Home / รักโบราณ / บุปผาสีชาด / ตอนที่43ผู้มาเยือน

Share

ตอนที่43ผู้มาเยือน

last update Last Updated: 2025-09-08 13:38:51

"หลันเอ๋อร์ ขอเวลาข้าสักครู่ได้หรือไม่"

เสียงทุ้มต่ำขององค์ชายห้าหลี่จื้อหยวนเอ่ยขึ้นอย่างอ่อนโยน ทว่าแฝงแววเว้าวอนลึกซึ้ง เขาก้าวขวางเบื้องหน้าในจังหวะที่อวี้หลันหมุนกายจะจากไป หยุดยั้งฝีเท้าเรียวอย่างไม่เปิดโอกาสให้นางหลบเลี่ยง

สายตาคมกริบทอดมองหญิงสาวตรงหน้าอย่างไม่อาจละไปได้ ความคาดหวัง ความลังเล และความเจ็บปวดสลักทับซ้อนในแววตาคู่นั้น

ราวกับเพียงคำตอบหนึ่งคำจากนาง จะสามารถปลดปล่อยหรือขังเขาไว้ตลอดกาล

อวี้หลัน..หญิงสาวที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นคู่หมั้นในวัยเยาว์ของเขา หญิงสาวที่เขาเคยคิดว่าจะได้ครอบครองและปกป้อง

แต่ตอนนี้นางกลับไกลจากเขาออกไปทุกที

ข่าวลือที่โด่งดังไปทั่วเมืองหลวงอยู่ในตอนนี้ ทำให้เขาไม่อาจทนนิ่งเฉย จนต้องมาปรากฏตัวที่นี่ ยิ่งเมื่อได้เห็น ปิ่นปักผม ที่ปรากฏอยู่บนมวยผมของนาง ดวงตาของเขายิ่งแข็งกร้าว

ปิ่นนั่นหลี่เหวินหลงผู้เป็นพี่ชายหวงแหนยิ่งกว่าสิ่งใด เป็นสิ่งที่ไม่ควรมอบให้ใครง่ายๆ นอกจากผู้ที่เขา "หมายปอง" อย่างแท้จริง

หลี่จื้อหยวนกำมือแน่น ความรู้สึกในใจร้อนรนแทบระเบิดออกมา แต่กลับไม่เอ่ยอันใด นอกจากสูดลมหายใจเข้าลึก แล้วเปิดกล่องเครื่องประดับในมือออก ยื่นไปตรงหน้าอีกฝ่าย

"ของขวัญจากข้า หวังว่าหลันเอ๋อร์จะรับไว้"

น้ำเสียงนั้นอ่อนโยนแต่เจือความขื่นขม ในกล่องนั้นคือปิ่นทองประดับพลอยม่วงล้ำค่า รูปทรงผีเสื้อกลางหาว อ่อนหวานและสง่างาม ที่เขาเลือกด้วยตนเอง เขาเตรียมมันไว้ตั้งแต่รู้ข่าวพิธีปักปิ่นของนาง หวังจะมอบให้นางในวันสำคัญ เพื่อบอกนางว่า...เขายังไม่เคยลืมนาง ยังจำได้ดีว่านางชื่นชอบผีเสื้อที่สุด เขายังอยากจับผีเสื้อมอบให้นางเหมือนเมื่อครั้งเยาว์วัย

อวี้หลันเหลือบตามองกล่องในมือขององค์ชายห้าอย่างเรียบเฉย ก่อนจะเลื่อนสายตาขึ้นสบดวงตาอีกฝ่ายโดยไม่หลบเลี่ยง

แววตาคู่นั้นใสกระจ่าง ราวกับผืนน้ำในฤดูหนาวที่สงบนิ่ง ทว่าแฝงความเยือกเย็นบางอย่างที่หลี่จื้อหยวนไม่เคยเห็นมาก่อน ไม่ใช่ความตัดพ้อ ไม่มีร่องรอยของความเศร้าเสียใจ และไม่ใช่ความปลาบปลื้มหลงใหลที่เคยมีในวัยเยาว์ แต่มันเป็นความสงบที่เกิดจากการตัดขาด เป็นสายตาของหญิงสาวที่เติบโตขึ้น ไม่มีความอ่อนแอ ไม่หวั่นไหว และไม่จำเป็นต้องพึ่งพาใครอีกต่อไป

"ขอบพระทัยเพคะ"

"แต่หม่อมฉันต้องขออภัยด้วย ที่ไม่อาจรับของขวัญนี้ไว้ได้"

หลี่จื้อหยวนรู้สึกเหมือนมีบางอย่างจุกแน่นในอก คำพูดนั้นเหมือนคมมีดบางเฉียบ เฉือนกลางอกเขา

น้ำเสียงของนางยังคงนุ่มนวลอ่อนหวาน ทว่าแน่วแน่หนักแน่น แต่ละคำที่นางเอ่ยล้วนห่างเหินและเว้นระยะห่างชัดเจน นางไม่แม้แต่จะทอดมองปิ่นผีเสื้อที่เขาทุ่มใจเลือกให้ด้วยซ้ำ ของขวัญที่เขาใช้เวลาหลายวันเลือกอย่างพิถีพิถัน หวังเพียงให้นางยินดีและยิ้มสักนิด แม้แค่ชั่วครู่ก็ยังดี

แต่นางยังคงปฏิเสธเขาอีกตามเคย เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา...

ระยะหลังมานี้เขาเฝ้าส่งของกำนัล ส่งจดหมายถึงนางไม่เคยขาด แต่ทุกชิ้นล้วนถูกส่งกลับมาทั้งหมด และนางไม่เคยตอบจดหมายเขาเลยสักฉบับ

แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังคงไม่ละความพยายาม เฝ้าบอกตัวเองว่านางเพียงแค่ยังไม่หายโกรธ

เขาเชื่อว่านางแค่ยังไม่พร้อมจะให้อภัย นางแค่กำลังทำโทษเขา แต่หากว่าเขาได้อธิบายให้นางเข้าใจถึงความจำเป็น นางต้องเข้าใจและยอมให้อภัยเขาแน่ ขอเพียงแค่ให้เขาได้อธิบายกับนางเท่านั้น

แต่ในวันนี้ความเชื่อนั้นกำลังสั่นคลอน

"หลันเอ๋อร์ชื่นชอบผีเสื้อที่สุดไม่ใช่หรือ"

หลี่จื้อหยวนเอ่ยขึ้นเสียงแผ่วลง บนใบหน้ามีรอยยิ้มจางๆ ยามเมื่อคิดถึงเรื่องราวในอดีต

อวี้หลันระบายลมหายใจออกมาอย่างเหนื่อยล้า เหตุใดพวกบุรุษถึงได้น่าเบื่อหน่ายถึงเพียงนี้กันนะ

"ความทรงจำบางอย่าง ควรค่าแก่การเก็บไว้"

คำพูดนั้นเหมือนตัดความหวังเฮือกสุดท้ายของหลี่จื้อหยวน

อวี้หลันเพียงยิ้มบางๆ พร้อมเอ่ยเสียงนุ่ม

"หม่อมฉันไม่มีความจำเป็นต้องย้อนมองอดีตอีกแล้วเพคะ"

"ของบางสิ่ง แม้จะสวยงามเพียงใด หากหมดความหมาย...ก็ย่อมไม่ต่างจากสิ่งของทั่วไป"

แต่อีกฝ่ายกลับยังไม่ยอมแพ้ สายตาที่มองมายังคงแน่วแน่ ดื้อดึง

"เจ้ายังโกรธข้าใช่หรือไม่"

หลี่จื้อหยวนเอ่ยถามเสียงเบา แทบจะเป็นกระซิบ

อวี้หลันส่ายหน้าช้าๆ

"หากจะโกรธ...คงโกรธตัวหม่อมฉันเองที่เคยคาดหวังในบางสิ่ง ที่ไม่มีอยู่จริง"

นางกล่าวอย่างสงบจากความรู้สึกส่วนลึกของเจ้าของร่าง และอยากจะตัดปัญหาน่ารำคาญใจนี้ออกไป  ต้องการจบเรื่องราวทุกอย่าง

"ปิ่นอันนี้ พระองค์นำไปให้พี่สาวเถิดเพคะ นำมาให้หม่อมฉันคงไม่เหมาะกระมัง"

ถ้อยคำนั้นนุ่มนวลแสนสุภาพ ทว่าเยือกเย็นและห่างเหินอย่างไร้เยื่อใย จนหลี่จื้อหยวนถึงกับนิ่งงันไปชั่วขณะ

แต่ก่อนที่เขาจะได้เอ่ยสิ่งใดต่อ เสียงเรียกที่คุ้นเคยก็ดังขึ้นเสียก่อน

"องค์ชาย น้องรอง"

เสียงหวานใสที่ดังขึ้น พร้อมกับการปรากฏตัวของสตรีนางหนึ่งที่สวมชุดสีชมพูอ่อนบอบบาง เส้นผมถักเป็นมวยเรียบร้อยประดับด้วยเครื่องประดับงามตา และบนใบหน้านั้นปรากฏรอยยิ้มหวานที่ดูอย่างไรก็เสแสร้ง

อวี้หลันเผลอถอนหายใจออกมาอย่างเอือมระอา ก่อนจะกลอกตามองบนเล็กน้อยอย่างหมดความอดทน แล้วหันไปมองผู้มาใหม่ด้วยแววตาเบื่อหน่ายอย่างปิดไม่มิด

โบราณว่าไว้เข้าป่าอย่าพูดถึงเสือ เข้าสุสานอย่าถามหาวิญญาณ ดูท่าว่าจะจริง 

เพราะพูดไม่ทันขาดคำ วิญญาณร้ายที่นางไม่อยากพานพบกลับลอยมาทักทายถึงที่

วันนี้นางแค่อยากจะออกมาสูดอากาศบริสุทธิ์ยามเช้า เดินเล่นผ่อนคลายท่ามกลางต้นไม้ร่มรื่น ชมความงามของดอกบัวในสระและฟังเสียงนกร้องเพื่อคลายความอึดอัดในอก ทว่าไม่รู้ว่าตนไปเหยียบเงาผีหรือล่วงเกินฟ้าดินที่ใด ถึงได้มีผู้คนแห่มาขัดจังหวะเป็นพรวนถึงเพียงนี้

อวี้เหมยยกยิ้ม เดินกรีดกรายเข้ามาหาด้วยท่าทางสนิทสนม ด้านหลังของนางมีบุรุษผู้หนึ่งติดตามมาด้วย บุรุษผู้นั้นรูปร่างสูงโปร่ง สวมชุดคลุมสีน้ำหมึกที่ตัดเย็บประณีต รูปโฉมสะดุดตาจนยากจะเมินเฉย ริมฝีปากของอีกฝ่ายยกยิ้มบางๆ ราวไม่ทุกข์ไม่ร้อนต่อสิ่งใดบนโลก ดวงตาคู่นั้นแพรวพราวแฝงความเจ้าเล่ห์ คล้ายคุณชายเจ้าสำราญผู้ใช้ชีวิตอย่างล่องลอย 

เมื่อสายตาทั้งคู่สบกัน ดูเหมือนเขาจะเรียกความสนใจจากอวี้หลันได้มากกว่าที่คิด

"กระหม่อมเซิ่งกงซุนคารวะองค์ชายห้าพ่ะย่ะค่ะ"

เซิ่งกงซุนค้อมศีรษะคารวะผู้สูงศักดิ์ ก่อนจะหันมาทักทายสตรีที่กำลังจ้องมองเขาด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลและชวนเคลิ้ม ริมฝีปากยกยิ้มน้อยๆ ดวงตาคมกริบมองนางอย่างไม่หลบเลี่ยง ทว่าซ่อนรอยหยอกเย้า ทอประกายราวกับรู้ดีว่านางจดจำเขาได้…และเขาก็ไม่คิดจะปิดบัง

 สีหน้าของเซิ่งกงซุนนิ่งสงบ แต่กลับฉายความท้าทายอย่างเปิดเผย ไม่ปรากฏร่องรอยความหวั่นไหวหรือหวาดกลัวแม้แต่น้อย ราวกับจะบอกว่า "จำได้ แล้วจะอย่างไร ไหนหลักฐานเล่า"

"คุณหนูรอง ยินดีที่ได้พบกัน"

อวี้หลันโค้งศีรษะให้อีกฝ่ายเล็กน้อย กิริยานั้นงดงาม สุภาพอ่อนหวาน

ใช่ นางจดจำอีกฝ่ายได้ในทันที

คนผู้นี้คือนักฆ่าสวมหน้ากากที่ปะมือกับนางไม่ผิดแน่

แม้เพียงแรกสบตา นางก็แน่ชัดแล้วว่าเป็นเขา ทั้งสายตา น้ำเสียง และรอยยิ้มมุมปากที่คล้ายจะเย้ยหยันโลกทั้งใบ

แต่แม้ภายในจะพลุ่งพล่านแค่ไหน ใบหน้าของนางกลับราบเรียบไร้ร่องรอยสะทกสะท้าน มีเพียงรอยยิ้มบางๆ ผุดขึ้นตรงมุมปากอย่างเป็นธรรมชาติ

"คุณชายเซิ่ง" 

ที่แท้ก็เป็นเจ้าคนแซ่เซิ่ง 

"ญาติผู้พี่ ท่านมีของขวัญมามอบให้น้องรองด้วยมิใช่หรือเจ้าคะ" 

อวี้เหมยที่ยืนยิ้มหวานเอ่ยขึ้น ราวกับจงใจประกาศให้ทุกคนรู้ถึงจุดประสงค์การมาของญาติผู้พี่ของนาง

เซิ่งกงซุนหัวเราะเบาๆ ในลำคอ รอยยิ้มกรุ้มกริ่มผุดขึ้นที่มุมปาก ดวงตาคมจับจ้องใบหน้าของอวี้หลันอย่างเปิดเผย เขายื่นกล่องผ้าไหมงดงามไปเบื้องหน้า กล่าวเสียงทุ้มนุ่มแฝงความหยอกเย้า

 "คุณหนูรอง ของขวัญพบหน้าจากข้า หวังว่าท่านจะไม่รังเกียจ"

อวี้หลันยกคิ้วขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะหัวเราะออกมาเบาๆ ยื่นมือออกไปรับของจากอีกฝ่าย ดวงหน้าที่ยิ้มแย้มสงบเสงี่ยม หากในแววตากลับล้ำลึกยากจะหยั่ง

"ขอบคุณคุณชายเซิ่ง ลำบากท่านแล้วเจ้าค่ะ"

นางก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าอีกฝ่ายคิดจะทำสิ่งใด

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • บุปผาสีชาด   ตอนที่43ผู้มาเยือน

    "หลันเอ๋อร์ ขอเวลาข้าสักครู่ได้หรือไม่"เสียงทุ้มต่ำขององค์ชายห้าหลี่จื้อหยวนเอ่ยขึ้นอย่างอ่อนโยน ทว่าแฝงแววเว้าวอนลึกซึ้ง เขาก้าวขวางเบื้องหน้าในจังหวะที่อวี้หลันหมุนกายจะจากไป หยุดยั้งฝีเท้าเรียวอย่างไม่เปิดโอกาสให้นางหลบเลี่ยงสายตาคมกริบทอดมองหญิงสาวตรงหน้าอย่างไม่อาจละไปได้ ความคาดหวัง ความลังเล และความเจ็บปวดสลักทับซ้อนในแววตาคู่นั้นราวกับเพียงคำตอบหนึ่งคำจากนาง จะสามารถปลดปล่อยหรือขังเขาไว้ตลอดกาลอวี้หลัน..หญิงสาวที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นคู่หมั้นในวัยเยาว์ของเขา หญิงสาวที่เขาเคยคิดว่าจะได้ครอบครองและปกป้องแต่ตอนนี้นางกลับไกลจากเขาออกไปทุกทีข่าวลือที่โด่งดังไปทั่วเมืองหลวงอยู่ในตอนนี้ ทำให้เขาไม่อาจทนนิ่งเฉย จนต้องมาปรากฏตัวที่นี่ ยิ่งเมื่อได้เห็น ปิ่นปักผม ที่ปรากฏอยู่บนมวยผมของนาง ดวงตาของเขายิ่งแข็งกร้าวปิ่นนั่นหลี่เหวินหลงผู้เป็นพี่ชายหวงแหนยิ่งกว่าสิ่งใด เป็นสิ่งที่ไม่ควรมอบให้ใครง่ายๆ นอกจากผู้ที่เขา "หมายปอง" อย่างแท้จริงหลี่จื้อหยวนกำมือแน่น ความรู้สึกในใจร้อนรนแทบระเบิดออกมา แต่กลับไม่เอ่ยอันใด นอกจากสูดลมหายใจเข้าลึก แล้วเปิดกล่องเครื่องประดับในมือออก ยื่นไปตรงหน้าอีก

  • บุปผาสีชาด   ตอนที่42คนว่างงาน

    มาอีกแล้ว คนผู้นี้ว่างงานนักหรืออย่างไรอวี้จิ้งทอดถอนใจยาวตั้งแต่ยังไม่ทันได้จิบชาเช้า ใบหน้านิ่งขรึมเต็มไปด้วยริ้วรอยของความอดกลั้น และกลิ่นอายของความหงุดหงิดปนเวทนาในชะตากรรมของตนรุ่งเช้า ฟ้ายังไม่ทันสว่างดีนัก คนก็มาเยือนถึงหน้าจวนเสียแล้ว"หากไม่มีงานการทำ เหตุใดถึงไม่กลับแดนเหนือไปเสียให้รู้แล้วรู้รอด"อวี้จิ้งได้เพียงบ่นอยู่ในใจ ฟันกรามกัดแน่นจนขมับเต้นตุบๆ ขณะลุกจากที่นั่ง เดินออกไปต้อนรับแขกผู้สูงศักดิ์ แขกที่เหมือนจะกลายเป็นสมาชิกประจำบ้านเข้าไปทุกทีองค์ชายใหญ่หลี่เหวินหลง ยืนตระหง่านราวขุนเขาเช่นเคย ท่าทีสงบนิ่ง เยือกเย็นประหนึ่งนักปราชญ์ผู้สูงส่ง ทั้งที่ความจริงแล้วก็แค่คนไร้ยางอาย หน้าด้านหน้าทนผู้หนึ่ง ที่ทำเอาเจ้าบ้านอย่างเขาแทบกระอักเลือดตาย เมื่อวานกว่าจะต้อนคนส่งกลับได้ก็เล่นเอาเขาแทบจะหัวหลุดจากบ่าอยู่หลายครั้ง"องค์ชายใหญ่มาตั้งแต่เช้าเลยนะพ่ะย่ะค่ะ"อวี้จิ้งเอ่ย พลางฉีกยิ้มบางๆ ที่คล้ายรอยยิ้มของเสือเฒ่ากำลังข่มอารมณ์ แฝงไว้ด้วยคำว่า ‘เจ้าว่างนักหรือ’ ขณะทำความเคารพอีกฝ่ายอย่างมีมารยาท"ใต้เท้าอวี้ พบหน้าข้าแล้วยินดีถึงเพียงนี้เชียว"หลี่เหวินหลงยิ้มรับสีหน้าระร

  • บุปผาสีชาด   ตอนที่41สนทนาพาที

    เซิ่งซื่อใช่ว่าจะไม่รู้สึกถึงบรรยากาศอึดอัดกดดันที่แผ่คลุมอยู่ภายในห้อง หากแต่นางยังฝืนรักษารอยยิ้มอ่อนโยนบนใบหน้าเอาไว้ ไม่ว่าสายตาใครจะจับจ้องมายังนางอย่างไร นางก็ยังสงบนิ่งไม่แสดงพิรุธหลายวันมานี้ นางสัมผัสได้ถึงบรรยากาศภายในจวนที่เปลี่ยนไปอย่างชัดเจน นางรับรู้ได้ว่าสามีเริ่มมีท่าทีที่ผิดแผกไป ไม่เหมือนเดิมอย่างที่เคย นับตั้งแต่เกิดเรื่องกับอวี้หลัน ทว่าเขากลับยังคงนิ่งเฉยไม่เอ่ยสิ่งใด นั่นยิ่งทำให้นางทั้งหวาดระแวงและไม่อาจวางใจได้ ความเงียบของเขากลับทำให้นางรู้สึกไม่สบายใจอย่างยิ่งนางรู้ดีว่าคนอย่างอวี้จิ้งไม่ใช่ผู้ที่จะปล่อยผ่านเรื่องใดไปโดยไม่คิดสืบหาความจริง ไม่ใช่คนที่จะถูกหลอกล่อได้ง่ายนัก และยิ่งเงียบก็ยิ่งน่าหวาดกลัวแต่ถึงอย่างนั้น นางก็ยังพอจะเบาใจอยู่บ้าง อย่างน้อยที่สุดหลานชายของนางก็กลับมาอย่างปลอดภัย และที่สำคัญ เขาไม่ได้ทิ้งร่องรอยใดไว้ให้ถูกสาวมาถึงตัวทุกอย่างยังอยู่ในการควบคุม นางเพียงต้องระวังตัวให้มากพอ และฉลาดพอที่จะไม่ถามถึงรายละเอียดให้มากความ สิ่งที่ไม่รู้ ก็ไม่จำเป็นต้องรู้ สิ่งที่รู้ นางก็เลือกจะซ่อนไว้ลึกสุดใจ ไม่ให้แม้แต่น้ำเสียงหรือแววตาเผลอเผยพิรุธออ

  • บุปผาสีชาด   ตอนที่40ศึกชิงนาง

    หลังจากพิธีปักปิ่นอย่างเป็นทางการในช่วงเช้าผ่านพ้นไป ตกเย็นก็ควรจะเป็นเวลาของคนในครอบครัว แต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่เป็นเช่นนั้นเสียแล้วอวี้จิ้งเพิ่งเข้าใจอย่างถ่องแท้ถึงคำกล่าวที่ว่าเชิญเทพมาง่าย แต่ส่งกลับไปแสนยาก ก็ในวันนี้เองรองเสนาบดีผู้มากบารมี ปลายสายตาเหลือบมองบุรุษหนุ่มผู้สูงศักดิ์ที่นั่งอยู่ตรงหัวโต๊ะด้วยสีหน้าอึมครึม เขาไม่จำเป็นต้องเอ่ยคำใดออกมา เพราะแม้จะเงียบ แต่หนวดที่กระตุกอยู่ครั้งแล้วครั้งเล่า ดวงตาวาววับที่ราวกับจะพ่นลูกไฟออกมาได้ทุกเมื่อ ก็ฟ้องหมดทุกอย่างและถึงจะเป็นเช่นนั้นอีกฝ่ายกลับยังนั่งจิบชาอย่างสบายอารมณ์ หาได้รู้ถึงความผิดของตัวเอง ประหนึ่งว่าเขาคือเจ้าของเรือน มิหนำซ้ำยังทำตัวกลมกลืนอย่างยิ่งราวกับคนในครอบครัวไม่ขัดเขิน ไม่เกรงใจ ไม่ถ่อมตนกระทำตัวเหมือนเขยของบ้านข้าเข้าไปทุกทีหึ…กล้าดียังไงแน่นอนว่าอวี้จิ้งได้แต่คิดในใจเท่านั้น ไม่มีวันกล้าเอ่ยออกมาเพราะบุรุษตรงหน้านั้น หาใช่ใครอื่นไกล แต่คือ องค์ชายใหญ่หลี่เหวินหลงการกระทำของอีกฝ่ายในวันนี้สร้างความขุ่นเคืองใจให้เขาอย่างยิ่ง แต่แม้จะรู้สึกไม่พอใจเพียงใด ทว่าเมื่อต้องเผชิญหน้ากับหยางฮูหยินผู้เฒ่า ซึ

  • บุปผาสีชาด   ตอนที่39วันปักปิ่น

    แสงอรุณอ่อนในฤดูใบไม้ผลิส่องพาดแนวหลังคาเรือน บรรยากาศทั่วทั้งจวนรองเสนาบดีเต็มไปด้วยความคึกคัก ภายในเรือนใหญ่ของตระกูลอวี้อบอวลด้วยกลิ่นหอมของไม้จันทน์บ่าวไพร่ในจวนสีหน้าสดชื่นแจ่มใส ขะมักเขม้นจัดเตรียมพิธีมงคล ข้าวของเครื่องใช้ล้วนถูกจัดเรียงตามตำราโบราณเรือนหลักของจวนอวี้ในวันนี้ถูกประดับประดาด้วยผ้าแพรไหมสีมงคล ลวดลายดอกเหมยปักดิ้นทองสะท้อนแสงแดดระยิบระยับ กลิ่นหอมของชาดอกไม้ที่ลอยอบอวลในอากาศ สร้างบรรยากาศละมุนละไมวันนี้คือวันที่สำคัญที่สุดในชีวิตของคุณหนูรองอวี้ในที่สุดวันปักปิ่นของอวี้หลันก็มาถึง พิธีในวันนี้ถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่สมเกียรติบุตรีขุนนางฝ่ายพิธีการ เรียกได้ว่าเป็นงานเลี้ยงที่หรูหราและงดงามที่สุดในรอบหลายปีของเมืองหลวง อวี้หลันในชุดผ้าไหมเนื้อละเอียดสีชมพูอมทองปักลวดลายดอกโบตั๋นอย่างประณีต เนื้อผ้าไหมพลิ้วไหวรับแสงแดดอ่อนยามเช้า ปลายแขนเสื้อขลิบดิ้นทอง ชุดตัวยาวรัดช่วงเอวด้วยสายผ้าแพรสีแดงสด ด้านข้างห้อยพู่หยกล้ำค่า เงาผ้าพลิ้วไหวราวกลีบดอกไม้ต้องลมตามจังหวะก้าวเดิน ทุกสายตาต่างจับจ้องไปยังสตรีน้อยผู้เป็นบุตรีของรองเสนาบดีหญิงสาวย่างก้าวด้วยท่วงท่าที่เปี่ยมไ

  • บุปผาสีชาด   ตอนที่38ความจริงเริ่มกระจ่าง

    เซิ่งซื่อนั่งนิ่งอยู่ในเรือนใหญ่ของตนเอง บรรยากาศภายในเรือนที่เคยสงบร่มรื่น บัดนี้กลับอึดอัดและหนักแน่นประหนึ่งมีเงาทึบปกคลุม มือที่ถือพัดเริ่มกำแน่นขึ้นโดยไม่รู้ตัว แววตาเคร่งเครียดขณะฟังรายงานจากบ่าวคนสนิท เสียงนั้นเบาราวกระซิบ แต่ทุกคำกลับฟังชัดเจนยิ่งในหูของนาง"คุณหนูรองกลับมาถึงจวนเรียบร้อยแล้วเจ้าค่ะ มิได้รับบาดเจ็บใดๆ ทั้งสิ้น"คำบอกเล่านั้น ดังก้องในใจจนมือที่กำพัดเริ่มสั่นอวี้หลันกลับมาแล้ว อีกทั้งยังไม่เป็นอะไรเลย"ข่าวว่า...องค์ชายใหญ่เป็นผู้ช่วยชีวิตคุณหนูรองเอาไว้ด้วยพระองค์เองเจ้าค่ะ"เสียงในห้องเงียบงันชั่วอึดใจ"องค์ชายใหญ่"เซิ่งซื่อทวนคำเบาๆ อย่างไม่อยากเชื่อหูตัวเอง ความหวาดหวั่นคละคลุ้งในอกองค์ชายใหญ่หลี่เหวินหลง คนผู้นี้อีกแล้วหรือพัดในมือของนางถูกบีบจนแทบจะแหลกคามือ แววตาที่เคยสั่นไหวเปลี่ยนเป็นขุ่นมัวในฉับพลัน ริมฝีปากที่เคลือบชาดเอาไว้บางๆ เม้มแน่นจนแทบเป็นเส้นตรงทั้งที่แผนการถูกวางไว้อย่างดี หลานชายที่เก่งกาจของนางไม่เคยที่จะทำงานผิดพลาด ทุกอย่างที่ควรจะจบลงอย่างเงียบงัน กลับพังครืนเพราะการปรากฏตัวของบุรุษเพียงผู้เดียวและยิ่งแย่กว่านั้น…ข่าวนี้กำลังจะถูก

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status