Share

ตอนที่  9   สาวใช้คนใหม่

last update Huling Na-update: 2025-05-29 01:11:48

 

อันเมี่ยนตระหนกเล็กน้อยเพราะไม่คิดว่าจะถูกเลือก ในรายการที่ผู้ดูแลส่งมาให้ นางนับว่าวรยุทธ์ด้อยกว่าอีกสามคนมากนักเพราะฝึกยังไม่ทันสำเร็จก็ต้องลงจากเขามาก่อน แต่สำหรับเหรินซินเพียงแค่อันเมี่ยนที่มาจากสำนักไป๋ซานนั่นก็เพียงพอที่จะเลือกนางแล้ว

“คะ คุณหนูจากนี้ไปข้าน้อย…”

“ไม่ต้องคุกเข่าอย่าคำนับให้มากพิธี ข้าเป็นแค่คนธรรมดามิใช่ราชวงศ์อย่าวุ่นวายเลย”

“ขอบคุณเจ้าค่ะ”

ผู้ดูแลพาอีกสามคนเดินออกจากห้องไปตามคำสั่งของเหรินซิน อาเจิงมองพินิจพร้อม ๆ กับคุณหนู แต่เหรินซินดูเหมือนว่าจะมิได้มองคนอื่น ๆ เลยด้วยซ้ำ เมื่อเข้ามาถึงนางก็ตรงมาที่สตรีนางนี้เลยจนทำให้อาเจิงรู้สึกประหลาดใจ

“อันเมี่ยน ไหนเจ้าลองเล่าเรื่องเกี่ยวกับตัวเจ้ามาให้ข้าฟังสักหน่อยสิ ข้าต้องการรู้ว่าเจ้าเป็นใครมาจากไหน หวังว่าเจ้าจะไม่เริ่มต้นด้วยการโกหกนะเพราะว่าข้าต้องการคนที่ไว้ใจได้”

“เจ้าค่ะข้าน้อยจะไม่โกหกท่าน ข้าเป็นคนฉีอันและเคยร่ำเรียนอยู่สำนักไป๋ซาน”

“สำนักไป๋ซาน! นี่เจ้าเคยเรียนสำนักดาบและกระบี่อันดับหนึ่ง…”

“อาเจิง เจ้าเงียบก่อน... ว่าต่อสิ”

อันเมี่ยนก็ยังไม่ต่างไปจากเดิม นางเล่าทุกอย่างเกี่ยวกับตัวนางให้กงเหรินซินฟังโดยไม่ปิดบัง เหรินซินเองก็นั่งฟังอย่างตั้งใจเพราะหากว่าอันเมี่ยนโกหก นางก็จะรู้ได้ในทันทีเพราะอันเมี่ยนเคยเป็นศิษย์น้องของเยว่ชิงชิง

“หมายความว่าหลังจากมารดาของเจ้าตาย บิดาก็ยกอนุขึ้นเป็นใหญ่และจะบังคับให้เจ้าแต่งงานกับขุนนางแก่ที่มีเงินมาก เจ้าซึ่งเป็นบุตรของภรรยาเอกจึงมิได้รับความเป็นธรรมงั้นหรือ”

“เจ้าค่ะ ข้าเองก็มิได้ต้องการอยู่ที่นั่นดังนั้นจึงได้ตัดขาดจากครอบครัวและออกเดินทาง แม้ว่าอยากจะกลับขึ้นเขาก็เกรงว่าท่านพ่อจะตามหาข้าเจอ ก็เลยหนีมาที่เมืองหลวงเจ้าค่ะ”

'เพราะเหตุนี้นางจึงมิได้กลับไปที่ไป๋ซานสินะ'

“เจ้าอยากกลับไปร่ำเรียนที่สำนักไป๋ซานงั้นหรือ”

“ตอนนี้จะกลับหรือไม่ ก็ไร้ประโยชน์แล้วเจ้าค่ะ”

“ทำไมเล่า”

“ที่ข้าอยากกลับไปเพราะศิษย์พี่ชิงชิง แต่ตอนนี้นาง…”

หยดน้ำตาของอันเมี่ยนไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว เหรินซินรู้สึกสะเทือนใจเล็กน้อยราวกับมีเข็มเล่มเล็กมาทิ่มที่หัวใจนาง

“เกิดอะไรขึ้น ข้าอยากให้เจ้าเล่าแต่หากทำให้ลำบากใจ...”

“ไม่ลำบากเจ้าค่ะ หลังจากข้าลงจากเขาไม่นานก็ได้ข่าวว่าศิษย์พี่ฆ่าท่านอาจารย์ใหญ่แต่ข้าไม่มีทางเชื่อเด็ดขาด อาจารย์กับศิษย์พี่เป็นดุจบิดาและบุตร ข้าไม่มีทางเชื่อว่านางจะทำเรื่องเช่นนี้”

เหรินซินกำหมัดแน่นเพราะไม่คิดเลยว่าศิษย์น้องที่นางเคยพร่ำสอนและถูกนางดุมากที่สุด กลับเป็นคนเดียวที่เชื่อว่านางมิได้ฆ่าอาจารย์ ทั้ง ๆ ที่ “นิ่งเสี่ยวเหยา” ที่นางเอ็นดูมากกว่าจะเชื่อในสิ่งที่เห็นแต่ทว่า…

‘ศิษย์พี่ หากท่านมิได้ฆ่าอาจารย์ ท่านก็กลับไปกับพวกเราเพื่ออธิบายเถอะเจ้าค่ะ’

“เหตุใดเจ้าจึงไม่เชื่อว่าศิษย์พี่คนนั้นของเจ้าไม่ได้ทำเล่า เรื่องของสำนักไป๋ซานครั้งนั้นโด่งดังมาถึงเมืองหลวง”

“ไม่! ท่านไม่รู้จักศิษย์พี่ของข้า นางไม่ใช่คนเนรคุณคนต่อให้นางจะดุด่าข้าและเข้มงวดก็เพื่อให้พวกเราได้ดี นางรักอาจารย์ไม่ต่างกับบิดาข้าย่อมรู้ดีเพราะข้าอยู่ที่เขาไป๋ซานมากว่าสามปี หากจะบอกว่านางเป็นคนฆ่าต่อให้เอาเชือกมารัดคอข้าให้ตาย ข้าก็ไม่เชื่อว่าจะเป็นนาง ไม่มีทาง!!”

“อันเมี่ยน เจ้าตะคอกใส่คุณหนูข้าทำไม”

“เอ่อ ข้า...ขออภัย”

แต่สิ่งนั้นกลับทำให้เหรินซินแทบกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่ นางไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าศิษย์น้องนอกสายตา ที่ใช้เวลาพร่ำสอนมานานกว่าคนอื่นจะเป็นคนเดียวที่เชื่อว่านางมิได้ทำผิด ครั้งนี้นางจะไม่เลือกคนผิด

“เอาล่ะอันเมี่ยนวันนี้เจ้ากลับจวนไปกับข้าก่อน อาเจิงหลังจากนี้ฝากเจ้าดูแลเรื่องเสื้อผ้า อาหารและที่อยู่ให้นางด้วย”

“ได้เจ้าค่ะ อันเมี่ยนต่อไปข้าเรียกเจ้าว่าอาเมี่ยนได้หรือไม่เจ้าก็เรียกข้าว่าอาเจิง”

“ได้อาเจิง จากนี้ข้าขอฝากตัวด้วย หากว่ามีสิ่งใดที่ข้าทำผิดขอให้เจ้าช่วยชี้แนะด้วย”

“เอาล่ะไม่ต้องมากพิธี พวกเราสามคนมิได้เป็นนายบ่าว พวกเราอยู่กันอย่างครอบครัว จากนี้ข้าจะเป็นครอบครัวของเจ้า พวกเรากลับกันเถอะ”

อาเมี่ยนหันมาน้ำตานองอีกครั้งพร้อมกับคุกเข่าลง อาเจิงไม่ทันได้ห้ามนางแต่เหรินซินก็รีบดึงนางขึ้นมาอีกครั้ง

“อาเมี่ยน! ข้าบอกแล้วว่า…”

“คุณหนูเจ้าคะ จากนี้ไปข้าจะตั้งใจทำงานที่คุณหนูสั่ง จะยอมเป็นช้างม้าให้ท่านใช้ ข้าสาบานว่าจะซื่อสัตย์และภักดีกับคุณหนู”

“พอแล้วลุกขึ้นเถอะ ข้าบอกแล้วอย่างไรว่าพวกเราอยู่กันอย่างครอบครัว จากนี้ก็ค่อย ๆ เรียนรู้กับอาเจิง”

“เจ้าค่ะ”

ทั้งสามคนเดินออกมาจากโรงเตี๊ยมเพื่อจะกลับจวน แต่เหรินซินคิดว่าไหน ๆ ก็ออกมาแล้วจึงแวะไปที่ร้านผ้า เพื่อเลือกชุดใหม่สักสองสามชุดอีกทั้งยังเลือกให้สาวใช้ทั้งสองด้วย เมื่อได้ของครบก็เกือบเย็นจึงได้รีบออกมาแต่ก็พบว่าสายตาของคนในเมือง แม่ค้าและผู้คนเริ่มพูดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในวังหลวง

“นางน่ะหรือ เป็นเช่นนั้นจริงหรือ”

“ใช่ ๆ กล้าจะผลักน้องสาวท่านอ๋องตกสระน้ำในวังแล้วยังมีหน้ามาเดินตลาด หน้าไม่อายจริง ๆ”

“นางน่าจะตายไปเสียนะ แล้วยังลงโทษบุตรขุนนางใหญ่ให้จ่ายค่าทำขวัญเพราะอยากแก้แค้นอีก ช่างไร้คุณธรรม”

“คุณหนูเจ้าคะ รีบกลับจวนกันเถอะ…คุณหนู!!”

“อาเจิง เจ้าอยู่ที่นี่ข้าจะไปคุ้มกันคุณหนู”

“อาเมี่ยน เดี๋ยวก่อน”

กงเหรินซินไม่เพียงไม่หนีคำครหาแต่นางกลับเดินหน้าเข้าไปหาคนที่พยายามพูดเรื่องของนาง เมื่อเดินเข้าไปใกล้พวกที่กำลังนินทากันอย่างออกรสถึงกลับไม่กล้ามองนาง เพราะทั้งท่าทางและสายตาของเหรินซินทำให้พวกนางเริ่มกลัว

“หยุดทำไมเล่า ทำไมไม่พูดต่อล่ะข้าอยากฟังให้มากกว่านี้ พูดอีกสิ”

“ทะ ท่าน.. นี่ท่านจะมาข่มขู่ พะ พวกข้าหรือ”

“เหตุใดต้องกลัวด้วย เมื่อครู่ยังกล้าพูดให้ข้าได้ยินเลยมิใช่หรือ หากว่าเป็นเรื่องจริงพวกเจ้าจะกลัวทำไมกัน พูดสิ!!”

เสียงตวาดนั้นทำเอาคนที่นั่งนินทาอยู่ตกใจจนเกือบตกเก้าอี้ บางคนเริ่มลุกขึ้นและชี้หน้าด่านางแต่ก็กล้า ๆ กลัว ๆ

“ทะ ทะ ท่าน.. ท่านจะมาข่มขู่พวกข้าที่พูดความจริงงั้นหรือ ที่พวกข้าพูดล้วนเป็นความจริงเหตุใดจึงไม่กล้ายอมรับ”

“ชะ ใช่แล้ว เป็นถึงบุตรแม่ทัพใหญ่เลื่องชื่อแต่กลับทำเรื่องต่ำช้าเช่นนี้ยังจะกล้า...”

กงเหรินซินหันไปมองผู้ที่พูดด้วยสายตาดุดันเมื่อเดินเข้าไปหา นางมิได้เกรงกลัวคนเหล่านี้เลยสักนิด และไม่คิดจะถอยให้แม้แต่ก้าวเดียว คนนับสิบที่พูดนินทาว่าร้ายนางเมื่อครู่เริ่มถอยเพียงเพราะนางที่เดินเข้ามาหา

“ต่ำช้างั้นหรือ พวกเจ้าคิดดีแล้วใช่หรือไม่ที่จะให้ร้ายข้าด้วยเรื่องนี้”

สีหน้าของเหล่าแม่ค้าและสตรีปากตลาดเริ่มสั่น เมื่อเห็นว่าบุตรสาวขุนนางใหญ่ไม่เกรงกลัวแม้คำนินทาว่าร้าย อีกทั้งยังกล้าที่จะสู้กับพวกนาง

“พูดสิ พูดมาให้หมด”

“ผลัวะ!!”

“คุณหนู!!”

ผักกาดหัวใหญ่ถูกโยนมาที่ด้านข้าง แต่กงเหรินซินหันไปรับเอาไว้ได้ คนที่ปาออกมาถึงกับแอบกลืนน้ำลายเพราะไม่คิดว่านางจะรับได้ทัน เมื่อกวาดสายตาไปโดยรอบ เหรินซินจึงได้เห็นตัวต้นเหตุที่คอยพูดบางอย่างให้คนอื่น ๆ เริ่มหันมาต่อว่านาง และนางผู้นี้เป็นคนที่เหรินซินเห็นตั้งแต่ก่อนที่จะเดินเข้าไปในร้านตัดเสื้อ 

“พูดให้ร้ายไม่ได้ผลคิดจะใช้กำลังกับข้างั้นหรือ พวกเจ้ากระจอกถึงเพียงนี้ถึง เก่งแต่ปากเอาแต่พูดลับหลังคนอื่น คิดว่าคงอยากจะไปนอนเล่นที่คุกศาลาว่าการสินะ”

“ทะ ทะ ท่าน!! ท่านขู่พวกข้างั้นหรือ”

“อันเมี่ยน!! จับนางเอาไว้ คนที่อยู่หลังร้านขายผักชุดสีน้ำตาล!!”

“เจ้าค่ะ!!”

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Pinakabagong kabanata

  • บุปผางามข้ามเวลามาทวงแค้น   ตอนที่  17   เจ้าควรขอโทษนาง

    “แต่ว่า… ใคร ๆ ต่างก็คิดว่านางเป็นคนทำ จะมีผู้ใดที่เลวร้ายและมีนิสัยแย่แบบนางอีก ท่านพี่เองก็ทราบว่านางไม่ชอบหม่อมฉันเพราะว่าอยู่เคียงข้างท่านพี่ นางจึงอยากกำจัด”"แต่เจ้าจะเอาเรื่องนี้มาใส่ร้ายนางโดยไร้หลักฐานไม่ได้ ข้าสอบสวนนางมาแล้วหลายครั้ง ทุกครั้งกงเหรินซินยืนยันหนักแน่น อีกอย่างนางเองก็ตกน้ำไปกับเจ้าหากว่านางอยากจะเอาชีวิตเจ้าจริง ๆ เหตุใดต้องทำให้ตัวเองเกือบตายไปด้วยเล่า""แต่ว่านางมักจะกลั่นแกล้งข้าอยู่ตลอดท่านก็ทราบ ท่านจะบอกว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับนางอย่างนั้นหรือเพคะ"“เช่นนั้นเจ้าบอกข้ามาหน่อยว่าเหตุใด เรื่องที่เจ้าถูกขังไว้ที่ห้องเก็บฟืนในคืนไหว้พระจันทร์จึงใส่ความนาง ทั้ง ๆ ที่เรื่องนี้เป็นเรื่องที่พระสนมลี่ที่คิดจะแกล้งเจ้า”“หม่อมฉัน! … นี่พระองค์”“ข้ารู้มาว่าเจ้ากับพระสนมลี่เคยมีปัญหากันเพราะเรื่องการดีดพิณหน้าพระที่นั่ง ก่อนที่จะถูกกงเหรินซินกลั่นแกล้งวางกบย่างในจานอาหารในงานคล้ายวันเกิดของสนมลี่จนทำให้นางโกรธและคิดเอาคืนเจ้า แต่เหตุใดจึงไปโทษว่ากงเหรินซินเป็นผู้ขังเจ้าในห้องฟืนเพียงเพราะนางอยู่ในงานวันนั้นด้วย”“ระ เรื่องนี้ พระสนมอยู่ในวัง อีกทั้งมีพรรคพวกมากมายด

  • บุปผางามข้ามเวลามาทวงแค้น   ตอนที่  16   นางฝึกยุทธ์หรือ

    “ท่านอ๋อง! แต่ว่าก่อนหน้านั้นพระองค์เองก็ปักพระทัยเชื่อว่าเป็นนาง อีกอย่างคุณหนูซ่งก็บอกว่า...”“ข้าเฝ้าใคร่ครวญคิดแล้วคิดอีกจนกระทั่งได้ไปพบนางหลังจากเกิดเรื่องขึ้น ทุกครั้งจะปฏิเสธเสียงแข็ง สายตานั่นบอกข้าว่านางไม่ได้โกหก อีกอย่างครั้งก่อนนำยาต้านชวนไปให้ นางก็ปฏิเสธไปแล้วครั้งหนึ่งเห็นทีครั้งนี้… เป็นข้าที่เข้าใจนางผิดไปจริง ๆ”“หากว่าไม่ใช่นาง เช่นนั้น...”“กำชับให้คนของเราเร่งกระจายการค้นหา และเรื่องนี้จะให้ผู้ใดล่วงรู้ไม่ได้เด็ดขาด”"ท่านอ๋องในเมื่อพระองค์มิได้สงสัยนางแล้ว ทำไมยังส่งของขวัญไปให้นางอีกเล่าพ่ะย่ะค่ะ""แกล้งโง่แล้วหลังจากนี้ก็ต้องหลอกล่อ หากอีกฝ่ายรู้ว่าข้าส่งของขวัญมากมายไปที่จวนสกุลกงย่อมไม่อยุ่เฉย ๆ แน่ สั่งให้คนของเราเร่งมือค้นหาให้ทั่วข้าไม่เชื่อว่าคนร้ายจะไม่ทิ้งร่องรอยเอาไว้"“รับทราบพ่ะย่ะค่ะ”ตันฉินเดินออกไปแล้วท่านอ๋องจึงได้คิดทบทวนหลาย ๆ เรื่องที่ผ่านมา ทั้งคำพูด การกระทำและกงเหรินซินที่หลังจากหายดีนางก็ไม่ได้มาวุ่นวายและตามติดเขาเช่นเดิมเหมือนครั้งก่อนแม้ว่าจะเคยสงสัยว่าที่นางหายไปเป็นเพราะไม่อยากเป็นผู้ต้องสงสัย แต่จากที่ดูพฤติกรรมของกงเหรินซินในตอนนี

  • บุปผางามข้ามเวลามาทวงแค้น   ตอนที่  15  ศิษย์สำนักไป๋ซาน

    “คุณหนู นี่ท่านจำอะไรไม่ได้เลยจริง ๆ หรือเจ้าคะ”อาเจิงถึงกับตกใจ เมื่ออีกฝ่ายหันมามองนางราวกับพึ่งเคยรู้เรื่องนี้เป็นครั้งแรก“อาเจิง เจ้าบอกว่าข้า…”“ใช่เจ้าค่ะคุณหนู ไม่ว่าจะเป็นคุณชายใหญ่ คุณชายรองและท่าน ทุกคนต่างก็เคยไปศึกษาที่สำนักไป๋ซานมาทุกคน แม้แต่ท่านอ๋องและองค์ชายคนอื่น ๆ ก็เคยไปที่นั่นมาหมดแล้วเช่นกัน”“อะไรนะ แม้แต่ท่านอ๋องหรือ… อาเจิงเจ้าช่วยเล่ารายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องนี้ให้ข้าฟังอีกทีสิ”“คุณหนู เหตุใดท่านจึงได้อยากฟังเรื่องนี้ขึ้นมาเจ้าคะ เมื่อก่อนเพียงแค่พูดคำว่าสำนักไป๋ซานท่านก็กรีดร้องออกมาและห้ามมิให้ข้าพูด”“ตอนนี้ข้าโตแล้ว อีกอย่างเจ้าก็เห็นแล้วนะว่าตกน้ำครั้งนี้ข้าก็เกือบเอาชีวิตไม่รอด ดังนั้นควรจะต้องฝึกยุทธ์สักหน่อยแล้ว หากว่าไม่มีวิชายุทธ์ข้าก็แทบจะช่วยตัวเองไม่ได้เลย เราจะเอาแต่พึ่งอันเมี่ยนไม่ได้เข้าใจหรือไม่”“เข้าใจแล้วเจ้าค่ะ ตอนนั้นคุณชายใหญ่เดินทางไปสำนักไป๋ซานพร้อมกับองค์ชาย…”เรื่องนี้ค่อนข้างทำให้เหรินซินรู้สึกแปลกใจไม่น้อย เพราะไม่คิดว่ากงเหรินซินและคุณชายสกุงกงทั้งหมดจะเคยไปศึกษาที่ไป๋ซาน แต่เมื่อฟังจากที่อาเจิงเล่าให้ฟังนางก็เริ่มจดจำพวกเขาแต่

  • บุปผางามข้ามเวลามาทวงแค้น   ตอนที่  14 ปกป้องตัวเอง

    เหรินซินแค่คิดว่าเจ้าของร่างคงจะเป็นนางร้ายที่ดูงี่เง่า แต่เท่าที่ฟังจากที่อาเจิงเล่า... มันมากกว่านั้นมากนัก จากนั้นอาเจิงจึงได้เล่าว่านางทำทุกทางให้ท่านอ๋องหันมาสนใจทั้งแอบเข้าไปในจวนอ๋องกลางดึก แอบวางยาในน้ำชาแต่ท่านอ๋องรู้ทันและออกคำสั่งห้ามนางเข้าไปในจวนอ๋องอีกแต่นางก็ไม่ยอมแพ้ ยังคงเฝ้าติดตามและใช้อำนาจของบุตรสาวแม่ทัพ ข่มขู่สตรีทุกคนที่คิดจะเข้าใกล้ท่านอ๋องมีเพียงคนเดียวที่เหรินซินทำอะไรไม่ได้ก็คือซ่งจินหรูที่เป็นน้องสาวของเขา นางจึงได้เกลียดและคอยหาเรื่องกลั่นแกล้งซ่งจินหรูอยู่เสมอเมื่อมีโอกาสแต่ก็ไม่เคยคิดจะเอาชีวิตนางเลยสักครั้ง“ก่อนหน้านี้ท่านก็เป็นคนที่ค่อนข้างจะรักมั่นคงเอามาก ๆ เลยนะเจ้าคะ เหตุใดจู่ ๆ ท่านก็ไม่ชอบท่านอ๋องแล้วเล่าเจ้าคะ”อันเมี่ยนเอ่ยถามขึ้นเมื่อเห็นว่าคุณหนูของนางที่นั่งฟังเรื่องราวที่อาเจิงเล่า มีท่าทางละเหี่ยใจอยู่ไม่น้อยเมื่อได้ฟังเรื่องก่อนหน้านี้ที่เกิดขึ้น“นี่ข้าเคยบ้าผู้ชายถึงเพียงนี้เชียวหรือนี่ มิน่าเล่าถึงได้… เกือบตายเพียงเพราะบุรุษเพียงคนเดียว”“คุณหนูเจ้าคะ คุณชายรองมาแล้ว”“พวกเจ้าออกไปก่อนเถอะ”""เจ้าค่ะ""เมื่อเห็นหน้าคุณชายรองสกุลจาง

  • บุปผางามข้ามเวลามาทวงแค้น   ตอนที่  13  ข้าอีกแล้วงั้นหรือ 

    “กงเหรินซินเหตุใดเจ้าจึงถามเช่นนี้ ตัวเจ้าเองก็รู้อยู่แก่ใจ”“ใช่! ตัวข้าย่อมรู้ดีอยู่แก่ใจว่าข้ามิได้ทำ แต่เจ้าเล่ากล้ายอมรับความจริงได้หรือไม่ซ่งจินหรู ว่าเรื่องในวันนั้นเกิดอะไรขึ้น!!”“เฮือก!” “น้องหญิง! กงเหรินซินเจ้าหยุดหยาบคายได้แล้ว”ซ่งจินหรูเพียงแค่เห็นสายตาดุของเหรินซินก็ทรุดตัวล้มลงทันที จางลี่เหมยรีบวิ่งมาพยุงตัวซ่งจินหรูทันทีพร้อมกับหันมาตวาดกงเหรินซิน ตอนนี้แขกในงานเริ่มเข้ามาดูในห้องโถง ท่านอ๋องเมื่อเห็นว่าซ่งจินหรูล้มลงก็รีบวิ่งเข้ามาทันที“จินหรู! เกิดอะไรขึ้น…กงเหรินซิน”เหรินซินหันไปมองพักตร์ท่านอ๋องที่หันมาถามนางอีกครั้ง นางจึงหันไปหัวเราะขำในโชคชะตาของตัวเอง ไม่ว่าชาติใดแม้แต่นางเพียงแค่ยืนหายใจก็ผิดแล้ว“ข้าอีกแล้วงั้นหรือ ดูเหมือนว่าพระองค์จะทรงตัดสินเพียงแค่ตาเห็นสินะ ไม่แปลกใจเลยสักนิดที่จะหูเบาถึงเพียงนี้”“เจ้าหมายความว่าอย่างไร ข้ายังไม่ทันได้พูดอันใดเลย”ท่านอ๋องหันมาจับแขนของนางอย่างแรง แต่กงเหรินซินที่เชิดหน้าขึ้นพร้อมกับสะบัดแขนออกมาทันที ใบหน้านี้ทำให้เว่ยเซียวรู้สึกหงุดหงิดทุกครั้งที่ได้เห็น“ปล่อย! ท่านไม่มีสิทธิ์มาแตะต้องข้า”“เจ้าจะทำสิ่งใด…”“ข้

  • บุปผางามข้ามเวลามาทวงแค้น   ตอนที่  12  งานเลี้ยงสกุลจาง 2

    แม้ว่าจะไม่อยากทักทาย แต่ผู้ที่กำลังเข้ามาก็จงใจจะเดินมายังที่นั่งของกงเหรินซินอย่างตั้งใจ ดังนั้นนางจึงจำเป็นจะต้องวางจอกชาและลุกขึ้นมาถวายความเคารพ“ถวายบังคมหมิงชินอ๋องเพคะ”“กงเหรินซิน ดูเหมือนว่าเจ้าจะหายดีแล้ว”“ขอบพระทัยที่ทรงถามไถ่ หม่อมฉันหายดีแล้วเพคะ”“ข้ามิได้ถามไถ่ เพียงแค่พูดตามสิ่งที่เห็นเท่านั้น”กงเหรินซินเงยหน้าขึ้นมามองพักตร์ที่ถือดีตรงหน้า อีกทั้งสตรีที่เกาะแขนของชินอ๋องเอาไว้แน่นอยู่ข้าง ๆ ด้วยสีหน้าตื่นกลัวจนเกินพอดี“เช่นนั้นหม่อมฉันก็จะคิดว่า เป็นเพียงการสนทนาที่ไร้ซึ่งแก่นสารเท่านั้น”“คุณหนูกง เหตุใดเจ้าจึงกล้าหยาบคายกับท่านพี่เช่นนี้ มิใช่ว่าเจ้า...”“ช่างเถอะจินหรู เจ้าก็น่าจะรู้ดีถึงนิสัยของนางมิใช่หรือ”กงเหรินซินเชิดจมูกขึ้นมองท่านอ๋อง แม้ว่าคุณชายรองจะรีบเดินเข้ามาห้ามแต่ก็ดูเหมือนว่าจะทัดทานศึกนี้มิได้เสียแล้ว“นั่นสิเพคะหม่อมฉันเองก็ยังไม่มีทางลืม “มารยาท” ของคนจวนอ๋องที่เคยเชิญหม่อมฉันไปที่จวนเช่นกัน”ท่านอ๋องพักตร์แดงถึงใบหูเพราะความโกรธ แต่สีหน้าของพระองค์กลับนิ่งพร้อมกับรอยยิ้มประหลาดที่สุดเท่าที่ซ่งจินหรูเคยเห็น นางไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าจะมีวันที่

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status