กลิ่นสดชื่นจากน้ำหอมปรับอากาศภายในรถยนต์ทำให้หญิงสาวรู้สึกผ่อนคลายหลังจากผ่านเรื่องเลวร้ายมา ดวงตากลมโตเหลือบมองหน้าจอ GPS ที่กำลังนำทางไปที่คอนโดมิเนียมหรูของตนเองอย่างแม่นยำ ทำให้เกิดความสงสัยขึ้นในใจ
รู้จักที่อยู่เธอได้ยังไงกัน
ใบหน้าสวยเงยหน้ามองชายในชุดสูทสีดำสนิททั้งตัวอย่างประหม่า ใบหน้าที่กำลังมองไปยังท้องถนนถูกปิดด้วยหน้ากากผ้าสีดำ ทำให้ไม่สามารถมองเห็นตั้งแต่ช่วงสันจมูกลงมา ยิ่งทำให้คาดคะเนอายุไม่ถูก
นอกจากส่วนของหน้าผาก ดวงตาสีนิล และลำคอที่ไร้ริ้วรอย คนสวยยังแอบสำรวจส่วนมือที่กำลังกำพวงมาลัยนั้นก็สวมถุงมือหนังสีดำโผล่มาเพียงปลายนิ้วเรียวเท่านั้น
ทำไมต้องใส่ถุงมือนะ...
เซนเองก็มีรอยสักที่หลังมือ...เป็นไปได้ไหมนะว่าคนๆ นี้คือเซน
ความคิดเรื่อยเปื่อยตีกันอยู่ในหัว รู้ตัวอีกทีรถก็ถูกจอดที่หน้าคอนโดหรูเสียแล้ว
"ขะ...ขอบคุณที่มาส่งนะคะ" ปลายนิ้วกดปลดเข็มขัดนิรภัย ทว่ายังไม่ได้เปิดประตูลงจากรถ
น่าสงสัย...
"คุณ...ใส่ถุงมือขับรถเหรอคะ" พูดจบก็อยากจะเอามือตีปากตัวเอง
ถามอะไรน่ะพริมโรส เขาจะใส่ไม่ใส่แล้วไปยุ่งอะไรกับเขาเล่า!
"อยากให้ถอด?"
เป็นครั้งแรกที่คนข้างๆ เบนสายตาหันมามองเธอ แม้จะมองไม่เห็นรอยยิ้มหยักหยันนั้น แต่แววตาที่ส่งออกมาบ่งบอกว่าเขากำลังแกล้งเธออยู่
"มะ ไม่ค่ะ ขอบคุณที่มาส่งอีกครั้ง"
ประตูรถยุโรปถูกเปิดออกโดยฝีมือคนตัวเล็ก และก่อนที่ประตูจะถูกปิดลง เธอได้ยินน้ำเสียงราบเรียบจากคนขับพูดออกมาด้วยประโยคที่ทำเอาไปไม่เป็น
"ชาโตว์ เปตรุส หนึ่งเก้าแปดสอง อย่าลืมนะ"
นักศึกษาสาวยืนนิ่งมองรถยนต์คันนั้นค่อยๆแล่นหายออกไปจากบริเวณคอนโดมิเนียม สมองหนักอึ้งเมื่อได้ยินสิ่งที่เขาเพิ่งพูดออกมา
ไอ้ชาโตว์ เปตรุส บ้าอะไรนั่นไม่รู้จักเลยสักนิด แต่เลข 1982 น่ะมันคือเลขของที่เซนขอเป็นรางวัลตอบแทนไม่ใช่หรือไง
โดนเห็นหน้าซะแล้ว ยัยพริมโรส!!
เจ้าของห้องเดินออกมานั่งที่หน้าคอมพิวเตอร์หาข้อมูลหา
ชาโตว์ เปตรุส 1982 จากอินเทอร์เน็ตก็พอได้ข้อมูลคร่าวๆ ว่ามันคือไวน์ขวดละสามแสน คนที่ไม่ใช่คอไวน์อย่างเธอไม่มีทางเข้าใจ ว่าทำต้องยอมจ่ายเงินราคาสูงขนาดนี้เพื่อดื่มไวน์ไม่กี่แก้ว
ซื้อมาก็ไม่ใช่ว่าจะเก็บรักษาเป็น ใส่ตู้เย็นเหมือนเบียร์กระป๋องได้หรือเปล่านะ ระหว่างข้อมูลที่ได้รับมากำลังตีกันอยู่ในหัว มุมขวาของจอก็แจ้งเตือนว่าเซนวิดีโอคอลเข้ามาอย่างทุกครั้ง
หญิงสาวใช้เวลาปรับกล้องให้อยู่ในตำแหน่งที่มองไม่เห็นใบหน้า แต่วันนี้ไม่ได้อยู่ในอารมณ์จะอวดเนื้อหนังมังสาให้ปลายทางเอาไปปลดปล่อยผ่านจินตนาการ จึงหมุนกล้องไปที่ตุ๊กตาแมวพันธุ์อเมริกันช็อตแฮร์ที่เป็นตัวละครในอนิเมะดังแทน
(หึ ทำอะไรเนี่ย หันกล้องดีๆ)
น้ำเสียงกลั้วหัวเราะของอีกฝ่ายบ่งบอกว่าเขาขบขันกับพฤติกรรมของเธอ พริมโรสได้ยินเสียงเอี๊ยดอ๊าดของเก้าอี้จากอีกฝั่งพร้อมๆ กับเสียงหัวเราะนั้นด้วย
หัวเราะจนเก้าอี้สั่น?
“ห้ามขำนะ ทำไมต้องแกล้งโรสด้วย”
บอกว่าไม่ต้องมาด้วยตัวเอง ก็ยังจะดื้อด้านมา
(จะให้นั่งใจเย็น ทั้งที่ได้ยินเสียงเธอกรี๊ดไม่หยุด?)
“...”
(จะอายอะไร...ก็สวยขนาดนั้น)
คำชมด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาออกมาจากคนในจอ ทำให้ใบหน้าหวานรู้สึกร้อนผ่าวอย่างไร้สาเหตุ
“ชมเหรอ”
(เปล่า พูดตามมารยาท)
“นี่!”
กวนประสาทนัก!
เข่นเขี้ยวเขาอยู่ในใจไม่น้อย ดูเอาเถอะ บางทีก็เซ็กซี่จนหัวใจจะวาย บทจากปากร้าย ก็ร้ายจนอยากตะกุยหน้าให้เสียโฉม
(ดีขึ้นแล้วใช่ไหม?)
จู่ๆ ก็เปลี่ยนโหมดมาคุยด้วยน้ำเสียงอบอุ่นเสียอย่างนั้น ตามอารมณ์เขาไม่ทันจริงๆ
“ก็...ยังตกใจอยู่นิดหน่อยค่ะ” อ้อมแอ้มตอบออกมาอย่างไม่โกหก จะบอกว่าไม่ตกใจเลยก็คงไม่ได้ “คุณจับพวกนั้นส่งตำรวจ สน. ไหน โรสจะได้ตามไปแจ้งความ”
(ไม่ได้ส่งตำรวจ)
ตอบสั้นๆ เหมือนกับไม่อยากพูดถึง ไม่สิ ไม่อยากให้เธอรับรู้มากกว่า
เธอจ้องมองไปที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ ที่กำลังฉายภาพร่างกำยำสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวปลดกระดุมเม็ดบนจนเห็นแผงอกกว้าง
พริมโรสถอนหายใจออกมา ก่อนจะปรับเลนส์กล้องให้ส่องมาที่ใบหน้าตนเองเพื่อคุยกันอย่างตรงไปตรงมา
ไหนๆ เขาก็เห็นหน้าเธอแล้วนี่ มีอะไรให้ต้องกังวลอีก
(ยอมให้เห็นหน้าง่ายๆ เลยนะ)
“ก็คุณขี้โกงก่อน”
หญิงสาวเผลอแสดงใบหน้ายามงอนออกมาอย่างไม่ได้ตั้งใจ แก้มป่องๆ เจือรอยแดงจากเลือดฝาดลามจนถึงจมูกเชิดรั้น ทำให้ปลายสายยิ้มออกมาอย่างพึงพอใจ
“มาคุยกันดีๆ ค่ะ” คนสวยเอนหลังพิงเก้าอี้ สูดลมหายใจเข้าปอดเรียกสติ “คุณทำอะไรกับคนพวกนั้นคะ”
นักธุรกิจหนุ่มยังคงตั้งกล้องโฟกัสที่ช่วงลำตัว ไม่ยอมให้เธอเห็นหน้า เขาขยับกายเปลี่ยนอริยบถเป็นนั่งไขว้ห้าง กอดอกเอนหลังกับเก้าอี้ท่าเดียวกัน แล้วเริ่มพูดในสิ่งที่น่าเหลือเชื่อ
(แค่จับมันไปถามว่าใครส่งมันมา)
“ไม่ใช่แก๊งชนแล้วรีดไถ เหมือนในข่าวที่ได้ยินบ่อยๆ เหรอคะ” ถามกลับด้วยความมึนงง
เขาหมายถึง...มีคนจงใจส่งคนมาทำร้ายเธองั้นเหรอ
(จริงๆ ก็รู้อยู่แล้ว ว่าใครส่งมา)
“...”
(ฉันจะจัดการทุกอยากให้เอง)
การรับปากว่าจะจัดการให้ โดยไม่ได้บอกวิธีการ ทำให้คนตัวเล็กกังวลใจขึ้นมา การที่เธอเห็นว่าลูกน้องของเซนใช้ปืนในที่สาธารณะวันนี้ มันบ่งบอกว่าเขาไม่ใช่แค่นักธุรกิจอย่างที่บอกเธอ
(กลัวฉัน?)
พริมโรสสะดุ้งตกใจ เมื่อนึกขึ้นได้ว่าเธอกำลังแสดงสีหน้าให้เขาเห็น ไม่ได้ปิดบังมันอย่างทุกครั้ง
“โรสควรกลัวคุณไหมคะ”
แน่ชัดอยู่แล้วว่าเขาไม่ใช่คนธรรมดา เขารู้ทุกอย่างเกี่ยวกับเธอตั้งแต่แรก ทั้งตำแหน่งปัจจุบัน ที่พัก หาเหตุผลอื่นไม่ได้เลยนอกจาก เซนส่งคนคอยสะกดรอยตามเธอ
(หยุดยาวไปไหนไหม)
“เดือนหน้าเหรอคะ...ไม่มีแพลนค่ะ”
(ไปเที่ยวสิงคโปร์สักอาทิตย์ไหม)
◂◂◂♡▸▸▸