Share

บทที่ 3

Author: ชวินเป่ยอี๋
งานที่เหลือใช้แรงออกน้อยกว่ามาก แค่ล้างรากหญ้าแล้วบดในครกหิน

หลังจากทำงานยุ่งมานาน หวังหยวนรู้สึกเหนื่อยมากจนปวดหลังไปหมด เขาจึงเอารากหญ้าที่ตำใส่ถังน้ำ

จึงค่อย ๆ เดินทอดน่องไปที่ริมแม่น้ำ

หวังหยวนเห็นพวกปลาแหวกว่ายอยู่ใต้น้ำ เขาจึงโรยแป้งหมี่ถั่วเหลืองและน้ำลงไป

ด้วยเหยื่อที่วางลงไป จำนวนปลาที่รุมเข้ามามากขึ้นเรื่อย ๆ หวังหยวนค่อย ๆ เทของเหลวที่ได้จากการตำรากหญ้าลงไปอย่างระมัดระวัง

เมื่อน้ำที่ได้จากการตำรากหญ้านั้นกระจายตัว ปลาที่ค่อย ๆ ลอยหงายท้องขึ้นมาจากน้ำ

หนึ่งตัว!

สองตัว!

...

หลังจากนั้นสักพัก หวังหยวนก็จับปลาตัวใหญ่ได้แปดตัว และตัวเล็กอีกสิบห้าตัว

ปลาตัวใหญ่หนักประมาณสองกิโลครึ่ง ตัวเล็กหนักประมาณสองร้อยห้าสิบกรัม ปลาที่เล็กกว่านี้ก็ปล่อยมันไป

เมื่อพระอาทิตย์ตกดิน หวังหยวนก็กลับบ้านด้วยของที่เต็มตะกร้า

ผ่านกระท่อมมุงหลังคาจากสี่หลัง คอกวัวและลานเล็ก ๆ ที่ล้อมรั้วทางด้านตะวันออกของหมู่บ้าน

“ลุงหานซาน!”

หวังหยวนตะโกนเรียกเขา

เด็กน้อยน่ารักที่เหมือนตุ๊กตาตัวน้อยสวมเสื้อคลุมยัดนุ่นวิ่งออกมาจากเรือน ไปมองดูหวังหยวนในชุดคลุมตัวอย่างสงสัยและเขินอาย

"หวังหยวน ลุงแกเพิ่งออกไป มีอะไรเกิดขึ้นหรือเปล่า?"

มีหญิงแก่คนหนึ่งเดินออกมาจากในบ้าน ดวงตาของนางดูขุ่นมัวฝ้าฟาง

"ป้าหง ลุงหานซานช่วยข้าเมื่อตอนบ่าย ข้าเลยเอาปลามาให้กิน!"

หวังหยวนหยิบปลาตัวใหญ่สองตัว และปลาตัวเล็กหกตัวออกมาวางไว้ที่ประตูแล้วจากไป

"อา นี่มันเยอะเกินไป เยอะเกินไปแล้ว หวังหยวนเจ้าเอาคืนไปเถอะ!"

แววตาที่มองมาอย่างระมัดระวังของป้าหงเปลี่ยนเป็นตกใจทันที

ปีนี้ขาดแคลนทั้งอาหารและเครื่องนุ่งห่ม การช่วยเหลือญาติมิตรก็เป็นเพียงการแบ่งปันธัญพืชเล็ก ๆ น้อย ๆ เท่านั้น

มีใครจะมาส่งปลาหลายกิโลแบบนี้กัน

แม้แต่หัวหน้าครอบครัวที่ร่ำรวยที่สุดในหมู่บ้านก็ยังลังเลที่จะซื้อปลาจำนวนมากในช่วงตรุษจีนด้วยซ้ำ

ปลาเยอะแยะแบบนี้หากขายออกไป คงได้มาหลายร้อยอีแปะ ซึ่งเป็นของขวัญที่ล้ำค่าเกินไป

นางคิดไม่ออกว่าทำไมคนเสเพลคนนี้ถึงได้ปลามากมายมาให้ครอบครัวของนาง!

"ข้ายังมีอีก!"

หวังหยวนเดินจากไปโดยไม่หันกลับมามอง

"ปลา ปลา!"

เจ้าเด็กตัวน้อยทั้งสามมามุงดูรอบปลาทั้งแปดตัว ต่างเริ่มน้ำลายไหลออกมา

แววตาป้าหงเต็มไปด้วยความลังเล อยากฆ่าปลาไปทำกับข้าวให้พวกเด็ก ๆ กิน แต่ก็ไม่กล้าทำ

หลังจากนั้นไม่นานนัก หวังหานซานและลูกชายทั้งสองก็กลับมา

ป้าหงพูดอย่างกระวนกระวายใจ "เจ้าบ้าน หวังหยวนบอกว่าเจ้าช่วยเขาไว้ เขาเพิ่งมาส่งปลามาให้ตั้งมากมาย เจ้าไปช่วยอะไรเขามา เขาถึงได้ส่งปลาให้เจ้าตั้งมากมายขนาดนี้!"

"ข้าไปช่วยเขาขุดรากหญ้าครู่เดียว เขาไปเอาปลาเยอะแยะขนาดนี้มาจากไหน?”

หวังหานซานมองไปที่ปลาทั้งแปดตัวด้วยความสงสัย "เจ้าไม่ได้มองผิดไปใช่ไหม หวังหยวนเอามาให้จริง ๆ หรือ?"

ปลามากมายขนาดนี้ แม้แต่ชาวประมงเฒ่าที่ตกปลามาหลายปีก็ยังต้องทอดแหเป็นเวลาหลายวัน

หวังหยวนไม่มีเรี่ยวแรงจะฆ่าไก่ด้วยซ้ำ จะไปจับปลามากมายได้อย่างไร

“ตาของข้าไม่ได้บอด และหวังหยวนก็ไม่เข้าใจผิดเช่นกัน”

ป้าหงมองกลับมาอย่างโล่งอก

หัวหน้าครอบครัวช่วยหวังหยวนจริง ๆ แบบนี้สามารถเก็บปลาไว้ได้ และทำมันให้ทุกคนกินได้

ส่วนที่เหลือนำไปขายหาเงินซื้อผ้าฝ้าย และทำเสื้อยัดฝ้ายตัวใหม่ให้พวกเด็ก ๆ ในช่วงปีใหม่ด้วย

“ไม่ได้ ข้ารับไว้ไม่ได้ ไม่ว่าเขาจะได้ปลามาอย่างไร เขาก็เป็นหนี้ท่านหลิวอยู่เยอะ เขาต้องขายปลาพวกนี้เพื่อใช้หนี้ พวกเรารับมันไว้ไม่ได้”

หวังหานซานยัดปลาลงในถัง ถือมันแล้วเดินออกไป

“เจ้าบ้าน!”

ป้าหงขอร้องเขา "ปลาตัวใหญ่คืนให้หวังหยวนไปขายเอาเงินเถอะ ส่วนปลาตัวเล็กเก็บไว้ให้ลูก ๆ ดูสิพวกเขาไม่ได้กินเนื้อมานานแค่ไหนแล้ว และอีกอย่างปลาตัวเล็กขายไปก็ไม่ได้ราคา "

เมื่อเห็นเด็กทั้งห้าคนน้ำลายไหล หวังหานซานก็เหลือปลาตัวเล็กไว้หกตัว และนำปลาตัวใหญ่สองตัวไปคืน

“ลุงซานไปจับปลาตัวใหญ่ได้สองตัวนี้ได้จากที่ไหน ตัวหนึ่งต้องหนักสองโลกว่า หรือสามโลแน่”

หวังซื่อไห่ที่กำลังเดินเตร็ดเตร่ไปรอบ ๆ หมู่บ้านเดินเข้ามา เมื่อเห็นปลาสองตัวอดที่จะกลืนน้ำลายไม่ได้

เขาไม่มีเนื้อตกถึงท้องมาครึ่งปีแล้ว

หวังหานซานบอกว่า “ปลาสองตัวนี้เป็นของหวังหยวน ข้าจะเอากลับไปให้เขา”

"ของหวังหยวน!”

หวังซื่อไห่ไม่อยากจะเชื่อ

ตอนกลางวันไอ้โง่นั่นยังขุดรากหญ้ากินอยู่เลย จะไปเอาปลาตัวใหญ่สองตัวมาได้อย่างไร

ร่างกายอ่อนแอขนาดนั้น และปลาก็หนักเกินไป!

ก่อนที่หวังหยวนจะกลับถึงบ้าน เขาถูกหวังหานซานขวางไว้ และอยากจะคืนปลาให้

หวังหยวนไม่ยอมรับคืน "ลุง นี่มันอะไรกัน? ข้าบอกว่าให้ท่านกิน ทำไมลุงถึงเอามาคืนล่ะ?

“หวังหยวน ปลาตัวเล็กลุงเอาไว้ได้ แล้วเอาปลาตัวใหญ่ไปขายหาเงินใช้หนี้เถอะ"

หวังหานซานวางปลาคืนลงในตะกร้าไม้ไผ่

“ท่านลุงขอรับ ปลาสองตัวนี้ขายก็ได้ไม่เท่าไหร่หรอก ได้มาก็ไม่พอใช้หนี้”

หวังหยวนหยิบปลาออกมา "ถ้าลุงรู้สึกเกรงใจ วันพรุ่งนี้เรียกต้าหู่และเอ้อร์หู่ให้มาช่วยข้า ข้าสัญญาว่าในอนาคตท่านจะได้กินเนื้อทุกวัน"

“กินเนื้อทุกวัน?”

หวังหานซานตกใจจนสะดุ้ง

ไม่ใช่ขุนนาง ใครเหล่าจะไปปัญญากินเนื้อได้ทุกวัน แค่ได้กินถั่วข้าวสาลีให้อิ่มเป็นอันใช้ได้แล้ว

แต่ในวันนี้เห็นหวังหยวนจับปลาได้มากมาย หวังหานซานก็เกิดความคาดหวังขึ้นมาเล็กน้อย

...

“ท่านพี่หายไปไหน ทำไมยังไม่กลับมา หรือว่าจะหนีหนี้ไปแล้ว”

ที่ประตูของลานบ้านเล็ก ๆ หลี่ซื่อหานเขย่งเท้ามองด้วยความรู้สึกไม่สบายใจ

ในขณะที่จิตใจกำลังสับสนว้าวุ่นแบบนี้ ก็เห็นร่างหนึ่งเดินมาอย่างช้า ๆ เข้ามาที่ประตู!

หลี่ซื่อหานรีบวิ่งไป เมื่อเห็นปลาเต็มถัง นางก็ยื่นมือออกไปรับด้วยความประหลาดใจ "ท่านพี่ ท่านไปเอาปลามากมายขนาดนี้มาจากไหน?"

“วางยามา!”

หวังหยวนเบี่ยงตัวหนี "มันหนักมาก เจ้าแรงน้อย ข้ายกเองได้!"

หลี่ซื่อหานตัวสั่น

ใครอยากได้?

หาใครอยากได้กัน?

ทำไมถึงมีคนให้ปลากับสามีมากมายขนาดนี้?

หวังหยวนพูดอีกว่า "คืนนี้ข้าจะทำปลาให้เจ้า!"

หลี่ซื่อหานฝืนยิ้ม "ท่านพี่ เดี๋ยวข้าทำปลาตัวเล็กให้ท่านกิน ข้ากินน้ำแกงปลานิดหน่อยก็พอแล้ว นำปลาตัวอื่นไปขายที่อำเภอเพื่อหาเงินเถอะ!"

หวังหยวนหยิบปลาสองตัวใหญ่ออกมา "เรื่องใช้หนี้ข้ามีวิธี คืนนี้เจ้าควรกินปลาให้มากขึ้นหน่อย ดูหน้าเจ้าสิซูบผอมหมดแล้ว"

หลี่ซื่อหานเริ่มกระวนกระวายใจ!

สามีเริ่มพูดจาเพราะ ๆ อีกครั้ง ปลาพวกนี้ต้องได้มาอย่างผิด ๆ เป็นแน่!

หวังหยวนฆ่าปลาและขอดเกล็ดปลา หลี่ซือหานเสนอความช่วยเหลือ แต่เขาขอให้เธอยืนข้าง ๆ

หลังจากนั้นไม่นาน ปลาสองตัวก็ถูกทำความสะอาดเรียบร้อย และหวังหยวนก็เอาปลาที่ทำเสร็จแล้วเข้าไปในครัว

เมื่อพูดถึงห้องครัว ก็เป็นกระท่อมมุงจากครึ่งหนึ่งเต็มไปด้วยฟืน และอีกครึ่งหนึ่งวางหม้อเหล็กและเตาดินเผา

มีหม้อดินเผาวางอยู่ในตู้ไม้สองใบ มีโถใส่น้ำมันหมูสีขาว และโถใส่เกลือหยาบเม็ดใหญ่สีเหลือง ชามดินเผาห้าใบและจานกระเบื้องสี่ใบ

ด้านข้างมีถังน้ำขนาดใหญ่ ด้านบนมีทัพพีและเขียง

หยาบมากซะจนทำให้หวังหยวนตกใจ!

“ท่านพี่ สุภาพบุรุษต้องอยู่ห่างจากห้องครัว ท่านเป็นบัณฑิต เรื่องหุงข้าวให้ข้าทำเถอะ”

หลี่ซื่อหานเดินเข้ามาพร้อมตะเกียงน้ำมัน และห้องครัวที่มืดก็สว่างขึ้น

“ข้าไม่ใช่สุภาพบุรุษ ตอนนี้ข้าแค่อยากกินเนื้อ รีบจุดไฟ!”

หลี่ซื่อหานตั้งหม้อให้ร้อน หวังหยวนใส่น้ำมันหมูลงไปสองช้อนโต๊ะ

“ท่านพี่ ใส่น้ำมันมากไปแล้ว แบบเดี๋ยวน้ำมันจะหมดเร็วนะ!”

หลี่ซื่อหานปวดใจที่ได้เห็น น้ำมันหมูสองช้อนนี้ใช้ได้ครึ่งเดือนเลยนะ

"ทอดปลาต้องใส่น้ำมันเยอะ ไม่งั้นมันจะเละทำอย่างไรได้!"

หวังหยวนใส่ปลาสองตัวลงไป ปลาที่ทอดในน้ำมันหมูก็ระเบิดเสียงดัง และกลิ่นหอมของปลาที่เย้ายวนก็โชยออกมา

อึก!

หลี่ซื่อหานกลืนน้ำลาย

กลิ่นปลาหอมลอยโชยออกมาจากลานบ้าน

"ปลา ปลาทอดในน้ำมันหมู บ้านหวังหยวนกำลังกินปลา กินดีกว่าตรุษจีนอีก!"

“หอมมาก ต้องใส่น้ำมันหมูเยอะมากแน่ ๆ!”

“เขาเป็นหนี้มากมายขนาดนี้ ยังกล้ากินปลา และใส่น้ำมันมากมายขนาดนี้ สมแล้วที่เป็นคนเสเพล!”

ชาวบ้านบางคนที่เดินผ่านไปผ่านมา ได้กลิ่นปลาลอยที่มาก็หยุดอยู่กับที่

พรวด!

หวังซื่อไห่ถือชามดินเผา และเดินออกไปดูหวังหยวนกินรากหญ้าแทนปลารึเปล่า จู่ ๆ ก็รู้สึกว่าถั่วและข้าวสาลีในชามไม่อร่อยอีกต่อไป น้ำลายของเขาก็หยดลงที่จาน

“กุก ๆ ๆ!”

หลังจากปรุงเป็นเวลาสิบห้านาที หวังหยวนก็หยิบโถเกลือออกมา และหยิบเกลือหยาบหนึ่งช้อนมาลองชิม

นี่คือเกลือเม็ดหยาบที่ไม่ผ่านการขัดสี มีสีเหลือง และมีสิ่งเจือปนอยู่ในนั้น

ราคาไม่แพง ครึ่งกิโลประมาณห้าสิบอีแปะ หลาย ๆ คนก็ยังไม่สามารถซื้อมันมาได้

วางปลาสองตัวบนจาน โรยด้วยผักป่าซอย และโรยลงน้ำแกงปลา แล้วจัดวางลงบนโต๊ะ

หวังหยวนผลักจานไปตรงหน้าหลี่ซื่อหาน แล้วพูดว่า "รีบกินซะ เดี๋ยวจะเย็น!"

อึก!

กลิ่นปลาเตะจมูกจนน้ำลายของหลี่ซื่อหานไหลออกมา แต่นางก็ไม่ยอมหยิบตะเกียบ "ท่านพี่ บอกข้ามาตามตรง ว่าปลาพวกนี้มาจากไหนกัน?"

Continue to read this book for free
Scan code to download App
Comments (1)
goodnovel comment avatar
ภูมิ รัตนะ
ทาาาาาาาาาาาาา
VIEW ALL COMMENTS

Latest chapter

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2257

    “พวกเจ้าออกไปก่อน”เมื่อเห็นว่าคนเหล่านั้นหน้าดำคร่ำเครียด ซือหม่าอันจึงโบกมือให้พวกเขาออกไปในชั่วพริบตา คนเหล่านั้นก็จากไปด้วยความโล่งอกพวกเขาถึงกับกังวลว่าหานเทาจะสังหารพวกเขาเพราะความโกรธด้วยซ้ำ...“ท่านขุนพลหานไม่ต้องโมโห”“อันที่จริง เรื่องเหล่านี้ล้วนสมเหตุสมผล”“แม้ว่าจะไม่มีตำแหน่งอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้าแล้ว แต่ชื่อเสียงของพวกเราก็ไม่ค่อยดีนัก พวกเขาจะเดินทางมาได้อย่างไร?”“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ พวกเราก็สร้างหอไร้เทียมทานขึ้นมาเอง ท่านคิดเห็นเช่นไร?”ซือหม่าอันหรี่ตาลง ตอนนี้เขานั่งอยู่บนเก้าอี้ สายตาจับจ้องไปที่หานเทาหานเทากลืนน้ำลาย เอ่ยถามขึ้นว่า “ท่านมีความคิดดี ๆ แล้วหรือ?”ซือหม่าอันกล่าวว่า “หลายปีมานี้ ผู้คนต่างก็เกลียดชังอาณาจักรต้าเป่ย ถึงกับคิดว่าต้นตอของสงครามในดินแดนทั้งเก้าก็คืออาณาจักรต้าเป่ยของพวกเรา ดังนั้นพวกเขาจึงไม่อยากเข้าร่วมกับพวกเรา”“เช่นนั้นพวกเราก็นำยอดฝีมือจำนวนมากจากภายนอกเข้ามาเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับตนเองสิ!”“ตามที่ข้ารู้ หวังหยวนมีน้องชายคนหนึ่งชื่อว่าไฉจวิ้น ทั้งสองไม่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือด ว่ากันว่าเป็นพี่น้องร่วมสาบาน”“ไฉ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2256

    “เมื่อคืนข้าไม่ได้บอกเจ้าแล้วหรือ ว่าอีกสองวันพวกเราจะกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวัง?”“ท่านถงและคนอื่น ๆ ล้วนอยู่ที่หมู่บ้านต้าหวัง พวกเราไม่ต้องเป็นกังวลกับเรื่องราวที่นั่น”“เมื่อพวกเรากลับไปแล้ว ก็เพียงแค่ใช้ชีวิตให้มีความสุข”หวังหยวนไม่ใช่คนไร้ซึ่งความทะเยอทะยาน เพียงแต่ว่าเขาไม่ได้มีความรักชาติอันยิ่งใหญ่และคำนึงถึงปวงประชาเป็นหลัก!เขาเพียงต้องการดูแลครอบครัวของตนเอง รวมถึงสหายและพี่น้องที่อยู่เคียงข้าง!หากสามารถช่วยเหลือปวงประชาได้ ย่อมเป็นเรื่องดี แต่หากต้องเสียสละสิ่งใดจริง ๆ เกรงว่าเขาคงจะไม่ทำเช่นนั้น...แม้แต่การประชุมที่หอหลิวหลีในตอนนั้น ก็เป็นเพียงเพราะหวังหยวนต้องการความสงบสุข“ไม่ได้ ไม่ได้!”“ข้าไม่อยากกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวัง!”“ข้าอยากจะติดตามท่านไปยังสถานที่ที่ผู้คนไม่พลุกพล่าน เมื่อข้าให้กำเนิดลูกแล้ว พวกเราค่อยกลับไปก็ได้ไม่ใช่หรือ?”หลิ่วหรูเยียนฉลาดยิ่งนักเมื่อกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวัง นางจะสามารถติดตามหวังหยวนได้ทุกวันได้อย่างไร?อย่าว่าแต่ต้องการจะมีลูกเป็นของตนเองเลย เกรงว่าแม้แต่พื้นที่ส่วนตัวของเขากับนางก็ยังแทบจะไม่มี!ในบ้านยังมีพี่สาวอีกหลายคน

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2255

    หวังหยวนได้ตัดสินใจแล้ว เรื่องราวในเมืองอู่เจียงใกล้จะสิ้นสุด เขาเตรียมที่จะกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวังในอีกสองวันครั้งนี้เขาออกมานานกว่าครึ่งปี แม้ว่าพวกหลี่ซื่อหานจะไม่ได้เร่งรัดให้เขากลับบ้าน แต่ด้วยนิสัยของพวกนาง เกรงว่าคงจะอยากมาตามหาเขาแล้วกระมัง?มีปัญหาน้อยดีกว่ามีปัญหามาก รีบกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวังย่อมดีกว่าอีกอย่างคือเมื่อมีคนรักใหม่แล้วจะลืมคนรักเก่าได้อย่างไร!ฝนตกทั่วฟ้าถึงจะถูกต้อง!“ท่านผู้นำ มีเรื่องสำคัญที่ต้องรายงานท่านขอรับ!”“ข้าเพิ่งได้รับข่าว หานเทาและซือหม่าอันได้ก่อตั้งสถานที่ที่คล้ายกับหอไร้เทียมทาน ตอนนี้กำลังรวบรวมยอดฝีมือทั่วหล้า!”“นี่มันจงใจเป็นศัตรูกับพวกเราชัด ๆ”“ข้าจึงอยากจะถามว่า ต่อไปพวกเราต้องทำการตอบโต้หรือไม่ขอรับ?”หากเป็นเมื่อก่อน เกาเล่อย่อมต้องการความมั่นคง ไม่เคยทำเรื่องหุนหันพลันแล่นในสถานการณ์เช่นนี้ ย่อมไม่เลือกที่จะปะทะกับหานเทาโดยตรงแต่ยามนี้แตกต่างออกไป เมื่อก่อนหวังหยวนมีเพียงแคว้นเดียวเท่านั้น ตอนนี้แม้ว่าจะเป็นเช่นนั้น แต่เผ่าทางเหนือทั้งหมดก็อยู่ภายใต้การบัญชาของหวังหยวนแล้ว และท่านไท่สื่อก็เป็นคนของพวกเขาด้วย!ประกอบก

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2254

    กองทัพทั่วหล้าตกอยู่ในมือของเขาแล้ว!หากเกิดสงครามกับหวังหยวน เขาก็ต้องเป็นแนวหน้า!ซือหม่าอันหรี่ตา จากนั้นเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยว่า “เรื่องที่ท่านขุนพลหานกังวล มีหรือที่ข้าจะไม่กังวล?”“ข้าได้กราบทูลเรื่องนี้กับฝ่าบาทแล้ว แต่ฝ่าบาทกลับไม่ได้ใส่ใจ ตอนนี้ท่านโปรดปรานการใช้ดินปืน ซ้ำยังให้คนไปคิดค้นอาวุธร้อนเพิ่มด้วย!”“เพียงแต่ว่าการจะพัฒนาอาวุธร้อนให้สมบูรณ์ ไม่ใช่เรื่องที่จะทำได้ในชั่วข้ามคืน!”หานเทาถอนหายใจยาว มีหรือที่เขาจะไม่เข้าใจหลักการนี้?น่าเสียดายที่ไม่สามารถพูดคุยกับฝ่าบาทให้เข้าใจได้!“เช่นนั้นตามความคิดเห็นของท่านซือหม่า ต่อไปพวกเราต้องทำอย่างไร?”หานเทาเอ่ยถามเขาเป็นเพียงขุนศึก ในสถานการณ์เช่นนี้ ย่อมต้องการความช่วยเหลือจากซือหม่าอันเมื่อทั้งสองปรึกษาหารือกัน อาจจะสามารถหาผลลัพธ์ที่ดีได้!ซือหม่าอันหรี่ตาลง ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ใช้นิ้วเคาะโต๊ะเบา ๆ จากนั้นกล่าวว่า “หรือว่าพวกเราจะก่อตั้งสถานที่ที่คล้ายกับหอไร้เทียมทาน จากนั้นก็ป่าวประกาศเรื่องนี้ให้ทั่ว ให้ผู้คนทั่วหล้าเดินทางมา เช่นนี้แล้ว ต่อให้พวกเราไม่สามารถรวบรวมยอดฝีมือได้มากมาย อย่างน้อยก็ไม่ปล่อยให้

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2253

    “เจ้านี่นะ! ถึงกับหึงหวงเพราะผู้ชายเลยหรือ? หากกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวัง เช่นนั้นข้าจะมีความสุขได้อย่างไร?”หวังหยวนส่ายหน้าอย่างจนใจ ที่บ้านเขายังมีภรรยาสาวสวยอีกหลายคน ท่าทางของหลิ่วหรูเยียนเช่นนี้ ช่างทำให้เขารู้สึกหวาดหวั่นที่สำคัญที่สุดก็คือ ภรรยาในบ้านแต่ละคนล้วนไม่ใช่คนธรรมดา!โดยเฉพาะหวงเจียวเจียว นิสัยของนางร้อนแรงยิ่งกว่าไฟ นอกจากหลี่ซื่อหานและคนอื่น ๆ แล้ว ก็เกรงว่าจะไม่ยอมรับใครอีกหากสตรีทั้งสองนี้มาพบกัน ใครจะรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นแต่ในเมื่อรับพวกนางมาเป็นภรรยาแล้ว ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต เขาก็ต้องรับผิดชอบทั้งหมดเวลาสามวันผ่านไปอย่างรวดเร็ว ในช่วงสามวันนี้ หวังหยวนอยู่ในหอไร้เทียมทานต้องยอมรับว่าการก่อตั้งหอไร้เทียมทานได้ดึงดูดผู้มีความสามารถมากมายมาให้หวังหยวนที่สำคัญที่สุดก็คือหวังหยวนเป็นเพียงผู้ดูแล เรื่องราวทั้งหมดมอบให้เกาเล่อจัดการ โดยเพียงแค่ใช้ชื่อเสียงของหวังหยวนเท่านั้น!ต้องรู้ว่าหวังหยวนมีชื่อเสียงไปทั่วทั้งดินแดนทั้งเก้า เป็นเช่นนี้มาโดยตลอด แม้แต่ปวงประชาแห่งดินแดนทั้งเก้าก็เคารพหวังหยวน แล้วใครเล่าจะไม่อยากมาอยู่ใต้บัญชาของหวังหยวน?ยิ่งไป

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2252

    การประลองย่อมต้องดำเนินต่อไปเพียงแต่ว่าตำแหน่งอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้านั้นมีมากมาย หวังหยวนจึงไม่ได้อยู่ดูการแข่งขันต่อคาดว่าในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้า หอไร้เทียมทานคงจะคึกคักเป็นอย่างมากในไม่ช้า หวังหยวน ไฉจวิ้น และหลิ่วหรูเยียนทั้งสามก็กลับมาถึงห้อง ส่วนเรื่องภายนอกมอบให้เกาเล่อจัดการทันทีที่เดินเข้าห้อง หวังหยวนจึงรีบจับมือไฉจวิ้นมาตรวจดูอย่างละเอียด“พี่ใหญ่ ท่านไม่ต้องเป็นห่วงหรอกขอรับ ข้าสบายดี!”“ต่อให้ต้องประลองต่อ ข้าก็ยังไหว!”“เพียงแต่ข้าคิดไม่ถึงว่าเจ้านั่นจะยอมแพ้...”“เช่นนี้ก็ดี ทำให้ข้าไม่ต้องเปลืองแรง!”“อีกอย่าง หากต้องประลองกันต่อ เกรงว่าแม้แต่ข้าก็ไม่รู้ว่าจะสำเร็จหรือไม่...”นี่เป็นความจริงทุกคนรู้ว่าไฉจวิ้นมีพละกำลังมหาศาล ตัวเขาเองก็รู้ดีแก่ใจ แต่ขีดจำกัดของตนอยู่ที่ใด เกรงว่าแม้แต่เขาเองก็คงจะไม่รู้“เห็นว่าเจ้าไม่เป็นอะไร ข้าก็โล่งใจ”“แต่ต่อไปเมื่อทำสิ่งใด ต้องใช้ความคิดให้มาก”“แม้ว่าเจ้าจะมีพละกำลังมหาศาล แต่เหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือคนยังมีคน เจ้าไม่มีทางรู้ได้ว่าคู่ต่อสู้ของเจ้าแข็งแกร่งเพียงใด”“ดังนั้นเมื่อทำสิ่งใด อย่าได้อวดดี เข้าใจหรือไม่?”

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status