หลังจากเหตุการณ์ที่คริสเตียนแสดงความหึงหวงอย่างชัดเจนต่อหน้า ลีโอและนิคทำให้แพรไหมเริ่มรับรู้ถึงความรู้สึกที่ซับซ้อนภายในใจของคริสเตียน เธอเห็นถึงความปรารถนาที่จะครอบครองที่รุนแรงของเขา แต่ในขณะเดียวกัน ก็สัมผัสได้ถึงความเปราะบางที่ซ่อนอยู่ภายใต้ท่าทีแข็งกร้าวเหล่านั้น
ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ยังคงเป็นไปอย่างค่อยเป็นค่อยไป คริสเตียนยังคงแสดงความเป็นเจ้าของผ่านการกระทำมากกว่าคำพูด แต่แพรไหมก็เริ่มรู้สึกว่าเธอไม่ได้เป็นเพียง "สิ่งของ" ที่ถูกซื้อมาอีกต่อไป
ทว่า ความรู้สึกสบายใจที่เริ่มก่อตัวขึ้นนั้นไม่ได้คงอยู่นาน ความคิดหนึ่งได้ผุดขึ้นมาในใจของแพรไหมอย่างไม่ทันตั้งตัว ‘ทำไมถึงเป็นฉัน? ทำไมคริสเตียนถึงเลือกผู้หญิงธรรมดาๆ อย่างฉันเข้ามาในชีวิตที่เต็มไปด้วยอำนาจและความมืดมิดของเขา’ คำถามนี้วนเวียนอยู่ในหัวของแพรไหมไม่หยุดหย่อน มันเป็นคำถามที่เธอพยายามจะหลีกเลี่ยงมาโดยตลอด แต่ยิ่งนานวันเข้า เธอก็ยิ่งรู้สึกว่ามันเป็นสิ่งสำคัญที่เธอต้องหาคำตอบ
แพรไหมเริ่มสังเกตพฤติกรรมของคริสเตียนอย่างละเอียดมากขึ้น เธอพยายามมองหาความเชื่อมโยงบางอย่าง หรือสัญญาณที่อาจจะบอกเธอได้ถึงเหตุผลที่แท้จริง เขาไม่เคยพูดถึงเรื่องส่วนตัวของเขามากนัก และดูเหมือนจะเก็บงำความลับบางอย่างไว้ลึกๆ แพรไหมรู้สึกว่ายิ่งเธอพยายามทำความเข้าใจเขามากเท่าไหร่ เธอก็ยิ่งรู้สึกว่าเขาลึกลับมากขึ้นเท่านั้น
แรงกระตุ้นให้สืบหาความจริงเริ่มมีมากขึ้นทุกวัน แพรไหมรู้ดีว่าการกระทำของเธอนั้นอันตราย แต่ความอยากรู้ก็มีมากกว่าความกลัว เธอเริ่มจากการสังเกตสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ในคฤหาสน์ ทุกตารางนิ้วของบ้านหลังนี้ดูเหมือนจะเต็มไปด้วยความลับ และความลับที่ใหญ่ที่สุดก็คือ ครอบครัวคาร์ดินัล นั่นเอง
วันหนึ่ง แพรไหมเดินเข้าไปในห้องสมุด เธอไม่ได้ตั้งใจจะค้นหาอะไรเป็นพิเศษ เพียงแค่อยากหลีกหนีจากความอึดอัดที่ครอบงำจิตใจ ทว่าสายตาของเธอกลับไปสะดุดเข้ากับหนังสือเล่มหนึ่งที่วางอยู่บนชั้น หนังสือเล่มนั้นมีปกเก่าคร่ำคร่า ดูเหมือนจะไม่ใช่หนังสือที่คริสเตียนจะสนใจ แพรไหมหยิบมันขึ้นมาอย่างลังเล และเปิดดูอย่างช้าๆ
สิ่งที่ปรากฏอยู่ด้านในไม่ใช่เรื่องราวหรือวรรณกรรม แต่เป็นภาพถ่ายเก่าๆ ภาพเหลืองซีดที่บ่งบอกถึงกาลเวลา แพรไหมเห็นภาพชายหญิงคู่หนึ่งยืนยิ้มอยู่ข้างกัน พวกเขาดูมีความสุขมาก แพรไหมจำได้ว่าผู้หญิงในภาพนั้นคือแม่ของคริสเตียนตามภาพที่เธอเคยเห็นเพียงเสี้ยวนาทีในห้องทำงานของเขา ส่วนผู้ชายที่ยืนอยู่ข้างๆ นั้นคือ บิดาของคริสเตียน ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งอาณาจักรคาร์ดินัล แพรไหมพลิกหน้าต่อไปเรื่อยๆ เธอพบภาพของคริสเตียนในวัยเด็ก เขายิ้มแย้มสดใส ผิดกับภาพลักษณ์ในปัจจุบันราวฟ้ากับเหว
ในภาพหนึ่ง แพรไหมเห็นภาพของเด็กชายสองคนยืนอยู่ข้างกัน คนหนึ่งคือคริสเตียน ส่วนอีกคนคือ นิค ที่เธอกำลังคุยด้วย ภาพนั้นแสดงให้เห็นถึงความผูกพันในวัยเด็กของทั้งคู่ ก่อนที่จะมีรอยร้าวอย่างที่เธอเห็นในปัจจุบัน แพรไหมรู้สึกสนใจเป็นพิเศษกับภาพที่แสดงให้เห็นถึงความสุขในอดีตของครอบครัวคาร์ดินัล ซึ่งมันตรงกันข้ามกับบรรยากาศที่อึมครึมในปัจจุบันอย่างสิ้นเชิง
แพรไหมยังคงพลิกหน้ากระดาษไปเรื่อยๆ จนกระทั่งเธอพบภาพหนึ่งที่ทำให้หัวใจของเธอเต้นรัว ภาพนั้นเป็นภาพของ ผู้หญิงคนหนึ่งที่หน้าตาคล้ายเธอมาก เธอกำลังยืนอยู่ข้างคริสเตียนในวัยหนุ่ม ทั้งคู่ดูสนิทสนมกันอย่างมาก ใบหน้าของคริสเตียนในภาพนั้นดูอ่อนโยนและมีความสุขอย่างที่เธอไม่เคยเห็นมาก่อนในตัวเขา ดวงตาของแพรไหมเบิกกว้างด้วยความตกใจ เธอรู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างกำลังบีบรัดหัวใจของเธอ ภาพนั้นดูคล้ายกับรูปที่เธอเคยเห็นในห้องทำงานของคริสเตียน
‘หรือว่า…นี่คือเหตุผลที่คริสเตียนเลือกฉัน?’ ความคิดนี้ผุดขึ้นมาในหัวของแพรไหมอย่างรวดเร็ว เธอเริ่มเชื่อมโยงเรื่องราวต่างๆ เข้าหากัน และรู้สึกว่าคำตอบที่เธอสงสัยมาตลอดนั้นอาจจะอยู่ตรงหน้าเธอแล้ว
ทันใดนั้น เสียงเปิดประตูก็ดังขึ้น ทำให้แพรไหมสะดุ้งสุดตัว เธอรีบปิดหนังสือและวางมันลงบนชั้นอย่างรวดเร็ว คริสเตียน เดินเข้ามาในห้องสมุด ใบหน้าของเขาดูเรียบเฉยเช่นเคย แต่ดวงตาคมกริบของเขากวาดมองแพรไหมด้วยความสงสัย
“ทำอะไรอยู่” คริสเตียนถามเสียงต่ำ
แพรไหมพยายามควบคุมน้ำเสียงไม่ให้สั่น “อ่านหนังสือค่ะ”
คริสเตียนเดินเข้ามาใกล้ชั้นหนังสือที่แพรไหมเพิ่งวางหนังสือลง เขาเหลือบมองหนังสือเล่มนั้น ก่อนจะหันมามองแพรไหมด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยคำถาม แพรไหมรู้สึกเหมือนถูกจับได้ว่ากำลังทำอะไรบางอย่างที่เธอไม่ควรทำ
“หนังสือเล่มนี้…คุณอ่านมันเหรอ” คริสเตียนถามเสียงเรียบ แต่แววตาของเขาบ่งบอกถึงความไม่พอใจ
แพรไหมรู้สึกหวาดกลัว เธอรู้ว่าเธอได้ก้าวล้ำเส้นบางๆ ที่ไม่ควรข้ามไปแล้ว “ฉัน…ฉันแค่หยิบมาดูค่ะ ไม่ได้ตั้งใจจะ…”
คริสเตียนไม่รอให้แพรไหมพูดจบ เขาดึงหนังสือเล่มนั้นออกจากชั้นอย่างรวดเร็ว แพรไหมเห็นภาพที่เปิดค้างอยู่ในหนังสือ และสีหน้าของคริสเตียนก็เปลี่ยนไปทันที ดวงตาของเขาแดงก่ำไปด้วยความโกรธและความเจ็บปวด
“คุณเห็นอะไร” คริสเตียนถามเสียงต่ำ น้ำเสียงของเขาเย็นยะเยือกจนแพรไหมรู้สึกหนาวไปถึงกระดูก
แพรไหมรู้สึกถึงความกลัวที่ถาโถมเข้ามา เธอพยายามจะถอยหนี แต่คริสเตียนก็คว้าแขนของเธอไว้แน่น
“ตอบผม! คุณเห็นอะไรในหนังสือเล่มนี้!” คริสเตียนถามเสียงดังขึ้น
แพรไหมกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก “ฉัน…ฉันเห็นรูปผู้หญิงคนหนึ่ง…เธอ…เธอหน้าตาเหมือนฉันมาก”
คริสเตียนกำมือแน่น ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความโกรธและความเจ็บปวด “คุณไม่ควรเห็นมัน!”
เขาโยนหนังสือเล่มนั้นลงบนพื้นอย่างแรง ทำให้หน้ากระดาษขาดกระจุย แพรไหมตกใจกับท่าทีของเขา เธอไม่เคยเห็นคริสเตียนแสดงอารมณ์รุนแรงขนาดนี้มาก่อน
“คุณอยากรู้ใช่ไหม” คริสเตียนพูดเสียงต่ำ ดวงตาของเขาจ้องลึกเข้าไปในดวงตาของแพรไหม “คุณอยากรู้ใช่ไหมว่าทำไมผมถึงเลือกคุณ”
แพรไหมพยักหน้าอย่างช้าๆ เธอรู้สึกถึงความกลัว แต่ความอยากรู้ก็มีมากกว่า
คริสเตียนหัวเราะอย่างเจ็บปวด “เพราะคุณเหมือนเธอ…เหมือนผู้หญิงคนนั้นที่ผมรัก…และเธอทิ้งผมไป”
คำพูดของคริสเตียนเหมือนฟ้าผ่าลงกลางใจของแพรไหม เธอรู้สึกเหมือนถูกตบหน้าอย่างแรง เธอไม่เคยคิดว่าเหตุผลที่คริสเตียนเลือกเธอเข้ามาในชีวิตจะเป็นเรื่องแบบนี้ เธอเป็นเพียงตัวแทนของใครบางคน และนั่นทำให้เธอรู้สึกเจ็บปวดอย่างรุนแรง
“คุณ…คุณหมายความว่ายังไงคะ” แพรไหมถามเสียงสั่น
คริสเตียนมองแพรไหมด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดและโกรธแค้น
“เธอคือ ลิเดีย เธอคือผู้หญิงที่ผมรักสุดหัวใจ แต่เธอกลับทิ้งผมไปเพื่อผู้ชายคนอื่น…และเธอก็เหมือนคุณมาก”
คำพูดของคริสเตียนทำให้แพรไหมน้ำตาไหล เธอรู้สึกเจ็บปวดอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เธอไม่สามารถทำใจยอมรับความจริงข้อนี้ได้ เธอเป็นเพียงตัวแทน เป็นแค่เงาของใครบางคน
“คุณหลอกฉัน!” แพรไหมพูดด้วยน้ำเสียงโกรธ
“คุณหลอกให้ฉันเข้ามาในชีวิตของคุณเพื่อเป็นแค่ตัวแทนของใครบางคน!”
คริสเตียนเงียบไป ใบหน้าของเขาแสดงออกถึงความเจ็บปวดอย่างชัดเจน เขาไม่เคยคิดว่าความจริงจะทำร้ายแพรไหมได้มากขนาดนี้
“ผมไม่ได้หลอกคุณ” คริสเตียนพูดเสียงต่ำ
“ผมแค่อยากให้คุณอยู่ข้างผม”
“แต่คุณไม่ได้รักฉัน!” แพรไหมตะโกน
“คุณแค่ต้องการฉันเพราะฉันเหมือนเธอ! คุณไม่เคยเห็นฉันเป็นตัวฉันเลย!”
คริสเตียนเดินเข้ามาใกล้แพรไหม เขาดึงร่างของเธอเข้ามากอดแน่น แพรไหมพยายามขัดขืน แต่เขาก็กอดเธอแน่นขึ้น
“ผมไม่รู้ว่าผมรู้สึกยังไงกับคุณ แพรไหม” คริสเตียนกระซิบเสียงแหบพร่า
“แต่ผมต้องการคุณ…ผมต้องการให้คุณอยู่ข้างผม”
แพรไหมร้องไห้อยู่ในอ้อมกอดของคริสเตียน เธอรู้สึกสับสนกับความรู้สึกของตัวเอง เธอทั้งโกรธ เสียใจและเจ็บปวด แต่ในขณะเดียวกัน เธอก็รู้สึกถึงความอบอุ่นและความต้องการที่คริสเตียนมีให้เธอ
คริสเตียนลูบหลังแพรไหมเบาๆ เขาไม่รู้จะปลอบโยนเธออย่างไร เขารู้ว่าความจริงที่เปิดเผยออกมานั้นทำร้ายแพรไหมมากแค่ไหน แต่เขาก็ไม่สามารถปิดบังมันไว้ได้อีกต่อไป
“ลิเดีย…เธอเป็นน้องสาวของผม” คริสเตียนพูดเสียงแผ่ว
“น้องสาวที่ผมรักมากที่สุด…แต่เธอกลับหนีไปกับผู้ชายคนอื่น”
คำพูดของคริสเตียนทำให้แพรไหมหยุดร้องไห้ เธอเงยหน้าขึ้นมองเขาด้วยความตกใจ “น้องสาว?”
คริสเตียนพยักหน้า “ใช่…เธอคือน้องสาวของผม”
แพรไหมรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจะล้มลง เธอไม่เคยคิดว่าเรื่องราวจะเป็นแบบนี้ เธอเข้าใจผิดมาตลอด
“เธอหนีไปกับคนที่ตระกูลคาร์ดินัลไม่ต้องการ” คริสเตียนพูดต่อ
“และนั่นทำให้พ่อผมเสียใจมาก…จนทำให้สุขภาพท่านทรุดลง”
แพรไหมฟังเรื่องราวของคริสเตียนด้วยความรู้สึกที่ปะปนกันไป เธอรู้สึกผิดที่เข้าใจผิดเขามาตลอด และรู้สึกสงสารคริสเตียนที่ต้องแบกรับความเจ็บปวดมานานขนาดนี้
“ผมต้องการคุณ แพรไหม” คริสเตียนกระซิบเสียงทุ้มต่ำ
“เพราะคุณเหมือนเธอ…และผมก็อยากให้คุณมาเติมเต็มช่องว่างในใจของผม”
คำพูดของคริสเตียนทำให้แพรไหมรู้สึกเจ็บปวดอีกครั้ง เธอเป็นแค่ตัวแทน เป็นแค่คนที่จะมาเติมเต็มช่องว่างที่น้องสาวของเขาจากไป
“แล้วฉันล่ะคะ” แพรไหมถามเสียงสั่น
“คุณเคยคิดถึงความรู้สึกของฉันบ้างไหม”
คริสเตียนเงียบไป เขาไม่รู้จะตอบคำถามนี้อย่างไร เขายอมรับว่าเขาไม่ได้คิดถึงความรู้สึกของแพรไหมมากเท่าที่ควร เขาเอาแต่จมอยู่กับความเจ็บปวดของตัวเอง
“ผม…ผมจะพยายาม” คริสเตียนพูดเสียงแผ่วฃ
“ผมจะพยายามทำให้คุณมีความสุข”
แพรไหมมองเข้าไปในดวงตาของคริสเตียน เธอเห็นความเจ็บปวด ความสับสน และความหวังบางอย่างในแววตาของเขา และนั่นทำให้เธอตัดสินใจที่จะให้โอกาสเขาอีกครั้ง
“ฉันจะให้โอกาสคุณค่ะ” แพรไหมตอบเสียงแผ่ว
“แต่คุณต้องพิสูจน์ให้ฉันเห็นว่าฉันไม่ใช่แค่เงาของใครบางคน”
คริสเตียนยิ้มบางๆ เขาเช็ดน้ำตาออกจากใบหน้าของแพรไหมอย่างแผ่วเบา
“ผมจะทำให้คุณเชื่อใจผมให้ได้” คริสเตียนพูด
“ผมจะทำให้คุณรู้ว่าคุณมีความสำคัญกับผมมากแค่ไหน”
แพรไหมซบหน้าลงบนอกของคริสเตียน เธอรู้ว่าเส้นทางข้างหน้ายังอีกยาวไกล และความสัมพันธ์ของพวกเขายังคงเต็มไปด้วยอุปสรรค แต่ในวันนี้ เธอเลือกที่จะเชื่อใจเขา และให้โอกาสความรักที่ไม่สมบูรณ์แบบนี้ได้เติบโตไปพร้อมกับความลับของครอบครัวคาร์ดินัลที่เพิ่งถูกเปิดเผย
ตอนที่ 80 เติมเต็มความสมบูรณ์ของครอบครัวหลังผ่านบทพิสูจน์แห่งผู้นำ และการกอบกู้วิกฤตการณ์ครั้งสำคัญ อเล็กซานเดอร์ ได้รับความไว้วางใจจากทุกฝ่าย แต่สิ่งที่เติมเต็มชีวิตของเขาและ ลลิล ให้สมบูรณ์แบบอย่างแท้จริงคือ ข่าวดีที่สุด ที่พวกเขารอคอยมาตลอด เสียงเล็กๆ ในอนาคตกำลังจะกลายเป็นความจริง และนำพาความสุขมาสู่ตระกูลคาร์ดินัลอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนหลังจากที่ทั้งสองคนได้พูดคุยกันอย่างจริงจังเรื่องการมีทายาท อเล็กซานเดอร์ และ ลลิล ก็เริ่มเตรียมตัวสำหรับการเป็นพ่อแม่ ลลิลเริ่มศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับการตั้งครรภ์และการดูแลทารกอย่างละเอียด ส่วนอเล็กซานเดอร์ก็เริ่มจัดเตรียมห้องเล็กๆ ในคอนโดเพื่อรอรับสมาชิกใหม่ความคาดหวังเพิ่มขึ้นในทุกๆ วัน แต่พวกเขาก็พยายามไม่กดดันตัวเอง จนกระทั่งเช้าวันหนึ่ง ลลิลรู้สึกไม่สบายตัว อาการคลื่นไส้และอ่อนเพลียทำให้เธอสงสัย เธอตัดสินใจใช้ชุดทดสอบการตั้งครรภ์ และผลลัพธ์ที่ปรากฏก็ทำให้หัวใจของเธอเต้นรัวด้วยความสุขและความตื่นเต้นสองขีดสีชมพู ปรากฏชัดเจน ลลิลกรีดร้องด้วยความดีใจ เธอไม่สามารถเก็บความลับนี้ไว้คนเดียวได้ เธอตัดสินใจจะบอกข่าวดีนี้กับอเล็กซานเดอร์ในทันที แต่เธอ
ตอนที่ 79 บทพิสูจน์แห่งผู้นำท่ามกลางความกังวลเรื่องทายาทและความสุขในชีวิตคู่ อเล็กซานเดอร์ ก็ต้องเผชิญกับบททดสอบครั้งสำคัญในบทบาทของผู้นำ นั่นคือการแก้ไขวิกฤตการทุจริตที่เกิดขึ้นในโครงการพัฒนาเทคโนโลยีอัจฉริยะ ความท้าทายนี้ไม่เพียงเป็นการพิสูจน์ความสามารถของเขา แต่ยังเป็นการตอกย้ำถึงคุณธรรมและความโปร่งใสที่ กลุ่มคาร์ดินัล ยุคใหม่ยึดมั่นเมื่อหลักฐานเริ่มชัดเจนว่ามีการทุจริตจริงในบริษัทสตาร์ทอัพที่คาร์ดินัลลงทุนไป อเล็กซานเดอร์ ก็ตัดสินใจดำเนินการอย่างเด็ดขาดและรอบคอบ เขาไม่ได้ต้องการเพียงแค่จับตัวผู้กระทำผิด แต่ต้องการถอนรากถอนโคนปัญหา เพื่อไม่ให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีกในอนาคตอเล็กซานเดอร์เรียกประชุมทีมงานคนสำคัญของคาร์ดินัลที่เกี่ยวข้องกับโครงการนี้ รวมถึง เดฟ และหัวหน้าฝ่ายกฎหมาย เขาเน้นย้ำถึงความสำคัญของการรักษาชื่อเสียงและความโปร่งใสของบริษัท“เราจะไม่ยอมให้การทุจริตใดๆ มาแปดเปื้อนชื่อเสียงของคาร์ดินัลอีกแล้ว” อเล็กซานเดอร์กล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่นในห้องประชุม “เราต้องทำทุกอย่างให้ถูกต้องและเป็นธรรมที่สุด”เขามอบหมายให้ทีมผู้ตรวจสอบบัญชีอิสระที่มีความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี เข้าม
ตอนที่ 78 บททดสอบใหม่และเสียงเล็กๆ ในอนาคตชีวิตคู่ของ อเล็กซานเดอร์ และ ลลิล ดำเนินไปอย่างราบรื่นและอบอุ่น แต่ในโลกของธุรกิจและความรับผิดชอบที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ย่อมมี ความท้าทายใหม่ๆ เข้ามาทดสอบความเข้มแข็งของพวกเขาเสมอ และท่ามกลางความท้าทายเหล่านั้น เสียงเล็กๆ ในอนาคตก็เริ่มดังขึ้นในหัวใจของทั้งคู่ในขณะที่โครงการเยียวยาชุมชนของมูลนิธิคาร์ดินัลดำเนินไปอย่างงดงาม และได้รับคำชื่นชมอย่างกว้างขวาง ปัญหาใหม่กลับเกิดขึ้นภายในอาณาจักรธุรกิจของคาร์ดินัลเองคริสเตียน ได้มอบหมายให้ อเล็กซานเดอร์ เข้ามาดูแลการลงทุนใน โครงการพัฒนาเทคโนโลยีอัจฉริยะ ซึ่งเป็นสาขาใหม่ที่คาร์ดินัลกำลังให้ความสนใจอย่างมาก แต่โครงการนี้กลับประสบปัญหาตั้งแต่เริ่มต้นมีรายงานว่าบริษัทสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยีที่คาร์ดินัลเข้าไปลงทุน มีปัญหาเรื่องการบริหารจัดการภายใน การพัฒนาผลิตภัณฑ์ล่าช้ากว่ากำหนด และที่สำคัญที่สุดคือ มี ข่าวลือเรื่องการทุจริต ของผู้บริหารระดับสูงบางรายในบริษัทนั้น“พ่อว่าเรื่องนี้ต้องตรวจสอบให้ละเอียดเลยนะอเล็กซานเดอร์” คริสเตียนกล่าวด้วยสีหน้าเคร่งเครียดในห้องทำงานของเขา “เราไม่อยากให้ชื่อเสียงของคา
ตอนที่ 77 บทใหม่แห่งชีวิตร่วมหลังพิธีวิวาห์ที่อบอุ่นและเปี่ยมด้วยความหมาย อเล็กซานเดอร์ และ ลลิล ก็ได้เริ่มต้นบทใหม่ของชีวิตในฐานะสามีภรรยาอย่างเป็นทางการ การใช้ชีวิตคู่ไม่ใช่แค่เรื่องของความรักที่โรแมนติก แต่ยังรวมถึงการปรับตัว การเรียนรู้ และการเติบโตไปพร้อมกันในทุกๆ วันชีวิตคู่เริ่มต้นขึ้นที่คอนโดมิเนียมสุดหรูของอเล็กซานเดอร์ ซึ่งบัดนี้กลายเป็น "เรือนหอ" ที่อบอุ่นและเป็นส่วนตัวของพวกเขา แม้จะเคยมาพักอยู่ด้วยกันบ่อยครั้ง แต่การย้ายข้าวของทั้งหมดเข้ามาอยู่ด้วยกันอย่างถาวร ก็เป็นประสบการณ์ที่แตกต่างออกไปลลิลใช้ความสามารถด้านการออกแบบของเธอเข้ามาเนรมิตห้องชุดให้เป็นพื้นที่ที่สะท้อนตัวตนของทั้งคู่ได้อย่างลงตัว เธอเพิ่มความสดชื่นด้วยต้นไม้เล็กๆ และเปลี่ยนผ้าม่านเป็นสีเอิร์ธโทนที่อบอุ่น นอกจากนี้ยังมีมุมเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยหนังสือและงานศิลปะที่เธอชื่นชอบ ทำให้คอนโดแห่งนี้มีชีวิตชีวาและเป็น "บ้าน" อย่างแท้จริง“คุณชอบไหมครับคุณ” อเล็กซานเดอร์ถามด้วยรอยยิ้มหลังจากที่ลลิลจัดข้าวของเสร็จเรียบร้อยลลิลโอบแขนรอบเอวเขา “ฉันชอบมากค่ะที่รัก มันเป็นบ้านของเราจริงๆ”การปรับตัวเข้าหากันในรายละเอียด
ตอนที่ 76 ถักทอความรัก สู่พิธีวิวาห์หลังจากที่ อเล็กซานเดอร์ ได้ขอ ลลิล แต่งงานอย่างเป็นทางการ บรรยากาศของความสุขและความตื่นเต้นก็ปกคลุมไปทั่วคฤหาสน์คาร์ดินัล การเตรียมงานแต่งงานเริ่มต้นขึ้นอย่างเรียบง่าย แต่อบอุ่นและเต็มไปด้วยความหมาย สะท้อนถึงความรักที่มั่นคงและบริสุทธิ์ของทั้งคู่ทั้งอเล็กซานเดอร์และลลิลต่างเห็นพ้องต้องกันว่างานแต่งงานของพวกเขาจะต้อง เรียบง่าย อบอุ่น และเป็นส่วนตัว โดยเน้นไปที่ความหมายและความผูกพันของสองครอบครัวมากกว่าความหรูหราอลังการ“ฉันอยากให้งานแต่งงานของเราเป็นวันที่เราได้แบ่งปันความสุขกับคนที่เรารักและห่วงใยค่ะที่รัก” ลลิลบอกกับอเล็กซานเดอร์ในขณะที่พวกเขากำลังปรึกษากันเรื่องการจัดงานอเล็กซานเดอร์ยิ้ม “ผมก็คิดอย่างนั้นครับคุณ”พวกเขาตัดสินใจที่จะจัดพิธีหมั้นและงานแต่งงานเล็กๆ ที่ คฤหาสน์คาร์ดินัล ซึ่งเป็นสถานที่ที่ลลิลมีความทรงจำดีๆ มากมาย และเป็นเหมือนบ้านอีกหลังของเธอ โดยจะมีเพียงญาติสนิทและเพื่อนสนิทเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ได้รับเชิญแพรไหม ผู้เป็นแม่ของอเล็กซานเดอร์ เป็นผู้ดูแลการเตรียมงานทั้งหมดอย่างละเอียดอ่อน เธอต้องการให้งานแต่งงานของลูกชายออกมาสมบู
ตอนที่ 75 จุดเริ่มต้นแห่งชีวิตคู่หลังจากผ่านพ้นอุปสรรคและร่วมสร้างสรรค์สิ่งดีๆ มาด้วยกัน อเล็กซานเดอร์ ก็ตระหนักแล้วว่า ลลิล คือผู้หญิงที่ฟ้าส่งมาให้เขา เขาไม่ต้องการรออีกต่อไป ถึงเวลาแล้วที่ความรักของพวกเขาจะก้าวไปอีกขั้น สู่การเริ่มต้นชีวิตคู่ที่ชัดเจนและมั่นคงการขอแต่งงานไม่ใช่แค่เรื่องของคำพูด แต่เป็นเรื่องของความรู้สึกและช่วงเวลาที่สมบูรณ์แบบ อเล็กซานเดอร์ใช้เวลาหลายวันในการวางแผน เขาอยากให้การขอแต่งงานครั้งนี้เป็นความทรงจำที่ลลิลจะไม่มีวันลืมเขาปรึกษาเรื่องนี้กับ แพรไหม ผู้เป็นแม่ ซึ่งเป็นคนที่เข้าใจหัวใจของผู้หญิงดีที่สุด“ลูกอยากขอแต่งงานกับลลิลครับแม่” อเล็กซานเดอร์กล่าวด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความสุข “ผมอยากให้มันเป็นอะไรที่พิเศษที่สุดสำหรับเธอ”แพรไหมยิ้มอย่างอ่อนโยน “แม่ดีใจด้วยนะลูก แม่รู้ว่าลลิลคือคนที่ใช่สำหรับลูกจริงๆ”แพรไหมช่วยอเล็กซานเดอร์วางแผนอย่างละเอียด เธอแนะนำให้เขาเลือกสถานที่ที่มีความหมายกับทั้งคู่ และสร้างบรรยากาศที่อบอุ่นและเป็นส่วนตัว อเล็กซานเดอร์คิดถึง บ้านพักที่เขาใหญ่ ซึ่งเป็นสถานที่ที่ความรักของเขาและลลิลเริ่มต้นขึ้นอย่างแท้จริงเขาจัดเตรียมทุกอย่