บัวตองกอดลูกสาวแน่น ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์เมื่อ 12 ปีก่อน เธอก็ใช้ชีวิตอย่างหวาดระแวงมาตลอด ไม่มีความสุขเลยสักวัน ความทุกข์ที่ได้รับเปรียบเสมือนการชดใช้กรรมที่พวกเธอได้ก่อเอาไว้กับครอบครัวของพ่อเลี้ยงสิงหา
“ฮ่า ๆ ฉันมาคิด ๆ ดูแล้ว ถ้าฉันฆ่าพวกแกให้ตาย มันคงดีเกินไปสำหรับคนเลว ๆ อย่างแกเกินไป สู้ทำให้พวกแกอยู่เหมือนกับตายทั้งเป็นไม่ดีกว่าเหรอ”
พ่อเลี้ยงพยัคฆ์ยิ้มที่มุมปากอย่างชั่วร้าย
“แกจะเอายังไงกับฉันว่ามา”
อดีตเสือเมฆกัดฟันพูด แม้จะเจ็บเจียนตาย แต่เพราะศักดิ์ศรีของอดีตเสือเขาจึงไม่ยอมร้องขอชีวิต
“ฉันจะเอาลูกสาวแกไปเป็นตัวประกัน !”
สิ้นคำ มือแกร่งก็กระชากร่างบางออกมาจากอ้อมกอดของผู้เป็นมารดา
“ไม่นะ ! อย่าเอาลูกฉันไป ! ฮือ ๆ”
บังตองร้องไห้ปริ่มใจจะขาด ถลาเข้าไปกราบลงแทบเท้าของซาตานหนุ่ม ผู้กระหายการแก้แค้น
“แม่ ! ไม่ต้องไปกราบขอร้องอ้อนวอนไอ้คนเลว ๆ แบบนี้ !”
เมย์ใช้มือข้างที่เหลือทุบเข้าที่แขนของชายหนุ่ม พร้อมกับกัดลงที่มือเขาเต็มแรง
“โอ๊ย !”
ชายหนุ่มคำรามลั่น พร้อมกับสะบัดมือออกด้วยความเจ็บปวด มือของเขาปรากฏรอยแดงเป็นฟันซี่เล็ก ๆ
เด็กสาวอาศัยจังหวะนั้น ไปพยุงแม่ของตนขึ้นมาแล้วถอยไปอยู่รวมกันกับบิดา
“ศักดิ์ เอาเชือกมัดลูกหมาตัวนี้ไว้ !”
พ่อเลี้ยงพยัคฆ์ตะโกนสั่งสมุนมือขวา จากนั้น ชายรูปร่างสูงใหญ่ ใบหน้าเรียบเฉยก็ตรงเข้าไปมัดมือของเด็กสาวอย่างว่องไว
“ไม่ อย่าทำลูกฉัน”
บัวตองพยายามเข้ามาขัดขวางแต่ถูกลูกน้องอีกคนจับตัวไว้ ส่วนพ่อของเธอนั้นได้แค่ขบกรามแน่น
“ปล่อยฉันนะไอ้พวกชั่ว ! ฉันจะแจ้งตำรวจให้มาลากพวกแกเข้าคุกให้หมด !”
เมย์ร้องลั่น ข้อมือเล็ก ๆ ถูกเชือกปอเส้นโต มัดเข้าหากันจนแน่น
ปัง !
พ่อเลี้ยงพยัคฆ์ยิงปืนขึ้นฟ้า เสียงดังราวกับสายฟ้าพิโรธนั้น ทำให้ทุกคนเงียบสนิท
“เอาสิ แจ้งเลย แจ้งตำรวจ ฉันอยากจะรู้นักว่าระหว่างฉัน กับพ่อของเธอที่ฆ่าล้างโคตรคนในไร่ปลายดาว ตำรวจจะจับใคร !”
ชายหนุ่มกระชากข้อมือเล็กที่ถูกพันธการเอาไว้ขึ้น ร่างบางก็ลอยติดมือเขาขึ้นมาอย่างง่ายดาย
เมย์มองสบตาซาตานตรงหน้า แววตาของเธอวูบไหวกับสิ่งที่ได้ยิน สมองของเธอกำลังถูกโจมตีจากถ้อยคำที่เพิ่งจะได้รับรู้ว่าพ่อของเธอเป็นฆาตกร !
“หากเธอไม่อยากให้พ่อกับแม่เธอตาย ก็ยอมไปกับฉันดี ๆ”
ชายหนุ่มโน้มหน้าลงใกล้ใบหน้าสวย น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความคุกคามจนเด็กสาวตัวสั่นระริก
“หนี้แค้นครั้งนี้ เธอจะต้องชดใช้แทนอย่างสาสม !”
สิ้นคำ พ่อเลี้ยงก็กระชากเชือกที่ผูกข้อมือหญิงสาวรั้งให้หล่อนเดินตามเขาออกไปในฐานะตัวประกัน ก่อนก้าวพ้นประตูออกไปเขาบอกกับสองสามีภรรยาโดยไม่หันกลับมามองว่า
“พวกแกต้องส่งเงินมาให้ฉันเดือนละแสน หากเดือนไหนไม่ได้ เดือนนั้นก็เตรียมรับศพลูกสาวแกไปได้เลย !”
“ไม่นะ ! อย่าเอาลูกฉันไป เมย์ ! ลูกแม่ ! ฮือ ๆ”
บัวตองร้องไห้ปริ่มใจจะขาด ร่างกายไร้เรี่ยวแรงได้แต่มองตามร่างลูกสาวตัวน้อยถูกกระชากลากถูกไปตามทางจนหายลับตาไป
เมื่อคนจากไร่ปลายดาวกลับไปจนหมดแล้ว เสือเมฆก็เข้ามาพยุงคู่ชีวิตให้ลุกขึ้น ซึ่งบัดนี้ดวงตาเหม่อลอยคล้ายกับคนที่เสียสติไปแล้ว
“บัวตอง มีสติหน่อย ลูกสาวเธอยังไม่ได้ตายเสียหน่อย”
คำพูดของเขาทำให้ภรรยามีน้ำตาอีกครั้ง พร้อมกับกรีดร้องออกมาว่า
“คุณรู้ดีแก่ใจใช่ไหมว่าต้องมีวันนี้ ! คุณถึงไม่ยอมพาฉันหนีให้ไกลจากที่นี่ !”
“ใช่ ! ผมรู้ดีว่าสักวันมันต้องมา !”
เสือเมฆยอมรับกับภรรยา เขาหันไปทางอื่นเพราะไม่อยากเห็นน้ำตาของหล่อน
“คุณมันเห็นแก่ตัว !”
เสือเมฆหันกลับมองภรรยา แววตาเขาเต็มไปด้วยความเจ็บปวดไม่แพ้หล่อน ขยับปากเอ่ยว่า
“ถ้าผมไม่เห็นแก่ตัว แล้วมีใครหน้าไหนที่เห็นแก่เราบ้าง !”
เขาอดทนรอคอยมาถึง 12 ปี อะไรที่ควรเป็นของเขาตั้งแต่ต้น เขาก็ควรที่จะได้มันมา !
“นี่ ! มันจะมากไปแล้วนะ !”
เมย์ตะเบ็งเสียงออกมาอย่างไม่พอใจ ดวงตาแดงก่ำด้วยความโกรธ เธอรั้งข้อมือเข้าหาตนเองเพื่อให้ร่างสูงหยุดลากเธอไปขึ้นรถ เมื่อเขาหันมาด้วยใบหน้าเรียบเฉย เธอก็ตะโกนใส่หน้าเขาต่อว่า
“จับฉันไปเป็นทาสแล้วยังจะข่มขู่เอาเงินกับพ่อฉันอีก แบบนี้มันต่างจากพวกโจรชั้นต่ำ รีดไถเงินชาวบ้านตรงไหน !”
“ลูกหมาอย่างเธอมีสิทธิ์อะไรมาต่อรองกับฉัน”
พ่อเลี้ยงพยัคฆ์กระชากเชือกที่ถืออยู่ในมือรั้งร่างบางเข้าใกล้ แล้วเชยคางเธอขึ้นด้วยมืออีกข้างหนึ่ง การกระทำของเขานั้น ทำให้บรรดาลูกสมุนสิบกว่าคนหยุดยืนรายล้อมมองเขาทั้งคู่อย่างสนใจ ยิ่งเมื่อเขาทำท่าเหมือนจะขย้ำสาวน้อยตรงหน้าให้แหลกลาญ พวกมันยิ่งหัวเราะออกมาอย่างครึกครื้น
“แต่สิ่งที่คุณกระทำมันเกินไป”
เมย์ดึงพยายามข้อมือของตนเองกลับเต็มแรงเพื่อให้อยู่ห่างจากเรือนร่างกำยำของเขา ผิวนุ่มเสียดสีกับเชือกหยาบ ๆ รู้เจ็บแสบไปหมดจนต้องกัดฟัน
ทุกคนต่างออกตามหาคุณหนูปลายดาวที่หายตัวไปด้วยความเป็นห่วง ไม่มีใครรู้ไปอยู่ที่ไหน ตะวันใกล้จะตกดินแล้วก็ยังไม่มีใครหาตัวเธอพบ จนกระทั่ง เขาไปพบเธออยู่บนต้นไม้ เด็กน้อยจอมซนขึ้นไปบนต้นไม้แล้วลงมาไม่ได้ ร้องเรียกเขาอย่างสุดเสียงพร้อมกับน้ำตา“พี่พยัคฆ์ช่วยหนูด้วย พี่พยัคฆ์หนูอยู่ตรงนี้ พี่พยัคฆ์”“คุณหนูปลายดาว ไม่ต้องกลัวนะครับ พี่อยู่ตรงนี้ เดี๋ยวพี่รอรับนะ กระโดดลงมาเลย กระโดดครับ”ในขณะนั้นเขาอายุ 20 ปีเป็นชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ ต้นไม้ที่เด็กน้อยขึ้นไปนั้นสูงเพียงแค่เอื้อมมือถึงเมื่อเขาชูมือสูงขึ้น ร่างเล็กตัดสินใจกระโดดเข้าหาอ้อมกอดเขาอย่างไม่ลังเลแม้แต่น้อย เด็กผู้หญิงคนหนึ่งเชื่อมั่นในตัวเขาว่าจะไม่มีทางปล่อยให้เธอได้รับอันตรายแน่ ๆร่างเล็กโอบคอแกร่งเขาไว้พร้อมกับซุกหน้าร้องไห้สะอึกสะอื้นที่บ่าแกร่ง“พี่พยัคฆ์หนูกลัว”เสียงของเด็กน้อยในวันวานซ้อนทับกับหญิงสาวในอ้อมกอดวันนี้ เขาจึงเผลอเอามือขึ้นโอบกอดร่างบางเอาไว้อย่างปลอบประโลม มือหนาลูบแผ่นหลังเย็นเฉียบเบา ๆ คล้ายกับจะให้เธอมั่นใจว่า เขาจะดูแลปกป้องคุ้มครองเธอเอง“พี่อยู่ตรงนี้นะ ไม่ต้องกลัว”เสียงนั้นอ่อนโยนอย่างที่ไม่เคยเป
ส่วนเมย์นั้น ทันทีที่ร่างของเธอจมดิ่งลงใต้ธาราอีกครั้ง น้ำก็ไหลทะลักเข้าปาก เข้าจมูก เมื่ออากาศภายในร่างกายเริ่มหมดเธอก็พยายามจะฮุบเอากาศหายใจ แต่สิ่งที่เข้ามาภายในปอดกลับเป็นมวลน้ำมหาศาลทำให้เธอรู้สึกทั้งปวดแสบ ทั้งอึดอัดไปหมดร่างน้อยค่อย ๆ สิ้นแรงต่อต้าน ปล่อยให้ตนเองร่วงหล่นลงช้า ๆ ก่อนที่เธอจะสิ้นสติไปนั้น เธอเห็นร่างของหญิงสาวคนหนึ่งจมอยู่ใต้น้ำจนผิวซีดไปหมด ผมสีดำของเธอยาวราวกับสาหร่าย ชุดที่เธอขาดวิ่นเป็นริ้ว ๆ เปรอะเปื้อนไปด้วยเลือด ดวงตาของเธอแดงก่ำร้องไห้ออกมาเป็นสายเลือด สิ่งที่ทำให้เมย์ตกใจมากที่สุดคือตรงกลางหน้าผากของเธอมีรอยถูกยิง ปากซีดจนน่ากลัวของผู้หญิงคนนั้นขยับร้องบอกเด็กสาวว่าหนีไป..... หนีไป...... หนีไป….ภาพนั้นทำให้เมย์ตกใจกลัวสุดขีด รวบรวมแรงเฮือกสุดท้ายตะเกียกตะกายพยายามจะขึ้นเหนือน้ำ แต่ก็เหมือนมีมือที่มองไม่เห็นดึงเธอให้จมร่วมส่งสู่ท้องธาราร่างโชกไปด้วยเลือดลอยเข้ามาใกล้เธอเรื่อย ๆ“อย่า ! อย่าเข้ามานะ”เมย์ตะโกนก้องในใจพยายามตะเกียกตะกายหนีร่างนั้นอันน่าสยดสยองอย่างสุดชีวิต แต่ความเป็นจริงแล้วร่างของเธอไม่ไหวแม้แต่น้อย จนในที่สุดสติของเธอก็ดับวูบไป“อ
แต่ยังไม่ทันที่ท่อนไม้จะได้สัมผัสศีรษะเขา มือแกร่งก็แย่งไม้หน้าสามจากมือเธอมาได้ แล้วโยนมันทิ้งราวกับไม้จิ้มฟัน จากนั้น เขาก็คว้าเอาข้อเท้าเล็กลากร่างบางเข้ามาอยู่ตรงกึ่งกลางเตียง แล้วขึ้นคร่อมหล่อนไว้ในพริบตา“ถ้าชอบให้ฉันความรุนแรงก็ไม่บอก รับรองฉันจะสนองให้อย่างสาสมใจ !”พ่อเลี้ยงพยัคฆ์คำรามลั่น“ไม่ ! ออกไป ! ช่วยด้วย !”เมย์ดีดดิ้นพร้อมกับกรีดร้องขอความช่วยเหลือ“ชุดมาแล้ว ชุดมาแล้ว”สไบนางรีบวิ่งหน้าตั้งเข้ามาในห้อง มือหนึ่งลากป้าละออจนแทบจะล้มคะมำไปข้างหน้า ส่วนอีกมือก็ถือชุดคนงานมาด้วยพ่อเลี้ยงพยัคฆ์จึงหยุดมือแล้วลงมาจากเตียง สายตาเขาบ่งบอกว่าไม่สบอารมณ์เป็นอย่างยิ่งที่ถูกขัดจังหวะความสนุกสไบนางแกล้งทำเป็นซื่อ รีบหลบหน้าพ่อเลี้ยงไปหาเมย์ที่เตียง“เอ่อ... นี่ชุดจ๊ะเมย์”ป้าละออจึงต้องเป็นคนพูดไกล่เกลี่ยขึ้นมาว่า“นางสไบนาง มันลืมเอาชุดไปให้หนูเมย์เปลี่ยน พ่อพยัคฆ์อย่าถือโทษโกรธหนูเมย์เลย”“เปลี่ยนชุดแล้วก็รีบไปทำงานซะ สายมากแล้ว”พูดจบเขาก็เดินออกไปเมื่อชายหนุ่มออกไปจากห้องแล้ว เมย์จึงกลับมาหายใจเป็นปกติ ป้าละออมองสาวน้อยแล้วได้แต่ส่ายหน้าด้วยความสงสาร เท่าที่เธออยู่กับพ่อเ
“พ่อเลี้ยงครับ พวกรีสอร์ตมันปล่อยน้ำเสียลงลำธาร ชาวบ้านเดือดร้อนกันถ้วนหน้า เพราะน้ำนั้นทำให้แหล่งน้ำในลำธารเน่าเสียไปด้วย สิ่งมีชีวิตที่อยู่ในน้ำตายเกลื่อน ที่สำคัญตักไปกินดื่มหรือใช้ก็ไม่ได้”ชายหนุ่มรูปร่างบึกบึน ยืนกุมมือไว้ด้านหน้าขณะที่รายงานความคืบหน้าแก่พ่อเลี้ยงพยัคฆ์ ซึ่งเขาได้รับคำสั่งจากพ่อเลี้ยงให้คอยสอดส่องดูแลเกษตรกรชาวไร่ที่อยู่บริเวณโดยรอบของไร่ปลายดาวพ่อเลี้ยงพยัคฆ์ที่กำลังยืนคุมคนงานขนเข่งส้มเขียวหวานขึ้นรถกระบะเพื่อส่งไปขายต่อในตัวจังหวัดหันมามองเขาด้วยใบหน้าเคร่งขรึม แล้วเสียงทุ้มต่ำก็เอ่ยขึ้นว่า“ไอ้เสือเมฆ มันพูดจาภาษาคนไม่รู้เรื่องรึไงวะ เดี๋ยวอาทิตย์หน้าเราเข้าไปบีบมันอีกรอบ ให้มันเร่งจัดการปัญหาน้ำเสียงและสารเคมีที่รีสอร์ตของมัน แต่ถ้ามันยังขืนดื้อด้าน ไม่เห็นฉันอยู่ในสายตา ลูกสาวมันก็อยู่ไม่เป็นสุขเช่นกัน !”เสือเมฆซ่อนตัวอยู่ที่รีสอร์ตซึ่งติดกับไร่ปลายดาวจะไม่ถูกเขาเจอตัวเลย ถ้าเสือเมฆไม่ปล่อยน้ำเสียลงสู่ลำธาร จนชาวบ้านเดือดร้อนและมาร้องเรียนให้เขาช่วยไปเจรจากับทางรีสอร์ตให้ และวันนั้นเมื่อเขาไปถึงรีสอร์ตจึงพบความจริงว่าเจ้าของรีสอร์ตคือศัตรูคู่แค้นอย่างเส
เช้าวันต่อมาเมทินีไปโรงเรียนตามด้วยใบหน้าเคร่งเครียดมากกว่าทุกวัน“เมย์ !”ภานุวิ่งเข้ามาหาเพื่อนสาวทันทีที่หล่อนลงจากรถของไร่ปลายดาว เขามาดักรอเธออยู่ที่หน้าโรงเรียนนานแล้วเมย์เร่งฝีเท้ามากขึ้นคล้ายกับว่าไม่ได้ยินเสียงเรียกของเด็กหนุ่ม หล่อนก้มหน้าเดินมุ่งเข้าสู่โรงเรียนเพื่อให้พ้นสายตาคนของไร่ปลายดาว เพราะเธอไม่อยากให้เรื่องไม่เป็นเรื่องลอยไปเข้าหูพ่อเลี้ยงจนเธอต้องถูกทำโทษเหมือนเช่นเมื่อวานอีก“เดี๋ยวสิเมย์ !”เด็กหนุ่มยังคงตามอย่างไม่ลดละ ยิ่งเห็นท่าทีแปลก ๆ ของเพื่อนร่วมชั้น เขาก็ยิ่งสงสัย ในที่สุดเมื่อตามทัน เขาก็คว้าเอาข้อมือเล็กกำแน่น เพื่อหยุดเธอไว้“อะไรภานุ ! ปล่อย ! เมย์จะรีบไปเรียน”เมย์หันมาเผชิญหน้ากับเขา แววตาของหล่อนเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก เมื่อเห็นว่ารถของไร่ปลายดาววิ่งไปแล้ว อาการนั้นจึงค่อย ๆ สงบลง“เมย์เป็นอะไร”ภานุยอมปล่อยมือจากผู้หญิงที่เขาแอบรัก และตอนนี้ท่าทีของหล่อนทำให้เขารู้สึกกังวลใจเป็นอย่างยิ่ง“ไม่ได้เป็นอะไร”เมย์ตอบไม่ยอมสบตาเขา“เมย์ ไม่สบายใจอะไรก็บอกเราได้นะ เราพร้อมจะรับฟัง และช่วยเหลือเมย์ทุก ๆ อย่าง”ภานุบอกด้วยน้ำเสียงจริงจัง แม้เขาจะเป็นลูก
ปัง !พ่อเลี้ยงกระชากประตูห้องของเมย์ปิดตามหลัง พร้อมกับเหวี่ยงร่างบางลงบนเตียงตุบ !“โอ๊ย !”เมย์ร้องออกมาด้วยความตกใจ ร่างสวยล้มลงบนเตียงนอนของตนเองพ่อเลี้ยงพยัคฆ์ย่างสามขุมเข้าหาหญิงสาวด้วยใบหน้าเหี้ยมเกรียม เขาโกรธจนสันกรามกระตุก“ให้ไปเรียนหนังสือ กลับร่านไปให้ท่าผู้ชาย !”“คุณพูดอะไรของคุณ ฉันไม่รู้เรื่อง !”“ไม่ต้องมาตีหน้าเซ่อ ไร้เดียงสา ไอ้ผู้ชายที่ให้ของขวัญเธอ มันสารภาพรักกับเธอ คงจะอ่อยมันเอาไว้เยอะสินะ”เขาหยามเธอ ขณะที่ก้าวขึ้นเตียง“ฉันจะรักใคร ชอบใคร มันก็เป็นสิทธิ์ของฉัน คุณมาเกี่ยวอะไรด้วย”เมย์ถอยร่นจนชิดกับขอบเตียงอย่างไร้ทางหนี เธอตะคอกเขากลับ“เหอะ ! เธอลืมแล้วรึไง ว่าเธอเป็นเชลยของฉัน ! ลูกคนระยำยังไงมันก็ระยำอยู่วันยังค่ำ ถ้าเธอคันมากนัก เดี๋ยวฉันจะสนองแล้วกัน !”เพี๊ยะ !เมย์ฟาดมือเล็กเข้าที่แก้มเป็นสันของชายหนุ่มด้วยความโมโห เธอจะไม่ทนให้เขาดูถูกหล่อนอีกต่อไปแล้ว !แรงตบนั้นทำให้ใบหน้าหล่อคมของชายหนุ่มหันไปอีกด้าน และเมื่อเขาหันกลับมา ดวงตาของเขาก็ลุกโชนไปด้วยความโกรธมากขึ้น“ชอบใช้ความรุนแรงสินะ ได้ !”สิ้นคำ พ่อเลี้ยงก็จับร่างบางลากลงมาให้อยู่กลางเตียง แล