วันต่อมา...
ณ สกายคลับ
“พี่ขอเช็กของหน่อยนะ” แดเนียลพูดพร้อมสอดนิ้วมือหนาเข้าไปใต้ร่มผ้าของหญิงสาว ปลายนิ้วกลางสะกิดติ่งเสียวพลางคลึงไปมาผ่านกางเกงในตัวจิ๋ว
“พี่แดนอย่าเพิ่งค่ะ มิวมิวขอเข้าห้องน้ำแป๊บหนึ่งนะคะ” เธอพูดพร้อมจับมือชายหนุ่มให้หยุดการกระทำ
“พี่ให้เวลาห้านาที ถ้ายังไม่ออกมาพี่จะตามไปเอาในห้องน้ำ”
ทันทีที่ชายหนุ่มพูดออกมาอย่างนั้นมิวมิวก็หัวเราะอย่างชอบใจ จะว่าไปก็อยากจะให้เขาตามไปเอาจริง ๆ
“ถ้าอย่างนั้นอีกห้านาทีเจอกันนะคะ”
คาริสานั่งมองแดเนียลอยู่ห่าง ๆ เธอสวมเดรสสีน้ำเงินเข้ม ปกปิดมิดชิดเพียงส่วนหน้าแต่เว้าหลังไปเกือบครึ่งท่อนต่อด้วยกางเกงขายาวสีเดียวกัน
คาริสาเลือกเดินตามมิวมิวออกไปเพราะเชื่อว่าอีกสักพักแดเนียลก็ต้องตามมา และที่สำคัญเธอต้องการออกไปอัปเดตข้อมูลเกี่ยวกับแดเนียลให้คุณหญิงทราบด้วย จนลืมคิดไปว่าตัวเธอกำลังละสายตาจากแดเนียล เมื่อคิดได้อย่างนั้นเธอจึงเดินกลับไปยังจุดเดิม ทว่าแดเนียลกลับไม่ได้อยู่ที่นั่นแล้ว
“ไปไหนแล้ว” คาริสาตกใจกลัวว่าเขาจะมีอันตราย ถ้าไม่ติดว่าคุณหญิงมีบุญคุณกับเธอ คาริสาก็คงไม่ใจหายถึงเพียงนี้
หญิงสาวกวาดสายตามองออกไปรอบ ๆ อย่างกระวนกระวาย ก่อนจะรีบวิ่งออกมาดูข้างนอกสถานที่รื่นเริง พบว่ารถคันหรูของแดเนียลยังอยู่ที่เดิม เธอจึงเปิดโทรศัพท์เช็กดูพิกัดในมือถือของชายหนุ่มก็พบว่าเขาอยู่ใกล้ตัวเธอในระยะประชิด ขณะที่กำลังตกใจและงุนงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มือหนาของใครบางคนก็จับตัวเธอดันไปที่ผนังกั้น ซึ่งคาริสาก็ไม่ปล่อยให้ใครมาแตะต้องตัวได้ง่าย ๆ เธอสะบัดมือเขาออกจากเกาะกุมด้วยความว่องไวและชำนาญ
“ตามฉันมาทำไม!”
“คุณ…” คาริสายังไม่ทันจะได้เอ่ยเรียกชื่อเขา แดเนียลก็พูดประโยคถัดมา
“ใครส่งเธอมา คุณย่าหรือพ่อ?” แดเนียลเอ่ยถามพลางหรี่ตามองคนตรงหน้าอย่างจับผิด ขณะที่อีกฝ่ายได้แต่ลอบกลืนน้ำลายอึกใหญ่ “แต่ฉันว่าน่าจะเป็นคนอื่น เพราะว่าถ้าเป็นคุณย่าหรือพ่อก็คงไม่ส่งผู้หญิงอย่างเธอมาหรอก อ่อนว่ะ”
คำพูดเน้นถ้อยเน้นคำสองพยางค์สุดท้ายซึ่งเป็นคำดูถูกจากชายหนุ่ม ทำเอาคาริสาถึงกับปรี๊ดแตก
“ฉันไม่รู้ว่านายกำลังพูดถึงเรื่องอะไร ฉันไม่รู้จักนาย และฉันก็ไม่ได้ตามนายด้วย อย่าหลงตัวเอง” คาริสาแสร้งทำเป็นโวยวายใหญ่โต ก่อนจะรีบเดินเลี่ยงออกไป
คำพูดคำจาของชายหนุ่มเมื่อครู่ทำให้คาริสาหัวเสียเป็นอย่างมาก เธอเดินเข้าไปล้างมือในห้องน้ำพลางครุ่นคิดอะไรบางอย่างในหัว ก่อนจะเห็นมิวมิวเดินไปเดินมาเหมือนรอใครบางคนอยู่ คาริสาคิดว่าอาจจะเป็นแดเนียล เธอจึงมองดูมิวมิวผ่านกระจกเงาอยู่สักพักใหญ่ ๆ แต่แล้วก็มีผู้หญิงอีกคนเดินเข้ามา
“ขอโทษทีมิวมิวพอดีรถมันติด”
“รถติดหรือมัวแต่อ่อยผู้ชายอยู่กันแน่” มิวมิวพูดจากระแหนะกระแหน่เพื่อนสาว ขณะที่คาริสากำลังเดินออกไปจากห้องน้ำแต่ยังไม่ทันพ้นประตูห้องก็ดันได้ยินประโยคถัดมาเสียก่อน
“ถ่ายทั้งรูปและวิดีโอ เอาให้เห็นหน้าพี่แดนชัด ๆ นะ” สิ่งที่ได้ยินทำเอาคาริสาก้าวขาต่อไม่ออก
“มันจะดีเหรอวะ นั่นมันพี่แดนนะเว้ย”
“อย่ามาทำเป็นไม่เคย ทำตามที่ฉันสั่งก็พอ พี่แดนรอฉันอยู่ข้างนอกงานนี่ฉันต้องได้อะไรตอบแทนบ้างล่ะ ฉันได้ข่าวว่าพี่แดนไม่เคยกินใครรอบสอง ถ้าต่อรองกับพี่แดนไม่ได้อย่างน้อยก็เอาภาพไปขายได้”
พูดกับเพื่อนสาวเสร็จสรรพมิวมิวก็เดินออกไปจากห้องน้ำ แต่แล้วก็ต้องหยุดชะงัก เมื่อคาริสาหันมาเผชิญหน้าและใช้มือกั้นประตูขวางทางหล่อนเอาไว้
“นี่! หลีกไปนะ”
“ถ้าฉันไม่หลีกแล้วจะทำไม ถ้าไม่อยากเจ็บตัวอย่ายุ่งกับแดเนียล”
“แกเป็นใคร มีสิทธิ์อะไรไม่ให้ฉันยุ่งกับพี่แดน อ่อ...แกก็คงเป็นผู้หญิงอีกคนของพี่แดนสินะ วันนี้พี่แดนเขาเป็นของฉันและเขาก็กำลังรอฉันอยู่”
“ฮึ! เหรอ?”
“นี่แก!” มิวมิวพูดพร้อมยกฝ่ามือขึ้นสูงหวังจะตบ แต่คาริสาก็สามารถจับมือข้างนั้นได้ทันและสะบัดมือมิวมิวออกอย่างแรงจนลงไปกองกับพื้น
เพื่อนของมิวมิวเห็นอย่างนั้นจึงเดินมาตบหน้าคาริสาโดยที่เธอไม่ทันได้ตั้งตัว คาริสาจึงตอบโต้ด้วยการตบและผลักเพื่อนของมิวมิวล้มหน้าฟาดพื้นไปอีกคน ด้วยแรงมือที่หนักเอาเรื่องเนื่องจากออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ทำเอาเพื่อนของมิวมิวเลือดกบปาก
แช๊ะ!
มิวมิวที่พยายามลุกขึ้นมาหวังจะตบคาริสาเพื่อจะเอาคืนถึงกับต้องหยุดชะงัก เมื่อได้ยินเสียงกดถ่ายภาพและแสงแฟลชจากกล้องโทรศัพท์ของคาริสา
“นี่แกทำอะไร”
“ก็ทำในสิ่งที่พวกแกคิดจะทำไง ฉันได้ข่าวว่ามือของฉันมันจะได้ตบพวกแกแค่รอบเดียว ถ้าต่อรองกับแกไม่ได้อย่างน้อยก็เอาภาพไปขายได้ เป็นยังไงล่ะ รู้สึกยังไง”
“กรี๊ดดดดด! แกเป็นใครต้องการอะไรกันแน่”
“ไปให้พ้นเลยนะ ก่อนมือของฉันจะตบหน้าพวกแกแหกอีกรอบ” คาริสาพูดพร้อมทำท่าง้างมือจะตบสองสาว พวกเธอจึงส่งเสียงกรีดร้องดังลั่น “ไป! แล้วอย่าให้ฉันเห็นว่าพวกแกยุ่งกับแดเนียลอีก”
“กรี๊ดดดดด! ฝากไว้ก่อนเถอะอีหมาบ้า” มิวมิวพูดทิ้งท้ายก่อนจะรีบลุกขึ้นแล้ววิ่งออกไปจากห้องน้ำ โดยที่คาริสาก็เดินตามพวกหล่อนออกไป
มิวมิวกับเพื่อนวิ่งผ่านแดเนียลไปโดยไม่ได้หันกลับมามองชายหนุ่มสักนิด ทำเอาแดเนียลถึงกับงุนงง
อะไรทำให้พวกหล่อนหนีกระเจิงขนาดนั้น
“เธอเป็นคนทำใช่ไหม”
“ฉันไม่รู้จักนายซะหน่อย แล้วฉันจะทำแบบนั้นไปทำไม”
คาริสาพูดจบก็รีบเดินผ่านหน้าชายหนุ่มไปในทันที แต่ครั้งนี้แดเนียลไม่ปล่อยให้เธอจากไปง่าย ๆ เขาเดินตามคาริสาก่อนจะดึงกระชากข้อมือเล็กอย่างแรง
“ทะ...ทำอะไรของนาย ปล่อยนะ” แดเนียลจับมือคาริสาเดินไปยังรถคันหรูของตัวเอง เขาไม่สนใจเสียงร้องโวยวายของเธอสักนิด
“เธอทำให้ผู้หญิงพวกนั้นวิ่งหนีฉัน เธอต้องรับผิดชอบ”
“รับผิดชอบอะไร?”
“ฉันรู้นะว่าเธออยาก ถ้าอยากมากก็มาขอฉันดี ๆ เดี๋ยวฉันสงเคราะห์ให้” คาริสาสะบัดมือออกจากเกาะกุมหนา ก่อนจะตบหน้าแดเนียลอย่างบันดาลโทสะ ทว่ามือของเธอก็ดันหนักด้วยสิ ทำเอาคนโดนกระทำเลือดกบปาก
“ไม่เคยมีใครทำกับฉันแบบนี้!”
“ไม่เคยมีใครพูดกับฉันแบบนี้เหมือนกัน นายอย่าคิดว่าคนอื่นจะเหมือนนายทุกคนสิ” ว่าจบหญิงสาวก็หันหน้าหนีชายหนุ่มอย่างเอือมระอา
ดวงตาคู่กลมสวยมองเห็นผู้ชายแปลกหน้าผ่านกระจกรถ ตอนนี้พวกมันกำลังเล็งปลายกระบอกปืนมายังศีรษะของคนที่ยืนอยู่ข้างหลังเธอ วินาทีนั้นคาริสารีบหันไปหาแดเนียลแล้วผลักเขาหลบกระสุน
ปัง!
เสียงปืนดังลั่น กระสุนเฉียดฉิวพวกเขาทั้งคู่ไปเพียงนิดเดียว
เพล้ง!
เสียงกระจกรถแตกดังเพล้งกระจัดกระจายไปทั่วลานจอดรถ ซึ่งคาริสากับแดเนียลล้มตัวนอนราบไปกองกับพื้น คนก่อเหตุเร่งรถหลบหนีไปในทันที
“พวกมันคงแค่เตือนสินะ” คาริสามองสองชายโฉดจนสุดทาง ก่อนที่แดเนียลจะผลักเธอออกจากร่างของตน แล้วลุกขึ้นยืนด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์
“อะไรเนี่ยคนอุตส่าห์ช่วย ขอบคุณสักคำก็ไม่มี” คาริสาลุกขึ้นยืนตามชายหนุ่ม มือเรียวปัดฝุ่นละอองที่เปื้อนเสื้อเดรสออกอย่างหัวเสีย
“พวกเดิม!”
“นายหมายความว่าไง” เมื่อได้ยินชายหนุ่มพูดออกมาอย่างนั้น คาริสาก็รีบตั้งคำถามกับเขาทันที
“หมาลอบกัด อย่าให้รู้นะว่าพวกมึงเป็นใคร!”
ในช่วงที่เศรษฐกิจตกต่ำ บริษัทฯ ของฉันกำลังจะล้มละลาย หนำซ้ำยังมาเจอเรื่องซวย เมื่อคนขับรถของที่บ้านดันไปชนเด็กอายุราว ๆ เท่าหลานชาย ทว่ายังโชคดีที่เด็กคนนั้นไม่ได้เป็นอะไรมาก"คุณมีปัญหาที่บริษัทฯ เหรอคะ" เด็กสาวเอ่ยถามท่ามกลางความเงียบสงัดในห้องผู้ป่วย"หนูได้ยินที่ฉันพูดด้วยเหรอ มันคงรบกวนให้หนูตื่นสินะ" ฉันหันไปถามเด็กสาวเจ้าของใบหน้าสวยหวาน"หนูช่วยคุณได้นะคะ" ได้ยินอย่างนั้นฉันก็เผลอหลุดขำออกมาทั้งที่ก่อนหน้านี้ยังเครียดอยู่เลย"อายุเท่าไหร่เราอ่ะ เรื่องของผู้ใหญ่เด็กไม่ควรยุ่งนะ""หนูจะสิบแปดแล้วนะ" เด็กสาวพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น ในดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นและตั้งใจกับสิ่งที่ตนเองเอ่ยพูดไปเมื่อครู่ ฉันได้แต่ถอนหายใจเบา ๆ ก่อนจะตอบกลับไปอีกครั้ง"ก็นั่นแหละจ๊ะ ควรตั้งใจเรียนก่อนไหม"เด็กสาวทำหน้ามุ่ยใส่ฉัน ก่อนจะหันหลังดึงผ้ามาห่ม ทำราวกับว่าต้องการพักผ่อนแต่แล้วอยู่ ๆ เธอก็หันมาสนทนากับฉันต่อ ทุกคำที่เด็กสาวพูดออกมามันทำให้ฉันรู้สึกได้ว่าเด็กคนนี้ช่างพูดช่างเจรจาเสียจริงสภาพจิตใจย่ำแย่ช่วงเวลาวิกฤตแบบนี้ล
“หนูชื่ออะไร” ภาคินชายวัยสามสิบปลาย ๆ พยายามทำความรู้จักกับเด็กน้อยอายุเก้าขวบ“คาริสาค่ะ ชื่อเล่นชื่อเคส”“ว้าว ชื่อเพราะจังใครตั้งให้”“หนูไม่รู้ค่ะ” ทั้งคู่นั่งสนทนากันอยู่ภายในรถคันหรูเด็กน้อยกอดหนังสือเล่มหนึ่งไว้แน่น สีหน้าของเธอดูไม่อยากจะสนทนากับเขานัก สังเกตจากคำพูดที่ถามคำตอบคำ“นั่นหนังสืออะไร ขอลุงดูหน่อยได้ไหม” เธอยื่นหนังสือเล่มนั้นให้เขาอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ“มีคนให้หนูมาค่ะ หนูชอบมากเลย”เพียงแค่เห็นปกหนังสือก็ทำเอาภาคินขมวดคิ้วเป็นปม เนื่องจากมันเป็นหนังสือคณิตศาสตร์หลักสูตรมัธยมปลาย“หนังสือเล่มนี้เป็นเนื้อหาของม.ปลาย เลยนะ หนูอ่านเข้าใจด้วยเหรอ”“...” นานนับนาทีกว่าเด็กน้อยจะพยักหน้ารับ“เด็กเก้าขวบเนี่ยนะ” ภาคินพึมพำ เขาไม่อยากจะเชื่อ“...” คาริสาเม้มปากเบา ๆ หลายคนในสถานสงเคราะห์ก็คิดแบบเดียวกับภาคิน“ใครเป็นคนให้หนูมา” คาริสาชี้ไปที่มุมบนขวาหน้าแรกของหนังสือ ซึ่งมีชื่อที่ถูกเขียนด้วยหมึกดำบ่งบอกความเป็นเจ้าของ “หนูรู้ไหมว่าเขาเป็นใคร”“หนูจะรู้ได้ไงคะ หนูเด็กเก้
คาริสาเข้ามานั่งที่เบาะหลังรถโดยที่มีเรติกานั่งรออยู่ และมีเตชินเป็นคนขับรถให้“แหม หายไปทั้งคืนเลยนะยะ รู้ไหมว่าเพื่อนเป็นห่วง”“โอ๊ย! เบา ๆ อย่าจับแรง”คาริสาร้องเจ็บเมื่อเรติกาเอามือไปวางบนหน้าขาของเธอ เนื่องจากว่าน้ำหนักมือของเพื่อนสาวที่วางลงมาหนักไปหน่อย“ทำเป็นร้องเจ็บด้วย ไปทำอะไรมาล่ะถึงได้เจ็บตรงนี้ หืม”“แกก็...” สองสาวต่างหัวเราะให้กันและกันอย่างรู้ใจ จังหวะเดียวกันนั้นเตชินก็หักพวงมาลัยรถเลี้ยวผ่านหน้าคอนโด“เตหยุดรถก่อน” เรติกาส่งเสียงให้เพื่อนอีกคนหยุดรถกะทันหัน ซึ่งเตชินก็ค่อย ๆ ชะลอแล้วทอดสายตามองออกไปข้างนอกกระจกรถ“เคส ไอ้แอเรียลกำลังจะเข้าไปในคอนโด” คาริสาชะเง้อหน้าหันไปมองตามที่เพื่อนสาวบอก เรติกาฉุนเมื่อเห็นหน้าคนใจโหดอย่างแอเรียล “เห็นหน้ามันแล้วอยากจะลั่นกระสุนใส่หัวมันจริง ๆ”“เรย์ใจเย็น” คาริสาพูดแล้วชักกระบอกปืนออกมาจากเก๊ะอย่างลืมตัว“เดี๋ยว ๆ ฉันว่าคนที่ควรจะใจเย็นคือแกนะ เอาปืนลงก่อนเดี๋ยวลั่นจริง ๆ”ขณะที่เดินทางกลับไปยังองค์กร ดวงตาคู่หนึ่งมองดูความวุ่นวายของรถราที่แล่นไปมาบนถนนใหญ่
บทรักล่วงเลยไปนานเกือบสองชั่วโมง ดูเหมือนแดเนียลยังไม่สาแก่ใจ เขายังมีแรงมากพอที่จะสร้างบทรักอันเร่าร้อนกับเธอต่อคาริสาเริ่มหายใจหอบ สองขาเรียวสั่นเทาด้วยความเหนื่อยล้า เนื่องจากต้องเกี่ยวเข้ากับเอวสอบเอาไว้เป็นเวลานาน แดเนียลเล่นคาเจ้าเอ็นอุ่นไว้ในร่างกายของหญิงสาวไม่ยอมถอดออกเมื่อรู้สึกว่ามันกลับมาแข็งตัวได้อีกครั้ง เขาก็ออกรบอย่างหนักหน่วงและต่อเนื่องไม่หยุดหย่อนจนน้ำรักมันไหลล้นเต็มง่ามขา“แดน ไปต่อที่เตียงเถอะ ฉันไม่ไหวแล้ว เมื่อยขาไปหมดแล้ว” คาริสาพูดพลางแนบใบหน้าลงบนไหล่กว้าง“แค่นี้ก็ไม่ไหวแล้วเหรอ” หากเป็นเมื่อก่อนแค่สามสี่รอบคาริสาก็แทบจะสลบคาอกเขาแล้ว แต่ทว่าตอนนี้แดเนียลคงไม่ยอมหยุดง่าย ๆ“ไปต่อที่เตียงก็ได้ แต่บอกไว้ก่อนนะว่าฉันยังไม่พอใจ เธอจะต้องโดนเอาอีกหลายท่า”แดเนียลโอบรัดเอวบางแล้วกระแทกกายแกร่งอันใหญ่ยาวเข้าไปอย่างหนักหน่วง เมื่อรู้สึกว่ามันแข็งตัวขึ้นมาอีกแล้ว ร่องสาวได้แต่กระตุกระรัวเมื่อถูกกระตุ้นด้วยแรงกระแทกกระทั้น“อืมส์ อ๊ะส์” ความใหญ่ถูกดันเข้าไปในช่องรักตามจังหวะการก้าวเดินไปจนถึงเตียงนอนที่คุ้นเคย
ณ คอนโดของแดเนียล“วันนี้คุยอะไรกับย่าของแก”“ก็คุยกันเรื่องทั่วไป พรุ่งนี้คุณย่าไม่ได้ไปส่งที่สนามบินเพราะติดธุระสำคัญ”“อะไรจะสำคัญกว่าหลานชายตัวเอง”“ไม่เป็นไรหรอกพ่อ ผมลาคุณย่าเรียบร้อยแล้ว”“ฮึ! ถึงเวลาที่แกจะต้องทำหน้าที่ของตัวเองสักที”แดเนียลชักสีหน้าไม่สบอารมณ์ เขาเก็บข่มความโกรธแค้นเอาไว้ภายในใจหลังจากที่ผ่านความเจ็บปวดทรมานมาเกือบเดือน บัดนี้เขาจะต้องดูแลหัวใจตัวเองให้ดีที่สุดดีเหมือนกัน เขาจะได้ลืมเธอสักที“ฉันจัดการทุกอย่างให้แกเรียบร้อยแล้ว ถ้าหากแกจะอาลัยอาวรณ์กับคอนโดนี่นัก ฉันก็จะอนุญาตให้แกพักผ่อนที่นี่เป็นคืนสุดท้าย”“ไม่ต้องส่งใครมานะ ผมอยากอยู่คนเดียว”“ฉันจะตามใจแกวันหนึ่งแล้วกัน”หลังจากที่พูดคุยกับแอเรียลผู้เป็นพ่อเสร็จสรรพ แดเนียลเดินเข้ามาภายในห้องนอน เขาคงคิดถึงห้องนี้มาก เพราะตั้งแต่เข้ามาเรียนในมหาลัย เขาอยู่จนผูกพันกับที่นี่มากกว่าที่บ้านเสียอีก ทว่าเสียงที่ไม่ชอบมาพากลก็ดังสวนขึ้นมาภายในห้องนั่งเล่น แดเนียลจึงเดินออกไปดู“นั่นใคร!”คาริสามารอเจอแดเนียล ส
“ฉันรักนาย อึก! ฉันรักนายนะแดน!”เฮือก!คาริสาตะโกนจนสุดเสียงก่อนจะสะดุ้งตื่นขึ้นมา เสียงหายใจดังเฮือก จากสายตาพร่ามัวค่อย ๆ ปรับให้เธอมองเห็นสิ่งที่อยู่รอบ ๆ ตัวชัดขึ้น“ฉันอยู่ที่ไหน”ในห้องที่เงียบจนทำให้คาริสาได้ยินเสียงหายใจของตัวเอง ความล้าของร่างกายทำให้ตัวของเธอค่อย ๆ ขยับตัวอย่างช้า ๆ สายตาหญิงสาวกวาดมองไปรอบ ๆ ห้องก็เห็นผู้ชายร่างสูงยืนกอดอกเฝ้ามองเธออยู่ตรงประตู และตอนนี้เขาก็กำลังมุ่งหน้ามาหาคาริสา“เจอเธอทีไรมีเรื่องตลอด”เขาพูดพร้อมหยิบขวดน้ำเทใส่แก้วแล้วยื่นให้คาริสา “อ่ะ ดื่มน้ำก่อน”เตชินประคองให้คาริสาลุกมาดื่มน้ำ“ที่นี่ที่ไหน ฉันมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง” คำถามกลับไร้คำตอบ แต่แล้วอยู่ ๆ คาริสาก็รู้สึกเจ็บจี๊ดขึ้นสมองเกิดอาการปวดหัวอย่างรุนแรง“โอ๊ยยยยย!” ความทรงจำที่ค่อย ๆ ไหลเข้าหัว มองเห็นภาพเป็นฉาก ๆรถตู้ที่ขับมาจอดกะทันหันตรงหน้าเธอในห้องที่มืดโทรศัพท์ที่แบตเตอรี่เหลือ 20%“เคสฉันรักเธอ”เสียงของแดเนียลเสียงตัวเองร้องไห้ภาพที่ถูกใครบางคนตบหน้า