แชร์

บทนำ

last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-02-07 16:23:39

หากมีการจัดอันดับนักธุรกิจรุ่นใหม่ไฟแรงที่อายุไม่เกิน30ปี เชื่อว่าต้องมี นที พัชรวงศ์เศวต อยู่ในรายชื่อเหล่านี้อย่างแน่นอน เพราะชายหนุ่มถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งนักธุรกิจที่มีความคิดนอกกรอบในการแก้ปัญหา ทั้งความเป็นผู้นำของอีกฝ่ายที่ฉายชัดออกมาแม้อายุยังน้อยเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้เขามีความแตกต่างจากนักธุรกิจคนอื่นในช่วงวัยใกล้เคียงกันเป็นอย่างมาก

สิ่งเหล่านี้ได้ส่งผลให้ในระยะเวลาเพียงไม่กี่ปีชื่อของเขาได้กลายเป็นอีกหนึ่งนักธุรกิจหนุ่มผู้ประสบความสำเร็จที่โดดเด่นและน่าจับตามองเป็นอย่างมากคนหนึ่งที่ไม่เพียงได้รับการยอมรับจากพันธมิตรแวดวงนักธุรกิจ

เพราะทางด้านเทคโนโลยีชายหนุ่มก็สามารถพัฒนาระบบความมั่นคงของรัฐให้มีความเสถียรภาพมากขึ้นจนกลายเป็นแม่แบบโปรแกรมจนถูกนำไปใช้กันอย่างแพร่หลาย รวมไปถึงผลงานในด้านต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์อย่างมหาศาลต่อผู้คนหลายล้านชีวิตล้วนได้สร้างชื่อเสียงของเขาให้เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้นหลายเท่า

นอกจากนั้นแล้วนทียังเป็นชายหนุ่มที่มีรูปลักษณ์น่าดึงดูดและมีเสน่ห์เป็นอย่างมาก ร่างกายสูงโปร่งสวมชุดสูทตัดเย็บอย่างดีเน้นให้เห็นรูปร่างท่าทางที่แสดงออกถึงความมั่นใจ ดวงตาเฉียบคมสะท้อนถึงความฉลาดและความมุ่งมั่น ใบหน้าหล่อเหลาประดับไปด้วยรอยยิ้มที่อบอุ่นน่าดึงดูด ด้วยบุคลิกที่เปี่ยมล้นไปด้วยเสน่ห์นี้จึงได้สร้างความประทับใจไม่รู้ลืมแก่ผู้พบเห็นไม่ว่าจะไปที่ไหนก็ตาม ถือได้ว่าอีกฝ่ายเป็นชายหนุ่มในฝันของสาวน้อยใหญ่คงไม่เกินจริงไปนัก

อัตชีวประวัติที่ได้รับการเปิดเผยมีการระบุเอาไว้คร่าว ๆ ว่า นที พัชรวงศ์เศวต เป็นเด็กกำพร้าที่เติบโตมาด้วยความยากลำบาก หลังจากอีกฝ่ายเรียนจบก็ได้ผันตัวมาเป็นนักธุรกิจหนุ่มที่ประสบความสำเร็จแต่อายุสิบแปดปี นับว่าเป็นก้าวแรกที่ทำให้ทุกคนต่างรู้จักเขาคงไม่เกินจริงไปนัก

ส่วนหนึ่งของบทสัมภาษณ์ที่ปรากฏอยู่ในสื่อได้ถูกนำเสนออย่างแพร่หลายเกี่ยวกับมูลนิธิต่าง ๆ ที่ชายหนุ่มได้ยื่นมือเข้าช่วยเหลือ ถ้อยคำที่ถูกถ่ายทอดได้กล่าวเน้นย้ำไว้ว่าการทำบุญไม่ใช่เพียงแค่การบริจาคเงินแต่ยังเกี่ยวกับการสละเวลาและการดูแลเอาใจใส่ เขาไม่เพียงแต่เป็นแรงบันดาลใจให้ผู้อื่นรู้จักการทำบุญเท่านั้น แต่ยังได้จุดประกายให้ทุกคนรู้จักการให้โดยไม่หวังผลอีกด้วย

สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ทุกอย่างมันดูสมบูรณ์แบบเกินไปในความรู้สึกของเขา ในทางกลับกันเบื้องหลังของนทีได้มีอีกตัวตนหนึ่งที่ตรงกันข้าม นั่นคือการเป็นนักฆ่าเงาไร้สังกัดไม่มีใครล่วงรู้ตัวตนที่แท้จริง ผู้รักในความอิสระและเลือกรับงานเฉพาะที่พอใจหรืออยากเล่นสนุกเท่านั้น

แม้จะขึ้นชื่อว่านักฆ่าอาจดูเหมือนไม่มีศีลธรรมเท่าไหร่ แต่ความจริงแล้วงานที่ชายหนุ่มเลือกรับมา เป้าหมายคือคนที่ชั่วจริง ๆ หรือคนทำร้ายผู้บริสุทธิ์รวมถึงการซื้อขายสิ่งเสพติด แต่ละภารกิจของเขาได้ทิ้งร่องรอยแห่งความลึกลับและความกลัวฝังไว้ในใจของคนพวกนั้นเอาไว้เป็นอย่างมากและไม่เคยมีคำว่าพลาดเลยซักครั้งหากเขาได้เลือกลงมือ

นอกจากค่าจ้างในแต่ละงานเขาจะสูงแล้วค่าหัวของเขาก็สูงเช่นกัน ว่าไปเถอะใครใช้ให้งานของเขาไปขัดแข้งขาพวกมีอำนาจมืดเหล่านั้น หลังจากที่นทีได้โลดแล่นอยู่ในวงการนักธุรกิจและนักฆ่ามาหลายปี

ชีวิตในทุกวันให้ความรู้สึกน่าเบื่อหน่ายเกินไปรวมไปถึงการสวมหน้ากากเข้าสังคมเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงได้ยาก ดังนั้นชายหนุ่มจึงค่อย ๆ ลดบทบาทของตัวเองและด้วยการวางแผนที่ดีเยี่ยมจึงไม่มีใครสังเกตได้เลยว่านักธุรกิจหนุ่มที่มีชื่อเสียงในระยะหลังมานี้แทบไม่ปรากฎตัวต่อหน้าสื่อเสียด้วยซ้ำ

ความจริงแล้วนทียังมีอีกความลับหนึ่งที่เป็นดั่งพรสวรรค์ที่ได้รับมาราวกับถูกลิขิตไว้ นอกจากร่างกายของเขาจะมีความแข็งแกร่งและความว่องไวด้วยสมรรถภาพเหนือชั้นกว่าคนธรรมดาทั่วไปอย่างก้าวกระโดดและมีประสาทสัมผัสทั้งห้าที่เหนือชั้นเฉียบคมเป็นอย่างมากแล้ว

หลายครั้งที่ชายหนุ่มมักจะเห็นภาพของเหตุการณ์ล่วงหน้าที่จะเกิดขึ้น สิ่งนี้จึงทำให้เขาสามารถตั้งรับจัดการได้อย่างทันท่วงที ทักษะความพิเศษนี้เขารู้ตัวมาตั้งแต่ยังเด็กจำความได้ ดังนั้นชายหนุ่มจึงฝึกฝนพรสวรรค์นี้เป็นเวลายาวนานหลายปีจนเกิดความคุ้นชินและสามารถเรียกใช้ได้ตามใจนึก จนถึงขั้นที่ว่าเขาสามารถสะกดจิตผู้ที่มองตาอีกฝ่ายเพียงเสี้ยวนาทีหรือสามารถสร้างภาพหลอนให้กับฝ่ายตรงข้ามที่เขาต้องการได้อย่างง่ายดาย...

วันสุดท้ายของปีแน่นอนว่าทุกคนย่อมภาวนาเป็นสิ่งเดียวกันว่าขอให้ทุกอย่างเป็นไปด้วยความราบรื่น เสียงแจ้งเตือนจากสมาร์ทโฟนชื่อดังทำให้รู้ว่าผู้ที่ติดต่อเข้ามาคือ แทนไท เพื่อนสนิทที่ไม่ได้เจอนานนับปีได้ส่งข้อความนัดเจอที่ร้านอาหารสุดหรูย่านใจกลางเมืองร้านหนึ่ง นทีที่ช่วงนี้รู้สึกว่าตัวเองมีเวลาว่างมากเป็นพิเศษจึงตกลงพร้อมกับเดินทางไปยังร้านดังกล่าวเนื่องจากใกล้เวลานัดหมายแล้ว

เมื่อมาถึงแล้วบรรยากาศในห้องอาหารส่วนตัวนี้เป็นไปอย่างราบรื่น อาหารและเครื่องดื่มล้วนเป็นที่พอใจเป็นอย่างมาก แม้จะไร้ซึ่งบทสนทนามากมายตามที่ควรจะเป็นตามประสาเพื่อนสนิทที่พึ่งได้มาเจอกันในรอบปี แต่นั่นไม่ได้ทำให้เกิดความอึดอัดกับพวกเขาทั้งสองคนแต่อย่างใดคล้ายกับว่าต่างฝ่ายต่างคุ้นชินกันเสียอย่างนั้น

ดูเหมือนว่าทุกอย่างจะเป็นไปตามปกติก็จริง แต่กับนทีที่เคยเห็นภาพตรงหน้านี้นับครั้งไม่ถ้วนด้วยความสามารถพิเศษในการรับรู้เหตุการณ์ล่วงหน้าในตลอดหลายเดือนมานี้ แม้จะคาดหวังบางอย่างอยู่ในใจลึก ๆ แต่คล้ายกับว่าคำขอจะไม่สัมฤทธิ์ผลเสียแล้ว

ร่างกายของเขาไร้ซึ่งเรี่ยวแรงไปโดยเฉียบพลันโดยที่ไม่ต้องสงสัยว่าสิ่งนี้คืออาการของคนที่โดนวางยาอย่างรุนแรง ดูเหมือนอีกฝ่ายจะรู้ว่าร่างกายของเขามีความแข็งแรงกว่าคนทั่วไปเพราะต้องใช้ปริมาณของยาที่เพิ่มขึ้นหลายเท่าเขาจึงจะมีอาการแบบนี้ได้

“แน่ใจแล้วใช่ไหม?”

“…”

“เข้าใจแล้ว...ขอบคุณสำหรับทุกอย่างที่ผ่านมานะ”

“...”

ปัง!

เสียงของลูกกระสุนพุ่งเข้าตัดขั้วหัวใจอย่างแม่นยำพร้อมกับความรู้สึกเจ็บแปลบกลางหน้าอก ดวงตาคู่สวยเบิกตากว้างก่อนจะปิดลงคล้ายกับยอมรับสิ่งนี้ด้วยความยินดี

เสี้ยววินาทีนั้นยอมรับว่าไม่เข้าใจสักนิดว่าเขาได้ทำผิดพลาดหรือไม่ดีกับอีกฝ่ายตรงไหนกัน แทนไทถือเป็นข้อยกเว้นแทบทุกอย่างเสียด้วยซ้ำภายใต้เงื่อนไขความพิเศษนี้ที่อีกฝ่ายได้รับเป็นเพราะว่าตัวของนทีแอบชอบแทนไทเพื่อนสนิทคนนี้ แต่เขาได้เก็บเป็นความลับไม่กล้าบอกให้อีกฝ่ายได้รับรู้เพราะกลัวว่าความสัมพันธ์ที่เคยมีจะสิ้นสุดลงไม่เหลือแม้กระทั่งคำว่าเพื่อนที่รู้จักกันมานับสิบกว่าปี...

ใช่แล้ว...นทีเป็นไบ รสนิยมส่วนตัวของเขาได้ทั้งผู้หญิงหรือผู้ชายไม่แบ่งแยกและแอบชอบแทนไทเพื่อนสนิทคนนี้แต่ก็ทำได้แค่เก็บเป็นความลับไม่กล้าบอกให้อีกฝ่ายรู้ เพราะกลัวว่าทุกอย่างจะพังจนไม่เหลือแม้กระทั่งคำว่าคนรู้จัก จนเมื่อนทีได้ทบทวนตัวเองอย่างถี่ถ้วนในความรู้สึกเป็นอย่างดีแล้ว ประกอบกับได้ห่างกับอีกฝ่ายไปหลายปีจนคิดได้ว่าความรู้สึกที่มีเป็นของจริงสมควรแก่เวลาที่จะบอกเสียที

สำหรับคำตอบที่ได้จะเป็นอย่างไรเขาก็พร้อมยอมรับไม่เรียกร้องสิ่งใดทั้งสิ้น เเต่แทนที่จะได้สารภาพรักกลายเป็นว่ากลับถูกอีกฝ่ายยิงเข้าอย่างจัง มือของเขาล้วงเข้าไปสัมผัสแหวนเงินจากอกเสื้อพร้อมการ์ดที่เขียนความรู้สึกลงไป มันอาจจะดูแปลก ๆ เพราะทั้งที่เทคโนโลยีก้าวหน้าไปถึงไหนแล้วแต่นทีกลับเลือกที่จะเขียนการ์ดบอกความรู้สึกแทน เพราะมันดูคลาสิคโรแมนติกไม่น้อยในความรู้สึกของเขา

ความจริงแล้วนทีสามารถเปลี่ยนสถานการณ์นี้ไม่ให้เกิดขึ้นได้อย่างง่ายดาย เพราะความสามารถพิเศษของเขาในตอนนี้ถึงขั้นที่ว่าสามารถหยุดการเคลื่อนไหวของสิ่งมีชีวิตหรือสิ่งของได้ในระยะเวลาสั้น ๆ แต่แล้วอย่างไรกันเพราะในตอนนี้ร่างกายเริ่มไม่รับรู้อะไรแล้ว

สิ่งสุดท้ายที่มองเห็นเพียงเลือนลางคือใบหน้าของแทนไทเพื่อนที่เขาแอบรัก ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะเสียใจไหม แต่จากสายตาเย็นชาของอีกฝ่ายที่มองมาอย่างไร้ความรู้สึกราวกับว่าความสัมพันธ์ของพวกเขาทั้งสองที่ผ่านมาไร้ซึ่งความหมายใด

ก่อนที่สติของนทีค่อย ๆ ดับลง ภาพของความทรงจำตลอดอายุ25ปีที่ผ่านมาได้ปรากฏขึ้นอย่างแจ่มชัด ความยากลำบากตั้งแต่ยังเด็กในฐานะของเด็กกำพร้าที่ต้องดิ้นรนเอาชีวิตรอด เส้นทางความรุ่งโรจน์ในฐานะของชายหนุ่มอัจฉริยะหรือนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จมีชื่อเสียง

การสิ้นสุดของความสัมพันธ์ที่เขาเฝ้าภาวนาให้ไม่เกิดขึ้นอย่างเช่นวันนี้ น่าเสียดายที่แผนการใช้ชีวิตอย่างสงบสุขที่วางไว้คงไม่ได้ทำตามเสียแล้ว สัญญาว่าหากได้เกิดใหม่อีกครั้งเขาจะใช้ชีวิตของตัวเองให้เต็มที่ สำหรับเรื่องของความรักเขาคงไม่คาดหวังและไม่ต้องการอีกแล้วหลังจากนี้...

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • บุปผากลางใจจอมจักรพรรดิ   ( -จบเล่ม ปฐมบท 3.2- ) บทที่ 174 ความวุ่นวายที่สิ้นสุดลง

    ความกังวลแผ่ซ่านไปทั่วหัวใจของทุกคนขณะที่พวกเขาเฝ้าดูการเผชิญหน้ากับอสูรมารจางหมิ่นที่เทียบเท่ากับราชทินนามเทพสวรรค์วิญญาณขั้นสูง พวกเขารู้ดีว่าผู้อาวุโสหนุ่มผู้นี้เป็นราชทินนามเทพยุทธ์วิญญาณที่แข็งแกร่งและมีพรสวรรค์ แต่อย่างไรคู่ต่อสู้ของเขานั้นก็ทรงพลังอย่างหาที่เปรียบมิได้เช่นกัน ยามนี้จางหมิ่นในสภาพอสูรมารนั้นมีพละกำลังมหาศาลมีความเร็วที่เหลือเชื่อและความสามารถในการฟื้นฟูที่น่าทึ่งทั้งยังสามารถทนทานต่อการโจมตีได้อย่างไม่เพลี่ยงพล้ำ และการโจมตีของเขานั้นรุนแรงพอที่จะสังหารราชทินนามเทพยุทธ์วิญญาณที่อ่อนด้อยได้อย่างไม่ยากนักแม้จะต้องเผชิญกับอสูรมารที่มีความแข็งแกร่งเทียบเท่ากับราชทินนามเทพสวรรค์วิญญาณขั้นสูงแต่หนิงอ้ายกลับไร้ซึ่งความหวาดหลัวแต่อย่างใด สิ่งนี้กลับชวนให้เขาหวนคิดไปถึงช่วงเวลาที่ได้ใช้ชีวิตอยู่ในเมืองแห่งการสังหารในครั้งนั้น แก่นแท้แห่งการต่อสู้ จิตสังหารที่ดิบเถือนบ้าคลั่งที่เคยสะกดไว้คล้ายกำลังถูกปลุกขึ้นโดยที่ไม่ต้องร้องขอกลิ่นอายอหังการที่แข็งแกร่งไม่ธรรมดาของราชทินนามเทพยุทธ์วิญญาณขั้นกลางที่มีรากฐานบ่มเพาะลึกล้ำชวนให้ผู้ที่เคยกังขาถึงความเป็นมาและความสามารถของผู

  • บุปผากลางใจจอมจักรพรรดิ   บทที่ 173 สมบัติเทพมารจุติ

    ท่ามกลางความมืดมิดแห่งอนธการที่ได้ปกคลุมทั่วทั้งสนามประลอง บริเวณโดยรอบต่างอัดแน่นไปด้วยความชั่วร้ายและความสิ้นหวัง ม่านพลังพิสดารสายนี้ส่องประกายสีดำม่วงเข้มประกายริ้วคลื่นแผ่กระจายทั้งยังก่อตัวเป็นกำแพงหนาที่ไม่อาจมองทะลุผ่านได้ มากไปกว่านั้นม่านพลังผืนนี้ยังดูดกลืนพลังปราณฟ้าดินโดยรอบเข้ามาเสริมแกร่งอีกด้วย แม้ว่าบรรดาผู้อาวุโสหลายคนจะพยายามโจมตีหรือใช้สมบัติวิเศษเข้าขัดขวางการทำงานแต่ก็ไร้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการได้"สมบัติเทพมารจุติอย่างนั้นรึ? เป็นไปได้อย่างไรกัน!!!" กุ้ยเจินหรือเจ้าตำหนักศาสตร์แห่งค่ายกลเอ่ยด้วยน้ำเสียงประหลาดใจ ไม่คิดว่าจางหมิ่นที่เป็นผู้ขายวิญญาณนั้นจะครอบครองสมบัติมารระดับสูงเช่นนี้ได้"มันคือสิ่งใดกันสมบัติเทพมารจุติที่เจ้าเอ่ยถึง..." รุ่ยเหอผู้เป็นรองเจ้าสำนักศึกษาและเจ้าตำหนักศาสตร์แห่งการต่อสู้เอ่ยถามด้วยความสงสัย"สมบัติเทพมารจุติเป็นที่เล่าขานกล่าวกันว่าเป็นสมบัติล้ำค่าที่เกิดจากการหลอมรวมพลังของเทพและมารเข้าด้วยกันจึงทำให้สมบัติวิเศษชิ้นนี้มีพลังอำนาจมหาศาลสามารถบันดาลสิ่งที่ปรารถนาได้ทุกประการ โดยเชื่อกันว่าเมื่อครั้งอดีตกาลมีมหาเทพเทพสองตนที่ทรงพลังยิ่ง

  • บุปผากลางใจจอมจักรพรรดิ   บทที่ 172 การปรากฎตัวของผู้ขายวิญญาณ

    คราแรกที่ลู่ซีได้ยินว่าศิษย์ใหม่นามว่าจางหมิ่นนั้นเอ่ยวาจาส่อเสียดหนิงอ้ายเขาก็รู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมาก เขารู้ดีว่าหนิงอ้ายไม่ได้ปรากฎตัวในสำนักนับเป็นเวลาสิบปีแล้วจึงไม่มีผู้ใดคุ้นเคยหรือพบเห็นหน้ามาก่อน ยิ่งการกลับมาครั้งนี้รูปลักษณ์ของเขานั้นเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงเสียด้วยซ้ำ อีกทั้งหนิงอ้ายยังเป็นผู้ร้องขอว่ายามนี้ควรปกปิดตัวตนของเขาไปเสียก่อน ด้วยเพราะไม่ล่วงรู้ว่าบรรดาศิษย์ใหม่ที่ผ่านการทดสอบในปีนี้ได้มีผู้ฝึกตนรุ่นเยาว์ที่เป็นสายข่าวของเผ่าพันธ์มารปีศาจที่ถูกส่งตัวมาหรือไม่ แม้ความลับนี้อาจจะเก็บไว้ได้ไม่นานแต่อย่างน้อยท่ามกลางการทดสอบฝีมือเพื่อคัดเลือกเข้าตำหนักนี้ย่อมสามารถสังเกตุอาการพิรุจผิดปกติจากที่ควรจะเป็นได้“ป้ายหยกชั่วคราวลำดับที่เจ็ด ข้าต้องการประลองกับผู้อาวุโสท่านนั้นขอรับ!!” เสียงของศิษย์ใหม่คนหนึ่งดังขึ้นเรียกความสนใจจากบรรดาศิษย์สืบทอดและศิษย์หลักของตำหนักทั้งสี่ที่ยืนเรียงอยู่ด้านหน้าเพื่อรอเข้าทดสอบเป็นคู่ประลองกับเหล่าศิษย์ใหม่ แม้คำกล่าวนี้จะไม่ได้เอ่ยชื่อแต่ทุกคนในที่นี้ย่อมกระจ่างใจดีว่าถ้อยคำนี้เจาะจงถึงผู้ใด“กฎเกณฑ์เงื่อนไขในการทดสอบคัดเลือกเข้าสังกัดต

  • บุปผากลางใจจอมจักรพรรดิ   บทที่ 171 ผู้ท้าทายที่กล้าหาญ

    การทดสอบศิษย์ใหม่ในปีนี้ที่มีการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขกฎเกณฑ์การทดสอบกล่าวว่าเป็นที่น่าตื่นเต้นอยู่ไม่น้อย บรรดารุ่นเยาว์ชายหญิงเหล่านี้ต่างตั้งตารอที่จะได้ประลองกับศิษย์ผู้สืบทอดหรือศิษย์หลักของตำหนักทั้งสี่ด้วยความมุ่งมั่นอย่างเต็มเปี่ยม พวกเขารู้ดีว่าการประลองครั้งนี้จะเป็นโอกาสอันดีที่จะได้แสดงความสามารถของตนเองและพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่าพวกเขาคู่ควรที่จะเป็นส่วนหนึ่งของสำนักศึกษาแห่งนี้ แม้ไม่รู้ว่าผลลัพธ์ของการทดสอบจะออกมายอดเยี่ยมมากเพียงใดแต่สิ่งหนึ่งที่คาดเดาได้นั่นคือการประลองครั้งนี้จะต้องเต็มไปด้วยความตื่นเต้นและความท้าทายอย่างแน่นอนศิษย์ใหม่ประจำปีการศึกษาจำนวนห้าคนแรกที่ต้องทำการประลองแสดงฝีมือนั้นถึงกับตกตะลึงไปชั่วขณะยามที่ได้ยินเสียงเรียกหมายเลขของป้ายหยกที่พวกเขาถือครองอยู่ ด้วยเพราะไม่เตรียมใจว่าจะได้ลงทดสอบรวดเร็วถึงเพียงนี้ จากนั้นบรรดาสหายและผู้ที่อยู่ใกล้เคียงต่างได้เข้าไปอวยพรให้พวกเขาทำให้ดีที่สุด จากนั้นพวกเขาจึงได้ก้าวเท้ามุ่งตรงไปยังลานประลองที่มีศิษย์สืบทอดและศิษย์หลักทั้งสี่ที่ยืนเรียงเฝ้ารอคอยว่าพวกเขานั้นจะเลือกใครในการทดสอบความสามารถครั้งนี้แน่นอนว่าศิษย์

  • บุปผากลางใจจอมจักรพรรดิ   บทที่ 170 กฎเกณฑ์ที่เปลี่ยนแปลงไป

    หนิงอ้ายได้เล่าถึงเรื่องราวเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในหมู่บ้านไท่หลุนเมื่อสิบปีก่อนอย่างละเอียด ทุกคนในสำนักศึกษาต่างตั้งใจฟังด้วยความสนใจและตกใจไปกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น พวกเขาไม่เคยรู้มาก่อนว่าเผ่าพันธุ์มารปีศาจได้วางแผนการชั่วร้ายเช่นนี้มานานหลายปีเช่นนี้ ยิ่งเมื่อหนิงอ้ายเล่าถึงแผนการลับของเผ่าพันธุ์มารปีศาจที่ได้ยินแม่ทัพมารเอ่ยถึงในครั้งนั้น บางเหตุการณ์ก็ตรงกับข้อมูลที่หน่วยสืบข่าวของสำนักศึกษาสืบค้นได้เจ้าสำนักและผู้อาวุโสคนอื่นๆ ต่างก็กังวลใจเป็นอย่างมาก พวกเขารู้ดีว่าหากเผ่าพันธุ์มารปีศาจประสบความสำเร็จในแผนการแล้ว โลกยุทธภพแห่งนี้คงจะต้องเผชิญกับหายนะครั้งใหญ่โดยไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ อย่างไรก็ตามทุกคนต่างชื่นชมในความกล้าหาญและความเสียสละของชายหนุ่มตรงหน้า เหตุการณ์ครั้งนั้นได้ส่งผลให้หนิงอ้ายกลายเป็นวีรบุรุษและถูกเลื่อนระดับเป็นผู้อาวุโสสายในของสำนักศึกษาด้วยความเห็นชอบจากเจ้าสำนัก รองเจ้าสำนัก เจ้าตำหนักทั้งสี่รวมไปถึงบรรดาผู้อาวุโสต่าง ๆ ล้วนเห็นด้วยทั้งสิ้นจากนั้นหนิงอ้ายได้เล่าถึงเรื่องราวการหวนคืนกลับมามีกายเนื้อนี้อีกครั้งให้ทุกคนได้รับรู้แต่ก็ปกปิดบางส่วนที่เขาคิดว่าสมควร

  • บุปผากลางใจจอมจักรพรรดิ   บทที่ 169 ผู้ผ่านการทดสอบ

    ท่ามกลางหุบเขาน้อยใหญ่สูงเสียดฟ้าที่ถูกปกคลุมด้วยหมอกหนาและหิมะสีขาวบริสุทธิ์โปรยปรายอันเป็นลักษณะภูมิศาสตร์ที่โดดเด่นของสำนักศึกษาเหมันต์พันตะศักดิ์สิทธิ์ บรรดาอาคารสิ่งก่อสร้างในสำนักศึกษาต่างถูกตกแต่งอย่างวิจิตรบรรจงรวมไปถึงพื้นที่โดยรอบต่างประดับประดาด้วยโคมไฟเวทย์หลากสีสันที่ส่องสว่างไสวให้ความรู้สึกอลังการเพื่อเป็นการต้อนรับเหล่าบรรดาผู้ฝึกตนรุ่นเยาว์จากทั่วทุกสารทิศที่หลั่งไหลเข้ามาร่วมการทดสอบพร้อมกับความหวังและความฝันที่จะก้าวเข้าเป็นส่วนหนึ่งของสำนักศึกษาอันทรงเกียรติแห่งนี้ซุ้มประตูสำนักที่ถูกสร้างขึ้นจากแร่ผลึกอัมพรสวรรค์เก้าชั้นฟ้าอันเป็นวัสดุสินแร่หายากในยุทธภพนี้ได้ถูกแกะสลักอย่างวิจิตรบรรจงได้เปิดออกกว้างเพื่อต้อนรับผู้มาเยือนที่หลังจากนี้ย่อมกลายเป็นส่วนหนึ่งเดียวกันโดยมีผู้อาวุโสและศิษย์รุ่นพี่ที่ยืนคอยต้อนรับด้วยรอยยิ้มอันอบอุ่น เมื่อการทดสอบสิ้นสุดลงบรรดาศิษย์ใหม่ที่พึ่งผ่านการทดสอบต่างก้าวเดินเข้ามาด้วยความตื่นเต้นและเต็มเปี่ยมไปด้วยความประหม่าหลังจากบรรดาผู้ผ่านการทดสอบทั้งหมดได้เข้ามาโดยพร้อมเพรียงแล้ว บริเวณลานกว้างหน้าสำนักศึกษายามนี้ต่างคลาคล่ำไปด้วยผู้ฝึกต

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status