางสี่ก็หาได้สนใจไม่แน่นอนว่าพวกเขาทุกคนคิดเรื่องนี้อยู่แล้ว!“อู๋หลิง เจ้าคงเดาถูก แต่ว่า...เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าตระกูลเซิ่งของเราไม่ได้เตรียมพร้อม?”เซิ่งฟางสี่กล่าวก่อนจะถามว่า “แล้วเจ้าคิดว่าเจ้าจะสามารถรักษาต้าเย่ของเจ้าไว้ได้หรือ? ให้ข้าบอกเจ้าว่า ..
หวังหยวนมองพวกเขา แล้วรู้ว่าพวกเขากำลังคิดอะไรอยู่!ในสถานการณ์นี้ ตราบใดที่พวกเขาเคลื่อนไหวย่อมกลายเป็นผู้ชนะคนสุดท้ายอย่างแน่นอน!แต่ว่าสิ่งต่าง ๆ นั้นไม่ได้ง่ายดายอย่างที่คิด!“ตอนนี้ตระกูลเซิ่ง, ตระกูลไป๋ และราชสำนักกำลังจะต่อสู้กัน ผลลัพธ์ของศึกครั้งนี้จะไม่อาจตัดสินได้รวดเร็วนัก!”เมื่อหวังหยวนพูดจบ พวกเขาทั้งหมดก็ตกตะลึงไปครู่หนึ่ง แต่หลังจากคิดอย่างรอบคอบแล้ว ก็เห็นว่าเป็นเรื่องจริง!ศึกครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะตัดสินผลลัพธ์!“ทั้งตระกูลเซิ่งและตระกูลไป๋วางแผนกันมานานหลายปีแล้ว เกรงว่ากองกำลังเหล่านี้ที่อยู่เบื้องหน้าจะไม่ใช่ทั้งหมด เมื่อพวกเขาต่อสู้ก็จะต้องทุ่มกองกำลังเยอะขึ้นเรื่อย ๆ ถ้าเราเข้าร่วมอาจเกิดปัญหาบางอย่างขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้!”“และพวกเจ้าอย่าลืมว่าในโลกนี้ไม่ได้มีเพียงต้าเย่ของเราเท่านั้น แต่ยังมีเมืองหวงและหมานอี๋ด้วย!”“หากเรารู้เรื่องศึกครั้งนี้ พวกเขาก็จะรู้ด้วย!”“เมื่อถึงเวลานั้น...พวกเขาย่อมต้องการเป็นผู้ชนะคนสุดท้ายใช่หรือไม่?”หวังหยวนคิดได้อย่างชัดเจนว่าแม้ตอนนี้เขาจะมีโอกาสควบคุมแผ่นดิน แต่เขาจะมีราคาที่ต้องจ่ายที่หนักหน่วงแน่นอน!
แม้ว่าในต้าเย่จะมีทหารม้าไม่น้อย แต่พวกเขากำลังใช้ต่อสู้กันเอง และไม่ได้สนใจคนนอกเลย!มีเพียงหวังหยวนคนเดียวเท่านั้นที่คิดเรื่องนี้!ขณะนี้มีจดหมายมากมายส่งมาถึงหวังหยวน!“ตระกูลเซิ่งได้เริ่มโจมตีเมืองหลวงแล้ว กองทหารสามหมื่นนายของอู๋หลิงพยายามยามต้านทานอย่างเต็มที่ การเคลื่อนไหวของตระกูลเซิ่งในเมืองหลวงถูกพวกเราสกัดกั้นไว้ แต่ก็ยังมีอีกมากที่ยังคงก่อปัญหา”“แต่... ยังไม่อาจบุกเข้าไปได้หรอกเพราะเมืองหลวงยังเข้มแข็ง!”เขาอ่านรายงานอย่างสบายอารมณ์แล้วกล่าวตามตรงในสถานการณ์ปัจจุบัน ไม่ต้องสงสัยเลยว่าองค์กรเครือข่ายผีเสื้อของเกาเล่อมีความสำคัญมาก!“พี่หยวน ถังหม่างนำกองกำลังของเขาไปหาหมานอี๋ มีคนเพียงหนึ่งหมื่นคนแต่มีอาวุธซับซ้อน ซึ่งน่าจะเพียงพอที่จะทำให้ฝ่ายนั้นล่าช้าไปได้สักพัก!”“สำหรับเมืองหวง ลุงหานซานกับเอ้อหู่นำกองกำลังหนึ่งหมื่นห้าพันคนไปที่นั่น ทั้งยังนำอาวุธที่ซับซ้อนไปด้วย ดังนั้นพวกเขาน่าจะขัดขวางฝ่ายนั้นได้อีกสักพัก!”หลังจากที่เกาเล่อรายงานแล้วหวังหยวนก็พยักหน้า“อืม... ถึงแม้จะมีทหารม้าไม่เยอะนัก แต่ก็น่าจะเพียงพอ”หวังหยวนสูดหายใจเข้าลึก ๆ ความสามารถของพวกเขาไม