Home / รักโบราณ / บุพเพรักแม่ทัพสุริยัน / ตอนที่ 4 สุราเป็นเหตุ

Share

ตอนที่ 4 สุราเป็นเหตุ

Author: LiHong
last update Last Updated: 2025-02-02 17:46:51

ยามเช้ามาเยือน แสงตะวันสาดส่องแรงกล้า

หมิงเยว่สะลึมสะลือขยับร่างกายไปมา ฉับพลันนั้นกลับรู้สึกเมื่อยขบและปวดร้าวที่กลางลำตัว

หือ...

หญิงสาวมุ่นคิ้ว ขยับขาอีกที ความรู้สึกปวดหนึบตรงส่วนสงวนยิ่งเด่นชัด นางเบิกตาโพลง ลุกขึ้นนั่งทันใด

“โอ๊ย!”

ช่วงล่างยิ่งเจ็บแปลบจนหลุดอุทานเสียงแหบ ยังรู้สึกได้ถึงของเหลวกรุ่นคาว ไหลหยาดจากต้นขา

หมิงเยว่เปิดผ้าห่มออก เห็นร่างตนเองที่เปล่าเปลือยมีรอยจุมพิตเต็มไปหมดและหยดเลือดพรหมจรรย์แดงชาดบาดตาเปรอะเปื้อนผสานกับน้ำคาวสีขาวขุ่น

“หา?”

พอเหลือกตามองไปเบื้องหน้า ยังเห็นบุรุษร่างใหญ่นอนเปลือยเปล่าเคียงข้าง

“หยางเจี้ยน!”

เสียงพลั่กเกิดขึ้น ตามด้วยเสียงของหนักตกกระทบพื้นดังตุ้บ

ร่างใหญ่ถูกเท้าเล็กถีบกระเด็นจนตกเตียง

“อ่า...”

หยางเจี้ยนถึงกับสร่างเมาสะลึมสะลือตื่นขึ้นมา

เขาลุกขึ้นนั่ง หันมองขวับ

เห็นฝ่าเท้าเปลือยเล็กน่ารักเต็มสองตาบนเตียงนอน

“เจ้า...เจ้ากล้าถีบข้า”

หยางเจี้ยนมองสตรีบนเตียงด้วยดวงตาพร้อมพ่นไฟ

หมิงเยว่ที่เพียรรักษาพรหมจรรย์อันบริสุทธิ์ยิ่งชีพเพื่อฝึกฝนเพลงดาบในชาติที่แล้วให้รู้สึกถึงการสูญเสียและสิ้นหวังครั้งใหญ่อย่างแท้จริงในชาตินี้

“ท่าน...ท่านขืนใจข้า...”

นางโอดครวญน่าสงสาร หอบผ้าห่มคลุมกายแน่น ร้องไห้อย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน

หยางเจี้ยนลุกขึ้นยืนตระหง่านหว่างคิ้วขมวดเข้ม ใบหน้าบึ้งตึง เขาเอ่ยเสียงเครียด

“มิใช่เป็นเจ้าเองที่เรียกร้องทั้งคืนหรือไร?”

“ว่า...ว่าอะไรนะ?”

หมิงเยว่กัดปากเบิกตากว้าง หยางเจี้ยนเดินมานั่งลงบนขอบเตียงด้วยสีหน้าถมึงทึงดำคล้ำไม่สบอารมณ์อย่างยิ่ง

เขากำลังรู้สึกเหมือนฟ้าจะถล่มลงมาตรงหน้ายิ่งกว่าสตรีผู้กำลังร่ำไห้เสียอีก

เมื่อคืนแม้เมามายแต่เขาก็จำได้ นางขึ้นนั่งบนตักเขา ขบกัดติ่งหู ซุกไซ้ซอกคอของเขาอย่างดุดันยั่วเย้ามอมเมา เขาเองที่เริ่มคิดได้ว่าไม่ควรเสียใจกับสตรีที่ตายไปแล้วผู้นั้น จึงตามใจและจัดให้สตรีตรงหน้าอย่างเต็มที่ เต็มอารมณ์

เพราะถึงอย่างไรนางก็คือภรรยาของเขา เป็นสตรีที่มองอย่างไรก็นุ่มนวลชวนถนอม และที่สำคัญนางยังตบแต่งให้เขาอย่างถูกต้องตามธรรมเนียม

การที่เขาคิดถึงสตรีอื่นเป็นเรื่องไม่สมควรนัก

ทั้งๆ ที่นางครวญครางกรีดร้องอย่างสุขสมปานนั้น แต่นางกลับกล่าวหาเขา คำว่าขืนใจช่างบาดหูนัก!

หยางเจี้ยนรู้สึกโกรธมาก!

บุรุษผู้องอาจหยิ่งทะนง ยึดมั่นคุณธรรมสูงส่งยิ่งชีพ เคยถูกตราหน้าเยี่ยงนี้ที่ใด?

หยางเจี้ยนให้รู้สึกถึงการถูกหยามเกียรติอย่างที่สุด

บุรุษเช่นเขาเคยต้องงอนง้อขอขึ้นเตียงกับสตรีที่ใด? มิใช่ว่ามีหญิงงามมากมายหมายเสนอตัวให้เขาทุกวันหรือไร?

แม่ทัพหนุ่มให้รู้สึกร้อนรุ่มอย่างประหลาด

เขาหงุดหงิดอย่างมาก

รู้สึกคล้ายม้าศึกตัวโตผงาดกล้าที่ถูกหนูตัวเล็กๆ มองว่าเป็นแค่หมูโสโครกตัวหนึ่งที่หิวโหยหื่นกระหายกินไม่เลือก

สาเหตุที่หยางเจี้ยนรู้สึกต่อเรื่องนี้ค่อนข้างรุนแรง ล้วนเป็นเพราะเขาไม่เคยปล่อยเนื้อปล่อยตัวมั่วราคะกับใคร

ความร้อนแรงที่มอบให้คือสิ่งหวงแหนอย่างยิ่ง

การที่ภรรยาไม่รู้ดินฟ้านางนี้ถีบเขาตกจากเตียง ทั้งยังชี้หน้าด่าทอว่าถูกเขาขืนใจ

นั่นจึงนับว่าเป็นการล่วงเกินกันอย่างที่สุด

สำหรับหยางเจี้ยน สิ่งหนึ่งที่ผู้คนล้วนกล่าวขานถึง คือผู้ใดก็ตามหากล่วงเกินคนอย่างเขาผู้นี้ ย่อมไม่มีจุดจบที่ดี

เตรียมตัวรับชะตากรรมจากมัจจุราชเถอะ!

ทว่าเพราะอีกฝ่ายเป็นเพียงสตรี ทั้งยังเป็นภรรยาซึ่งได้มาจากสมรสพระราชทาน ร่างสูงจึงมองร่างเล็กปราดหนึ่งด้วยแววตาอำมหิต เพียงคาดโทษจดบัญชีแค้นไว้ในใจ ก่อนผุดลุกขึ้นอย่างปั้นปึ่งเย็นชา หยิบเสื้อผ้ามาสวมลวกๆ แล้วเดินออกจากห้องหอไปอย่างรวดเร็วปานสายฟ้า

ทิ้งร่างเล็กให้มองตามอย่างเหลอหลา เรียวคิ้วเหนือดวงตาขมวดแน่น ภายในใจกำลังนึกถึงเรื่องเมื่อคืนที่ผ่านมา

เอ่อ...หรือว่า...

ในห้วงภวังค์ นางเสมือนเห็นร่างระหงของตนเองปีนขึ้นไปนั่งบนตักหนาแกร่งของหยางเจี้ยนอย่างทุลักทุเล

เรียวแขนกระหวัดโอบรอบลำคอเขาอย่างอาจหาญ โน้มใบหน้าคมคายเข้าหา แล้วบดจูบอย่างบ้าคลั่ง

“...”

นางเป็นฝ่ายบดขยี้กลีบปากเขาก่อนจริงๆ ด้วย

จากนั้นก็กัดติ่งหู ซุกไซ้ซอกคอ พลางปลอบประโลมพึมพึมอย่างขวัญกล้า ‘ท่านอย่าได้เสียใจไปเลยที่ต้องแต่งงานกับข้า มาเถิด สตรีเช่นข้าย่อมมีดีเหนือใคร’

หมิงเยว่สะดุ้งกับความทรงจำเฮือกหนึ่งแล้วคิดต่อ

ก่อนร่วมหอลงโลงนางยังไม่ลืมสั่งให้เขามองแค่นางก่อนกระชากเสื้อผ้าชุดเจ้าบ่าวของเขาออกจากร่างอย่างแรง สีแดงปลิวว่อนทั่วห้อง

เมื่อรู้สึกได้ถึงลมหายใจกรุ่นร้อนและเสียงคำรามแหบต่ำจากเขา นางก็ยิ่งหื่นกระหาย เสื้อผ้าของนางและของเขาหลุดร่วงไปจนหมดสิ้นเมื่อใดไม่ทราบได้

ใครเป็นผู้ถอดชั้นในออกไปก็ไม่อาจรับรู้

นางจำได้ว่าแค่กระชากเสื้อเจ้าบ่าวตัวนอก

เมื่อคืน บนตักแข็งอุ่น นางรู้สึกได้ถึงตัวตนร้อนผ่าวของเขาสัมผัสตรงท้องน้อยของนางอย่างเร้าอารมณ์มาก

ไม่นานสองเราก็รวมร่างร่วมประสานขับลำนำ บรรยากาศในห้องหอเต็มไปด้วยความเร่าร้อน ได้ยินเพียงเสียงเคลื่อนกายเสียดสีกับเสียงหอบครางสอดประสาน

เขากระชับเอวคอดขยับเอวสอบโยกบั้นท้ายชักนำ ส่วนนางก็ไม่นำพาอะไรแล้วทั้งนั้น เพียงแหงนหน้ากอดรัดบดเบียดอกอิ่มนุ่มนิ่มกับแผ่นอกแข็งแกร่งของเขาอย่างคนต้องการไออุ่นไม่รู้จักจบสิ้น

เขาจ้องหน้าแดงเรื่อของนาง มองลึกเข้ามาในแววตา นางจ้องมองโครงหน้าชัดเจนของเขา เห็นแค่ดวงตาร้อนแรงแสนเปี่ยมเสน่ห์ทรงพลังคู่นั้น มองสิ่งอื่นใดไม่เห็นแล้วทั้งสิ้น เขากอบกุมสะโพกกลมมนไว้แน่น ตรึงเต็มฝ่ามือร้อนกรุ่น เคล้นคลึงอย่างดุดันก่อนจับเอวคอดของนางแล้วยกขึ้นจากเก้าอี้ริมโต๊ะในท่วงท่าที่ยังผสานเป็นหนึ่ง จากนั้นก็จับนางกดลงบนเตียงนอน ปลายลิ้นร้อนลากไล้วนเวียนบนยอดถัน

เนินอกของนางชูชัน ในขณะที่บางส่วนของเขาก็เหยียดผงาดตั้งชันเช่นกัน

ท่ามกลางความมืดสลัวเลือนราง ท่อนขาของนางถูกเขาแยกออกจากกัน ท่วงท่าสองเรานั้นน่าอายอย่างที่สุด สองมือของนางจับท่อนแขนเปี่ยมกล้ามเนื้อทรงพลังของเขาไว้แน่น ส่วนเขาก็คุมจังหวะเร่าร้อนตอกตรึงอย่างยาวนาน

เพราะสุราเป็นเหตุโดยแท้ หมิงเยว่พึงสังเกตได้...

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • บุพเพรักแม่ทัพสุริยัน   ตอนพิเศษ 6 ทำไมช่างเหมือนมารดาของเจ้านัก

    ผลพวงจากการพาภรรยาออกท่องหล้าเปลี่ยนบรรยากาศ หยางเจี้ยนไม่รู้เลยว่าทำให้คนสนิทของตนคล้ายเปลี่ยนไปตามบรรยากาศตามรายทางเช่นกันนับวันจิ้นเหอยิ่งมองว่าจิ่นซินแน่งน้อยในวันวานนั้น วันนี้ยิ่งน่ารักน่าชังทั้งยังงดงามมากขึ้นอีกด้วยทุกคราที่ต้องคอยดูต้นทางเฝ้าหน้าเรือนให้เจ้านาย เขามักจะต้องอยู่กับจิ่นซิน ฟังเสียงเจื้อยแจ้วมองตากลมใสให้หัวใจสั่นไหวตลอดเวลาหลายเดือนที่ผ่านมาความรู้สึกยิ่งแน่ชัดในหัวใจทว่ายามเจอกัน เสน่หาที่มีนั้นกลับพังครืนลงมา เพราะคำว่าพี่ชายวันนี้ก็เช่นกัน จิ่นซินรีบวิ่งมาพร้อมกล่องไม้ใส่อาหารขึ้นเบื้องหน้า “พี่ชาย...ข้าให้ท่าน”สาวใช้ตัวน้อยแหงนหน้าบอกกล่าวมองเขาด้วยดวงตากระจ่างใส คงรอยยิ้มจริงใจ ไม่มีส่วนใดเป็นการโปรยมารยาแห่งปรารถนาใส่เขาเลยแม้แต่น้อย“ขอบคุณเจ้า รบกวนแล้ว...”จิ้นเหอรับกล่องอาหารมาถือไว้ด้วยหัวใจที่หนักอึ้ง เมื่อใดที่นางจะมองเขาเป็นบุรุษคนหนึ่งมิใช่แค่พี่ชายเล่า?คล้อยหลังจิ้นเหอ จิ่นซินก็ยืนยิ้มมองตามด้วยสายตางุนงง มิค่อยเข้าใจอาการหงุดหงิดของเขาเท่าใดนักทว่านั่นไม่เคยมีปัญหาสำหรับนาง เพราะพี่เหอเป็นคนดีผิดกับแววตาคุกคามอย่างมาก หากอยากได้ข่าวสารน

  • บุพเพรักแม่ทัพสุริยัน   ตอนพิเศษ 5 บุตรสาวของมารดา

    ย้อนกลับไปสามเดือน ก่อนมีบุตรชายคนแรก ครั้งนั้นต้องอดทนอดกลั้นทำได้เพียงส่งกลอนบอกรักกันซึ่งผิดกับสามเดือนยามนี้มาก เนื่องจากสามีภรรยาเอาแต่บอกรักอย่างดุดันใส่กัน แม้จะเลือกสถานที่ทว่ากลับไม่เลือกยามเวลา เรื่องบทกลอนอันใดเหล่านั้นไม่มีทั้งสิ้น เพราะผนังเรือนไม่มีพื้นที่เหลือให้ติดผืนผ้าแล้วในม่านน้ำเย็นจัดสองร่างกระหวัดกอดเกี่ยวสร้างความร้อนเร่าไม่เข้ากับกระแสธารหลังโขดหิน“อืม...เยว่เอ๋อร์” เจ้าของเสียงทุ้มพร่ากระซิบกระซาบยามจูบซับแนบริมฝีปากคนเป็นภรรยาเพื่อกลืนกินเสียงครวญหวานแผ่วที่ดังเล็ดลอดอย่างต่อเนื่องร่วมชั่วยาม“อื้อ อาเจี้ยน”หมิงเยว่หลับตาแหงนหน้าครางเสียงหวิวปลดปล่อยกายใจของตนให้พร่างพราวราวดวงดาวหล่นใส่ เมื่อไต่ระดับถึงแดนสวรรค์เป็นครั้งที่เท่าใดมิอาจนับในขณะที่หยางเจี้ยนยังคงควบคุมจังหวะรัญจวนเอาไว้ได้เป็นอย่างดีไม่มีตกหล่น แม้จะมอบความสุขสมให้ภรรยาไปแล้วหลายครั้งหลายครา“เปลี่ยนท่าดีหรือไม่?”เขาถามเสียงทุ้มเบา มือขวาเลื่อนไล้จากหน้าท้องแบนราบมากระชับสะโพกผายแล้วจับคนตัวนุ่มให้หันหน้ากลับมา กดจูบหนักหน่วงที่กลับปากแดงเรื่อจนช้ำเพิ่มจังหวะเร่งเร้าเคล้าเสียงน้ำตกอย่างห

  • บุพเพรักแม่ทัพสุริยัน   ตอนพิเศษ 4 สามีภรรยาผู้หลงหลาน2

    ทั้งๆ ที่มองก็รู้ว่าเป็นแผนการตื้นๆ ที่ใช้เรียกร้องความสนใจของสตรีหลังเรือนแต่นางยังอนุญาตให้เขาไปค้างที่เรือนสตรีอื่นด้วยรอยยิ้มซึ่งเมื่อคืนคือวันที่เขาควรจะได้อยู่กับนางทั้งคืน...เด็กชายทั้งสามฉลาดปราดเปรื่องและรู้ความเกินวัย ยามกลางวันปรนนิบัติชงชาบีบนวดไม่ห่างไปไหน กลางคืนยังดูแลท่านปู่ท่านย่าเข้านอนด้วยกันหยางจงแอบยกยิ้มไม่ให้ใครเห็น“ห้ามขัดใจหลาน” เขาหันไปบอกคนเป็นภรรยาที่มองมาทางเขาคล้ายงุนงง ว่าเหตุใดไม่ไปเรือนอนุฟางเหนียงพยักหน้ายิ้มหวานไม่เผยอารมณ์ออกมา นางเองไม่คิดขัดใจหลานอยู่แล้วและทุกวันก็เป็นเช่นนั้น ท่านปู่กับท่านย่าได้อยู่ด้วยกันทุกวันนอนด้วยกันทุกคืน นับแต่หลานชายทั้งสามย้ายตัวเองมาพำนักที่เรือนนายท่านใหญ่เป็นการชั่วคราว เพื่อที่บิดามารดาจะได้ออกตามหาน้องสี่โดยสะดวกกลางวันเด็กชายทั้งสามทำกิจกรรมสร้างรอยยิ้มร่วมกับผู้อาวุโสอย่างไม่มีเหน็ดเหนื่อย บรรยากาศรอบกายคล้ายสายลมวสันต์โชยกลิ่นเปี่ยมสุขก่อเกิดความอบอุ่นในแบบที่ไม่เคยมี กลางคืนยังจับมือพาประคองทั้งสองเข้านอนแล้วปรนนิบัติห่มผ้าให้ท่านปู่ท่านย่าได้อยู่ใต้ผ้าผืนเดียวกันอย่างเอาใจใส่กระทั่งคืนหนึ่ง มีสาวใช้ต้

  • บุพเพรักแม่ทัพสุริยัน   ตอนพิเศษ 4 สามีภรรยาผู้หลงหลาน1

    เนื่องจากในเรือนจวนหยางมีบ่าวไพร่มากมายเกินไป จึงส่งผลให้ทำอะไรตามใจตนเองมิได้มากเท่าใดสามีภรรยาคู่หนึ่งซึ่งต่อให้หน้าหนาแค่ไหนก็ยังรู้สึกไม่ปลอดภัยต่อแรงอารมณ์ยามปลดปล่อยใส่กันและกันด้วยความรักเปี่ยมล้นแม่ทัพหนุ่มจึงพาฮูหยินของตนท่องหล้าเพียงลำพัง มิให้บ่าวรับใช้ติดตามเอิกเกริก เพียงคนสนิทอย่างจิ้นเหอและจิ่นซินเท่านั้นที่ได้รับสิทธิ์ให้อยู่ข้างกายจิ้นเหอและจิ่นซินจึงมีหน้าที่คือช่วยกันเป็นหูเป็นตาให้เจ้านายได้มีเวลาอยู่ด้วยกันมิให้ใครรบกวนเพราะต้องการเอาอกเอาใจภรรยา หยางเจี้ยนจึงพาหมิงเยว่ปลอมตัวเป็นเพียงชาวบ้านธรรมดา เพื่อพากันไปหาสถานที่บอกรักแบบส่วนตัว เป้าหมายคือทายาทคนที่สี่ โดยได้รับคำอนุญาตอย่างเป็นทางการจากบิดาและมารดาเช่นนั้นยามนี้บุตรชายทั้งสามคนของหยางเจี้ยนและหมิงเยว่จึงกำลังวิ่งเล่นซุกซนยกยิ้มร่าเริงอยู่รอบกายของฟางเหนียงความน่ารักน่าชังของหลานชายตัวน้อยทำเอาความเงียบเหงาจนความรู้สึกเกิดเป็นหลุมเว้าแหว่งที่ถูกซุกซ่อนในส่วนลึกของจิตใจของผู้เป็นย่าได้รับการเติมเต็มจนล้นปรี่“ท่านย่า...”เส้นเสียงเจื้อยแจ้วของหลานชายทั้งสามแข่งขันกันส่งมาให้ไม่ขาดสาย“ข้าจะร่ายรำกระบี

  • บุพเพรักแม่ทัพสุริยัน   ตอนพิเศษ 3 ไม่สะดวก

    หมิงเยว่ไม่มีโอกาสได้ตอบว่าไหวหรือไม่ เนื่องจากถูกหยางเจี้ยนเคี่ยวกรำตั้งแต่คืนแรกแบบนับรอบไม่ถ้วน ทุกคืนหลังจากนั้นยังต้องนอนระทดระทวยสิ้นไร้เรี่ยวแรงแทบสลบไสลคาอกแกร่งคืนนี้ก็เช่นกัน สองกายเปล่าเปลือยซ้อนทับในท่วงท่าคล้ายคลึงงูเลื้อยพันกันอยู่บนเตียงนอนเสียงพร่ากระซิบชิดริมหู “ต่อเลยได้หรือไม่? หืม”หยางเจี้ยนถามไปเช่นนั้นเอง เพราะยังไม่ทันได้รับคำตอบซึ่งเป็นสุ้มเสียงอันแหบแห้งจากหมิงเยว่ ริมฝีปากร้อนๆ ก็แนบหน้าผากชื้นเหงื่อของนาง ขบเม้มเบาๆ ลงมาที่ข้างแก้มก่อนจะจรดริมฝีปากอิ่มแล้วจุมพิตลึกซึ้งเนิ่นนานปลายลิ้นร้อนชื้นที่สอดแทรกเข้ามาไล้เลียชิมความหวานในโพรงปากอิ่มถูกกระทำพร้อมฝ่ามือซุกซนที่ลูบไล้เคล้นคลึง ตามด้วยร่างหนาที่พลิกคร่อมทับเป็นรอบที่เท่าใดมิอาจนับ“หยางเจี้ยน...”“หืม...”หมิงเยว่เรียกนามสามีทันทีเมื่อริมฝีปากได้รับอิสระ “ใกล้สว่างแล้วกระมัง”“ใครสนเล่า?”ชายหนุ่มเอ่ยเสียงทุ้มพร่าอย่างเอาแต่ใจพลางเคลื่อนใบหน้าลงต่ำ พ่นลมหายใจกระเส่าที่เริ่มร้อนเร่าตามระดับแรงอารมณ์รอบใหม่ ริมฝีปากขบเม้มลำคอระหงเรื่อยลงไปอย่างที่ชอบทำทุกครั้งเนิ่นนาน หมิงเยว่ได้แต่เสียวซ่านจนต้องส่งเสี

  • บุพเพรักแม่ทัพสุริยัน   ตอนพิเศษ 2 แง่งอน

    หลังจากคลอดบุตรชายคนที่สามได้สองปีกว่าสตรีที่ประกาศก้องว่าจะไม่ยอมให้สามีรังแกอีก กำลังนั่งเท้าคางมองบุรุษสี่คนที่มีใบหน้าละม้ายคล้ายกันอย่างเบื่อหน่าย ในขณะที่แม่ทัพหนุ่มยามนี้กำลังสอนบุตรชายทั้งสามคนฝึกร่ายรำกระบี่ด้วยท่าทีเคร่งครัด ทว่าแววตากลับเปี่ยมสุขอย่างยิ่ง แขนขาเล็กๆ ของเด็กๆ น่ารักน่าชังทรงพลังอย่างมากหยางจวิน หยางจินอวี่ และน้องเล็กหยางจื่อถง เด็กชายทั้งสามคนเหมือนหยางเจี้ยนเกินไปแล้วมิใช่เหมือนแค่หน้าตาแต่ยังเหมือนไปหมดทั้งท่วงท่ากิริยาและนิสัยใจคอ โดยเฉพาะแววตาสุขุมลึกล้ำคู่นั้นหมิงเยว่ให้รู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจเหลือเกินดังนั้น ยามค่ำคืนในวันที่สามีสะสางงานจากค่ายทหารเสร็จสิ้นแล้วได้กลับจวน นางจึงบรรจงแต่งกายประณีตด้วยเสื้อผ้าบางเบาโปร่งใส เผยเนินเนื้ออวบอิ่มรำไร ชวนหวามไหวเต็มขั้น ส่วนเว้าส่วนโค้งดุจดั่งลายเส้นของภาพวาดปานนั้นหญิงสาวนั่งเหยียดขาแอ่นกายด้วยท่วงท่ากรีดกรายคล้ายนางสวรรค์อยู่บนเตียงนอน“หยางเจี้ยน”“หืม...”เจ้าของนามครางรับในลำคอโดยไม่หันมอง เขานั่งอยู่ที่โต๊ะอีกฝั่งจิบชาอึกหนึ่งเอ่ยเสียงทุ้ม “เจ้าควรปักผ้า มิใช่เอาแต่นั่งมองบุรุษ”หมิงเยว่แค่นเสียงฮึ “

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status