Beranda / โรแมนติก / ปกรณัมใต้แสงดาว / Chapter 7.ได้ทุกอย่างที่เจ้าต้องการ

Share

Chapter 7.ได้ทุกอย่างที่เจ้าต้องการ

last update Terakhir Diperbarui: 2024-10-28 19:52:15

“ขอโทษด้วย” จางฟางซินพูดอย่างนึกขึ้นได้ “ท่านแม่ทัพกรุณากับข้ายิ่ง”

“เจ้าต้องกินอะไรบ้าง  เพื่อจะได้มีแรง”  เขาหยิบตะเกียบคีบเนื้อปลากะพงนึ่งให้นาง

“ข้าทำเองได้” นางเตือนเขา “มือของข้ายังใช้การได้ดีอยู่”

“แขนซ้ายเจ้ายังเจ็บอยู่”  ดูท่านางก็ดื้อดึงไม่แพ้เขาเช่นกัน  “เอาไว้เจ้าหายดีแล้วค่อยปรนนิบัติข้าคืนก็แล้วกัน”

“ข้าจะจำใส่ใจไว้”  นางพูดพลางกินมื้อเที่ยงของตัวเอง หลายวันนี้กินแต่โจ๊ก พอมีอาหารเลิศรสเข้าปาก ใบหน้าของนางพลันแช่มชื้นขึ้น

“อร่อยไหม” หลัวหลิวหยางถามเพราะสีหน้าของนางช่างดูมีความสุขเสียเหลือเกิน  

“ข้าจำได้ว่าท่านเคยปรึกษาเรื่องเพาะปลูกข้าวในพื้นที่ที่เป็นภูเขาเสียส่วนใหญ่ ข้าวในถ้วยนี้มาจากแปลงนาเชิงเขาใช่หรือไม่” 

เขายิ้มแทนคำตอบ เขาเคยเขียนจดหมายถึง ‘จางฟางหรง’ ปรึกษาเรื่องเหล่านี้จริง และจางฟางหรงช่วยค้นหาวิธีเพาะปลูกและกักเก็บน้ำ ทำให้สองปีมานี้ แผ่นดินที่เคยแห้งแล้งทางทิศตะวันออกเปลี่ยนเป็นเขียวขจีด้วยทุ่งข้าวและพืชพรรณมากมาย 

“ดีจริง วันนี้ได้กินข้าวที่ท่านปลูกแล้ว”

“ข้าสั่งผู้อื่นปลูกต่างหาก” เขาพูดพลางคีบเห็ดผัดน้ำมันหอยให้นาง “เห็ดนี่ได้มาจากภูเขา เก็บมาเมื่อเช้า ปรุงสดใหม่อร่อยยิ่ง”

จางฟางซินกระตื้อรือร้นที่จะกินอาหารแต่ละจานที่เขาป้อนให้ นางเป็นคนที่มีความสุขกับการอ่านตำราและกินของอร่อย แต่อย่าให้นางลงมือทำเลย ห้องครัวจะพังพินาศเอาเสียเปล่า  

“มีอะไรที่เจ้าอยากได้อีกหรือไม่” เขาถามหลังจากทั้งสองกวาดอาหารทุกจานจนหมดเกลี้ยง ปกติเขากินข้าวคนเดียว กินให้อิ่มกินให้เสร็จแล้วไปทำงาน จึงไม่เคยรู้เลยว่าอาหารที่จวนตนเองนั้นรสชาติดีไม่น้อย

“หากเป็นไปได้ ท่านแม่ทัพช่วยหาไม้เท้าให้ข้าสักอันเถิด ข้าจะได้พยุงตัวเองยามลุกเดิน”

“ข้าจำได้ว่า ข้าพูดแล้วว่าเจ้าไม่ควรเดินและไม่ควรขยับตัวมากนัก”

“ท่านแม่ทัพจะมาอุ้มข้าทุกคราวหรือไร” นางย่นจมูกหงุดหงิดกับความดื้อรั้นของเขา แต่...นางก็ลืมไปว่าตนเองดื้อรั้นใส่เขาเช่นกัน

“ได้” เขาตอบด้วยรอยยิ้มซุกซนซึ่งไม่ค่อยเป็นเช่นนี้นัก “ช่วงนี้ข้าพักผ่อนในจวน เจ้าจะทำอะไรหรือไปไหน ข้าจะปรนนิบัติอุ้มเจ้าเอง”

เขาเห็นเพียงดวงตาของนางวูบไหวเล็กน้อย แต่สีหน้าของนางคงสงบนิ่งอยู่  ดูๆ ไปแล้วนางก็ไม่เลวทีเดียว   

“ก็ได้” นางเหมือนจะยอมจำนน “หากท่านเกรงว่าผู้อื่นจะไม่เชื่อว่าท่านหลงใหลคลั่งไคล้ในตัวข้า ก็เชิญท่านปรนนิบัติข้าได้อย่างเต็มที”

หลัวหลิวหยางได้ยินถ้อยคำของนางแล้วถึงกับแหงนหน้าหัวเราะ เสียงหัวเราะของเขาดังไปนอกห้อง เล่นเอาทหารยามสะดุ้งตกใจ ร้อยวันพันปีแม่ทัพพิทักษ์บูรพาจะส่งเสียงหัวเราะสักครั้ง แม้กระทั้งได้รับชัยชนะในสนามรบก็แทบไม่เคยเห็นรอยยิ้มหรืออาการดีอกดีใจใดๆ  เหล่าทหารมั่นใจแล้วว่า สตรีที่อยู่ในห้องนั้นต้องเป็นคนพิเศษของท่านแม่ทัพเป็นแน่ ถึงได้มีความสามารถทำให้ท่านแม่ทัพหัวเราะเสียงดังถึงเพียงนี้

            จางฟางซินได้แต่ลอบถอนหายใจเบาๆ เขาหัวเราะเช่นนี้ หมายความว่านางจะได้ไม้เท้าตามที่ร้องขอหรือไม่นะ  นางได้แต่หวังว่าเขาจะหาไม้เท้าที่ธรรมดาไม่ใช่ไม้เท้าประดับมุกหรือสลักลายอลังการแต่อย่างใด

หรือว่าจะเขาจะยอมเป็นไม้เท้าให้นางเสียเอง 

จางฟางซินกลั้นใจดื่มยาแสนขมและทนกับการเจ็บปวดทุกครั้งที่ท่านหมอใส่ยาและเปลี่ยนผ้าพันแผลให้  เดิมทีท่านหมอมีความกังวลไม่น้อย เขาเป็นหมอทหารรักษาแต่บุรุษหนังหนา แต่เมื่อต้องมารักษาสตรีที่มีฐานะไม่ธรรมดาของแม่ทัพหลัวหลิวหยาง เขาจึงเกรงว่านางจะเป็นสตรีอารมณ์ร้ายเอาแต่ใจ แต่นางกลับให้ความร่วมมืออย่างดี  

“บาดแผลทั่วไปดีขึ้นมาก หมั่นใส่ยาตลับนี้จะช่วยให้แผลสมานเร็วขึ้นและไม่ทิ้งรอยแผลเป็นบนร่างกาย”

“ขอบคุณท่านหมอ”  จางฟางซินผ่อนลมหายใจยาว “แล้วที่ข้อเท้าเล่า”

“ขอเพียงแม่นางไม่ขยับตัวเดินลงน้ำหนักที่เท้าข้างที่เจ็บ รับรองว่าจะต้องหายดีในหนึ่งเดือนอย่างแน่นอน”

“ขอบคุณมาก”

หญิงสาวลอบถอนหายใจเบาๆ ชีวิตนางไม่เคยต้องอยู่เฉยๆ เช่นนี้มาก่อน แม้ชอบอ่านตำรามากเพียงใด แต่ถ้าให้นั่งๆนอนๆ อ่านตำราทั้งวันก็ไม่ไหว  นางดั้นด้นมาถึงที่นี้ก็หวังว่าตัวเองจะเป็นกำลังสำคัญให้หลัวหลิวหยางได้ แต่กลับต้องมาอยู่ในสภาพคนพิการเช่นนี้ นางรู้สึกย่ำแย่ไม่น้อย แต่เพราะเหตุนี้นางจึงพยายามมองข้ามความเจ็บปวดเหล่านั้นเพื่อจะได้สมองปลอดโปร่ง

ท่านหมอขอตัวออกไปแล้ว ครู่ต่อมาเสี่ยวจิ้ง-สาวใช้หน้าตาน่ารักเดินเข้ามาพร้อมถ้วยยา  จางฟางซินพิศมองใบหน้าของเสี่ยวจิ้ง ได้ยินว่าแม่นมเหมยกุ้ยเป็นผู้คัดเลือกสตรีมาทำงานในจวน สาวใช้หน้าตาน่าเอ็นดูซ้ำรูปร่างยังอิ่มเอิ่บมีน้ำมีนวล ริมฝีปากแต้มสีชาดอย่างพอดี นางควรรู้สึกริษยาหรือไม่นะ แต่ก่อนนางมักถกเถียงกับจางฟางหรงว่าจิตใจและสติปัญญาสำคัญกว่าความงามบนใบหน้า  แต่มาบัดนี้นางกลับรู้สึกด้อยค่าเสียเหลือเกิน  

“แม่นางฟาง”  เสี่ยวจิ้งถูกจ้องจนหวั่นวิตก

“อ่อ...ขอบใจมาก”  นางยื่นมือไปรับถ้วยยา นางเป่าไล่ไอร้อนแล้วยกดื่มรวดเดียวหมด เสี่ยวจิ้งรีบยกน้ำให้นางบ้วนปาก เวลาเช่นนี้จางฟางซินไม่เรื่องมาก มีผู้มาดูแลนางก็ต้องรีบรับไว้  หลังจากเสี่ยวจิ้งดูแลนางช่วยแปรงผมและสวมเสื้อผ้า นางจึงคว้า ‘ไม้เท้า’ ที่หลัวหลิวหยางส่งมาให้แล้วพยายามยันกายลุกขึ้นยืน

“ท่านอย่าขยับเลยเจ้าค่ะ หากต้องการสิ่งใดโปรดบอกข้าน้อยได้ทันที”

“อยู่ในห้องมาสี่ห้าวันแล้ว ขอข้าเดินเล่นนอกห้องบ้างเถิด ข้าเจ็บเช่นนี้ไปไหนไม่ไกลอยู่แล้ว”

นางยันกายขึ้นยืนได้สำเร็จ เสี่ยวจิ้งรีบเข้ามาประคองและพาจางฟางซินเดินออกมาด้านนอกอย่างทุลักทะเล  ดวงตาของหญิงสาวเป็นประกายทันทีที่ได้เห็นทิวทัศน์ของสวนดอกไม้ จากที่ทำได้เพียงแค่มองผ่านหน้าต่าง ยามนี้นางสามารถออกมายืนใต้แสงแดดอุ่น ดอกเบญมาศแบ่งบานราวกับแข่งกันอวดความงาม 

กอดอกไม้สั่นไหวเล็กน้อยเรียกสายตาของหญิงสาว นางหรี่ตามองพร้อมระวังตัว เพียงพริบตา ‘สิ่งนั้น’ ก็พุ่งพรวดกระโจนออกมาจากกอดอกไม้

“ว๊าย!” 

เสี่ยวจิ้งร้องเสียงหลงผละจากจางฟางซิน ปล่อยให้ ‘สิ่งนั้น’ กระโจนใส่เต็มแรง จางฟางซินที่เท้าเจ็บไม่สามารถยืนได้เต็มเท้าจึงเสียหลักหงายหลังก้นกระแทกพื้นหญ้า  นางควรจะร้องโอดครวญออกมาแต่กลับส่งเสียงหัวเราะกังวานใส สองมือของนางกอดรัดสิ่งนั้นไว้

เสียงหัวเราะสดใสที่ไม่ค่อยได้ยินนัก ทำให้หลัวหลิวหยางชะงักเท้าไปชั่วอึดใจ คราวแรกเขาได้ยินเสียงหวีดร้องของเสี่ยวจิ้งทำให้รีบสาวเท้าเข้ามา แต่เมื่อเห็นจางฟางซินกอดรัดแมวป่าตัวใหญ่ขนฟูเขากลับได้แต่ยืนมอง

“เจ้าแมวน้อย!”

“แมวน้อย?”  หูซานที่เดินตามหลังท่านแม่ทัพหลุดปากพูดออกมา พอรู้ตัวว่าเผลอจ้องมองสตรีของผู้เป็นนายอยู่ ก็รีบหลุบตามองปลายรองเท้าของตน   

“ฟางซิน”  หลัวหลิวหยางเรียกชื่อนางแล้วเดินไปใกล้ เขาทรุดตัวลงนั่งบนส้นเท้า โน้มหน้าลงมองใบหน้าระบายยิ้มของนาง “นี่ไม่ใช่แมวน้อย”

“ข้ารู้”  นางไม่ทันสังเกตว่าเขาเรียกนางเพียงแค่ชื่อเท่านั้น นางอุ้มแมวตัวใหญ่ไว้แนบอกแล้วพูดเหมือนอวดเขา “นี่เป็นแมวภูเขา ถ้าข้าเดาไม่ผิดนี่คือเปาเป่าใช่ไหม?”

หลัวหลัวหยางเผลอยิ้มออกมา เขายื่นมือไปประคองนางให้ลุกขึ้นนั่ง แล้วปัดใบไม้ที่ติดตามตัวนางออก แต่ดูท่าทางนางไม่สนใจเลยสักนิดว่าตัวเองมอมแมมเพียงใด สิ่งเดียวที่นางสนใจคือแมวป่าตัวนี้

“ถูกแล้ว นี่คือเปาเป่า”

“ท่านรักษามัน ท่านเลี้ยงมันด้วย”  นางตื่นเต้นแนบหน้ากับขนนุ่มๆ ของแมวป่า ดูท่ามันก็ชอบนางเช่นกันเพราะไม่มีการแสดงท่าทีขัดขืนแต่อย่างใด

“เจ้าจำได้”

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • ปกรณัมใต้แสงดาว   Chapter 34.ภาคปิศาจภูเขาหิมะ จบ

    “ก็...ก็ใช่นะสิ เป็นของนายของข้ามอบให้มา” นางพยายามดิ้นรนแต่กลับถูกท่อนแขนรัดเอวนางแน่นขึ้นจนเผลอร้องด้วยความเจ็บปวดออกมา“นายเจ้าเป็นเศรษฐีที่ถูกหายตัวไปเมื่อสองเดือนก่อนรึ จุ๊ๆ เจ้าอย่ามาโกหกเลย บอกมาเถอะว่ารถม้าคันนั้นอยู่ที่ใด สมบัติในรถคันนั้นต้องมีมากกว่าที่เจ้าขนลงไปแน่”ฟางซินแตกตื่นจนพูดไม่ออก ยังไม่ทันคิดหาวิธีเอาตัวรอด ร่างของนางถูกเหวี่ยงลงพื้น หญิงสาวทั้งเจ็บและจุก พยายามดิ้นรนแต่ชายคนหนึ่งกลับคร่อมร่างนางไว้และอีกสองคนยึดแขนคนละข้าง เหตุการณ์กลับมาซ้ำรอยเดิมอีกครั้ง นางนึกถึงเพียงใบหน้าของปีศาจภูเขา แต่นี่อยู่นอกเขตอาคม เขาไม่อาจออกมาช่วยนางได้ไม่! เขาจะออกมานอกเขตอาคมไม่ได้! เขาอาจจะตาย! และถ้ามีคนรู้ว่าปีศาจภูเขามีอยู่จริง จะต้องถูกชาวบ้านเชิญนักพรตมาสังหารเป็นแน่! นางยอมให้เขาเป็นอะไรไม่ได้เด็ดขาด!“โอ๊ย!”แมวป่าตัวหนึ่งพุ่งเข้าใส่คนที่คร่อมร่างหญิงสาวอยู่ กรงเล็บของมันทำให้ใบหน้าของคนผู้นั้นเป็นรอยแผล และเพราะความเจ็บปวดที่ทำให้รับทำให้ชายคนนั้นจับแมวป่าตัวนั้นออกจากร่างของตนแล้วทุ่มลงบนพื้นกระแทกถูกก้อนหิน แมวป่าส่งเสียงร้องอย่างเจ็บปวด ลุกขึ้นยืนด้วยท่าทีอ่อนแรง

  • ปกรณัมใต้แสงดาว   Chapter 33.ภาคปิศาจภูเขาหิมะ 6.

    ทว่านางกลับมีหมาป่าสองสามตัวติดตามลงมาส่ง นางเดาว่าปีศาจภูเขาคงขู่บังคับให้ทำเช่นนี้ คิดได้ดังนั้นหัวใจนางก็ยิ่งเต้นรัว นางไม่อยากจากเขาไปไหนเลย เพียงแต่ว่าครั้งนี้ได้มาลาบิดามารดาก่อนจะไปอยู่กับเขาชั่วชีวิต แต่เขาเป็นปีศาจ หากผู้อื่นรู้เขาเกรงว่าครอบครัวของนางจะลำบาก ระหว่างเดินทาง นางจึงครุ่นคิดหาแผนการเพื่อให้ได้ออกจากบ้านอย่างไร้กังวลหญิงสาวลอบเข้าบ้านหลังจากแน่ใจว่าไม่มีใครอื่นผ่านมาเห็น เสียงไอโขลกๆ ของมารดาทำให้ฟางซินแทบทิ้งทุกสิ่งที่หอบมาเพื่อเข้าไปในเรือน บานประตูที่ถูกผลักออกโดยง่ายนั้น ทำให้มารดาที่นั่งปักผ้าอยู่เงยหน้าขึ้น เมื่อเห็นใบหน้าบุตรสาวคนเดียวที่หายไปร่วมเดือนก็ดีใจจนหลั่งน้ำตา“แม่คิดว่าเจ้า...เจ้า...”“ข้าไม่เป็นอะไรท่านแม่” นางวางข้าวของที่หอบลงมาจากเขา เปิดห่อผ้าหยิบโสมคนออกมาให้มารดา “นี่โสมคนชั้นเยี่ยม ข้าจะนำมาไปให้ท่านหมอปรุงยาให้ท่านแม่”“เจ้าไปเอาของพวกนี้มาจากไหน แล้วนี่...เจ้าไปอยู่ที่ไหนมา ผู้อื่นลือกันว่าเจ้าตกเขาตายไปแล้ว”“เอ่อ...มีคนใจดีช่วยชีวิตข้าไว้” นางไม่อยากให้มารดารู้เรื่องที่เกือบถูกขืนใจ นางเองก็ไม่อยากคิดถึงเรื่องนั้นอีก “ข้า...ข้าข

  • ปกรณัมใต้แสงดาว   Chapter 32.ภาคปิศาจภูเขาหิมะ 5

    ฟางซินทั้งเขินอายและเสียวซ่าน นางผงกศีรษะขึ้นมอง เห็นเพียงศีรษะของเขาอยู่ตรงกลางหว่างขา นางอับอายเหลือเกินจึงพยายามดันศีรษะของเขาออก ทว่ารสสัมผัสที่เขามอบให้แสนเย้ายวนจนได้แต่ขยุ้มเส้นผมนุ่มสลวยที่นางบรรจงสางให้เขาอย่างดี เขาช้อนสะโพกนางให้ลอยขึ้น ถอนนิ้วเรียวออกแล้วห่อลิ้นแทรกเข้าไปแทนที่ น้ำหวานที่หลั่งออกมาทำให้ยิ่งฮึกเหิม เสียงครางกระเส่าของนางเสมือนรางวัลที่เขาตักตวงจากกายสาว สะโพกของนางลอยขึ้นจากพื้นโยกไหวตามอารมณ์รัญจวนที่เกิดขึ้น นางหลั่งน้ำหวานออกมามากล้นแต่ยังไม่เพียงพอสำหรับเขา เขาถอนลิ้นออกแล้วเปลี่ยนเป็นนิ้วเรียวสองนิ้วเข้าไป“อ๊า!” ฟางซินหลุดเสียงหวีดร้องออก สะบัดใบหน้าไปมา“เจ้า...ต้องพร้อมมากกว่านี้” เขาพูดเสียงแหบพร่า นิ้วร้ายยังคงเคลื่อนไหวเข้าออกนำพาน้ำหวานวาวใสให้หลั่งออกมาก ร่างกายของเขาแทบปริแตกด้วยความต้อง เขาจ้องมองร่างขาวเนียนบิดไปมาด้วยความรัญจวนจนกระทั่งร่างนางเกร็งและช่องทางที่แสนคับแคบบับรัดรุนแรงด้วยไปถึงจุดสุขสมฟางซินหวีดร้องอย่างไม่รู้ตัว ร่างกายร้อนผ่าวและหลอมละลายด้วยน้ำมือของเขา เขาถอนนิ้วออกช้าๆ นางหอบหายใจแรงมองเห็นเขาส่งนิ้วที่เปื้อนเปรอะน้ำ

  • ปกรณัมใต้แสงดาว   Chapter 31.ภาคปิศาจภูเขาหิมะ 4

    “เปล่า” เขาส่ายหน้าไปมา “เป็นข้าที่ต้องดูแลเจ้า เจ้าถอดเสื้อผ้าสิ เร็วเข้า” “ไม่ เอ่อ...” เพราะเห็นว่าอีกฝ่ายมีเจตนาดีไม่คิดรังแกนาง นางจึงยอมทำตามที่เขาสั่ง แต่การจะเปลือยกายต่อหน้าผู้อื่นนั้น นางไม่อาจทำได้ “เอาอย่างนี้ ท่านขึ้นจากน้ำไปก่อน ข้าจะถอดเสื้อผ้าในน้ำนี้” “อย่างนั้นรึ” เขาถามและนางก็พยักหน้ายืนยันแทนคำตอบ เขาจึงยอมเป็นฝ่ายขึ้นจากน้ำไปก่อน ฟางซินถอนหายใจโล่งอก ปีศาจตนนี้เอาใจไม่ยากนัก นิสัยคล้ายเด็กมากกว่า แต่นางก็ไม่เคยรู้จักปีศาจตนใดมาก่อนจึงไม่รู้ว่าปีศาจตนอื่นเป็นเช่นนี้หรือไม่ ฟางซินเห็นเขาหันหลังให้เหมือนยามที่นั่งหน้ากองไฟทุกค่ำคืน นางจึงถอดเสื้อผ้าที่เปียกน้ำนี่ออก ให้ร่างกายเปลือยเปล่าได้สัมผัสความอุ่นร้อนพอดีของสายน้ำ นางหลับตาอย่างผ่อนคลาย มันสบายอย่างนี้เองหรือ นางเผลอคลางออกมาอย่างไม่รู้ตัวแต่ประสาทการรับรู้ของปีศาจภูเขานั้นยอดเยี่ยม เขาหันขวับมามองด้วยความเป็นห่วง ทว่าภาพที่เห็นคือสาวงามเปลือกกายในสระน้ำ หัวใจของเขาเต้นรัวราวกับจะทะลุออกมาจากทรวงอก ดอกบัวคู่งามปริ่มน้ำชวนหลงใหล ผิวกายของนางแม้มีรอยบอบช้ำทว่ากลับน่ายื่นม

  • ปกรณัมใต้แสงดาว   Chapter 30.ภาคปิศาจภูเขาหิมะ 3

    ขึ้นเขาครั้งนี้เพราะหวังว่าจะหาโสมหรือสมุนไพรหายาก แต่ไม่คิดว่าจะเจอพวกคนในหมู่บ้านมาทำร้ายนางได้ นางหายออกจากบ้านมากี่วันแล้วนะ มีใครออกตามหานางบ้างไหม? มีคนเป็นห่วงนางหรือเปล่า? หรือคิดเพียงแค่ว่านางอาจหนีเอาตัวรอดทิ้งความยากจนไว้เบื้องหลัง เขารู้ว่าอาหารที่ตนทำไม่อร่อย แต่เห็นนางกินจนเกลี้ยงชามก็อดปิติยินดีไม่ได้ “ข้า...ข้ามาอยู่ที่นี่กี่วันแล้ว” “เจ็ดวัน” ปีศาจตอบ “ฝนตกติดต่อกัน หนักบ้างเบาบ้าง” “อย่างนั้นหรือ?” นางถามเหมือนรำพึงไม่ต้องการคำตอบ แต่ถ้าได้อยู่แบบนี้ไปเรื่อยๆ คงดีไม่น้อย ไม่ต้องกลับไปเผชิญเรื่องเลวร้ายใดอีก เห็นท่าทางนิ่งงันของนางแล้ว ปีศาจภูเขารู้สึกใจคอไม่ดีนัก เขายื่นมือไปแตะแขนนางเบาๆ ทำให้หญิงสาวเงยหน้าขึ้นสบตาเขา มุมปากค่อยๆ คลี่ยิ้มอ่อนหวานทำให้หัวใจของเขาเต้นแรงอีกครั้ง “ข้า...ข้าอยากอาบน้ำ” “อาบน้ำ?” เขาทำหน้างุนงงไปเล็กน้อยก่อนจะพยักหน้าเข้าใจ “ได้ๆ ตอนนี้ไม่มีฝนแล้ว ข้าจะพาไปที่สระน้ำกลางป่า มีน้ำพุร้อน ที่นั้นจะช่วยรักษาบาดแผลให้เจ้าได้” “น้ำพุ

  • ปกรณัมใต้แสงดาว   Chapter 29.ภาคปิศาจภูเขาหิมะ 2

    พายุฝนกระหน่ำทำเอาหญิงสาวต้องขดตัวกลมเพื่อปกป้องความเหน็บหนาวที่ถาโถมเข้าใส่ เสื้อผ้าบนร่างนั้นทั้งเก่าและขาดวิ่นแทบปกปิดเนินอกสล้างนั้นไม่ได้เลย หญิงสาวได้สติเมื่อผ้าผืนชุบน้ำผืนหนึ่งบรรจงเช็ดใบหน้าให้อย่างระวังว่ากรงเล็บจะถูกผิวกายของนาง หญิงสาวได้สติเพราะลมเย็นพัดผ่านผิวกาย มือเล็กยกขึ้นปกปิดทรวงอกไว้ เงาดำนั้นผงะเล็กน้อยแล้วถอยห่าง ฟางซินรู้สึกได้ว่าเงาดำนั้นก้าวออกไปจากบริเวณนั้นแล้ว นางจึงลุกขึ้นนั่ง ก้มมองสภาพตัวเองที่เสื้อผ้าแทบจะปกปิดอะไรไม่ได้เลย นางหยิบผ้าที่ที่วางในอ่างเล็กๆ นั้น ชุบน้ำแล้วเช็ดที่ใบหน้าและแขน แสงไฟจากกองไฟทำให้เห็นว่านางนั่งอยู่บนพรมหนังสัตว์ในถ้ำแห่งหนึ่ง ด้านนอกคงมีพายุฝนโหมกระหน่ำ นางอยู่ด้านในได้ยินเพียงเสียงฟ้าร้องคำรามและไอเย็นแผ่กระจายเข้ามา นางไม่กล้ามองเท้าขวาของตนเองเลย เจ็บจนน้ำตาร่วง และยิ่งคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้น นางก็ยิ่งขวัญเสีย “จะ...เจ็บ...เจ็บมากรึ” ฟางซินได้ยินเสียงแหบแห้งจากด้านหลัง ร่างใหญ่โตนั้นแทบบดบังแสงสว่างจากกองไฟหมดสิ้น นางอ้าปากแต่พูดไม่ออก มีเพียงเสียงสะอึกสะอื้นหลุดจากริมฝ

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status