แชร์

บทที่ 6

ผู้เขียน: เจียงหนานเยียน
ในดวงตาเยียนเซียวหรานมีความเย้ยหยัน “ต่อให้ไม่มีท่าน ครั้งนี้จวนเยียนอ๋องก็ยากจะผ่านเคราะห์กรรมไปได้”

เมื่อพูดมาถึงตรงนี้เขาหันมองนาง “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ จะทำให้มีคนตายเพิ่มไปไย”

“องค์หญิงโปรดฟังข้าสักคำ หากครั้งนี้จากไปแล้ว อย่ากลับมาที่เมืองหลวงอีก”

เมื่อพูดจบเขายัดตัวรอกไว้ในมือนาง “องค์หญิงไปเถอะ หากไม่รีบไป คงไม่มีโอกาสแล้วจริงๆ”

ซือเจ๋อเยว่รู้สึกสับสน นำตัวรอกไปเกี่ยวไว้กับเชือก แล้วหันมองเขาอีกครั้ง ต่อมาเลื่อนตัวรอกไปตามเชือกจนถึงฝั่งตรงข้าม

เมื่อนางยืนจนมั่นคงแล้ว เยียนเซียวหรานถึงได้ดึงตัวรอกกลับไป

นางช้อนตามองเขา แม้ชายหนุ่มจะตกอยู่ในสถานการณ์คับขัน แต่ยังคงเปล่งประกายดั่งดวงจันทรา

เมื่อเขาเห็นนางหันมอง เพียงลอบมองหนึ่งครั้ง พลันหันหลังกระโดดลงจากหอ

ซือเจ๋อเยว่กระโดดลงมาจากต้นไม้ แล้วมุ่งหน้าไปที่ประตูเมือง

แรกเริ่มนางเดินค่อนข้างเร็ว หลังจากเดินไปประมาณห้าสิบก้าว จึงค่อยๆ เดินช้าลง

เพราะเขาได้ยินเสียงโวยวายของทหาร ซ้ำยังคลับคล้ายคลับคลาได้ยินเสียงตำหนิของเหล่าไท่จวิน

นางนำหนังสือหย่าที่เหล่าไท่จวินมอบให้ออกมา พบว่าด้านในสอดตั๋วเงินไว้หนึ่งใบ จำนวนเงินไม่มาก แต่เพียงพอสำหรับเป็นค่าเดินทางให้นางกลับสำนักเต๋า

นางนึกถึงค่ำคืนที่ได้อยู่กับเยียนเซียวหราน จากนั้นสูดหายใจเข้าลึกๆ

นางติดค้างเขาหนึ่งคืน แล้วจะทนดูเขาตายไปต่อหน้าต่อตาได้อย่างไร?

ซือเจ๋อเยว่สูดหายใจเข้าลึกๆ มือกำเป็นหมัด แล้วหันหลังเดินมุ่งหน้าไปที่ประตูใหญ่จวนเยียนอ๋อง

ภายในจวน เยียนเซียวหรานยืนขวางหน้าโลงเยียนอ๋อง “ฮ่องเต้แค่รับสั่งว่าไม่ให้คนในจวนเยียนอ๋องออกไป แล้วนี่หนิวกงกงคิดจะทำสิ่งใด?”

โลงศพของเยียนอ๋องถูกถีบจนคว่ำ เผยให้เห็นศพที่อยู่ในโลง

บนศพเต็มไปด้วยบาดแผลมากมาย บนใบหน้ายังมีคราบเลือดเกาอยู่ ซ้ำขายังขาดไปหนึ่งข้าง

พระชายาเยียนอ๋องและเหล่าไท่จวินยืนขนาบซ้ายขวาข้างโลง ดวงตาเหล่าไท่จวินแดงก่ำ ส่วนพระชายาเยียนอ๋องกลับร้องไห้โฮ

เมื่อครู่หลังจากหนิวกงกงพาทหารองครักษ์ล้อมจวนอ๋องเยียน เขาได้พาคนบุกเข้ามา

หลังจากเข้ามาเขาบอกว่าอยากเคารพศพเยียนอ๋อง เยียนเซียวหรานจึงไม่ขัดขวาง ปล่อยให้เขาเข้ามาในห้องทำพิธีศพ

ทว่าเมื่อเข้ามาถึงเขากลับถีบโลงศพของเยียนอ๋องจนคว่ำ เยียนเซียวหรานจึงทะเลาะกับเขาทันที

สถานการณ์ระหว่างองครักษ์ในจวนกับทหารองครักษ์ที่หนิวกงกงพามาตึงเครียดมาก พอพูดไม่เข้าหูก็จะลงไม้ลงมือทันที

หนิวกงกงหัวเราะ “ข้าได้รับพระบัญชาจากฮ่องเต้ให้มาดูเยียนอ๋อง คุณชายสามไม่ต้องตื่นเต้น”

เขาเหลือบมองภายในโลง แล้วเอ่ยขึ้น “แม่ทัพพ่ายศึกอย่างเยียนอ๋อง สมควรจะถูกสับเป็นหมื่นชิ้น”

“วันนี้เขาแค่เสียขาไปข้างเดียว โลกนี้ช่างไร้ซึ่งความยุติธรรม”

“ทหาร มานำศพของเยียนอ๋องไปสับให้เละแล้วโยนให้สุนัขกิน”

เยียนเซียวหรานเอ่ยเสียงเย็น “ใครกล้า!”

หนิวกงกงเบิกตารูปสามเหลี่ยมมองเยียนเซียวหราน “คุณชายสามคิดจะต่อต้านหรือ?”

พระชายาผู้เฒ่าค้ำไม้เท้าเดินไปตรงหน้าหนิวกงกง “ฮ่องเต้เพียงรับสั่งว่าเยียนอ๋องพ่ายศึก จึงกักบริเวณทุกคนในจวนอ๋อง”

“มิได้ทรงลงโทษจวนเยียนอ๋อง ยามนี้หนิวกงกงบุกเข้ามาก่อเรื่องในห้องทำพิธี ไม่เกินไปหน่อยหรือ?”

หนิวกงกงหัวเราะเสียงดัง “ก่อเรื่อง? เหล่าไท่จวินช่างน่าขันยิ่งนัก ข้าก็แค่ทวงความยุติธรรมให้กับเหล่าทหารที่ตายไปในสงครามเท่านั้น”

“เยียนอ๋องพลาดท่าเสียที ทำให้ทหารตายที่ชายแดนเป็นแสนนาย คนอย่างเขาคู่ควรแก่การกราบไหว้หรือ สมควรถูกสับเป็นหมื่นชิ้นต่างหาก”

“ที่ข้าทำเช่นนี้ ก็แค่ทำตามความต้องการของชาวบ้าน หากเหล่าไท่จวินดึงดันขัดขวาง อย่าหาว่าข้าไม่เกรงใจ”

เมื่อพูดจบเขายื่นมือไปผลักเหล่าไท่จวิน เยียนเซียวหรานรีบรับตัวไว้ทันที แล้วยกขาถีบหนิวกงกงจนล้มลงบนพื้น

ตั้งแต่เยียนอ๋องตายไป เยียนเซียวหรานก็อดกลั้นมาตลอด เมื่ออดทนมาถึงตอนนี้ เขาทนไม่ไหวแล้วจริงๆ

หนิวกงกงโมโห “คุณชายสามลงมือกับข้า คิดจะขัดราชโองการหรือ?”

“ทหาร จับตัวเขาเดี๋ยวนี้”

เขาไม่เคยมีความบาดหมางกับจวนเยียนอ๋อง ครั้งนี้มาเพราะได้รับบัญชาเท่านั้น

ตอนนี้ไม่มีหลักฐานยืนยันว่าจวนเยียนอ๋องขายขาติ สิ่งที่เขาต้องทำคือยั่วโมโหทุกคนในจวน ให้พวกเขาลงมือต่อต้าน

ขอเพียงพวกเขากล้าลงมือ เขาจึงจะสามารถตั้งความผิดข้อหาขัดราชโองการกับขายชาติให้ทุกคนในจวนได้

เมื่อถูกตั้งข้อหารุนแรงเช่นนี้ คนในจวนเยียนอ๋องต้องถูกประหารเก้าชั่วโคตรแน่นอน

และวิธีที่ง่ายที่สุดที่จะทำให้คนในจวนเยียนอ๋องต่อต้าน คือการทำลายศพของเยียนอ๋อง

เพราะเมื่อใดที่ลงมือกับศพของเยียนอ๋อง ทั่วทั้งจวนเยียนอ๋องต้องเดือดดาล เขาถึงจะสามารถตั้งข้อหาได้

ขณะนี้เรื่องราวกำลังเป็นไปตามที่เขาคาดการณ์ ในแววตาเขามีแต่ความดีใจ ราวกับมองเห็นศพกลาดเกลื่อนทั่วจวนเยียนอ๋อง

เหล่าไท่จวินยืนขวางทหารองครักษ์อยู่ตรงกลาง “กงกง มีเรื่องใดค่อยพูดค่อยจากันดีๆ เถิด”

หนิวกงกงตั้งใจมาหาเรื่องอยู่แล้ว จะไปค่อยพูดค่อยจากับคนในจวนเยียนอ๋องได้อย่างไร

เขาแอบดึงมีดสั้นเล่มหนึ่งออกมา คิดจะแทงเหล่าไท่จวิน ขอเพียงเลือดตกยางออก เรื่องในวันนี้คงไม่อาจจบลงด้วยดี

ทว่าเขายังไม่ทันได้เข้าใกล้เหล่าไท่จวิน พลันรู้สึกปวดร้าวที่ท้ายทอย

เมื่อเขายื่นมือไปจับ มันบวมจนกลายเป็นก้อน

เขาเอ่ยอย่างแค้นเคือง “ผู้ใดกัน?”

วินาทีต่อมา เขารู้สึกปวดที่มือ จากนั้นมือที่จับมีดสั้นกระตุก แล้วมีดก็ตกลงบนพื้น

เมื่อเยียนเซียวหรานเห็นมีดสั้น เข้าใจจุดประสงค์ของหนิวกงกงทันที ในดวงตาเขาเต็มไปด้วยจิตสังหาร

เหล่าไท่จวินกลับขวางเขาเอาไว้ แล้วส่ายหน้า

หากตอนนี้ต่อสู้กับหนิวกงกง ถือว่ายื่นชนักของตนไปให้อีกฝ่ายถือไว้

เยียนเซียวหรานเข้าใจเหตุผลนี้ดี จึงได้แต่อดกลั้นความโกรธเอาไว้

หนิวกงกงตะโกนเสียงดัง “หมาบ้าที่ไหนกล้าทำร้ายข้า!”

เสียงหญิงสาวใสกังวานดังขึ้น “เจ้าช่างบังอาจยิ่งนัก ถึงกับกล้าด่าทออดีตฮ่องเต้และฝ่าบาท!”

ซือเจ๋อเยว่เอามือไพล่หลังข้างหนึ่ง แล้วเดินเข้ามาอย่างเชื่องช้า

เยียนเซียวหรานและเหล่าไท่จวินต่างแปลกใจเมื่อเห็นซือเจ๋อเยว่ นางไปแล้วไม่ใช่หรือ? แล้วย้อนกลับมาทำไม?

หนิวกงกงไม่รู้จักนาง จึงเอ่ยเสียงเย็น “เจ้าคือผู้ใด?”

ซือเจ๋อเยว่ไม่ตอบคำถามของเขา แต่กลับเดินไปข้างกาย แล้วฟาดลงไปบนใบหน้าของเขาหลายฝ่ามือ

เมื่อทหารองครักษ์เห็นดังนั้น จึงชักดาบและฟันไปที่นาง

ระหว่างที่พวกเขาฟันดาบลงมา นางรีบยกมือขึ้น แล้วเผยให้เห็นป้ายตรงเอวสีทองวิบวับ

บนป้ายมีตัวอักษรโดดเด่นสี่พยางค์ ดั่งเจิ้น[1]มาเยือน

เหล่าทหารองครักษ์ตกใจจนสะดุ้ง ไม่มีใครกล้าลงมืออีกต่อไป พากันคุกเข่าทันที

หนิวกงกงมองซือเจ่อเยว่อย่างตระหนก “ท่านคือองค์หญิงเจ๋อเยว่หรือ?”

ซือเจ๋อเยว่มองเขาด้วยดวงตาเย็นชา จากนั้นเอ่ยขึ้น “คุกเข่า!”

หนิวกงกงเคยได้ยินเรื่องราวของนางมาก่อน จึงไม่เห็นอีกฝ่ายอยู่ในสายตา นางจึงนำป้ายทองคำฟาดใส่หน้าหนิวกงกง

ป้ายทองคำค่อนข้างมีน้ำหนัก แต่นางกลับนำมาใช้แทนอิฐ เมื่อฟาดลงไปอย่างนั้น จึงทำให้หน้าผากของหนิวกงกงมีเลือดออก

หลังจากฟาดเสร็จ นางได้ใช้ป้ายทองคำฟาดไปที่หัวไหล่หนิวกงกง จนทำให้เปลวไฟวิญญาณตรงหัวไหล่เขาดับมอด พลังหยิน[2]จึงมารวมตัวกันที่เขา

นางตวาด “คุกเข่า!”

นางดูทรงพลังมาก หนิวกงกงมองดูป้ายทองคำ แต่ก็มองนางไม่ออก จึงได้แต่คุกเข่าลงพื้นอย่างไม่เต็มใจ

------------------------------------------------------------------------

[1] เจิ้น สรรพนามที่ฮ่องเต้ใช้แทนตัวเอง แปลว่าข้าพเจ้า

[2] พลังหยิน พลังความเย็นในลัทธิเต๋า
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 381  

    เขาจ้องมองนางด้วยสายตาเย็นชา "เป็นข้าที่ไร้เดียงสาเกินไป คิดว่าเรื่องราวระหว่างเราจะต่างออกไป" "แต่ข้ากลับลืมไปว่า เจ้าเป็นคนของสำนักเต๋า เราสองคนก็อยู่กันคนละฝ่ายตั้งแต่แรกเริ่ม" "ซือเจ๋อเยว่ ตั้งแต่นี้ไปข้าขอตัดขาดจากเจ้า หากพบกันอีก ข้าจะฆ่าเจ้าแน่นอน!" เมื่อเอ่ยจบเขาก็หยิบของสิ่งหนึ่งจากร่างกายแล้วขว้างออกไป สิ่งนั้นทำหน้าที่รับแรงโจมตีจากค่ายกลแทนเขา ก่อนที่ตัวเขาจะพุ่งออกจากค่ายกลราวกับดาวตกก็ไม่ปาน ซือเจ๋อเยว่รีบไล่ตามออกไป แต่ภายนอกกลับไร้เงาของไป๋จื้อเซียน นางรู้สึกเป็นกังวลอย่างยิ่ง วันนี้เขาเข้าใจนางผิด แล้วจากไปเช่นนี้ ภายภาคหน้าก็ไม่อาจล่วงรู้เลยว่าจะเกิดอันใดขึ้นอีก ยังดีที่เขาเคยสาบานต่อสวรรค์ ว่าจะไม่สังหารผู้บริสุทธิ์ อย่างน้อยสถานการณ์ก็ยังไม่เลวร้ายถึงระดับนั้น แต่เมื่อความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาขาดสะบั้นในบัดนี้ ด้วยนิสัยของเขา ย่อมต้องหาหนทางสังหารนางให้ได้อย่างแน่นอน! นางคิดว่าตนเองยังคงประเมินไป๋จื้อเซียนต่ำเกินไป คิดไม่ถึงว่าเขาจะสามารถหลบหนีออกจากค่ายกลพิทักษ์ขุนเขาได้ เยียนเซียวหรานถามขึ้น "เมื่อครู่นี้เกิดอันใดขึ้น?" ซือเจ๋อเยว่ถอนหายใจ "ตุ๊

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 380

    ซือเจ๋อเยว่ประหลาดใจเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากตุ๊กตาดินเผาเหล่านี้นับหลังจากตั้งแต่ที่อาจารย์สามปั้นเสร็จแล้ววางไว้ที่นี่ ก็ไม่เคยมีความรู้สึกอะไรนางคิดมาตลอดว่าอาจารย์สามทำเช่นนี้เพราะจะหยอกนางเล่น ไม่คิดเลยว่าจนกระทั่งวันนี้จะมีความเคลื่อนไหวแล้วที่ประตูมีเสียงของไป๋จื้อเซียนดังลอยเข้ามา “เจ้าล่อลวงข้ามาที่นี่ ก็เพราะอยากจะฆ่าข้าใช่หรือไม่?”ซือเจ๋อเยว่หันหน้ากลับไปมองก็เห็นไป๋จื้อเซียนยืนอยู่ที่หน้าประตู ตุ๊กตาดินเผาเหล่านั้นรวมตัวกันกลายเป็นค่ายกล จะจัดการกับเขาหลังจากที่วันนี้เขาเดินเข้ามาในสำนักเต๋า ความสามารถทุกด้านก็ถูกลดทอนลง ตุ๊กตาดินเผาเหล่านี้ยังเป็นตุ๊กตาที่อาจารย์สามปั้นขึ้นเองกับมืออีกด้วย ด้านในมีค่ายกลที่ร้ายแรงเป็นอย่างยิ่งซ่อนอยู่ไป๋จื้อเซียนในเวลานี้ถูกค่ายกลนี้ขังเอาไว้ ไม่สามารถดิ้นให้หลุดได้เขาเกิดความสงสัยมาก ประกอบกับก่อนหน้านี้ซือเจ๋อเยว่อยากจะจัดการเขามาตลอด เขาจึงคิดว่านางเป็นผู้ควบคุมให้ตุ๊กตาดินเผาเหล่านี้มาจัดการเขาก่อนหน้านี้ซือเจ๋อเยว่เคยคิดอยากจะจัดการเขาในสำนักเต๋าจริง ๆ แต่เป็นครั้งนี้ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับนางจริง ๆเป็นเพราะร่างกายที่พิเศษเ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 379

    ความทรุดโทรมนี้เริ่มปรากฏตั้งแต่ประตูเขาที่เก่าและทรุดโทรม ยาวไปตลอดทางจนถึงกระทั่งถึงโถงใหญ่ของสำนักเต๋าด้านในก็มีเพียงรูปหล่องทองคำปรมาจารย์เต๋าที่ยังมีสภาพดีอยู่เพียงเท่านั้น อาคารอื่น ๆ ของวัดก็สามารถใช้คำว่าชำรุดทรุดโทรมมาบรรยายได้เมื่อซือเจ๋อเยว่กลับมา นักพรตเต๋ารุ่นเยาว์ที่เฝ้าภูเขาก็กระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจ “ศิษย์พี่หญิงใหญ่ ท่านกลับมาแล้ว ไม่ไปไหนแล้วใช่หรือไม่?”ซือเจ๋อเยว่ได้ยินก็กล่าวพร้อมรอยยิ้ม “ข้าอาศัยคืนเดียวก็จะไปแล้ว”ใบหน้าของนักพรตเต๋ารุ่นเยาว์ก็มีสีหน้าผิดหวังปรากฏขึ้นมาทันที นางหยิบทองหนึ่งกำมือออกมาจากมิติคาถาเต๋าแล้วมอบให้เขา “ค่าอาหารของปีนี้”นักพรตเต๋ารุ่นเยาว์ใช้สองมือรับทองคำ ใบหน้ามีรอยยิ้มขึ้นมาทันที “อย่างไรเสียศิษย์พี่หญิงใหญ่ก็เก่งกาจ!”สำนักเต๋าผ่านไปด้วยความยากลำบากมาก ทองคำเหล่านี้เมื่อแลกเป็นเงินก็ได้หลายพันตำลึง เพียงพอที่จะให้พวกเขามีกินได้ถึงสิ้นปีซือเจ๋อเยว่ถามเขา “พวกอาจารย์ออกจากสำนักเต๋าตั้งแต่เมื่อใด?”นักพรตเต๋ารุ่นเยาว์ “ทันทีที่ศิษย์พี่หญิงใหญ่ออกไปจากสำนักเต๋า เจ้าสำนักพวกเขาก็ไปแล้ว”ซือเจ๋อเยว่ขมวดคิ้ว “พวกเขาได้บอกหรือไ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 378

    ซือเจ๋อเยว่เผชิญหน้ากับสายตาที่แฝงไปด้วยความน้อยใจของไป๋จื้อเซียน นางมีความรู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออกด้วยท่าทางเช่นนี้ของเขา เกรงว่าคนที่ไม่รู้จะคิดว่าพวกเขากำลังสุมหัวกันกลั่นแกล้งเขาแต่เรื่องจริงคือเขาเกือบทำให้พวกเขาต้องติดกับดักจนตายในเวลานี้นางจำต้องกล่าว “ขอบคุณคุณชายไป๋มาก”ไป๋จื้อเซียนมองนางด้วยสีหน้าน่าสงสารพร้อมกล่าว “เมื่อครู่นี้เจ้าดุข้า”ซือเจ๋อเยว่ “...”นางสูดหายใจในใจทีหนึ่ง เจ้าหมอนี่แสดงละครเก่งมาก!นางยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย “ข้ามีนิสัยใจร้อน เวลามองอะไรก็มักจะมองแค่สถานการณ์ที่อยู่ตรงหน้า ไม่สู้คุณชายไป๋ที่มองการณ์ไกล”“คุณชายไป๋คาดการณ์เรื่องราวที่จะเกิดขึ้นในตอนหลังได้ตั้งแต่แรกแล้ว ข้าชื่นชมตบะอันล้ำลึกทำให้ข้านับถือจากใจจริง”“ครั้งหน้าหากยังมีเรื่องแบบเดียวกันอีก คุณชายไป๋ได้โปรดแจ้งให้ทราบล่วงหน้าเสียหน่อย พวกเราจะได้ร่วมมือกันได้ดี”นางพูดจบก็ยิ้มให้เขาเล็กน้อย “คุณชายไป๋ช่วยพวกเราคำนวณดูหน่อยได้หรือไม่ พวกเรากลับเมืองหลวงครั้งนี้ จะล้มจวนหนิงกั๋วกงได้หรือไม่?”ไป๋จื้อเซียน “...”ถึงแม้เขาจะมีชีวิตอยู่มาหนึ่งพันปีแล้วก็ตาม เรียนรู้เพียงความสามารถฆ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 377

    “ถึงแม้วันนี้ข้ากับชื่อปาเลี่ยจะบุกฝ่าออกมาได้ แต่ก็เกือบเอาชีวิตไม่รอด”“การล้อเล่นแบบนี้ อย่างไรคุณชายไป๋ช่วยลดลงหน่อยจะดีมาก”ไป๋จื้อเซียนจ้องมองเขาด้วยสายตาเย็นชา เขาหันหน้าไปมองไป๋จื้อเซียน โดยไม่ยอมอ่อนข้อเลยแม้แต่น้อยชื่อปาเลี่ยที่อยู่ข้าง ๆ พูดไกล่เกลี่ย “ครั้งนี้พวกข้าไม่เป็นอะไร อย่างไรก็ช่างเถอะ”ความโกรธที่ไป๋จื้อเซียนมีอยู่มากมายไม่มีที่ระบาย ยกมือขึ้นแล้วสะบัดทำให้ชื่อปาเลี่ยลอยกระเด็นออกไปชื่อปาเลี่ย “!!!!!”หากวันหลังเขายังกล้าสอดเรื่องของพวกเขาอีก เขาก็คือก็คือไอ้ลูกหมา!เขากระแทกลงบนพื้นอย่างแรง ร้องโอ๊ยออกมาทีหนึ่งซือเจ๋อเยว่รีบยื่นมือออกไปประคองชื่อปาเลี่ย “เจ้าไม่เป็นอะไรใช่หรือไม่?”ชื่อปาเลี่ยกุมหน้าอกกล่าว “ข้าเจ็บหน้าอกนิดหน่อย”ในระหว่างที่พูดเขารู้สึกผิดปกติบริเวณหน้าอก ยื่นมือออกไปแล้วล้วง ไม่คิดเลยว่าจะควักสมุดบันทึกเล็ก ๆ เล่มหนึ่งออกมาจากข้างใน “นี่มันอะไรกัน?”หลังจากซือเจ๋อเยว่รับมาก็เปิดสมุดบันทึกเล่มเล็ก พบว่าเป็นสำเนาคำสั่งเคลื่อนย้ายฉบับนั้นที่เยียนอ๋องซื่อจื่อกล่าวไว้นางทั้งตกใจทั้งดีใจ “นี่คือสำเนาคำสั่งเคลื่อนย้าย!”เยียนเซียวหรา

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 376

    ซือเจ๋อเยว่รีบกล่าว “ข้าไม่เป็นอะไร”นางพูดจบก็กล่าวด้วยสีหน้าเป็นกังวล “เจ้าได้รับบาดเจ็บหรือ?”เยียนเซียวหรานยิ้มเล็กน้อย “ข้าไม่เป็นอะไร”เขาพูดจบก็ประสานมือคำนับไป๋จื้อเซียนกล่าว “ขอบคุณคุณชายไป๋ที่พาองค์หญิงออกมาได้อย่างปลอดภัย ทำให้ข้าไม่ต้องเป็นพะวงที่จะบุกฝ่ากองทัพออกมา”สีหน้าของไป๋จื้อเซียนเปลี่ยนไปเล็กน้อย เรื่องนี้เขาวางแผนทำร้ายเยียนเซียวหราน เยียนเซียวหรานขอบคุณเขาจึงทำให้เขารู้สึกไม่สบายเป็นอย่างมากยังมีท่าทีของซือเจ๋อเยว่อีก ในดวงตาของนางมีเพียงเยียนเซียวหรานเท่านั้น ไม่มีเขาเลยแม้แต่น้อยความรู้สึกแบบนี้ทำให้ไป๋จื้อเซียนไม่พอใจเป็นอย่างยิ่งเขารู้สึกไม่พอใจ จึงอยากจะทำร้ายชื่อปาเลี่ยอีกครั้งดวงตาของเขากวาดมองไปยังชื่อปาเลี่ย ชื่อปาเลี่ยได้หลบไปอยู่ที่ด้านหลังของซือเจ๋อเยว่อย่างรวดเร็ว “คุณชายไป๋จะทำร้ายข้า องค์หญิงช่วยด้วย!”ซือเจ๋อเยว่รู้ว่าไป๋จื้อเซียนมีนิสัยขี้โมโห เขาติดตามอยู่ข้าง ๆ พวกเขา ก็ไม่ต่างอะไรกับระเบิดเวลา ไม่รู้ว่าจะเบิดขึ้นเมื่อไหร่เพียงแต่หากปล่อยเขาไป วันข้างหน้าก็ไม่รู้ว่าเขาจะก่อเหตุวุ่นวายอะไรขึ้นอีกนางคิดว่า อย่างไรเสียก็ต้องคิดหาว

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status