แชร์

บทที่5

ผู้เขียน: ซังกง
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-05-16 18:13:14

ร่างสูงโปร่งที่กลับมาถึงบ้านก็พบน้องชายที่กำลังนั่งทำอะไรบางอย่างอยู่ที่โต๊ะญี่ปุ่นอย่างตั้งใจ จนได้ยินเสียงเขาเปิดประตูเข้ามาร่างเล็กจึงหันมองหน้าเขาเล็กน้อย

“คราวหลังถ้าพี่จะไม่กลับบ้านต้องบอกผมสิ” คนน้องพูดอย่างน้อยใจผู้เป็นพี่ชายที่ทำให้เขาเป็นห่วง

“ทราบแล้วครับ” เขาพูดแซวน้องชายที่เป็นห่วงเขาเกินไป

“ดีครับ” เขาว่าด้วยสีหน้ายิ้มแย้มเมื่อพี่ชายรับปากจะทำอย่างที่พูด

“แล้วนี่เรากำลังทำอะไรอยู่เหรอ!?” เขาถามน้องชายที่กำลังตั้งใจทำอะไรบางอย่างมาตั้งแต่เมื่อวานแล้ว

“ผมว่าผมอยากจะสอบเข้าที่นี่” เขาชี้ให้พี่ชายดูมหาลัยที่เขาอยากจะเข้าเรียนและกำลังตั้งใจที่จะทำการสอบชิงทุนของที่นี่ให้ได้

“จะสอบชิงทุนเหรอ!?”

ร่างเล็กทำเพียงพยักหน้าเล็กน้อย

“งั้นก็สู้ๆ นะ ถ้าสอบไม่ผ่านก็ไม่เป็นไร” เขาที่ไม่อยากให้คนน้องต้องเครียดจนเกินไป ทั้งเขาคิดว่ายังไงเขาก็สามารถเก็บเงินส่งน้องชายเรียนได้อย่างสบาย

“รู้แล้ว พี่เข้าไปพักเถอะ”

ชัตเตอร์ทำเพียงแค่ส่งยิ้มอบอุ่นให้น้องชาย ก่อนที่จะเดินเข้าไปในห้องของตัวเองเพื่อพักผ่อน ถึงเขาจะได้พักงานสามวันแต่เงินที่ได้มาเมื่อคืนก็ย่อมดีกว่าเป็นไหนๆ

เขาที่ติดการใช้ชีวิตในเวลากลางคืนจึงได้มาโผล่อยู่ร้านปิ้งย่างเกาหลีที่เขาอยากกินแต่ไม่มีเวลามากินสักที วันนี้จึงได้มีโอกาสมานั่งกินให้สบายใจ แต่น้องชายเขาดันมีเรียนพรุ่งนี้เลยขออยู่บ้านเนี่ยสิ

“นายมาทำอะไรที่นี่”

ต้นลมที่ต้องมาตรวจความเรียบร้อยในห้างให้พอเป็นพิธี แต่เขาต้องหยุดฝีเท้าลงเมื่อเจอเข้ากับร่างแสนคุ้นตากำลังนั่งกินปิ้งย่างอย่างสบายอารมณ์อยู่คนเดียว

“นี่ขนาดไม่ใช่ร้านเหล้ายังเจออีกเหรอเนี่ย” เขางึมงำกับตัวเอง แต่ก็เป็นเสียงที่คนที่ยืนอยู่ทั้งสองคนได้ยินชัดทุกประโยค

เขาตัดสินใจนั่งลงยังฝั่งตรงข้ามโดยไม่ต้องรอให้เจ้าของโต๊ะเอ่ยชวนกันแต่อย่างใด “วันนี้เลิกงานได้ นายกลับบ้านไปได้แล้ว” เขาหันไปบอกเลขาที่ยังคงยืนรอฟังคำสั่งของเขาอยู่

“ได้ครับคุณลม” เขาก้มศีรษะเล็กน้อยก่อนที่จะหมุนตัวเดินออกจากร้านไป

ใครเชิญคุณนั่งกันเนี่ย!!

พนักงานที่รู้จักเจ้าของห้างสรรพสินค้าเป็นอย่างดีรีบวิ่งเข้ามาตอนรับพร้อมกับหยิบถ้วยชามอีกหนึ่งชุดมาให้แก่ชายหนุ่มอย่างลนลาน

“ทำไมถึงได้อยู่ที่นี่ครับ” เขายังคงถามเรื่องที่ถามค้างเอาไว้

“ผมถูกพักงานสามวันน่ะสิครับ” เขายังคงตอบด้วยท่าทีสบายๆ ไม่ได้รู้สึกทุกข์ร้อนกับสิ่งที่เกิดขึ้นแต่อย่างใด

“แค่เพราะเลิกงานก่อนเวลาเหรอครับ!?” เขาถามต่อ เพราะจากที่อ่านมาคือแค่โดนหักเงินในกรณีที่ต้องดื่มเหล้าที่ลูกค้าให้จนทำงานไม่ไหว แต่นี่ไม่เห็นจะมีในข้อตกลงเลยที่เขาจำได้

“ครับ ผู้จัดการบ้าอำนาจนะครับ” เขาว่าอย่างติดตลกก่อนจะเอ่ยต่อ “เมื่อก่อนจะมีผู้จัดการสองคนเพื่อดูแลคนละโซน แต่หลังจากที่คนเก่าลาออกไปก็เลยให้มีแค่คนเดียวนะครับ”

“อ๋อ เข้าใจแล้วครับแค่ทำให้มีสองคนเหมือนเดิมก็จบแล้วสินะครับ”

“ก็คงงั้นมั้งครับ” เขายังคงตั้งใจย่างหมูสามชั้นอย่างขะมักเขม้นทั้งยังคีบให้กับร่างสูงที่นั่งตรงกันข้ามด้วยอีกต่างหาก

หลังจากที่ทั้งสองทานของบนโต๊ะจนหมดชายหนุ่มก็เรียกพนักงานเช็คบิลแล้วเป็นคนจ่ายอาหารมื้อนี้ให้แก่ร่างเล็กที่กำลังจะหยิบเงินออกมา

“ขอบคุณที่เลี้ยงกันอีกแล้วนะครับ”

“แล้วคุณจะไปไหนต่อหรือเปล่าครับ!?” เขาเอ่ยถามอีกฝ่ายที่กำลังจะเดินแยกไปอีกทาง

“เปล่าครับ ผมว่าจะกลับบ้านเลย”

“งั้นไว้เจอกันที่ร้านนะครับ”

ชัตเตอร์ทำเพียงพยักหน้ารับ ก่อนที่จะเดินไปรอรถเมล์เพื่อที่จะเดินทางกลับบ้านไปพักผ่อนให้สบายใจ เพราะเขาทำงานมาหนักมากจริงๆ

“ว่าไง ฟ้าโทรหาพี่เวลานี้” กดรับสายพร้อมกับยิงคำถามใส่อีกฝ่ายทันที

[พี่ พรุ่งนี้พี่กลับมาทำงานได้เลยนะ] เขาว่าด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นจนต้องรีบโทรหาอีกฝ่ายทันที เมื่อทราบข่าว

“ทำไมล่ะหรือไอ้ผู้จัดการนั่นถูกไล่ออกแล้ว!?”

[เปล่าพี่ แต่โซนบาร์ของเรากำลังจะมีผู้จัดการคนใหม่]

“...” ใครอีกวะเนี่ย

[ยินดีด้วยนะพี่เตอร์ พี่ได้รับเลือกให้เป็นผู้จัดการคนใหม่ของโซนเรา] น้ำเสียงแสดงความยินดีถูกส่งผ่านออกมาทางบทสนทนา

“ห้ะ จริงเหรอฉันเนี่ยนะ” เขาถามออกไปราวกับไม่เชื่อหูตัวเองในสิ่งที่ได้ยิน

[พี่ไปดูที่แชตกลุ่มได้เลย]

ชัตเตอร์ที่ได้ฟังแบบนั้นก็รีบกดเข้าไปดูในกลุ่มทันทีและสิ่งที่เห็นคือมีชื่อของเขาเป็นผู้จัดการโซนเครื่องดื่มเป็นที่เรียบร้อย

“ชื่อฉันจริงๆ ด้วยว่ะ” เขาว่าอย่างดีใจก่อนที่ทั้งสองจะพูดคุยกันอยู่พักหนึ่งและคนน้องต้องกลับไปทำงานต่อ

เขารีบเอาเรื่องน่ายินดีไปบอกน้องชาย เพราะไม่ใช่แค่ชีวิตที่จะดีขึ้นแต่เขาไม่ต้องไปทำงานหนักเหมือนเมื่อก่อนอีกแค่คอยตรวจความเรียบร้อยภายในร้านและนั่งอยู่ในห้องแอร์สบายๆ ทั้งคนในแผนกกาสิโนก็จะไม่ได้กล้ามายุ่งกับพวกเขาอีกถ้าไม่มีความจำเป็น

“พี่เตอร์เก่งที่สุดเลย” ร่างเล็กเอ่ยบอกกับผู้เป็นพี่ชายและนั่งคุยกันอยู่พักหนึ่ง ก่อนที่เขาจะต้องขอตัวไปนอน

“ฝันดีกัส” เขาที่มีความสุขจึงได้แต่อดใจรอวันพรุ่งนี้ที่จะได้เลื่อนตำแหน่งอย่างเป็นทางการไม่ไหว

ทั้งเขายังได้ยินมาอีกว่าเจ้าของร้านคนใหม่จะเข้ามาแนะนำตัวกับพนักงานทุกคนในวันพรุ่งนี้ นับว่าเจ้าของร้านเขายังฉลาดอยู่บ้างที่โอกาสเขาได้รับหน้าที่ที่ยิ่งใหญ่นี้

ด้วยความที่เขานอนเร็วกว่าปกติ ทำให้ตื่นเช้าจนทันไปซื้อข้าวมาไว้ให้น้องชายทรนก่อนไปโรงเรียน เขาแกะข้าวต้มใส่ชามไว้รอน้องชายที่กำลังแต่งตัวอยู่ พร้อมกับตักในชามของตัวเองเข้าปากอย่างเอร็ดอร่อย

“นี่เงินของอาทิตย์นี้ ถ้าเสาร์อาทิตย์มีไปเที่ยวกับเพื่อนก็ขอเงินพี่เพิ่มได้นะถ้าไม่พอ” เขาวางเงินสองพันลงบนโต๊ะ

“เสาร์นี้ผมมีไปติวที่บ้านเพื่อนแล้วต้องนอนค้าง พี่ให้ผมไปค้างได้ไหม!?” โฟกัสเอ่ยถามพี่ชายด้วยความหวาดหวั่นกลัวพี่ชายจะไม่อนุญาต

“มีแต่โอเมก้าใช่ไหม!?” เขาต้องถามย้ำอีกครั้ง เพราะถึงโรงเรียนที่น้องเรียนจะเป็นโรงเรียนของโอเมก้าล้วน แต่เขาก็ไม่ได้บังคับให้น้องต้องคบเพื่อนทุกเพศเช่นกัน

“ใช่ครับ กัสจะไม่ทำให้พี่ผิดหวังในตัวกัสแน่นอน” เด็กหนุ่มว่าขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง

“พี่ไม่ได้ห้ามถ้าเราจะมีแฟน แต่อยากให้รู้จักป้องกัน...”

“พูดอะไรของพี่เนี่ย ผมรู้แล้วน่า...ไปเรียนแล้วสวัสดีครับ” เขามีใบหน้าขึ้นสีแดงเรื่อเมื่อรู้ว่าพี่ชายกำลังจะสื่ออะไรกับเขา แต่เขายังไม่เคยได้คิดเรื่องพวกนั้นเลยสักครั้งเดียว

“ตั้งใจเรียนล่ะ” เขาตะโกนไล่หลังร่างเล็กที่เขินอายในสิ่งที่เขาพูดจนต้องรีบหนี

เขาที่มีเวลาว่างจนออกไปซื้อของสดมาไว้ในตู้เย็น เวลาที่เขาไม่อยู่น้องจะได้มีของไว้ทำกิน

“พี่เตอร์ มาซื้อของแถวนี้เหรอพี่” ปลายฟ้าที่พักอยู่หอพักใกล้มหา’ลัย เขาจึงได้แวะมาซื้อของที่นี่ก่อนที่จะเข้าห้องเพื่อไปพักผ่อน เพราะอีกไม่กี่ชั่วโมงก็ใกล้ได้เวลาเข้างานแล้ว

“ห้องพี่อยู่แถวนี้ ก็เลยว่าจะซื้อของไปแช่ให้เต็มตู้สักหน่อย” เพราะการซื้อของทำกินเองย่อมดีกว่าซื้อกินข้างนอก

“จริงเหรอพี่ ผมก็พักอยู่หอตรงข้ามมหา’ลัย” เขาพูดด้วยสีหน้ายิ้มแย้มก่อนจะแยกตัวออกไปซื้อของเข้าห้อง

เมื่อเขากลับมาถึงห้องและจัดของทุกอย่างใส่ตู้เรียบร้อยก็เป็นเวลาเกือบบ่ายโมง เขาจึงได้กลับเข้าไปนอนพักผ่อนต่อจนใกล้ถึงเวลาเข้างานเขาจึงรีบตื่นขึ้นมาแต่งตัวเพื่อไปเข้างานก่อนเวลาเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • บาร์เทนเดอร์อยากมีรัก(อัลฟ่าxเบต้า)   บทส่งท้าย

    สองปีผ่านไป ชัตเตอร์ที่ยังคงต้องทำงานและเลี้ยงลูกไปด้วยจึงทำให้เหนื่อยขึ้นมากทั้งยังจะมีเรื่องของน้ำนมที่เขาไม่สามารถผลิตได้จนต้องหาซื้อน้ำนมและนมผงให้ลูกทั้งสองคนของเขา จนตอนนี้ลูกเขาอายุได้หนึ่งขวบกว่าแล้วก็เริ่มที่จะเดินได้และกินข้าวได้เองถึงจะไม่ค่อยตรงปากก็ตามแต่เขาก็มองว่ามันเป็นอะไรที่น่ารักเหลือเกิน ทว่ายังไม่ทันที่เขาจะได้นั่งชมความน่ารักของลูกชายทั้งสองคนที่มีเพศรองเป็นอัลฟ่าและโอเมก้าได้นานนักก็มีเสียงเคาะประตูดังเข้ามาทำให้เขาต้องลุกขึ้นเดินไปเปิดประตู และดันเป็นจังหวะเดียวกันกับที่ทิศเหนือลูกชายคนโตที่มีเพศรองเป็นโอเมก้าร้องไห้งอแงขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุจนเขาต้องเดินกลับไปอุ้มเด็กน้อยเอาไว้ในอ้อมแขน ทางด้านร่างสูงของอัลฟ่าหนุ่มอย่างต้นลมที่กว่าผู้เป็นแม่จะทำใจยอมรับได้ก็เป็นในตอนที่สภาพเขาดูย่ำแย่ราวกับซากศพที่เดินได้ ท่านจึงจำต้องบอกว่าชัตเตอร์อยู่ที่ไหน แต่พอไปยังห้องพักที่คุณแม่บอกก็ได้รู้ว่าชายหนุ่มไม่ได้อยู่ที่นั่นมาเกือบสองปีแล้ว เหมือนอยู่แค่ไม่เกินสามเดือนก็ย้ายออกไป จนเขาได้นึกถึงน้องชายของอีกฝ่ายที่น่าจะมาด้วยกันและต้องเรียนอยู่ที่ไหนสัก

  • บาร์เทนเดอร์อยากมีรัก(อัลฟ่าxเบต้า)   บทที่17

    หกเดือนผ่านไป ต้นลมที่พยายามตามหาชัตเตอร์มาเกือบครึ่งปีแล้วก็ยังไม่พบ ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายหายตัวไปไหนทั้งพี่และน้อง ไหนว่ารักบ้านกันมากแต่ทำไมถึงทิ้งไปได้กันล่ะ เขาได้แต่เก็บตัวอยู่ในบาร์เพื่อหวังว่าชายหนุ่มจะกลับมาหาเขาหรืออาจจะติดต่อหาปลายฟ้าบ้างก็ได้แต่หวังไม่มีวี่แววเลยด้วยซ้ำ “ฮัลโหลครับแม่” เขาจำต้องกดรับของผู้เป็นแม่อย่างจำใจ เพราะเขาคิดว่าแม่ต้องมีเกี่ยวในเรื่องนี้อย่างแน่นอน [เมื่อไหร่แกจะยอมแต่งงานกับหนูแทนใจสักที] เธอว่าด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ ทั้งที่เธอสามารถไล่เด็กนั่นออกจากชีวิตลูกชายเธอได้แล้วแต่ทำไมมันยังไม่เป็นไปตามที่เธอหวังไว้สักที “ผมจะไม่มีวันแต่งงานกับใครทั้งนั้นถ้าไม่ใช่เตอร์” เขาว่าเสียงแข็งพร้อมกับปาโทรศัพท์ลงพื้นด้วยความเกรี้ยวกราดจากที่เป็นคนใจเย็นก็เริ่มที่จะไม่มีใครเข้าหน้าติด “ว้าว ถ้าแม่ได้มาเห็นอะไรแบบนี้คงช็อกจนต้องเข้าแอดมิดแน่นอน” ต้นหนาวที่เดินเข้ามาในห้องทำงานของพี่ชายว่าขึ้น “เมื่อไหร่แม่จะเลิกบงการชีวิตฉันสักที” เขาพูดขึ้นอย่างเหนื่อยใจสองมือปิดหน้าเพื่อสงบสติอารมณ์ของตัวเองที่เริ่มไม่คงที่ “ถ้าพี่คบโอเมก้า แม่คงไม่ทำถึงขนาดนี้”

  • บาร์เทนเดอร์อยากมีรัก(อัลฟ่าxเบต้า)   บทที่16

    ร่างสูงที่พาคนตัวเล็กขึ้นมาชั้นบนก็พาอีกฝ่ายมาหยุดยืนที่โต๊ะทำงานของเขาก่อนที่เขาจะนั่งลงและดึงคนตัวเล็กกว่าให้นั่งลงบนตักของเขา “ไม่หนักหรือไงครับ?” “นั่งดูผมทำงานเงียบๆ ครับแล้วผมจะไม่หนัก” รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ผุดขึ้นมาก่อนจะหอมแก้มซ้ายขวาของชัตเตอร์เต็มรัก “กินข้าวมาหรือยังครับ? ให้เตอร์สั่งอะไรขึ้นมาให้กินไหม?” ร่างเล็กยังคงหาเรื่องพูดกับร่างสูงใหญ่ต่อ เพราะหลังจากวันนี้ไปเขาจะย้ายไปอยู่กับน้องที่เชียงใหม่พร้อมกับหางานทำที่นั่นไปด้วย “หิวครับ แต่พี่ขอกินเตอร์ก่อนกินข้าวได้ไหม” อัลฟ่าหนุ่มกระซิบข้างหูด้วยน้ำเสียงแหบพร่า ก่อนที่มือของเขาจะเริ่มทำการถอดเสื้อผ้าของอีกฝ่ายออกจนหมดเผยให้เห็นร่างกายอันเปลือยเปล่าปรากฏต่อสายตาของเขา “เราเข้าไปในห้องกันเถอะครับ” เบต้าหนุ่มที่กลัวจะมีใครเข้ามาจึงว่าขึ้นพร้อมกับเดินเข้าไปในห้องพร้อมร่างสูงใหญ่ที่เดินตามมา ร่างสองร่างต่างช่วยกันเติมเต็มความสุขให้กันและกันจนเวลาผ่านไปหลายชั่วโมงอัลฟ่าหนุ่มถึงได้ปล่อยให้คนน้องเป็นอิสระ “พี่ลม ไม่เคยที่จะทำผมเบาๆ บ้างเลย” ร่างเล็กได้แต่บ่นงึมงำที่หน้ากระจกที่เห็นสภาพตัวเองที่มีรอย

  • บาร์เทนเดอร์อยากมีรัก(อัลฟ่าxเบต้า)   บทที่15

    ชัตเตอร์ Talk ตอนนี้เรื่องผมกับพี่ต้นลมเหมือนกำลังจะไปได้ดีเหมือนที่ใครหลายๆ คนเห็น แต่ความจริงแล้วมันไม่ใช่แบบนั้นเลยครับ เพราะถึงพี่ลมจะซ่อนผมไว้จากแม่เขาได้และยังไม่ได้มีการแนะนำผมอย่างเป็นทางการให้ใครรู้จักเพราะเรายังไม่ได้ตกลงคบกัน ทว่าไม่กี่สัปดาห์ต่อมาคุณหญิงแม่ของพี่ลมก็ได้ทำการนัดผมมายังร้านอาหารแห่งหนึ่งโดยที่ผมไม่ได้บอกคนพี่แต่อย่างใด “เธอต้องการเงินเท่าไหร่ถึงจะยอมเลิกกับลูกชายฉัน” เธอพูดเข้าตรงประเด็นจนผมไม่รู้ว่าจะต้องตอบอะไรออกมา ราวกับคนที่กำลังหาเสียงของตัวเองไม่เจอผมทำแค่นั่งเงียบๆ อยู่ตรงนั้น “ลูกชายฉันควรจะได้แต่งงานกับคนดี” แล้วผมมันไม่ดีตรงไหนครับ วัดผมก็เข้า เหล้าผมก็ไม่ดื่ม เหลือแค่ต้องไปบวชเป็นพระแล้วล่ะครับ “ไม่ใช่ว่าฉันอยากจะดูถูกเธอ แต่ลูกฉันควรจะได้คบกับคนที่สามารถมีลูกได้” ตอนนี้ก็กำลังดูถูกผมอยู่ไม่ใช่หรือไงกันน่ะ ทว่าผมก็ทำได้แค่เงียบและยิ้มรับทุกคำพูด แต่ผมก็คงจะเถียงอะไรด้วยไม่ได้เพราะที่ท่านพูดมามันถูกทุกอย่าง ผมไม่สามารถมีลูกให้อีกฝ่ายได้ด้วยซ้ำ ยังไงจุดสิ้นสุดของคำว่าครอบครัวก็คือการมีลูกอยู่ดี “ผมไม่ต้

  • บาร์เทนเดอร์อยากมีรัก(อัลฟ่าxเบต้า)   บทที่14

    ชัตเตอร์ที่ตื่นขึ้นมาเป็นเวลาเกือบเข้างานแล้วได้แต่ตาลีตาเหลือกควานหาเสื้อผ้าของตัวเองมาใส่เพื่อจะกลับบ้าน “จะไปไหนครับ?” ร่างสูงที่ตื่นขึ้นเพราะไม่ได้กอดอีกฝ่ายก็ถามด้วยน้ำเสียงงัวเงีย “กลับบ้านครับ ถ้าใครเห็นผมขึ้นมาจะทำยังไงครับ” ร่างเล็กพูดขึ้นอย่างลนลานเพราะวันนี้เป็นวันหยุดของเขา เขาไม่ควรที่จะมาโผล่ที่นี่ “หิวข้าวไหมครับ!?” ร่างสูงยังคงถามราวกับไม่ทุกข์ร้อนถ้ามีใครมาเจอเขา มันใช่เวลามาถามเรื่องพวกนี้ไหมเนี่ย!! “ไปกินข้าวกันเถอะครับ” เขาพูดเองเสร็จสรรพก่อนจะเดินไปหาเสื้อผ้าในตู้มาให้คนตัวเล็กกว่าสวมใส่ ชัตเตอร์รับไปแต่โดยดีก่อนจะวิ่งหายเข้าไปในห้องน้ำและออกมาด้วยชุดของอัลฟ่าหนุ่ม ทว่าเมื่อทั้งสองลงมาถึงด้านล่าง ร่างเล็กก็ต้องหยุดชะงักไปเมื่อเห็นคนตัวสูงเอาแต่ยืนนิ่งจ้องมองไปทางผู้หญิงวัยกลางคนที่มีสีหน้าบ่งบอกถึงความไม่พอใจ “ข้างหลังแกคือใครต้นลม” ผู้เป็นแม่ว่าเสียงแข็ง อัลฟ่าหนุ่มได้แต่จับข้อมือของคนน้องเอาไว้แล้วใช้ร่างของตัวเองบังอีกฝ่ายไว้จนมิด “แม่มาทำอะไรที่นี่ครับ!?” เขายังคงพูดด้วยความใจเย็นสีหน้าไม่ได้แสดงถึงความตกใจแต่อย่างใด

  • บาร์เทนเดอร์อยากมีรัก(อัลฟ่าxเบต้า)   บทที่13

    ร่างสูงใหญ่ที่เดินออกมาจากห้องน้ำด้วยชุดคลุมอาบน้ำสีกรมเข้มเดินตรงมาหาร่างโปร่งที่กำลังนั่งเหม่ออยู่ที่เดย์เบด เขาโน้มหน้าเข้าไปใกล้ร่างโปร่ง “คิดอะไรอยู่ครับ” เป็นคำถามที่ไม่ต้องการคำตอบเพราะตอนนี้ริมฝีปากเขาได้ครอบครองปากหยักได้รูปเอาไว้แล้ว พลางมือก็ค่อยๆ แกะกระดุมเสื้อเชิ้ตออกทีละเม็ด ชัตเตอร์ที่ยังไม่ทันได้ตั้งตัวก็สะดุ้งเล็กน้อยก่อนที่จะจูบตอบร่างสูงอย่างเร่าร้อนเช่นกัน แต่เหมือนว่าเขาจะเริ่มหายใจไม่ออกถ้าต้องจูบนานกว่านี้ “อื้อ” เขาส่งเสียงท้วงอยู่ในลำคอเป็นการบอกร่างสูงว่าเขาเริ่มหายใจไม่ออก ต้นลมได้แต่ถอนจูบออกอย่างอ้อยอิ่งสายตายังคงจ้องมองร่างโปร่งด้วยความต้องการที่มีมากจนปิดไม่มิด “ไม่เจอกันตั้งหลายวันเตอร์คิดถึงผมหรือเปล่า” เขาที่รู้ตัวว่าตัวเองกำลังถามคำถามไร้สาระก็ได้แต่ยิ้มเย้ยหยันตัวเอง นี่เขากำลังคาดหวังอะไรอยู่ อยากได้ยินคำว่าคิดถึงหรือยังไงกัน ชัตเตอร์ที่ได้ยินคำถามของอีกฝ่ายที่เป็นคำถามทั่วไป แต่เขาไม่รู้ว่าควรจะตอบว่าอะไรถึงจะดีที่สุด เขาได้แต่สบตากับร่างสูงไม่พูดอะไรออกมา “ช่างเถอะครับ” เขาที่ตั้งใจจะกดอีกฝ่ายให้จมเตียงก็ต้องเปลี่ยนคว

  • บาร์เทนเดอร์อยากมีรัก(อัลฟ่าxเบต้า)   บทที่12

    ต้นลมที่พยายามใช้ความพยายามอย่างสูงในการหลบเลี่ยงร่างเล็กที่คุณแม่ชอบยัดเยียดให้มาอยู่กับเขาตลอดการมาเที่ยว จนเขาต้องรีบกลับประเทศไทยก่อนกำหนดไม่งั้นเขาคงได้เป็นประสาทตาย ไม่ใช่ว่าน้องไม่น่ารักหรือว่าวิ่งตามเขาจนน่ารำคาญอะไรขนาดนั้นหรอก แต่เขาแค่ไม่ได้รู้สึกอะไรด้วย ต่อให้น้องจะมาแก้ผ้าตรงหน้าผม ผมก็คงจะเอาแล้วก็ทิ้งเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ผมล้อเล่นครับเสียภาพพจน์หมด แต่ผมจะไม่ยอมอยู่กับอีกคนในห้องสองต่อสองแน่นอน เรื่องพวกนั้นจะได้ไม่ต้องเกิดขึ้นไม่งั้นมีหวังผมได้ถูกจับแต่งงานแบบฟ้าผ่าแน่นอน แค่คิดผมก็รู้สึกแปลกแล้วคนเราถ้าจะแต่งงานก็ต้องเป็นคนที่เรารัก “พรุ่งนี้ฉันจะกลับไทย” เขาหันไปบอกกับน้องชายที่นั่งตรวจงานอย่างใจเย็น “ก็ดีครับ ผมเห็นเด็กนั่นวิ่งตามพี่แล้วก็รำคาญตาแทน” เขาว่ากันด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง “ยังไงทางนี้ฝากนายด้วยแล้วกัน ฉันไม่ค่อยถนัดงานด้านนี้อยู่แล้ว” เขาพูดกับน้องชายด้วยความรู้สึกผิดที่เขาเอาแต่ผลักภาระอันหนักอึ้งให้น้อง ส่วนตัวเขาทำแต่งานสบาย “พี่อย่าคิดอะไรแปลกๆ เลย ผมไม่เหมาะกับงานสะอาดๆ แบบนั้นหรอก ชีวิตผมมันเปื้อนเลือดมานานแล้ว” เขาพูดด้

  • บาร์เทนเดอร์อยากมีรัก(อัลฟ่าxเบต้า)   บทที่11

    ต้นลม Talk ผมที่ต้องไปดูงานที่ญี่ปุ่นแค่ไม่กี่วัน แต่ถูกแม่บังคับให้เที่ยวที่นั่นกันทั้งครอบครัว ถ้าผมไม่อยู่ที่นี่คงจะถูกบังคับให้เจอกับน้องแทงใจ เอ่อผมหมายถึง แทนใจนั่นแหละครับ “ฉันว่าทริปนี้คงจะไม่สนุกแล้วล่ะ” ต้นลมได้แต่ตีหน้าขรึมเมื่อเห็นร่างเล็กของโอเมก้านั่งยิ้มแป้นแล่นให้เขาอยู่ “นายรู้เรื่องนี้ด้วยหรือเปล่า!?” เขาหันไปทางน้องชายที่ยืนข้างกัน “ไม่ล่ะ เสียเวลา” เขาตอบพลางนั่งลงข้างร่างเล็กแทนพี่ชายสีหน้าเคร่งขรึม จนโอเมก้าที่นั่งอยู่ด้วยถึงกับมีสีหน้าซีดเผือดจนเห็นได้ชัด “ใครให้หนาวนั่งตรงนี้ ที่หนาวอยู่ด้านหลังนะลูก” คุณหญิงที่เห็นว่าลูกชายคนเล็กนั่งกับว่าที่คู่หมั้นของลูกชายคนโตก็แทบอยากจะกรีดร้องออกมาที่มีลูกชายสองคนไม่มีใครได้ดั่งใจเธอสักอย่าง “อ้าวเหรอครับคุณแม่” อัลฟ่าหนุ่มที่เป็นพี่ชายคนโตได้ยินดังนั้นก็รีบนั่งลงทันที การนั่งกับคนที่ไม่รู้จักย่อมดีกว่าต้องนั่งกับเด็กไม่รู้จักโตแบบนั้น ผมรู้สึกเอือมระอาเป็นที่สุด ทั้งที่รู้ว่าผมไม่ชอบและปฏิเสธมาตลอดก็ยังเสนอหน้ามาให้ผมเห็นอีก เมื่อไหร่จะยอมล้มเลิกงานแต่งนี้ไปสักที “ตาลม โอ๊ยฉันอยากจะเป็

  • บาร์เทนเดอร์อยากมีรัก(อัลฟ่าxเบต้า)   บทที่10

    ชัตเตอร์ที่ตื่นขึ้นมาในตอนสายของวันก็ไม่เจอกับร่างสูงที่นอนกอดเขาอยู่เมื่อคืนนี้ เขาจึงตัดสินใจเดินออกมาจากห้องนอนก็พบกับณดลเลขาคนสนิทของอัลฟ่าหนุ่มนั่งอยู่ในห้องพร้อมเอกสารหลายฉบับ “คุณต้นลมไปไหนเหรอครับ!?” เขาเอ่ยถามคนที่นั่งอ่านเอกสารอยู่ในห้องของเจ้านาย “ไปธุระครับ นี่เป็นเอกสารที่คุณลมอยากจะทำร่วมกับคุณครับ” ชายหนุ่มว่าพร้อมกับเริ่มอธิบายถึงข้อตกลงและการต้องทำตัวอย่างไรเมื่อต้องอยู่กับเจ้านายของเขา “แล้วเรื่องบ้านล่ะครับ!?” “ทางคุณลมได้โอนเป็นชื่อของคุณเรียบร้อยแล้วครับ” เขารายงานในขณะที่ร่างเล็กกำลังตั้งใจอ่านเอกสารและเซ็นมันลงไปอย่างไตร่ตรองดีแล้ว “แล้วผมสามารถย้ายเข้าไปอยู่ได้เลยไหมครับ?” เขาถามขึ้นอย่างมีความหวังและคิดจะเอาเรื่องนี้ไปบอกน้องชาย “ครับ ตอนนี้คุณลมกำลังให้คนดำเนินการย้ายของอยู่” เขาตรวจทานเอกสารอีกครั้งก่อนที่จะเก็บใส่เข้าซองสีน้ำตาลอย่างมิดชิด “งั้นผมขอตัวก่อนดีกว่าครับ” เขาเอ่ยลาอีกฝ่ายพร้อมกับเดินออกจากห้องไปและทำการต่อสายหาน้องชาย [พี่ให้คนมาย้ายของเรากลับบ้านเหรอครับ?] โฟกัสที่ได้เจอกับร่างสูงที่อ้างตัวว่าเป็นเจ้านายของพี่ชาย

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status