Share

ตอนที่  8 เรียนมารยาท

last update Last Updated: 2025-05-28 01:10:28

 

“กงเหรินซิน นี่เจ้ากล้าปฏิเสธข้างั้นหรือ”

เหรินซินมิได้ตอบเพียงแค่เบี่ยงหน้าหันไปทางอื่น จมูกงอนเชิดที่แสนดื้อดึงนั้นเหตุใดจึงได้สะดุดสายตาเขานัก เดิมทีหมิงเว่ยเซียวไม่เคยคิดจะมองสตรีตรงหน้าอย่างใคร่ครวญโดยละเอียดเลยสักครั้ง เพราะนางค่อนข้างจะน่ารำคาญทุกครั้งที่ได้พบเจอและเกือบทุกครั้งที่พบ นางก็มักจะก่อเรื่องขึ้น

“เจ้าอยากจะรับหรือปฏิเสธก็มิใช่เรื่องของข้า ส่วนยานี้ข้าแค่นำมามอบให้ จะใช้หรือไม่ก็เรื่องของเจ้า”

กงเหรินซินหันมามองพักตร์ที่เต็มไปด้วยความโกรธ ท่านอ๋องเสด็จกลับออกไปอย่างรวดเร็ว เพียงสองครั้งที่พบกันไม่เคยมีครั้งใดที่ทั้งคู่จะคุยกันดี ๆ เหรินซินหันไปมองยาที่วางอยู่บนโต๊ะ อาเจิงเดินเข้ามาพร้อมกับถามนางอีกครั้ง

“คุณหนูเหตุใดท่านจึงได้ใช้คำพูดเช่นนั้นกับท่านอ๋องเจ้าคะ”

“คำพูดข้าทำไมหรือ”

“เมื่อก่อนนี้ท่านจะใช้คำเป็นทางการกับพระองค์ทุกครั้ง แต่ทำไมตอนนี้พูดราวกับ…ข้าคิดว่าท่านพูดเหมือนกับคนที่อยู่ในยุทธภพ ไม่สนกฎเกณฑ์และธรรมเนียม...”

แม้แต่สาวใช้ข้างกายก็เริ่มสงสัยในความเปลี่ยนแปลงนี้ ตอนนี้นางคงต้องเริ่มปรับตัวแล้วจริง ๆ

“อาเจิง”

“เจ้าค่ะคุณหนู”

“เจ้าพอจะรู้จักอาจารย์สอนมารยาทบ้างหรือไม่”

“หา!”

อาเจิงถึงกับเบิกตากว้างด้วยความตกใจ เดิมทีบุตรีขุนนางใหญ่ก็จะมีอาจารย์ที่มาสอนมารยาทให้กับสตรีในจวนอยู่แล้ว แต่กงเหรินซินนั้นไม่แม้แต่จะไถ่ถามในเรื่องนี้ อีกอย่างก่อนหน้านี้นางก็นับว่าค่อนข้างรู้จักมารยาทขั้นพื้นฐานแต่ก็นั่นแหละ แค่พื้นฐานเท่านั้น

“คุณหนู”

“ช่างเถอะข้าแค่อยากจะร่ำเรียนมารยาทเกี่ยวกับคำพูดทางการที่จำเป็นต้องใช้ อีกอย่าง… ก็อย่างที่เจ้ารู้ ข้าหลง ๆ ลืม ๆ ไปบางเรื่องคงจะต้องทบทวนใหม่ทั้งหมด เรื่องนี้ฝากเจ้าด้วยก็แล้วกัน”

“เจ้าค่ะ”

ไม่นานสิ่งที่ไม่เคยปรากฏในจวนสกุลกงมาก่อนก็ทำให้คุณชายรองอย่างกงอวี้หานถึงกับไม่เชื่อสายตา เมื่อเห็นว่าน้องสาวเพียงคนเดียวขอให้เขารับอาจารย์จากในวังมาสอนมารยาทให้นาง ใช้เวลาเพียงเดือนเดียวนางก็สามารถเรียนรู้ได้จนหมด

‘คงเพราะยังมีความทรงจำของกงเหรินซินคนเดิมอยู่สินะ บางเรื่องแม้นไม่สอนข้าก็ยังทำได้ดี อย่างน้อยก็ไม่ต้องเหนื่อยจดจำละนะ’

“คุณหนูกง ไม่คิดเลยว่าท่านจะใช้เวลาไม่นานก็สามารถเรียนรู้มารยาททุกอย่างได้อย่างรวดเร็วเช่นนี้”

“ของคุณเถาหมัวมัวที่กรุณาเสียสละเวลามาสั่งสอนข้าเจ้าค่ะ”

“มิได้ ๆ วันนี้เป็นบทเรียนสุดท้ายแล้ว ข้าหวังอย่างยิ่งว่าจะทำให้ท่านออกงานสังคมและเข้าวังหลวงได้อย่างมั่นใจ”

“รบกวนท่านแล้วเจ้าค่ะ”

จวนท่านอ๋อง

“ข้าฟังผิดไปหรือไม่ เจ้าบอกว่ากงเหรินซินทำอะไรนะ”

“ฟังไม่ผิดพ่ะย่ะค่ะ นางเชิญเถาหมัวมัวไปสอนมารยาทให้ที่จวนสกุลกงพ่ะย่ะค่ะ”

“ตันฉินเจ้าว่าเรื่องนี้มีอะไรแปลก ๆ หรือไม่ ก่อนหน้านี้และหลังจากที่นางตกน้ำพร้อมกับจินหรู เหตุใดจึงเปลี่ยนไปขนาดนี้”

“กระหม่อมก็บอกไม่ถูก แต่สิ่งที่แปลกแท้แน่นอนก็คือนางไม่ตามตอแยพระองค์มาร่วมสองเดือนแล้ว นี่คือสิ่งเดียวที่กระหม่อมคิดว่านางแปลกไป หรือเป็นเพราะว่านางกลัวว่าพระองค์จะจับได้ว่านาง เอ่อ…”

“เดิมทีข้าก็คิดเหมือนเจ้า ครั้งนี้นางทำผิดใหญ่หลวงถึงขั้นพยายามจะฆ่าจินหรู ข้าคิดว่าเรื่องนี้คงทำให้นางเกิดนึกกลัวจึงรีบเปลี่ยนท่าทีเพื่อมิให้ผู้อื่นสงสัยนาง แต่ว่าข้าลองมากับตัวเองหลายครั้ง ท่าทีที่หนักแน่นเวลาพูดของนางก็ดูน่าเชื่อถือไม่น้อย แต่เรื่องก่อนหน้านั้นที่นางเคยกระทำมา หลายครั้งก็เกือบทำให้จินหรูเกือบตาย จึงทำให้ข้ายังตัดนางออกจากผู้ต้องสงสัยไม่ได้”

“พระองค์มิได้ทรงเชื่อที่นางพูด”

“ตราบใดที่ยังสืบไม่แน่ชัดข้าไม่มีทางเชื่อสตรีเช่นนาง คำพูดที่ออกมาจากปากล้วนร้ายกาจเต็มไปด้วยคำโป้ปดเชื่อถือไม่ได้ ก่อนหน้านี้ทั้งเรื่องชาดทาปากพิษ หนอนพิษ และยังเรื่องร้ายกาจอื่น ๆ ที่นางทำ แม้ว่าจะไม่ได้เอาผิดแต่ครั้งนี้เกี่ยวกับชีวิตคน หากนางไม่ได้ทำจริง ๆ .... ช่างเถอะอีกสองวันจะมีงานเลี้ยงที่สกุลจางเจ้าเตรียมตัวให้ดี”

“พ่ะย่ะค่ะ”

"กงเหรินซิน หากก่อนหน้านี้ไม่เกิดเรื่องมากมายเช่นนั้น คำพูดเจ้าในตอนนี้ก็คงจะทำให้ข้าเชื่อได้อย่างสนิทใจ"

แม้ในพระทัยของท่านอ๋องจะแอบหวังลึก ๆ ว่านางจะไม่ใช่คนร้ายตามที่เหรินซินยืนยันหนักแน่น แต่เพราะเหตุการณ์ก่อนหน้านั้นที่เกิดขึ้นล้วนเกิดจากนาง ทั้งยอมรับ และไม่ยอมรับทำให้ท่านอ๋องรู้สึกไม่เชื่อถือในตัวนาง รวมถึงครั้งนี้ด้วย....

"ทุกเรื่องล้วนเกิดจากนาง หรือว่า...."

จวนสกุลกง

“งานเลี้ยงสกุลจางงั้นหรือ ข้าไม่ไปได้หรือไม่เจ้าคะ”

“ไปด้วยกันเถอะ ไหน ๆ เจ้าก็อุตส่าห์ร่ำเรียนมารยาทมาแล้ว อีกอย่างจะได้ไปดูหน้าพ่อลูกสกุลจางนั่นด้วย”

“เขายังทยอยจ่ายค่าเสียหายให้เราไม่ครบอีกหรือเจ้าคะ”

“เฮ้อ ตระกูลขุนนางเก่าแก่แม้ว่าจะมีเกียรติยศแต่หากพูดถึงเรื่องทรัพย์สินแล้วล่ะก็คงจะมิได้มั่งมีมากนัก อีกอย่างครั้งก่อนบุตรสาวยังก่อเรื่องทำร้ายเจ้าจนทำให้ฝ่าบาทสั่งจ่ายค่าทำขวัญ แม้ว่าข้าไม่อยากเอาเรื่องแต่เห็นบาดแผลเจ้าในวันนั้นก็อดไม่ได้ที่จะต้องสั่งสอน แต่หากครั้งนี้เจ้าไม่ไปงานเลี้ยงนั่นก็ไม่เท่ากับว่าจะถูกคนพูดลับหลังอีกหรือว่าเจ้าน่าสงสัย”

“แวดวงสังคมของพวกขุนนางนี่น่าเบื่อเสียจริง”

“เจ้าพูดอย่างกับว่าตัวเองมิใช่บุตรขุนนางอย่างนั้นแหละ ถือว่าได้ออกไปงานเลี้ยงนอกจวนหลังจากเจอเรื่องร้าย ๆ มาก็แล้วกัน อีกอย่างสกุลจางคงไม่กล้าก่อเรื่องกับเจ้าอีกแล้วหลังจากโดนลงโทษไปครั้งก่อน การที่พวกเขาจัดงานเลี้ยงครั้งนี้ขึ้นมา ก็เหมือนกับพยายามจะบอกทุกคนว่าเรื่องก่อนหน้านี้เป็นเพียงเรื่องเข้าใจผิดเท่านั้น”

“เช่นนั้นข้าคงเลี่ยงไม่ได้สินะ”

“แล้วนี่เจ้าจะไปไหน”

“จะออกไปเดินเล่นสักหน่อยเจ้าค่ะ อยู่ในจวนมาร่วมเดือนข้าอยากออกไปสูดอากาศบ้าง”

“เช่นนั้นก็อย่ากลับค่ำนักเล่า เย็นนี้พี่จะรอกินข้าวด้วย”

“เจ้าค่ะ”

ตลาดในเมือง

ที่จริงแล้วเหรินซินมีเป้าหมายที่จะออกมานอกจวน นางพึ่งได้รับจดหมายจากหอหลัวต๋าว่าสิ่งที่นางต้องการเสร็จเรียบร้อยแล้ว ดังนั้นวันนี้นางจึงรีบมารับ

“คุณหนูกงกระบี่นี้เป็นอย่างไรบ้าง ถูกใจท่านหรือไม่”

“ยอดเยี่ยมมาก ตรงตามที่ข้าต้องการ”

กระบี่อ่อนในมือของกงเหรินซินที่พับม้วนเข้าออกได้ดุจใจปรารถนาถูกใจนางยิ่งนัก แม้ว่าจะรอนานกว่ากำหนดสักหน่อยแต่ก็นับว่าคุ้มค่า

“อ่อนไหวดุจสายน้ำ พลิ้วไหวดุจลม คมกริบดุจไฟ ทำจากวัสดุชั้นเยี่ยมตามที่ท่านสั่งไม่มีผิด”

“ขอบคุณท่านมาก ข้าชอบมากว่าแต่อีกเรื่องที่ข้าขอให้ท่านทำเล่า”

“อ้อ เรื่องนั้นไม่มีปัญหาข้าหามาให้ท่านเลือกสี่คน แต่ละคนข้าสืบประวัติมาอย่างดีแล้วเชิญทางนี้ขอรับ”

เหรินซินเดินตามผู้ดูแลหอหลัวต๋าออกไปด้านนอก ที่นั่นมีสตรีอีกสี่คนยืนอยู่ หนึ่งในนั้นเป็นคนที่กงเหรินซินรู้สึกคุ้นเคยแม้ว่าจะยังไม่เห็นชัด ๆ แต่ใบหน้านี้นางไม่มีทางจำผิด

‘ศิษย์น้องอันเมี่ยน เหตุใดนางจึงมาอยู่ที่นี่ได้’

“อันเมี่ยน” ศิษย์น้องที่สำนักไป๋ซาน นางเป็นบุตรสาวคนกลางของขุนนางในเมืองฉีอันและเคยร่ำเรียนมาพร้อมกับเยว่ชิงชิง ก่อนหน้านั้นนางได้สูญเสียมารดาไปจึงได้ร่ำลาอาจารย์และลงเขาไป จากนั้นก็ไม่ได้ข่าวของนางอีกเลย เมื่อมาพบกันอีกครั้งอันเมี่ยนดูเหมือนว่าจะไม่เหมือนบุตรสาวขุนนางอีกต่อไปแล้ว

“คุณหนูกง นี่คือสตรีที่ข้าเลือกมาให้ท่าน ลองเลือกดูก่อนว่าตรงตามความต้องการท่านหรือไม่ พวกนางดูสะอาดเรียบร้อย ท่านลองดูขอรับ”

กงเหรินซินเดินไปมองหน้าสตรีสี่คนที่ยืนเรียงอยู่ตรงหน้า มีเพียงอันเมี่ยนคนเดียวที่ไม่หลบสายตานาง อาจเป็นเพราะนางฝึกยุทธ์มาก่อนเหมือนเยว่ชิงชิง อีกทั้งยังเคยเป็นบุตรสาวขุนนางเหมือนกับกงเหรินซิน ดังนั้นความเย่อหยิ่งในตัวก็ยังคงมีอยู่ เรื่องนี้ทำให้เหรินซินรู้สึกประทับใจ ผู้ดูแลส่งข้อมูลของทั้งสี่คนให้นางเลือกแต่เหรินซินแค่รับมาดูเท่านั้น

“ผู้ดูแลข้าเลือกได้แล้ว ข้าต้องการให้เจ้ามาอยู่ข้างกายข้าเจ้าจะยินดีหรือไม่…เจ้าชื่ออันเมี่ยนสินะ”

Continue to read this book for free
Scan code to download App
Comments (1)
goodnovel comment avatar
Virat Ponrit
ลงต่อเลยค่ะรอนานมาก
VIEW ALL COMMENTS

Latest chapter

  • บุปผางามข้ามเวลามาทวงแค้น    ตอนพิเศษ 5 เยือนสำนักไป๋ซาน

    สามวันถัดมา“เสด็จแม่ ยังอีกไกลหรือไม่เพคะ”“ไหนว่าเจ้าจะไม่บ่นอย่างไรเล่าเซียนเอ๋อร์ นี่แค่ทางขึ้นเขาเองเจ้าก็บ่นเสียแล้ว”“ข้าแค่รู้สึกเวียนหัวเพราะรถม้ามันโยกนี่เพคะ”“มานั่งตักพ่อเถอะจะได้นิ่มหน่อย มาสิ”หมิงชิงเซียนขยับไปนั่งตักบิดาซึ่งทั้งกว้างและนิ่มเมื่อท่านอ๋องวางตำราลงและหันมามองหน้าพระชายาที่แง้มหน้าต่างและเริ่มมองออกไปข้างนอก“เจ้าคงไม่คิดที่จะอยู่ที่สำนักไป๋ซานนานนักหรอกนะ ถึงอย่างไรตอนนี้เจ้าก็เป็นพระชายาหมิงชินอ๋อง หาใช่สตรีอันดับหนึ่งในยุทธภพไม่”“ท่านกังวลเกินไปแล้ว ข้าแค่อยากจะมองดูรอบ ๆ เท่านั้นว่าต่างไปจากเดิมหรือไม่”“เสด็จพ่อ ลูกจะต้องมาฝึกที่นี่จริง ๆ หรือเพคะ”“เจ้าอยากจะมาหรือไม่เล่าเซียนเอ๋อร์”“ลูกเองก็ไม่รู้ แต่ลูกอยากจะเก่งเหมือนเสด็จแม่เพคะ”“เจ้าเป็นลูกของแม่ก็ต้องเก่งและยอดเยี่ยมเหมือนแม่เจ้าอยู่แล้ว ยอดหญิงอันดับหนึ่งในใต้หล้ามีเพียงเสด็จแม่ของเจ้าเท่านั้น”“แต่เหตุใดบางคืนข้าถึงได้ยินเสียงท่านแม่ร้องแปลก ๆ เล่าเพคะ”เหรินซินหันมามองพักตร์ท่านอ๋องในทันทีเมื่อได้ยินเสียงบุตรสาวกล่าวขึ้นมา ท่านอ๋องนึกขำเมื่อเห็นใบหน้าของพระชายาที่เริ่มแดงจัดจนถึงใบหู“เซ

  • บุปผางามข้ามเวลามาทวงแค้น   ตอนพิเศษ 4 รักล้นดวงใจ

    แปดปีต่อมา“ชิงเซียน ได้เวลาอาบน้ำแล้ว”“เพคะเสด็จแม่ แต่ว่าข้ายังอยากฝึกดาบอยู่”“วันนี้พอแค่นี้ก่อนเถอะ น้าอันเมี่ยนของเจ้าเหนื่อยแล้วอีกเดี๋ยวเสด็จพ่อเจ้าก็จะกลับมาจากในวัง จะถูกตำหนิเอาได้นะ”“ก็ได้เพคะ”“ข้าพานางไปเองเพคะ”“ฝากเจ้าด้วยนะอาเจิง”“เพคะพระชายา”อาเจิงพา “หมิงชิงเซียน” บุตรสาวของท่านอ๋องในวัยสี่ขวบครึ่งไปอาบน้ำตามคำสั่งของพระชายากงเหรินซิน ไม่นานเมื่อทั้งคู่เดินไปท่านอ๋องก็กลับเข้ามาในตำหนัก พระองค์เดินตรงมาหานางที่นั่งรออยู่ศาลาริมสวนซึ่งชิงเซียนใช้ฝึกดาบกับอันเมี่ยน“ท่านพี่”“เหตุใดเจ้าถึงได้มานั่งที่นี่คนเดียว เซียนเอ๋อร์เล่าไปไหนแล้ว”“ข้าให้อาเจิงพานางไปอาบน้ำแล้วเพคะ เหตุใดวันนี้ท่านพี่จึงกลับเร็วนักเล่าเพคะ”“รีบกลับมาหาเจ้าน่ะสิ เตรียมของทุกอย่างแล้วหรือ”“เสร็จเรียบร้อยแล้วเพคะ อากาศเริ่มเย็นลงอีกแล้วคิดว่าครั้งนี้คงไม่หนาวเท่าปีก่อน หยางเอ๋อร์จะได้ไม่ลำบากมาก”“เจ้าก็เอาแต่เป็นห่วงบุตรชายของเจ้า เขาไปฝึกที่สำนักไป๋ซานร่วมปีแล้วน่าจะชินกับอากาศแล้วกระมัง อีกอย่างยังมีอาจารย์อย่างเฉินกวนคอยส่งข่าวมาให้ไม่ขาด ยังเป็นห่วงอีกหรือ”“แต่หยางเอ๋อร์ยังเด็กนะเพคะ เส

  • บุปผางามข้ามเวลามาทวงแค้น    ตอนพิเศษ 3 รักที่เร่าร้อน

    “อ๊าา…. อ๊าา ไม่ไหวแล้ว มันจุกมาก อื้อ….”เหรินซินทั้งกัดฟัน ทั้งอ้าปากระบายความเสียวออกมาเมื่อท่านอ๋องจับบั้นท้ายนางกระแทกลงมาถี่ ๆ เพื่อรับมังกรยักษ์ที่สอดอยู่ด้านใน ไม่นานร่างเล็กก็ถูกเขาจับพลิกให้นอนตะแคง ขาข้างหนึ่งถูกยกขึ้นมา อ้อมกอดของพระสวามีกระชับเข้ามาจนชิดและถูกเขากระแทกอีกครั้ง พร้อมกับหน้าอกที่ถูกนิ้วสากหนานั้นบดขยี้ที่ยอดจนแตะทางสวรรค์ไปอีกครั้ง“อ๊าา….”ครึ่งชั่วยามถัดมา“ท่านพี่เพคะ พอแล้วได้หรือไม่ข้าขอพัก อ๊าา!!”หน้าต่างทุกบาน รวมถึงประตูถูกลงกลอนจนหมดสิ้น บัดนี้เหรินซินได้หลงกลท่านอ๋องเพราะคำพูดหวาน ๆ นั่นเสียแล้ว ใครจะคิดว่าหลังจากที่เปิดประตูให้พระสวามีเข้ามา นางจะไม่ได้พักและแทบจะหายใจไม่ทันอยู่แล้วกับศึกรักที่โหมกระหน่ำ จนเผาไหม้ทุกอย่างที่ขวางหน้าเช่นนี้“อ๊าา ท่านพี่ อย่าเลียนะ! เราพึ่งจะ อ๊าา….”แต่ท่านอ๋องมิได้ใส่ใจ ลิ้นของเขายังคงซอกซอนเข้าไปยังร่องรักที่เปียกชื้นทั้งน้ำของเขาและนาง เหรินซินเหงื่อไหลท่วมและแทบจะสิ้นเรี่ยวแรงแต่ก็มิอาจทัดทานความปรารถนาของท่านอ๋องที่มีต่อนางได้“อ๊าา….”เป็นอีกครั้งที่นางถึงฝั่งสวรรค์ แต่ท่านอ๋องก็มิได้เว้นช่วงให้นางพักเลยจร

  • บุปผางามข้ามเวลามาทวงแค้น   ตอนพิเศษ 2 โอบกอดด้วยรักแท้

    ท่านอ๋องเดินไปยังเรือนหลังที่ตอนนี้เริ่มเงียบลงแล้วหลังจากที่รอสาวใช้ของเหรินซินเดินออกมา เว่ยเซียวที่หลบอยู่ด้านหลังก็ค่อย ๆ ไปที่ประตูแต่ปรากฏว่าประตูถูกลงกลอนเอาไว้“อะไรเนี่ย ปิดประตูงั้นหรือ”“ท่านคิดว่าจะเข้ามาในห้องข้าได้ง่าย ๆ งั้นหรือ”“เจ้า! ร้ายนักนะอาซิน”เสียงของเหรินซินดังออกมาจากด้านในเขาจึงรู้ว่าติดกับเข้าแล้ว พระชายาของเขามิใช่คนโง่ที่จะไม่รู้แผนการตื้นเขินเช่นนี้ แต่ในเมื่อพ่อตาสอนมาแล้วทุกอย่าง เช่นนั้นคืนนี้เขาจะไม่มีทางยอมแพ้เป็นอันขาด“อาซิน… เปิดประตูให้ข้าเข้าไปหน่อยสิ ข้าอยากจะคุยกับเจ้าจริง ๆ นะ อีกอย่าง…”“ท่านกลับไปดื่มสุรากับพี่ใหญ่และท่านพ่อจะดีกว่า มายืนอยู่ตรงนี้ก็ไม่มีความหมาย หม่อมฉันไม่มีทางเปิดประตูให้พระองค์”“เจ้ากลายเป็นคนใจร้ายเช่นนี้ตั้งแต่เมื่อใดกัน เจ้าจะยอมให้สามีของตัวเองถูกยุงกัดตายอยู่ตรงนี้งั้นหรือ หากเจ้าไม่เปิดข้าก็จะยืนเฝ้าอยู่ตรงนี้ไม่ไปไหนทั้งนั้น คอยดูสิว่าข้าจะตายก่อนหรือว่าเจ้าจะใจอ่อนก่อน”“เช่นนั้นก็เชิญท่านอ๋องยืนเฝ้ายามหน้าประตูต่อไปนะเพคะ จะได้รู้ว่าเหล่าองครักษ์ต้องลำบากเพียงใด”“เดี๋ยวสิ! นี่กงเหรินซินมันจะเกินไปแล้ว อย่าใ

  • บุปผางามข้ามเวลามาทวงแค้น   ตอนพิเศษ 1พระชายาโกรธ

    สองเดือนถัดมา“ยอดไปเลย ข้าพึ่งจะเคยเห็นกระบวนท่าของ “กระบี่วารีพิสุทธิ์” เต็มตาก็วันนี้เอง เว่ยเซียวท่านเริ่มสงสัยตั้งแต่เมื่อใดว่านางมิใช่ซินเอ๋อร์แต่เป็นเยว่ชิงชิง"“ครั้งแรกที่ข้าเห็นนางแอบฝึกที่โรงฝึกของพวกเจ้าข้าก็เริ่มสงสัยว่านางมิใช่กงเหรินซิน ยอดไปเลยใช่ไหมเล่า”“เรื่องอัศจรรย์เช่นนี้ ไม่คิดมาก่อนเลยว่าจะเกิดขึ้นจริง ๆ”“นั่นสิ ว่าแต่เจ้าเถอะตอนที่ไปสำนักไป๋ซาน ไม่เห็นเคยบอกข้าเลยว่านางคือใคร”“ตอนนั้นข้ารับปากท่านพ่อแล้วว่าจะไม่เปิดเผยฐานะของนาง และจะไม่บอกว่าตัวเองเป็นใคร ได้แต่เฝ้ามองนางห่าง ๆ และคอยช่วยเหลือในสิ่งที่ข้าพอจะช่วยได้ ทั้งกระบี่ที่ท่านพ่อสั่งทำแล้วมอบให้และเงินที่ฝากเอาไว้กับอาจารย์โดยไม่บอกให้นางรู้”“ข้านับถือเจ้านะที่ปกปิดความลับมาได้นานขนาดนี้ หากเป็นข้าก็คงอยากจะเผยตัวตนตั้งแต่แรก”“ใช่ว่าข้าไม่อยาก เพียงแต่ว่า…”“เพราะกงเหรินซินสินะ ปากเจ้าพร่ำบ่นนางและด่านางเป็นประจำแต่ก็รักนางมากไม่ต่างกังกงอวี้หาน”“นั่นเป็นสิ่งที่ข้าเสียใจมากที่สุดในฐานะพี่ชาย ข้าควรจะดีกับนางเหมือนที่อวี้หานทำ”ท่านอ๋องตบไหล่ของจ้าวหนาน สหายและเพื่อนร่วมสำนักของเขา ท่านอ๋องพอจะรู้

  • บุปผางามข้ามเวลามาทวงแค้น   ตอนที่ 67  สัญญาชั่วนิรันดร์ (ตอนจบ)

    สามวันถัดมา / สุสานสกุลกง “ซินเอ๋อร์ เนี่ยเอ๋อร์ พวกเจ้าคงจะได้พบกันแล้วสินะ ฝากดูแลนางด้วยนะ”“ซินเอ๋อร์ พี่ใหญ่ไม่เคยอยากจะทะเลาะกับเจ้าเลยสักครั้ง พี่ทำผิดต่อเจ้าที่คอยเปรียบเทียบเจ้ากับคนอื่น ชาติหน้าหากมีจริงขอให้พี่ได้มีโอกาสเป็นพี่ชายที่ดีของเจ้าอีกสักครั้งเถอะนะ”ตุ๊กตาไม้ที่แกะด้วยมือของกงจ้าวหนานวางลงที่หน้าป้ายวิญญาณน้องสาวผู้ล่วงลับ เขาทำมันขึ้นมาระหว่างออกศึกและเก็บเอาไว้นานกว่าสิบปีแต่ไม่มีโอกาสได้ให้กงเหรินซิน เพียงเพราะนางเอาแต่โวยวายและโมโหทุกคนที่ไม่เข้าข้างนาง เขาจึงเก็บตุ๊กตาไม้นี้เอาไว้ตลอด กงอวี้หานเดินมาตบไหล่ของพี่ใหญ่ที่ยืนอยู่หน้าป้ายวิญญาณของน้องสาวที่ทำขึ้นมาในสุสานของสกุลกง“พี่ใหญ่ท่านอย่าคิดมากเลย ซินเอ๋อร์เองก็มิได้โกรธท่านจริง ๆ หรอก ที่นางเอาแต่ใจก็แค่อยากให้ท่านหันไปสนใจนางเท่านั้นเอง”“ข้าไม่เคยได้มีโอกาสขอโทษ หรือทำดีกับซินเอ๋อร์เลยสักครั้ง จนกระทั่ง…”“พี่ใหญ่ ตอนนี้คนร้ายก็ได้ชดใช้ให้กับน้องเล็กแล้ว ท่านอย่าได้โทษตัวเองอีกเลยนะเจ้าคะ”“เจ้าพูดถูก แม้ว่านางจะไม่อยู่แล้วแต่ตอนนี้เจ้าเองก็อยู่ในร่างของนาง ทำดีกับเจ้าก็ไม่ต่างกับทำดีกับนาง”“ใช่แล้ว

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status