ซูชิงอวี่บ่นพึมพำที่หลุมศพอยู่นานถึงได้กลับไป เธอไม่มีเวลาโศกเศร้า เพราะเธอจำเป็นต้องตามสืบต่อจากรูปภาพที่เธอได้มาผู้หญิงที่พ่อพบเจอส่วนมากเป็นที่บริษัท ในตอนที่เธอเตรียมเริ่มต้นจากพนักงานของบริษัท เธอได้รับสายโทรศัพท์เป็นสายของอู๋เริ่นเด็กจากพื้นที่ภูเขาที่พ่อเคยช่วยเหลือ เสียงของเขาร้อนรนอย่างเห็นได้ชัด “คุณหนูซู ผมเพิ่งกลับจากต่างประเทศก็ได้ยินข่าวที่คุณซูป่วยหนัก เขาเป็นยังไงบ้างครับตอนนี้?”“ขอบคุณในความเป็นห่วงนะ พ่อของฉันยังรับการรักษาที่โรงพยาบาล”“เฮ้อ คนดีแบบคุณซูสวรรค์ทำไมถึงทำกับเขาแบบนี้? ตอนนั้นถ้าไม่ใช่เพราะเขาช่วยเหลือพวกเรา พาพวกเราออกมาจากภูเขา พวกเราจะมีชีวิตแบบทุกวันนี้ได้อย่างไร?”ซูชิงอวี่มีความคิดหนึ่งแวบเข้ามาในหัว หลายปีก่อนซูฉี่ผิงเริ่มช่วยเหลือเด็กๆ ในพื้นที่ภูเขาที่ยากจน หากลี่หลานหลุ่ยถูกจับตัวไปขายในเขาลึก เป็นไปได้ไหมว่าจะรู้จักกับคุณพ่อเพราะเหตุนี้?“พี่อู๋ พี่รู้จักนักเรียนเหล่านั้นที่คุณพ่อช่วยเหลือไหม?”“ผมติดต่อพวกเขาแทนคุณซูมาโดยตลอด ส่วนมากก็รู้จัก เพียงแต่หลายปีนี้ออกนอกประเทศขาดการติดต่อกัน หากคุณหนูซูต้องการความช่วยเหลืออะไร ไม่ว่าทรัพย
เพื่อไม่ให้อาการป่วยของเธอเลวร้ายไปกว่านี้ หลินเหยียนจึงกำหนดเวลาคีโมระยะแรกสำหรับเธอเป็นวันมะรืนผลข้างเคียงของคีโมค่อนข้างจะหลากหลาย โดยที่สองสัปดาห์แรกหลังการทำคีโมร่างกายจะอ่อนแออย่างมากและผมร่วง ซูชิงอวี่จึงต้องจัดเตรียมสิ่งต่างๆ ติดตัวไว้ให้อย่างเรียบร้อยล่วงหน้าซูฉี่ผิงไม่มีทีท่าว่าจะฟื้นขึ้นในขณะนั้น โชคดีที่เธอไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับค่ารักษาพยาบาล จึงชำระค่ารักษาพยาบาลแล้วกลับบ้านเดิมทีห้องแต่งงานเป็นของเธอและลี่ถิงเชิน เมื่อคิดว่าตัวเองจะย้ายออกไปไม่นานนี้แล้ว เธอกลัวว่าร่างกายของตัวเองจะอ่อนแอยิ่งขึ้นหลังจากทำคีโม จึงหาบริษัทขนย้ายบ้านมาล่วงหน้าโดยที่ฉินโอวเพื่อนที่ดีที่สุดของเธอก็มาด้วยเช่นกัน เธอสวมชุดสูทและรองเท้าส้นสูงพร้อมกระเป๋า และยังพกมันเทศเผาสองหัวมาอีกด้วยและเสียงของเธอก็ดังขึ้นมาแต่ไกลว่า "เพื่อนซู ในที่สุดเธอก็ออกจากไอ้หมอนั่นได้สักทีนะ! ฉันเพิ่งรับค่าคอมมิชชั่นขายบ้านเมื่อเดือนที่แล้ว ตอนกลางคืนฉันจะพาเธอไปเที่ยวที่ไนต์คลับเฮยหม่านะ คางคกมีสามขามันหายาก แต่ผู้ชายมีสองขามีทุกที่ "สัปดาห์นี้เมื่อซูชิงอวี่หายไป เธอเพิ่งบินไปต่างประเทศเพื่อหาแฟนของเธอ เธอจ
ทั้งสองสาวที่เพิ่งอกหักมีเรื่องที่เสียใจมากมายที่คล้ายกัน โดยที่ฉินโอวได้เลือกช่างตัดผมหนุ่มหล่อมาสองคน และเมื่อช่างตัดผมเห็นซูชิงอวี่ ดวงตาของเขาก็เป็นประกายขึ้นมาทันที จากนั้นก็แนะนำทรงผมที่กำลังเป็นที่นิยมในช่วงนี้ให้กับเธออย่างรวดเร็วแต่ซูชิงอวี่กลับปฏิเสธโดยตรง "ตัดให้สั้นก็พอค่ะ ยิ่งสั้นยิ่งดี""คุณลูกค้าครับ แม้ว่าตอนนี้ทุกคนมักจะชอบแต่งตัวให้ดูดีและดูเท่ แต่ตามความคิดของเรานั้น ถ้าผมตัดสั้นเกินไป การทำทรงผมก็จะมีข้อจำกัดบางอย่างนะครับ ผมว่าเราลองตัดให้เท่าไหล่ดีไหมครับ ทรงนี้จะทำให้ดูเด็กลง และไปทุกๆ ที่ได้นะครับ""ไม่จำเป็นหรอกค่ะ"“คุณลูกค้ามีผมสลายมาก แค่ดูก็รู้ว่าไว้ผมยาวมาหลายปีแล้ว ถ้าตัดสั้นมันจะน่าเสียดายมากเลยนะครับ” ช่างตัดผมส่ายหน้าด้วยความเสียดายซูชิงอวี่มองตัวเองในกระจก ถึงแม้ช่วงนี้เธอจะพักผ่อนน้อยและหน้าซีด แต่หน้าตาของเธอก็ยังสวยเหมือนเดิม สวนผมดำขลับที่ไม่ได้รักษามานานนั้นก็ขยับปลิวไสว ทำให้เธอดูสวยสง่าเป็นอย่างมากลี่ถิงเชินชอบผมยาวของเธอ เธอไม่ได้ตัดมันมาสองสามปีแล้ว และเมื่อเห็นว่าช่างตัดผมไม่อยากจะลงมือตัด ซูชิงอวี่ก็หยิบกรรไกรมาด้วยรอยยิ้ม "งั้นฉัน
ลี่ถิงเชินถลึงตาใส่เฉินหลิ่งด้วยสายตาเย็นชา เฉินหลิ่งรีบอธิบายไปว่า "ประธานลี่ครับ ตอนนี้คุณนายอยู่กับฉินโอวครับ"ฉินโอวเป็นเพื่อนซี้ของซูชิงอวี่ การที่พวกเขาทั้งสองอยู่ด้วยกันนั้นเป็นเรื่องปกติ ตอนแรกเพื่อที่จะรู้ว่าซูชิงอวี่อยู่ที่ไหนและทำอะไรอยู่ ลี่ถิงเชินจึงให้เฉินหลิ่งแอดไลน์ของเธอเฉินหลิ่งอธิบายพลางหยิบมือถือของเธอออกมา เลื่อนไปเจอไทม์ไลน์ล่าสุดของฉินโอว ฉินโอวดัดผมเป็นผมดัดลอนสีดอกซากุระมันน่าหลงใหลมาก ลี่ถิงเชินแค่ดูแวบหนึ่งก็เห็นว่าซูชิงอวี่ที่อยู่ข้างๆ เธอต่างกับสไตล์ประจำวันของเธอมันดูราวฟ้ากับดิน ผมยาวเกือบเท่าเอวจะกลายเป็นผมซอยแบบแสกกลาง เหมาะมากกับหน้าเรียวของเธอ ปกติเธอยิ้มเหมือนพระอาทิตย์ดวงน้อย นิสัยเบิกบานแจ่มใสของเธอก็กลายเป็นเศร้าลงในรูปนี้ เธอก้มหน้าอยู่ สวมเสื้อเชิ้ตของผู้ชายตัวใหญ่ กระดูกไหปลาร้าที่งดงามก็โผล่ให้เห็น ทั้งตัวของเธอดูมีความสวยและทรงเสน่ห์แบบโทนเย็นที่เปล่งออกมาแคปชั่นคือ คืนชีพลี่ถิงเชินไม่รู้ตัวว่ามือของตัวเองที่กุมมือถืออยู่นั้นสั่นเบาๆ ถูกเธอก่อกวนมาตลอดหนึ่งปี ตอนนี้เธอเลือกที่จะปล่อยมือ เห็นๆ อยู่ว่าเป็นสิ่งที่ตัวเองอยากเห็น แต่ทำไ
เดิมคิดว่าฉินโอวกินเหล้าแล้วยังมีสติอยู่ แต่ไม่คิดว่าเธอจะเมาจนบ้าไปแล้วถ้าไม่ใช่ซูชิงอวี่ขวางเธอเอาไว้ เธอก็คงจะได้มีอะไรกับชายหนุ่มในห้องส่วนตัวไปแล้วล่ะ ถึงอย่างไรก็ตามซูชิงอวี่เอง ยังไม่เคยเห็นว่ามีชายหน้าไหน ที่เธอไปโอบกอดมาหาว่าเป็นหญิงแก่ที่ไม่มีลูกหลานดูแลเมื่อเห็นเธอเมาจนหัวราน้ำ ซูชิงอวี่ก็พาเธอกลับไปที่คอนโดที่เช่าใหม่ของเธอไม่นานมานี้แม่บ้านในโรงพยาบาลพบว่าเธอกำลังหาบ้านอยู่ และแนะนำคอนโดของญาติตัวเองให้เธอ ซูชิงอวี่คิดว่าเธอสามารถประหยัดค่านายหน้าได้ พร้อมยังมีแม่บ้านช่วยรับรอง เธอตกปากรับคำไปเจ้าของบ้านต้องใช้เวลาสักพักกว่าจะกลับประเทศ ดังนั้นทั้งสองคนจึงยังไม่ได้ลงนามสัญญา ซูชิงอวี่คุยกับเขาในไลน์เกือบจะเรียบร้อยแล้ว หลังจากเจ้าของบ้านยอมให้เช่า เธอจึงเริ่มทำความสะอาดและย้ายมาอยู่ที่นี่เพราะเธอยังไม่ลงนามสัญญาเช่าบ้าน ลี่ถิงเชินจึงไม่สามารถหาเธอได้ในเวลานี้จริงๆแม้ว่าคอนโดขนาดเล็กจะไม่ดีเท่ากับวิลล่าของตระกูลซูที่ยังไม่ล้มละลาย และไม่ดีเท่ากับห้องแต่งงานของเธอด้วย แต่มันดูอบอุ่นมาก เธอชอบที่นี่มาก โดยเฉพาะเธอยังเลี้ยงปลาเขตร้อนที่พ่อชอบพอเธอผลักหน้าต่างก็เห
ซูชิงอวี่มองหลินเหยียนแวบหนึ่งด้วยความขอบคุณ หลินเหยียนพยักหน้ารับและหันกลับไปเพื่อทำตามขั้นตอนให้กับเธอพยาบาลสาวอธิบายอย่างอดทนต่อเธอ "คุณซูคะ คืออย่างนี้ค่ะ คุณจะต้องรับการรักษาเป็นเวลานาน เนื่องจากยาคีโมเป็นยาฉีด เมื่อฉีดยาเราจะต้องแทงเข็มเข้าเส้นเลือด ซึ่งจะทำให้เส้นเลือดได้รับความเสียหาย อาจมีการรั่วซึมของยาจากหลอดเลือดเกิดขึ้นบางที ยาบางชนิดของคีโมมีความเป็นกรดเพื่อป้องกันปัญหาเหล่านี้ เราแนะนำว่าคุณควรคาสายสวนหลอดเลือดดำก่อนเริ่ม เพื่อให้ยาสามารถเข้าสู่เส้นเลือดและอวัยวะต่างๆ ในร่างกาย เราจะคาเข็มทางหลอดเลือดดำสำหรับให้ยาเข้าเส้นเลือด ข้อดีคือ เมื่อใช้เวลานาน ครั้งต่อไปที่ฉีดยาคีโมจะไม่ต้องหาเส้นเลือดอีกและไม่เสี่ยงต่อการที่เข็มจะหลุด สะดวก ปลอดภัย แต่ข้อเสียคือ หลังจากนี้มือนี้จะไม่สามารถยกของหนักได้อีกซูชิงอวี่เห็นด้วยกับคำแนะนำของพยาบาลสาว ก่อนที่จะเริ่มทำคีโม เธอได้ทำการผ่าตัดเล็กๆ คือตั้งสายสวนหลอดเลือดดำในแขนของเธอ ร่างกายของเธอมีความต้านทานต่อยาชา เลยปฏิเสธฉีดยาชา เมื่อมีดกรีดเนื้อตัวเธอ เธอเพียงแค่ขมวดคิ้วและไม่มีเสียงออกมาหมอถามว่า "ไม่ค่อยจะมีเด็กสาวคนไหนทนเจ
ซูชิงอวี่แต่งหน้าโดยเฉพาะ ทำให้ตัวเองดูสวยขึ้นเมื่อมองเห็นหิมะตกหนักที่ปลิวว่อนอยู่ข้างนอก ซูชิงอวี่จะห่อตัวเองราวกับบ๊ะจ่างหลังจากการทำคีโม ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายจะลดลง มันทำให้ร่างกายเป็นเหมือนตุ๊กตาที่อ่อนแอ พวกเขามีภูมิคุ้มกันที่ต่ำกว่าคนปกติมากดังนั้นต้องตรวจเลือดทุกสองวัน เพื่อดูสัดส่วนของเม็ดเลือดขาวและแดง หากต่ำกว่าปกติต้องใช้ยาบำบัดไม่งั้นหากภูมิคุ้มกันต่ำเกินไป เป็นไข้อาจตายได้ ซูชิงอวี่ไม่กล้าที่จะละเลย ระหว่างความสวยงามและความปลอดภัย เธอเลือกอย่างหลังเมื่อเธอสัมผัสผมที่ด้านหลังซึ่งเห็นได้ชัดว่าบางกว่าส่วนอื่นๆ ของศีรษะ เธอจึงสวมหมวกขนสัตว์สีดำอย่างระมัดระวังหลินเหยียนได้คัดค้านการออกจากบ้านของเธอ และพูดอย่างตรงไปตรงมาว่า "ชิงอวี่ ตอนนี้คุณไม่ควรออกไปข้างนอก เมื่อวานนี้การตรวจเลือดของคุณแสดงว่าตัวเลขทางเม็ดเลือดของคุณลดลงเร็วมาก ผมเป็นแพทย์ทำการรักษาของคุณ ผมต้องรับผิดชอบความปลอดภัยของคุณ "ซูชิงอวี่ร้องไห้จนตาแดงจ้องมองด้วยอย่างน่าสงสารและได้อ้อนวอนว่า "รุ่นพี่คะ ไม่มีใครอยากยุ่งวุ่นวายกับแฟนเก่าหรอกนะ ตามจริงแล้วตอนนี้ฉันยังดูไม่แย่มาก ฉันต้องการออกจากชีวิต
ซูชิงอวี่เงยหน้าขึ้นและมีการถากถางพุ่งเข้ามาในดวงตาของเธอ "คุณลี่ถามดีมากๆ ตอนนี้ไม่ใช่คุณอยากหย่าหรอ"ชัดเจนว่าลี่ถิงเชินไม่สนใจคำพูดของเธอ และเข้าไปข้างๆ ซูชิงอวี่ด้วยความเย็นชา "ช่วงนี้เธออยู่กับเขาทุกวันใช่ป่ะ"ในระยะใกล้นี้ ซูชิงอวี่เห็นได้ชัดว่าสายตาใต้ขนตาหนาของเขาเย็นชามาก ดวงตาของเขามีเส้นเลือดมากมาย และใบหน้าของเขาเต็มไปความดุร้ายซูชิงอวี่ปฏิเสธเสียงแข็ง "ไม่ใช่ วันนี้เรียกแท็กซี่ไม่มา รุ่นพี่ผ่านมาทางนี้พอดีฉันก็เลยติดรถมาด้วยน่ะ"ลี่ถิงเชินยิ้มเยาะ "ซูชิงอวี่ เวลาที่คุณโกหก ตาจะชอบมองขึ้นไป นิสัยนี้ยังไม่เปลี่ยนเลยนะ คุณต้านทานมานานเป็นปีแล้ว แต่ตอนนี้ก็ปล่อยมือไปกะทันหัน ผมงงอ่ะ คุณหายไปเพื่อชายคนนั้นใช่ไหม แม้แต่พ่อคุณยังป่วยหนักอยู่ คุณทิ้งทุกอย่างไปเพื่อชายคนนั้นใช่ไหมซูชิงอวี่ไม่อยากอธิบายอีก เขาเป็นคนฉลาดขนาดนี้ ถ้าเธอยังใช้ข้ออ้างอีกจะทำให้เขารู้สึกว่าเธอกำลังดูถูกสติปัญญาของเขา ดังนั้นเธอจึงจะยิ่งอธิบายยิ่งผิดดังนั้นซูชิงอวี่จึงเปลี่ยนเรื่องอย่างรวดเร็วและพูดว่า "มันไม่สำคัญ เราไปหย่ากันดีกว่า"ก่อนที่เธอจะเดินไป ลี่ถิงเชินก็คว้าข้อมือของเธอเอาไว้ จริงๆแล้