ห้องวีไอพี
ปัง!! เสียงประตูห้องที่กระแทกดังโดยคนตัวสูงทำเอาใจฉันหล่นวูบหายไปตามกันเลย ก่อนที่ร่างของฉันจะโดนเขาเหวี่ยงเข้ามาในห้องอย่างสุดกำลัง “คะ…คุณ…พาฉันมาที่นี่ทำไม?” ฉันถามคนตัวสูงตรงหน้าออกไปด้วยใจที่กล้าๆกลัวๆ ทั้งน้ำเสียงที่สั่นออกมาอย่างควบคุมไม่อยู่ ตึก! ตึก! ตึก! แววตาที่เยือยเย็นนั่นยังคงจ้องเขม็งมาที่ฉันไม่วางตา อีกทั้งเขายังค่อยๆก้าวเท้าเข้ามาใกล้ฉันเรื่อยๆไม่หยุด สิ่งที่ฉันทำได้ในตอนนี้มีเพียงแค่พยายามประคองสติ และลมหายใจตัวเองไว้ให้นิ่งที่สุด และพยายามเดินถอยหลังหนีคนตัวสูงตรงหน้าเท่านั้น “เธอ…คิดว่าฉันพาเธอมาที่นี่ทำไมเหรอเกวลิน?” เขาทำหน้าแบบนี้อีกแล้ว สีหน้าและรอยยิ้มที่เจ้าเล่ห์นั่น มันทำฉันขนลุกมากขึ้นไปอีก ฉัน…ไม่น่าเชื่อคำพูดเขาเลย ที่บอกว่าเขาจะไม่ทำอะไรฉันน่ะ มันโกหกทั้งเพ “ฉะ…ฮึก! ฉัน…อยากกลับบ้าน” ฉันไม่สามารถควบคุมความกลัวของตัวเองได้อีกแล้ว ฉัน…กลัวเขา กลัวจนเผลอร้องไห้ออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ ตุบ!! ฉันเอาแต่ถอยหลังหนีคนตัวสูง จนไม่ทันได้สังเกตเลยว่าตอนนี้ตัวเองถอยหลังออกมาไกล จนชนเข้ากับปลายเตียงแล้วล้มลงไปบนเตียงซะแล้ว “กลัวเหรอ?” คนตัวสูงตรงหน้าที่เดินเข้ามาใกล้ไม่ห่าง ถามออกมาด้วยน้ำเสียงที่เรียบนิ่ง “…” ฉันไม่ตอบเขา ไม่กล้ามองหน้าเขาเลยด้วยซ้ำ ฉัน…กลัวจริงๆนะ “มองหน้าฉันสิ เกวลิน!” ฟึ่บ!! ฉันไม่ได้หันไปมองหน้าเขาอย่างที่เขาสั่ง แต่เขาก็ยังจะเอื้อมมือข้างหนึ่งของเขามาจับหน้าฉันให้หันไปเงยหน้ามองเขาแทน “ฮึกๆ คุณบอกว่าจะไม่ทำอะไรฉัน ฮึก ถ้าฉันทำตามคำสั่งนี่ค่ะ” น้ำตาของฉันมันไหลพรั่งพรูออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ เพราะความกลัว และเจ็บใจที่ตัวเองดันโง่ตามเขาถึงที่นี่ “แล้วฉัน…ได้ทำอะไรเธอรึยัง?” “…” ถึงจะยังไม่ทำ แต่ก็เห็นๆอยู่ว่าเขากำลังจะทำอ่ะ ฟึ่บ!! คนตัวสูงเอื้อมมืออีกข้างของเขามาเช็ดคราบน้ำตาที่อยู่บนหน้าฉันออกไป “ท่าทีของเธอตอนนี้…มันไม่แตกต่างจากเมื่อคืนเกินไปหน่อยเหรอ? เกวลิน” เรื่องเมื่อคืนอีกแล้ว เมื่อคืนมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่? ทำไมเขาถึงเอาแต่พูดถึงเรื่องเมื่อคืนอยู่ได้! “ฮึก! ไม่ว่าเมื่อคืนฉันจะทำอะไรให้คุณ มันก็เป็นเพราะฉันเมา ฉันไม่ได้ตั้งใจ! ฮึก! ฉันจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าฉันทำอะไรลงไปบ้าง คุณนั่นแหละที่ฉวยโอกาสตอนฉันเมา แล้วทำแบบนั้นกับฉัน” ฉันเผลอพูดเรื่องที่ฉันสงสัยออกไป เรื่องรอยที่คอของฉัน ไม่ว่าจะคิดยังไงมันก็ไม่ใช่รอยยุงกัดเลยสักนิด แต่ฉันก็ไม่ได้โง่พอที่จะเดาไม่ออกว่ามันคือรอยอะไร และเมื่อคืน…ในบ้านนั้นมีแค่ฉันกับผู้ชายคนนี้เท่านั้น! ถ้ารอยที่คอของฉันไม่ใช่ฝีมือของผู้ชายคนนี้ แล้วมันจะเป็นฝีมือของใครได้อีกล่ะ “ฉันทำอะไร?!” “คุณ…คุณมันคนฉวยโอกาส! ฮึก!” “คนที่ฉวยโอกาสน่ะ…คือเธอมากกว่านะ เกวลิน!” พรึ่บ!! คนตรงหน้าพูดขึ้นมา ก่อนที่เขาจะทำในสิ่งที่ฉันคาดไม่ถึง “นี่คุณจะถอดเสื้อทำไมเนี่ย?” “ก็ถอดหลักฐานให้เธอดูไง ว่าเมื่อคืน…เธอ…ฉวยโอกาสฉันมากขนาดไหน” “นี่คุณบะ…0 0!!” ฉันกำลังจะโพล่งด่าคนตัวสูงอยู่แล้วเชียว แต่กลับต้องหยุดชะงักเพราะตกตะลึงในสิ่งที่เห็นตรงหน้า นั่นมันอะไรน่ะ? ทำไมบนตัวของคุณคิมหันต์ ถึงมีรอยแดงเต็มตัวเลยล่ะ ไม่สิ! มันดูเหมือน…รอยเขี้ยวมากกว่า เหมือนรอยกัดของคนเลย “หึ! พอจะจำได้รึยังว่าเมื่อคืนเธอฉวยโอกาสฉันมากขนาดไหนหืม?” คนตัวสูงตรงหน้ายกยิ้มมุมปากขึ้นมา และดูเหมือนว่ารอยยิ้มนั่น จะทำให้ฉันหวนนึกถึงความทรงจำบางอย่างที่ผุดขึ้นมาในหัวซะดื้อๆ “หึ! ทำผิดก็ต้องโดนลงโทษนะ เกวลิน” “ลงโทษเหรอคะ?” “เธออยากให้ฉันให้อภัยเธอมั้ยล่ะ?” “…อยากค่ะ” “หึ! ฉันไม่อยากฉวยโอกาสคนเมาหรอกนะ กลับห้องเธอไปซะ!” “เดี๋ยวสิคะ! ถ้าไม่ลงโทษเกว คุณก็จะไม่ให้อภัยเกวนี่ค่ะ เพราะงั้น…ลงโทษเกวมาได้เลยค่ะ” “รู้ตัวรึเปล่าว่าพูดอะไรออกมะ…เฮ้ย! นี่ถอดเสื้อฉันทำไมเนี่ย?” “งับ!!” เขี้ยวแหลมคมของฉันฝังลงไปที่คอของคนตัวสูง “โอ้ย! นี่เธอกัดฉันเหรอฮ่ะ!?” “เกว…อยากกินไก่ตุ๋น งับ!!” “โอ้ย!! เกวลิน! ถ้าเธอยังไม่หยุด ฉันจะไม่ทนแล้วนะ” “อื้อ!! คุณคิมกัดเกวทำไมคะ?” “หึ! แค่กัดมันน้อยไปเกวลิน!!” “อื้อ อ้ะ! เกว…ชอบค่ะ!” “หืม?” “ชอบที่โดนคุณคิมกัด!” “หึๆ เธอไม่รู้ตัวเลยสินะว่าพูดอะไรออกมา” “ทำไมคะ? จะหยุดแล้วเหรอ? กัดอีกสิค่ะ เกวชอบ!” “เธอ…เป็นคนขอเองนะ เกวลิน อย่าเสียใจที่หลังแล้วกัน” “อื้อ!!” โอ้! มาย! ก๊อด!! เกวลิน! นี่เธอทำอะไรลงไปเนี่ยยยย!!? ตึกตักๆๆ ความทรงจำอันน่าอายที่ผุดขึ้นมาในหัวฉัน ทำใจฉันเต้นรัวขึ้นมาดื้อๆ ทั้งยังรู้สึกว่าหน้าตัวเองร้อนผ่าวขึ้นมาจวนจะละลายอยู่แล้ว ระ…รอยเขี้ยวบนตัวคุณคิมหันต์เป็นฝีมือฉันงั้นเหรอเนี่ย? ส่วนรอยแดงที่คอฉัน…ก็เป็นฝีมือของคนตรงหน้าฉันจริงๆด้วย! “หึ! ทำไม? จำได้แล้วเหรอว่าเมื่อคืน…เธอทำอะไรกับฉัน?” คนตัวสูงโน้มหน้าลงมากระซิบข้างหูฉัน ตอนนี้ฉันไม่มีหน้าไปมองหน้าเขาด้วยซ้ำ ได้แต่ก้มหน้าหลบตาคนตรงหน้าด้วยความอายอย่างสุดขีด นี่…ถ้ามุดเตียงหนีได้ฉันคงทำไปแล้ว บ้าไปแล้ว! ฉันต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ!! “ฉะ…ฉัน…ไม่ได้ตั้ง…อุบ!”[คิมหันต์]“คุณคิมหันต์!! มาดูนี่เร็ววว~” เสียงของคนตัวเล็กที่ยืนอยู่ริมทะเลหันมาร้องเรียกผมพร้อมกับรอยยิ้มที่สดใส“หึๆ” ผมที่ที่กำลังเดินอยู่ก็รีบเร่งฝีเท้าเดินเข้าไปหาเกวลินโดยทันที พร้อมกับหิ้วไก่ทอดที่ซื้อมาก่อนหน้านี้ติดมือมาด้วย ตามคำสั่งของคนตัวเล็ก“คุณคิมหันต์ พระอาทิตย์ตกสวยมากเลยว่ามั้ยคะ?” พอเดินเข้ามาถึงตัวเกวลินแล้ว เธอก็ยังคงยกยิ้มสดใสออกมาด้วยความสดใส แถมยังกระโดดไปมาดุกดิกด้วยความตื่นเต้นกับวิวพระอาทิตย์ตกริมทะเลตรงหน้าอีกด้วยผมที่ได้เห็นท่าทีของเธอที่น่ารักของเธอ ก็อดไม่ได้ที่จะยกยิ้มออกมาด้วยความเอ็นดู“ไหนว่าจะกลับห้องไง ทำไมถึงพามาที่นี่ล่ะ?” หลังจากออกมาจากห้างก่อนหน้านี้ ผมตั้งใจว่าจะพาเกวลินกลับไปพักที่ห้องของเธอทันที แต่เธอก็ดื้อดึงอ้อนให้ผมพามาดูพระอาทิตย์ตกที่นี่จนได้ แล้วท่าทีตอนที่เกวลินอ้อนผมมันก็ดันน่ารักซะจนผมปฏิเสธเธอไม่ลงเลยจริงๆ“จะกลับเลยได้ยังไงล่ะคะ วันนี้อุตส่าห์ได้พักทั้งที ต้องออกมาเที่ยวซะหน่อยสิ”หมับ!! เกวลินพูดพร้อมกับส่งยิ้มหวานมาให้ผม ขณะเดียวกันเธอก็ยื่นมือตัวเองมาจับมือที่ว่างอยู่ของผมเอาไว้ ก่อนจะพูดอะไรบางอย่างที่ทำให้ผมใจสั
[เกวลิน]“แน่ใจนะว่าไม่ต้องไปโรงพยาบาล” คุณคิมหันต์ที่ขับรถอยูข้างๆเอ่ยถามคำถามนีเป็นรอบที่สิบได้แล้วมั้ง? หลังจากที่ฉันดีขึ้นแล้ว คุณริมหันต์ก็จัดการเรื่องลางานกับผู้จัดการให้ฉัน แถมยังอาสาพาฉันกลับห้องอีกด้วย และตั้งแต่ที่ออกมามาจากโรงแรม เขาก็เอาแต่ถามย้ำกับฉันอยู่ได้ว่าไม่เป็นไรแน่นะ? ไม่ต้องโรงพยาบาลแน่นะ? ให้ฉันพาไปโรงพยาบาลมั้ย? ถามย้ำรอบที่สิบได้แล้วมั้งน่ะ“เกวไม่เป็นไรแล้วจริงๆค่า แข็งแรงดี สบายใจหายห่วงได้ค่ะ”“ถ้างั้นกลับห้องไปก็พักผ่อนให้เต็มที่่นะ”“เอ่อ คือว่า…ก่อนกลับห้อง เกวมีที่ที่ต้องไปก่อนน่ะค่ะ” จริงๆวันนี้ฉันต้องไปทำธุระสำคัญอย่างหนึ่ง ตอนแรกฉันตั้งใจว่าจะไปคนเดียวด้วยซ้ำ แต่คุณคิมหันต์ก็ดื้อดึงจะไปส่งฉันให้ได้ ฉันปฏิเสธเขาไม่ได้เลยจริงๆ เลยต้องยอมให้เขามาส่งให้จนได้“ไว้รอหายดีก่อนแล้วค่อยไปวันหลัง วันนี้เธอต้องกลับไปพักก่อน”“ไม่ได้ค่ะ เกวต้องไปทำธุระสำคัญมากๆ ต้องไปวันนี้เท่านั้นค่ะ”“ฉันไม่ให้ไป” คนตัวสูงข้างๆเอ่ยออกมาอย่างเด็ดขาด“คุณคิมหันต์! นี่คุณจะเห็นแก่ตัวเกินไปแล้วนะ ฉันไปแค่แปบเดียว คุณแค่ไปส่งฉันแล้วนั่งรออยู่บนรถก็ได้”“ธุระอะไรจะสำคัญไป
[คิมหันต์]พรึ่บ!! ผมค่อยๆลืมตาขึ้นมาอย่างช้าๆ ก่อนที่จะต้องหรี่ตาลงเมื่อแสงที่เล็ดลอดผ่านผ้าม่านสอดส่องเข้ามากระทบกับดวงตา และเมื่อปรับสายตาให้คงที่ได้แล้ว ผมถึงได้รู้ว่าตัวเองยังคงนอนอยู่ใขอบนเตียงในห้องพักของเกวลินเหมือนเดิมเพียงแต่ตอนนี้ที่ข้างๆที่เคยมีเกวลินนอนอยู่ด้วย กลับเหลือไว้เพียงแค่รอยยับที่ว่างเปล่าเท่านั้นเกวลิน…ยัยนั่นทิ้งผมไปอีกแล้วเหรอเนี่ย?ฟุ่บ!! ผมลุกขึ้นมาจากเตียงนอน ก่อนจะเดินตรงเข้าไปในห้องน้ำเพื่อล้างหน้าล้างตา แต่เมื่อก้าวเข้าไปในห้องน้ำแล้ว บางสิ่งบางอย่างอยู่ในนั้นกลับทำให้ผมแปลกใจขึ้นมาบนกระจกในห้องน้ำมีกระดาษอยู่สามแผ่นแปะเรียงกันไว้อย่างเป็นแถวเลยล่ะฟึ่บ! ผมเอื้อมมือไปหยิบกระดาษโน้ตแผ่นที่แปะอยู่บนกระจกห้องน้ำมาอ่าน‘เกวต้องออกไปทำงานแต่เช้าเมื่อคืนคุณดูเหนื่อยมากเกวเลยไม่อยากปลุก ขอโทษที่ปล่อยให้อยู่คนเดียวนะคะ’“หึ! ใครกันแน่ที่เหนื่อย” ผมยกยิ้มขึ้นมาอย่างพอใจทันทีที่ได้อ่านข้อความที่เกวลินทิ้งไว้ให้ฟึ่บ!! จากนี้ก็หยิบกระดาษโน้ตใบที่สองขึ้นมาอ่านต่อ‘คุณอาบน้้ำแปรงฟันก่อนได้นะคะ เกวแขวนเสื้อผ้าที่คุณพอจะใส่ได้ไว้ให้ที่ตู้แล้ว’ผมอดไม่ไ
วันต่อมาณ โรงแรมพาวิลงเลียน“อ้าวเกว” เสียงของรินณ์เอ่ยทักขึ้นทันทีที่รินณ์เดินเข้ามาในห้องพักพนักงาน ซึ่งมีฉันที่นั่งอยู่ก่อนหน้าแล้ววันนี้ฉันตั้งใจออกจากห้องมาแต่เช้า เช้าถึงขนาดที่คุณคิมหันต์ยังไม่ตื่นเลยด้วยซ้ำ “ไงรินณ์”“ทำไมมาเช้าจังอ่ะ วันนี้เกวเข้างานกะบ่ายไม่ใช่เหรอ?”“อ่อ เราแลกเวรกับพี่แอนอ่ะ พอดี…ตอนเย็นเรามีธุระต้องไปทำธน่ะ” ใช่แล้วล่ะ! จริงๆ วันนี้ฉันเข้างานกะบ่าย แต่ช่วงเย็นวันนี้ฉันมีที่ที่ต้องไปน่ะ เลยแลกเวรกับพี่แอนไว้“ไปไหนอ่ะ? หรือว่า…ไปเดทเหรอ?” รินณ์ยิ้มกรุ้มกริ่มพลางเดินเข้ามากระซิบใกล้ฉัน อะไรกัน? ยิ้มแบบนี้หมายความว่าไงเนี่ย?“ดะ เดทอะไรกันเล่า? ไม่ใช่ซะหน่อย” “เอ้า! ไม่ใช่หรอกเหรอ แต่เมื่อคืนเราเห็นน้า ผู้หญิงชุดฟ้าที่เดินควงแขนกับคุณคิมหันต์” รินณ์เข้ามานั่งใกล้ๆ ก่อนจะเขยิบมากระซิบข้างๆหู“นี่รินณ์เห็นด้วยเหรอ?0_0!” ฉันถึงกับเบิกตาโพลงออกมาด้วยความตกใจ ไม่คิดว่าเมื่อคืนจะมีคนเห็นฉันกันคุณคิมหันต์ด้วย นี่ขนาดแอบย่องออกไปตอนไม่มีคนแล้วน่ะเนี่ย ยังมีคนเห็นอีกเหรอเนี่ย? “อื้ม เมื่อคืนเราอยู่ทำโอทีน่ะ”“นอกจากรินณ์แล้ว…”“ไม่ต้องห่วงหรอก เมื
“อื้มมม~” เสียงครวญครางของเราสองคนดังลั่นไปทั่วทั้งห้องพักของฉัน เพราะรสจูบที่ร้อนแรงเกินกว่าจะต้านทานของกันและกัน เรียวลิ้นที่สอดประสานกันไปมาของเราสองคน มันเต็มไปด้วยความรุ่มร้อน แต่ก็แฝงไปด้วยความปรารถนาที่เหลือล้น ยิ่งเวลาผ่านไปนานเท่าไร ฉันก็ยิ่งรู้สึกว่าริมฝีปากของคนตัวสูงยิ่งหอมหวานน่าช่วงชิมมากกว่าเดิมขึ้นไปเรื่อยๆหมับ!! ฉันเอื้อมมือออกไปค้วาท้ายทอยของคนตัวสูงเหนือร่างลงมากอดไว้แน่น เพื่อให้เราสองคนแลกเปลี่ยนรสจูบจากกันและกันได้แนบแน่นกันมากยิ่งขึ้น“อื้อออ~” ดูเหมือนว่าจะไม่ได้มีแค่ฉันคนเดียวที่ต้องการสัมผัสจากคุณคิมหันต์ เขาเองก็คงจะรู้สึกเช่นเดียวกันกับฉัน ฉันส่งเสียงครวญครางผ่านลำคอออกมาด้วยความเสียวซ่าน เมื่อคนตัวสูงเลื่อนไล้มือหนาของตัวเอง ลงไปสัมผัสกับกลีบกุหลาบที่ซ่อนตัวอยู่ใต้กางเกงนอนของฉัน ในขณะที่ปากของเขาก็ยังคงดูดเม้ม ช่วงชิมรสหวานจากปากของฉันอย่างไม่ลดละ“อื้อ!!~” ฉันเริ่มจะทนกับความเสียวซ่านที่ถูกกระตุ้นทั้งช่วงบน และช่วงล่างไม่ไหวแล้ว จนต้องส่งเสียงร้องประท้วงผ่านลำคอออกมาเพื่อให้เขาปล่อยส่วนใดส่วนหนึ่งซะที ก่อนที่ฉันจะทนไม่ไหวจนขาดใจตายไปซะก่อน“อึก!
หลังจากที่คุณคิมหันต์บุกเข้ามาหาถึงห้อง แล้วขอนอนค้างด้วย ตอนนี้เขา…กำลังนอนอยู่บนเตียงข้างๆฉันถึงแม้ว่าคุณคิมหันต์จะนอนก่ายหน้าผากอยูข้างฉัน แต่เขากลับไม่เอ่ยปากคุยอะไรกับฉันต่อเลยแม้แต่คำเดียวนี่เขา…กำลังไม่พอใจฉันอยูแน่ๆเลย“คุณคิมหันต์ หลับรึยังคะ?” ฉันรู้ว่าเขายังไม่หลับแน่ๆ“หลับแล้ว” หลับแล้วเขาจะตอบฉันได้ยังไงล่ะ?“คุณ…โกรธเกวเหรอคะ?”“…” สิ้นสุดคำถามของฉัน ก็ไม่มีเสียงตอบรับใดๆจากคนข้างๆอีกเลย“เกวขอโทษนะคะ ที่ทิ้งคุณไว้ที่ร้านอาหารคนเดียว”“…” คราวนี้ก็ยังเงียบเหมือนเดิม“เกวแค่กลัวที่จะเผชิญหน้ากับความจริงน่ะค่ะ”“เกวลิน…”“คะ?”“รู้ใช่มั้ย…ว่าฉันรักเธอ?” คุณคิมหันต์ที่เอาแต่หลับตาในตอนแรก ตอนนี้เขากลับลืมตาหันมามองฉันที่อยู่ใกล้ๆ ด้วยแววตาที่อ่อนโยน“…รู้ค่ะ” ฉันจ้องมองเข้าไปในดวงตาของเขา พลางเอ่ยคำตอบที่รู้ดีอยู่แก่ใจออกไปอย่างลึกซึ้ง“แล้วเธอล่ะ?” คำถามที่คาดไม่ถึงจากคนตัวสูงตรงหน้า ทำฉันอึ้งจนอ้าปากค้าง ทำไมเขาถึงถามแบบนี้ออกมาได้“รักสิคะ เกวรักคุณมากๆค่ะ”“ถ้างั้น…อย่าทิ้งฉันไปอีกได้มั้ยเกว?” คำถามที่เอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือของคนตรงหน้า บวกกับ