Share

บทที่ 4

ในโลกนี้มีการตกปลา ตกเบ็ด จับปลา แต่ยังไม่มีใครวางยาปลา

หวังหยวนยิ้มและพูดว่า "ข้าค้นพบเคล็ดลับการตกปลาและก็จับปลากลับมาได้ตั้งเยอะ รีบกินเร็วเข้า ระวังถูกก้างทิ่มเอาล่ะ!"

“เคล็ดลับการตกปลา!”

หลี่ซื่อหานที่สงสัยอยู่แล้วนั้น ยิ่งเจอความเป็นห่วงเอาใจใส่ของหวังหยวน ทำให้หัวใจของเธอเต้นแรงราวกับกวางที่ตกใจอีกครั้ง ทั้งสองคนก็กินปลาต่อไป

ไม่รู้ว่าเจ้าของร่างเดิมไม่ค่อยได้กินปลาหรือเปล่า หรือเป็นเพราะปลาสดใหม่ หวังหยวนพบว่าปลาที่ทอดในน้ำมันหมูสักพัก และใส่เกลืออบรอสักสิบห้านาที และโรยด้วยผักป่า มันจะอร่อยมากซะกินจนหมดเกลี้ยง

มาดูทางหลี่ซื่อหาน นางกินเหมือนแมวดมไม่มีผิด กินไปเพียงแค่ครึ่งชิ้นเท่านั้น

“ท่านพี่ ข้าอิ่มแล้ว อีกครึ่งตัวนี้ข้ายังไม่ได้แตะมัน!”

เห็นหวังหยวนมองมาที่นาง หลี่ซื่อหานก็วางตะเกียบลงแล้วผลักจานปลานั้นมา

“ข้ากินอิ่มแล้ว แค่มองเจ้ากินปลาแบบนี้ก็น่ามองแล้ว รีบกินเถอะ!”

หวังหยวนลุกขึ้นและออกจากห้องโถง

เมื่อใดก็ตามที่มีเนื้ออยู่ในบ้าน หลี่ซื่อหานลังเลไม่กล้ากินมัน ปล่อยให้เจ้าของร่างเดิมกินก่อนเสมอ

นี่จึงทำให้นางผอมลงจนผอมซูบ จนความงามแต่เดิมของนางก็หายไปมากทีเดียว

“น่ามอง… ท่านพี่!”

ใบหน้างดงามของหลี่ซื่อหานแดงระเรื่อขึ้น และมองไปที่แผ่นหลังของหวังหยวน น้ำตาเอ่อคลอจากตาของนางอย่างไม่รู้ตัว

แต่งงานมาได้สามปี สามีทุบตีและด่าว่านาง และเขาไม่เคยชมนางเช่นนี้เลย

หวังหยวนแหงนหน้ามองท้องฟ้ายามค่ำคืน เหมือนตกสู่ห้วงอวกาศ

ไม่มีท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดาวเทียม ดวงจันทร์สว่างไสวลอยเด่น และบนท้องฟ้าล้วนเต็มไปด้วยดวงดาว ช่างสวยงามจริง ๆ

เป็นเพียงเพราะผลผลิตตกต่ำ ผู้คนก็ล้วนอยู่อย่างลำบากเหลือเกิน พวกเขากินไม่อิ่ม ใส่เสื้อไม่อุ่น ทุกวันต้องดิ้นรนอย่างยากลำบาก

"ท่านพี่ ล้างเท้าเจ้าค่ะ!"

ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหน หลี่ซื่อหานยกอ่างน้ำร้อนมา และเอาเก้าอี้ตัวเล็กมาวางไว้ใต้ชายคาบ้าน

หวังหยวนนั่งลงจะถอดรองเท้า

หลี่ซื่อหานย่อตัวลง ช่วยเขาถอดรองเท้าและถุงเท้าอย่างชำนาญ แล้ววางเท้าลงในอ่าง

"...ข้าทำเอง!"

ในยุคนี้เป็นเรื่องปกติที่ภรรยาจะล้างเท้าให้สามี แต่หวังหยวนกลับไม่คุ้นชิน

มือเล็ก ๆ ของหลี่ซื่อหานสั่นไปหมด!

สามีทำอาหารให้กิน ให้นางกินปลาเยอะ ๆ และยังเอ่ยชม ตอนนี้กลับไม่ยอมให้นางล้างเท้าให้ เขาวางแผนจะทำอะไรกับนางกันแน่?

หลังจากบ้วนปากล้างหน้าแล้ว ความเหนื่อยล้าก็ปรากฏขึ้นมา หวังหยวนกล่าวว่า "ไปนอนเถอะ!"

การจุดตะเกียงตอนฟ้ามืดก็เปลืองน้ำมันเปล่า ๆ คนส่วนใหญ่ทั่วไปจะนอนกล่อมลูก และไม่มีกิจกรรมอื่น ๆ อะไรให้ทำแก้เบื่อแก้เซ็งได้

หลี่ซื่อหานพูดเสียงเบา “ท่านพี่นอนก่อนเถอะ ข้าจะไปทอผ้า!”

“ไม่ต้องทอแล้ว!”

หวังหยวนส่ายหน้า

ตระกูลหลี่มีฐานะดี พ่อและพี่ชายของนางเป็นขุนนางในราชสำนัก และหลี่ซื่อหานก็ไม่เคยทอผ้ามาก่อน

หลังจากแต่งกับเจ้าของร่างเดิมแล้ว เพื่อที่จะจุนเจือครอบครัว นางเรียนรู้ที่จะทอผ้าเพื่อหาเงิน

แต่งานฝีมือเช่นนี้ ทั้งปวดเอวปวดหลัง แถมยังทำเงินไม่ได้มากนัก

"อื้อ!"

ใบหน้าที่งดงามของหลี่ซื่อหานนั้นซีดเซียวไปหมด นางไปที่ห้องนอนเพื่อจัดเตียง จากนั้นก็ปูผ้านอนบนพื้น

หวังหยวนขมวดคิ้ว "บนพื้นมันหนาว ขึ้นมานอนเตียง!"

ร่วมเตียงไม่สำเร็จ เจ้าของร่างเดิมจะนอนบนเตียงตลอด ส่วนหลี่ซื่อหานจะนอนที่พื้น

แววตาของหลี่ซื่อหานเต็มไปด้วยความหวาดกลัว นางเอาฟูกขึ้นไปไว้บนเตียง และถอดชุดแดงและกระโปรงเขียวออก จนเหลือเสื้อตัวในสีขาว และเดินตัวสั่นเข้ามานั่งข้างเตียง

ทุกครั้งที่สามีให้นางขึ้นเตียง หากร่วมเตียงไม่สำเร็จเขาก็จะอาละวาดขึ้นมา

“วันหลังข้าจะไม่รังแกเจ้าอีกแล้ว!”

เมื่อนึกถึงเรื่องเลวร้ายที่เจ้าของร่างก่อนทำลงไปนั้น หวังหยวนก็รู้สึกสงสาร จึงได้ปลอบโยนนาง ทันทีที่เขานอนลง ได้กลิ่นหอมจากร่างกายของหญิงสาวนอนก็อดไม่ได้ที่จะจิตใจฟุ้งซ่านขึ้นมา

แต่ก่อนหน้านี้ยุ่งมาทั้งวัน แค่คิดเพ้อเจ้อแปปเดียวก็ง่วงแล้ว

“ไม่รังแกข้า ท่านก็พูดแบบนี้มากี่ครั้งแล้ว?”

หลี่ซื่อหานยิ้มอย่างเศร้า ๆ หลับตาลง และนอนลงบนเตียง ยอมจำนนต่อชะตากรรม รอคอยความโหดร้ายที่จะเกิดขึ้น

อย่างไรก็ตาม เสียงกรนของหวังหยวนกรนดังขึ้นอย่างสม่ำเสมอ ดวงตาของหลี่ซื่อหานก็รื้นไปด้วยน้ำตาอีกครั้ง "ท่านพี่ดูเปลี่ยนไปมาก เขาไม่รังแกข้าอีกแล้ว...อา!"

พูดยังไม่ทันจบ หวังหยวนก็พลิกตัวมากอดนางไว้

หลี่ซื่อหานตัวสั่นรอเขาอาละวาด แต่สักพักก็รู้สึกร่างกายเริ่มง่วงและอบอุ่นขึ้น

...

เมื่อตื่นขึ้นมาในตอนเช้า หวังหยวนถือกิ่งต้นหลิวที่ถูกทุบปลายจนเป็นแปรงขนาดเล็ก

นี่คือแปรงสีฟันของราชวงศ์ต้าเย่!

ยังดีที่มีเกลือไว้แปรงฟันบ้วนปาก ถ้ามีเงินก็สามารถใช้ผงสมุนไพรขัดฟันได้

หวังหยวนยัดกิ่งหลิวเข้าปากและถู ๆ มัน รสชาติรู้สึกขมเล็กน้อย

ทันใดนั้นหลี่ซื่อหานที่หน้าแดงออกมาก็พูดว่า "ท่านพี่ ดูเหมือนจะมีคนอยู่ข้างนอก!"

“ข้าไปดูเอง!”

เมื่อเห็นท่าทางเขินอายของสาวสวย หวังหยวนก็ยกยิ้มขึ้นมา เมื่อคืนนี้มีคน ๆ ​​หนึ่งอยู่ใต้ผ้าห่ม แต่เมื่อเช้าพวกเขากอดกัน หลังจากแปรงฟันบ้วนปากเสร็จ เขาก็เปิดประตูและตกใจว่า "ลุงหานซาน พวกลุงมาเร็วจัง"

ชายร่างผอมสูงสามคนที่อยู่หน้าประตูคือ หวังหานซาน และลูกชายทั้งสองของเขา

หวังต้าหู่และหวังเอ้อหู่คล้ายกับหวังหานซาน ทั้งตัวสูงและผอมแห้ง

แต่ที่ไม่เหมือนกันคือ ต้าหู่สุขุมอ่อนโยน เอ้อหู่นั้นค่อนข้างจะมุทะลุไปหน่อย

เสียงของหวังหานซานดังก้องขึ้นมา “ตื่นเช้าน่ะ วันนี้ให้ข้าช่วยอะไรเจ้า?”

ต้าหู่และเอ้อหู่มองไปที่หวังหยวนอย่างคาดหวัง

เมื่อก่อนพวกเขาทั้งไม่เคารพ และดูถูกพี่ร่วมแซ่คนนี้

แต่เมื่อคืนวานหวังหยวนมอบปลาให้ตั้งมากมาย

พ่อแม่ไม่ยอมกินปลาตัวใหญ่สองตัว แต่ละคนในครอบครัวก็มีปลาตัวเล็กคนละตัวให้กิน

น้องชายและน้องสาวร้องไห้เมื่อได้กินปลานั้น และพอพ่อแม่ได้เห็นจึงร้องไห้ร่วมด้วย

พวกเขาสองพี่น้องมีฟันที่แข็งแรงดียังเคี้ยวแทะกระดูกปลาและกลืนมันอย่างกรุบกรอบและเอร็ดอร่อย

เมื่อได้ยินว่าหวังหยวนมีเรื่องให้พวกเขาช่วยในวันนี้ พวกเขาสามพ่อลูกจึงกินข้าวต้มเพียงเล็กน้อย แล้วจึงมาที่นี่

เนื้อปลาอร่อยมากเลย!

“ไม่ต้องรีบ!”

หวังหยวนหาวออกมา “ซื่อหาน เอาบะหมี่กับเซาปิ่งออกมาเถอะ”

ที่บ้านมีบะหมี่และเซาปิ่งเหลือไม่มากนัก หลี่ซื่อหานรู้สึกลังเล แต่ก็ทำในทันที

ให้สามีเสียหน้ากับคนนอกไม่ได้

หวังหยวนเรียกพวกเขาทั้งสามคนเข้าไปในบ้าน "ต้าหู่และเอ้อหู่ไปที่ถังเก็บน้ำ จับปลามาสักห้าตัว พวกเรามาทำน้ำแกงปลากินกันเถอะ!"

ปลาที่จับได้เมื่อวานอยู่ในถังน้ำ เมื่อฟื้นจากยาสลบมันก็ฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง

เขาทดลองใช้ ‘เทคนิคมัดปลาแบบคันธนู’ ตอนนี้ปลาก็ยังคงมีชีวิตอยู่

“น้ำแกงปลา!”

ต้าหู่และเอ้อหู่กลืนน้ำลาย แต่พวกเขาไม่ขยับ และหันไปมองพ่อของพวกเขา

หวังหานชานส่ายหน้า "หวังหยวน พวกเรากินข้าวกันตั้งแต่เช้าแล้ว เก็บปลาไว้ขายเอาเงินไปใช้หนี้เถอะ!"

หวังหยวนยิ้มและพูดว่า "ลุงหานซาน ไม่ต้องกังวล ข้ามีวิธีใช้หนี้! วันนี้งานหนัก ถ้ากินไม่อิ่มจะไม่มีแรงเอานะ ต้าหู่ เอ้อหู่ไปฆ่าปลา!"

เมื่อได้ยินว่างานหนัก หวังหานซานพยักหน้ารับ แค่ข้าวต้มไม่พอทำงานหนักได้หรอก

ต้าหู่และเอ้อหู่จึงรีบนำปลาไปฆ่า

ไม่นานนัก

เซาปิ่งและปลาร้อน ๆ ที่ออกจากเตา

หลี่ซื่อหานนำปลาตัวหนึ่ง และเซาปิ่งอีกชิ้นหลบไปกินที่ห้องครัวคนเดียว

หวังหยวนทั้งสี่คนนั่งล้อมโต๊ะแปดเหลี่ยมในห้องโถง

ปลาที่ทำเช้าตัวใหญ่กว่าที่ทำเมื่อคืน แต่ละตัวมีน้ำหนักมากกว่าหนึ่งกิโล

หวังหยวนกินเซาปิ่งไปชิ้น และกินปลาได้ไม่ถึงครึ่ง เขาจึงผลักมันไปให้ต้าหู่และเอ้อหู่!

ทั้งคู่กินปลาตัวละกิโล เซาปิ่งทอดแผ่นใหญ่อีกสามแผ่น และพวกเขายังแบ่งปันปลาที่เหลืออีกครึ่งหนึ่งของหวังหยวน และดื่มน้ำแกงจนหมด

ด้านหวังหานซานมองไปที่ลูกชายทั้งสองของเขา และยิ้มอย่างขมขื่นให้กับหวังหยวน

“พี่หยวน ปลาที่ท่านทำอร่อยมาก ข้าไม่เคยกินปลาที่อร่อยแบบนี้มาก่อน แม่ของข้าลังเลที่จะใส่น้ำมันหมูลงในปลาทอดด้วย!”

เอ้อหู่เช็ดปากตัวเอง “วันหลังหากมีคนรังแกท่าน ข้าจะช่วยท่านตีเขาให้เอง คนที่ใหญ่ที่สุดนอกจากท่านพ่อและพี่ ไม่มีใครเอาชนะข้าได้ทั้งนั้น”

ตั้งแต่เด็กจนโตไม่เคยกินเนื้อได้อย่างมีความสุขแบบนี้มาก่อน จึงรู้สึกว่าหวังหยวนนี่ดีที่สุดในโลก

ต้าหู่เตะขาเอ้อหู่ที่ใต้โต๊ะ และกล่าวอย่างยิ้มแย้มว่า “พี่หยวน ไม่มีเรื่องก็อย่าไปวิวาทกับใครเลย วันหลังหากมีเรื่องอะไรให้ช่วยเหลือล่ะก็ ให้มาบอกพวกเรา ขอแค่บอกพวกเราจะมาช่วยเหลือท่านเอง!หากถูกคนรังแกจริง ๆ แล้วสมเหตุสมผล พวกเราก็ไม่กลัวทั้งนั้น”

หวังหยวนยิ้มและพยักหน้า

พวกชาวบ้านล้วนซื่อสัตย์ หากทำดีกับพวกเขา พวกเขาย่อมต้องตอบแทน

หวังหานซานถามว่า “ที่เรียกให้พวกเรามาช่วยนั้น วันนี้จะทำอะไรรึ?”

ต้าหู่และเอ้อหู่รอฟังอย่างใจจดใจจ่อ

กินเซาปิ่งและปลาทอด งานที่ต้องทำวันนี้ต้องใช้แรงแน่

แต่พวกเขาไม่กลัวเหนื่อยหรอก!

หวังหยวนหัวเราะเบา ๆ "ก็เหมือนเมื่อวาน ขุดรากหญ้าแบบนั้น ยิ่งมากเท่าไหร่ยิ่งดี"

เอ้อหู่ถามด้วยความสงสัย "พี่หยวน ทำไมท่านถึงขุดรากหญ้าแบบนั้น พ่อข้าบอกว่ามันกินไม่ได้?"

ต้าหู่มองไปทางหวังหยวน

“หุบปาก บอกให้ขุดเจ้าก็ขุดซะ จะถามไปทำไมให้มากความ จำไว้ เรื่องนี้อย่าได้พูดจาเหลวไหลไป ไม่งั้นข้าจะหักขาพวกเจ้าซะ!”

หวังหานซานท่าทางจริงจังมากนัก

เมื่อวานหวังหยวนขุดรากหญ้ามาเป็นตะกร้า และได้ปลามากมายในตอนบ่าย

รากหญ้าที่กินไม่ได้นั้นต้องเกี่ยวข้องกับการตกปลา ใครรู้เคล็ดลับนี้ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องอาหารและเสื้อผ้าอีกต่อไป

หวังหยวนขอให้พวกเขาสามพ่อลูกร่วมด้วยแบบนี้ นี่เป็นความไว้วางใจที่ยิ่งใหญ่ และมันจะต้องความลับห้ามรั่วไหล

เมื่อเห็นท่าทางจริงจังของท่านพ่อ ต้าหู่และเอ้อหู่ก็หดคอไม่กล้าส่งเสียงอีก

เมื่อกินเซาปิ่งและน้ำแกงอิ่มแล้ว ทั้งสี่คนก็หยิบเครื่องมือออกไป และเห็นว่าที่ประตูใหญ่ถูกขวางอยู่

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status